พิพิธภัณฑ์แสง : 5 เรื่องสั้นผู้เขียน : กิตติพล สรัคคานนท์พิมพ์ครั้งแรก : มีนาคม 2552สำนักพิมพ์หนึ่งผู้เขียนเป็นดั่งชายคนหนึ่ง ยืนอยู่ริมหน้าต่าง มองทอดสายตาออกไปสังเกตุชีวิตของผู้คน คนแล้วคนเล่า แล้วถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษร บรรยายสภาพแวดล้อม เหตุการณ์และความคิดโดยไร้ บทสนทนาหนังสือเล่มบางจำนวนเพียง 70 หน้า รวมเรื่องสั้นไว้ได้ถึง 5 เรื่อง บางเรื่องสั้น บางเรื่องสั้นมากแต่อย่างไรก็เพียงพอที่จะเห็นบทบาทและโลกของตัวละคร หากท้ายเรื่องที่ไม่ใช่บทสรุปของเรื่องราว รวมความแล้วจึงเป็นการอ่านด้วยการเดินเข้าสู่ประตูจินตนาการที่เปิดแขนอ้ารอท่าอยู่แล้วอนึ่ง ยินว่าผู้ให้คำนิยมแก่หนังสือเล่มนี้ (ปราบดา หยุ่น) เอ่ยถึง ที่อื่น งานเขียนรวมเรื่องสั้น 12 เรื่องของ กิตติพล สรัคคานนท์ เล่มก่อนหน้าว่าเนื้อหาจะซับซ้อนกว่าเล่มนี้ ... จึงเป็นการจุดประกายให้จดจำชื่อหนังสือคือหากโอกาสต่อไปได้แวะที่ร้านใดๆ ก็อย่าได้ลืมที่จะมองหา ที่อื่น เชียว★ และขอติงฝ่ายพิสูจน์อักษรสักนิด เล่มบางกระจิริดยังมีพิมพ์ผิดถึง 3 จุด ... เพิ่มความใส่ใจอีกสักนิด เถอะนะคะ : Please welcome : ขอเชิญ ทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็นต่อหนังหลากเรื่องหลายแนว ทั้งชนโรง ทั้งหนังแผ่น ร่วมกับบล็อกเกอร์คนรักหนังอีก 5 ท่านได้ที่ //vreview.yarisme.com ค่ะ Create Date : 17 เมษายน 2552 Last Update : 17 เมษายน 2552 10:55:15 น. 22 comments Counter : 1462 Pageviews. ShareTweet
พิพิธภัณฑ์แสง : 5 เรื่องสั้นผู้เขียน : กิตติพล สรัคคานนท์พิมพ์ครั้งแรก : มีนาคม 2552สำนักพิมพ์หนึ่งผู้เขียนเป็นดั่งชายคนหนึ่ง ยืนอยู่ริมหน้าต่าง มองทอดสายตาออกไปสังเกตุชีวิตของผู้คน คนแล้วคนเล่า แล้วถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษร บรรยายสภาพแวดล้อม เหตุการณ์และความคิดโดยไร้ บทสนทนาหนังสือเล่มบางจำนวนเพียง 70 หน้า รวมเรื่องสั้นไว้ได้ถึง 5 เรื่อง บางเรื่องสั้น บางเรื่องสั้นมากแต่อย่างไรก็เพียงพอที่จะเห็นบทบาทและโลกของตัวละคร หากท้ายเรื่องที่ไม่ใช่บทสรุปของเรื่องราว รวมความแล้วจึงเป็นการอ่านด้วยการเดินเข้าสู่ประตูจินตนาการที่เปิดแขนอ้ารอท่าอยู่แล้วอนึ่ง ยินว่าผู้ให้คำนิยมแก่หนังสือเล่มนี้ (ปราบดา หยุ่น) เอ่ยถึง ที่อื่น งานเขียนรวมเรื่องสั้น 12 เรื่องของ กิตติพล สรัคคานนท์ เล่มก่อนหน้าว่าเนื้อหาจะซับซ้อนกว่าเล่มนี้ ... จึงเป็นการจุดประกายให้จดจำชื่อหนังสือคือหากโอกาสต่อไปได้แวะที่ร้านใดๆ ก็อย่าได้ลืมที่จะมองหา ที่อื่น เชียว★ และขอติงฝ่ายพิสูจน์อักษรสักนิด เล่มบางกระจิริดยังมีพิมพ์ผิดถึง 3 จุด ... เพิ่มความใส่ใจอีกสักนิด เถอะนะคะ
ขอเชิญ ทุกท่านร่วมแสดงความคิดเห็นต่อหนังหลากเรื่องหลายแนว ทั้งชนโรง ทั้งหนังแผ่น ร่วมกับบล็อกเกอร์คนรักหนังอีก 5 ท่านได้ที่ //vreview.yarisme.com ค่ะ
★ อ่านแล้วนึกถึงหนังเรื่องLos Muertos (2004) ที่ตัวละครไม่พูดอะไรDie große Stille (Into Great Silence 2005) หนังสารคดีเกี่ยวกับนักบวชของศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิค ที่ตลอด 3 ชั่วโมงคือความเงียบStellet licht (Silent Light, 2007) ในฉากต้นเรื่องที่เป็นความมหัศจรรย์ทางงานด้านแสงและภาพ (เก็บเงามืดและแสงในช่วงเวลาประมาณตีสี่ > ตีห้า > เช้าตรู่)
ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นค่ะ
ขอบคุณอีกครั้ง สำหรับทุกความเห็นและทุกท่านที่แวะมาค่ะ ตอนนี้และที่ผ่านมา จขบ. มีกิจเล็กน้อยที่ต้องทำแบบมิอาจละเลย จึงยังไม่ได้จังหวะแวะเวียนไปเยือนทุกๆ ท่านคงอีกวันสองวัน หลายอย่างที่ติดพันจะลุล่วงเมื่อนั้นจะรีบแวะไปทุกบ้าน ทุกบล็อกทันทีค่ะปล. น้องบอล พี่พักอยู่ที่ไหน หมายถึงบ้านอยู่แถวไหนอ่ะเหรอคะ...อยู่ซอยเคเบิ้ล หลังโรงพยาบาลใหญ่ค่ะละเอียดกว่านี้ก็หลังไมค์หรือเมลมาครับผม^^
DeUsynlige (2008) Erik Poppe : : หนึ่งเป็นผู้ทำลาย หนึ่งเป็นฝ่ายสูญเสีย เวลาผ่านต่างฝ่ายต่างเริ่มชีวิตใหม่แต่ที่สุดแล้วโชคชะตาก็นำพาให้ทั้งสองต้องมาเผชิญหน้ากัน ~ ถึงพล็อตจะสามัญแบบนี้แต่หนังวางสถานการณ์ที่แสดงและเหตุการณ์ที่ซ่อนอยู่ได้หมาะกันดีมาก การถ่ายโอนตัวละครจุดศูนย์กลางของเรื่องจากคนหนึ่งไปคนหนึ่งก็ไหลลื่น เรื่องราวที่บรรจุความกดดันต่อสู้กับตัวเองของตัวละครก็เข้มข้น และ "โอกาส" เป็นสิ่งที่หนังขอให้เราเห็นเป็นสำคัญเพราะที่สุดแล้วเราจะเห็นว่าฝ่ายที่เคยสูญเสียกลับด้านมาเป็นผู้ทำลายบ้าง ทั้งหมดเป็นความละเอียดในอารมณ์ของผกก.ที่ทำออกมาได้น่าชื่นชมจริงๆ
Adventureland (2009) Greg Mottola : : เด็กหนุ่มพรหมจรรย์และเด็กสาวเมียเก็บนายช่างของสวนสนุกเกิดลังเลในความรู้สึกที่มีให้แก่กัน ครั้นจะจูนกันติดกลับมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันซะงั้น ~ ปั๊ปปี้เลิฟสนุกๆ ประสาวัยรุ่นวัยเรียน ฉากหลังเป็นยุค 80 ที่มีกัญชาเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์ เพลงดิสโก้ ฟังก์ พั้งค์ จากยุคนั้นก็อัดกันขนกันมาเพียบ เพลิน และมองว่า คริสเตน สจ๊วต นั้นดูทื่อมะลื่อไงไม่รู้
Mutum (2007) Sandra Kogut : : เด็กชายคนหนึ่งแถบบ้านนาของบราซิล ต้องเผชิญกับความดุดันของพ่อ สนิทกับอาแต่เหมือนเขาจะมาจีบแม่ ถูกเพื่อนวัยเดียวกันเหน็บแนมและที่สำคัญคือสูญเสียเพื่อนรักที่สุดในชีวิต ~ อะไรจะแกร่งเกินนี้ไม่มีอีกแล้ว เจ้าหนูไม่ได้อยู่ในร่างของคนมองโลกในแง่ดี หากแต่ให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยความเข้าใจและมองถึงสิ่งที่ตนต้องทำ ... ชอบเรื่องที่แทรกอยู่เล็กๆ อย่างความผิดปกติทางสายตา (สายตาสั้น) เมื่อมันเกิดขึ้นกับคนในชนบทซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร จะเห็นความแตกต่างก็ต่อเมื่อได้ลองสวมแว่นตาเท่านั้น
Dalkomhan insaeng (2005) Ji-woon Kim : : มือขวาของเจ้าพ่อฝีมือสุดเนี้ยบทำการใดไม่เคยล้มเหลว ตีรันฟันแทงเตะต่อยขอให้บอก แต่จะมาตายเอาก็เพราะริอาจมีใจให้ เด็ก ของเจ้าพ่อ ~ หนังแก็งส์เตอร์ของพี่ๆ เกาหลีเขาต้องบอกว่าออกแบบท่าทางกันมาดี ดูแล้วเพลิน นึกถึง Transpotter ที่ เจสัน สเตแธม ในชุดสูทหรูระยับแต่ยกแข้งขาถีบยันได้ดีเอาเรื่อง ทรยศหักหลังยังเป็นชนวนหลักที่สร้างสีสันให้กับหนังแนวนี้ สนุกดีแม้จะชวนสับสนนิดหน่อยว่าใครอยู่ฝ่ายไหนลูกน้องใคร (ก็หน้าตาเขาคล้ายกันน่ะ)
Noise (2007) Matthew Saville : : หนังมีส่วนผสมของความเป็นหนังเขย่าขวัญอยู่เพียงส่วนหนึ่งทั้งๆ ที่มีเหตุสะเทือนขวัญรุนแรง แต่... อ่านต่อ ที่นี่