เก็บตกเรื่องแค้นฝังหุ่น
คำเตือน Blog นี้ เกี่ยวข้องกับการเมือง และค่อนข้างรุนแรงกับความรู้สึก
ต่อเนื่องจาก Blog แค้นฝังหุ่น ชาตินี้ชาติหน้าก็ไม่ลืม จึงเป็นที่มาของบทความนี้ เมื่อหลายวันก่อน ผมเปิดเวปไซด์ Youtube เพื่อหาเพลง หรือพวก OST เพราะๆ ฟังสบายๆ มาแปะใน Blog ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมหาเพลงชาติจีนมาฟัง ถึงจะเคยฟังมาแล้วสมัยอยู่ที่เมืองจีน แต่ก็อยากลองฟังอีกครั้ง
ผมอยากเอาเพลงชาติของจีนมาแปล แล้วแปะไว้ที่ Blog เหมือนกัน แต่เกรงจะเกิดความขัดแย้งขึ้น เกรงจะโดนกล่าวหาว่าเราฝักใฝ่คอมมิวนิสต์ จึงตัดสินใจไม่แปลดีกว่า ทั้งที่เพลงชาติจีนฟังง่าย ใช้คำไม่ยากนัก (ระดับภาษาธรรมดา) ระหว่างที่กำลังหาก็พบว่ามีคนใช้โปรแกรม Vocaloid โดยใช้เสียงของ Hatsune Miku ในการร้องเพลงชาติจีน
เพลงไม่มีพรมแดน ไม่แบ่งเชื้อชาติ ทุกคนสามารถรับรู้ได้ถึงความไพเราะได้หมด ผู้ที่จัดทำคลิปเพลงดังกล่าวมีแนวคิดแบบนี้เช่นกัน อีกทั้งยังเห็นว่าการ์ตูนก็ไม่ต่างจากเพลง ทุกคนสามารถรับชมและรู้สึกสนุกไปกับมันได้ โดยเจตนาของผู้ทำคลิป ผมมองว่าดี แต่คนที่รับชมซึ่งคาดว่าเป็นคนจีน พิมพ์ข้อความด่าได้รุนแรงมากเลยทีเดียว เช่น ไอ้สุนัขรับใช้อเมริกา ไอ้แม่งเอ๊ย เป็นเพลงมลพิษ โอ้แม่เจ้า กูไม่ยอมดีกับพวกมึงหรอก ในมุมมองของผมขึ้นชื่อว่าเพลงชาติ ก็ไม่ควรเอามาทำกันเล่นๆ แบบนี้ คงคล้ายกับเพลงชาติไทยเมื่อหลายปีก่อนที่มีหลายเวอร์ชั่น ปัญหาที่ตามมาก็คือ การด่ากัน เมื่อมีฝ่ายหนึ่งเริ่มด่า อีกฝ่ายก็ตะลุมบอนทันที ด่ากันแบบหยาบๆ ทั้งคนจีน คนญี่ปุ่น และคนที่รู้ภาษาด่ากันอย่างเมามันทีเดียว
ผมดูหนังจีนหลายๆ เรื่อง พบว่าคนจีนยังคงเกลียดและโกรธแค้นคนญี่ปุ่นอยู่มาก ในหนังหากมีคนญี่ปุ่นก็มักจะเป็นที่รังเกียจ หรือแสดงเป็นคนชั่ว จุดนี้ก็น่ากลัวเหมือนกัน เพราะเหมือนเป็นการปลูกฝังความเกลียดชังแบบไม่รู้ตัว เช่น เรื่องเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ชาวญี่ปุ่นนำอาวุธสงคราม ยาเสพติดมาขาย หรือเรื่องตำนานบรู๊ซลี โดยบรู๊ซลีพูดว่า "คนจีนอย่างพวกฉัน เกลียดที่สุดก็คือคนญี่ปุ่น" มันเหมือนการย้ำบ่อยๆ บ่มเพาะความเกลียดชัง
คนที่เกลียดคนญี่ปุ่นกับคนญี่ปุ่น เวลาพูดเรื่องเดียวกัน เกี่ยวกับความขัดแย้งของทั้งสองประเทศ ถ้าเราได้ฟังทั้งสองฝั่งพูด เรื่องราวอาจต่างกันชนิดหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว โดยคนญี่ปุ่นก็บอกว่า คนจีนไม่มีข้อมูลที่ถูกต้อง คนจีนก็เช่นกัน ไม่มีใครยอมฟังอีกฝ่ายเท่าไหร่นัก
ในเรื่องของข่าวสาร สื่อสารมวลชน ผมอยู่ที่ประเทศจีน ไม่มีวันไหนที่จะไม่ได้รับชมข่าวประเทศญี่ปุ่นเลย มีข่าวของประเทศญี่ปุ่นให้ได้รับชมทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นในทางดีหรือร้ายก็ตาม ในขณะที่เพื่อนคนญี่ปุ่นก็บอกว่าประเทศญี่ปุ่นก็เป็นแบบนี้เหมือนกันคือ มีข่าวของประเทศจีนทุกวัน โดยเป็นข่าวโจมตีกันไปมา ทั้งหมดที่เล่ามาเป็นเรื่องของความรัก (คลั่ง) ชาติเท่าที่ผมจะนึกได้
อาจมีคนมองว่าผมเนรคุณประเทศจีนจึงได้พูดอย่างนี้ แต่คนที่สอนให้ผมคิดอย่างนี้ก็คือ อาจารย์ที่สอนภาษาจีนผมที่ประเทศจีน ท่านให้ข้อคิดไว้ว่า "เราต้องเรียนรู้ให้ได้ว่า ทำไมคนอื่นถึงคิดไม่เหมือนเรา และต้องพยายามเข้าใจแนวคิดของผู้อื่น" ทุกสิ่งในโลกมีดีมีร้าย ถ้าคุณมองว่าประเทศจีนดีทุกอย่างคุณก็คือ ไอ้โง่ แต่ถ้ามองว่าประเทศจีนเลวร้ายไปเสียทุกอย่างคุณก็คือ คนที่มีอคติอย่างมาก (ผมเขียนเรื่องการถุยน้ำลายไว้แล้ว คราวหน้าจะเอามาลง เราจะได้ทราบกันว่าเพราะอะไรคนจีนถึงถุยน้ำลาย และอะไรทำให้เค้าคิดอย่างนั้น ซึ่งเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาความคิดของคนในชาติ รักชาติเป็นเรื่องที่ดี แต่อย่าคลั่งชาติ
อาจารย์ท่านสนใจการเมือง ท่านติดตามการเมืองของประเทศอื่นเหมือนกัน เราก็คุยเรื่องการเมืองในมุมของแต่ละคน ท่านมองการเมืองของไทยว่า มีความพยายามปลูกฝังความเกลียดชัง และกระแสคลั่งชาติ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศ หากยังเป็นอย่างนี้ต่อไป ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเหมือนประเทศจีน แต่กรณีของประเทศไทยจะแย่กว่า เพราะเกิดขึ้นทั้งภายใน และภายนอกประเทศ คนนอกเค้าคิดอย่างนี้ ก็ได้แต่หวังว่า ประเทศไทยของเราจะไม่เป็นอย่างประเทศหลายๆ ประเทศที่ได้ชื่อว่า "รัฐที่ล้มเหลว"
Create Date : 25 มกราคม 2554 |
|
45 comments |
Last Update : 25 มกราคม 2554 10:04:20 น. |
Counter : 1541 Pageviews. |
|
|
|