★ Strawberries in the Supermarket
ดู ยู บิลีฟ อิน สตรอว์เบอรี่? (2003)
ขอยืมคำโปรยจากหนังเรื่อง กุมภาพันธ์ ของ ยุทธเลิศ สิปภาค มาดัดแปลงใช้เสียหน่อย เห็นว่าเข้ากันได้ดีกับเรื่องราวของหนังโรแมนติคปนขำอำการเมือง เรื่องนี้ช่วง เวลาจะปิดร้านของซุปเปอร์มาเกตเปิดใหม่สไตล์ยูโก-อเมริกันแห่งหนึ่งในเมืองเบลเกรด ยาโกดา แคชเชียร์สาวเกิดอาการโมโหให้เพื่อนแล้วพาลไม่ขายสตรอว์เบอรี่ให้กับหญิงชราที่ให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องเอาไปประดับให้เค้กวันเกิดหลานชายพรุ่งนี้ ยาโกดาไม่สนใจรายละเอียด คว้าเอาแพคสตอรว์เบอรี่ไปเก็บที่เดิมและไล่หญิงชราให้กลับ วันต่อมาขณะที่ลูกค้ากำลังจับจ่ายเลือกสินค้า จู่ๆ มีชายหนุ่มสวมชุดทหารควงอาวุธสงครามเข้ามายิงกราดไปทั่ว ไล่ต้อนทุกคนมารวมตัวกักไว้เป็นตัวประกัน ทั้งประกาศกร้าวว่าจุดประสงค์คือมาตามหาตัวพนักงานที่ไม่ขายสตรอว์เบอรี่ให้ยายของเขาเมื่อวานนี้ ตำรวจ 2 นายมาถึงที่เกิดเหตุแต่ทำอะไรไม่ได้ สารวัตรมาเจรจาต่อรองสถานการณ์ก็ไม่คืบหน้า สุดท้ายต้องใช้หน่วยสวาท (SWAT-special weapons and tactics) เข้ามาคุมพื้นที่ ทั้งต่อรอง โต้เถียง วางแผนจนมืดค่ำจึงบุกจู่โจมถล่มซุปเปอร์มาเกตเพื่อจับตัว มาร์โก้ คนร้ายและช่วยเหลือตัวประกัน แต่ไม่สำเร็จเสียทีเดียวเพราะยังจับมาร์โก้ไม่ได้ ตัวประกันก็ยังเหลือค้างอีกคนคือยาโกดา ชาย-หญิงที่ตกอยู่ในความวุ่นวายโกลาหลกันทั้งวัน ช่วยเหลือกันบ้างบางครั้ง เมื่อติดอยู่ในสถานที่ที่ถูกปิดล้อมท่ามกลางความมืดอย่างนั้น คงไม่มีอะไรให้คิดมากไปกว่า นี่คือโลกส่วนตัวของ เราJagoda u supermarketu หรือ Strawberries in the Supermarket เป็นผลงานการเขียนบทและกำกับฯเรื่องแรกของ ดูซาน มิลิค ผู้กำกับฯชาวเซอร์เบียน เคยทำงานเป็นผู้ช่วยผู้กำกับฯที่ 2 ให้กับ เอนกิ บิลัล อีกทั้งเขียนบทหนังหลายเรื่องให้กับ อีเมียร์ คุสตูริกา Jagoda ที่เป็นทั้งชื่อเรื่องและเป็นชื่อนำของตัวเอกนั้น ตามความหมายในภาษาเซอร์โบ-โครเอเชียน หมายถึงผลสตรอว์เบอรี่ และศัพท์สแลงหมายถึงหญิงสาว สีแดงของสตรอว์เบอรี่อยู่ได้ทั้งในสถานะเป็นสีที่แสดงถึงความรุนแรง พลัง อันตราย (มาร์โก้) และยังหมายถึง ความรัก ความยั่วยวน สิเน่หา ที่ยาโกดาหว่านเสน่ห์ให้มาร์โก้ได้ด้วย มาดผู้ร้ายแต่ท่าทีเอะอะมะเทิ่งหรือหยิบจับอะไรก็งกๆเงิ่นๆ ของมาร์โก้อดตีตทหารผ่านศึกนั้นช่วยทำให้คนดูรู้ว่าหนังจะไปทางไหน ในทุกฉากหนังได้แสดงออกว่าตัวละครอื่นๆ ไม่ได้เห็นอาการหลุดรั่วของมาร์โก้นั้นตลกเกินจริง จึงมองได้ว่าทุกคนมีการรับรู้ที่เท่าเทียมโดยมีเรื่องราวหรือกิจอันเปิ่นเป๋อนั้นอยู่ในเกณฑ์ปกติ การบุกเข้ากราดยิงมั่วในร้านจึงเป็นเหตุที่จริงจังและร้ายแรง ดังนั้นเราจึงได้เห็นฉากแถบพลาสติคสำหรับห่อสินค้าถูกนำมามัดตัวประกันทั้งหมดอย่างหลวมๆ แต่ก็ไม่มีใครคิดจะพาตัวเองหลบหนี หรือเมื่อมาร์โก้รัวใช้มีดจิ้มลูกโป่งให้แตก ตำรวจที่ปิดล้อมอยู่ก็หมอบหลบกันวุ่นวายคิดว่าเสียงปืน สารวัตรเองยังกลัวลนลานชูมือยอมจำนนจนต้องขอกำลังเสริม และหนังยังแสดงเจตจำนงกระทบกระเทียบอิทธิพลของความเป็นอเมริกันบนแผ่นดินอื่นโดยเฉพาะในยูโกสลาเวียแห่งนี้ ตั้งแต่เจ้าของร้านซึ่งภูมิใจในซุปเปอร์มาเกตลูกครึ่งนี้มาก ชื่อก็ขึ้นป้ายหราว่าเป็นยูโก-อเมริกัน มีการเอาเปรียบของผู้ค้าในฉากที่เจ้าของร้านเล่นทีเผลอหยิบสินค้าใส่ตะกร้าลูกค้า ให้มาร์โก้ถูกตั้งข้อหาเป็นผู้ก่อการร้ายบนแผ่นดินต่างชาติเพราะซุปเปอร์มาเกตนี้ใช้เงินทุนสกุลดอลล่าร์สหรัฐ 100% หน่วยสวาท (ซึ่งเป็นทีมทำงานที่ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในอเมริกา) เองยังอ้างว่าตอนนี้เรา (ยูโกสลาเวีย) เป็นเพื่อนกันกับอเมริกาแล้ว มาร์โก้ย้อนให้ว่าก็คงใช่เพื่อน พวกตำรวจถึงยอมใส่เครื่องแบบที่ดูตลกปานนั้น หรือในฉากที่มาร์โก้โมโหสุดขีดหอบเอาฮอทดอก ไส้กรอกไปขว้างใส่กลุ่มตำรวจประหนึ่งแทนระเบิดแล้วตะโกนไล่หลังว่าดูของที่อเมริกาเอามาขายสิ ตัดต่อพันธุกรรมมาทั้งนั้น ตามหน้าประวัติศาสตร์โลก เท้าความไปเมื่อปี 1999 เกิดความขัดแย้งของมณฑลโคโซโว (1 ในพื้นที่ของยูโกสลาเวียเดิม) ที่ต้องการรวมตัวกับประเทศแอลเบเนียเพื่อสร้างประเทศใหม่แต่รัฐบาลเซิร์บไม่ยอมจึงเกิดการต่อสู้โจมตีกันอย่างรุนแรง จนนาโต้ (NATO) และอเมริกาต้องเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยยับยั้งเหตุการณ์ ด้วยการโจมตียูโกสลาเวียทางอากาศอย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลารวม 90 วัน! ไม่ต่างกับที่หน่วยสวาทบุกเข้าจู่โจม ระเบิดถล่มซุปเปอร์มาเกตจนควันคลุ้งตลบอบอวล ตัวประกันหนีตายกันชลมุน และอีกประการที่สำคัญคือประชาชนที่มามุงล้อมดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ (ลูกไล่อเมริกา) นั้น ต่างก็ยืนอยู่ข้างมาร์โก้ (ตัวแทนชาวยูโกฯ) ส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจและปรบมือให้ราวกับเป็นฮีโร่ที่กอบกู้ศักดิ์ศรีของประเทศ เพราะสตรอว์เบอรี่ช่วยพลิกสถานการณ์ จากทหารผ่านศึกที่ไม่มีใครรู้จักกลายเป็นคนสำคัญ กลายเป็น คนเป็นข่าว ในชั่วข้ามคืนแถมยังได้แฟนชื่อ สตรอว์เบอรี่ มาเคียงข้างกายเสียด้วย อย่างนี้ไม่ถามว่า คุณเชื่อในสตรอว์เบอรี่ลิขิตไหม ก็คงจะไม่ได้น่ะนะ
Create Date : 18 มิถุนายน 2552
26 comments
Last Update : 2 เมษายน 2553 9:52:10 น.
Counter : 2172 Pageviews.
โดย: เอกเช้า IP: 124.120.183.36 18 มิถุนายน 2552 21:45:23 น.
โดย: BdMd IP: 124.122.81.5 18 มิถุนายน 2552 21:52:46 น.
โดย: nanoguy IP: 125.24.113.215 19 มิถุนายน 2552 12:36:08 น.
โดย: Ghoeby 20 มิถุนายน 2552 15:34:47 น.
โดย: navagan 21 มิถุนายน 2552 3:59:04 น.
โดย: จูริง IP: 41.233.120.5 21 มิถุนายน 2552 18:43:09 น.
โดย: Seam - C IP: 58.9.221.144 22 มิถุนายน 2552 12:36:40 น.
โดย: คนขับช้า 23 มิถุนายน 2552 18:27:43 น.
โดย: บลูยอชท์ 24 มิถุนายน 2552 9:42:47 น.
โดย: BdMd IP: 58.137.81.98 3 กรกฎาคม 2552 14:47:33 น.
โดย: yuttipung IP: 58.9.186.235 6 สิงหาคม 2552 17:42:04 น.
โดย: ม่วน IP: 113.53.36.69 8 สิงหาคม 2552 20:57:32 น.
โดย: บลูยอชท์ 11 สิงหาคม 2552 15:48:23 น.
.Just wait until night
then switch the light off
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ เด็ก ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่
1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30