Group Blog
All Blog
<<< การพัฒนาจิตใจแบบยั่งยืน >>>










"การพัฒนาจิตใจแบบยั่งยืน"

ถ้าเราได้ศึกษาวิปัสสนาภาวนา

 ศึกษาวิธีที่จะใช้ปัญญา

มากำจัดตัณหาความอยากต่างๆ

 พอเราใช้เป็นแล้ว เราก็จะสามารถระงับ

ตัณหาความอยากต่างๆ ได้ทันที

เช่นเวลาเราอยากได้อะไร เราก็ต้องเห็นว่า

สิ่งที่เราอยากได้นี้มันนำไปสู่ความทุกข์

ไม่ได้นำไปสู่ความสุขในบั้นปลาย

 และในเบื้องต้นมันจะนำไปสู่ความสุขก่อน

 แต่พอความสุขที่ได้มานั้นมันเสื่อมไป

 ความทุกข์ก็จะเข้ามาแทนที่

เช่นเวลาที่เราอยากได้ทรัพย์ได้ลาภ

 เวลาเราได้ลาภมาเราก็ดีอกดีใจกัน

 มีความสุขกัน แต่พอเราใช้เงินทอง

ที่เราหามาได้หมดไปแล้ว ทีนี้ความสุขนั้น

ก็จะหมดไป แล้วความทุกข์ก็จะปรากฏขึ้นมา

 เพราะเราจะไม่มีเงินทองใช้สอยอีกต่อไป

เราก็ต้องทุกข์กับการไปหาเงินทองกันใหม่

 แล้วพอเราได้มาเราก็สุขกับมันไป

สุขกับมันจากการที่เราได้มา

 สุขจากการที่ได้ใช้มัน พอได้มาใช้มันไป

เดี๋ยวมันก็หมดอีก พอมันหมดอีกก็ทุกข์อีก

แต่ถ้าเราเห็นด้วยปัญญาว่านี่

ไม่ใช่เป็นวิธีที่จะไปสร้างความสุขกัน

วิธีที่จะสร้างความสุขก็คือ

ต้องไม่ไปอยากหาลาภยศสรรเสริญสุขกัน

 ให้เราอยู่เฉยๆ กัน ให้เราหยุดความอยากกัน

ถ้าเราหยุดความอยากได้

ไม่ทำตามความอยากได้

ใจเราก็จะกลับมาสู่ความสงบ

กลับมาสู่ความสุข ที่เป็นความสุขที่ดีกว่า

ความสุขที่เราได้จากลาภยศสรรเสริญ

แล้วก็จะเป็นความสุขที่ยั่งยืน

เราสามารถกำจัดความอยากต่างๆ

ให้หมดไปจากใจได้ ต่อไปใจของเรา

ก็จะไม่มีอะไรมาทำลายความสุข

ที่ เกิดจากความสงบ ความสุขที่เกิดจาก

การไม่มีความอยากต่างๆ

ไม่มีกิเลสตัณหาอยู่ในใจ

ถ้าได้พัฒนาไปถึงขั้นนั้น

ก็เรียกว่าได้ถึงขั้นของพระอรหันต์

 ได้ขั้นพระนิพพาน ได้ขั้นที่ถาวรเต็มร้อย

ถ้าได้ขั้นที่หนึ่งก็จะได้เพียงหนึ่งในสี่

 ถ้าได้ขั้นที่สองก็จะได้สองในสี่

ขั้นที่สามก็จะได้สามในสี่

ขั้นที่สี่ก็จะได้เต็มร้อย

คือได้พัฒนาอย่างเต็มร้อย

ได้ความสุขอย่างเต็มร้อย

แล้วก็ ไม่ต้องทำการพัฒนาอีกต่อไป

การพัฒนาแบบยั่งยืนนี้ มีวันสิ้นสุดลง 

งานทางด้านจิตใจนี้มีวันจบ

 แต่งานทางด้านลาภยศสรรเสริญ

 ทางด้านความสุขทาง

ตาหูจมูกลิ้นกายนี้ไม่มีวันจบ

 ต่อให้พัฒนาไปมากน้อยเพียงไร

ได้มามากน้อยเพียงไร ก็ยังต้องพัฒนากันต่อไป

 หรือไม่เช่นนั้นก็ต้องคอยรักษา

สิ่งที่พัฒนาให้อยู่ต่อไป ต่อให้รักษาดีขนาดไหน

 มันก็จะต้องเสื่อมหมดไปอยู่ดี.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

.......................

ธรรมะบนเขา

วันที่ ๑๑ มีนาคม ๒๕๖๐

"การพัฒนาจิตใจแบบยั่งยืน"






ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ






Create Date : 12 มีนาคม 2560
Last Update : 12 มีนาคม 2560 8:03:00 น.
Counter : 919 Pageviews.

1 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณHappyMorning

  
สาธุค่ะ พยายามพัฒนาจิตอยู่เหมือนกัน https://www.bloggang.com/emo/106/emo101.gif
โดย: HappyMorning วันที่: 12 มีนาคม 2560 เวลา:19:23:21 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ