Bloggang.com : renton-renton : Sophie Scholl...The Final Days (2005)....... : Sad Movie + Helen The Baby Fox

Sophie Scholl...The Final Days (2005)....... : Sad Movie + Helen The Baby Fox

Sophie Scholl - Die letzten Tage (2005)

หนังจากประเทศเยอรมัน ที่เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขา Best Foreign Language Film of the Year พร้อมๆกับ Don't Tell จากอิตาลี และ Tsotsi จาก South Africa

Sophie Scholl สร้างจากเรื่องจริงและชีวิตจริงของแกนนำหญิงของกลุ่มนักศึกษาปัญญาชนภายใต้องค์กร " กุหลาบขาว : white roses " ที่ก่อตั้งเพื่อหยุดยั้งและโค่นล้มรัฐบาลเยอรมันนี ในยุคที่จอมเผด็จการฮิตเล่อร์กุมอำนาจ

18 กุมภาพันธ์ ปี 1943 Sophie Scholl ในวัย 19 ปี ต้องถูกจับกุมพร้อมพี่ชายของเธอ Hans Scholl ในมหาวิทยาลัย ขณะที่กำลังแอบแจกใบปลิวที่ว่าด้วยการต่อต้านนาซี

ด้วยปณิธานอันแรงกล้าของเธอ ไม่ว่าจะถูกเค้นสอบสวนและถูกชี้นำให้รับผิดอย่างไร เธอก็ยังมีใจแน่วแน่ในอุดมคติไม่เปิดโปงเรื่องขององค์กรกุหลาบขาวหรือซัดทอดเพื่อนร่วมอุดมณ์การแต่อย่างใด และยังปฏิเสธหนักแน่นที่จะหลบหนีตามที่เจ้าหน้าที่สอบสวนได้ให้โอกาสแก่เธอ

เธอ ยินดีและพร้อมที่จะรับบทลงโทษ อันไร้มนุษยธรรมของระบอบนาซีโดยไม่ประหวั่นพรั่นพรึงแม้แต่น้อย ต่อให้เป็นการต้องจบชีวิตตนไปก็ตาม

Sophie Scholl แสดงโดยนักแสดงหญิงชาวเยอรมัน Julia Jentsch ที่มีผลงานเข้ามาฉายในบ้านเราจากหนังเรื่อง The Edukators (2004) กับบทบาทของเธอในเรื่องนี้ เราขอบอกว่า เธอแบกรับภาระในการรับผิดชอบการเป็นแกนของเรื่องได้ยอดเยี่ยมมากๆ ทั้งจากการแสดงที่พองามในความเป็นคนที่มีวุฒิภาวะสูงส่ง พูดจาฉะฉาน และตอบคำถามด้วยไหวพริบปฏิภานเป็นเลิศ ทั้งสีหน้าแววตาที่ทั้งแกร่งและกร้าว ทั้งหมดเธอทำได้ดีมากๆ สุดยอดจริงๆ

ส่วนฉากที่ตรึงความรู้สึกของเราคือ

ตอนที่ โซฟี โชลล์ ขึ้นให้การในศาล
ลองนึกภาพ ที่ทุกคนที่เข้ารับฟังการไต่สวน ซึ่งมีประมาณ 40 50 คน และทุกคนเป็นเจ้าหน้าที่(หรือข้าราชการ)ที่แต่งตัวเต็มยศ นั่งพิงพนักเก้าอี้ฟังอย่างตั้งใจ
ส่วนบนบัลลังก์ มีท่านผู้พิพากษาที่ใส่ชุดสีแดงเพลิงราวกับเป็นการข่มขู่เป็นนัยนัย และยังมีที่นั่งข้างท่านผู้พิพากษาซ้ายขวาอีกข้างละสองท่าน ที่คอยปั้นหน้าตูมขึงขัง

และโซฟี ต้องออกมายืนโดดเดี่ยวต่อหน้าท่านผู้พิพากษา ที่ป้อนคำถาม แบบตะโกน กรรโชก และขู่ ชนิดไม่ต้องหายใจหายคอ ไม่มีจังหวะให้ฝ่ายจำเลยได้คิดตอบโต้ หรือถ้ามีคำชี้แจงจากโซฟี ยังไงเสียเธอก็โดนในข้อหาเข้าข่ายเป็นปฏิปักต่อรัฐบาลอยู่ดี

ประมาณว่า ไม่ว่าจะพยายามชี้แจงยังไงก็ฟังไม่ขึ้น ยังไงก็โดน ยังไงก็โดน

ส่วนอีกฉากนึงที่ประทับใจ

ตอนที่โซฟี ถูกตัดสินลงโทษแล้ว และเธอถูกพาเข้ามาในห้องขังอีกครั้ง
เธอกรีดร้องสุดเสียง ระบายความอัดอั้นที่อยู่ในใจออกมา ไม่ใช่เสียงคร่ำครวญต่อการเสียดายชีวิต แต่เป็นเสียงร้องของเสรีภาพที่โดนปิดกั้น และเธอเอาชนะมันไม่ได้

เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เราเห็นและรับรู้ในหัวใจด้านที่อ่อนไหวของเธอ

และอีกหนึ่ง ที่ จะบอกว่าเรียกต่อมน้ำตาให้ทำงานก็ว่าได้
คือตอน ในวันที่โซฟีถูกตัดสินให้รับโทษ พ่อกับแม่ของโซฟี มาเยี่ยมเธอ ก่อนเวลารับโทษ ไม่กี่ชั่วโมง
พ่อและแม่ รู้ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่จะได้เห็นหน้าลูกสาวของตน ในฐานะที่พ่อของโซฟี อดีตเคยเป็นผู้ร่วมอุดมณ์การเดียวกันในการต่อต้านรัฐบาล และแม่ เป็นผู้หญิงที่เข้าใจและยืนหยัดเคียงข้างสามีมาตลอด

สิ่งที่พ่อและแม่ทำได้ในเวลาที่เหลืออยู่ตอนนี้คือ น้ำตาจากหัวอกพ่อแม่ที่ชื่นชมและภูมิใจในตัวลูกสาวเป็นที่สุด อย่างสุดหัวใจ

คะแนนมี 10 ก็ให้ไปเต็มๆค่ะ

***

Sad Movie

ติดใจตั้งกะโปสเตอร์ละ ไม่ชอบเอามากๆ
ที่ท่านทั้งหลายโผล่หน้ามา ทำตาปริบๆ และน้ำตาเอ่อเอ่
ปากจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม จะเบะรึก็ไม่
เพราะยังต้องสงวนท่าที เดี๋ยวจะไม่หล่อไม่งามกัน
เห็นแล้ว นึกถึง โปสเตอร์หนังจีนฮ่องกงของโจซิงฉือ
ที่ยืนกอดอกและน้ำตา ซีจี ไหลพรากๆ

ส่วน Sad Movie ที่โปรยไว้ว่า
แค่ผ้าเช็ดหน้าผืนเดียวไม่พอเนี่ย
เห็นด้วยอ่ะ
และไม่ใช่แค่ไม่พอนะ แถมว่าทิชชู่แผ่นเดียว ก็ยังไม่เปียกเลย

คนกะมาเศร้านะเฟ้ย ทำงี้ได้ไงฟระ
จะมีซึ้งหน่อยแกมน่ารักๆ ก็คู่ของจิตรกรหนุ่มกะสาวน้อยเป็นใบ้ใส่ชุดตุ๊กตา เท่านั้น
( แต่ตอนท้ายน่ะ เฟค น่าดู)
อีก 3 คู่ที่เหลือ ไม่สามารถจูงใจของคนดูอย่างเราให้เคลิ้มหรือคล้อยตามได้ เซ็งเจงเจง

นานน๊านนนนนน จะตัดสินใจดูหนังเกาหลีกับเค๊าซะที
แล้วเป็นไงล่ะชั้น สมน้ำหน้าตัวเองชะมัด

คะแนนมี 10 ให้ไป 6
คะแนนหายไปกับไม่สามารถดึงอารมณ์เราให้ร่วมรับรู้ความสูญเสียและเจ็บปวดได้และที่สำคัญ ตัวละครแต่ละคู่ ดูมีความบางเบาในความรักความผูกพันกันทั้งนั้น
จะว่าเพราะตัวละครมันเยอะ ก็อย่ามาแก้ตัวเลย
ดูอย่าง Love Actually (2003) ซิ เค๊ามีตัวละครตั้งหลายคู่ และยังทำให้เราเศร้าเราซึ้งตามไปได้ โดยไม่ต้องอาศัยการจบชีวิตมาเรียกน้ำตา

***

Helen The Baby Fox
ในชื่อไทยว่า.......เธอ (ชื่อ) เฮเลน

หนังเกี่ยวกับเด็กชายกะหมาน่อย ลูกสุนัขจิ้งจอก ที่ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อ เสียงและแสง......แถวบ้านเรียกหูหนวกกะตาบอดอ่ะจ่ะ

เป็นหนังน่ารักๆ ที่สร้างมาจากเรื่องจริง
เกี่ยวกับเด็กชายทะอิจิที่แม่พึ่งแต่งงานใหม่ เลยทำให้น้องเค๊ารู้สึกโดดเดี่ยวพอสมควร แต่แล้ววันหนึ่งบังเอิญไปเจอหมาน่อยลูกสุนัขจิ้งจอก นั่งโต้ลมหนาวนิ่งๆอยู่ข้างทาง น้องทะอิจิเห็นแล้วสงสาร เลยพามาเลี้ยงและตั้งชื่อว่า เฮเลน (ญี่ปุ๊น ญี่ปุ่น)

แต่ด้วยความที่น้องเฮเลน มีความผิดปกติทางร่างกาย จึงต้องไปอยู่ภายใต้ความควบคุมของสัตว์แพทย์หนุ่มยามะจิ

มีปัญหาตามมามากมาย ทั้งความผูกพันของน้องทะอิจิและเฮเลน ทั้งเรื่องครอบครัวใหม่ของแม่ ที่ทุกคนใน 2 ครอบครัว ต้องสมานฉันท์ ซึ่ง น่าจะเรียกน้ำตาอย่างที่คำโปรยของหนังว่าไว้ (อีกแล้ว)

" สำหรับคนที่มีหัวใจ...

ที่อยากร้องไห้

อย่างไม่เสียดาย...น้ำตา "

ว่าไปนั่น

ไม่มีกระซิกซักแอะเลย

ก็ไม่ใช่ความผิดของหนังหรอกนะ

มันอยู่ที่คนดูมากกว่า(กระมัง)
ว่าเข้าไปดูด้วยความรู้สึกและคาดหวังอย่างไร

สรุปว่าหนังเรื่อง Helen The Baby Fox นี่สนุกดี ให้ความรู้สึกที่ดี มีพัฒนาการการเติบโตทางใจของตัวละครเด็กให่เราได้เก็บมาคิดด้วย

คะแนนมี 10 ให้ไป 7.5

ได้คะแนนไปจาก หนังน่ารัก+ความผูกพันของเด็กชายกับหมาน่อย
และคะแนนหายไปกับ ..ซึ้งไม่พอ และมีแต่สถานการณ์เดิมๆให้เราเดาได้
( ทั้งที่ไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาเดานะ )

Create Date : 30 กรกฎาคม 2549

Last Update : 18 สิงหาคม 2549 22:20:28 น.

24 comments

Counter : 1884 Pageviews.

ชอบเรื่องแรกมากเลยค่ะ
ยังไม่ได้ดูหรอก แต่ฟัง จขบ. บรรยายซะเห็นภาพ ทำให้อดเอาใจช่วยโซฟีไม่ได้เลยค่ะ

โดย: เจ๊ว่าแล้ว

วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:21:22 น.

ผมกลับชอบ Sad Movie มากกว่านะครับ เพราะมันอิน น่ะ รู้ทั้งรู้ว่าจงใจ แต่อินจริงๆ ครับ

โดย: เข็มขัดสั้น

วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:37:25 น.

มาอ่านเฉยๆ ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างไปดูหนังเลยค่ะ

โดย: keyzer

วันที่: 30 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:33:53 น.

คำเตือน***
คะแนนที่ให้เป็นความรู้สึกส่วนตัว+ส่วนบุคคล นะ

โดย: renton_renton

วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:6:40:24 น.

กลับมาทีหนังเพียบเลยนะจ๊ะ ดี ๆๆ จะได้ช่วยชี้ทาง เพราะเรายังไม่ได้ดูทั้ง 3 เรื่องเลย เวลามีน้อยอะ

สงสัยต้องเลือกละ

เลือกอันที่คะแนนเต็ม 10 ดีฝ่า ดูคุ้มดี เชื่อใจคุณ vios

อีกอย่างเห็นหลายสถาบัน (หลาย blog) รับรองคุณภาพแบบนี้...ถ้ายังพลาดอีกก็เจอกันใน DVD ละกันนะคุณโซฟี

โดย: unwell

วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:9:20:14 น.

อยากดู Sophie's School มากเลยครับ

โดย: ShadowServant (ShadowServant

) วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:31:15 น.

Sophie.......Really want to see a

Sad Movie......Really don't want to see a

Baby Fox.......Tomorrow me and my friend will going to watch it haha

Ps. Wow...See it from numbers of movies you've seen, I guess now you've got a lot of free time. Right?

โดย: BloodyMonday

วันที่: 31 กรกฎาคม 2549 เวลา:22:08:14 น.

ดูวันเดียว 3 เรื่องรวดรึเปล่าเนี่ย

โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ

วันที่: 1 สิงหาคม 2549 เวลา:14:53:06 น.

เข้ามาทักครับ แล้วก็อยากถามคำถามเดียวกันกับคุณคนข้างบนด้วย "ดูวันเดียวสามเรื่องรวดหรือเปล่าครับ"

ป.ล. แอบมาดูคะแนนหน่อย จะใจตรงกันหรือเปล่านะ

โดย: ตั้งแต่เปลี่ยนชื่อ ยังไม่ได้เข้ามาเลย (ตี๋หล่อมีเสน่ห์

) วันที่: 1 สิงหาคม 2549 เวลา:16:04:18 น.

คุณ เจ๊ว่าแล้ว / ถ้ามีโอกาสก็ดูให้ได้นะคะ แล้วแวะมาอีกน้า

คุณ เข็มขัดสั้น / เราว่าหนังSad Movie ก็คงโดนใจใครไปหลายคนแหละ ใจใครก็ใจใครอ่ะเนอะ

คุณ keyzer / แวะมาอ่านก็ดีใจแล้วค่า

คุณ unwell / ขอบคุณหลายที่เชื่อใจกัน แต่ก็อย่างที่บอกอ่ะเนอะ เราเอาความรู้สึกส่วนตัวเข้าวัด(เข้าวา)แล้วแปลเป็นคะแนน ไม่ใช่บรรทัดฐานอะไร......ลองดูละกันจ๊า

คุณ ShadowServant / มีโอกาสก็แวะดูนะคะ เอาแค่ว่าตัวหนังได้เข้าชิงรางวัล ก็พอจะบอกถึงความน่าสนใจได้ระดับนึงอ่ะนะ..^_^

คุณ BloodyMonday / ดู BabyFox แล้วเป็นไงมั่ง บอกกันบ้างเน้อ...

คุณ น้าพล แค่เพียงรู้สึกสุขใจ กะ คุณ ตี๋หล่อมีเสน่ห์ / Sad Movie ดูมะวันพฤหัส ส่วน Sophie กะ Helen ดูวันเสาร์เดียวกันค่ะ (บวกกับ Miami Vice อีกเรื่องค่ะ

)

โดย: renton_renton

วันที่: 1 สิงหาคม 2549 เวลา:19:22:31 น.

ก็ยัง 3 เรื่องรวดอยู่ดี

ว่าแต่เปลี่ยนให้เป็นน้าแล้วเหรอครับ หุหุ

โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ

วันที่: 3 สิงหาคม 2549 เวลา:3:14:50 น.

เปลี่ยนชื่อหลบเจ้าหนี้เหรอครับ?
อิๆๆ มาแล้วๆ สอบเสร็จแล้ว ว่างซะที สาเหตุก็ตามไปอ่านที่blogเอานะ

ช่วงนี้ไม่มีหนังแนวแบบtrainspottingเลย จริงๆก็ไม่มีเรื่องไหนออกแนวนั้นเลยครับ ที่แนวalterคล้ายๆหน่อยก็ก็เรื่อง Run Lola Run เอง

Lock Stock and two smoking barrels ก็พอไปได้ ถึงว่าหนังดีหายาก

โดย: แป๊กก

วันที่: 3 สิงหาคม 2549 เวลา:8:18:38 น.

คุณ น้าเอ้ย!พี่พล แค่เพียงรู้สึกสุขใจ
ถ้าช่วงว่างจิงๆ ก็ยังงี้แหละค่ะ 2เรื่องมั่ง 3เรื่องบ้าง แล้วแต่อ่ะค่ะ

คุณ แป๊กกกกกกกกกกกกกกกก
ไม่เจ๊อะกัน นานนนนนนนมาก ยินดีด้วยนะค๊าที่สอบเสร็จแล้ว ได้เป็นสถาปนิคผู้เกรียงไกรแล้ววววววว เย้...ส่วนเรื่องเปลี่ยนชื่อเนี่ยก็ ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่หนีหนี้ เอ้ย!ม่ายช่าย ก็ให้โลกมันรู้ไปเลยว่ามีคนแบบนี้อยู่ที่นี่คนนึง 5 5 5

......ขอบคุณหลายที่แวะมา

* ตอนนี้ ไปดูมาเพิ่มอีก 2 เรื่อง

Cut Sleeve Boys หนังว่าถึงหนุ่มเกย์ 4 ซ้า 5 คน เชื้อสายจีนที่ไปเติบโตที่อังกฤษ ในลอนดอนที่สาละวนอยู่กับเซ็กส์และรักและการยอมรับในกันและกัน หนังน่ารักมั่กๆอ่ะ ตลกและฮา แต่ก็ยังพอมีแก่นสารให้คิดอยู่บ้าง ผู้ใดสนใจ เชิญที่ House เน้อ

อีกเรื่อง
The Lake House ก่อนเข้าไปดูอุตส่าห์ดื่มน้ำไปตั้งเยอะ กะว่าขณะดู ร่างกายคงสูญเสียน้ำตาเป็นแน่ แต่ .......ก็แค่ซึมๆอ่ะนะ ไม่เคยดูเวอร์ชั่นเกาหลีด้วยแหละ เลยบอกไม่ถูกว่าอันไหนซาบซึ้งกว่ากัน

มีโอกาส อาจจะได้เขียนถึงแบบจิงจัง
แต่เปอร์เซนต์น้อยอ่ะ 5 5 5

เดี๋ยวมาว่ากันอีกที

ขอบคุณที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้เน้อ

โดย: renton_renton

วันที่: 3 สิงหาคม 2549 เวลา:23:02:32 น.

แถมเพลงให้ฟังนะคะ

มะอยู่กรุงเทพฯ 2 3 วันค่ะ

เดี๋ยวเจอกันน๊า

โดย: renton_renton

วันที่: 4 สิงหาคม 2549 เวลา:18:30:23 น.

แวะมาเยี่ยมครับ ไปดู The Lake House มาแล้วเช่นกันครับ ดูแล้วซึมเหมือนกันเลยครับ แถมน้ำตาไหลตอนท้ายๆ ด้วยหน่อยนึง ซึ้งจังเลยครับดูแล อารมณ์โรแมนติคทันควัน

ปล. ทาทามารอให้ไปเม้นต์เธออยู่นะครับ ว่างๆ ไปฟังเธอได้เสมอเลยครับ

โดย: เข็มขัดสั้น

วันที่: 4 สิงหาคม 2549 เวลา:23:04:07 น.

ขอบคุงงับ อยากดูหลายเรื่องเลย
อัพแล้วนะคร้าบบบ ตามไปดูได้

โดย: Moonlight Mile

วันที่: 5 สิงหาคม 2549 เวลา:23:21:52 น.

คงไม่ได้ดูทั้ง 3 เรื่องแล้วล่ะ อาทิตย์ที่ผ่านมาได้ดูแค่ Miami Vice กะ โกย เอง

วันนี้จะไปดูพี่ทอมน้า ไปเปล่า แต่จริง ๆ เค้าชอบพี่ทิมมากกว่า ว้า เลือกไม่ถูกเลย น่าร้ากไปหมด

ไปซ้อมร้องเพลงก่อนดีก่า อิอิ

โดย: unwell

วันที่: 9 สิงหาคม 2549 เวลา:9:32:57 น.

คงมะได้ไปแหละตัวเอง
ฝากไปจุ๊บๆ

ทุกคนเลยน้า
บอกด้วยว่าเรา คิดถึ้งคิดถึง

แง.............อด อด อด เลย

โดย: renton_renton

วันที่: 9 สิงหาคม 2549 เวลา:19:40:47 น.

ไม่ได้ไปก็ฟังเสียงพี่แกไปละกันนะจ๊ะ เพราะถ้าเห็นตัวจริงจะน้ำลายหยายยยเหมือนเราอะ

เมื่อคืนพี่แกน่าร้ากกกมั่ก ๆ พูดไทยไม่ชัก ยังจะพูดแล้วพูดอีก ฟังไม่รู้เรื่องเลย พี่ทิมก็อินมั่ก ๆ เล่นคีย์บอร์ดแบบโหนไปทั้งตัวเลย น่ากัว

คนดูน้อยอะ ประมาณครึ่ง hall เอง ไม่น่าเล่นที่ impact เลย ดูโล่ง ๆ ชอบกล

โดย: unwell

วันที่: 10 สิงหาคม 2549 เวลา:11:51:55 น.

โหย น่าฉงฉานพี่ทิมมมมมมมมมมมมมมมมม

รู้งี้เหมาคนทั้งหมู่บ้านไปดีกว่า
ไปเป็นกะลังใจให้พี่ทิม

ป่านนี้คงนอนตีพุงที่อังกฤษแล้วมั้ง
เฮ้ยยยยยยยยยย...ไม่เจอก็คิดถึงกันด้ายยย

ฟังเสียงจากอัลบั้มให้หายคิดถึงละกานนนนนนนนน

( อารายกันเนี่ยเรา....ที่นี่ที่หนายหว่า

)

โดย: renton_renton

วันที่: 10 สิงหาคม 2549 เวลา:16:10:17 น.

โดย: renton_renton

วันที่: 10 สิงหาคม 2549 เวลา:16:22:31 น.

แวะมาเยี่ยมจ้า

โดย: keyzer

วันที่: 10 สิงหาคม 2549 เวลา:22:48:38 น.

ถ้า Sophie มาเกิดในยุคนี้คงมีเฮกันหลายประเทศ เพราะปัจจุบันความบ้าของผู้นำแต่ละประเทศก็ไม่ต่างจากฮิตเลอร์สักเท่าไหร่

หนังน่ายกย่องว่ายังมีคนอย่างครอบครัว Sophie ที่ไม่ยอมจำนนต่อความรู้สึกขัดแย้งที่ตัวเองไม่ยอมรับ ในบริบทของเรื่องนั้นก็หมายถึงความโหดร้ายไม่มีมนุษยธรรมของฮิตเลอร์ ครอบครัวของเธอพยยามต่อสู้เพื่อความถูกต้อง และก็ยอมรับผลของมันด้วย เรียกว่าอุดมการณ์มาเป็นอันดับหนึ่ง

หนังเชิดชูความกล้าหาญของปุถุชน
แล้วเมืองไทยละจะเป็นอย่างไร เอ๊ะเกี่ยวกันหรือเปล่า!!!

โดย: wanga IP: 202.133.176.208 วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:12:47:27 น.

จายเย็นเพ่......จายเย็น....

เป็นครอบครัวที่หัวอกหัวใจเดียวกันจริงๆ นับถือเค๊าเลยอ่ะค่ะ......สุดยอด

โดย: renton_renton

วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:19:17:21 น.