★ ง า น แ ห่ เ ที ย น ที่ อุ บ ล ฯ บ้ า น ฉั น
งานประเพณีแห่เทียนพรรษา งานประเพณีแห่เทียนพรรษา เป็นประเพณีทางพุทธศาสนา ของชาวอุบลฯ ซึ่งมีความเจริญในพุทธศาสนา วัฒนธรรม และประเพณีมาเป็นเวลายาวนาน ถือเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของจังหวัดอุบลราชธานี โดยได้กำหนดจัดงานขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 และแรม 1 ค่ำเดือน 8 หรือวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา จัดให้มีขึ้นทุกปี จากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ ได้ความว่า ชาวอุบลราชธานี ได้ทำต้นเทียนประกวดประชันความวิจิตรบรรจงกัน ตั้งแต่ พ.ศ.2470 จนเมื่อปี พ.ศ.2520 จังหวัดอุบลราชธานี ได้จัดงานสัปดาห์ประเพณีแห่เทียนพรรษาให้เป็นงานประเพณีที่ยิ่งใหญ่และมโหฬาร สถานที่จัดงานคือ บริเวณทุ่งศรีเมืองและศาลาจตุรมุข มีการประกวดต้นเทียน 2 ประเภท คือ ประเภทติดพิมพ์ และประเภทแกะสลัก โดยขบวนแห่จากคุ้มวัดต่างๆ พร้อมนางฟ้าประจำต้นเทียน จะเคลื่อนขบวนจาก หน้าวัดศรีอุบลรัตนาราม ไปตามถนน มาสิ้นสุดขบวนที่ทุ่งศรีเมือง และการแสดงสมโภชต้นเทียน แลเป็นแสงไฟต้องลำเทียนงามอร่ามไปทั้งงาน(ข้อมูลจาก : //guideubon.com/news/view.php?t=15&s_id=13&d_id=11)จำ ได้ว่าเมื่อครั้งเรียนมัธยมฯต้นคาบเรียนกิจกรรม อาจารย์ให้นักเรียนทุกคนในห้องไม่ว่าหญิง-ชาย ได้ร่วมกันซ้อมการแสดงฟ้อนรำสำหรับเป็นขบวนต่อท้ายรถแห่ต้นเทียน (ที่ทางโรงเรียนมีส่วนร่วมสนับสนุน) สไบสำหรับพาดบ่าสีเหลืองจัด เสื้อคอกว้างแขนกระบอกสีขาวนวลและผ้าซิ่นความยาวเหนือหัวเข่าเล็กน้อย ถูกจ่ายแจกให้นักเรียนหญิงผัดเปลี่ยน เมื่อแต่งตัวเสร็จกันครบก็ตั้งแถวตอนลึก 3 หรือ 4 แถว อาจารย์เปิดเพลงและสอนท่ารำจำ ได้ว่าคาบกิจกรรมซ้อมรำนี้เข้าร่วมครั้งแรกครั้งเดียว(เพราะไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น) นอกนั้น..โดด ไม่เอาด้วยหรอก ไม่เข้าร่วม ไม่ได้เช็คชื่อ แต่ผ่านมาได้แบบไม่ต้องตามแก้เกรดได้ยังไงก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ... งานแห่เทียนที่มีจัดขึ้นทุกปีในช่วงเดือนกรกฎาคมก็ไปดูบ้าง เว้นไปบ้าง อาจเป็นเพราะรู้ๆ อยู่ว่ามีทุกปีค่อยไปปีไหนก็ได้ จนช่วงเข้าไปเรียนต่อที่เมืองหลวงก็หลายปี ทำงานก็หลายปี วันหยุดช่วงเข้าพรรษามีวันหยุดไม่กี่วัน ตามอารมณ์ของคนที่เวลาจะกลับมาเยี่ยมบ้าน (บ้านเราเอง...แต่ต้องใช้คำว่าเยี่ยมเยือน) ก็อยากจะให้เป็นช่วงที่มีวันหยุดยาวไม่ต่ำกว่า 4 หรือ 5 วันจึงจะสมอารมณ์หมายให้มุ่งมั่นหาซื้อตั๋วเดินทาง นั่นจึงทำให้ไม่ค่อยได้กลับมาบ้านในช่วงเข้าพรรษา งานแห่เทียนที่ปกติก็ห่างเหินอยู่แล้ว ช่องว่างเหล่านี้ยิ่งถ่างกว้างออกไปอีกในโอกาสนี้ ขณะเช้ามืดวันที่ 8 กรกฎาคม 2552 ตัวเองอยู่ที่อุบลฯ และเป็นวันนี้ที่จะเป็นวันแห่เทียน ต้นเทียนจากหลายคุ้มวัด หลายอำเภอทั่วเมืองอุบลฯ ได้จอดรออวดความสวยงาม อวดฝีมือของช่างแกะสลัก ช่างติดพิมพ์ ช่างจัดดอกไม้ประดับและอีกหลายๆ ช่างหลายๆ หน้าที่ แก่ผู้ผ่านมาผ่านไปหรือตั้งใจมาให้เห็นเป็นประจักษ์ จึงเป็นโอกาสเหมาะที่จะมาชมงานเทียนแบบใกล้ๆ ด้วยตาตัวเองเสียที จำ ได้ว่า ครั้งเก่าก่อนย้อนลงไปหลายปี ต้นเทียนและเรื่องเล่ารอบๆ ต้นเทียนนั้นการจัดทำไม่อลังการงานสร้างขนาดนี้ ไม่ใหญ่โตปานตึก 3 ชั้นขนาดนี้ พลางนึกไปว่าหากมองเลยไปข้างหน้าอีกสัก 5 หรือ 10 ปี ต้นเทียนและเรื่องเล่าจะยัง (ยิ่ง) ใหญ่ได้กว่านี้อีกไหม ...ตอนนี้ รับชมภาพกันดีกว่าค่ะ(บน) ต้นเทียนพรรษาวัดพระธาตหนองบัวชนะเลิศประเภทต้นเทียนพรรษา ประเภทแกะสลักขนาดใหญ่ ปี 2551งานเทียนประเภทติดพิมพ์(บน : ล่าง) รายละเอียดของงานเทียนประเภทติดพิมพ์งานเทียนประเภทแกะสลัก(บน) คุณลุง คุณป้า ชื่นมื่นให้กล้องตัวอื่นค่ะ ...ไม่ได้มาด้วยกัน ^^ (บน : ล่าง) รายละเอียดของงานเทียนประเภทแกะสลัก..มีรายละเอียดเพิ่มเติม และชมงานถ่ายภาพระดับมืออาชีพได้ตามลิงค์นี้ค่ะผลการประกวดต้นเทียนพรรษาอุบลราชธานี ประจำปี 2552รวมต้นเทียนพรรษาอุบลราชธานี ประจำปี 2552 Create Date : 10 กรกฎาคม 2552 10 comments Last Update : 3 ตุลาคม 2552 9:17:49 น. Counter : 2179 Pageviews. ShareTweet
(ข้อมูลจาก : //guideubon.com/news/view.php?t=15&s_id=13&d_id=11)
★ หนังที่ได้ดูAnklaget (Accused, 2005) Jacob Thuesen :: Me Myself ( ขอให้รักจงเจริญ, 2550 ) พงษ์พัฒน์ วชิระบรรจง :: If I Didn't Care (2007) Ben, Orson Cummings :: Kids (2008) Tatsuya Hagishima :: Los Bastardos (The Bastards, 2008) Amat Escalante :: Tokyo sonata (2008) Kiyoshi Kurosawa ::
^^บ้าง... บางเวลา ^^คิดถึงโรงหนัง คิดถึงรถเมล์ที่วิ่งเร็ว (ที่มักด่าลับหลัง หุหุ) เพราะที่นี่ค่อยขับค่อยเป็นค่อยไป
Seam - C อย่าบอกนะว่าที่แท้..คุณคือ...อนันดา ปลอมตัวมา!!BdMdคิดถึงรถเมล์กทม. เพราะระยะทาง 14 กิโลเมตร (ถึงจุดหมาย) เพื่อนบอกใช้เวลาราวเกือบ 2 ชั่วโมง รวมเวลารอรถด้วย ถือว่าช้ามาก ใช้เวลาเยอะเกินไป ทับทิมหวานดีจังค่ะ ได้ไปหลายวัด ^_^
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ เด็ก ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่