| เมล็ดกาแฟในขี้ชะมด | | | มีใครหลายคนที่หลงใหลในรสชาติและความหอมของกาแฟ และเป็นที่รู้จักกันดีของเหล่าแฟนพันธุ์แท้คอกาแฟว่า กาแฟขี้ชะมด เป็นกาแฟที่มีรสชาติดีและแพงที่สุดในโลก ซึ่งใครหลายคนนั้นคิดว่ากาแฟเลิศรสแบบนี้จะต้องเป็นของเมืองนอกเพียงเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ที่ประเทศไทยของเรานี่เองที่เป็นแหล่งผลิตกาแฟขี้ชะมด และเป็นแหล่งปลูกต้นกาแฟชั้นดีระดับโลก สถานที่ปลูกและเป็นจุดกำเนิดของกาแฟชั้นดีนั้นอยู่ที่ ดอยช้าง ยอดสูงในเทือกเขาดอยวารี ตั้งอยู่ที่ ตำบลวารี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 40 กิโลเมตร โดยชื่อนั้นได้ตั้งขึ้นตามลักษณะของภูเขาที่มีรูปร่างเหมือนช้างแม่ลูกสองเชือก มีระดับสูง 1,800 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ซึ่งที่ภูเขาแห่งนี้ได้กลายมาเป็นชื่อแบรนด์กาแฟดังของประเทศไทยในปัจจุบัน |
| ชะมด (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต) | | | กาแฟขี้ชะมดของดอยช้าง ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในกาแฟที่แพงที่สุดและดีที่สุดในโลก เพราะกาแฟขี้ชะมดที่นี่มีราคาสูงถึง 20,000 บาทต่อกิโลกรัม สนนราคาอยู่ที่เเก้วละ 400 บาทในรูปเเบบของกาเเฟเอสเปรดโซ่ ขณะเดียวกันก็ได้รับการยกย่องจากนักบริโภคให้เป็นกาแฟอันดับหนึ่งของโลก โดยมี รางวัล World Class Speciality Coffee ในปี 2010 การันตีในคุณภาพ ซึ่งผู้ที่ได้ลองลิ้มชิมรสหลายคนได้พูดถึงรสกาแฟขี้ชะมดดอยช้างไว้ว่า กาแฟขี้ชะมดดอยช้าง จะมีกลิ่นหอมดงดอกไม้ รสชาติคล้ายน้ำผึ้งผสมผลไม้ไม่มีรสขม ดื่มแล้วชุ่มคอ กาแฟขี้ชะมดดอยช้างมีความแตกต่างจากกาแฟขี้ชะมดจากที่อื่นๆ เนื่องจากได้ผลิตผลมาจากชะมดป่า ไม่ใช่ชะมดเลี้ยงเหมือนในหลายๆประเทศ ขณะที่บางประเทศเมล็ดกาแฟได้มาจากสัตว์อื่นๆ เช่น ประเทศอินโดนีเซียเป็นกาแฟที่ได้จากอีเห็น ส่วนในฟิลิปปินส์และเวียดนามได้มาจากเพียงพอน |
| ต้นกาแฟออกเมล็ดเต็มต้น | | | สำหรับกระบวนการผลิตกาแฟขี้ชะมดดอยช้างนั้น เริ่มจากตัวชะมดมากินผลกาแฟสุกแล้วถ่ายมูลไว้ จากนั้นชาวไร่ก็จะเก็บมูลชะมดไปตากแดดให้แห้งใช้ระยะเวลา 7-8 วัน ในการตาก เมื่อมูลชะมดแห้งดีแล้วก็เก็บมูลชะมดไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกใช้ระยะเวลา 9 เดือน คล้ายกับการบ่มเมล็ดกาแฟในโกดัง (คลิกติดตามเรื่องที่มาของ กาแฟขี้ชะมด ได้ที่ลิงค์นี้) |
| คุณปณชัย พิสัยเลิศ (อาเดล) และด้านหลังคือ โลโก้ กาแฟดอยช้าง | | | อย่างไรก็ดีสำหรับที่ที่ดอยช้างแล้วไม่ได้มีแต่กาแฟขี้ชะมดที่เป็นกาแฟระดับโลกเพียงอย่างเดียว แต่เมล็ดกาแฟที่ได้จากต้นกาแฟที่ปลูกบนดอยช้างก็ยังเป็นกาแฟมีชื่อระดับโลกด้วยเช่นกัน โดยก่อนการมาเป็นกาแฟระดับโลกได้นั้น "ปณชัย พิสัยเลิศ" (อาเดล) กรรมการผู้จัดการบริษัท ดอยช้าง คอฟฟี่ ออริจินัล จำกัด หรือ ลูกชายของ"พิก่อ แซ่ดู่" เจ้าของอาณาจักรกาแฟดอยช้าง ได้เล่าให้ฟังถึงความเป็นมาว่า |
| ไร่กาแฟและทัศนียภาพบน ดอยช้าง | | | เมื่อครั้งอดีตดอยช้างเป็นแหล่งปลูกฝิ่นชั้นดี เพราะมีสภาพดินที่มีความสมบูรณ์และอากาศเย็นทั้งปี จนกระทั่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแนวคิดให้ปลูกกาแฟทดแทนการปลูกฝิ่น และได้ทรงพระราชทาน กาแฟอาราบิก้า (Arabica) สายพันธุ์คาทูรา (Catura) ,คาติมอร์ (Catimor) ,มอนโด โนโว(Mondo Novo) และคาทุย (Catui) ซึ่งแต่ละสายพันธุ์นั้นถือได้ว่าเป็นตัวท็อประดับโลกให้ทรงปลูก ซึ่งทางคุณพ่อและชาวบ้านนั้นได้ร่วมใจกันเลิกปลูกฝิ่นในปี พ.ศ. 2526 และได้เริ่มหันมาปลูกกาแฟ รวมถึงพืชไม้เมืองหนาวชนิดอื่นๆ ด้วยอาทิ บ๊วย ท้อ สาลี่ แมคคาเดเมีย จากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จึงทำให้กาแฟดอยช้างเริ่มพัฒนาไปสู่ระดับโลก เพราะด้วยความอุดมสมบูรณ์ของดินที่มีความชุ่มชื่น และสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีของดอยช้าง จึงทำให้การเพราะปลูกกาแฟมีผลผลิตที่ดี โดยในเวลาต่อมาก็ได้กลายเป็นสินค้าขึ้นชื่อภายใต้โลโก้ที่ใช้ใบหน้าของคุณพ่อพิก่อผู้ปลูกกาแฟคนแรก |
| เมล็ดกาแฟที่คั่วแล้ว | | | ในขั้นตอนการผลิตกาแฟนั้น ต้นกาแฟจะโตเต็มที่และสามารถเก็บเกี่ยวได้ในช่วงอายุประมาณ 5 ปี โดยจะเริ่มเก็บเกี่ยวเมล็ดเมื่อเมล็ดกาแฟเริ่มเป็นสีแดงก่ำจนมีสีคล้ายผลเชอรี่ ซึ่งจะทำการเก็บด้วยมือทีละเมล็ด หลักจากได้เมล็ดกาแฟแล้วก็จะนำมาแยกเปลือกภายใน 24 ชั่วโมง และนำไปตากแดดด้วยแสงอาทิตย์ 7-8 วัน เพื่อให้เมล็ดแห้ง และจะทำการเก็บและบ่มในโกดังอย่างน้อย 6-8 เดือน หลักจากนั้นก็จะคัดเมล็ดกาแฟที่ได้มาตรฐานนำมาคั่วและออกจำหน่าย |
| จากเมล็ดกาแฟ กลายมาเป็นเครื่องดื่มเลิศรสระดับโลก | | | คุณภาพและเอกลักษณ์รสชาติกาแฟดอยช้าง นั้นไม่ได้มีรสชาติดีเพียงแค่เล่าปากต่อปาก เพราะสิ่งที่การันตีถึงคุณภาพว่ากาแฟดอยช้างนั้นเลิศรสอย่างไร คือรางวัลจากสถาบันต่างๆ อาทิ ได้เป็นสมาชิกกาแฟชนิดพิเศษแห่งยุโรป ลำดับที่ 357 (Speciality Coffee ASSN of Europe MN : 357) , ได้รับการรับรองจากสถาบัน Bioagricert ว่าเป็นกาแฟออร์แกนิก มีขบวนการผลิตที่ปราศจากการใช้สารเคมี และได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ให้เป็นกาแฟ GI จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ว่าด้วยคุณภาพของกาแฟดอยช้างจะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น และอีกหลายๆ รางวัล ซึ่งเป็นที่น่าภาคภูมิใจว่าของไทยนั้นดี ไม่แพ้ชาติใดในโลก ********************************************************************************** |