Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
19 ธันวาคม 2550
 
All Blogs
 
ขนมอาลัว



ขนมไทย ปรกติแล้วแอนน์ไม่ค่อยทำเท่าไร เพราะของก็หายาก และก็ทำค่อนข้างยาก แถมทำแล้วก็กินเองก็กลัวจะเลยเถิด แต่ถ้าทำขนมฝรั่ง ฝรั่งแถวนี้ก็กินกันได้ แต่ถ้าทำขนมไทย ฝรั่งแถวนี้เค้าไม่ค่อยลองขนมไทยอ่ะ เค้ามีลิมิตความชอบแค่บางอย่างอ่ะนะ เลยอดทำแนวแฟนซีๆๆ อิๆ แต่มาวันนี้ แอนน์ตั้งใจลอง เพราะว่าแอนน์อยากส่งให้แนน คนอื่นเค้าก็ไม่ค่อยกินกันเท่าไร แต่ถ้าทำแล้วอันนี้แนนไม่ชอบแอนน์ก็ต้องเลิกทำ หรือทำแค่ครึ่งสูตร อะไรแบบนี้ ในที่สุดก็ได้ออกมาเป็น"อาลัว"ในวันนี้

สูตรนี้มาจาก"ครัวไกลบ้าน"อย่างเคย โดย.. คุณนัท smallville ตามลิงค์นี้เลยค่ะ //www.kruaklaibaan.com/forum/index.php?showtopic=19946

ส่วนผสม

แป้งสาลี 3/4 ถ้วย
กะทิ 3 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2ถ้วย
สีเขียว แอนน์ใส่ไป 5 หยดแน่ะ ใส่ทีละหยด กลัวแรงไป
วนิลานิดหน่อย ทำเสร็จแล้วลองกิน มันคล้ายๆใบเตยนะ หอมดี สีก็ใช่

แอนน์ทำครึ่งสูตรคับ ลองดูก่อน มันจะออกมาเป็นหมู่หรือเป็นจ่า

วิธีทำ

1.ตวงแป้งกับน้ำตาลทราย ร่อนรวมกันในอ่างผสม แอนน์ก็มักง่ายก็ใส่กระทะเทฟล่อนเลยแหละ
2.เอากะทิที่เตรียมไว้ มาค่อยๆเทใส่ทีละนิด คนเรื่อยให้มันเข้ากันดี แป้งไม่เป็นเม็ด
3.เอาไปตั้งไฟปานกลาง กวนเร็วๆและแรงๆ(นานมากกว่า 30 นาทีเลยค่ะ แอนน์ลองดูแล้ว ที่บึกบึนอยู่แล้ว ก็ยิ่งบึกบึนเข้าไปใหญ่) กวนจนข้นและใสก็ยกลง พักไว้ให้เย็น
4.พอเย็นแล้ว หรือพออุ่นก็ตักใส่ถุงหรือที่บีบ หรือไม่มีอะไรก็เอาแค่ถุงซิปล๊อคมาใส่ ตัดปลายที่แหลมๆข้างนึง แล้วก็บีบออกมาเป็นก้อนๆเท่าๆกัน หรือไม่เท่ากันก็แล้วแต่ อิๆๆ แล้วก็เอาไปตากแดดแรงๆ ตามสูตร เค้าบอก 2-3 แดดก็คงแห้ง หรือ จะเอายัดใส่เตาอบไฟอ่อนๆราวๆ 100 องศาฟาเรนไฮต์ขึ้นไปจนกว่าจะแห้งแล้วลองกินดู ตามชอบ ได้แล้วก็เอาใส่โหลไว้กินได้เลย ถ้าต้องการอบเทียน ก็อบเมื่อทำเสร็จแล้ว อืม..แอนน์เห็นขายเทียนอบทางเนทด้วย เอ..จะลงทุนดีมั๊ยเนี่ย อ้อ..หลังจากอบเสร็จ มันยังอุ่นก็เอาไว้ให้มันเย็นสนิทก่อนแล้วค่อยแซะเก็บใส่โหลนะคะ

แต่...

แอนน์มีปัญหากับมันค่ะ ฮ่าๆๆ ก็อบยังงัยมันก็ไม่แห้งแบบเมืองไทยซักกะที พี่เคลย์ก็บ่นว่าค่าไฟคงบาน หุๆๆ แอนน์เลยเร่งไฟเป็น 200 ให้มันเสร็จเร็วๆ หน้าแห้งดี เอาออกมาพักไว้มันก็ยังคงไม่แห้งตรงก้นมันอยู่ดีอ่ะ เลยแซะหงายออกทุกตัว แล้วก็อบด้านก้นอีกพักนึง ได้ผลคับ แห้งดีหมดแล้ว ทิ้งไว้ให้เย็น อืม...ได้ซะที ลงตัว เฮ้อ.. แต่คราวหน้าแอนน์มีอีกสูตรหนึ่งอ่ะ ต้องลองก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยมาบอก เออ..ขนมสงสัยจะแอบยุบตัวนิดนึง เพราะมันไม่ตั้งสวยเลยอ่ะ สงสัยส่วนของของเหลวคงมากไปแน่ๆเลย สนุกจัง



ตอนนี้กวนแป้งได้ที่แล้วล่ะหนืดตึ๋งเลยอ่ะ



แล้วก็บีบ ซื้อหัวมันมาใส่กับถุงพลาสติคเอาน่ะ ถุงแตกเป๊ดดดดไป 2 ถุง

ทีนี้ไปตลาดเลยซื้อที่บีบมาเลย ไม่แพง แต่ไม่ต้องคอยทิ้งถุงตลอดงัย



แล้วอบออกมาเป็นเช่นนี้ แต่..ก้นมันไม่แห้งอ่ะเลยแซะออกหงายขึ้นแล้วอบใหม่



ผลของการอบไฟแรงขึ้น ทำให้บางส่วนเหลืองเข้มๆ



ใส่ขวดโหลเก็บไว้ทานได้นานเลย

แล้วทีนี้ก็มาต่อกันที่สูตร 2 ซึ่งเป็นสูตรที่แอนน์ทำอะไรผิดไปก็ไม่รู้

มันเลวร้ายมากกกก

สูตร 2

แป้งสาลี 2 ถต.
น้ำตาล 2 ถต.
กะทิ 2 ถต.
สีผสมอาหารตามชอบ

วิธีทำ

เหมือนกันแหละ

**แต่คาดว่าแอนน์คงทำแป้งไม่สุก หรือว่าเกิดผิดพลาดอันใด ทำไมออกมาไม่เหมือนเพื่อนเขา แอนน์ต้องไปถามผู้รู้ที่เดิมแล้วแหละ ข้างในมันไม่นุ่มเหมือนสูตรแรก เซ็งอุรามากๆเลย เอาความล้มเหลวมาให้ดูกันว่า ขนมไทยน่ะมันไม่ได้ง่ายๆนะ ท่านอาจเจอแบบนี้ได้ อิๆๆ แต่..ยังไม่ยอมแพ้ค่ะ ยังสู้ต่อ ยังจะทำต่อไปอีกค่ะ ไอ้ที่แข็งๆคงเก็บไว้กินเองวันละคำ อิๆๆ อยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่อง...**

**อีกประการหนึ่ง แอนน์เก่งเกินครูค่ะ แอนน์ไปหาอ่านในเนทมา ว่าบางสูตรเค้าเอาแป้งเค้กทำ แต่แอนน์ไม่มี แอนน์เลยไปอ่านว่า ปรกติแล้วแป้งเค้กทำเองทำยังงัย เค้าก็บอกให้ใส่แป้งข้าวโพดลงไป 2 ชต. โดยเอาแป้งสาลีออก 2 ชต.จากปริมาณการวัด 1 ถต. แอนน์เลยลองค่ะ แล้วก็ร่อนแป้ง 2 ครั้งให้มันเบาขึ้นเหมือนแป้งเค้ก เก่งเกินค่ะ ไม่รู้ว่าเหตุนี้ด้วยหรือปล่าว ตลกตัวเองจริงๆเลย**



สามสี แบบนี้ ดูสิ เพิ่งดูออกว่าแป้งมันยังไม่ใสดีเลยนะ แต่มันเหนียวมากงัย ชอบสูตรแรกมากกว่า เดี๋ยววันหลังทำสูตรแรกอีก สีก็สวยดีเนอะ แต่ออกมา คนละเรื่องเลยอ่ะ



หัวบีบแบบไม่ต้องเปลี่ยนถุงให้เสียตังค์บ่อยๆ ออกมาก็สวยดีนะ ตอนบีบตื่นเต้นมาก มันสวย

แต่...

มาดูผลของการกวนแป้งไม่สุกพอ หรือเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ที่แอนน์ยังไม่รู้ทำให้เป็นอย่างนี้

"
"
"
"
"
V


สีฟ้าเป็นสีที่ทำสุดท้าย สีเขียวเป็นสีทำที่สอง และสีส้ม(ไม่ใช่แดงนะ พยายามจะทำสีส้ม แต่มันออกมางี้อ่ะ) ซึ่งไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกันป่าว ที่แบ่งแป้งแล้วแยกที่แป้งผสมไว้ในตู้เย็นก่อน กวนสีส้มก่อน แล้วค่อยแบ่งแป้งจากตุ้เย็นมาทำสีต่อๆไปอ่ะ หรือว่า..เคี่ยวแป้งรีบไปป่าว คิดว่ามันสุกแล้ว เฮ้อ..ออกมาสีแดงก็สวยดี แต่สีต่อไปเริ่มแบนลงๆ จนเหลือเท่าที่เห็น ฮ่าๆๆ ลองชิมดู อ่ะ..ไม่เหมือนกับชุดแรกเลยอ่ะ ชุดแรกมันใช่กว่า อันนี้มันแข็งโป๊กกกกกกกก





Create Date : 19 ธันวาคม 2550
Last Update : 10 มกราคม 2551 4:40:50 น. 16 comments
Counter : 3414 Pageviews.

 
จำได้ว่าสมัยเป็นเด็กๆ ชอบทานอัลลัวมากๆครับ เห็นสีสันสดใส ทั้งสีขาว สีดำ สีเหลือง สีชมพู เด็กๆก็ชอบครับ วันนี้ขอมาชิมด้วยคนนะครับ น่าทานมากๆเลย


โดย: ซอร์บอนน์ (ซอร์บอนน์ ) วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:15:28:00 น.  

 
โอ้โห..คุณแอนน์ขา..สีสันสดใสเข้ากับเทศกาลเลยนะคะ..
เห็นด้วยว่า..ชุดแรกทำแล้วเหมือนที่เค้าขายเลยค่ะ..เก่งจริงเลย


โดย: กะตุ้งนิ้ง วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:15:32:08 น.  

 
แวะมาบอกคุณแอนน์ว่า.....

ผมโหวตให้คุณแอนน์ในสาขา Best Food Blog ด้วยความเต็มใจเป็นอย่างยิ่งแล้วนะครับผม.....


โดย: doctorbird วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:18:24:29 น.  

 
สีสดใสมั่กๆ ผมยังไม่เคยลองทำขนมไทยเลยครับ น่าลองๆ


โดย: หลั่มหมั่นเหม่ง วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:18:41:06 น.  

 
สุดยอดเลยค่ะคุณแอนน์ทำอาลัวเป็นด้วย
ชุดแรกสีไม่ค่อยสวย แต่น่ากินสุดๆ
ชุดหลังสีดึงดูดใจดีค่ะ


โดย: Complicatedgirl วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:19:20:05 น.  

 
คุณแอนบอกชุดแรกดีกว่า เจ๊หลียอมเสียเปรียบ ขอ จองค่ะ ชุดหลังเก็บไว้ให้คุณแอน อิ อ


โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:19:48:03 น.  

 
เอ่อ มัวแต่กินอย่างเดียว
เพิ่งรู้ว่าขนมนี้ชื่อว่า อาลัว
5555


โดย: หัวใจสีชมพู วันที่: 19 ธันวาคม 2550 เวลา:20:34:00 น.  

 
เค้าเรียกอาลัวเหรอคะ ตอนเด็กชอบทานมากค่ะ แต่ไม่รู้จักชื่อ เรียกว่าวงหอยหลายสี อิอิ


โดย: thaispicy วันที่: 20 ธันวาคม 2550 เวลา:2:09:03 น.  

 
ขนมอาลัว พี่ก็ชอบค่ะ น้องแอนน์

เคยทำต้องกินคนเดียว ชาลีไม่ชอบน่ะค่ะ

ขอกินบ้านน้องแอนน์ละกันนะคะ...


โดย: นางฟ้าของชาลี วันที่: 20 ธันวาคม 2550 เวลา:4:21:29 น.  

 
ขนมอาลัวนี่ของโปรดเลยค่ะ และแพทก็เคยทำเหมือนกัน เคยเอาสูตรลงที่ครัวชมพู่ด้วยค่ะ ตอนนั้นทำกันใหญ่เลย และเป็นจุดทดสอบความอดทนของแต่ละคนด้วยค่ะ เพราะตอนนั้นใช้วิธีตากแดด แต่กว่าจะแห้งหมดทุกอัน ปรากฏว่าเก็บกินไปเรื่อยจนไม่เหลือให้ตากอีกเลย...55



โดย: งาขาว วันที่: 20 ธันวาคม 2550 เวลา:5:47:16 น.  

 
ชอบมากกกกกกเลยค่ะ ไม่ได้กินนานแล้วด้วยยยย


โดย: Picike วันที่: 20 ธันวาคม 2550 เวลา:5:59:58 น.  

 


โดย: jjbd วันที่: 20 ธันวาคม 2550 เวลา:13:06:28 น.  

 
ห้องนี้มีของน่ากินเพี๊ยบเลย
มาเมื่อไหร่หิวทุกที

ปล คุณแอนน์มีสูตรทำปาท่องโก๋ไหมคะ (สูตรโรตียังไม่ได้ทำ แฮ่ะๆๆ มาขอสูตรใหม่อีกละ )

ปล อีกที หาโอกาสมาเที่ยวญปได้แล้ว แวะมาทักทายกันได้เลยจ๊ะ


โดย: keichan วันที่: 20 ธันวาคม 2550 เวลา:16:20:04 น.  

 
เง้อ...อออ เห็นแล้วอยากกิน นันท์ชอบหม่ำมากๆเลยอะ ชอบตั้งแต่เด็กมาจนถึงทุกวันนี้ เจอทีไรต้องซื้อ แต่ทำเองคงมะไหว เคยทำมะพร้าวแก้ว พยายามกินอยู่คนเดียว เข็ดค่ะ


โดย: หนูใบข้าว วันที่: 24 ธันวาคม 2550 เวลา:1:57:37 น.  

 
จะหาซื้อหัวบีบได้ที่ไหนช่วยบอกทีครับnang.5555@hotmail.comขอบคุณครับ


โดย: เหน่ง IP: 118.172.198.126 วันที่: 23 มีนาคม 2552 เวลา:12:09:36 น.  

 
ขนมแสนอาหย่อย


โดย: กิ่งหลิว IP: 118.172.136.59 วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:14:01:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ClayAnn
Location :
Texas United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




เป็นคนไทย อยากกินอาหารไทย แต่อยู่ไกลบ้าน เลยต้องหาทำกินบนเวบ ในขณะเดียวกัน ได้ความรู้ได้สูตรมาจากคนอื่นก็อยากบอกต่อ และแบ่งให้คนอื่นเหมือนที่ได้จากคนอื่นๆมาเช่นกัน

ครัวบ้านนี้ไม่มีมาตรฐาน อยากกินยังงัย อยากทำอะไรก็ทำ ตามมีตามเกิด ตามอยาก เสียมากกว่า ไม่คิดมาก เป็นไปตามอารมณ์คนธรรมดาๆคนนึง ตามอารมณ์"แม่ครัวจอมมั่ว"คนนึง

แม่ครัวจอมมั่วก็ไม่ได้หัดทำแต่อาหาร แต่ว่ายังหัดทำงานฝีมือด้วยนะคะ อิๆ แต่ทำอันไหนก็ไม่เป็นชิ้นเป็นอันหรอกค่ะ ถ้าเปิดร้านก็คงต้องชื่อ"ร้านพอใจ"

***ถ้าหากมีคำถามที่ต้องการคำตอบ***
ตามจี้ได้ที่เฟซบุ๊คเพจข้างล่างนี้นะคะ เพราะมันจะได้ไปเตือนให้มาตอบ ฮ่าๆ เพราะปรกติอัพแล้วหายตัวบ่อยอ่ะค่า ^^" ฝากข้อความหลังไมค์ก็ไม่ค่อยได้เช็คเพราะปรกติไม่ค่อยมีใครมาด้วยอ่ะค่ะ ที่เฟซบุ๊คก็มีหลังไมค์ด้วยนะคะ

ขอบคุณเพื่อนๆที่น่ารักทุกคนค่ะ
(^^)
:
:
:
v
Friends' blogs
[Add ClayAnn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.