★ Krzysztof Kieslowski (1) : กับ 5 หนังสั้น
Date of Birth : 27 June 1941, Warsaw, PolandDate of Death : 13 March 1996, Warsaw, Poland ผลงานที่ผ่านมาของ คิชตอฟ คิชลอฟสกี้ imdb Tramwaj (The Tram,1966) Genre : ShortRuntime : 5 นาที ชายหนุ่มคนหนึ่งเบื่อความรื่นเริงในไนท์คลับ และเกือบคลาดรถรางกลับบ้าน บนรถรางเขาพบหญิงสาว คนหนึ่งที่ทั้งดึงดูดตาและใจเขาได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้คุยกันสักคำ หนังเงียบ แต่ได้ยินเสียงการสั่นสะเทือนของใจUrzad (The Office,1966) Genre : ShortRuntime : 5 นาที หนังเล่าถึงการมาขึ้นเงินบำนาญ สวัสดิการสังคมของผู้สูงอายุซึ่งต้องมาติดต่อเอง ผู้เฒ่าผู้แก่ต้องเพิ่มความอดทนให้กับระบบงานที่เต็มไปด้วยเอกสารและการพูดจาเชิงเหน็บแนมจากเจ้าหน้าที่อายุคราวลูก หนังเสียดสีระบบการทำงานของรัฐบาลด้วยภาพของเจ้าหน้าที่บางคนก็เหลาดินสออย่างตั้งใจ ไม่สบหน้าตากับผู้มาติดต่อ พักเบรกด้วยการต้มน้ำและจิบชาอย่างเย็นใจ ขณะที่ข้างนอกเต็มไปด้วยคนยืนรอเข้าคิวยาว สีหน้าเหนื่อยหน่าย ในมือถือเอกสารที่ไม่แน่ใจนักว่านำมาถูกต้องหรือเปล่าแต่ยืนหยัดด้วย ความหวัง เต็มอกBylem zolnierzem (I Was a Soldier,1971)Genre : Documentary | ShortRuntime : 16 นาที ประสบการณ์การสู้รบในสงครามและความทรงจำที่เจ็บปวดถูกเล่าผ่านชายวัยกลางคน 4-5 คนอย่างกับเรื่องราวเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน หนังชักชวนให้เราฟังการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างๆต่อสงครามจากน้ำเสียงที่จริงจังและเกรี้ยวกราดของกลุ่มคนเหล่านี้ ก่อนที่จะกะเทาะผลลัพท์ใส่คนดูว่าทุกตัวละครที่กำลังพูดอยู่นี้ บัดนี้ได้สูญเสียการมองเห็นไปตลอดกาลแล้ว การทอดถอนใจเพราะไม่รู้ว่ากำลังรบไปเพื่ออะไร การสูญเสียการมองเห็น สูญเสียคนรักและความอบอุ่นจากคนรอบข้าง สูญเสียความมั่นใจและหวาดหวั่นกับอนาคต แน่นอนว่าหนังกำลังแสดงเจตจำนงต่อต้านสงครามอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูRefren (Refrain,1972) Genre : Documentary | ShortRuntime : 11 นาที หนังแจงการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่รับการ แจ้งตาย โดยมี option ต่างๆที่ผู้มาแจ้งเลือกว่าต้องการให้ ผู้ตาย ได้รับอะไรบ้างเช่นเลือกว่าจะเอาโลงแบบไหน แผ่นป้ายสลักชื่อเอาแบบไหน ดอกไม้สีอะไร กระทั่งแผนผังของพื้นที่สำหรับฝังร่าง (หลุมศพ) ทุกอย่างทั้งหมดทุกรุ่นทุกแบบจะมีหมายเลขกำกับ ความมีตัวตนของคนคนหนึ่งถูกลบไป (ภาพต้นเรื่องเจ้าหน้าที่แกะเอาภาพถ่ายที่ติดไว้ใน ID Book ของผู้ตายออก) แล้วถูกแทนด้วยหมายเลขต่างๆ (option ที่เลือก) ซึ่งไม่ต่างกับตอนเกิดที่มีเลขหมายติดไว้ที่ข้อมือหรือหมายเลขของเปลนอนของทางโรงพยาบาล แต่จุดที่น่าสนใจคือในช่วงต้นเรื่องหนังให้ฉากหลังของโต๊ะทำงานเจ้าหน้าที่เป็นสีดำไม่มีรายละเอียดใดๆปรากฏนอกจากตัวเจ้าหน้าที่นั่งสนทนากับผู้มาแจ้ง(ซึ่งก็ไม่เห็นตัว) แล้วต่อมาจึงค่อยๆเพิ่มเป็นเห็นช่องกระจกเจาะรูเพื่อสนทนา เห็นผนังห้อง เห็นหน้าต่างแล้วสุดท้ายก็ได้ภาพรวมๆว่าเจ้าหน้าที่ 4-5 คนนี้อยู่ในส่วนทำงานเดียวกัน ห้องเล็กๆ คับแคบและวุ่นวาย เหมือนกับกำลังจะบอกว่าไม่ว่าคุณอยู่ในสถานะไหน ขณะเกิด ขณะมีชีวิต และแม้แต่ตายไปแล้ว ร่างกาย(ความมีตัวตน) ต่างก็ถูกบรรจุอยู่ในกรอบเหลี่ยมๆ (กฏเกณฑ์ของสังคม) เหมือนๆกันPrzeswietlenie (X-Ray, 1974)Genre : Documentary | ShortRuntime : 13 นาที หนังเปิดภาพด้วยชายวัยกลางคน 4-5 คนผลัดกันพูดถึงหน้าที่การงานในอดีต บ้างเป็นนักดนตรีเครื่องเป่า, ชาวนา กระทั่งผู้รับเหมาที่ดูแลการก่อสร้าง โรงงาน นั้น ก่อนหนังจะขยายสภาพแวดล้อมให้เห็นว่าทุกคนที่พูดอยู่นี้กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่สถานีอนามัยสำหรับดูแลผู้ป่วยจากโรค วัณโรค ทุกคนต่างทุกข์ทรมานทั้งกายใจกับสิ่งที่สูญเสียและผลร้ายที่ได้รับ แต่ยังมีกำลังใจดี มีความหวังว่าจะได้ออกไปใช้ชีวิตอย่างปกติหางานการทำได้ในเร็ววัน ตอนท้ายของหนังจึงมีภาพการยื่นชีวิตใหม่ให้ผู้ป่วยเหล่านี้(และคนดู) ด้วยมีรถมารับผู้ป่วยบางคนให้กลับบ้านได้...แต่ภาพถัดไปกลับเป็นการเหยียบย่ำทำลายความหวังเพราะรถบัสนั้นก็วิ่งตรงเข้าเมืองที่พวกเขาจากมา เมืองที่มีโรงงานอันตรายนั้นนั่นเอง เป็นอีกครั้งที่ คิชลอฟสกี้ พูดถึงปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต ต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนอย่างไร้ปราณี
: Please welcome : ขอเชิญ ทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็นต่อหนังหลากเรื่องหลายแนว ทั้งชนโรง ทั้งหนังแผ่น ร่วมกับบล็อกเกอร์คนรักหนังอีก 5 ท่านได้ที่ //vreview.yarisme.com ค่ะ
Create Date : 27 มกราคม 2552
13 comments
Last Update : 27 มกราคม 2552 17:17:35 น.
Counter : 1916 Pageviews.
โดย: navagan 28 มกราคม 2552 1:38:59 น.
โดย: McMurphy 29 มกราคม 2552 19:33:46 น.
โดย: เอกเช้า IP: 124.120.188.227 29 มกราคม 2552 20:40:18 น.
โดย: JewNid 30 มกราคม 2552 9:40:46 น.
.Just wait until night
then switch the light off
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ เด็ก ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่
1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30 31