บล็อก "บ้านหมอ" ขอนำเสนอเรื่องสุขภาพ + ภาษาอังกฤษ + ข่าวต่างประเทศสบายๆ สไตล์เราครับ...

<<
สิงหาคม 2553
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
30 สิงหาคม 2553
 

เมดิคัลทัวร์สบายๆสไตล์อินเดีย



สำนักข่าวนิวยอร์คไทมส์ ('nytimes') ตีพิมพ์เรื่อง 'Persueing An Asean Health Network' = "ไล่ตาม (ตามไปดู) เครือข่ายสุขภาพเอเชีย" [ nytimes ]




----//----



----//----



วิดีโอตัวอย่าง
เมดิคัลทัวร์ของอินเดีย ซึ่งนอกจากจะเชี่ยวชาญด้านการรักษาพยาบาลแล้ว
ยังทำการโปรโมตตัวเองด้วยการนำข่าวของบริษัทขึ้น 'YouTube' เต็มไปหมด
(ถ้าต้องการชมภาพใหญ่ ให้คลิกที่ภาพ จะชมภาพใหญ่ได้ที่ยูทูบ)



...


ข้อมูลจากศูนย์บริการสุขภาพฟอร์ติส รายงานว่า ในช่วงปี 2009-2014 หรือ พ.ศ. 2552-2557, ค่าใช้จ่ายสุขภาพในเอเชียจะเพิ่มขึ้นดังต่อไปนี้



(ตัวเลขแถวแรกเป็นร้อยละ, แถวหลังในวงเล็บเป็นจำนวนเงิน
หน่วยพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ / $billion -
สาเหตุที่ญี่ปุ่นใช้เงินเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากเป็นประเทศที่ค่อนข้างรวย
และมีคนสูงอายุในสัดส่วนสุงมาก)



...



(1). จีน 16.7% > 268.8 (หน่วยพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)



(2). อินเดีย 16.3% > 72.6



(3). อินโดนีเซีย 15.5% > 16



(4). ฟิลิปปินส์ 14.7% > 6.2



(5). เกาหลีใต้ 12% > 37.3



(6). มาเลเซีย 10.3% > 5.2



(7). สิงคโปร์ 10.3% > 4.6



(8). เวียดนาม 9.6% > 1.9



(9). ไต้หวัน 9.3% > 14



(10). ไทย 8.4% > 4.3



(11). ญี่ปุ่น 5.1% > 100



...


อาจารย์มาลวิ
นเดอร์ ซิงห์ (Malvinde Singh) อดีตเจ้าของบริษัทยายักษ์ใหญ่ 'Ranbaxy
Laboratories' ในอินเดีย เพิ่งย้ายบ้านจากนิวเดลีไปสิงคโปร์ 



ท่านเพิ่งขายบริษัทยาฯ ของครอบครัวให้บริษัทยาจากญี่ปุ่นในปี 2552, ตอนนี้กำลังจะขยายธุรกิจบริการสุขภาพไปทั่วเอเชีย



...


เร็วๆ นี้ท่าน
เพิ่งพลาดการต่อรองเพื่อซื้อกลุ่ม 'Parkway Holdings'
ซึ่งบริหารกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนในภูมิภาคซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ในสิงคโปร์ไป
โดยกลุ่ม 'Sovereign Wealth Fund' ของมาเลเซียซื้อไป



อ.ซิงห์ซึ่งจบ MBA จากมหาวิทยาลัยดุค, นอร์ต ดาโกตา, สหรัฐฯ
ลงทุนซื้อธุรกิจด้านการรักษาพยาบาลเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์ฯ ใน 2
ปีที่ผ่านมา



...


แนวคิดของท่าน
คือ อินเดียซึ่งมีประชากรกว่า 1,100 ล้านคน
เกือบทั้งหมดไม่มีหลักประกันสุขภาพ ทำให้อินเดียมีขนาดของตลาดที่ใหญ่มาก
แถมยังมีค่าแรงถูก เหมาะกับการทำเมดิคัลทัวร์
รับคนไข้ต่างชาติเข้าไปรักษาพยาบาล



ถ้ารวมคนจีน 1,300 ล้านคน, อินโดนีเซีย 227 ล้านคนแล้ว... ยิ่งมีขนาดของลูกค้าใหญ่ขึ้นไปอีก



...


อ.ซิงห์และน้องชาย (ศรีวินเดอร์ - Shivinder) ขายกิจการบริษัทแรนแบกซี (Ranbaxy - น่าจะมีชื่อมาจากผู้ก่อตั้ง คือ Ranbir & Gurbax Singh), บริษัทนี้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2480 โดยเริ่มเป็นตัวแทนจำหน่ายของบริษัทยายาในญี่ปุ่น (Shionogi)



ต่อมา ดร.พาร์วินเดอร์ ซึ่งจบการศึกษาจากสหรัฐฯ เข้าไปทำงาน และเปลี่ยนแนวของบริษัทไปสู่การผลิตยา



...


การแข่งขันกันขายยาราคาถูกรุนแรงขึ้นเรื่้อยๆ ทำให้กำไรของแรนแบกซีลดลงไป 2/3 ในปี 2548, แถมยังทำให้ราคาหุ้นตกไปเกือบครึ่ง



ตระกูลซิงห์จึงตัดสินใจขายกิจการให้บริษัทยายักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นคือ ไดอิชิ
ซังเกียว เป็นเงิน $2.3billion = 73,600 ล้านบาท โดย อ.ซิงห์ยังคงได้บริหาร



...


อ.ซิงห์เลิก
บริหารบริษัทยาหลังจากที่ FDA (อย.สหรัฐฯ) แบนยาไปหลายสิบรายการ
และหันไปทำกิจการกลุ่มสุขภาพ 'Fortis Healthcare' ซึ่งตั้งชื่อตามภาษากรีก
(Fortis = force = ความแข็งแรง)



บริษัทฟอร์ติสเริ่มจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งเดียว และขยายกิจการไปเป็นเครือข่ายโรงพยาบาล-คลินิกรวม 48 แห่ง



...


ปี 2552
ตลาดสุขภาพของอินเดียมีขนาดประมาณ $38billion = 121,600 ล้านบาท
ซึ่งดูได้จากยอดคนไข้เบาหวานที่มีมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจีน



คนอินเดียใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลเฉลี่ย $55/คน/ปี = 1,760 บาท/คน/ปี



...


อ.ซิงห์กล่าว
ว่า โรงพยาบาลในอินเดีย 70% เป็นของรัฐ, 30% เป็นของเอกชน แถม
รพ.เอกชนเกือบทั้งหมดมีขนาดเล็กกว่า 30 เตียง (รพ.อำเภอในไทยขนาดเล็ก คือ
30 เตียง)



รพ.ในเครือของ Fortis จะเน้นการใช้เทคโนโลยีเพื่อลดจำนวนวันนอนให้น้อยลง เพื่อให้รักษาคนไข้ใหม่ได้มากที่สุดเสมอ



...


นอกจากนั้นยัง
ลงทุนสร้าง รพ.ใหม่อีก 10 แห่งในช่วงปี 2548-2552 และในเดือนมีนาคม 2553
ก็ขยายปีกออกนอกประเทศ โดยเข้าไปซื้อหุ้นกลุ่มกิจการ 'Parkway' ซึ่งมี
รพ.ในมาเลเซีย จีน และอินเดีย 24%



ลูกค้าของกลุ่ม 'Parkway' (มีศูนย์กลางอยู่ที่สิงคโปร์) มีคนไข้เมดิคัลทัวร์จากต่างชาติมาถึง 1/3, ส่วนใหญ่มาจากอินโดนีเซีย



...


และเมื่อมีโอกาสทำกำไร... อ.ซิงห์ก็ขายหุ้นพาร์คเวย์ทิ้งไป ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า อ.ซิงห์น่าจะกลับไปลงทุนใหม่ในฐานที่ตั้งเดิม คือ อินเดีย



เมืองไทยคงจะต้องผลิตบุคลาการหลายๆ ด้านให้มากขึ้น
เพื่อรองรับการแข่งขันนี้ให้ได้ โดยเฉพาะหมอฟัน พยาบาล หมอฝังเข็ม
เนื่องจากต่อไปคนสูงอายุจะมากขึ้น และโรคเรื้อรัง เช่น ความดันเลือดสูง
เบาหวาน ฯลฯ เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องใช้การดูแลรักษาเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย 



...


ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ



...


 > [ Twitter ]


ที่ มา                                                         




  • Thank [ nytimes ]



  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง. 29 สิงหาคม 2553.




  • ข้อมูล
    ทั้งหมดเป็นไปเพื่อ การส่งเสริมสุขภาพ ไม่ใช่วินิจฉัยหรือรักษาโรค
    ท่านที่มีโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคสูงจำเป็นต้องปรึกษาหมอที่ดูแล
    ท่านก่อนนำข้อมูลไปใช้.










Free TextEditor




 

Create Date : 30 สิงหาคม 2553
0 comments
Last Update : 30 สิงหาคม 2553 0:05:22 น.
Counter : 1228 Pageviews.

 
Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

wullop
 
Location :
ลำปาง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]




บล็อกสุขภาพ + เรื่องทั่วไป... ท่านนำบทความไปใช้ โดยไม่ต้องขออนุญาตครับ... นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์...
New Comments
[Add wullop's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com