Long Way Round :: การเดินทางไล่เงาตะวันไปจนสุดขอบโลกของสองนักแสดงชื่อก้องEWAN McGREGOR & CHARLEY BOORMANเป็นหนังสือบันทึกการเดินทางของ ยวน แมคเกรเกอร์ และ ชาลี บอร์แมน 2 หนุ่มนักแสดงที่เจอกันระหว่างการถ่ายทำหนังเรื่อง The Serpent's Kiss (1997) และเป็นเพราะความคลั่งไคล้ใน มอเตอร์ไซค์เหมือนกัน จึงทำให้ทั้งสองกลายเป็นเพื่อน, เพื่อนซี้ และเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดในที่สุด การเดินทางด้วยขี่มอเตอร์ไซค์ เป็นความใฝ่ฝันของ ยวน มาตลอดชีวิต และเมื่อตัดสินใจจะออกเดินทางสิ่งแรกที่พวกเขาทำคือซื้อหนังสือ เดอะ แอดเวนเจอร์ มอเตอร์ไซคลิ่ง แฮนด์บุ๊ค ซึ่งบทแรกคือ เตรียมตัว การเดินทางข้ามทวีปผ่านประเทศต่างๆเป็นครั้งแรกเช่นการข้ามทวีปแอฟริกา อเมริกาหรือเอเชีย จะต้องมีการเตรียมตัวอย่างน้อยที่สุด 1 ปี และหากจะเดินทางรอบดลก การเตรียมตัวต้องมากกว่านั้น 2 เท่า !! แต่การมีอาชีพเป็นนักแสดง ทั้งสองไม่สามารถหยุดงานนานขนาดนั้นได้ เลยเหมือนกับว่าทริปนี้คงจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่อาจเป็นจริงได้ แต่...พวกเขาก็ทำสำเร็จ ด้วยการเดินทาง เป็นระยะทางกว่า 20,000 ไมล์ ข้ามภูมิประเทศทุรกันดารซึ่งเลวร้ายขึ้นทุกไมล์ เริ่มตั้งแต่การขี่ผ่านทวีปยุโรป ยูเครน คาซัคสถาน มองโกเลีย รัสเซีย ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกไปอะแลสกา จากนั้นขี่ลงใต้ผ่านแคนาดาและสหรัฐอเมริกา สุดท้ายที่นิวยอร์ค และบินกลับลอนดอนหนังสือบันทึกการเดินทาง Long Way Round เล่มนี้ เล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละสถานที่ แต่ละประเทศโดย ยวน และ ชาร์ลี สลับกันผลัดกันเล่า ทั้งสนุกสนาน ตื่นเต้น บางครั้งก็เหมือนตัวเราเองกำลังขับมอเตอร์ไซค์อีกคันหนึ่งตามดูความเป็นไปและ ร่วมบันทึกอะไรหลายอย่างไปกับเขาด้วย ทั้งสอง จึงเป็นนักเล่าเรื่องที่มีเสน่ห์ ทำให้อ่านแล้ววางไม่ลง เป็นหนังสือที่ช่วยเสริมกำลังใจให้นักล่าฝันทั้งหลาย ได้เร่งทำให้ฝันนั้นเกิดขึ้นจริง
ยูเครน ชาร์ลี : หลังเสียเวลาไปครึ่งวันที่พรมแดน จิตใจเราก็อยู่ในภาวะย่ำแย่ การข้ามพรมแดนสโลวักถือเป็นเรื่องง่ายแสนง่ายหากเทียบกับความพยายามในการเข้ายูเครนของเรา เกือบ 7 ชั่วโมงแล้วที่เราค้นหาเอกสารต่างๆ และสถานทูตอังกฤษในเคียฟ (Kiev) ก็พยายามหาทางช่วยเหลือ แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ช่วยให้เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาเลย เจ้าหน้าที่ยูเครนจะยอมรับพียงเอกสารการจดทะเบียนยานพาหนะตัวจริงสำหรับมอเตอร์ไวค์บีเอ็มดับเบิ้ลยูและรถมิตซูบิชิขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น สำเนาเอกสารที่เตรียมมาเลยใช้การไม่ได้เราโทรศัพท์หาสำนักงานบีเอ็มดับเบิ้ลยูในอังกฤษ ซึ่งก็ช่วยส่งอีเมล์และโทรศัพท์ไปสำนักงานใหญ่ของบีเอ็มดับเบิ้ลยูที่มิวนิคให้เรา ซึ่งช่วยโทรศัพท์หาสำนักงานในมอสโก ให้ช่วยส่งแฟกซ์หาสำนักงานในเคียฟ ช่วยติดต่อเจ้าหน้าที่พรมแดนเพื่อรับรองว่ามอเตอร์ไซค์ทั้งหมดเป็นของบริษัทบีเอ็มดับเบิ้ลยูและเขาจะไม่ขายมันในยูเครน แต่ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาซักอย่างคาซัคสถานยวน : เราขี่ตามกันอย่างระมัดระวัง แค่ประมาณ 15 ไมล์หลังเข้าคาซัคสถาน ถนนก็หายไป เราต้องขี่ลงเนินไปตามทางดินที่เป็นหลุมบ่อ จนกระทั่งถนนลาดยางปรากฏให้เห็นอีกครั้งหลังผ่านมาแล้วหลายไมล์เรารอให้รถบรรทุกผ่านไป รถลาด้าสีขาวคันหนึ่งก็แล่นมาจากทางด้านหลังและจอด ชายสองคนนั่งอยู่ด้านหน้ารถ อีกสองคนนั่งอยู่ด้านหลังชทราสเวจเจีย-Zdravstvuite เราพูด ซึ่งแปลว่าสวัสดีในภาษารัสเซีย ชายในรถลาด้ายิ้มตอบกลับมา คนขับเปิดประตูรถ ผมกำลังจะเล่าเรื่องการเดินทางรอบโลกด้วยมอเตอร์ไซค์ของเรา ชายคนที่นั่งขัดสมาธิอยู่ด้านหลังรถ ก็ชักปืนออกมา แล้วจ่อไปที่ชาร์ลี จากนั้นก็จ่อมาที่ผม ผมจ้องมองปลายกระบอกปืน ชายคนนั้นถือปืนชี้ตรงมาที่ผมซึ่งรู้สึกราวกับนานแสนนาน ฉิบหาย อย่านะโว้ย ผมคิดในใจ ผมไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมคิดว่าบางทีคนพวกนั้นคงอาจอยากได้กล้องวีดีโอหรือปล้นเราหรืออาจแย่กว่านั้น แล้วชายคนที่ถือปืนก็ระเบิดเสียงหัวเราะ ผมเห็นฟันทองสองแถวในปากเขา คนขับรถปิดประตูปังแล้วก็รีบขับออกไป ปล่อยให้ผมยืนตัวสั่นด้วยความกลัวสำหรับชายคนนั้นแล้ว เรื่องนี้อาจไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าการล้อเล่นขำขำ แต่สำหรับผม มันคือ การถูกข่มขู่เอาชีวิต
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ เด็ก ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่
เรนตั้นลองดูหนังสือท่องเที่ยว(และซีรี่ย์ชุด)ของMichael Palinด้วยสิ
มีทั้งไปเที่ยวSahara, Himalaya แล้วก็แปดสิบวันรอบโลกด้วยน่ะ
เราว่าแกเขียนได้สนุกดีมากๆเลย (เผื่อจะจำไม่ได้ แกเป็นหนึ่งใน
สมาชิก Monty Python แล้วก็เล่นหนังขำๆอย่าง A Fish called Wanda ไง)