ย่างเข้าสู่เดือนแห่งความรัก ที่ในปีนี้มีความพิเศษมากขึ้นอีกเนื่องจากวันที่ 14 กุมภาพันธ์ อันเป็นวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรักตามธรรมเนียมตะวันตก ก็ยังมาตรงกับวันมาฆบูชา ในพระพุทธศาสนาอีกด้วย ใครที่อยู่บ้านกับครอบครัว หรืออยากจะหาของกินอร่อยๆ ไปฝากคนรักแล้วละก็ ครัววันหยุด ก็ยังมีมาเสนอเช่นเคย ซึ่งเมนูนี้เป็นเบเกอรี่ที่ได้รับความนิยมจากหลายๆ คน จากรสชาติเข้มข้นหอมมันของช็อกโกแลต เนื้อสัมผัสเนียนละเอียด ละลายในปาก แถมช็อกโกแลตก็ยังถือว่าเป็นสื่อรักแทนใจอีกด้วย เมนูนี้มีชื่อว่า บราวนี่ แม้ว่าจะมีส่วนผสมหลายอย่าง มีวิธีทำหลายขั้นตอน แต่หากว่าได้ลองทำไปให้คนที่รักได้ชิม ก็ถือว่าเป็นของฝากที่มีคุณค่ามากเลยทีเดียว
|
ส่วนผสม แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วย ผงโกโก้ 1/4 ถ้วย ผงฟู 2 ช้อนชา เกลือ 1/4 ช้อนชา ดาร์กช็อกโกแลต 340 กรัม น้ำตาลทราย 300 กรัม เนยจืด 170 กรัม ไข่ไก่ 4 ฟอง วนิลา 1 ช้อนโต๊ะ เมล็ดอัลมอนด์ (ตามชอบ) |
วิธีการทำนั้นเริ่มจากการตวงส่วนผสมเตรียมไว้ให้ครบถ้วน จากนั้นร่อนแป้งอเนกประสงค์ ผงโกโก้ ผงฟู และเกลือ ผสมกัน คนให้เข้ากันดีแล้วพักไว้ก่อน จากนั้นเตรียมละลายดาร์กช็อกโกแลต โดยการนำหม้อใส่น้ำ ตั้งไฟจนเดือด (เดือดเบาๆ) นำหม้ออีกใบ (หรือชามผสมที่เป็นสแตนเลส) วางไว้บนปากหม้อ ใส่เนยจืดลงไป (สามารถเปลี่ยนจากเนยจืดเป็นเนยเค็มได้ แต่ถ้าเลือกใช้เนยเค็มก็ไม่ต้องใส่เกลือเพิ่มแล้ว) รอจนเนยละลาย แล้วใส่ดาร์กช็อกโกแลตที่หั่นเป็นท่อนๆ ลงไป ตุ๋นจนเนยกับช็อกโกแลตเข้ากันดี จากนั้นใส่น้ำตาลทรายลงไปตุ๋นรวมกัน พอน้ำตาลทรายเริ่มละลายแล้วก็ยกลงจากเตา คนให้เข้ากันอีกรอบ แล้วพักทิ้งไว้ให้คลายความร้อน เมื่อช็อกโกแลตเย็นตัวลงบ้างแล้ว ตีไข่ไก่ในชามอีกใบ ผสมกับวนิลาจนเข้ากันดี แล้วค่อยๆ เทลงไปในช็อกโกแลต ระหว่างนั้นก็คอยคนช็อกโกแลตกับไข่ให้เข้ากัน เมื่อได้ที่แล้วก็ใส่แป้งที่เตรียมไว้ลงไปคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี สุดท้ายใส่เมล็ดอัลมอนด์ลงไปคนให้ทั่วๆ (หากไม่ชอบ จะไม่ใส่อัลมอนด์ก็ได้) ตั้งเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศา วอร์มเตาไว้สักครู่ ส่วนผสมของบราวนี่ที่ผสมกันหมดแล้วให้เทใส่พิมพ์ขนม โดยตัวพิมพ์ต้องปูรองด้วยกระดาษไข หรือจะทาเนยจืดไว้บนตัวพิมพ์ก่อน เมื่ออบแล้วขนมจะได้ไม่ติดพิมพ์ เทส่วนผสมบราวนี่ลงไปประมาณ 3/4 ของพิมพ์ (เหลือพื้นที่เผื่อเวลาอบแล้วขนมจะฟูขึ้นมา) นำขนมเข้าอบในเตา ไฟบนล่าง ใช้เวลา 20-30 นาที ตามขนาดและความหนาของขนม วิธ๊การเทสว่าขนมสุกดีหรือยัง ให้ใช้ส้อม/ไม้จิ้มฟัน/ไม้เสียงลูกชิ้น จิ้มลงไปตรงกลางของตัวขนม เมื่อดึงขึ้นมาแล้วไม่มีเศษขนมติดขึ้นมา แสดงว่าสุกดีแล้ว แต่ถ้าดึงขึ้นมาแล้วยังมีส่วนผสมติดขึ้นมาอยู่ ก็ต้องอบต่อไป และลองเทสดูเรื่อยๆ เมื่อขนมสุกได้ที่แล้ว นำออกจากเตา และนำออกจากพิมพ์ ก็จะได้บราวนี่หอมๆ เอาไว้ชิม และมอบให้เพื่อนฝูงคนรัก เป็นของฝากแทนใจได้เลย * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * |