Group Blog
 
<<
มกราคม 2568
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
12 มกราคม 2568
 
All Blogs
 
เที่ยวตาม ร.5 ที่เกาะสีชัง


สวัสดีปีใหม่ครับ เข้ามาอยู่ในกรุงเทพแล้วช่วง 2-3 ปีนี้จะเน้นเก็บสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพมากขึ้นๆ ถึงจะเที่ยวครบ 77 จังหวัดแล้ว แต่ในกรุงเทพเองมีสถานที่ท่องเที่ยวโคตรสามัญที่เจ้าของบล็อกยังไม่เคยไปอีกเยอะแยะมากมาย ปีนี้ขอเปิดด้วยที่เที่ยวใกล้กรุงเทพอย่างเกาะสีชัง จ.ชลบุรี ที่ไปมาเมื่อวันที่ 8-9 พ.ย. 67 ปกติไม่ค่อยได้เที่ยวเกาะเพราะมันเสียเวลาลงเรือและเที่ยวได้ไม่กี่ที่ แต่เกาะสีชังมีทั้งประวัติศาสตร์และธรรมชาติอัดแน่นอยู่และรอบเรือก็มีทุกชั่วโมง เที่ยวไม่ยาก เพียงแต่มันเอารถลงเรือไปเที่ยวด้วยไม่ได้ ก็ต้องไปใช้บริการขนส่งบนเกาะเอาครับ
 

ขับรถจากกรุงเทพมาศรีราชา
เพิ่งจะมาแถวนี้หมาดๆ สองรอบเพื่อไปดูหมูเด้ง
มากับเพื่อนหนนึง มากับที่บ้านอีกหนนึง

เย็นแล้วน้องแบตหมดครับ ไม่เด้งเท่าไหร่
แต่ยังโชคดีกว่าคนที่มาแล้วเจอน้องนอนบ้าง
ลงน้ำบุ๋มๆ บ้าง


 


จุดขึ้นเรือคือบริเวณ เกาะลอย จากเมืองศรีราชาขับรถข้ามสะพานเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีเข้ามาได้เลยครับ แต่บนเกาะลอยไม่มีที่จอดรถอย่างเป็นทางการนะ ถ้าจอดแปะๆ เอาก็เสี่ยงโดนขูดโดนงัด ผมไปฝากจอดที่จอดเอกชน โกสิวหลบมุม คืนละ 200-250 แล้วแต่ช่วงเทศกาล แพงเท่าจอดสนามบินสุวรรณภูมิแต่มีร่มมีรถไปส่งที่เกาะลอยให้ก็สะดวกดี


นอกจากจุดขึ้นเรือแล้วบนเกาะลอยยังมี วัดเกาะลอย พัฒนาจากที่พำนักสงฆ์ที่เกิดขึ้นตอนพระนางเจ้าสว่างวัฒนามาประทับที่ตำหนักน้ำศรีราชาในปี พ.ศ.2442 จนกลายเป็นวัด


ซื้อตั๋วเรือคนละ 60 บาท แล้วนั่งรอครับ เรือทั้งขาไปขากลับมีทุก ชม. ออกตรงเวลา ผมไปรอบบ่ายโมงก็กินข้าวรอไปก่อน ที่จริงในเมืองศรีราชาก็มีร้านอาหารเก่าแก่ดังๆ มากมาย แต่ไหนๆ มาเกาะลอยแล้วขอกินร้านประจำถิ่นหน่อยครับ ตรงนี้มีร้าน เกาะลอยซีฟู้ด เป็นภัตตาคารจีนที่ราคาหนักหน่วงพอสมควร แต่ก็อร่อยและมีห้องแอร์หลบร้อน


เกาะสีชังอยู่ห่างจากชายฝั่ง 12 กม. เรือเฟอรี่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง แวะที่เกาะขามใหญ่ก่อนมาเทียบท่าที่เกาะสีชัง




ที่ท่าเรือเกาะสีชังจะมี ประภาคารเกาะสีชัง เป็นแลนด์มาร์ค ด้านบนเป็นเก๋งจีน เปิดไฟตอนกลางคืน


เกาะนี้นับเป็น 1 อำเภอ และเป็นอำเภอที่เล็กที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่ 17.3 ตร.กม. แต่การเที่ยวจากจุดนึงไปอีกจุดนึงก็หลาย กม. อยู่นะครับ แผนที่จุดสำคัญๆ บนเกาะสีชัง ดังภาพเลย (เครดิตจากเว็บวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเกาะสีชัง https://kohsichangth.com/)

 


จะเช่ามอเตอร์ไซค์ก็ได้ แต่ผมขี่ไม่เป็นเลยต้องใช้รถสองแถวหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ราคาก็แล้วแต่ตกลงเป็นรอบๆ ไป

 


เรือตรวจการณ์ศุลกากร 1201 ที่ใช้งานมา 40 ปี (พ.ศ.2518-2558) ถูกปลดระวางและเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ตั้งแต่ปี 2565 แต่ก็แค่วางเรือไว้ให้ดูนะครับ ไม่ได้มีจัดแสดงอะไร

 


ตอนนี้บ่ายสองหน่อยๆ เอาของไปเก็บที่พักชาลีบังกาโลว์แล้วออกแร่ดได้ครับ ที่พักอยู่ตอนกลางของเกาะ ใกล้พระราชวังเกาะสีชังที่เที่ยวหลักของทริปนี้ สามารถเดินไปได้เลย ระหว่างทางแวะเที่ยวพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นสักหน่อย

สถานีวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเลของจุฬาได้ตั้งศูนย์เรียนรู้ธนาคารปูม้า ให้ชาวประมงนำแม่ปูที่มีไข่ติดกระดองมาฝากเลี้ยงให้เป็นตัวอ่อนก่อนปล่อยสู่ธรรมชาติ ช่วยเพิ่มจำนวนปูม้าสัตว์เศรษฐกิจและป้องกันการลักลอบขายปูม้าไข่นอกกระดองด้วย (ผิดกฎหมายนะ) ซึ่งชาวบ้านก็เห็นความสำคัญและนำปูมาฝากมากขึ้นเรื่อยๆ ธนาคารปูม้าได้พัฒนาเป็น
ศูนย์เรียนรู้ธนาคารสัตว์​ทะเลเกาะสีชัง ในปี พ.ศ.2564 เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านสัตว์ทะเล ทั้งการขยายพันธุ์ปะการังอ่อน การขยายพันธุ์ฉลามกบ ธนาคารปูม้า ปลาทะเลสวยงาม เปิดให้ประชาชนเข้าชมสัตว์ได้เวลา 9.00-16.00 น. หยุดวันจันทร์ ตัวศูนย์อยู่ห่างถนนหลักมาติดชายฝั่ง คนมาเที่ยวน้อย มีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ แต่ก็ยินดีอธิบายให้ความรู้เมื่อมีคนเข้าไปเยี่ยมชม




ต่อมาจะเข้ามายังบริเวณพระราชวังของเกาะสีชังที่เรียกว่าพระจุฑาธุชราชฐาน เกาะสีชังถูกใช้เป็นท่าเรือที่ขนถ่ายสินค้า สถานที่ตากอากาศและพักฟื้นผู้ป่วยมายาวนาน จนกระทั่งสมัย ร.5 ในช่วงปี พ.ศ.2431-2434 ได้พา ร.6 (สมัยเป็นเจ้าฟ้าวชิราวุธ) พระนางเจ้าสาวภาผ่องศรี และเจ้าฟ้าอัษฎางค์ มาพักฟื้นตอนประชวร โดยได้สร้างเรือนพักฟื้นขึ้น 3 หลัง ตั้งชื่อตามพระมเหสีที่ร่วมสมทบทุนสร้างอาคารขึ้น คือพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี และพระองค์เจ้าสายสวลีภิริมย์ เคยเปิดให้คนทั่วไปใช้งานอยู่สองปีก่อนปิดเป็นเขตพระราชฐานตั้งแต่ปี พ.ศ.2434 เมื่อพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรีให้กำเนิดโอรสที่เกาะสีชังช่วงที่มาพัก ก็เปลี่ยนชื่อเขตพระราชฐานนี้ตามพระนามพระโอรสว่า พระจุฑาธุชราชฐาน

ขอสรุปลำดับวงศ์ของ ร.5 ที่เกี่ยวข้องกับตำหนักนี้ไว้ตามภาพนะครับ (ภาพนี้เฉพาะพระบรมวงศ์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในบล็อกนี้นะครับ มเหสีและบุตร/ธิดาของ ร.5 ยังมีอีกเป็นจำนวนมาก)


พระจุฑาธุชราชฐาน
(Phra Chudadhuj Palace)

พระจุฑาธุชราชฐาน มีพื้นที่ 237 ไร่ มีพระที่นั่ง 4 องค์ พระตำหนัก 14 หลัง บ่อน้ำ ศาลา ทางเดิน บันได สร้างให้เข้ากับทัศนียภาพเชิงเขาของบริเวณนี้ แต่หลังกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสในปี พ.ศ.2436 พระราชวังก็ถูกทิ้งร้าง อาคารหลายแห่งก็ถูกย้ายที่หรือรื้อถอนไปแล้ว ปัจจุบันพระราชวังอยู่ในความดูแลของจุฬาที่ได้รับสิทธิ์การใช้ที่ดินจากกรมธนารักษ์ เดี๋ยวจะพาชมเท่าที่เหลือตอนนี้ให้ครบเลยครับ 126

เมื่อเข้ามาในเขตพระราชฐาน สถานที่แห่งแรกที่พบคือสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำของจุฬา ซึ่งได้ก่อตั้ง
พิพิธภัณฑ์ชลทัศนสถาน เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติเพื่อแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับท้องทะเลและทรัพยากรธรรมชาติในบริเวณหมู่เกาะสีชัง ด้านหน้ามีโครงกระดูกวาฬบรูด้าและโลมาเผือก


ด้านในจัดแสดงสัตว์ทะเลบริเวณเกาะสีชัง ทั้งระบบนิเวศหาดทราย หาดหิน ตู้สัตว์น้ำ และบ่อสัตว์น้ำ พื้นที่ไม่ใหญ่ใช้เวลาเข้าชมไม่นาน เปิด 9.00-17.00 น. ยกเว้นวันจันทร์ ไม่เก็บค่าเข้าชม



 

ด้านหน้าพระราชวังมีศาลเทพารักษ์ประจำเกาะสีชังที่ชาวเรือนับถือมาแต่อดีตและทำพิธีบวงสรวงทุกวันที่ 19 เม.ย.

ร.5 ได้สร้างศาลใหม่ขึ้นในปี พ.ศ.2434 ย้ายจากริมถนนมาบนไหล่เขา และตั้งชื่อเทพารักษ์ว่าศรีชโลธรเทพ

 

 
เดินถนนเลียบชายทะเลมาจะมีด่านแต่ไม่เก็บค่าเข้านะ และนี่คืออีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเกาะสีชังที่คนนิยมมาถ่ายรูปกันครับ สะพานอัษฎางค์ เป็นสะพานทอดยาวลงในทะเลหน้าพระราชวังเกาะสีชัง ร.5 สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2434 ตั้งชื่อตามเจ้าฟ้าอัษฎางค์ ซึ่งมาประทับรักษาอาการประชวรที่เกาะนี้และอยู่รักษายาวนานกว่าองค์อื่น ทำให้สถานที่หลายแห่งบนเกาะนี้ถูกตั้งชื่อตามเจ้าฟ้าองค์นี้


ริมทะเลมีซากฐานของ พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ เดิมเป็นพระที่นั่งไม้สัก 3 ชั้น ขนาดใหญ่ที่สุดบนเกาะสีชัง ก่อสร้างโดยช่างจากประเทศอิตาลี แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ ร.ศ.112 ฝรั่งเศสขึ้นยึดเกาะสีชัง ทำให้การก่อสร้างหยุดชะงักลง ต่อมา ร.5 จึงสั่งให้รื้อมาสร้างเป็นพระที่นั่งวิมานเมฆในเขตพระราชวังดุสิตในปี พ.ศ.2443


เรือนไม้ริมทะเล หรือบ้านเขียวแห่งนี้สันนิษฐานว่าเป็นเรือนตากอากาศของชาวต่างชาติในสมัย ร.5 ต่อมาได้ปรับปรุงเป็นที่พักแรมของราชวงศ์ ก่อนสร้างพื้นที่นี้เป็นพระราชวังเกาะสีชัง ปัจจุบันเป็นร้านกาแฟ ปิดไวกว่าอาคารอื่นๆ ในพื้นที่วัง ใครมาบ่ายๆ แล้ว รีบมาที่นี่ก่อนครับ แม้ป้ายหน้าอาคารบอกปิดห้าโมง ในกูเกิ้ลบอกปิดสี่โมง แต่ผมมาบ่ายสามครึ่งปิดไปเรียบร้อยละ


เรือนวัฒนา ให้ชื่อตามพระนางเจ้าสว่างวัฒนา ซึ่งเป็นผู้ออกพระราชทรัพย์ตกแต่งเรือน ใช้เป็นที่พักรักษาตัวบนเกาะ ยังคงมีข้าวของเครื่องใช้อยู่ สามารถเดินขึ้นไปชมชั้นบนได้ จะเห็นวิวหาดท่าวังเป็นหาดเล็กๆ หน้าวัง


เข้าไปในเกาะเป็นเนินหินไม่ชันมาก จะเป็นทางเดินขึ้นไปยังวัดอัษฎางค์ที่อยู่บนยอดเนินครับ


ระหว่างทางมีพลับพลาพระบรมรูปรัชกาลที่ 5
ที่กรมศิลปากรสร้างขึ้นตอนบูรณะพระจุฑาธุชราชฐานในปี พ.ศ.2538
 


ลานสรง เป็นจุดที่เชื้อพระวงศ์ใช้อาบน้ำจืดหลังขึ้นมาจากทะเล

 


เจดีย์เหลี่ยมสูง 8 เมตร มีมาแต่เดิมก่อนสร้างพระราชวัง สันนิษฐานตามบันทึกชาวอังกฤษที่มาสำรวจเกาะสีชังในปี พ.ศ.2365 ว่าชาวเรือสร้างไว้นมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์

 


และบนสุดของเนินที่สูงที่สุดในเขตพระราชวังคือ วัดอัษฎางคนิมิตร ครับ เดิมทีบนเกาะสีชังมีวัดเกาะสีชังที่อยู่ปลายแหลมทางทิศใต้ แต่เมื่อเชื้อพระวงศ์มาพำนักพระก็ปฏิบัติกิจไม่สะดวก ร.5 จึงสร้างวัดอัษฎางค์ขึ้นในปี พ.ศ.2435 เป็นที่ไหว้พระของราชวงศ์แทนวัดเกาะสีชังที่มีมาแต่เดิม และหลังมีถนนอัษฎางค์ตัดขึ้นถึงตอนเหนือของเกาะ ชาวบ้านก็ย้ายบ้านเรือนไปอยู่ทางเหนือ และ ร.5 ได้สร้างวัดจุฑาทิศบริเวณเชิงเขาพระจุลจอมเกล้า ใกล้ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นวัดหลักของผู้คนบนเกาะแทน

พระเจดีย์อุโบสถเป็นศิลปะไทยผสมโกธิค ตกแต่งกระจกสี รอบเจดีย์มีลานประทักษิญรูปกลม ปักศิลาจารึกหลักธรรม 8 แห่ง แต่ปัจจุบันตัวหนังสือจางไปมากแล้ว




จากวัดอัษฎางค์เดินลงมาจากเนินจะมี เรือนผ่องศรี ซึ่ง ร.5 สร้างเป็นที่พักรักษาตัวและพระราชทานนามตามพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี ซึ่งเป็นผู้ออกพระราชทรัพย์ซื้อของประดับเรือน ภายในมีพระบรมรูป ร.5 และบุตรทั้งสามได้แก่ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ และเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สร้างจากรูปที่ถ่ายไว้ที่เกาะสีชังราวปี พ.ศ.2435-2436


ทิศใต้ของเรือนผ่องศรีคือ เรือนอภิรมย์ ตั้งตามนามพระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ ผู้บริจาคทรัพย์ซื้อของประดับเรือน เป็นอาคารชั้นเดียว ภายในมีหลายห้อง ใช้เป็นที่จัดแสดงแบบจำลองและประวัติศาสตร์ของเกาะสีชังที่ละเอียดที่สุดแล้ว

 

ฝาท่อระบายน้ำบนเกาะสีชัง
ทำเป็นรูปกระรอกขาวกับสะพานอัษฎางค์

กระรอกขาวเป็นสายพันธุ์หนึ่งของกระรอกที่พบเฉพาะที่นี่
จึงเป็นสัตว์สัญลักษณ์ประจำเกาะสีชัง
ส่วนมากจะพบทางตะวันตกและทางใต้ของเกาะ

บนเกาะมีกางเกงลายกระรอกขาวขายด้วย น่าสะสมยิ่งนัก

 


ใช้เวลาเที่ยวพระราชวังไปชั่วโมงครึ่ง กลับสู่โลกภายนอกบ้างครับ ตอนนี้ห้าโมงเย็น เที่ยวได้อีกสักที่ก่อนหมดวัน เลยหาตุ๊กตุ๊กไปแหลมถ้ำพัง อยู่ห่างจากพระราชวังแค่ 2 กม. เจอค่าตุ๊กตุ๊กไป-กลับ 300 โคตรแพง นี่แหละคือสภาวการณ์ที่ตลาดขาดการแข่งขัน

แหลมถ้ำพัง หรือแหลมจักรพงษ์ เป็นโขดหินฝั่งตะวันตกของเกาะซึ่งเป็นจุดที่คนนิยมไปชมพระอาทิตย์ตกกัน รถสามารถมาจอดได้ถึงแหลมเลยครับ


ตรงที่จอดรถมีทางลงไปถ้ำด้านล่าง จะเป็นมุมที่โขดหินชนกันเป็นวงรีมองทะลุเห็นทะเล เป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมอีกจุดของเกาะสีชัง


ให้ตุ๊กตุ๊กไปส่งที่ร้านอาหารเล็กท่าวังเพื่อกินมื้อเย็น เป็นร้านเก่าแก่อยู่หน้าพระจุฑาธุชราชฐาน ขายอาหารทะเลตามสั่ง สนใจเมนูประจำฤดูกาลอย่างหอยนมสาวลวกจิ้ม หอยฟันกระต่ายผัดฉ่า หอยกระปุกผัดใบโหระพา แต่ช่วงนี้ไม่มีหอยตามฤดูกาลจ้าาาา ราคาอาหารค่อนข้างแรงนะครับ เมนูทะเล 200+ หมด แต่ก็ราคาบนเกาะอะนะ ความยากในการกินอีกเรื่องคือแมลงวันโคตรเยอะ ต้องกินไปรำมวยจีนไป


เข้าพักที่ชาลีบังกาโลว์ครับ ที่พักติดถนนหลัก ไกลจากท่าเรือแค่ 600 เมตร ห้องกว้างสบาย น้ำไหลไม่แรงและ wifi อ่อนตามสไตล์ที่พักบนเกาะครับ ที่นี่ราคาไม่แพง 980 บาท อยู่กันไปเลยคนละหลัง เจ้าของอัธยาศัยดี แถมแมรี่แมวรับแขกตั้งใจทำงานมาก



192 ตื่นเช้าเดินตลาดหาข้าวกิน ก็มาจุ่มได้ร้านข้าวต้มปลาข้างทาง ชามละ 50 ใช้ลูกชิ้นปลาแทนเนื้อปลา เสียแรงที่อยู่บนเกาะ รสชาติพอแหลกล่าย เก็บพื้นที่กระเพาะไว้กินมื้อเที่ยงครับ ขอเที่ยวก่อน ครึ่งเช้าวันนี้จะเที่ยวครึ่งบนของเกาะสีชัง โดยเฉพาะศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่และรอยพระพุทธบาท ก่อนไปเก็บฝั่งตะวันตกที่ช่องเขาขาดและศิลาจารึก ร.5 หาตุ๊กตุ๊กแถวท่าเรือ แจ้งเส้นทางที่อยากไป แล้วตกลงราคาเหมาตุ๊กตุ๊กไป รอบนี้โดนไป 400 แพงอยู่ แต่ก็ยังถือว่าคุ้มกว่าที่ไปแหลมถ้ำพังเมื่อวานนะ

 

จุดแรกของเช้านี้ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ครับ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังนับถือกันมาก ขึ้นไปทางเหนือของเกาะ ผ่านวัดจุฑาทิศ ตุ๊กตุ๊กจะมาจอดที่ทางขึ้นศาลเจ้า จะขึ้นรถรางหรือเดินขึ้นบันไดไปก็ได้ วันนี้ดันมาเช้าเกิน คนบังคับรถรางยังไม่ตื่น แต่เดินขึ้นบันไดก็ไม่สูงมากครับ ด้านบนมองเห็นวิวตั้งแต่ตอนบนของเกาะไปจนถึงพระราชวังเลย
 
 


เจ้าพ่อเขาใหญ่ เป็นประติมากรรมธรรมชาติที่เกิดจากหินย้อยลักษณะคล้ายหน้าคน ค้นพบโดยชาวจีนชื่อนายอุ้นซิง แซ่อึ้ง และจารึกไว้ที่ไม้พื้นเรือในปี พ.ศ.2426 คนจีนที่เดินเรือต่างให้ความเคารพนับถือ นิยมมากราบไหว้ขอพรช่วงตรุษจีน และสร้างศาลเจ้าขึ้นในปี พ.ศ.2435

 


ข้างๆ มี ถ้ำเจ้าพ่อเห้งเจีย ติดกัน มีรูปปั้นเห้งเจีย
สำหรับบูชาขอพรด้านความสำเร็จและการเงินไม่ให้ฝืดเคือง

 


เชิงเขามี ศาลเจ้าแม่กวนอิม เด่นเรื่องเมตตามารมี
ปั้นไม่สวยแต่คุณป้าที่เฝ้าศาลเจ้ายิ้มแย้มรับแขกดี

 


ไปต่อครับ ทางไป รอยพระพุทธบาท เป็นจุดที่ชันและขึ้นยากที่สุดของเกาะนี้ แต่พี่คนขับสามล้อเล่าว่าดีกว่าถนนเส้นเดิมมากแล้ว จากที่จอดรถเดินขึ้นไปมณฑปพระพุทธบาทไม่ไกล เป็นรอยพระพุทธบาทที่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช แล้วกรมพระยาดำรงอัญเชิญมาจากพุทธคยา ประเทศอินเดีย ในปี พ.ศ.2435 และพระราชทานชื่อไหล่เขาที่ประดิษฐานพระพุทธบาทว่าไหล่คยาศิระแห่งยอดเขาพระจุลจอมเกล้า มีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเวลา


วิวจากมณฑปพระพุทธบาท สูง 295 เมตร ยิ่งสูงกว่าศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ขึ้นไปอีก ถ้ามาเช้าๆ มุมนี้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นด้วยครับ


ด้านหลังมีทางเดินขึ้นไป ยอดเขาพระจุลจอมเกล้า ที่มีจารึกพระนาม ร.5 อยู่ ในปี พ.ศ.2434 ร.5 เสด็จพระราชดำเนินไปถึงจุดสูงสุดของเกาะสีชัง ได้พระราชทานนามว่ายอดพระจุลจอมเกล้า และยกเสาธงไว้บนยอดเขา เรียกว่าเสาธงอัษฎางค์ จารึกอักษรพระนาม จ.จ.จ. (จุฬาลงกรณ์จุลจอมเกล้า) ทางขึ้นเป็นบันไดขั้นสั้นๆ จากข้อมูลในเน็ตได้ยินว่าสูง 300 ขั้นก็ใจฝ่อแล้ว แต่เดินไปนับไปจริงๆ มัน 365 ขั้นนะครับ ทางเดินขึ้นยอดเขารกร้างพอตัว


ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ถึงจุดที่มีลายเซ็น เป็นกองหิน ต้องปีนขึ้นไปนิดหน่อย ถึงจะเห็นลายเซ็น จ.จ.จ. ตรงนี้เป็นจุดสูงสุดของเกาะสีชังก็จริง แต่ไม่เห็นวิวอะไรเลยครับ ต้นไม้บังมิดรอบด้าน


นั่งตุ๊กตุ๊กลงจากเขาพระจุลจอมเกล้ามาทางตะวันตกจะมาถึง ช่องเขาขาด หรือช่องอิศริยาภรณ์ เป็นช่องที่อยู่ระหว่างยอดวชิราวุธและยอดยุคล เป็นอีกจุดที่ ร.5 สั่งถางป่าปรับที่ทางเพื่อใช้เป็นที่พักตากอากาศฝั่งตะวันตก จุดชมวิวด้านบนเรียกว่า ที่แลราชโกษา มีแท่นประทับของ ร.5 เรียกว่า พลับพลาศิลาสรรพศาสตร์


ด้านล่างมีสะพานวชิราวุธที่พาดยาวตลอดแนวโขดหิน เดินชมวิวอ่าวริมหาดหินมีมุมสวยๆเยอะเลยครับ เจอกระรอกขาวตัวเป็นๆ ด้วย แต่ถ่ายไม่ทัน นอกจากตกปลาแล้วตรงนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกยอดนิยม คิดดู สวยขนาด ร.5 ต้องสร้างพลับพลาไว้ชมพระอาทิตย์ตกตรงนี้เลย




ให้พี่ตุ๊กตุ๊กมุ่งไปที่เที่ยวสุดท้ายของเกาะสีชัง ลงมาจากช่องเขาขาด 500 เมตร กลางเกาะมี ศิลาจารึกเกาะสีชัง ที่ ร.5 จารึกถึงการเดินทางมาเกาะสีชัง และสร้างสิ่งต่างๆ ขึ้น


ได้เวลากลับละครับ ไปเก็บของออกจากโรงแรม เดินไปท่าเรือก็พอดีเรือรอบสิบโมง บ๊ายบายเกาะสีชัง เที่ยวง่ายกว่าที่คิดมากๆ เรือออกทุกชั่วโมง ตรงเวลาเป๊ะๆ ถ้าขี่มอเตอร์ไซค์เป็นก็ยิ่งถูกกว่าเหมาตุ๊กๆ เข้าไปอีกครับ 128
 


 


Create Date : 12 มกราคม 2568
Last Update : 12 มกราคม 2568 11:18:24 น. 32 comments
Counter : 518 Pageviews.
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณ**mp5**, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณหอมกร, คุณอุ้มสี, คุณmultiple, คุณnewyorknurse, คุณปัญญา Dh, คุณกะว่าก๋า, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณtoor36, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณThe Kop Civil, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณSweet_pills, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณmariabamboo, คุณtanjira


 
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๘ ครับ


โดย: **mp5** วันที่: 12 มกราคม 2568 เวลา:12:02:16 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ 2568 จ้า
ถ่ายหมูเด้มาองค์ประกอบภาพดีม่กจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 12 มกราคม 2568 เวลา:17:08:22 น.  

 
น้องชีริวค้างที่นี่ไหมคะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 12 มกราคม 2568 เวลา:18:40:48 น.  

 
อุ๊ยๆ อุ๊ย บล็อกใหม่เอี่ยม ยาวด้วย แต่ตอนเย็น อาจารย์เต๊ะ แบตอ่อนเหมือนหมูเด้ง เดี๋ยว เช้ามาใหม่นะคร้าบ 555



โดย: multiple วันที่: 12 มกราคม 2568 เวลา:18:58:35 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคนครับ
พี่ก๋ายังไม่เคยนั่งเรือข้ามฟากไปสีชังเลย
ชอบบ้านเก่าๆแบบนี้เลยครับ
น่าอยู่มากๆ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 มกราคม 2568 เวลา:21:24:58 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ครับคุณชีริว

สีชังชังแต่ชื่อ เกาะนั้นหรือจะชังใคร

ตามมาเที่ยวด้วยคนครับ
งานสถาปัตยกรรมต่างๆ สวยดีนะครับ
ฝาท่อระบายน้ำน่ารักเชียว
แมวเหมียวก็น่ารักไม่แพ้กัน


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 12 มกราคม 2568 เวลา:23:08:54 น.  

 
เดี๋ยวผมมาอีกทีนะครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 13 มกราคม 2568 เวลา:0:11:20 น.  

 
ทริปนี้ เที่ยวเกาะสีชัง ก็นึกถึงเพลง ที่ ขับร้องโดย มรว ถนัดศรี ขึ้นมาทันทีเลยเชียวครับ

เกาะสีชังยังไม่เคยไป ชอบแผนที่แบบนี้ดูง่ายดี
ถ้าอาจารย์เต๊ะได้ไป จะเช่ามอไซค์ขี่ ซิ่งผ่านวัดไป ศูนย์เรียนรู้ธนาคารสัตว์​ ก่อนเลย ดูในทีวี ชอบธนาคารปูม้า ไข่เต็มท้องมาก ไปดูแล้วเราชี้ๆเลือกแล้ว ไม่รู้ว่า เราให้เค้า นึ่งให้เลยร้อนๆได้มั้ยละครับ อิอิ

ซีริวถาม เอ็งจะเอาน้ำจิ้มแบบไหน ข้าแนะนำ ซีฟู๊ด ถึงจะแซ่บ ไอ้บร้า
เค้าไม่ขายโว้ย เอ็งนี่เอ็ง ต้นเหตุที่ทำปูม้าสูญพันธุ์ เดี๊ยะๆ 555

มาบล็อกนี้ได้ความรู้ประวัติศาสตร์ กลับไปทุกที วันนี้ก็รู้ที่มาของ พระที่นั่งวิมานเมฆ หลังจาก คืนครูไปหมดเกลี้ยงเลยนะครับ แฮร่5555

พระจุฑาธุชราชฐาน นี่ เรือนพระตำหนักต่างๆ งดงามมากเลยนะครับ
ชอบ อุโบสถ วัดอัษฎางคนิมิตร ภายในงามมากๆ
เที่ยววังเสร็จ ไปชมวิวทะเล ให้ลมตีหน้านิดนึง สมกับมาเที่ยวเกาะหน่อย555

ไปกินข้าว เล็กท่าวัง ร้านเหงาๆนะครับ แต่ถ้าอาหารอร่อยก้ โอเคร
ทั้งร้าน เรากินโตีะเดี๋ยว ได้เร็วดี 555

ส่วน บังกาโลว์ ที่พัก แมวน่ารักแต่หน้าง่วงมาก ราคาก้เป็นมิตรมาก พวกป๋า ซีริวเลยนอนคนละหลังเลย ถ้าอาจารย์ไป ไม่เอานะครับ ชอบนอนรวมกัน กลัวผี 555

ดูรวมๆแล้วไปเที่ยวเกาะสีชัง ก็ ไม่ยากเท่าไหร่ ถ้าขี่มอไซค์เป็น น่าจะสนุก คล่องตัวมาก
ชอบวิวบนยอดเขา อากาศน่าจะสดชื่นมาก ชมพระอาทิตย์ตกดิน ถ้าไปกับกิ๊ก ก็น่าจะสวีทกันน่าดูเชียวนะครับ ทริปนี้ อิอิ

จากบล็อก พระเขี้ยวเแก้ว สนามหลวง ตอนอาจารย์เต๊ะไป เช้าๆ 8 9โมงนี่ คนยังไม่แยะเท่าไหร่ครับ
ถ้าไปสายจะหาที่จอดรถยากหน่อย
ถ้ามีโอกาสไปกราบได้ ก็จะดีไม่ต้องบินไปไกลถึงจีน หรือ ศรีลังกานะครับ









โดย: multiple วันที่: 13 มกราคม 2568 เวลา:2:20:03 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 มกราคม 2568 เวลา:5:37:59 น.  

 
ผมเคยไปเกาะสีชังครั้งนึง ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีอะไรเลย ไม่ได้พักที่บนเกาะด้วย พอมาอ่านบล็อกคุณชีริวแล้ว พลาดไปหลายที่เลย แต่ละที่สวย ๆ ด้วยนะครับ แต่อาหารไม่ค่อยโอเคใช่มั๊ยครั
จากบล็อก
ช่วงเย็นผมใส่เสื้อกันลม ซื้อจาก Decathlon ราคาไม่แพงด้วยครับ แต่ผมไม่ค่อยได้ใส่วิ่งนะครับ ส่วนใหญ่จะวิ่งท้าลมหนาว 555


โดย: The Kop Civil วันที่: 13 มกราคม 2568 เวลา:15:34:43 น.  

 
น้องชีริวได้เจอน้องหมูเด้งสองรอบแล้ว
พี่ต๋าได้แต่ดูผ่านสื่อ น่ารักมากๆเลย

เกาะสีชังพี่ต๋าเคยไปนานแล้ว บนเกาะเช่ารถสามล้อเครื่องพาไปจุดต่างๆ
วันนั้นเวลาน้อย ต้องทำเวลาให้ทันเรือขากลับ
เพิ่งได้เข้ามาค่ะ ลงชื่อก่อนนะคะแล้วจะตามเที่ยวกับน้องชีริวต่อ


โดย: Sweet_pills วันที่: 14 มกราคม 2568 เวลา:0:58:45 น.  

 
แวะมาเยี่ยมครับ


โดย: **mp5** วันที่: 14 มกราคม 2568 เวลา:11:21:16 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

ตามมาเที่ยว เกาะสีชัง จ้ะ บล็อกนี้เดินเที่ยวตามเธอเมื่อย
ลูกตาเลย ละเอียดมาก ได้รู้ประวัติสถานที่ต่าง ๆ บนเกาะสีชัง เกาะ
ที่มีบรรยากาศ ธรรมชาติ สวยงาม น่าไปมาก จ้ะ สมกับที่ตั้งชื่อเรื่องว่า "เที่ยวตาม ร.5ที่เกาะสีชัง
มีโอกาสได้ไปชมหมูเด้งด้วย โชคดีนะ ที่ได้เห็นมัน บางคนไป
แล้วผิดหวัง ไม่ได้เห็นมัน เพราะมันไปนอน ยังไม่ตื่น ห้าห้าห้า
เริ่มเที่ยว แห่งแรก คือ เกาะลอย ข้ามสะพานสุรศักดิ์มนตรี ได้เที่ยว
วัดเกาะลอย กินอาหารร้านเกาะลอยซีฟู้ด ดูจากรูปน้ำลายไหล
เหมือนกันนะ ดูน่าอร่อย
จากเกาะลอย ก็ไปเกาะสีชัง ซึ่งถือว่าเป็นแลนด์มาร์ค กลางคืนมี
การเปิดไฟ น่าจะสวยงาม ได้บรรยากาศดีแน่นอน ที่นี่ยังมีศูนย์
การเรียนรู้ด้านเศรษฐกิจ มีธนาคารปูม้า
พระราชวังเกาะสีชัง ที่เรียกว่า พระจุฑาธุชราชฐาน เธอก็
ค้นคว้าประวัติของวังมาอย่างละเอียด ได้ความรู้ดี ยังมีพิพิธภัณฑ์
ชลทัศนสถาน พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ แต่สร้างไม่เสร้จ รื้อมา
สร้างเป็นพระที่นั่ง วิมานเมฆในเขตพระราชวังดุสิต ครูก็ไม่เคยได้
ไปชมสักแห่งเลย
นอกจากพระราชวังดังกล่าว ยังมีเรือนริมทะเล เรือนวัฒนา
ชมวัดอัษฏางคนิมิต เรือนผ่องศรี (ตั้งตามชื่อ)เรือนอภิรมย์ ทุก
สถานที่เธอได้เล่าประวัติประกอบด้วย
แหลมถ้ำพัง หรือ แหลมจักรพงษ์ ดูจากภาพ เป็นจุดชมวิว
ถ่ายรูปยอดนิยม ยังมีศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ รอยพระพุทธบาท ถ้ำ
เห้งเจีย ศาลเจ้าแม่กวนกิม (เธอบอกว่าปั้นไม่งาม) ช่องเขาขาด
สรุปทริปนี้ เที่ยวสนุก อาหารอร่อย ที่พักดี ได้เที่ยวได้
นำเรื่องเที่ยวมาเล่าสู่การอ่าน ค้นหาความรู้มาประกอบสถานที่ที่ไป
เที่ยว คนที่ชอบอ่าน ชอบหาความรู้ ย่อมชอบใจนะ ขอบใจจ้ะ
โหวดหมวด ท่องเที่ยว


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 14 มกราคม 2568 เวลา:18:50:13 น.  

 
สวัสดีครับคุณชีริว

สวัสดีปีใหม่ด้วยครับ ^^
โอ้โห คุณชีริวเที่ยวครบ 77 จังหวัด แล้ว สุดยอดเลยครับ ผมนี่เรียกว่านับด้วยนิ้วได้ 5555

เวลาไปเยี่ยมญาติแฟนผมชอบไปวิ่งที่เกาะลอยครับ เดี๋ยวนี้สวยงามเชียว วัดไม่เคยไปเลยครับ......ผมอาจจะ....คนบาป...

เกาะสีชังนี่ว่าจะไปหลายครั้งแล้ว สรุปได้นั่งดูบิกินีที่เกาะล้านทุกที 5555
แต่ดูท่าแล้ว ที่เที่ยวน่าไปอยู่เหมือนกันนะครับ
ปูม้า แหม่ พูดแล้วอยากได้น้ำจิ้มซีฟู้ด

ดูๆ แล้ว เกาะสีชังนี่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์สมัย ร.5 เลยครับ แต่ละเรือน แต่ละตำหนักน่ารักเชียวครับ

ฝาท่อกิมมิกมากครับ นอกจากต้องล่าฝาท่อที่ญี่ปุ่นแล้ว ต้องมาล่าฝาท่อที่ไทยด้วย ถึงจะเท่ ^^


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 14 มกราคม 2568 เวลา:19:23:50 น.  

 
กทม. ที่เที่ยวเยอะครับ เอาแค่สวนสาธารณะก็เยอะพอตัวอยู่เหมือนกัน ส่วนผมเป็นพวกสายอยู่บ้านครับ 555 ไม่ค่อยอยากจะออกเท่าไหร่ ขี้เกียจออก เหนื่อย แต่พอได้ออกได้เดินทางจริงๆ จะรู้เลยว่า กทม. มันไม่ได้ใหญ่โตอย่างที่เราคิด มันเล็กว่าที่เราคิดไว้มาก แต่ที่มันรถติด เพราะการจัดระเบียบและวิศวกรจราจรเราห่วย

ตอนแรกเพื่อนผมที่มา เขาก็ถามถึงเจ้าหมุเด้ง แต่พอเราบอกว่าคนเยอะนะ จะไปดูจริงรึ เขาก็บอกไม่ไปทันทีแล้วเลือกไปที่อื่นแทน 555

ค่าเดินทางสูงอยู่เหมือนกัน จะว่าไปมีรถก็มีค่าใช้จ่าย ไม่มีก็ไม่สะดวก ถ้าออกต่างจังหวัดยังไงผมก็เลือกรถแหละ ไปพวกขนส่งสาธารณะมันไม่ไหว นอกเสียจากเป็นรถท้องถิ่นที่สถานที่ท่องเที่ยวบังคับ แบบนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง

สถานีวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล มีปลาการ์ตูนด้วย ถ่ายภาพพวกสัตว์น้ำชัดดีครับ

พระที่นั่งวิมานเมฆ ผมเห็นข่าวว่าตอนนี้กลับมาแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปพิสูจน์ แถมไม่เป็นข่าวตามสื่ออีกต่างหาก

เดี๋ยวนี้ฝาท่อในไทยเริ่มทำเป็นสีๆ แบบในภาพแล้ว ผมว่าดีนะ มันดูมีเอกลักษณ์ดี อีกอย่างถ้ามีคนเอาไปขายก็รู้ได้ทันทีเลยด้วยว่าหยิบมาจากที่ไหน

จริงๆ แมลงวันเยอะ เขาน่าจะหาไม้แล้วเอากาวติดแมลงวันมาพันรอบไม้แล้ววางไว้ทุกโต๊ะนะ แบบนั้นช่วยได้มากเลยด้วย ในภาพที่ถ่ายมาหมาดำยืนขอกินอาหารด้วย

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพื้นที่ยังไงก็ต้องไปครับ ไปเพื่อความสบายใจด้วยมั้ง



โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 มกราคม 2568 เวลา:0:03:13 น.  

 
เที่ยวตามรอยจริงๆ แล้วนี่จัดได้ว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ชั้นดีเลย แต่ไม่ค่อยมีการโปรโมตกันว่าเส้นทางมีอะไรบ้าง แต่ก่อนกับปัจจุบันแตกต่างกันขนาดไหนแล้ว มีแต่อะไรก็ไม่รู้ประเทศเรา

ส่วนเจ้าหมูเด้งคนไทยก็เก่งนะ ทำจนดัง ฝาท่อแม้ไม่สวยแบบของญี่ปุ่น แต่เห็นก็ยิ้มได้เหมือนกัน

ภาพจากมุมสูงไม่วส่าที่หนก็ดูสวย



จากบล็อก
IO ก็คือ IO หลายๆ ครั้งมันดูตลก ไม่อยากเห็นประเทศตัวเองดูดีแบบต่างประเทศก็เอา


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 17 มกราคม 2568 เวลา:22:41:04 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ คุณชีริว

อากาศเย็นสบายแบบนี้ ไปเที่ยวเกาะเดินตากแดดได้ชิลๆเลยนะคะ
แต่เราก็จะดำไม่รู้ตัวค่ะ 555555
ข้อมูลแน่นมากเลยค่ะ จันทร์เข้ามาดุนี่ได้ตามไปเที่ยวด้วย ได้ความรู้ด้วยค่ะ
เสียดายพระราชวังที่รื้อถอนไปนะคะ อยากชมความงามตัวอาคารค่ะ

หมูเด้งเธอน่ารักมากกกกก เอ็นดูความเกรี้ยวกราดของนางค่ะ 5555

อยู่แค่ฉะเชิงเทรา แต่จำไม่ได้เลยว่าเคยไปสวนสัตว์เปิดเขาเขียวไหม
แต่หลานๆได้ไปกันหมดค่ะ ที่รร.พาไปทัศนศึกษา
แต่..ตั้งแต่หมูเด้งถือกำเนิด ยังไม่ได้ไปกันเลยค่ะ

ได้กินหมึกน้ำดำครั้งแรกที่เกาะสีชังเลยค่ะ ไปเที่ยวแล้วพักบ้านเพื่อนของเพื่อนอีกที
เค้าทำให้กินค่ะ เห็นทีแรกไม่กล้ากิน ถามเค้าว่ากินได้จริงๆเหรอ
พอลองกินปั๊ป อร่อยติดใจเลยค่ะ 5555555





โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 18 มกราคม 2568 เวลา:10:01:12 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

ขอบใจนะที่มาให้กำลังใจที่บล็อก ตะพาบ "ยุ่งยาก" จ้ะ
ถูกของเธอ จ้ะ อาชีพครู ต้องรักจริง ๆ จึงจะสามารถทำหน้าที่
อาชีพนี้ได้ดี เพราะหน้าที่ครูไม่ใช่เพียงแต่สอนให้เขามีความรู้ นำ
ความรู้ไปต่อยอดและนำไปประกอบอาชีพได้ แต่ยังต้องอบรมบ่มนิสัยให้เขาเป็นคนดี ทั้งต่อครอบครัว สังคมและประเทศชาติ คอยเป็นที่ปรึกษาปัญหาของเขา เป็นที่พึ่ง ให้ข้อคิด แนะนำ ให้เขาผ่านปัญหาของเขาได้ (ปัญหาตั้งท้องระหว่างเรียน ก็ต้องประคับประคองให้จบกรณีเทอมสุดท้าย)
ปัจจุบัน ปัญหาการเรียนการสอน มีมากขึ้น เด็ก ๆ ไม่ได้เห็น
ความสำคัญของครูเหมือนเด็ก ๆ ยุคก่อน เขามองครูเป็นผู้รับจ้าง
มาสอน ครูปัจจุบัน ส่วนมากก็สอนตามหน้าที่ของเขาไป อิทธิพล
ของเทคโนโลยี สังคมเปลี่ยนไป แนวคิดต่าง ๆ ก็เปลี่ยนแปลงไป
ตามสิ่งแวดล้อม เด็กก้าวร้าว ถือว่าตนมีอิสรเสรีภาพ อาวุธสำคัญ
ของพวกเขา คือ ถ่ายคลิปฟ้องครูก็เยอะ เฮ้อ! น่าเศร้าเนาะ

เออ! อยากให้เธอไปฟังเพลง รับพรปีใหม่ ตะพาบเรื่อง
คำอวยพร เขาให้ส่ง 28 ธ.ค. เธอคงยุ่งอยู่กับงานสิ้นปี ไม่ได้
เข้าไป ที่อยากให้ไปดู เพราะทำวีดิโออวยพรปีใหม่ มีรูปชีริวเยอะ
กว่าเพื่อนนะ ดูหน้าตาเด็กมาก ๆ อิอิ วัยละอ่อน จ้ะ ห้าห้าห้า


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 19 มกราคม 2568 เวลา:10:35:27 น.  

 
สวัสดีครับคุณชีริว

ผมก็คิดว่าอาจไม่ค่อยบูมนักอย่างที่คุณชีริวว่า
ไม่งั้นต้องมีต่อยาวๆ หรืออาจารย์ตั้งใจเขียนสั้นเพื่อคั่นเวลาไม่รู้นะครับ


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 21 มกราคม 2568 เวลา:9:35:37 น.  

 
จากบล๊อก

% เข้มดีครับ หมดแก้วมีใจสั่น อร่อยไหม อร่อยครับ แต่ราคาไม่อร่อยเลย ฮืออออ กินแค่รู้ก็พอแล้ว

คนสองคนแต่งงานกัน แต่ระหว่างทางมีคนออกความเห็นเป็นสิบ! ผมเลยบอกว่า ใครที่อยากได้นั่นอยากได้นี่นัก ให้ไปแต่งเอง อ่ะ...ผมบอกผู้ใหญ่จริงๆ คนที่คิดว่าผมเป็นคนซอฟ ๆ ได้รู้จักผมดีก็วันนั้นเลยครับ 5555

เรื่องปาร์ตี้สละโสด หรือ After party แล้วแต่คนเลยครับ ผมว่าจัดก่อนมันเปลืองค่าสถานทีอีกรอบ แล้วก็อาจรวมเพื่อนได้ไม่เยอะ แต่ถ้าจัด after ก็แค่จ้างวงดนตรีเพิ่มนิดหน่อย สถานที่ก็ที่เดิม เพื่อนก็มีกันพร้อมแล้ว เหล้าเบียร์ก็ต่อติดเลย เฮ่ ดีอยู่นะครับ
คืนนั้นเข้าหอก็ไม่ต้องคิดว่าทำอะไร เพราะเมาหลับจนถึง 10โมงเช้า ตื่นมานั่งนับซองจ่ายตังเค้าอีก 55555 อะไรที่หลายคนคิด ไม่เกิดขึ้นจริงในคืนวันแต่งงานหรอก

เรื่องงานนี่ ถ้าลูกค้าขอ ถ้าช่วยกันได้ก็ช่วยกันอยู่แล้วครับ เผื่อเค้าถูกใจเรียกใช้อีก หรือทีมงานเห็นเราคุยง่ายจะได้ใช้งานอีก แจ้งคิว8ชม. ถ่ายจริง 10 ชม. เกือบเที่ยงคืน ผีแทบหลอก ผมก็ทำให้นะ
แต่ไอ่คนกลางที่หาเรื่องบิดค่าตัวนี่ ก็ต้องเจอกัน สน. ครับ ลูกค้าคอนเฟิมงานที่คอมการ์ดไปแล้ว หัวผมก็ตรงปก จะบอกว่าไม่ตรงref เป็นความผิดไอ่คนกลางนะครับไม่ใช่ผมป่ะ แล้วไม่ใช่ผมโดนคนเดียว โดนกันเป็นตับครับจากคนกลางคนดีคนเดิม ....ก็....สู้ติดแน่....แพ้ติดนาน นะจ๊ะ....
30กว่าแล้ว เงินหายาก.....


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 21 มกราคม 2568 เวลา:14:39:53 น.  

 
ขอแสดงความยินดีกับรางวัล BlogGang Popular Award #20

และขอขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตที่ร่วมโหวตให้ที่บล็อกตลอดปี 2567 ด้วยครับ


โดย: **mp5** วันที่: 22 มกราคม 2568 เวลา:11:14:30 น.  

 
ขอแสดงความยินดีกับรางวัล BlogGang Popular Award #20 จ้า



โดย: หอมกร วันที่: 22 มกราคม 2568 เวลา:12:51:00 น.  

 
สวัสดีค่ะชีริว


จริงๆพี่ไม่ค่อยได้ดูเจ้าหมูเด้งเลยนะคะ

เกาะสีชังพี่ไม่เคยไปค่ะ
สีน้ำทะเลสวยมากเลยนะคะ

ขอแสดงความยินดีกับรางวัลBlogGang Popular Award #20 ด้วยนะคะชีริว

และขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตที่โหวตให้ที่บล็อกพี่ด้วยนะคะ




โดย: tanjira วันที่: 22 มกราคม 2568 เวลา:14:13:41 น.  

 
สวัสดียามบ่ายค่ะ คุณชีริว

ยินดีกับสายสะพายด้วยนะคะ




โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 23 มกราคม 2568 เวลา:16:41:28 น.  

 
จากบล็อก
LGBT ที่จีนมีแต่ไม่ค่อยเปิดเผยตัวนะครับ ด้วยค่านิยม และอะไรหลายๆ อย่างเปิดตัวเดี๋ยวซวย


ยินดีกับรางวัลปีนี้ด้วยครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 23 มกราคม 2568 เวลา:21:22:35 น.  

 
คนที่สนับสนุนก็แบกกันเข้าไป วันหนึ่งพวกเขาเองโดนขึ้นมาคงจะขำกันไม่ออก


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 24 มกราคม 2568 เวลา:21:17:42 น.  

 
ฝีมือในการถ่ายรูป ยังเฉียบขาดเหมือนเดิมเลยนะครับ สีชังนี่สำหรับผมชอบมากว่าเกาะไหนๆ ของเมืองไทยครับ


โดย: พายุสุริยะ วันที่: 25 มกราคม 2568 เวลา:11:39:02 น.  

 
ฝากบล็อกนี้ด้วยครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 28 มกราคม 2568 เวลา:22:48:20 น.  

 
ที่ท่องสวยมาก น่าไปเที่ยวมากเลยครับ เดี๋ยวตามไปเที่ยวบ้าง ขอบคุณภาพสวยๆ


โดย: สุดหล่อ ท่าตะโก IP: 203.172.207.197 วันที่: 29 มกราคม 2568 เวลา:12:35:36 น.  

 
สวัสดีค่ะน้องชีริว

ทักน้องชีริวเมื่อวันที่ 14 วันรุ่งขึ้นพี่ต๋าก็ขึ้นเหนือ
หายไปสองอาทิตย์พอดีค่ะ

ขอแสดงความยินดีกับรางวัลที่น้องชีริวได้รับด้วยนะคะ

สถานที่เที่ยวบนเกาะสีชัง พระราชวัง พิพิธภัณฑ์ วัด ถ้ำ
เรือนแต่ละแห่งมีประวัติ น่าสนใจและน่าเที่ยวมาก
ครั้งที่พี่ต๋าไปนานมากแล้วได้แต่ชมสถานที่ภายนอกและชมวิวค่ะ
คิดว่าถ้าจะตามรอยน้องชีริวอีกครั้งน่าจะพักบนเกาะสีชังด้วย
จะได้ชื่นชมกับสถานที่แต่ละแห่งอย่างเต็มที่

ตอนน้องชีริวพาเที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่บางแสน
ถ้าจำไม่ผิดพี่ต๋าเคยคอมเมนท์ว่าน้องชีริวถ่ายภาพสัตว์น้ำชัดมาก
บล็อกนี้ก็สวยและชัดมากค่ะ

อาหารอย่างหอยนมสาวลวกจิ้ม หอยฟันกระต่ายผัดฉ่า
หอยกระปุกผัดใบโหระพา ยังไม่เคยชิมเลย จดชื่อไว้ก่อน

พี่ต๋ากับเพื่อนอีกคนชอบฝาลวดลายฝาท่อมาก
จนทำอัลบั้มไว้เก็บภาพฝาท่อโดยเฉพาะ
ฝาท่อที่นี่รูปกระรอกขาวกับสะพานอัษฎางค์น่ารักมากนะคะ

ขอบคุณน้องชีริวที่พาเที่ยว ภาพสวยมาก
ชมเพลินอ่านเพลินน่าตามรอยจริงๆค่ะ

สุขสันต์วันตรุษจีนนะคะ








โดย: Sweet_pills วันที่: 29 มกราคม 2568 เวลา:18:44:28 น.  

 
ยินดีกับสายสะพายเช่นกันนะครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 31 มกราคม 2568 เวลา:11:52:10 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:7:20:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 92 คน [?]





**5 Latest Entries**
RedLife
เบตง
โดราเอม่อน ตอน ปืนหยั่งรู้ความคิด
ปัว-บ่อเกลือ
โดราเอมอน ตอน ฝาแฝดของโนบิตะ


Friends' blogs
[Add ชีริว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.