สุพรรณบุรีที่ยังไม่เคยไป
ต้นปีที่ผ่านมา เป็นช่วงกักตัวช่วงแรกหลังปีใหม่ ก่อนจะมาระบาดหนักอีกทีกับคลัสเตอร์ทองหล่อและระบาดรัวๆ หลังสงกรานต์ ตอนนั้นอยู่บ้านแบบยาวๆ เลยครับ เข้าไปในจังหวัดสีแดงเข้มไม่ได้ ซึ่งร้านการ์ตูนทั้งหมดที่รู้จักมันอยู่ใน กทม. หรืออย่างดีก็ที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ที่อยุธยามีร้านเล็กๆ อยู่ในห้างเดอะสกาย นับว่าเป็นจังหวัดที่หาการ์ตูนอ่านได้ยากยิ่ง ใครรู้จักร้านอื่นช่วยบอกเจ้าของบล็อกที ว่าแล้วก็ลองหาดูว่าร้านการ์ตูนที่ใหญ่และใกล้บ้านเราที่สุดแบบไม่ต้องเข้าปริมณฑลเนี่ยมันอยู่ที่ไหน
กูเกิ้ลเฉลยมาว่าเป็นร้าน It is a Bookz ที่สุพรรณบุรีครับ มีการ์ตูนเก่าขายเยอะด้วย ดีจัง ทีแรกคิดว่าต้องไปถึงโคราช ว่าแล้วทริปสุพรรณไปเช้าเย็นกลับก็เริ่มต้นขึ้นด้วยความเสี้ยนการ์ตูนนั่นเอง...
ทั้งวัด ตลาด พิพิธภัณฑ์ของสุพรรณบุรีไปมาหลายรอบ อัพบล็อกไปแล้วก็เยอะมาก ทริปนี้เลยมาค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวในสุพรรณบุรีซึ่งยังไม่เคยไป นับๆดูแล้วก็เยอะพอที่จะเที่ยวไกลจากบ้านได้หน่อย เพื่อไม่ให้โดนข้อหาขับรถไป-กลับ 160 โลเพื่อมาซื้อการ์ตูนอย่างเดียวครับ
13 ก.พ. ออกจากบ้านที่วังน้อยตอน 8 โมงเช้า ถึงสุพรรณ 9 โมง พอดี ได้เวลาที่แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เปิด แวะที่แรกบ้านยะมะรัชโช เป็นเรือนไทยโบราณ...ซึ่งปิดครับ ปิดแบบไม่มีป้ายบอกว่าปิดเมื่อไหร่ถึงเมื่อไหร่ด้วย มีพี่ช้อปเปอร์อีกคนมาวนเวียนอยู่หน้าบ้านบ่นว่าโทรหาผู้ดูแลแล้วก็ยังไม่มาตามนัดซะที นั่น ขนาดนัดไว้ยังเลทอีก บริการห่วยครับที่นี่ ข้ามไปๆ
ที่ต่อไปก็เที่ยวศาลเจ้าพ่อหลักเมืองกับอุทยานมังกรสวรรค์ตามที่กล่าวไปในบล็อกที่แล้ว เผาเวลาได้มากเกินที่คิดไปเยอะเลยครับ เลยกินข้าวเที่ยงมันในหมู่บ้านมังกรฯ นั่นแหละ
ขับออกมาตามถนนมาลัยแมน 400 เมตร จะเห็น วัดผึ้ง อยู่ข้างทาง เป็นวัดเก่าแก่สร้างสมัยอยุธยา ภายในประดิษฐานหลวงพ่อขาว มีชาวบ้านแถวนั้นคอยดูแลทำความสะอาด ซื้อธูปเทียน หรือบริจาคให้พี่แกตรงๆเลยก็ได้นะครับ ถือเป็นค่าช่วยดูแลวัด เลยจากวัดผึ้งไปอีก 500 เมตร เกือบถึงสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน จะมีซากเจดีย์ใหญ่อยู่ริมถนน นี่คือ วัดกุฏิสงฆ์ ไม่มีประวัติอะไรให้อ่านทั้งนั้นนะครับ แค่ชื่อป้ายวัดยังผุซอมซ่อ ยังครับ แค่นี้ยังไม่รกร้างห่างไกลผู้คนมากพอ ขึ้นมาตอนเหนือของเมืองสุพรรณชั้นในจะมีเจดีย์อยู่กลางทุ่งอย่างโดดเดี่ยว เรียกว่า เจดีย์วัดเถลไถล ไม่รู้เถลไถลออกมาจากวัดไหน รอบๆ แถวนี้ไม่มีอะไรเลย ก่อนที่คนอ่านจะปิดบล็อกเพื่อหลบหนีจากวัดร้างที่เหลือแต่ซากอิฐโดยเที่ยงแท้ มาดูวัดที่พอจะมีชื่อเสียงมั่ง จากตัวเมืองชั้นในออกมาทางตะวันออก จะมีวัดแค ที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องขุนช้างขุนแผนบ่อยมาก วัดแค สร้างในปี พ.ศ.2034 และถูกทิ้งร้างในช่วงสงครามกับพม่าปลายยุคกรุงศรีอยุธยา สิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นมีอุโบสถ และวิหารมหาอุตม์ มีพระพุทธมงคลเป็นพระประธานในวิหาร หลวงปู่คง เป็นเจ้าอาวาสของวัดแคในเรื่องขุนช้างขุนแผน สอนวิชาเสกใบมะขามเป็นตัวต่อ มีรูปหลวงปู่คงนั่งพญาต่อในวัดด้วย ด้านข้างวัดทำเป็นคุ้มขุนแผน มีต้นมะขามอายุ 1000 ปี รอบวง 10 เมตร สูง 15 เมตร เรียกว่า "ต้นมะขามคู่บุญขุนแผน" เชื่อกันว่าเป็นต้นเดียวกับที่อาจารย์คงสอนขุนแผนใช้วิชาเสกตัวต่อ กระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศให้มะขามต้นนี้เป็นรุกขมรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี ในปี พ.ศ.2560 ในเขตคุ้มขุนแผนนอกจากตัวละครในเรื่องขุนช้างขุนแผนแล้วยังมีรูปปั้นบุคคลและพระเกจิที่สำคัญของสุพรรณบุรีอยู่มากมายเลย คุ้มขุนแผน สร้างในปี พ.ศ.2525 เป็นการจำลองเรือนไทยสมัยโบราณขึ้นมา ด้านหน้ามีรูปปั้นขุนแผน ถือดาบฟ้าฟื้น ขี่ม้าสีหมอก ขับออกจากเมืองตามถนนสมภารคงมา จะมี วัดพระลอย เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอู่ทอง ....สมัยเรียนเราเรียกศิลปะสายสุพรรณบุรีก่อนมีกรุงศรีอยุธยาว่าศิลปะยุคอู่ทอง แต่ไม่เกี่ยวข้องกับเมืองอู่ทองสมัยทวารวดีนะครับ อันนั้นเก่าแก่ยิ่งกว่านี้ไปอีก เป็นความเข้าใจผิดในการศึกษาประวัติศาสตร์ยุคแรกๆ ว่าพระเจ้าอู่ทองมาจากเมืองอู่ทองนั่นแหละ แต่จริงๆเมืองอู่ทองร้างไปหลายร้อยปีก่อนพระเจ้าอู่ทองจะเกิดเสียอีก เอาเป็นว่าวัดพระลอยสร้างในสมัยสุพรรณบุรีนั่นแหละครับ
ตามตำนานเล่าว่ามีพระพุทธรูปปางนาคปรกลอยมาตามแม่น้ำท่าจีน ชาวบ้านได้อัญเชิญมาประดิษฐานภายในวัด เรียกว่า "หลวงพ่อพระลอย" ในรูปนี้คือองค์ด้านหน้าด้านซ้ายมือครับ ในวัดยังมีอุโบสถเก่าสมัยอู่ทองที่ถูกรักษาไว้อย่างดี โดยทางวัดได้สร้างอาคารครอบอุโบสถไว้ทั้งหลัง ในตัวอาคารใช้เป็นที่เก็บรักษาพระพุทธรูปและชิ้นส่วนอุโบสถที่หักพังลงมาด้วย ตรงที่จอดรถมีตลาดร่มไม้ชายน้ำ เป็นตลาดวัดที่ใหญ่โตที่สุดแห่งหนึ่งของสุพรรณบุรีเลยครับ พื้นที่วัดพระลอยทำเลอยู่ริมน้ำและร่มเย็น ทางจังหวัดเลยร่วมกับเอกชนเปิดเป็นถนนสายวัฒนธรรม มีสินค้าภูมิปัญญาชาวบ้านและอาหารท้องถิ่นขาย เปิดทุกวัน ส.-อา. วัดถัดไปอยู่ตอนใต้ของตัวเมืองครับ กลับมาเส้นมาลัยแมน แล้วขับออกจากตัวเมืองชั้นในผ่านกำแพงเมือง ตรงนี้จะเป็นประตูเมืองสุพรรณบุรีเดิม (ที่เห็นขาวๆนั่นทำใหม่นะ) ตัวเมืองมีคูน้ำและกำแพงล้อมรอบเมือง ตรงจุดนี้จะเห็นกำแพงเก่าเป็นฐานอิฐที่ถูกรื้อไปเยอะแล้ว ส่วนด้านอื่นๆ ไม่เหลือกำแพงแล้วครับ วัดมรกต อยู่ในเขตสนามกีฬาจังหวัดแห่งที่ 2 เป็นวัดเก่าแก่สมัยอู่ทอง เหลือเจดีย์ประธาน ซากฐานอาคาร และพระพุทธรูปหินทรายอีกจำนวนหนึ่ง เพราะไกลจากตัวเมืองเก่าและเป็นพื้นที่น้ำท่วมไม่ถึง เลยเป็นโบราณสถานยุคอู่ทองไม่กี่แห่งที่ค่อนข้างสมบูรณ์มากครับ หอคอยบรรหาร-แจ่มใส เป็นอีกที่ๆ เห็นได้แต่ไกล แต่ยังไม่เคยขึ้นไปเลยครับ วันนี้จัดสักหน่อย หอคอยตั้งอยู่ในพื้นที่สวนเฉลิมภัทรราชินี เปิด 10.00 - 19.00 น. ถ้าวันหยุดเปิดถึง 20.30 น. ปิดวันจันทร์ ช่วงโควิดอาจเปลี่ยนแปลงเวลาเปิดปิดนะครับ เข้าสวนฟรี แต่ถ้าขึ้นหอคอยผู้ใหญ่ 30 บาท เด็ก 15 บาท หลัง 6 โมงเย็นผู้ใหญ่ 40 เด็ก 20 หอคอยสูง 123 เมตร ชั้นชมวิวบนสุดอยู่สูง 79 เมตร ซื้อตั๋วแล้วจะมีเจ้าหน้าที่พาขึ้นลิฟท์มาชั้นบน ตอนนี้เปิดแค่ชั้นชมวิวกับชั้นขายของที่ระลึก มีกล้องส่องทางไกลหยอดเหรียญ 10 บาท ชมได้ 3 นาที แต่ละมุมจะบอกสถานที่สำคัญๆ ที่มองเห็นไว้ด้วยนะครับ อย่างมุมที่มองเข้าไปในเมืองนี้เห็นทั้งอุทยานมังกรสวรรค์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดประตูสาร ลงจากหอคอยก็ได้เวลาตามหาการ์ตูน ร้านอยู่ใกล้ๆ หอคอยเลยครับ It is a Bookz ตอนเห็นร้านตกใจที่เล็กกระจิ๋วหลิวเป็นตึกแถวหนึ่งคูหา แต่พอเข้าไปข้างในแล้วตู้การ์ตูนกองพะเนินเทินทึกเลยครับ มีการ์ตูนเก่าหายากๆอยู่เยอะเหมือนกัน ได้กลับบ้านมา 7 เล่ม ปิดท้ายด้วยสาลี่เอกชัยสักหน่อย เจ้านี้ขนมสาลี่ดัง แต่ผมไม่ชอบกินขนมสาลี่อะดิ ที่ชอบคือขนมโมจิไส้แห้วเขาอร่อยเลิศ แต่ก่อนมีโมจิสตอเบอรี่โบเกิร์ตอร่อยมั้กมั่ก แต่เลิกทำไปแล้ว ร้านนี้เป็นแหล่งรวมของฝากที่เป็นสำนักงานใหญ่ของเอกชัยเลยนะครับ จากชื่อเดิมเอกชัยสาลี่สุพรรณ เขารีโนเวทเป็นเป็นร้านสาลี่วันเดอร์แลนด์ ตามชื่อมาสคอตของเอกชัยคือน้องสาลี่และพี่บัฟ จัดร้านสวยงาม มีขายอาหารและเครื่องดื่มด้วยนะครับ แต่ไม่ได้ลอง ผมซื้อขนมเอกชัยแล้วไปซื้อน้ำที่ร้าน Rabbit cafe เพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชนอย่างทั่วถึง
หมดละครับ สำหรับเมืองสุพรรณ ถ้านับตั้งแต่บล็อกแรกที่เขียนเกี่ยวกับสุพรรณมาจนถึงบล็อกนี้ก็รวมทั้งสิ้น 7 เอ็นทรี่ น่าจะเป็นจังหวัดเขียนบ่อยที่สุดรองจากอยุธยากับกรุงเทพแล้วมั้งครับ แต่ยังไม่หมดแค่นี้หรอก อนุสรณ์ดอนเจดีย์ยังไม่ได้อัพเลยจ้า
Create Date : 06 มิถุนายน 2564 |
Last Update : 6 มิถุนายน 2564 22:16:14 น. |
|
27 comments
|
Counter : 2747 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณhaiku, คุณกะว่าก๋า, คุณThe Kop Civil, คุณSweet_pills, คุณnewyorknurse, คุณKavanich96, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณทนายอ้วน, คุณkae+aoe, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณTui Laksi, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณหอมกร, คุณ**mp5**, คุณเริงฤดีนะ |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 6 มิถุนายน 2564 เวลา:21:27:10 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 6 มิถุนายน 2564 เวลา:21:56:43 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 6 มิถุนายน 2564 เวลา:22:30:58 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มิถุนายน 2564 เวลา:23:20:47 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 7 มิถุนายน 2564 เวลา:4:39:51 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 มิถุนายน 2564 เวลา:5:38:27 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 7 มิถุนายน 2564 เวลา:8:01:45 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 7 มิถุนายน 2564 เวลา:13:08:11 น. |
|
|
|
โดย: Tui Laksi วันที่: 7 มิถุนายน 2564 เวลา:22:33:10 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 8 มิถุนายน 2564 เวลา:8:27:13 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มิถุนายน 2564 เวลา:22:54:04 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 9 มิถุนายน 2564 เวลา:6:33:43 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 9 มิถุนายน 2564 เวลา:8:18:41 น. |
|
|
|
โดย: kae+aoe วันที่: 9 มิถุนายน 2564 เวลา:9:13:40 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 11 มิถุนายน 2564 เวลา:8:43:59 น. |
|
|
|
โดย: Tui Laksi วันที่: 11 มิถุนายน 2564 เวลา:18:01:19 น. |
|
|
|
โดย: Mangasuphan IP: 171.98.242.191 วันที่: 11 มกราคม 2567 เวลา:14:18:43 น. |
|
|
|
|
|