Group Blog
All Blog
### อดทน อดกลั้น ###










“อดทน อดกลั้น”

ถาม : ขอหลวงพ่อเมตตา

 ขอบเขตของคำว่าอดทนและอดกลั้น

ว่ามันจะต้องคิดแบบไหนและทำอย่างไร

จึงจะได้ชื่อว่าผู้มีความอดทนอดกลั้น

พระอาจารย์ : คือความอดทนนี้หมายถึง

ให้เราทนกับสภาพต่างๆ ที่มากระทบกับเรา

 เช่นความทุกข์ยากลำบาก ทางร่างกาย

 บางวันขาดอาหาร บางวันขาดน้ำ

 ขาดอะไรต่างๆ ก็อย่าไปวุ่นวาย

กับการขาดแคลนเหล่านั้น ให้ทำใจเฉยๆ

ให้ทำใจเป็นปกติ อยู่กับมันไปตามมีตามเกิด

อยู่ได้อยู่ไม่ได้ก็ตายให้คิดอย่างนี้ว่า

อย่างมากก็แค่ตาย

ก็จะเกิดความอดทนขึ้นมาได้

 หรือมองว่าของต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นกับเรานี้

มันเป็นของสุดวิสัยเราไม่สามารถ

ที่จะไปควบคุมบังคับมันได้

เป็นเหมือนธรรมชาติเหมือนฝนฟ้าอากาศ

ฝนตกแดดออกน้ำท่วม

 เราก็ไม่ค่อยวุ่นวายใจกันเท่าไร

เพราะเรายอมรับกับสภาพของสิ่งต่างๆ

เพราะเรารู้ว่าเราทำอะไรไม่ได้

 ฉันใดเวลาเราเจอกับสิ่งต่างๆ

 ที่มากระทบกับชีวิตของเรา

 เราก็ให้ทำใจว่ามันเป็นเรื่องสุดวิสัย

 เป็นเรื่องของธรรมชาติ

หรือจะเรียกว่าเป็นเรื่องของ

วิบากกรรมของเราก็ได้

 มันจึงทำให้เราจะต้องมาประสบ

กับเคราะห์กรรมอะไรต่างๆ

 แต่ถ้าเราไม่ไปพยายามที่จะดิ้นรนหนีมัน

หรือพยายามที่จะให้มันหายไป

เราก็จะไม่ทุกข์ เราก็จะทนอยู่กับมันได้

นี่คือวิธีการฝึกความอดทน

ไม่ใช่อดทนด้วยการไม่มีปัญญา

อดทนแบบนั้นอดทนไม่ได้

ต้องอดทนด้วยปัญญาแล้วก็จะอดทนได้

 ถ้ามองว่าทุกสิ่งทุกอย่าง

เกิดขึ้นกับเราเป็นอนัตตา

 ฝนฟ้าอากาศ ฟ้าร้องตอนนี้ก็ห้ามมันไม่ได้

มันจะร้องก็ร้อง มันจะตกก็ตก

 อะไรที่เกิดกับเรา

มันจะเกิดก็ปล่อยมันเกิดไป

ถ้าเราหลบไม่ได้หลีกไม่ได้หนีไม่ได้

ก็ต้องยอมรับมันไป

 อันนี้เราก็จะไม่ทุกข์ไม่วุ่นวายไปกับมัน

อันนี้เรียกว่าความอดทน

ต่อสิ่งต่างๆ ที่มากระทบกับเรา

ส่วนความอดกลั้นก็ให้อดกลั้นกับอารมณ์

เช่นความโลภ ความโกรธ

 อันนี้ก็ต้องใช้ธรรมะใช้สติหรือใช้ปัญญา

จึงจะอดกลั้นได้

 เวลาเกิดความโลภ ความโกรธ

 ถ้าใช้สติก็ให้ระลึกถึงพุทโธๆไป

 อย่าให้เราไปคิดถึงสิ่งที่เราโลภ สิ่งที่เราโกรธ

 พอเราไม่คิดถึงมัน

ความโลภ ความโกรธก็จะระงับไป

 เราก็จะอดกลั้นได้

หรือถ้าเราจะระงับแบบถาวร

 เราก็ใช้ปัญญาพิจารณาว่า

สิ่งที่เราโลภมันไม่เที่ยง

มันเป็นทุกข์ไม่ใช่ของเรา

ได้มาแล้วเดี๋ยวก็ต้องเสียใจ

สู้อย่าโลภอยากได้ดีกว่า

 พอเห็นด้วยปัญญาก็อาจจะเลิกได้

 เลิกความโลภ ความอยากได้

อันนี้ก็จะทำให้เราอดกลั้น

กับความโลภได้อย่างง่ายดาย

ความโกรธก็เช่นเดียวกัน

 สิ่งที่ทำให้เราโกรธนั้น

เป็นสิ่งที่เราห้ามไม่ได้เหมือนฝนฟ้าอากาศ

เขาทำไปแล้วก็เกิดไปแล้ว

มันก็ผ่านไปแล้ว

 โกรธไม่ได้ไปเปลี่ยนแปลงอะไร

 เขาด่าเราแล้วมันก็จบไปแล้ว

เราก็ห้ามเขาไม่ได้ แต่เราห้ามใจเราได้

ว่าเราไปทำอะไรไม่ได้

มันผ่านไปแล้วเราห้ามเขาไม่ได้

เขาก็เหมือนๆ เสียงฟ้าร้องเมื่อสักครู่นี้

ร้องปุ๊บมันก็ผ่านไปแล้ว

เสียงคนด่าก็เหมือนกับเสียงฟ้าร้อง

ก็ผ่านไปแล้ว

 ถ้าเราฟังเฉยๆไม่ไปมีปฏิกิริยาอะไร

 เราก็จะระงับอารมณ์โกรธได้.

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

.....................

ธรรมะบนเขา วันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๙

“สุขที่เหนือกว่าถูกรางวัลที่ ๑”







ขอบคุณที่มา fb. พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
ขอบคุณเจ้าของภาพค่ะ




Create Date : 09 ตุลาคม 2559
Last Update : 9 ตุลาคม 2559 9:36:15 น.
Counter : 784 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkay
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]



(•‿•✿) พออายุเลยเลขหกฉันยกเครื่อง
มอบทุกเรื่องที่เคยรู้คู่ความเห็น
มอบประสบการณ์ผ่านพบจบประเด็น
ไม่ยากเย็นเรื่องความรู้ตามดูกัน
ฉันคนเก่าเล่าความหลังยังจำได้
แต่ด้วยวัยที่เหลือน้อยค่อยสร้างสรร
ยอมรับเรื่องเนตโซเชียลเรียนไม่ทัน
อย่าโกรธฉันแค่สูงวัยแต่ใจจริง
ด้วยอายุมากมายอยากได้เพื่อน
หลากหลายเกลื่อนทุกวัยทั้งชายหญิง
คุยทุกเรื่องแลกเปลี่ยนรู้คู่ความจริง
หลากหลายสิ่งฉันไม่รู้ดูจากเธอ ....
สิบปีผ่านไป.......
อายุเข้าเลขเจ็ดไม่เผ็ดจี๊ด
เคยเปรี้ยวปรี๊ดก็ต้องถอยคอยเติมหวาน
ด้วยเคยเกริ่นบอกเล่ามาเนิ่นนาน
ก็ยังพาลหมดแรงล้าพากายตรม
ด้วยชีวิตผ่านมาพาเป็นสุข
ยังสนุกกับการให้ใจสุขสม
อยากบอกเล่ากล่าวอ้างบางอารมณ์
แม้คนชมจะร้องว้า....ไม่ว่ากัน
ปัจจุบันเขียนน้อยค่อยเหินห่าง
ระบบร่างเปลี่ยนแปลงเหมือนแกล้งฉัน
เราคนแก่ตามแก้ไม่ค่อยทัน
ยักแย่ยันค่อยศึกษาหาข้อมูล
แต่ด้วยคิดถึงแฟนคลับกระชับมิตร
จึงต้องคิดตามต่อไปไม่ให้สูญ
ส่งความรู้คู่ธรรมะทวีคูณ
เพื่อเพิ่มพูนให้รู้กันฉันสุขใจ