Group Blog
All Blog
|
Goutless ชาลดอาการกำเริบโรคเกาต์อย่างเห็นผลชะงัด คนเราทุกวันนี้ ยิ่งอายุมากขึ้น ความเสื่อมโทรมของร่างกาย จะปรากฎตามวันเวลาที่หมุนเวียนไปเรื่อยๆ
สมัยที่แป้งทำงานเป็นพยาบาลประจำแผนกผู้ป่วยนอก พบเจอผู้ป่วยสารพัดโรค โดยเฉพาะโรคเกาต์มักพบในเพศชายที่มีอายุเกิน 40 ปี ส่วนใหญ่มีประวัติดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากแอลกอฮอล์ไปขัดขวางกระบวนการขับกรดยูริกออกจากร่างกาย
อีกทั้งแอลกอฮอล์ช่วยเร่งปฏิกิริยาการสร้างกรดยูริก โดยเร่งกระบวนการสลายตัวของสารอะดีโนซีนไตรฟอสเฟต(adenosine triphosphate)ในเซลล์
โปรดทราบไว้ว่า การดื่มแอลกอฮอล์โดยเฉพาะการดื่มเบียร์ จะมีผลทำให้เกิดอาการข้ออักเสบได้ทันที เพราะเบียร์มีสารกวาโนซีน(guanosine)ซึ่งเปลี่ยนแปรสภาพเป็นกรดยูริกในร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนเพศหญิงที่เป็นโรคเกาต์ มักจะปรากฏอาการหลังจากเข้าสู่วัยทองเนื่องจากฮอร์โมนเพศหญิงโดยเฉพาะเอสโตรเจน จะควบคุมกรดยูริคในเลือดให้อยู่ในระดับปกติ หืม! วัยทองแทบไม่มีอะไรดีเลย ร้อนวูบวาบ อารมณ์ฉุนเฉียว ผิวเหี่ยวแห้ง นอนไม่หลับ บางคนมีภาวะซึมเศร้า เป็นโรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูงอีกต่างหาก
โรคเกาต์ คือโรคปวดตามข้อชนิดหนึ่ง ซึ่งมีอาการปวดร้อนที่ข้อเข่า ข้อนิ้วเท้า หรือข้อเท้าอย่างรุนแรงและเฉียบพลัน บางครั้งเจ็บมากจนเดินไม่ไหว บางคนแทบคลานและจะปวดข้ออื่นๆ ตามมา อาจมีไข้หนาวสั่นร่วมด้วย และมักจะเป็นเวลากลางคืน แต่อาการจะดีขึ้นภายใน 2-5 วัน หากผู้ป่วยมีอายุมาก ระยะเวลาการหายจะช้าลงไปอีกค่ะ
โดยปกติร่างกายมนุษย์ได้กรดยูริกมาจาก 2 แหล่ง คือ
1.ร้อยละ 90 ของผู้ป่วยโรคเกาต์ทั้งหมด เกิดจากกรดยูริคถูกสร้างขึ้นในร่างกาย แต่ไตทำหน้าที่ขับออกมาได้ช้าหรือน้อย จนทำให้เกิดการสะสมของกรดยูริคมากขึ้น
ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้มักจะมีระดับกรดยูริกในกระแสเลือดสูงกว่าปกติ แต่ไม่เสมอไปทุกคน และหลายคนที่มีระดับกรดยูริกสูงในกระแสเลือด กลับไม่มีอาการข้ออักเสบจากโรคเกาต์เลย
2.ร้อยละ 10 อาหารเป็นแหล่งกำเนิดของกรดยูริคในเลือด
กรดยูริค(uric acid)เกิดจากการย่อยสลายสารพิวรีน พบได้ในอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ข้าวสาลี เครื่องในสัตว์ น้ำพะโล้รวมถึงน้ำซุปกระดูกในก๋วยเตี๋ยวต่างๆ ฯลฯ
ในคนปกติทั่วไป ถึงแม้ว่าได้รับสารพิวรีนจำนวนมาก หรือร่างกายมีการสร้างกรดยูริกเพิ่มขึ้น แต่ไตจะสามารถขับกรดยูริกส่วนเกินออกมาในน้ำปัสสาวะได้
แต่สำหรับคนที่มีความบกพร่อง หรือไตขับกรดยูริกได้น้อยลง จะทำให้มีกรดยูริกคั่งอยู่ในร่างกายมากผิดปกติ จึงเกิดการตกผลึกสะสมอยู่ตามข้อ ผิวหนัง ไตและอวัยวะอื่นๆ จนเกิดเป็นโรคเกาต์
คนที่เป็นโรคเกาต์ ถ้าไม่ได้รับการรักษา อาการจะค่อยๆ กำเริบขึ้น โดยเกิดความเจ็บปวดที่ข้อเดิมก่อน แล้วจะเป็นที่ข้ออื่นๆ ตามมา จนกระทั่งเป็นเกือบทุกข้อทั่วร่างกาย
อาการปวดจะถี่และนานขึ้น จนกลายเป็นเจ็บปวดตลอดเวลา ถ้าควบคุมโรคเกาต์ไม่ได้ อาจพบว่าข้อที่เคยอักเสบบ่อยๆ เป็นปุ่มก้อนขึ้นมา เนื่องจากมีการสะสมของกรดยูริกจำนวนมาก จนบางครั้งข้อที่ปวดนั้นเกิดการแตกออก และมีสารสีขาวๆ คล้ายชอล์ก หรือยาสีฟันไหลออกมากลายเป็นแผลเรื้อรัง
ในที่สุดข้อต่างๆ จะเริ่มพิการและใช้งานไม่ได้ นอกจากนี้อาจมีผลทำให้เกิดนิ่วในไต ภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัวและตีบตัน เพราะเกิดการสะสมของกรดยูริกในอวัยวะเหล่านั้น
ตามปกติคนที่เป็นโรคเกาต์ จำเป็นต้องกินยารักษาโรคตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด (โดยการกินยาลดการอักเสบขนาดต่ำต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน)เพราะหากขืนดื้อดึง ไม่เชื่อฟังแพทย์ ความเจ็บปวดตามข้อ จะมาเยือนทันทีเลยค่ะ
แป้งค้นพบวิตามินตัวหนึ่ง ซึ่งอยู่ในรูปชาชงดื่มเพื่อลดอาการเจ็บปวดตามข้ออย่างเห็นผลชะงัดใน 3 ซองแรกเลยนะคะ
ชาลดเกาต์(Goutless)ผลิตในมาเลเซีย มีส่วนผสมเกรดพรีเมี่ยมสำคัญ 3 ชนิดคือ 1.Green Barley Seed(ข้าวบาร์เลย์สีเขียว)มีคุณสมบัติลดการอักเสบในข้อต่อ เช่น ข้ออักเสบรูมาตอยด์,เกาต์ 3.Orthosiphon stamineuso(หญ้าหนวดแมว)
มีประโยชน์อย่างไร 1.ลดอาการปวด บวมตามข้อต่างๆภายใน 1-3 วัน 2.สารสกัดจากใบข้าวบาร์เลย์สามารถกำจัดอนุมูลอิสระ มีบทบาทสำคัญในการลดการอักเสบในข้อต่อ เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์(rheumatoid arthrithis) โรคเกาต์(gout)
3.เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบต่างๆในร่างกายโดยเฉพาะต่อมไร้ท่อ โดยช่วยยับยั้งการสังเคราะห์กรดยูริก จึงป้องกันการตกผลึกของกรดยูริก จากการตกตะกอนบริเวณข้อต่อและกระดูกอ่อนในร่างกาย
4.สามารถเพิ่มการไหลเวียนโลหิต 5.เพิ่มระดับภูมิคุ้มกันของร่างกาย 6.ลดอาการปวดศีรษะ ไมเกรน 7.ช่วยขับล้างสารพิษในไตและระบบทางเดินปัสสาวะ 8.ช่วยลดอาการปวดตามกระดูกสันหลังและบั้นเอว 9.ช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
รีวิวจากคุณพ่อของเพื่อน ที่ได้ทดลองดื่มชาลดเกาต์ค่ะ
1. เริ่มเป็นเกาต์อายุ 53 ปี ตอนนี้ 70 ปี อาการก็เพิ่มตามอายุ 2. ตอนกำเริบ ข้อเท้า นิ้วเท้า บวม และปวด 3. ดื่มชาแล้ว 1-2 วัน หายปวด (ดื่มเฉพาะตอนปวด) เช่น ปวดตอนเย็น ดื่มตอนค่ำ พรุ่งนี้เช้าก็หายปวดเป็นปลิดทิ้ง
ปกติไม่ดื่มชา ประมาณ 4-6 วัน ถึงจะหายปวด
4. ดื่มชาซองแรกก็หายปวดเลย แล้วพอปวดขึ้นมาก็ดื่มทีละซอง ก็หาย
*** หมายเหตุ ดื่มชาลดเกาต์เฉพาะตอนปวดเท่านั้น พอหายปวดให้หยุดกิน***
แป้งได้อ่านข้อความนี้ผ่านทาง line แค่รับรู้ว่า สิ่งที่เราแนะนำไปให้คนที่เคยชินกับความเจ็บปวดทรมานเวลาเกาต์กำเริบ แล้วหายฉับพลัน โดยที่ไม่ต้องกินยาแผนปัจจุบันแม้แต่เม็ดเดียว
เพียงเท่านี้ แป้งก็มีความสุขมากมายที่ได้แนะนำสิ่งดีๆให้กับคนอื่น นึกถึงตอนที่เราเจ็บป่วยจากการแพ้อาหารแค่ไม่กี่ชั่วโมง ก็ทรมานจะแย่ แต่โรคเกาต์นี่สิ เจ็บปวดกว่าจะหาย หลายวันหลายคืนเลย มีคนรู้จักบางคนได้โรคไตวายเฉียบพลันแถมมาด้วย ตอนนี้ฟอกไตเรียบร้อยแล้วค่ะ
ผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง เห็นผลชัดเจน มีจำหน่ายเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย
สอบถามราคาและสั่งซื้อได้ที่ https://hamercandysiam.lnwshop.com/ Tel.061-7429944 Id line : 0617429944
ที่มา www.medicalhealthguide.com/articles/orthosiphon.html tongkatali.sg/tongkat ali-arthritis/ https://www.doctor.or.th>article/6481
|
BlogGang Popular Award#20
แป้งปังปอนด์
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 878 คน [?] เริ่มเขียนblog 20ก.ค55 ปัจจุบัน ( 3 มี.ค 57 ) แป้งได้มีเพจแป้งปังปอนด์ สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์แชร์ข้อมูลจาก blog ให้ท่านที่สนใจได้ติดตามอ่านอย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาโหลดเนื้อหาจาก blog ดังนั้นขออนุญาตงดตอบคำถามใดๆทางเพจและ facebook ค่ะ หากท่านใดมีคำถามเกี่ยวกับการกินวิตามินเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพและบำรุงผิวพรรณ รบกวนส่งคำถามไปยัง blog แป้งปังปอนด์ นานาสารพันปัญหา volume 5 อย่างเดียวเท่านั้นค่ะ ขออนุญาตฝากกด like เพจแป้งปังปอนด์ เพื่อเป็นกำลังใจในการสรรค์สร้างผลงานด้วยมันสมองและสองมือพยาบาลสาวภูไท คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จบการศึกษา ปี พ.ศ 2539 จากที่ราบสูงคนนี้ด้วยนะคะ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการนำชื่อ " แป้งปังปอนด์ " ไปใช้เพื่ออ้างอิงหรือติดป้ายสินค้าในเวปไซด์หรือที่ใดๆหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน " Blog แป้งปังปอนด์ " แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยการเผยแพร่เพื่อการอ้างอิงหรือนำรูปภาพไปโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
|