 | | บรรยากาศโต๊ะนั่งสบายๆ ภายในร้าน Steve รับลมเย็นๆ | |  | ชิลล์จริง..... สบายจริง.... ชอบจริง..... อิ่มจริง.... อร่อยจัง......
ความรู้สึกทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ตระเวนกิน ได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง และอยากจะนำมาบอกต่อกับมิตรรักนักกินทุกคนให้ได้รับรู้ ว่าในมื้อนี้เราได้พาตัวและกระเพาะน้อยๆ ที่หิวโหยหาอาหารมานั่งกินข้าวอยู่ที่ร้านอาหารชื่อว่า Steve Café & Cuisine Riverside (สตีฟ คาเฟ่ แอนด์ ครุยซีน ริเวอร์ไซด์) ซึ่งตั้งอยู่ตรงริมแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับท่าน้ำวัดเทวราชกุญชร
แม้ว่าชื่อร้านจะดูเป็นฝรั่งสักหน่อย แต่ถ้ามาถึงร้านแล้วจะรู้ว่ามีความเป็นไทยสูง เพราะทันทีที่เมื่อเราได้ย่างก้าวเข้ามายังร้าน Steve แห่งนี้ เราต้องถอดรองเท้าเดินเข้ามายังบ้านหลังเล็กที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งถูกตกแต่งให้เป็นร้านอาหารที่มีบรรยากาศชวนนั่ง แบบชิลล์ๆ ได้อารมณ์เหมือนเราได้มานั่งกินข้าวบ้านญาติหรือบ้านเพื่อน
|
 | | นั่งกินข้าวชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา | | | มีส่วนของระเบียงบ้านที่จัดโต๊ะนั่งให้ได้ชื่นชมวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด ได้นั่งมองพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น มองเห็นวิวสะพานพระราม8 อันสวยงาม ท่ามกลางสายลมธรรมชาติพัดเย็น และในส่วนของตัวบ้านด้านใน ก็จัดเป็นมุมโต๊ะนั่งสบายๆ และยังมีส่วนของโต๊ะนั่งด้านในบ้านที่มีห้องแอร์บริการด้วยอยู่ 2 ห้อง ตกแต่งทาสีห้องมีสีสันสดใส ชวนนั่งแบบผ่อนคลาย
นี่แค่บรรยากาศก็กินขาดแล้ว ส่วนเรื่องอาหารการกินต้องบอกว่า ที่ร้านสตีฟนี้นำเสนออาหารไทยแท้แบบโบราณให้ได้ลิ้มลองกัน แถมยังเป็นอาหารไทยที่เน้นความเป็นอาหารโฮมเมด คือ ทางร้านมีแม่ครัวฝีมือเอกที่ทั้งคิดค้นสูตรอาหารและปรุงอาหารด้วยตัวเองแบบจานต่อจาน และใส่ใจในเรื่องของการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพเท่านั้น บวกกับความพิถีพิถันในการปรุงอาหารแบบใส่ใจ คำนึงถึงเรื่องสุขภาพของคนกิน โดยการไม่ใส่ผงชูรสในอาหารทุกจาน ทำให้กินได้อย่างสบายใจปาก
เมนูอาหารไทยของที่ร้านนี้มีให้เลือกสั่งมากินหลายหลากทั้งต้ม ยำ แกง ผัด เรียกว่ามีกว่า 100 เมนู แถมยังมีเมนูอาหารหมุนเวียนเปลี่ยนใหม่ทุก 3 เดือน เพื่อไม่ให้ลูกค้าจำเจกับอาหาร จะได้ลิ้มลองอาหารใหม่ๆ อยู่เสมอ
|
 | | เมี่ยงคะน้า | | | ในมื้อนี้เราก็ได้เลือกสั่งเมนูจานเด่นที่ทางร้านแนะนำว่า ถ้ามาที่ร้านแล้วไม่ควรพลาดต้องสั่งเมนูเหล่านี้มาชิมกันให้ได้ ว่าแล้วก็ตามาลิ้มรสเมนูแรกกันเลย มีชื่อว่า เมี่ยงคะน้า (160 บาท+) เป็นอาหารออเดิร์ฟสูตรไทยโบราณ มาแบบครบเครื่องคือผักคะน้าที่เลือกมาแต่ใบอ่อนๆ และเน้นใบใหญ่ๆ มีกุ้งแห้ง มะพร้าวคั่ว ถั่วลิสงคั่ว หอมแดง มะนาว ขิง กากหมูทอด พริกขี้หนู และน้ำเมี่ยงสูตรพิเศษที่เคี่ยวด้วยน้ำตาลปี๊บและใส่กะปิปรุงรสชาติเคี่ยวนานกว่า 6-7 ชม. ได้น้ำเมี่ยงเข้มข้น ห่อผักคะน้าใส่เครื่องเมี่ยงทุกอย่างตามใจชอบ ราดด้วยน้ำเมี่ยงแล้วห่อเป็นคำส่งเข้าปาก เคี้ยวกร้วมคำโตสัมผัสได้ถึงความกรุบกรอบของใบคะน้าที่ไม่ขมปากและได้รสชาติกลมกล่อมของน้ำเมี่ยงที่หอมหวานกลมกล่อมเข้ากับเครื่องเมี่ยงทุกอย่างเคี้ยวอร่อยลงตัว
|
 | | ยำถั่วพู | | | จานต่อมาที่ถูกเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ คือ ยำถั่วพู (150 บาท+) ทางร้านนำถั่วพูไปลวก แล้วนำมายำกับเครื่องยำสูตรเฉพาะ ปรุงรสตามสูตรเด็ด ใส่หอมเจียว ใส่กุ้งตัวโต เนื้อไก่ฉีก และใส่น้ำพริกเผาที่ไม่เผ็ดมากลงไปคลุกเคล้าด้วย และมีไข่ต้มมาให้กินเคียงอีกด้วย ลิ้มลองยำถัวพูอร่อยถูกปากตรงที่ถั่วพูกรอบเข้ากับน้ำยำรสจัดจ้านออก 3 รส เปรี้ยว หวาน เค็ม เจือรสเผ็ดนิดๆ จากน้ำพริกเผา
|
 | | ปลาสลิดทรงเครื่อง | | | ต่อด้วยมาลิ้มรส ปลาสลิดทรงเครื่อง (180 บาท+) ทางร้านจะเลือกใช้แต่ปลาสลิดที่เนื้อไม่เค็มมากและตัวใหญ่ นำมาแล่เอาแต่เนื้อและสับละเอียด ก่อนจะนำมาคั่วกับเครื่องแกงเผ็ดที่ทางร้านโขลกเอง และปรุงรสชาติเน้นออกหวานหน่อย คั่วมาแบบแห้งๆ โรยหน้าด้วยหอมเจียว เสิร์ฟมาร้อนๆ กินแล้วปลาสลิดเคี้ยวกรอบกรุบออกรสหวานนำ เผ็ดนิดๆ ถูกลิ้นดีแท้
|
 | | หมกปลากรายสมุนไพร | | | แล้วมาลิ้มรส หมกปลากรายสมุนไพร (180 บาท+) เป็นหมกปลาที่ทางร้านคิดสูตรขึ้นมาโดยเฉพาะ เลือกนำปลากรายแท้ๆ มาขูดเอาแต่เนื้อล้วนๆ มาผสมกับสมุนไพรไทยๆ อย่างตะไคร้ ใบมะกรูด ใบโหระพา พริกชี้ฟ้า และปรุงรสใส่ขมิ้นนิดหน่อย แล้วหมักไว้ให้เนื้อปลาจับตัวนาน 4-5 ชม. แล้วจึงนำมานึ่งให้สุก เสิร์ฟมาร้อนๆ กับน้ำจิ้มสูตรเด็ด กินหมกปลากรายเนื้อปลาแน่นหนึบหอมกลิ่นสมุนไพร ได้รสชาติเครื่องสมุนไพรเต็มปากเต็มคำ
|
 | | แกงไหลบัวปลากะพง | | | ส่งท้ายมาซดน้ำร้อนๆ สุดแซบ กับเมนู แกงไหลบัวปลากะพง (180 บาท+) เป็นเมนูเด่นขายดีที่แทบทุกโต๊ะต้องสั่งมากินกัน เพราะทางร้านโขลกเครื่องแกงเอง ซึ่งจะใช้พริกกะเหรี่ยงที่ให้ความเผ็ดร้อนใส่มาในเครื่องแกงด้วย และยังใส่ขมิ้นที่ส่งตรงมาจากชุมพร ทำให้ได้น้ำแกงที่มีสีเหลืองสวยและหอมขมิ้นอ่อนๆ เวลาได้ซดน้ำแกงอันเผ็ดจัดจ้าน และก็มีเนื้อปลากะพงนุ่มหวาน และใส่ผักอย่างไหลบัว (หรือจะเลือกใส่ผักอย่างอื่นก็ได้) ที่เคี้ยวกรอบให้ได้กินกันอร่อยถูกปากโดนใจมากๆ เลย
|
 | | บรรยากาศโต๊ะนั่งด้านใน | | | เรียกว่าเมนูเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเมนูจานเด็ดที่ชวนลองลิ้ม ก็อย่างที่บอกว่าที่นี่มีอาหารไทยมากมายให้ได้เลือกชิม จึงยังมีเมนูอื่นๆ ที่น่ากินอีกเพียบ อาทิ หมูย่างตะไคร้พริกขี้หนูสด (180 บาท+) ปลากะพง 2 น้ำ (390 บาท+) หมูผัดกะปิ (160 บาท+) ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ (200 บาท+) ห่อหมกทะเล (180 บาท+) ฯลฯ
เอาเป็นว่าถ้าหากมิตรรักนักกินคนไทยเป็นแฟนพันธุ์แท้อาหารไทย อยากจะชวนให้มาลิ้มลองอาหารไทยแท้แบบโบราณ ยังร้าน Steve แห่งนี้ เพราะจะได้สัมผัสทั้งความอิ่มเอมกับอาหาร และเอิบอิ่มใจกับบรรยากาศร้านที่ชวนนั่งริมน้ำเจ้าพระยา
|
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ร้าน Steve Café & Cuisine Riverside (สตีฟ คาเฟ่ แอนด์ ครุยซีน ริเวอร์ไซด์) ตั้งอยู่ที่ 68 ถ.ศรีอยุธยา ซ.ศรีอยุธยา 21 (เทเวศร์) แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต กทม. การเดินทางถ้ามาบางลำพู ให้วิ่งตรงมาตามถ.สามเสน มุ่งหน้ามาแยกสี่เสาเทเวศร์ และให้เลี้ยวเข้าที่วัดเทวราชกุญชร ตรงมาที่ท่าน้ำวัดเทวราชฯ จะมีป้ายบอกทางมาที่ร้านSteve ซึ่งร้านจะเป็นบ้านตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.30-14.30 น. และ 16.30-23.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.30-23.00 น. ถ้ามากินแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 08-4361-4910, 0-2281-0915 และยังมีอีก 1 สาขา ตั้งอยู่ที่ ซ.ราชครู โทร. 0-2619-9822, 08-1868-0744 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.stevecafeandcuisine.com
|
| * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [
