★ The White Sound ... สีขาวที่ขุ่นคลั่ก (2001)




ลูคัส เดินทางมาพักกับพี่สาว กาตี้ ที่เมืองโคโลญจน์ประเทศเยอรมันนี ไปงานปาร์ตี้เลี้ยงฉลองพบหญิงสาวถูกใจจึงชวนเธอไปดูหนัง แต่ต้องผิดหวังเมื่อหนังเรื่อง Taxi Driver ที่ต้องการจะดูนั้นเข้าฉายเฉพาะวันจันทร์ซึ่งไม่ใช่วันนี้ ลูคัสจึงฉุนขาดโวยวายสติแตกจนสาวเจ้านั้นอับอายรับไม่ไหว เดินหนีจากเขาไปอย่างไม่ไยดี

ลูคัส, กาตี้และ โยคาน แฟนพี่สาว ทั้งสามคนมีเวลาออกไปตระเวนเที่ยวกัน เสพสิ่งมึนเมาเข้าขั้น แล้วลูคัสก็เริ่มได้ยินเสียงพูดแทรกอวลกวนใจอยู่ตลอดเวลาทั้งเสียงต่อว่า เย้ยหยันหรือหัวเราะเยาะ แล้วเริ่มแสดงพฤติกรรมแปลกๆ บ้างขังตัวเองในห้องน้ำ, จดสิ่งที่เขาจะต้องทำลงในสมุด บางครั้งก็เขียนบนผนังหรือนั่งดูสัญญาณปล่าวว่างจากจอโทรทัศน์ ร้ายแรงที่สุดคือทำร้ายตัวเอง

กาตี้นำตัวน้องชายส่งโรงพยาบาล หมอวินิจฉัยว่าเขาเป็นโรคจิตที่มีอาการเพ้อฝันไม่อยู่ในความเป็นจริง จึงต้องอยู่รักษาตัวระยะหนึ่ง เมื่ออาการดีขึ้นกาตี้มารับกลับไปอยู่บ้านเพื่อจะได้ใช้ชีวิตอย่างคนปกติ ลูคัสออกไปสมัครงานแล้วได้งานที่โรงงานผลิตและประกอบหุ่นโชว์หน้าร้าน หน้าที่ที่เขาต้องทำคือขัดตกแต่ง

ระหว่างนี้ลูคัสยังต้องกินยาต่อเนื่องเพื่อรักษาอาการจิตหลอนให้ได้ยินเสียงอื่นเบาบางลง โยคานทักท้วงว่าหากกินแล้วยังทำให้มีอาการอยู่ก็แล้วจะกินทำไม ลูคัสจึงตัดสินใจทิ้งยาที่มีทั้งหมด อาการจิตหลอนได้ยินเสียงคำสั่งคำด่าเลยยิ่งกำเริบ ส่งผลให้วิถีชีวิตของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง




หากไม่นับรวมหนังที่ ฮานส์ ไวน์การ์ทเนอร์ นั่งในตำแหน่งเป็นผู้กำกับฯมาแล้วก่อนหน้านี้ 3 เรื่อง หนังในลำดับที่ 4 Weiße Rauschen, Das (2001) หรือ The White Sound นี้เป็นหนังยาวเรื่องแรกที่เขาทั้งทุ่มเทแรงกายแรงใจให้ทุกอย่างด้วยการนำความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่เกี่ยวกับโรคประสาทและทางด้านศิลปะการถ่ายภาพเพื่อภาพภาพยนตร์มาใช้ จึงเป็นอันเข้าใจเมื่อชื่อของเขาปรากฏอยู่ทั้งในตำแหน่งผู้กำกับฯ, ผู้ร่วมเขียนบทและร่วมกำกับฯงานด้านภาพ และผลงานการกำกับทั้ง 3 เรื่องก่อนหน้าเรื่องนี้นั้นเป็นหนังสั้นทั้งสิ้น

หนังมีตัวละครหลักอยู่ 3 คนคือ ลูคัส, กาตี้และโยคานที่ผลัดเปลี่ยนช่วยกันขับเคลื่อนและดันเรื่องราวไปข้างหน้า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าภาพของพ่อที่โผล่มาเพียงแค่ไม่กี่นาทีในช่วงที่กาตี้ไปสอบถามเรื่องแม่ ก็เป็นช่วงจังหวะที่ทรงพลังยิ่ง จนแทบจะอยากนับพ่อให้เป็นตัวละครหลักตัวที่ 4 ไปด้วยเลย ทั้งการนิ่งเฉยของใบหน้าแต่ด้วยอากัปกิริยาเล็กน้อยของมือและสายตากลับแสดงออกได้ถึงความครั่นคร้ามจากภายในใจ เพราะเพียงเท่านี้หนังก็ทำให้เรารับรู้ได้ว่าอดีตและความเป็นไปของแม่นั้นเป็นเรื่องไม่ง่ายนักที่จะเอ่ยออกมาและส่งให้เรื่องเบื้องหลังนี้สนับสนุนความเป็นลูคัสในปัจจุบันหนักแน่นยิ่งขึ้นไปอีก ในส่วนตัวแล้วฉากนี้เป็นฉากประทับใจที่สุดในนิยาม ทำน้อยแต่ได้มาก

ลูคัส ของ แดเนี่ยล บรูห์ล ยอดเยี่ยมในการให้ความหมายที่ใหม่สดสะอาดของหนุ่มต่างจังหวัดมาถูกปั่นย้อมด้วยความวุ่นวายในเมืองใหญ่ การแสดงลูกบ้าตามประสาหนุ่มรุ่นกระทงก็ดูน่าขันและความดุดันเมื่อเสียงจากในหัวทำงานก็ทำได้หวาดเอาเรื่อง ฝีไม้ลายมือของ แดเนี่ยล บรูห์ล ได้มาสว่างกระจ่างแจ้งต่อสายตาคนดูหนังในบ้านเราเมื่อ Good Bye Lenin! (2003, อเลกซานเดอร์ เคอร์เนอร์) เข้าฉายที่ ลิโด้ ช่วงเดือนกรกฎาคมปี 2547 และ The Edukators (2004, ฮานส์ ไวน์การ์ทเนอร์) เข้าฉายที่ เฮ้าส์ ในช่วงเดือนมีนาคมปี 2548

จุดใหญ่ใจความสำคัญของ The White Sound อยู่ที่ “ผู้คนรอบข้าง” ด้วยการดูแลของคนในครอบครัวผู้ป่วย ถึงพ้นจากส่วนนี้ไปแล้วก็อยู่ที่การเอาใจใส่หรือเข้าใจของคนในสังคม หนังไม่ได้บอกตรงๆหรือต่อว่าว่าคนอื่นทุกคนล้วนมีส่วนผลักดันให้ “คน(ป่วย)” คนหนึ่งต้องประสบพบเจออะไรบ้างในระหว่างชีวิตดำเนินอยู่ และหนังเองก็ไม่ได้แสดงตนเพื่อให้ผู้คนลุกขึ้นมาเอาใจใส่ดูแลประคบประหงมผู้ป่วยจนขาดอิสระในชีวิต




การไม่ได้รับการเอาใจใส่อย่างดีพอจากคนรอบข้างหรืออาจพูดได้ว่าความเข้าใจในโรคนี้ของผู้อื่น(ซึ่งมีอยู่น้อย) นั้น ก็มีส่วนผลักดันให้เส้นทางชีวิตของลูคัสเหห่างและเริ่มหลุดออกจากวงโคจรของคนปกติอยู่บ้างทีละน้อย เริ่มตั้งแต่การที่พ่อยอมให้ลูคัสเดินทางมาหาพี่สาวถึงต่างเมือง ส่วนกาตี้พี่สาวเองมีห่วงใยแต่ไม่หักหาญพอที่ควบคุมดูแลน้องได้ โยคานบุคคลที่มีความต่อต้านสังคมปรากฏให้เห็นอยู่บ้างนั้นก็ช่วยคิดช่วยตัดสินใจโดยใช้ความเห็นส่วนตัวเป็นที่ตั้ง ทั้งเรื่องเรียนต่อของลูคัสและการใช้ยารักษาโรคจิตหลอน

หนังแอบบอกกับคนดูว่ามีความเป็นไปได้ที่หากมีบุคคลในครอบครัวประสบปัญหาทางจิตอยู่แล้วนั้น การถ่ายทอดทางพันธุกรรมก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ เป็นไปตามฉากในหนังเมื่อกาตี้ได้รับคำถามจากหมอที่วินิจฉัยลูคัสถามว่า เคยมีใครในครอบครัวเป็นผู้ป่วยทางจิตหรือไม่ กาตี้จึงเดินทางไปหาพ่อที่ต่างจังหวัดเพื่อถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ที่เสียชีวิตไปแล้วของเธอกันแน่?

และเรายังจะเห็นอีกว่าบทหนังมีความพยายามที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ผูกร้อยความเป็นชายให้คู่กับหญิงอย่างปกติ แต่กลับล้มเหลวหนักเมื่อเรื่องธรรมชาติอย่างนี้ต้องเข้ามาวนเวียนอยู่รอบตัวของลูคัส นับตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องที่ลูคัสพยายามดึงดูดความสนใจจากหญิงสาวบนรถไฟซึ่งเธอเองก็ยิ้มแย้มขำขันในท่าทีของเขาแล้วภาพก็ตัดมาที่หญิงชายกำลังมีกิจกรรมบนเตียงอย่างออกรส ประหนึ่งว่าไม่ผิดแน่ที่ลูคัสและหญิงสาวนั้นใจตรงกัน แต่แท้จริงแล้วคู่หญิงชายนั้นคือกาตี้และโยคานต่างหาก อีกความผูกพันฉันท์แม่ลูกระหว่างแม่กับลูคัสนั้นก็ถูกเจือจางด้วยการที่แม่ต้องเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเด็ก

หรือเมื่อครั้งที่เขาออกเดทไปดูหนังกับหญิงสาว เขาก็ยังเป็นคนทำเรื่องให้เสีย ให้มันพังพินาศลงไปเอง และอีกหนึ่งในโรงงานประกอบหุ่นซึ่งเป็นหุ่นผู้หญิง การได้ใกล้ชิดกับสรีระผู้หญิงแต่ก็เป็นเพียงแบบแยกส่วน ส่วนศรีษะที่เขารู้สึกได้ราวกับหุ่นมีชีวิต การขัดถูบริเวณลำตัวอย่างไม่ละเลยใน “จุดนั้น” แม้กระทั่ง “มือ” ที่เห็นแล้วเราจะรู้สึกอบอุ่นใจแทนได้ไม่ยากหากมือนั้นเป็นของหญิงสาวจริง

ความเหินห่างของครอบครัว ความแตกต่างของบุคคล และการถูกแยกส่วนของความสัมพันธ์ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่บอกเราได้ถึงการสิ้นสุดของการมี “ตัวตน” เมื่อใครคนนั้นถูกละเลยและมองข้าม ทั้งหมดแล้วจึงเป็นภาพรวมของคนคนหนึ่งและการเผชิญปัญหาที่เกินจะควบคุมได้ทั้งจากภายในและภายนอก ต้องต่อสู้กับตัวเองและผู้อื่น

การดูแลและเอาใจใส่คนใกล้ตัวให้ดีคงไม่ใช่เรื่องที่หนักหนาอีกต่อไปหากเห็นคำตอบสุดท้ายในเรื่องนี้






:: Please welcome ::

ขอเชิญ ทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็นต่อหนังหลากเรื่องหลายแนว ทั้งชนโรง ทั้งหนังแผ่น ได้ที่ //vreview.yarisme.com ค่ะ และเรายังมีกิจกรรมให้ทุกท่านมีสิทธิลุ้นรับบัตร Major M Cash มูลค่า 500 บาท ฟรี!!!! จำนวน 8 ใบ ทุกเดือนอีกด้วย
.
.







Create Date : 14 สิงหาคม 2551
Last Update : 14 สิงหาคม 2551 16:27:44 น. 27 comments
Counter : 1310 Pageviews.

 
ผมอยากดู Haima จัง แต่ไม่รู้จะไปหาที่ไหนมาดู


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:15:54:40 น.  

 

หนังที่ได้ดู



Anche libero va bene (2006)
Along the Ridge (International: English title)
Dir. :: Kim Rossi Stuart
Country :: Italy

++ หนังดราม่าเรียกน้ำตารื้นๆจากความเข้มข้นกดดันในการแบกรับเรื่องราวต่างๆที่เกินวัยของเด็กชายวัย 11 ขวบ ทอมมี่ (อเลซซานโคร โมเรซ) ทั้งเรื่องของพ่อ ของแม่ และเรื่องความรักของตัวเอง หนังจบอย่างปวดร้าวใจเป็นที่สุดสำหรับเด็กวัยนี้





Barton Fink (1991)
Dir. :: Joel Coen
Country :: USA

++ เป็นหนังที่มีเสน่ห์เหลือล้นจากการแสดงของทั้งสองจอห์น หนึ่งจอห์น เทอร์เทอโร สอง จอห์น กู๊ดแมน และบทหนังที่มีลูกเล่นแสดงถึงการคิดมาอย่างพอดี ไม่เยอะไม่วุ่นวายไม่ซับซ้อนให้ยุ่งขิงเหมือนเรื่องอื่นๆของผู้กำกับฯเจ้าเดียวกันนี้....หนังสนุกจริงๆ




โดย: renton_renton วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:16:06:18 น.  

 
อืม


โดย: boyblackcat วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:17:56:53 น.  

 
เรื่องเป็นอย่างนี้นี่เอง
เห็นใบปิดแล้วดูไม่ออกว่าแนวไหน


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:2:11:28 น.  

 
+ กี๊ซซซ อยากดูอ่ะคับ ... ผมชอบดูหนังแนวไซโคอยู่แล้วด้วย (ถึงแม้บางทีจะดูไม่รู้เรื่องก็ตาม) ... อีกอย่างชอบฝีมือการแสดงของคุณน้อง แดเนี่ยล บรูห์ล ด้วยอ่ะครับ

+ Barton fink ก็น่าดูอีกเรื่องอ่า

+ ผมอัพหน้าใหม่แล้วเน้อ เป็น event ที่ไปชมมา รอบนี้ลืมติ๊กแจ้งที่ mail alert อ่ะครับ


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:17:12:23 น.  

 
ท่าทางงานจะเข้าสิงถาวร 555+

แต่ยังไงก็มีเวลามานั่งปั่นข่วงวันหยุดว่างๆ (พร้อมกับไปดูเจ้าหุ่นน้อยมาด้วย อิอิ) ไปรับชมกันได้เด้อ

ส่วนเรื่องนี้ แค่เลื่อนลงมาเห็นหน้านายแดเนี่ยล ต่อมความอยากดูก็ทำงานแล้ว นี้เป็นผลงานแจ้งเกิดหรือนี้

ส่วน Barton Fink ในที่สุดก็ได้ดูน่ะ หึหึ แต่เราจำอะไรไม่ได้แล้วอ่ะ...(โปสเตอร์เวอร์ชั่นนี้ แว๊บแรกคล้าย Erasurehead ของ David Lynch จังง)


โดย: BloodyMonday วันที่: 16 สิงหาคม 2551 เวลา:19:09:29 น.  

 
เพิ่งไปเขียนเม้นท์เรื่องความสัมพันธ์ของครอบครัว
และสถาบันครอบครัวมาเองอ่ะคะ แล้วก็คลิกมาที่นี่
มาอ่านแล้วก็เหมือนว่า เข้ากันดีจังกับการเม้นท์
บล็อกนั้น ประมาณว่า ... ครอบครัวนี้ สำคัญ
จริงๆ นะคะ แบบว่ารากฐานของคนเราจะเข้าสังคม
ได้ดีหรือว่าไม่ดีนั้น ก็ต้องเริ่มต้นด้วยครอบครัว
นี่ล่ะค่ะก่อนเพื่อนเลย ...

เรื่องราวเหมือนจะเรียบ ๆ นะคะ แต่ว่ามีอะไร
แฝงเร้นอยู่อีกแล้ว .. เยอะด้วย กับการให้เรา
มองเห็นอะไรๆ จากตัวละครทุกตัวนะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 17 สิงหาคม 2551 เวลา:1:27:40 น.  

 

I will see U in the next life.
^_^

boyblackcat
อืมม...นั่นอ่ะดิ

น้าเอ้
เห็นใบปิดทีแรกแล้วจี๊ดดด 555
แต่ก็ยังคิดว่าหนังจะแรงกว่านี้

บลูยอชท์
แดเนี่ยล บรูห์ล เวลาแกเล่นแบบจิตๆนี่ก็ใช้ได้เลย จะหน่อมแน้มก็ดูดี อิอิ

BdMd
ดีใจด้วยที่งานเข้าถาวร ดีแล้วดีแล้ว
wall-e คงไม่ได้ดูอ่ะ ที่นี่ไม่มีเข้าฉายเลย

โปสเตอร์(หัวฟูของ) Barton Fink เหมือน Erasurehead (1977)
แต่เรานึกถึง The birds (1963) ของ ลุง Hitchcock อ่ะ..มันก็ไม่เหมือนอ่ะนะ แต่อารมณ์มันพาไป ประมาณว่ามีอะไรบินๆอยู่ตรงหน้า





jewNid
ความเข้าใจจากคนในครอบครัวสำคัญจริงๆค่ะ


โดย: renton_renton วันที่: 17 สิงหาคม 2551 เวลา:8:52:00 น.  

 
สวัสดี แวะมาเยี่ยมชมคับ


โดย: ennisdelmar IP: 202.176.103.217 วันที่: 17 สิงหาคม 2551 เวลา:12:17:39 น.  

 
แหม เสียดาย อนิเมชั่นแบบนี้ ถ้าได้ดูในโรงจะโอเคมากเลยน่ะ... ไม่เป็นไรรอแผ่นละกัน ^^

อันนี้ก็คล้ายๆน่ะ ถึงแม้ว่าจะมองไปคนละทาง และอารมณ์จะแตกต่างกัน หึหึิ



โดย: BloodyMonday วันที่: 17 สิงหาคม 2551 เวลา:15:46:41 น.  

 
มีหนังมากกว่า 30 เรื่องที่ผมซื้อดีวีดีมา
และอยากดูมากครับ

แต่หนุ่มคนนี้ไม่อนุญาตให้ผมดูครับ









โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 17 สิงหาคม 2551 เวลา:18:13:40 น.  

 

RAFA SCORES OLYMPIC MEDAL AFTER EPIC SEMIFINAL


ดีใจจัง Rafael Nadal จะขึ้นเป็นมือ 1 ชองโลกในวันพรุ่งนี้


ตะกี้ก็ได้เหรียญทองเทนนิส Beijing 2008 ด้วย


 




โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 17 สิงหาคม 2551 เวลา:19:41:28 น.  

 
เป็นหนังที่น่าสนใจมากค่ะ
สะท้อนชีวิตของคน ๆ หนึ่งที่ถูกหล่อหลอมจากครอบครัวและสิ่งแวดล้อมได้ดีทีเดียว
รีวิวเก่งจังเลยค่ะ


โดย: Almondblist วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:0:53:40 น.  

 
แวะมาสวัสดีครับ แต่ยังไม่ได้อ่านอะไรมาก ขอโทษด้วยนะครับ แล้วจะแวะเข้ามาอีก


โดย: palao วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:7:33:20 น.  

 
ยังไม่ได้ดูซักกะเรื่องเลย ฮือ

อ้อ พลพรรคหนุ่มเสื้อเทา วันเสาร์เล่นไม่ดีแต่สามแต้ม ชิลๆ


โดย: getterTu วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:7:53:40 น.  

 
สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่เข้าไปแวะคอมเม้นต์ที่บล็อกนะคะ
หมู่นี้ไม่ค่อยได้ดูหนังต่างประเทศเลย แฮ่..จริงๆแล้วตั้งแต่เรียนจบก็วนเวียนดูแต่หนังฮอลลีวู้ด เรื่องนี้น่าสนใจจังค่ะ ชอบตอนที่ตัวเอกของเรื่องดูจะมีปฏิสัมพันธ์กับหุ่นผู้หญิงได้ดีกว่าผู้หญิงจริงๆซะอีก นึกถึงเรื่อง Lars and the real girl เลย
แล้วจะแวะมาอ่านรีวิวหนังดีๆอีกนะคะ^^


โดย: apple_cinnamon วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:12:17:27 น.  

 
หวัดดีคับ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคับ คุณ renton ดูหนังที่ไม่ใช่ Hollywood เยอะจัง คือตอนนี้ผมอยากหาซื้อ Life is Beautiful มาดูง่ะ ต้องดูเพื่อเอาไว้สอบ เรื่องนี้ดังมั๊ยอะคับ ไม่กล้าถามคนขายเพราะดูหน้าตาไม่น่าจะรู้จัก เลยไม่รู้จะไปซื้อที่ไหนดี งืม


โดย: Moonlight Mile วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:20:51:21 น.  

 
เท่าที่มอง ๆ มาเห็นแต่เรื่องBe Kind Rewind เท่านั้นหล่ะครับที่ได้ดู ชอบมาก ฉากล้อเรื่อง บรษัทกำจัดผี กับ ไลออน คิง ฮามาก ๆ ๆขอบอก ๆ ๆ
แถมบล็อคนี้ยังมีแจก บัตรฟรีอีก น่ารักจังเลย ต้องแวะมาบ่อย ๆ แล้วหล่ะ


โดย: palao วันที่: 18 สิงหาคม 2551 เวลา:23:05:13 น.  

 
ennisdelmar
^_^

BdMd
ได้ดูแล้วล่ะ แต่แบบจอเล็กนะ ^^

กะว่าก๋า
^_^

เริงฤดีนะ
^_^ คนอาไร๊ ทั้งเก่งทั้งเท่

Almondblist
^_^ มีโอกาสก็แวะมาอีกนะคะ

getter Tu



apple_cinnanon
ชอบๆ Lars and the real girl ^^

Moonlight Mile
Life is Beautiful (Vita ? bella, La -1997) เราก็เจออยู่นะ ตอนนี้ราคาไม่แพงด้วย (จริงๆราคาไม่แพงมานานแล้วล่ะ หุหุ)
หาได้ไม่ยาก ล่าสุดเห็นที่กะบะหน้าร้านบูมเมอร์แรง (ก็น่าจะทุกสาขา) หรือที่ร้านอื่นก็ถามคนขายได้เลยค่ะ หนังดัง
หนังเรื่องนี้ได้รับรางวัลภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม,รางวัลดารานำชายยอดเยี่ยมจากออสการ์ปี 1999 ค่ะ
ลองดูที่นี่ก็ได้ค่ะ imdb

palao
ดู Be Kind Rewind แล้วมีความสุข ^^

ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ









โดย: renton_renton วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:8:41:50 น.  

 
คุณช่างไปหาหนังดีๆ ที่ไหนมาดูได้ตลอดเวลาแบบนี้นะ น่าอิจฉาจริงๆ เลย
ทำให้ผมคิดว่าควรบรรจุ "การดูหนังดีๆ" ไว้เป็นอีกอย่างหนึ่งในกิจกรรมที่ควรทำเป็นประจำ
( นอกเหนือจากอ่านหนังสือ วาดภาพ ร้องเพลง ถ่ายรูป เล่นเน็ท ฯลฯ )



โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:21:13:53 น.  

 
แวะมาอ่านเรื่องราวครับ แต่คงหาเช่าเรื่องนี้ไม่ได้อีกตามเคย


โดย: Johann sebastian Bach วันที่: 19 สิงหาคม 2551 เวลา:21:25:01 น.  

 
soy'muj86Iwfhf^.o-hv8;k,mujlv' me.shz,diuUf]yjo[hko


โดย: เจ้าชายไร้เงา วันที่: 20 สิงหาคม 2551 เวลา:7:53:28 น.  

 
อ้าว เฮ้ย! พิมพ์ไปโดยไม่มองคีย์บอร์ด มัวแต่มองนอกบ้าน

จะบอกว่า เห็นหนังที่คุณได้ดูในข้อความที่สองแล้วกรี๊ดลั่นบ้าน


โดย: เจ้าชายไร้เงา วันที่: 20 สิงหาคม 2551 เวลา:7:55:24 น.  

 
เคยอ่านพล็อต Barton Fink แล้วคิดว่าพี่น้องคู่นี่มันใกล้บ้าแล้วเป็นแน่ เหอๆ


โดย: wayakon IP: 58.9.106.5 วันที่: 20 สิงหาคม 2551 เวลา:23:24:41 น.  

 
็House of Games เรามีน่ะ (ยังไม่ได้หยิบมาดู) แต่ว่าเห็นโลเกชั่นใหม่แล้ว โอ้ว อุบล ไว้กลับมากทม.เมื่อไรจะไรท์ไปฝากน่ะ แหะๆๆ

ส่วน Dirty Pretty Things เห็นด้วยอย่างแรง พี่แกเป็นเสาหลักของเรื่องจริงๆ ส่วน Redbelt แนะนำๆเหมือนกัน เราไป "บิด" ขี้เกียจมาดู :-)


โดย: BdMd IP: 124.120.64.35 วันที่: 21 สิงหาคม 2551 เวลา:21:32:02 น.  

 
+ โอ๊ะโอว! อุบลฯ เชียวรึนี่ ต้องไปทำงานประจำการอยู่แถบนั้นเหรอครับ? นานมั้ยเอ่ย ... อย่างงี้บางทีก็พลาดดูหนังโรงเรื่องที่เข้าที่กุงเต้บ แต่ไม่เข้าที่นี่อ่ะจิครับ (โดยเฉพาะหนังลิโด & เฮาส์)


โดย: บลูยอชท์ วันที่: 22 สิงหาคม 2551 เวลา:16:45:27 น.  

 
พลทหารไรอัน
^_^

Johann sebastian Bach
^_^ "

เจ้าชายไร้เงา
^_^

wayakon
^_^

(อา...มาแจกยิ้มอย่างเดียวงานนี้ ^_^)

BdMd
ขอขอบใจ ^_^
"บิด" ขี้เกียจ - - - บ่อยๆ ระวังนะ ตัวจะเป็นเกลียว อิอิ

บลูยอชท์
ปลดประจำการจากเมืองหลวง แล้วมาอยู่บ้านไร่ปลายนาถาวรค่ะ
หนังที่เข้าฉายลิโด้กับเฮ้าส์ก็..ทำได้อย่างเดียวคือทำใจ ^_^



โดย: renton_renton วันที่: 23 สิงหาคม 2551 เวลา:6:29:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

renton-renton
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Photobucket.Just wait until night then switch the light off
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ “เด็ก” ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
14 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add renton-renton's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.