ช่วยคนหลงทาง
คุณเคยหลงทางมั้ย? ถ้าไม่เคยก็จงลองหลงทางดูจะได้รู้ว่า คนที่หลงทางรู้สึกอย่างไร ยิ่งถ้าหลงทางในต่างประเทศความกลัวจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น ย้อนความไปนิดนึง ในวันที่เงียบสงบผมกำลังนั่งดูโทรทัศน์ ปรากฎว่ามีโทรศัพท์จากพี่ที่รู้จักคนหนึ่ง น้ำเสียงตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก "ต่อ... ...ต่อต้องช่วยพี่นะ"
เรื่องมันมีอยู่ว่า พี่ที่รู้จักคนนึงไปเที่ยวนอกตัวเมือง โดยไปนั่งรถที่ท่ารถ (เปรียบเทียบกับบ้านเราก็ บขส.) กว่าจะกลับถึงตัวเมืองก็มืดค่ำแล้ว ข้อมูลที่ได้จากพี่คนนั้นคือ รถจอดที่ไหนไม่ทราบ ทราบแต่อยู่ในตัวเมืองคุนหมิง จะทำอย่างไรดี
โดยทั่วไปรถที่วิ่งออกไปนอกเมือง กลับเข้าเมืองก็ต้องเข้าท่ารถอยู่แล้ว แต่อาจแตกต่างไปเล็กน้อยตรงที่ว่า ขาไปเราขึ้นรถในท่ารถ แต่ขากลับเค้าจะไม่นำรถเข้าท่ารถ แต่เค้าจะจอดรถด้านข้างท่ารถ เท่านั้นเอง
อย่างที่ผมเคยเล่าให้ฟังว่าระบบรถเมล์ของคุนหมิงมันง่าย ผมมีแผนที่แค่ 1 อัน กับโทรศัพท์มือถือ ผมก็สามารถช่วยเค้ากลับมาที่มหาวิทยาลัยได้ สำคัญที่ว่า คนที่ผมช่วยเหลือต้องไม่สติแตก ไม่อย่างนั้นก็จบเกม
นั่ง TAXI กลับก็จบ ถูกต้อง... แต่กรณีนี้นั่งไม่ได้ครับ ผมไม่ขอพูดว่าทำไมนั่งไม่ได้ (ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน) แต่เอาเป็นว่า นั่งไม่ได้ครับ
หลายคนอาจเริ่มตั้งคำถามว่า ผมจะช่วยเหลืออย่างไรให้เค้ากลับมาถึงมหาวิทยาลัยได้? เริ่มแรกผมถามข้อมูลก่อนว่า เห็นอะไรบ้างตอนนี้ น่าเสียดายที่ตอนนั้นพี่เค้าสติแตก พูดแต่คำว่า "ไม่เห็นอะไรเลย ช่วยพี่ด้วยต้องช่วยพี่นะ ไม่งั้นพี่ตายแน่" ถึงจะรู้สึกไม่ดี แต่เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วผมจึงต้องตวาดแก เพื่อเรียกสติ "ตั้งสติหน่อยสิพี่ พี่สติแตกแบบนี้แล้วผมจะช่วยยังไง ถ้ายังสติแตกแบบนี้ผมวางสายนะ" ได้ผลครับ พี่แกตั้งสติได้นิดนึง เฮ้อ... ก็พอจะเข้าใจว่าเป็นผู้หญิง เลยยิ่งรู้สึกกลัว แต่ก็ไม่น่าจะสติแตกได้ขนาดนี้
ต่อมาผมถามแกเหมือนเดิม แกก็เริ่มให้ความร่วมมือแต่ยังสติแตกอยู่ โดยตอบว่า เห็นร้านอาหาร แล้วก็เห็นป้ายภาษาจีนเขียนว่า ยูนนาน (ชื่อมณฑล) ผมถามต่อ "ที่ที่ยืนอยู่ลักษณะเป็นที่แบบไหน" "เป็นซอยมืดๆ ไม่รู้ที่ไหน" "มองเห็นรถวิ่งมั้ย" "อือ มองเห็น" "เดินไปทางนั้น"
ทำไมผมถึงตอบไปแบบนั้น โดยทั่วไปถ้าหลงทางก็ต้องหาถนนใหญ่ให้ได้ก่อน จากนั้นดูว่าถนนสายนั้นมีรถเมล์ผ่านหรือไม่ อย่างไร ถ้าไม่มีก็ต้องนั่ง TAXI อย่างเดียว แน่นอนว่ามีรถเมล์วิ่งผ่าน ผมรีบถามก่อนเลยว่าสายอะไร เพื่อกำหนดขอบเขตว่าเค้าน่าจะอยู่จุดไหน หลังจากทราบว่ามีรถสายอะไรวิ่งผ่านบ้าง ผมก็กำหนดได้แล้วว่าเค้าอยู่ที่ถนนสายไหน แต่ก็ยังไม่ทราบอยู่ดีว่าเค้าต้องขึ้นรถฝั่งไหน ผมก็แนะนำให้เค้าเดินตามแนวที่รถวิ่ง เพื่อไปที่ป้ายรถเมล์ก่อน ซึ่งพี่เค้าก็ดูจะคิดเหมือนผมว่า แล้วจะรู้ได้ไงว่าต้องขึ้นฝั่งไหน
"แล้วจะรู้ได้ไงว่าต้องขึ้นฝั่งไหน" "เดินถึงรึยังล่ะพี่ เดินไปให้ถึงก่อนเถอะ" ผมย้อนถาม "แล้วรู้เหรอว่ามันต้องขึ้นฝั่งไหน" "เดินไปที่ป้ายรถเมล์ก่อนสิพี่ ต้องเห็นป้ายก่อน แล้วผมจะได้แนะนำได้" "แล้วจะรู้ได้ไงว่าต้องขึ้นฝั่งไหน" เค้าเริ่มตะคอก "ก็แล้วผมจะช่วยพี่ได้ยังไง ในเมื่อพี่ไม่ให้ความร่วมมือเลย บอกให้ทำอะไรก็ไม่ทำ บอกให้เดินไปที่ป้ายรถเมล์ก็ไม่เดิน แล้วเดินถึงป้ายรถเมล์รึยัง" ผมเริ่มเสียงแข็งบ้าง
เค้ายอมให้ความร่วมมือเดินไปถึงป้ายรถเมล์ ผมบอกให้เค้าดูป้ายว่าชื่อป้ายอะไร หลังจากเค้าบอกชื่อป้ายมา ผมก็ทราบทันทีว่าเค้าอยู่จุดไหนของเมืองคุนหมิง จากนั้นก็บอกให้เค้ายื่นโทรศัพท์ให้คนจีน เพื่อที่ผมจะได้ถามเค้าได้ว่า ยืนอยู่ป้ายไหนฝั่งไหน หลังจากผมถามเสร็จ ผมก็แนะนำเค้าให้นั่งรถจนกลับมาถึงมหาวิทยาลัยจนได้
ผมไม่ได้จะอวดว่าตัวเองเก่งมีความสามารถ แค่อยากจะบอกว่า เวลาหลงทางไม่ว่าที่ไหนก็ตาม สิ่งที่ต้องมีคือ "สติ" เพราะหากขาดสติแล้ว ต่อให้พระเจ้าก็ช่วยคุณไม่ได้ และเวลาขอความช่วยเหลือใครแล้วเค้าแนะนำอะไร หรือบอกให้ทำอะไร ก็ควรจะให้ความร่วมมือ เพราะคนที่ช่วยคุณ อุตส่าห์ยอมเสียเวลาช่วยคุณแล้ว คุณต้องไม่ลืมในจุดนี้ และแน่นอนที่อยากจะบอก คนไทยไม่ทิ้งกันหรอก เพราะยังไงเรามันก็คนไทยด้วยกัน
Create Date : 27 มิถุนายน 2553 |
|
18 comments |
Last Update : 27 มิถุนายน 2553 16:07:02 น. |
Counter : 1466 Pageviews. |
|
|
|
แต่ถ้าตัดเปลี่ยนทรงนี่ไม่กล้าค่ะ กลัวช่างจีนอย่างแรง.....
อ่านเรื่องหลงทางแล้ว เป็นเราเราก็คงแอบกลัวอะค่ะ แต่ว่าคงไม่สติแตกเท่าพี่คนนี้ อิอิ
สงสัยจะชินกับเมืองจีนไปแล้วมั้ง?