Broken Wings ... เราทุกคนล้วนเจ็บปวด ( 2002 )



บางส่วนของที่ไหนซักแห่ง มีผู้คนกำลังใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางรอยยิ้มและความฝันที่เป็นจริงแล้วอย่างมีความสุข และก็มีบางแห่ง ที่ความสุขจากการเข้าใกล้ฝันของบางคน กำลังถูกขัดขวางอย่างเสียมิได้ เหมือนอย่างค่ำคืนนี้ที่ ไฮฟา เมืองท่าเรือของ อิสราเอล ด้วยการประกวดเล่นดนตรีระดับมัธยม นักร้องนำหญิงของวง มายา อุลมัน ( Maya Maron ) สาวน้อยวัย 17 ปีที่มีพรสวรรค์ในการแต่งเพลงและร้องเพลง ต้องถูก ดาฟนา แม่ของเธอโทรเรียกตัวตามกลับไปดูแล ไอโด หลานชาย และ บาห์ร ( Eliana Magon ) หลานสาวอายุ 6 ขวบ เพราะแม่ถูกเรียกตัวไปโรงพยาบาลด่วน ทำให้ มายา จำใจต้องทิ้งวงไว้กลางคัน ถึงแม้ที่บ้านจะมี เยียร์ น้องชายของ มายา อยู่อีกคน แต่แม่ก็ยังอยากเรียกใช้เธอมากกว่า

ดาฟน่า อุลมัน ( Orly Silbersatz Banai ) แม่ม่ายสาว อาชีพหลักคืองานนอกเวลา ( parttime ) เป็นผู้ช่วยทำคลอดของโรงพยาบาล เวลาในการทำงานและการนอนของเธอจึงเอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่ บาห์ร มีกฎของตัวเอง คือ ไปโรงเรียนต้องให้เธอไปส่ง เลิกเรียนก็ต้องเป็นเธอไปรับ ไม่อย่างนั้นก็ไม่กลับ เรื่องเวลาจึงเป็นปัญหาตลอด ช่วงหลังสามีเสียชีวิต เธอเอาแต่นอนนิ่งอยู่บนเตียงร่วม 3 เดือน และเป็นหน้าที่ของมายาที่ต้องคอยเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและอาบน้ำให้ ดาฟน่า มีรถยนต์บุโรทั่งเป็นพาหนะ แต่ด้วยสังขารของมัน เวลาจะไปไหนที ก็ต้องเข็นวิ่งเสียก่อนจึงสตาร์ทติด

เยียร์ อุลมัน ( Nitai Gvirtz ) อดีตนักกีฬาบาสเก็ตบอล ไม่ไปโรงเรียนมาแล้ว 9 เดือนตั้งแต่พ่อเสียชีวิต แต่ไปทำงานเป็นคนสวมชุดหนูยักษ์ เดินแจกใบปลิวโฆษณา ด้วยการมองเห็นใบประกาศจบการศึกษาเป็นแค่เพียงกระดาษ 1 ใบไม่ต่างจากใบปลิว ตีตนออกจากสังคมปกติ มองเห็นทุกคนเป็นเพียงละอองธุลี ที่ฟุ้งอยู่ในบรรยากาศ รวมทั้งตัวเขา และ ไอรีส ( Dana Ivgy ) แฟนสาวด้วย



ไอโด อุลมัน ( Daniel Magon ) หลานชายของมายา ไม่ค่อยพูดจา ไปโรงเรียนก็มักโดนเพื่อนแกล้ง ชอบเก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยสนใจใคร แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาเพียรพยายามทำให้ได้ดีที่สุดคือ การบันทึกวีดีโอภาพการกระโดดของตัวเอง โดยตั้งกล้องแหงนหน้าไว้ที่พื้นสระว่ายน้ำร้างแล้วตัวเองก็กระโดดลงมา เมื่อมาดูภาพที่บันทึกไว้แล้วไม่พอใจ ก็ไปกระโดดใหม่ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

วันหนึ่ง มายา ไปขลุกตัวอยู่กับ กาก้า ( Nimrod Cohen ) เพื่อนชาย, เยียร์ กับ ไอรีส ก็กำลังปรับความเข้าใจกันเรื่องผงธุลีและจักรวาล ส่วน ดาฟนา นอนแช่ตัวในอ่างน้ำและผลอยหลับอยู่ที่บ้าน บาห์ร ถูกลืมไว้ที่โรงเรียนไม่มีใครไปรับ ก็มีเพียง ไอโด ที่ต้องออกไปรับน้อง แต่เขายื่นข้อเสนอกับ บาห์ร ว่า จะต้องยอมเป็นตากล้องบันทึกภาพเขากระโดด



โดยภาพรวมแล้ว แม้ทุกคนจะอยู่อาศัยในบ้าน ภายใต้ชายคาเดียวกัน มีความผูกพันเป็นแม่ลูกเป็นหลานกัน มีภาระ การดูแล และหน้าที่ที่คอยเชื่อมโยงพวกเขาเข้าไว้ด้วยกันก็ตาม แต่หากลองมองให้ลึกลงไป ครอบครัวนี้ เรายังไม่สามารถที่จะเรียกได้ว่าเป็นครอบครัวที่กลมเกลียวกันได้เต็มปากนัก เพราะอันที่จริง มันมีรอยร้าวรอยปริแทรกซ่อนอยู่ทั่วทุกพื้นที่ทุกวันเวลาที่ขับเคลื่อน

และแม้ตลอดความยาวของหนังตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบนั้น จะไม่ปรากฏตัวตนหรือภาพของผู้เป็นทั้งสามีและเป็นพ่อของเด็กๆเลยก็ตาม แต่หนังสามารถแสดงให้เรารู้สึกถึงการเป็นคนที่มีความหมาย การเป็นคนสำคัญของครอบครัวของเขาได้อย่างไม่หลักลอยไม่กลวง โดยถ่ายเทผ่านบทบาทของตัวละครหลักๆของครอบครัว คือ ดาฟนา มายา และ เยียร์ กับการแสดงออกถึงผลกระทบหลังการเสียชีวิตในวิถีที่ต่างกันไป หากคำว่า “ครอบครัว” แทนสัญลักษณ์เป็นวงกลม และสมาชิกทุกคนเป็นลูกศร ภาพเขียนของครอบครัวนี้ก็คงจะเป็นหัวลูกศรทุกหัว ต่างพุ่งออกนอกวงกลมไปคนละทาง ทิศใครก็ทิศใคร และนับวันก็รังแต่จะพุ่งไกลออกไป เส้นวงกลมที่เคยร้อยเคยรั้งลูกศรไว้ กลายเป็นรอวันมันขาดผึง

การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก … ทุกคนล้วนเจ็บปวด ความโศกเศร้าที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนต่างแยกย้ายใจ หลบเลี่ยงไปหาทางเยียวยาตามแนวทางของตัวเอง ( ดาฟนา ทำงานหนักอย่างไม่อยากหยุดพัก, มายา ออกเดินทางตามล่าหาฝัน ) แต่ในขณะเดียวกัน การ “เกือบ” สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปอีกคน ก็กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยน ที่ทำให้หัวลูกศรทุกหัว สามารถหันกลับพุ่งเข้ามาในวงกลม ทุกคนได้มีโอกาสร่วมแสดงออกถึงความห่วงหาอาทรกัน เอาใจใส่กัน เรียนรู้ที่ให้ผู้อื่นรับรู้ความในใจ ความเจ็บปวดที่เคยเกิดขึ้น เป็นบทเรียนที่ทุกคนล้วนจดจำ แต่ไม่อยากจะได้รับมันอีกเป็นครั้งที่สอง

สัญลักษณ์ที่ตัวหนังนำมาใช้สื่อความหมายของความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว โดยเฉพาะ กับดาฟนาผู้เป็นแม่ และ มายา ลูกสาว ก็คือ รถยนต์บุโรทั่งคันเก่าที่ ดาฟนา เป็นผู้ใช้ ตัวรถถูกใช้เป็นเจ้าของปัญหาทุกอย่าง ทั้งสตาร์ทไม่ค่อยจะติด ต้องช่วยกันเข็น หรือในเวลาคับขัน ประตูรถเจ้ากรรมก็มักจะเปิดไม่ออกติดๆขัดๆอยู่ประจำ และทุกครั้งที่เกิดปัญหา ดาฟน่า ก็มักจะเป็นจะเป็นผู้ขับ และมายา เป็นผู้ที่ต้องร่วมรับเผชิญปัญหาด้วยกัน ซึ่งก็เป็นความหมายเดียวกันกับความรู้สึกที่เกี่ยวกับการตายของสามี (และพ่อของมายา) ที่ทำให้ ดาฟนา และ มายา กินแหนงแคลงใจกันมาตลอด ต่างฝ่ายต่างโทษ โยนกลองให้กันในใจ จนกลายเป็นรอยร้าว

Broken Wings ( Knafayim Shvurot : literal Israel title ) เป็นผลงานการกำกับ และ เขียนบทเองของผู้กำกับชาวอิสราเอล Nir Bergman ซึ่งเป็นการกำกับภาพยนตร์ (ขนาดยาว) เรื่องแรก Bergman เป็นชาวเมืองไฮฟา, อิสราเอล แต่กำเนิด (ซึ่งเมือง ไฮฟา นี้ก็ถูกจัดให้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย) แต่ไปจบการศึกษาที่ Sam Spiegel Film and Television School จากเมือง เยรูซาเลม และได้รับเกียรตินิยมจากการกำกับหนังสั้นเรื่อง Sea Horses (1998 )ที่เล่าถึงการแตกสลายของครอบครัวของเขาเอง โดยผ่านมุมมองของเด็กชายวัย 10 ขวบ Sea Horses ได้ถูกนำไปฉายตามเทศกาลภาพยนตร์ต่างๆราว 40 เทศกาลทั่วโลก และกับ Broken Wings เอง ตัวหนังก็ได้รับรางวัลสำคัญๆ จากเทศกาลภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังอีกมากมาย


**

ฟังเพลงที่ มายา แต่งให้กับพ่อ และใช้ร้องประกวดได้ ที่ นี่ ค่ะ







Create Date : 13 มีนาคม 2550
Last Update : 17 มีนาคม 2550 10:44:26 น. 16 comments
Counter : 816 Pageviews.

 
อ้าว ... อัพบล็อกใหม่พอดีเหรอ
รบกวนช่วยไปอ่านคอมเมนต์เมื่อกี้นี้ของพี่ ในบล็อกเดิมด้วยจ้า

พี่ต้องอ่านสองสามครั้ง เพื่อลำดับความสัมพันธ์ของตัวละครหลายคนให้ดีๆ
อืมมม สุดท้ายสงสัยว่า ... จุดเปลี่ยนครั้งหลัง ที่ทำให้ทั้งครอบครัวหันหน้าเข้าหากัน
คือ ... การเกือบจะสูญเสียใครกันหนอ


โดย: สะเทื้อน วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:12:29:29 น.  

 
แวะมาทักทาย หลังจากหายหน้ากันไป


โดย: คนขับช้า วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:14:38:24 น.  

 
เรื่องครอบครัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนจริงๆ นะค่ะ ครอบครัวมีปัญหาบ้างซึ่งก็คงเป็น
เรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็ต้องพยายามแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งปล่อยนาน
มันก็ยิ่งเหมือนอะไรที่สะสมไปเรื่อยๆ ...แล้วอาจจะแก้ไขได้ยากทีหลัง เหมือนจะเป็น
คล้ายๆ ปมของแม่กับลูกจากเรื่องนี้อ่ะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:16:25:07 น.  

 
อื่ม... เอาหนังน่าดูมายั่วอีกแล้วครับ

ตอนนี้กำลังเซ็งเป็ด..
เพราะว่าดีวีดีลิขสิทธิ์ของไตรภาคล้างแค้น (ที่ไม่ใช่Oldboy) ออกมาซะแล้ว ห้ามว่าที่ผมซื้อเถื่อนนะเจบิ๊กส์ อยากออกดีเลย์เป็นปีเองทำไมอะ

ส่วน Letters from IwoJima กับChildren of Men นรี่แคททาลิสต์โฆษณาว่าจะออกแล้วนะครับ


โดย: nanoguy IP: 58.8.190.22 วันที่: 13 มีนาคม 2550 เวลา:17:40:59 น.  

 
เห็นชื่อแล้วนึกถึงหนังสือของ คาลิล ยิบราน

เคยดูหนังอิสราเอล 4-5 เรื่อง แต่เรื่องนี้ยังไม่ได้ดูครับ

โดยรวมแล้วชอบ พอจะมีลักษณะเฉพาะตัวอยู่เหมือนกัน


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:18:17:02 น.  

 
เข้ามาทักทายครับ

เอาหนังน่าดู มายั่วอีกแล้ว จะพยายามตามซื้อดูให้ได้(ตอนนี้ไม่ค่อยมีเวลา

ปล. เรื่อง Pan's Labyrinth น่ะ ผมอดใจรอไม่ไหว อยากดูมากเลยไปซื้อ ดีวีดีโซน 1มาดู รู้สึกจะเข้าฉายเดือนเมษานะครับ ห้ามพลาดนะ ขอบอก


โดย: pnottimez IP: 203.118.73.58 วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:19:03:11 น.  

 
เป็นหนังที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวอีก 1 เรื่องที่น่าสนใจครับ

หนังแนวนี้ความจริงก็เคยดูมาหลายเรื่องครับ อันนี้ไม่รู้ผมสังเกตไปเองหรือเปล่านะ ว่าพวกรางวัลเนี่ย เค้าชอบแจกให้กับหนังที่มี Background เป็นบรรยากาศในครอบครัวที่ดูหดหู่และแสดงออกอย่างเย้ยหยันหน่อยๆอย่างเรื่อง American Beauty ที่ดูแล้วก็หดหู่พอสมควร

อยากเห็นหนังครอบครัวสดใสๆได้รางวัลบ้าง อิอิอิ

ปล.คุณ renton_renton ว่างๆหาหนังจีนมา Comment บ้างสิครับ แบบว่า ชอบเป็นการส่วนตัว อิอิอิ

พึ่งซื้อ The Tokyo Trial มาจากฮ่องกง ยังไม่มีเวลาดูเลยอ่า


โดย: Tony KooN (tk_station ) วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:21:53:37 น.  

 


พี่หนุ่ม
ความสงกะสัยในจุดเปลี่ยนนี้ก็...อยากรู้ใช่ม๊า.. ไม่บอกหรอก อิอิ

คนขับช้า
ขอบคุณค่า ที่แวะมาทักทายกัน ^_^

คุณJewnid
อาจจะเป็นคำพูดที่ง่ายไป ถ้าเราพูดแค่ว่า ก็หันหน้าเข้าหากัน คุยกันสิ ปัญหาจะได้คลี่คลาย
เพราะเราว่ามันน่าจะใช้ได้เป็นบางกรณีอ่ะเนอะ บางสถานการณ์เราอาจต้องใช้เวลา เพื่อให้ปัญหามันได้ทุเลาลง
การดูหนัง บางทีมันก็เป็นกรณีศึกษาที่ดีจริงๆ ^_^

nanoguy
พี่ยังไม่เห็น ดีวีดี Sympathy for Lady Vengeance ลิขสิทธิ์เลยอ่ะค่ะ แต่เห็นเมื่อพฤหัสที่แล้วว่ามีโปรแกรมลงโรงจะฉาย แต่จนถึงตอนนี้ ก็ยังหาไม่เจอเลยว่าไปแอบเข้าโรงฉายที่ไหน เหล่มาหลายวันละ ...ถ้าพอจะรู้แหล่งที่ฉาย ก็บอกบ้างนะคะ จะได้ไปดู ดูจากแผ่นแล้ว จี๊ดจิงๆ

Letters from IwoJima ก็น่าสนใจ ไม่รู้จะเข้าฉายมั๊ย หนังทหาร หนังสงครามเนี่ย ถ้าได้ดูที่โรงจะยอดสุดๆเลยนะพี่ว่า

น้าเอ้
หนังสือของ คาลิล ยิบราน กับชื่อเรื่องนี้ ยังมะเคยอ่านเลยค่ะ แต่ดูจากชื่อแล้ว เนื้อหาน่าจะน่าสนใจนะคะ

คุณpnottimez
Pan's Labyrinth อยากดูมั่กๆ มั่กๆค่ะ มาฉายมะไร ไม่พลาดแน่นอนแน่นอนค่ะ ^_^

คุณTony KooN
โดยส่วนตัวแล้ว เรื่องรางวัลนี่ เราก็ไม่รู้ว่าเค๊าใช้มาตราฐานอย่างไรมาวัดอ่ะนะคะ (แต่นั่นก็ช่างเค๊าดีก่า อิอิ) รู้แต่ว่า หนังเรื่องไหนเรื่องไหนที่ทำเอาเราซาบซึ้ง ให้ได้คิด ให้ได้ตระหนักถึงการดำรงอยู่ เราก็จะชอบจะดีใจที่ได้ดู..อ่ะค่ะ ^_^
ส่วนหนังจีนนั้น มีแผ่นในสต็อคเหมือนกันค่ะ มีโอกาสงามๆมะไร ก็จะเขียนถึงแน่นอนค่า ...ขอบคุณค่า ที่ช่วยแนะนำ
และ The Tokyo Trial ก็ยังไม่เคยดูค่ะ





โดย: renton_renton วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:13:43:54 น.  

 
พี่ฝากไปกะสายลมแล้วนะน้อง
อีกไม่นานเกินรอ ...
สุดสัปดาห์นี้น้องไม่เหงาแน่จ้า




โดย: สะเทื้อน วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:15:34:53 น.  

 
^
^
^
ขอบคุณมากกกกกกกค่า



โดย: renton_renton วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:16:08:43 น.  

 
หวัดดีจ้า

หาย(หัว)ไปนานอีกแล้วเรา เรื่องนี้เราดูนานแล้วเหมือนกัน สักเกือบ2ปีที่แล้วได้ แต่อ่านที่เรนตันเล่าก็ยังพอจะจำได้อยู่
( เรนตัน เล่าได้สนุกและน่าสนใจมากกว่าตอนที่เราดูอีก )

เรนตัน ไปดูเรื่อง the lives of others มายัง เราดูแล้วก็ชอบในระดับหนึ่งนะ โดยส่วนตัวไม่ชอบหนังการเมื่อง แต่เรื่องนี้เขาเข้าใจเอาการเมืองกับเรื่องราวดราม่าสะเทือนใจมาผสมผสานกันได้ดี ความสนุกใช้ได้ ความฉลาดในการเล่าเรื่องอยู่ในขั้นดี แต่จะสมกับออสการ์รึเปล่าอันนี้ไม่รู้ เพราะยังดูหนังที่เข้าชิงไม่ครบเลย ( อาจจะไปครบเอาปีหน้า )แต่ก็ออสการ์อ่ะนะใช้เป็นมาตรฐานอะไรไม่ค่อยได้เนอะ อีกอย่าง..ใจเรามันลำเอียงให้รางวัลหนังเรื่องอื่นไปแล้วด้วย


โดย: goldfish memory วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:20:13:34 น.  

 
^
^
หวัดดีเช่นกันจ้า

หนังเรื่องนี้ เราเองก็ซื้อไว้แล้วร่วมปี พึ่งจะได้ดู เพราะเพื่อนเพิ่งเอามาคืน

the lives of others ไปดูมาแล้วค่ะ...ชอบมั่กๆ ชอบในเรื่องของ คนที่มีความผูกพันกันทางใจ แต่ไม่ใช่เรื่องชู้สาว ชอบตรงที่เห็นความอ่อนโยน(แม้จะอยู่ลึก ..แต่นั่นก็คือ "มี") ภายใต้ความเข้มความเด็ดขาดของความเป็นสายลับของทางการ..ยิ่งตอนสุดท้ายนะ...ตื้นตันมากๆ ที่เกี่ยวกับหนังสืออ่ะ .... ประทับใจสุดๆ

ดีใจที่หนังได้รางวัล แต่คิดว่าก็ไม่เสียดาย หากหนังจะพลาดรางวัล เพราะยังไงเสีย เราก็รักหนังที่เรารู้สึกว่ารักได้ไม่น้อยไปกว่าเดิมอยู่ดี

แล้วที่ปลาทองบอกว่า " อีกอย่าง..ใจเรามันลำเอียงให้รางวัลหนังเรื่องอื่นไปแล้วด้วย " อ่ะ..อันนี้หมายถึงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของออสก้าร์ป่าว ..ถ้าใช่ ..ก็คิดเหมือนกันจ้า...หุหุ






โดย: renton_renton วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:21:14:53 น.  

 
ชอบดูหนังที่เกี่ยวกับสัมพันธภาพในครอบครัวค่ะ ดูแล้วอินดี มันเป็นเรื่องใกล้ๆตัวเนอะ คิดว่าทุกคนมีอารมณ์ร่วมได้

เรื่องนี้เห็นมานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสดูเลยค่ะ ไม่รู้เอาเวลาไปทำอะไรหมด :(


โดย: DropAtearInMyWineGlass วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:22:06:11 น.  

 
อ๊ากกกกก...กว่าจะได้มีชีวิตเป็นผู้เป็นคนกะเค้าซักทีหลังจากต้องอยู่ที่ทำงานยันเที่ยงคืนมาเกือบสองอาทิตย์อ่ะคุณ renton

หนังเรื่องนี้ให้แง่คิดแก่คนดูได้ดีทีเดียวประเด็นพูดถึงเรื่องครอบครัวซึ่งสังคมไทยเองก็เป็นสังคมที่ผูกพันกับครอบครัวใหญ่กันมานาน จนปัจจุบันต้องแยกออกไปเป็นครอบครัวเล็กๆ พ่อแม่ลูก บางครั้งคนในครอบครัวมีปัญหาแต่คนในครอบครัวละเลยหรือไม่ได้สนใจเพราะต่างคนต่างอยู่ไม่ได้เจอหน้ากัน ไม่มีเวลาปรึกษาปัญหา หรือปรับความเข้าใจกัน จนเกิดความหมางเมินกัน นานวันยิ่งยากแก่การปรับความเข้าใจซึ่งกันเลยกันอ่ะ ดูหนังแล้วย้อนกลับไปดูตัวเอง หนังให้แง่คิดอะไรกับเราได้เยอะทีเดียวเลย นับถือในการรีวิวหนังของคุณrentonจริงๆค่ะ มากี่ทีๆก็ได้อ่านรีวิวหนังทีทุกทีเลยอ่ะ

ปล. ไปดู 300 มาหรือยังค่ะคุณrenton ยังไงอย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังนะค่ะ ยังไม่ได้มีโอกาสดูเลย อีกรเองที่อยากดูก็เรื่อง Charlotte’s Web นะค่ะ เคยแต่อ่านเป็นหนังสือนอกเวลาสมัยเด็ก


โดย: i_am_redangel วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:1:45:59 น.  

 


คุณDropAtearInMyWineGlass
ที่ยังไม่มีโอกาสได้ดู สงสัยเพราะขมักเขม้นทำขนมน่าทานอยู่ล่ะมัง ( ข อ เจี๊ ย ะ ด้ ว ย ค น ... )

คุณ นางฟ้าสีแดง
ทำงานถึงเที่ยงคืนติดมา 2 อาทิตย์แล้ว มิใช่ตาโบ๋ขอบตาดำเป็นหมีแพนด้า อ่ะ หมีแพนด้า ไปแล้วหรอป่านนี้ หุหุ

300 กะว่าจะไปดูพรุ่งนี้แหละจ้า มีโอกาสก็จะมาเล่าให้ฟังเน้อ ส่วน Charlotte’s Web ก็........ไว้ก่อนไว้ก่อน

มะคืนดูแฟนฟันแท้ แมนยู แหละ ได้ดูป่ะคะ หนุกดีนะ (หมั่นไส้ด้วย เจ้าคนที่เย้ยหงส์อ่ะ ..ชิ )



โดย: renton_renton วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:10:41:00 น.  

 
ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้เลยครับ แต่หลังจากอ่านรีวิวและดูMVแล้ว คิดว่าถึงเวลาหามาดูสักที


โดย: das Kino วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:11:25:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

renton-renton
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Photobucket.Just wait until night then switch the light off
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ “เด็ก” ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
13 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add renton-renton's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.