กันยายน 2565

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
 
 
เปิด blog ใหม่ นานาสารพันปัญหา volume 8
เรียนแจ้งทุกท่านเพื่อโปรดทราบ

แป้งเพิ่มช่องทางการตอบคำถามเกี่ยวกับสุขภาพและผิวพรรณ
ประจำสัปดาห์ดังนี้

1.https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=rainny-season&month=30-09-2022&group=14&gblog=1

2.https://pangpungpond.blogspot.com/2021/10/volume-1.html

โดยสามารถเลือกส่งคำถามมาได้ตามช่องทางที่สะดวก
กรุณาแจ้งอายุ ส่วนสูงและน้ำหนักมาพร้อมปัญหาสุขภาพและผิวพรรณมาด้วยทุกครั้งเพราะหลายครั้ง คำตอบอยู่ในข้อมูลส่วนนี้ด้วยค่ะ

รบกวนทุกท่านส่งคำถามตั้งแต่วันที่  30 กันยายน 2565 เป็นต้นไป
 
แป้งจะมาตอบทุกปัญหาเท่าที่หาข้อมูลมาได้ เป็นประจำทุก
วันอาทิตย์
โดยปิดรับคำถามทุกวันเสาร์ เวลา 12.00 น.
หากเกินกว่านั้น ขออนุญาตยกยอดไปตอบในครั้งถัดไปค่ะ


ขอแสดงความนับถือ

แป้งปังปอนด์


 



Create Date : 30 กันยายน 2565
Last Update : 30 กันยายน 2565 16:47:41 น.
Counter : 2902 Pageviews.

108 comments
  
สวัสดีค่ะคุณแป้ง
ห่างหายจาก blog นี้ไปนานเนื่องจากจำฃื่อบล็อคไม่ได้ :'( ตอนนี้มีปํญหามากมายเกี่ยวกับสุขภาพผิวพรรณค่ะ เนื่องจากเริ่มเข้าวัยทอง ประจำเดือน เริ่มขาดหายไป ทำให้มีฝ้าขึ้น และสิวก็เริ่มมีเพิ่มขึ้นด้วย รวมถึงผมร่วง มากจนบางและเริ่มจะเห็นหนังศรีษะเป็นเงา ผมร่วงอาจจะเนิื่องมากจากการย้อมผมด้วยค่ะ ตอนนี้อายุ 45 ปี น้ำหนัก 52 กก. สูง 164 ซม ออกกำลังกายอาทิตย์ละ 5 วัน ย้อมผม เดือนละครั้ง ด้วยยาย้อมผมแบบสระเปลี่ยนสีผม (ที่ซองเขียนว่า 100% organic ยี่ห้อ โรจูคิส) ที่ต้องย้อมเนื่องจากผมขาวเยอะมาก รวมถึงหน้าตาหมองคล้ำจากฝ้า และสิว ผิวมันขาดน้ำ ทำให้ดูโทรมมากถ้าไม่ย้อมผม จึงอยากปรึกษาคุณแป้งว่า
ควรกินวิตามิน อะไรที่ช่วยเรื่องฝ้า สิว และผมร่วง ดีคะ

ขอบคุณ คุณแป้งล่วงหน้า ขอให้บุญรักษาพระคุ้มครอง ที่ช่วยแชร์ความรู้ดีๆ และตอบปัญหาผิวพรรณให้ ขอบคุณมากค่ะ
โดย: อิฃั้นเอง IP: 180.180.197.231 วันที่: 20 ตุลาคม 2565 เวลา:15:41:29 น.
  
@อิชั้นเอง ; แป้งพอจำได้เลือนลางว่า คุณอิชั้นเองเคยเขียนมาถามเกี่ยวกับผิวพรรณอะไรสักอย่างนี่แหละ ที่จำได้เพราะชื่อไม่เหมือนใครคะ อิอิ

ปัญหาผมร่วง อาจเกิดได้จากวัยทองและยาย้อมผมได้คะ

หน้าตาหมองคล้ำจากฝ้าเนื่องจาก พอเริ่มเข้าวัยทอง ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนมีหน้าที่ช่วยให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวล ได้เริ่มหมดไปจากร่างกาย ผิวหนังทุกส่วนจะบางและแห้งลงเรื่อยๆ ผิวหน้าก็เช่นเดียวกัน แทบจะเป็นเรื่องปกติที่สาววัยนี้จะเกิดฝ้าได้ง่ายคะ

ขอชื่นชมที่สามารถออกกำลังกายได้ถึง 5 วัน แป้งออกกำลังกายได้แค่สัปดาห์ละ 2 วัน(คาร์ดิโอ~45-50 นาที)เดินย่อยอาหารเป็นเพื่อนสามีตอนกลางคืนทุกวันๆละ 30-45 นาทีเองค่ะ

แนะนำวิตามินดังนี้
1.ALA 600 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
2.antioxidant optimizer ยี่ห้อ Esmeralde ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
3.zinc chelate 22 mg ยี่ห้อ solgar ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนอาหารเช้า
4.healthy hair renew ยี่ห้อ Esmeralde ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
5.Lyc-o-mato 15 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
6.Ester-c 1000 mg ยี่ห้อ solgar ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า

เกือบลืมเล่าให้ฟังว่า แป้งเจอเพื่อนร่วมรุ่นอายุ 48-49 ปีเมื่อเดือนที่แล้ว อยู่ดีๆมีเพื่อนคนหนึ่งทักว่า แป้งนี่ผมหนาจัง นึกว่าใส่ผมปลอม
แป้งรีบบอกว่า เป็นเพราะแป้งไม่มีลูก ไม่ต้องตั้งครรภ์คลอดบุตร เซลล์รากผมเลยยังแข็งแรงอยู่ เพื่อนคนเดิมพูดสวนว่า เราก็ไม่มีลูก
ผมเราบ๊างบางกว่าเมื่อก่อนเยอะ เจอแบบนี้แป้งถึงกับไปต่อไม่เป็นเลย พอดีแป้งเห็นแม่และน้องสาว(มีลูก 2 คน)บ่นเรื่องผมบางอยู่เหมือนกัน(ก่อนกินวิตามิน) ปัจจุบันผมหนาขึ้นเรียบร้อยคะ

แนะนำว่า กินวิตามินต่อเนื่องไปเรื่อยๆ อย่าหยุด หากหยุดกินเมื่อไหร่ ระดับวิตามินในกระแสเลือดจะลดต่ำลง จนหมดไปในที่สุด สภาพร่างกายจะกลับเป็นเหมือนเดิม ก่อนกินวิตามินคะ

Zinc 22 mg มีจุดประสงค์เพื่อลดสิว แต่แป้งไม่แน่ใจว่า ในบางคนอาจมีผลทำให้ผิวแห้งขึ้น ซึ่งตรงนี้จะไม่ดีแน่เพราะจะทำให้ฝ้าชัดเจนกว่าเดิม แป้งมีผิวผสมกิน zinc ผิวก็แห้ง สามีแป้งถึงกับคัน(กินเพื่อเพิ่มระดับภูมิต้านทาน)

ยังไงหากเคยกิน zinc แล้วผิวไม่แห้ง สามารถกินได้เลย
หากไม่อยากกิน กลัวแห้งยิ่งกว่าเดิม รบกวนแจ้งด้วยนะคะ
แป้งจะเปลี่ยนวิตามินตัวใหม่ให้คะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 23 ตุลาคม 2565 เวลา:10:57:24 น.
  
สวัสดีค่ะคุณแป้ง
ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมายกับสมาชิกและดิฉันเป็นอย่างมากค่ะ อยากให้คุณแป้งแนะนำวิตามิน
1.ดิฉันอายุ 52 น้ำหนัก 55 kg. สูง 157 cm.ประจำเดือนยังมาปกติ 2-3วัน(แต่มาน้อยกว่าตอนสาวๆ) ผิวแห้งเป็นฝ้า กระ เยอะที่หน้า รูขุมขนใหญ่ ผิวหมองคล้ำ ผิวหน้าไม่เรียบเนียน มีริ้วรอยตามอายุ มีอาการคันตามผิวหนังที่คอ หน้าอก หลังโดยเฉพาะก่อนมีรอบเดือน ท้องผูกเป็นประจำ เดินออกกำลังกายช่วงเย็น ประมาณ 30-40 นาที สัปดาร์ละ 3 วัน ปัจจุบันทาน
1.แคลเซี่ยมchalkcap-1000 วันละ 1 เม็ด
2.calciferol capsules vitamin D2 อาทิทย์ละ 1 เม็ด
3.วิตามิน C kirkland 1000mg 2 เม็ด เช้า เย็น
4. fish oil 1200 mg nature made 2 เม็ด เช้าเย็น
ตอนนี้วิตามินที่ทานบางตัวหมด บางตัวใกล้หมด อยากจะเริ่มต้นทานวิตามินอย่างจริงจังและให้ได้ผล อยากให้คุณแป้งแนะนำวิตามินให้หน่อยค่ะ

2.น้องชาย อายุ 49 น้ำหนัก 75 kg สูง 172 cm เป็นความดันสูง หมอให้กินยา Tanzaril 50 mg วันละ 1 เม็ด(วัดได้ 120-130) เป็นเบาหวานระยะเริ่มต้น(จำค่าน้ำตาลไม่ไ้ด้ตรวจเมื่อปลายปี 64) หมอให้ทานยา glucophage 500 mg วันละ 2 เม็ด เช้า เย็นและ bestatin 20 วันละ 1 เม็ด ส่วนวิตามินที่ทาน
1.วิตามิน c kirkland 1000 mg เช้า เย็น
2.fish oil nature made 1200 mg เช้า เย็น
รบกวนคุณแป้งแนะนำวิตามินให้หน่อยค่ะ น้องชายมีแผลเป็นที่ขาทั้ง 2 ข้าง เกิดจากอาการคัน เกามีแผลพุพอง อาการคันหายหมดแล้วทิ้งแต่รอยแผลเป็นเอาไว้ทายา ทาครีมไปเท่าไหร่ก็ไม่หาย ทำให้ไม่กล้าใส่กางเกงขาสั้นออกจากบ้านเลยค่ะ คุณแป้งมีแนะนำยาทาขาลายบ้างมั๊ยคะ

ขอบคุณคุณแป้งล่วงหน้านะคะ..รออ่านคำตอบค่ะ

โดย: maggie IP: 171.99.153.94 วันที่: 30 ตุลาคม 2565 เวลา:13:59:38 น.
  
@maggie : ขอบคุณมากมายที่ติดตามแป้งเช่นกันคะ

อาการคันตามผิวหนัง เช่น คอ หน้าอกและหลัง ช่วงก่อนมีรอบเดือน เกิดจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนลดระดับลง ผิวหนังจึงบางและแห้งคัน เบื้องต้นแนะนำใช้ครีมอาบน้ำที่มีมอยส์เจอร์ไรเซอร์ อย่างครีมอาบน้ำ Eucerin PH 5 shower oil ตามด้วยเบบี้ออยล์ผสมโลชั่นทาผิว อย่าง Jergen ultra healing extra dry skin ทาบริเวณที่มีอาการคัน

อาการท้องผูกที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เป็นผลข้างเคียงจากการกินแคลเซียม CHALKCAP-1000 มีแคลเซียมคาร์บอเนต 1,000 มิลลิกรัม (เทียบเท่าแคลเซียม 400 มิลลิกรัม) ซึ่งแคลเซียมคาร์บอเนตดูดซึมได้ไม่ค่อยดีเท่าแคลเซียมซิเตรต(Calcium citrate) หรือ แคลเซียมแอลทรีโอเนต(สกัดจากข้าวโพด ดูดซึมได้ 90%)

หากคุณ Maggie มีความประสงค์ที่จะกินแคลเซียมต่อ หรือปัญหาท้องผูกเกิดก่อนที่จะกินแคลเซียม รบกวนแจ้งแป้งอีกครั้ง จะแนะนำวิตามินใหม่ให้คะ

Calciferol เป็นรูปแบบของวิตามิน D2

วิตามินดีที่พบในอาหาร จะมีอยู่ 2 ชนิด นั่นคือ วิตามินดี 2 (Vitamin D2) หรือ เออโกแคลซิเฟอรอล (Ergocalciferol) ซึ่งจะมาจากอาหารที่เป็นพืชเท่านั้น เช่น เห็ด นมและซีเรียลที่เติมวิตามินดี วิตามินดี 3 (Vitamin D3) หรือ โคเลแคลซิเฟอรอล (Cholecalciferol) พบในเนื้อสัตว์ เช่น ปลาทะเล ไข่แดง นมที่เติมวิตามินดี

ตับจะเปลี่ยนวิตามินดี 2 ให้กลายเป็น 25-Hydroxyvitamin D2 และวิตามินดี 3 เป็น 25-Hydroxyvitamin D3 ซึ่งเป็นรูปแบบวิตามินดีที่ร่างกายนำไปใช้ได้ จะเรียกสาร 2 ตัวนี้ว่า Calcifediol

วิตามินดี 3 จะเพิ่มระดับ Calcifediol ในเลือดได้มากกว่า วิตามินดี 2 เป็นสองเท่า ดังนั้นหากซื้ออาหารเสริมวิตามินดี ควรเลือกซื้อเป็น วิตามินดี 3 จะดีกว่าคะ

แนะนำวิตามินดังนี้
1.antioxidant optimizer ยี่ห้อ Earth nutrients ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
2.Ester-c 1000 mg ยี่ห้อ Solgar ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
3.restorative hydration complex ยี่ห้อ vitality life ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
4.ALA 600 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
5.Trinity royale oil ยี่ห้อ Aurora Borealis ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า

วิตามินน้องชาย
เท่าที่แป้งดูรายชื่อยาที่คุณหมอจ่ายยาให้ มีทั้งยาลดความดันโลหิตสูง ยารักษาเบาหวานและยาลดไขมัน(bestatinหรือ simvastatin) ข้อแนะนำพิเศษจากใจคือ ไม่ว่าจะได้รับยาอะไรมาก็ตาม ก่อนกินยาใดๆควร search google โดยคีย์ชื่อยาว่าใช้รักษาอะไร สำคัญที่สุดคือ ผลข้างเคียงของยา เพราะเวลาที่เรากินยาเข้าไปแล้ว เกิดอาการแพ้หรือมีผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ เราจะได้รู้ว่า อาการที่เกิดขึ้นเป็นข้างเคียงของยา หากทนไม่ไหว ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อแจ้งว่า เราแพ้ยาตัวนี้ กินแล้วมีผลข้างเคียง บลาๆ
แล้วขอให้หมอจ่ายยาตัวใหม่ที่มีผลข้างเคียงน้อยลงให้คะ

แป้งแนะนำคนในครอบครัวและครอบครัวสามีแบบนี้ประจำ จนปัจจุบันเวลาที่พ่อของสามีไม่สบายแล้วได้ยารักษาโรคกลับมา พอกินแล้วมีคลื่นไส้ อาเจียน น้องสาวสามีที่ดูพ่ออยู่ หยุดยาตัวนั้นทันทีเลยคะ แต่มีอาการบางอย่างที่ต้องพี่งแป้งให้ช่วยวิเคราะห์ว่า เกิดจากยาตัวไหนเพราะพ่อสามีกินยาอยู่หลายตัว(ยาโรคระบบประสาท,ยาระบบหัวใจและหลอดเลือดจะค่อนข้างยาก)

ยากันชักบางตัวจะมีผลทำให้ท้องผูก แป้งก็แนะนำให้แจ้งแพทย์เพื่อขอลดจำนวนเม็ดยาต่อวันลงเพราะยากันชักที่ให้มา ไม่ใช่เพื่อรักษาโรคที่เป็นอยู่ แต่อาการชักเป็นผลข้างเคียงจากการผ่าตัดสมอง เมื่อร่างกายฟื้นฟูเป็นปกติ ยากันชักควรจะลดลงได้(ที่สำคัญมียากันชักอยู่แล้ว 1 ตัว ซึ่งตัวนี้ไม่มีผลข้างเคียงทำให้ท้องผูก)

เล่ามายืดยาวเพียงเพื่อให้เห็นภาพว่า ยารักษาโรคมีคุณอนันต์แต่ตามมาด้วยผลข้างเคียงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ อย่าง simvastatin มีหลายคนที่กินแล้ว ปวดกล้ามเนื้อ ส่วนใหญ่จะเป็นในผู้หญิง หากแจ้งไป หมอจะเปลี่ยนยาลดไขมันกลุ่มอื่นให้คะ

การลดระดับน้ำตาลสามารถทำได้เบื้องต้น คือ ลดข้าวเหลือแค่ครึ่งทัพพี(ในข้าวมีคาร์โบไฮเดรตที่เปลี่ยนเป็นน้ำตาล)เน้นกับข้าว ออกกำลังกายวันละ 25-30 นาที ลดขนมหวาน ผลไม้ที่รสหวาน
แต่น่าเสียดายที่เริ่มกินยารักษาโรคเบาหวานไปแล้ว

แนะนำวิตามินดังนี้

1.antioxidant optimizer ยี่ห้อ Earth nutrients ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
2.Ester-c 1000 mg ยี่ห้อ Solgar ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
3.vit-e 400 iu ยี่ห้อ natural factor ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น(กินเพื่อลดรอยดำและรอยแผลเป็น หมดขวดสามารถหยุดกินได้คะ)

รบกวนส่งภาพรอยแผลเป็นให้แป้งที่ nanny_polsue@hotmail.com ไม่เห็นขนาดและลักษณะแผลเป็น อาจแนะนำครีมทาไม่ครอบคลุมคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 8 พฤศจิกายน 2565 เวลา:0:37:08 น.
  
ขอบคุณหลายๆค่ะคุณแป้ง ที่แนะนำวิตามินให้ค่ะ ตอนนี้สั่งซื้อไปเรียบร้อยแล้วค่ะ 5 รายการ (ไม่รวมของน้องชาย เด่วจะส่งรูปแผลเป็นให้ทางเมลให้คุณแป้งนะคะ) แม็กกี้รบกวนถาม
1.เรื่องแคลเซี่ยม อายุเริ่มเยอะ (52ปี นน.55 สูง 157ซ.ม) กังวลเรื่องกระดูกพรุนค่ะ ตอนนี้ทานแคลเซี่ยมchalkcap-1000+ calciferol capsules vitamin D2 อยู่ จะไม่ทานต่อแล้ว เพราะทำให้ท้องผูก คุณแป้งช่วยแนะนำวิตตามินที่บำรุงกระดูกให้หน่อยค่ะ
2. fish oil 1200 mg nature made จำเป็นต้องทานมั๊ยคะ (ใกล้หมดแล้ว)

ตื่นเต้นค่ะคุณแป้ง จะได้กินวิตตามินที่ตรงจุดปัญหาของเราเสียที ขอบคุณมากนะคะคุณแป้ง รออ่านค่ะ
โดย: maggie IP: 124.122.132.71 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2565 เวลา:22:55:30 น.
  
@maggie ; แนะนำวิตามินดังนี้
1.Calcium just one ยี่ห้อ rainbow light ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
2.D3 1000iu ยี่ห้อ solgar ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า

ส่วน fish oil สามารถกินต่อได้เพราะช่วยสร้างเซลล์ให้แข็งแรง รวมถึงเอ็นที่รองรับข้อต่อและยังมีคุณสมบัติต้านการอักเสบอีกด้วยคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 6 ธันวาคม 2565 เวลา:0:05:18 น.
  
สวัสดีค่ะพี่แป้ง น้องหมูเองนะคะ ห่างหายไปนานเลย ถือโอกาสแวะมาสวัสดีปีใหม่พี่แป้งค่ะ และกำลังจะกลับมาทานวิตามินอีกครั้งแบบจริงจังแล้วอยากรบกวนมาขอตัวช่วยพี่แป้งตามน้ีค่ะ
1. ความขาวใสผิวสว่างออร่า ขอแบบจัดเต็มเลยค่ะ
2. ดีืท็อกตับและลำไส้
3. ลดพวกไขมันเซลลูไลท์หรือส่วนเกินที่ทำให้ดูอย้วยค่ะ (น้ำหนักไม่เยอะค่ะ แต่ว่ามีแฟต)
4. วิตามินบำรุงผม ลดผมร่วง และทำให้ผมแข็งแรงค่ะ

ขอบคุณพี่แป้งมากเลยค่าาา

อายุ 32 ปี น้ำหนัก 48 สูง 165 ค่า
โดย: น้องหมู IP: 49.228.230.19 วันที่: 2 มกราคม 2566 เวลา:20:04:36 น.
  
สวัสดีครับคุณแป้ง
ผมซัน อายุ 48 น้ำหนัก 72 กก.สูง 172 ซ.ม.เป็นเบาหวาน ความดันสูง ทานยาควบคุมอยู่ ไม่ได้พบแพทย์มาหลายปีแล้วซื้อยาทานเอง ตอนนี้พบอีกอาการนึงคือชอบปวดสั้นเท้าเป็นๆ หายๆ ไม่ทราบเป็นเก๊าท์ด้วยรึเปล่าครับ ไม่กล้าไปตรวจกลัวเจอหลายโรคครับ อยากดูแลสุขภาพเองมากกว่าให้หมอดูแลครับ...อยากให้คุณแป้งแนะนำวิตมินให้ครับ ไม่อยากทานยาไปตลอดชีวิต ผม มีรอยแผลที่ขามา 2-3 ปี ไม่หาย คล้ายแผลพุพองเป็นจุดดำๆ กระจายแน่นๆตามขาทั้ง2 ข้าง )ปัจจุบันยาที่ทานเป็นประจำ
1.Tanzaril 50mg.ครึ่งเม็ด ก่อนนอน (ลดความดัน)
2.Glucoghage 500mg. ครั้งละ 2 เม็ด หลังอาหารกลางวัน-เย็น
3.Bestatin 20mg. 1 เม็ด ก่อนนอน
4.Ester-c 1000mg.1 เม็ด หลังอาหารกลางวัน-เย็น

รบกวนคุณแป้งแนะนำวิตามินให้ด้วยครับ ถ้าไม่ทานยาเบาหวาน กับความดัน มีวิตามินที่ทานแทนยามั๊ยครับ หรือต้องทานควบคู่กัน รอคำตอบครับ
โดย: sun IP: 58.8.177.52 วันที่: 5 มกราคม 2566 เวลา:18:05:06 น.
  
อายุ33 สูง175 น้ำหนัก77
แปลงเพศบวกลดความอ้วนลดลงมา 40 โล ทำให้ผมร่วง ผมบางหนักมาก อยากให้พี่แป้งแนะนำวิตามินบำรุงผมหยุดผมร่วงผมบางหน่อยคะ
โดย: หนิง IP: 124.122.30.55 วันที่: 9 มกราคม 2566 เวลา:17:31:16 น.
  
@น้องหมู ; สวัสดีปีใหม่เช่นกันคะ หนูนี่รู้สึกจะกินวิตามินแบบกินไปหยุดพักไปนะคะ แสดงว่า ร่างกายยังแข็งแรงอยู่มากแถมอายุยังน้อย พอหยุดกินวิตามินแล้วจะเฉยๆ ตรงข้ามกับพี่แป้งที่ไม่กล้าหยุดวิตามินแม้เพียงวันเดียว เคยหยุดกินเพราะวิตามินหมด รู้สึกเหนื่อยล้า ไม่มีแรงชัดเจนยกเว้นช่วงที่ได้รับวัคซีน AZ เข็มเดียว

อย่างว่า น้องหมูอายุน้อยกว่าพี่แป้งตั้ง 16 ปีแน่ะ คิคิ

แนะนำวิตามินดังนี้

วิตามินผิวขาวใส
1.skin whitening ยี่ห้อ Esmeralde ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
2.antioxidant optimizer ยี่ห้อ earth nutreints ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
3.ALA 600 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
4.ester-c 1000 mg ยี่ห้อ Solgar ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
5.Lyc-o-mato 15 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 2 เม็ด หลังอาหารเช้า
6.grape seed 300 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
7.glutathione 500 mg ยี่ห้อ jarrow formuals ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเย็น

วิตามินดีท็อกซ์ตับและลำไส้
7.Ultra liver cleanse ยี่ห้อ Aurora Borealis ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนนอน
8.Ultimatum detox ยี่ห้อ vitality life ครั้งละ 2 เม็ด ก่อนนอน


วิตามินลดเซลลูไลต์
9.Energizing fat burner ยี่ห้อ Natural letter ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น

วิตามินบำรุงผม
10.supreme hair essentials ยี่ห้อ esmeralde ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
11.healthy hair renew ยี่ห้อ Esmeralde ครั้งละ 1 เม็ด
หลังอาหารเช้า-เย็น

@หนิง ; แนะนำวิตามินดังนี้
1.supreme hair essentials ยี่ห้อ esmeralde ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
2.hair extra strength ยี่ห้อ earth nutrients ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น

ผมร่วงผมบางจากการลดน้ำหนัก ควรกิน whey protein คุณภาพสูง(ไม่ผสมแป้งหรือมอลโตรเด็กตรินซ์) จะเห็นผลชัดเจน แต่อาจใช้เวลานานหน่อยคะ

@ซัน ; โรคเบาหวานเป็นโรคที่พบมากขึ้นในปัจจุบัน และพบว่าผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานมากกว่า 70% จะมีอาการผิดปกติทางผิวหนังร่วมด้วย อาการทางผิวหนังบางอย่างสามารถเจอได้ตั้งแต่ระดับน้ำตาลเริ่มขึ้นโดยยังไม่เป็นเบาหวานเลย ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในกรณีที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทางผิวหนัง

อาการคันโดยที่ไม่มีรอยโรค พบประมาณ 20-40% ของผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานมักมีผิวแห้ง รวมถึงอาการตาแห้งหรือน้ำลายในช่องปากน้อยลงด้วย ส่วนใหญ่พบในผู้ป่วยที่คุมระดับน้ำตาลไม่ดี การรักษา คือ ใช้โลชั่นให้ความชุ่มชื้น และที่สำคัญต้องคุมระดับน้ำตาลให้เป็นปกติ

โรคเบาหวานอาจส่งผลให้เกิดจุดสีน้ำตาลที่ขาเนื่องจากการสร้างอินซูลินในกระแสเลือด

• ตุ่มนูนแข็ง มีอาการคันมาก มีลักษณะเป็นตุ่มนูนสีเหลือง น้ำตาล มีเคราติน plug อยู่ตรงกลาง พบบริเวณแขน ขา ลำตัว และมีอาการคันมาก พบในผู้ป่วยเบาหวานที่เป็นมานานกว่า 10 ปี โดยเฉพาะมีโรคไตวายร่วมด้วย
• ตุ่มนูนสีแดง ไม่คัน มีลักษณะเป็นตุ่ม หรือปื้นสีแดงเป็นวงกลม หรือวงแหวน ไม่คัน พบตามลำตัว แขน ขา เป็นต้น

ทายารักษารอยดำ ไม่น่าหายขาดเพราะผิวเสียหายถึงระดับเมลาโนไซต์ น่าจะต้องทำเลเซอร์ จะเห็นผลเร็วกว่าคะ

• การรักษาด้วยเลเซอร์ครอบคลุมหลายขั้นตอน ขั้นตอนแรกจะส่งลำแสงโดยตรงเพื่อขจัดผิวหนังออกจากบริเวณที่ได้รับผลกระทบ ในขณะที่อีกขั้นตอนหนึ่งจะกำหนดเป้าหมายไปยังชั้นหนังแท้เพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตของคอลลาเจนและกระชับผิว
• การรักษาดังกล่าวอาจทำหลายครั้ง

แป้งแนะนำว่า หากเป็นเบาหวานและความดันโลหิตสูง
ควรพบแพทย์สม่ำเสมอเพื่อตรวจเช็คระดับน้ำตาลและความดันโลหิต ซึ่งแพทย์จะเป็นปรับระดับยาที่ต้องกินให้เหมาะสมกับอาการ

พ่อแป้งเป็นความดันโลหิตสูง กินยาลดความดันตั้งแต่อายุ 40 ปี ปัจจุบันอายุ 71 ปี ช่วงที่แป้งเริ่มศึกษาวิตามินจากอเมริกา ยังไม่กล้าให้พ่อหยุดยาลดความดันโลหิตเองเนื่องจากอยู่คนละที่ ไม่สามารถสังเกตอาการตอนที่ไม่กินยาได้ อีกอย่างกลัวมีผลต่อหลอดเลือด ทั้งๆที่พ่อไม่ชอบกินยาเป็นกอบเป็นกำ แกเคยเขวี้ยงยาลดความดันโลหิตทิ้งเพียงเพราะไม่อยากกินยา แต่สุดท้ายก็กลับมากินเหมือนเดิมคะ(ไปพบแพทย์เพื่อรับยาทุก 3 เดือน) พ่อสุขภาพแข็งแรง มีพลังกว่าคนในวัยเดียวกันเพราะกินวิตามินเสริมตามที่แป้งแนะนำ เพียงเท่านี้แป้งก็ดีใจที่สุดแล้วคะ

การหยุดยาเองในกรณีที่กินยามาหลายปีเพื่อมากินวิตามินทดแทน ไม่สามารถทำได้เนื่องจาก วิตามินมีฤทธิ์อ่อนกว่ายารักษาโรคเยอะมากๆ อย่างคุณซันกินยาลดน้ำตาล Glucophage 500 mg วันละ 2000 mg อยู่แล้ว พอหยุดยาแล้วมากินวิตามินเพียงอย่างเดียว ระดับน้ำตาลจะไม่ลดลงเทียบเท่ากับการกินยาคะ

ในกรณียาลดความดันโลหิตสูงเช่นเดียวกันนะคะ

แนะนำวิตามินดังนี้
1. Cinnamon ยี่ห้อ solgar ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
2.ALA 600 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
3.grape seed 300 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า

อาการปวดส้นเท้าเป็นๆหายๆ อาจจะเป็นเก๊าต์ทุติยภูมิ หมายถึง ผู้ป่วยที่เป็นโรคประจำตัวอื่นอยู่แล้วหรือกินยาที่ใช้รักษาตัว เป็นเหตุที่ทำให้เกิดภาวะกรดยูริคในเลือดสูงจนเกิดอาการโรคเก๊าต์เป็นผลพวงตามมา เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง

ทั้งนี้ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดเช็คระดับกรดยูริก แต่คนที่มีระดับกรดยูริกสูงจนทำให้เกิดโรคมีเพียงร้อยละ 10-20 เท่านั้น
หากแพทย์วินิจฉัยว่า เป็นโรคเกาต์ ไม่จำเป็นต้องกินยา สามารถกินวิตามินบรรเทาอาการได้คะ

หากอยากดูแลสุขภาพตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งแพทย์ ร่างกายควรไม่มีโรคประจำตัวที่ต้องกินยารักษาโรคใดๆ อันนี้ทำได้แน่นอนเพราะการไปนั่งรอหมอระบบประกันสังคมครึ่งค่อนวัน ต้องไปแต่เช้ามืดเพื่อจะได้คิวแรกๆ พอถึงคิวได้คุยกับแพทย์ไม่ถึง 5 นาที มันน่าเบื่อนะคะ

ลองอ่านข้อมูลข้างล่างเผื่อเป็นแนวทางและฟังยูทูปเพิ่มเติมได้นะคะ

จากหนุ่มใหญ่วัยใกล้เกษียณที่ถูกโรคร้ายรุมเร้าถึง 6 โรค ทั้งโรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ ตับอักเสบรุนแรง และปริมาณเม็ดเลือดแดงมากเกินไป ซึ่งจากประสบการณ์ทางแพทย์ที่สั่งสมมา ทำให้เขารู้ว่า โรคร้ายเหล่านี้ไม่มีทางรักษาให้หายขาด ทำได้เพียงกินยาเพื่อบรรเทาอาการเท่านั้น

แต่เมื่อเขานำศาสตร์ในการดูแลตัวเองด้วยวิธีธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากการค้นคว้าและทดลองปฏิบัติด้วยตัวเองมาใช้

นพ.บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ กรรมการผู้จัดการโรงพยาบาลราชธานี โรงพยาบาลชื่อดังของจังหวัดอยุธยา และประธานกรรมการบริหารเวลเนสซิตี้ กรุ๊ป ก็ต้องพบกับความอัศจรรย์ว่า เขาสามารถขจัดโรคร้ายทั้ง 6 โรคได้ภายในระยะเวลาแค่ 4 เดือน

• 6 โรคร้ายรุมเร้าจนต้องลุกขึ้นมาหาวิธีปฏิวัติตัวเอง

คุณหมอบุญชัยเล่าว่า ด้วยการใช้ชีวิตแบบคนเมืองที่เต็มด้วยความเร่งรีบ ความเครียดที่เกิดจากการทำงานและการกินอาหารตามความเคยชิน ส่งผลให้สุขภาพของเขาเริ่มมีปัญหา และสั่งสมเรื่อยมาจนกลายเป็นโรคร้ายถึง 6 โรคด้วยกัน

น้ำหนักของเขาขึ้นไปถึง 113 กิโลกรัม ระดับน้ำตาลในเลือดสูงถึง 294 ขณะที่ความดัน ตัวบนอยู่ที่ 170 ตัวล่าง 110 อีกทั้งไขมันในเลือดยังผิดปกติ!!

แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นคือ แม้เขาจะเป็นหมอที่ช่วยชีวิตคนไข้มามากมาย แต่เขากลับไม่สามารถรักษาโรคเหล่านี้ของตัวเองให้หายขาดได้

ในทางกลับกันโรคที่เป็นอยู่กำลังเป็นสะพานที่นำไปสู่โรคภัยที่ร้ายแรงขึ้น จุดนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจให้คุณหมอหันมาศึกษาค้นคว้า เพื่อหาทางแก้ไขและลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองอย่างจริงจัง

“ความจริงหลายๆโรคที่เป็นเนี่ยะ เราก็รู้มาก่อนอยู่แล้ว อย่างโรคอ้วน โรคเม็ดเลือดแดงมากเกินไป โรคตับอักเสบเรื้อรัง ความดันโลหิตสูง แต่สาเหตุที่ทำให้ผมตัดสินใจลุกขึ้นมาเปลี่ยนชีวิตตัวเองก็คือ เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ปี 53 ผมตรวจร่างกาย พบว่า เป็นเบาหวานและน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งโรคเบาหวานมันเป็นต้นเหตุให้เกิดโรคต่างๆตามมาอีกเยอะ เช่น โรคหัวใจ เส้นเลือดในสมองตีบ ตาบอดเพราะเบาหวานขึ้นตา

โรคเบาหวานไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทำได้เพียงรักษาตามอาการ กินยาเพื่อรักษาระดับน้ำตาล ซึ่งต้องกินยาตลอดชีวิต แต่การกินยามากๆ จะทำให้เกิดผลข้างเคียงคือ ทำให้ตับเสื่อมและไตวาย ซึ่งตรงนี้ทำให้ผมมองหาวิธีการใหม่ที่จะมีโอกาสหายจากโรคเบาหวานหลากหลายวิธีการ

วิธีการที่ผมใช้เริ่มจากพื้นฐานความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์ และอาศัยความรู้หลายอย่างประกอบกัน ทั้งความรู้เรื่องประวัติศาสตร์ โบราณคดี วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ ความรู้เรื่องการเจริญของโลก ความรู้เรื่องมานุษยวิทยา ความรู้เรื่องวิทยาศาสตร์ทางจิต ซึ่งเราก็เอาหลายๆอย่างมาผสมผสานกัน เพื่อหารากเหง้าความเป็นมาว่า มนุษย์เรามีความเป็นมาอย่างไร คือคนในปัจจุบันไม่ได้ดำรงอยู่ตามธรรมชาติ เพราะเราสั่งสมวัฒนธรรมความรู้เพื่อจะทำให้เราดำรงชีวิตอย่างสะดวกสบาย ซึ่งการที่เราใช้ชีวิตผิดธรรมชาติ เป็นสาเหตุที่ทำให้เราป่วย ดังนั้น การที่เราจะหายป่วยได้ เราก็ต้องไปหาว่า การใช้ชีวิตตามธรรมชาตินั้นเป็นอย่างไร” นพ.บุญชัย เล่าย้อนให้ฟังถึงสาเหตุที่ทำให้เขาลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง

• ค้นพบศาสตร์ ‘ห้าม 5 ต้อง 5' สลายโรคร้าย

จากการศึกษาวิเคราะห์ศาสตร์ต่างๆ ทำให้คุณหมอบุญชัยได้ข้อสรุปว่า อาหารที่คนเรานิยมบริโภคอยู่ในปัจจุบันนั้น ไม่สอดคล้องกับธรรมชาติและความต้องการของร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย ดังนั้น จึงจำเป็นต้องแก้ที่ต้นเหตุคือ ปรับเปลี่ยนวิธีการกินและการดำรงชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติของมนุษย์ จึงเกิดเป็นศาสตร์ ‘ห้าม 5 ต้อง 5' ที่คุณหมอค้นพบด้วยตัวเอง

การค้นพบครั้งนี้ได้สร้างความอัศจรรย์ให้แก่วงการแพทย์อย่างยิ่ง เพราะหลังจากที่คุณหมอนำศาสตร์ดังกล่าวมาปฏิบัติอย่างจริงจัง ก็ปรากฏว่า โรคร้ายที่คุณหมอบุญชัยเป็นอยู่ถึง 6 โรคนั้นได้อันตรธานหายไปภายระยะเวลาแค่ 4 เดือนเท่านั้น

“จากการศึกษาทำให้เราพบว่า จริงๆแล้วมนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ซึ่งอยู่ในตระกูลสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ตระกูลเดียวกับลิง สมัยดึกดำบรรพ์เรากินผักและผลไม้เป็นหลัก ซึ่งผักผลไม้ที่เรากินจะเป็นพวกใบอ่อน ย่อยง่าย และก็กินพวกเนื้อสัตว์บ้าง กินไข่ กินดินโป่งเป็นอาหารเสริม แต่ปัจจุบันเราไม่ได้กินแบบนี้อีกแล้ว วิวัฒนาการทางวัฒนธรรมทำให้อาหารการกินของเราเปลี่ยนไป กลายเป็นว่าเราบริโภคสิ่งที่ไม่เหมาะกับร่างกายของมนุษย์ ผมก็มานั่งคิดว่า ถ้าเราจะใช้ชีวิตตามธรรมชาติที่แท้จริงของมนุษย์ เราจะทำยังไง จะปรับได้ขนาดไหน

ผมจึงออกแบบชีวิตในปัจจุบันให้ปลอดภัยในระดับที่สามารถรักษาโรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตผิดธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็ยังสามารถใช้ชีวิตในการทำงานแบบคนเมืองได้ คือต้องสร้างสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตตามกฎธรรมชาติและการใช้ชีวิตแบบคนเมือง เราก็ใช้วิธีการทดลอง ดูจากตำรา ดูจากงานวิจัย และการทดลองปฏิบัติ ทำให้ได้ข้อสรุปของวิธีดำเนินชีวิตตามกฎธรรมชาติ

สรุปออกมาเป็นข้อควรปฏิบัติ 5 ข้อ และสิ่งที่ไม่ควรปฏิบัติ 5 ข้อ ซึ่งเรียกสั้นๆว่า กฎห้าม 5 ต้อง 5” นพ.บุญชัย พูดถึงศาสตร์การคืนสู่วิถีธรรมชาติที่เขาค้นพบ

• มหัศจรรย์แห่งวิถีธรรมชาติ
โรคร้ายหายเป็นปลิดทิ้ง

หลังจากที่คุณหมอบุญชัยปฏิบัติตามกฎ ‘ห้าม 5 ต้อง 5' เขาก็พบกับความมหัศจรรย์แห่งวิถีธรรมชาติ เพราะสุขภาพของเขาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว และโรคร้ายที่เป็นอยู่หายไปเป็นปลิดทิ้ง

“ผมเริ่มปรับเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตมาตั้งแต่ปี 2553 ถึงตอนนี้ก็ 2 ปีกว่าแล้ว ซึ่งหลังจากเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตแค่เดือนก็เห็นผลแล้ว พอถึงเดือนที่ 4ปรากฎว่า 6 โรคที่เป็นหายหมดเลย ยกเว้นไขมันในหลอดเลือดยังลดลงไม่ถึงระดับ คือโรคอ้วนก็หาย จากเดิมน้ำหนัก 114 กก. ลดลงเหลือ 89 กก. น้ำหนักผมลดลงไป 25 กก.

ตอนนี้โรคต่างๆหายหมดแล้ว เบาหวานก็หาย น้ำตาลในเลือดที่เคยขึ้นไปถึง 294 ปัจจุบันเหลือ 90 มันลดลงเอง ไม่ต้องใช้ยาเลย ความดันผมลดลงจาก ตัวบน 170 เหลือ 105 ตัวล่างจาก 110 เหลือ 70 เส้นเลือดที่เคยแข็ง เส้นเลือดที่อุดตัน ก็เปลี่ยนเป็นเหนียว ยืดหยุ่นดี

คือมันเป็นวิธีที่ง่ายมากๆ เหมือนเส้นผมบังภูเขา แต่เรามองไม่ออก คือการใช้ยานอกจากจะแค่รักษาตามอาการ ไม่หายขาดแล้ว ยังมีผลข้างเคียงด้วย แล้วถ้าใช้ยาเราก็จะไม่เปลี่ยนวิธีใช้ชีวิต เพราะเราคิดว่ายาช่วยเราได้ คืออวัยวะที่มันเสื่อมไปเนี่ยะมันฟื้นไม่ได้

อย่างเช่นโรคเบาหวาน เกิดขึ้นเพราะตับอ่อนเสื่อมจึงผลิตอินซูลินได้ไม่ดี แต่ร่างกายต้องใช้อินซูลินในการควบคุมน้ำตาล เมื่อผลิตอินซูลินได้น้อยน้ำตาลในเลือดก็ขึ้น พอเราปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต ร่างกายดีขึ้น ตับอ่อนฟื้นตัวขึ้นก็ผลิตอินซูลินได้ดี เมื่อมีอินซูลินมาควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด น้ำตาลในเลือดก็ลดลงโดยไม่ต้องใช้ยาเลย” นพ.บุญชัย กล่าวถึงชีวิตใหม่ที่เขาได้รับหลังจากกลับมาสู่วิถีธรรมชาติ

• เดินหน้าเผยแพร่แนวคิดพิชิตโรค

เมื่อค้นพบวิธีที่สามารถทำให้หายจากโรคร้าย ด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีการดำเนินชีวิต ซึ่งนอกจากจะเป็นวิธีที่ง่าย และประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเห็นผลอย่างรวดเร็ว

ด้วยจิตวิญญาณของความเป็นหมอที่อยากเห็นคนไข้หายป่วยและกลับมามีสุขภาพที่ดี คุณหมอบุญชัยจึงตั้งใจที่จะเผยแพร่ความรู้ดังกล่าวให้แก่คนไข้และบุคคลทั่วไป ทั้งโดยการบรรยายให้แก่หน่วยงานและโรงพยาบาลต่างๆ และการเขียนหนังสือเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้แบบง่ายให้ผู้ที่สนใจนำไปปฏิบัติ

“ปกติผมจะมีคอร์สบรรยายเรื่องการรักษาโรคโดยไม่ต้องใช้ยา แต่ใช้วิธีปรับการใช้ชีวิต ผมจัดเป็นหลักสูตร แล้วก็เอาหลักสูตรที่ได้มาเขียนลงหนังสือ เอาความรู้ที่ได้มาสอนคนอื่นต่อ ก็มีองค์กรใหญ่ๆติดต่อเข้ามาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นธนาคารออมสิน การประปานครหลวง บริษัทปูนซิเมนไทย บริษัทการบินไทย ผมอบรมไปเกือบหมื่นคนแล้ว ผมไปบรรยายตามโรงพยาบาลที่ต้องการให้จำนวนคนไข้ลดลง เช่น ที่โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลศูนย์สระบุรี โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี

คนไข้ที่ปฏิบัติตามแนวทางของผมแล้วมีเยอะมาก คือถ้าปฏิบัติจริงจังต้องเห็นผลทุกราย จากสถิติคนที่ผ่านการอบรมในคอร์สของผมเนี่ย สามารถปฏิบัติอย่างจริงจังและได้ผลเต็มที่ประมาณ 30 % ปฏิบัติได้พอประมาณและได้ผลดี ประมาณ 40% ส่วนที่เหลืออีก 30% ก็ใช้ชีวิตเหมือนเดิม เลยไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไร คือหลักสูตรของผมนั้นไม่ใช่ว่าเอายาลูกกลอนไปกิน 10 หม้อแล้วหาย แต่มันคือหลักสูตรการเปลี่ยนชีวิตคน” นพ.บุญชัยกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

• ขอเพียงมีศรัทธาต่อชีวิต โรคร้ายก็หายได้

คุณหมอบุญชัยยังได้กล่าวตบท้ายให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยทุกคนว่า ขอเพียงมีศรัทธาก็สามารถหายจากโรคร้ายและกลับมามีชีวิตใหม่ได้แน่นอน

“ถ้าไม่เป็นโรค เราก็ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ผมโชคดีที่ผมเป็นโรคที่เราวัดได้ว่าเปลี่ยนแปลงตัวเอง 10 ข้อแล้วเห็นผล มันก็เกิดกำลังใจ เกิดการเรียนรู้ เกิดการค้นคว้าจนได้คำตอบ

ผมจึงอยากให้ผู้ป่วยทุกคนมีศรัทธาต่อชีวิต มีความหวัง โรคทุกโรคเนี่ยะถ้าเรามีความเชื่อว่าเราจะหาย มีพลัง มีความมุ่งมั่น เราก็มีโอกาสหาย และถ้าเราปฏิบัติตามวิธีที่ถูกต้องเราก็สามารถหายได้

เพราะว่าร่างกายมนุษย์เป็นสิ่งประดิษฐ์ทางธรรมชาติที่วิเศษที่สุด เพราะมันฟื้นฟูตัวเองได้ มันแก้ไขอาการเจ็บป่วยได้ด้วยตัวเอง ขอเพียงแต่อย่าเอาจิตเราไปขวางมัน เราเพียงแต่เติมเต็มสิ่งที่จะเสริมสร้างร่างกายเรา เช่น อาหาร น้ำ อากาศ อย่างถูกต้อง พวกนี้ก็จะเป็นวัตถุดิบที่จะไปสร้างร่างกายเรา ขบวนการซ่อมตัวเองจะเกิดขึ้น”

• ข้อห้ามปฏิบัติ 5 ข้อ

1. ห้ามจินตนาการเชิงลบ เนื่องจากจิตใต้สำนึกเป็นตัวควบคุมพฤติกรรมการดำเนินชีวิต ดังนั้น ไม่ว่าคิดบวกหรือคิดลบก็ล้วนมีผลต่อร่างกายทั้งสิ้น ดังนั้น หากเราจินตนาการเชิงลบจะก่อให้เกิดความเครียด อารมณ์ร้าย ซึ่งจะเป็นผลลบต่อร่างกาย

2. ห้ามอ้วน เนื่องจากความอ้วนเป็นบ่อเกิดแห่งโรค ซึ่งเราจะพบว่า คนสมัยก่อนนั้นใช้ชีวิตตามป่าเขา หากินตามวิถีธรรมชาติ มีโอกาสได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจึงไม่อ้วนเหมือนผู้คนในปัจจุบัน ทำให้คนสมัยก่อนไม่ค่อยเป็นโรค

3. ห้ามรับประทานน้ำตาล รวมถึงขนมและอาหารที่ใส่น้ำตาล เนื่องจากความจริงแล้วอาหารที่เราได้จากธรรมชาตินั้นมีแป้งและน้ำตาลอยู่แล้ว ซึ่งน้ำตาลตามธรรมชาตินั้นมีสัดส่วนที่พอดีและเหมาะกับร่างกาย แต่ปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่ติดหวาน เพราะเคยชินกับการเติมน้ำตาลในอาหารมาก จึงทำให้ร่างกายได้รับน้ำตาลมากกว่าที่ควรจะเป็น และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคต่างๆตามมา

4. ห้ามรับประทาน Trans Fat หรือไขมันที่ผ่านความร้อน เพราะเมื่อไขมันผ่านความร้อน ไอน้ำในอากาศจะแตกตัว ทำให้ไฮโดรเจนในโมเลกุลของไอน้ำเข้าไปฝังตัวอยู่ในคาร์บอนของไขมันชนิดที่ไม่อิ่มตัวและดึงไขมันอิ่มตัวขึ้นมา ซึ่งไขมันอิ่มตัวนี้เรียกว่า Trans Fat มักอยู่ในของทอด โดยคนที่กินอาหารทอดมากๆ มักเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด

5. ห้ามรับประทานสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น หมู วัว แพะ แกะ ซึ่งถือว่าเป็นสัตว์ใหญ่ เนื่องจากหากศึกษาจากโครงสร้างจะพบว่ามนุษย์เป็นสัตว์กินพืช โดยฟันของมนุษย์เป็นฟันแบบตัดซึ่งเหมาะกับการบดเคี้ยวพืช แต่เนื้อสัตว์ใหญ่จะมีลักษณะเหนียวเกินกว่าฟันมนุษย์จะบดเคี้ยวได้

นอกจากนั้น ลำไส้ของมนุษย์ยังมีลักษณะยาวมาก ทำให้เนื้อที่เหนียวและต้องใช้เวลาย่อยหลายวันไปเน่าอยู่ในลำไส้ จึงเกิดเชื้อแบคทีเรียและสารพิษตามมา

• ข้อควรปฏิบัติ 5 ข้อ

1. เน้นการกินพืชผักผลไม้ ซึ่งเป็นอาหารตามวิถีดั่งเดิมของมนุษย์ ในปริมาณครึ่งหนึ่งในแต่ละมื้ออาหาร โดยเน้นผักผลไม้ที่ไม่หวานจัด และไม่ผ่านความร้อนหรือการปรุงสุก เนื่องความร้อนจะไปทำลายวิตามิน เอนไซม์ และสารต่างๆที่มีลักษณะเป็นยา หากทำได้ทุกมื้อก็จะเป็นเหมือนยาอายุวัฒนะ

2. กินข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสีและยังมีจมูกข้าวเหลืออยู่ เพราะจะทำให้ได้สารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย และผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป ควรลดปริมาณข้าวและคาร์โบไฮเดตลงตามลำดับ เนื่องจากจริงๆข้าวและคาร์โบไฮเดตไม่ใช่สิ่งจำเป็นต่อร่างกายมนุษย์ แต่วิวัฒนาการทางวัฒนธรรมทำให้เราหันมาบริโภคข้าวและคาร์โบไฮเดตจนเกิดความเคยชิน และกลายเป็นการบริโภคเกินความจำเป็น

3. ออกกำลังกายวันละครึ่งชั่วโมง โดยออกกำลังกายในระดับที่เหงื่อออก หัวใจเต้นแรง ได้หอบหายใจ ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายขับพิษออกหลายๆทาง ระบบหมุนเวียนน้ำเหลืองจะทำงาน ซึ่งระบบหมุนเวียนน้ำเหลืองนั้นเป็นระบบป้องกันโรคที่สำคัญของมนุษย์

นอกจากนั้น ขณะที่หอบหายใจนั้น ร่างกายจะเอาอากาศออกจากปอดได้ทั้งหมด ทำให้อากาศที่อยู่ในปอดสะอาดและมีปริมาณออกซิเจนสูง

4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ โดยช่วงการนอนหลับที่ดีที่สุดคือช่วง 22.00-02.00 น. เนื่องจากช่วงดังกล่าวร่างกายจะผลิตเมลาโพนินฮอร์โมนออกมา ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้เราง่วง พอหลับสนิทร่างกายก็จะหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาอีกตัวหนึ่ง ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้เด็กเจริญเติบโต ถ้าเป็นผู้ใหญ่จะทำให้เกิดการซ่อมสร้างในเวลาที่รวดเร็ว

5. การมีจินตนาการเชิงบวก คือการจะให้ร่างการมีสุขภาพดี เราจะต้องมีจินตนาการเชิงบวกต่อสุขภาพ ทำให้ชีวิตเรามีความสุข สุขภาพดี แข็งแรง ร่างกายจะเป็นไปตามที่เราคิด ถ้าเราเครียดร่างกายเราก็จะอ่อนแอ จิตใต้สำนึกมันส่งผลต่อร่างกาย

(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 148 เมษายน 2556 )
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 11 มกราคม 2566 เวลา:0:15:59 น.
  
อยากลดความอ้วน ควรกินอะไรบ้างค่ะ
โดย: สิริ IP: 1.46.143.178 วันที่: 20 มกราคม 2566 เวลา:12:44:35 น.
  
สวัสดีครับคุณแป้ง ผมอายุ 39 ใกล้จะ 40 แล้วอีกไม่กี่เดือน อยากสอบถามถึงวิตามินที่เน้นชะลอวัย และ ขาวใสครับ อยากได้คำแนะนำเพื่อกินวิตามินในระยะยาวครับ
โดย: Benz19 IP: 124.120.129.101 วันที่: 22 มกราคม 2566 เวลา:12:37:44 น.
  
ลืมบอกว่า สูง 180 หนัก 80 อายุ 39 ย่าง 40 ครับ
โดย: Benz19 IP: 124.120.129.101 วันที่: 22 มกราคม 2566 เวลา:12:39:56 น.
  
อีกคำถามนึงครับ ผมเคยถามเรื่องวิตามินกลุ่มเผาผลาญ ซึ่งคุณแป้งแนะนำมา 3 ตัวคือ 1. energizing fat burner 2. Greentea extract 3. L-carnitine ตัวที่ 1 กับ 2 ผมโอเคครับ แต่เนื่องจากเช็คราคาแล้ว L-carnitine มีราคาสูง ถ้าผมจะเอาพริกไทยดำมาแทน คุณแป้งมีความคิดเห็นอย่างไรครับ ช่วยแนะนำทีครับ
โดย: Benz19 IP: 124.120.129.101 วันที่: 22 มกราคม 2566 เวลา:13:11:08 น.
  
@สิริ ; energizing fat burner ยี่ห้อ natural letter ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น กินแค่นี้พอคะ ยังไงน้ำหนักก็ลดลง ขนาดคนสูงอายุกินแล้วเสื้อผ้าหลวม ต้องหยุดกินคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 23 มกราคม 2566 เวลา:23:03:21 น.
  
คุณแป้งครับ energizing fat burner natural letter รบกวนช่วยแนะนำทีครับว่าซื้อที่ไหน ลองหาเองแล้วหาไม่เจอครับ
โดย: Benz19 IP: 124.120.129.210 วันที่: 24 มกราคม 2566 เวลา:23:04:35 น.
  
เป็นสาวสองแปลงเพศแล้วพี่แป้งแนะนำให้กิน
Soy isoflavone กับ Black cohosh
1.ถามว่าอาหารเสริมสองตัวนี้มีผลข้างเคียงทำให้ท้องผูก หิวขึ้น บวมน้ำ อ้วนขึ้น ไม่คะ
2.แล้วอาหารเสริมสองตัวนี้กินแทนฮอร์โมนทดแทนที่เป็นยาเคมีได้เลยไม่คะ
โดย: แก๊บ IP: 27.145.157.199 วันที่: 25 มกราคม 2566 เวลา:21:37:06 น.
  
3.ซื้อlife extension soy isoflavone เปิดแล้วแต่กินไม่หมดเอาไว้1 ปีมีวันหมดอายุ04/2023 ยังกินได้อยู่ไม่คะ
4.biotin 10,000 mg กับ Zinc ทำให้ท้องผูกไม่คะ
โดย: แก๊บ IP: 27.145.157.199 วันที่: 25 มกราคม 2566 เวลา:23:33:43 น.
  
เย่ ๆ ขอบคุณมากค่ะพี่แป้ง คือแบบนี้ค่ะ พอวิตามินมันเยอะ และเม็ดใหญ่ มันแอบมีความเหนื่อยประมาณนึง 555 แต่ก็สู้ค่ะ ยังไหวอยู่ และ ป.ล. พี่แป้งไม่ได้ดูเหมือนอายุมากกว่าถึง 16 ปีเลย

วิตามินทั้งหมดที่แป้งแนะนำมาตามนี้ สามารถทานได้เรื่อย ๆ มั้ยคะหรือว่ามีตัวไหนต้องทานนานแค่ไหนถึงหยุดมั้ยคะ... หรือทานได้เรื่อย ๆ เลย?

วิตามินผิวขาวใส
1.skin whitening ยี่ห้อ Esmeralde ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
2.antioxidant optimizer ยี่ห้อ earth nutreints ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
3.ALA 600 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
4.ester-c 1000 mg ยี่ห้อ Solgar ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
5.Lyc-o-mato 15 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 2 เม็ด หลังอาหารเช้า
6.grape seed 300 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
7.glutathione 500 mg ยี่ห้อ jarrow formuals ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเย็น

วิตามินดีท็อกซ์ตับและลำไส้
7.Ultra liver cleanse ยี่ห้อ Aurora Borealis ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนนอน
8.Ultimatum detox ยี่ห้อ vitality life ครั้งละ 2 เม็ด ก่อนนอน


วิตามินลดเซลลูไลต์
9.Energizing fat burner ยี่ห้อ Natural letter ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น

วิตามินบำรุงผม
10.supreme hair essentials ยี่ห้อ esmeralde ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
11.healthy hair renew ยี่ห้อ Esmeralde ครั้งละ 1 เม็ด
หลังอาหารเช้า-เย็น
โดย: น้องหมู IP: 49.228.224.173 วันที่: 29 มกราคม 2566 เวลา:17:42:15 น.
  
แนะนำวิตามินดังนี้
1.Ester-c 1000 mg ยี่ห้อ solgar ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
2.skin whitening ยี่ห้อ Esmeralde ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
3.ALA 600 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
4.glutathione 500 mg ยี่ห้อ Jarrow formulas ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
5.Lyc-o-mato 15 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 2 เม็ด หลังอาหารเช้า
6. Antioxidant optimizer ยี่ห้อ earth nutreints ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
7.l-cysteine 500 mg ยี่ห้อ solgar ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า

วิตามินกลุ่มเผาผลาญอาหาร แนะนำ fat burner ยี่ห้อ natural letter ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น หรือ ครั้งละ 2 เม็ด หลังอาหารเที่ยงและครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเย็น(ปกติมื้อเช้าแป้งดื่มน้ำนมอัลมอนด์+งาดำ(ปั่นเอง)+แมงลักบางทีก็ใส่ข้าวโอ๊ต รวม 400 ml.)ซึ่งจัดเป็นอาหารที่ให้พลังงานต่ำเพราะแทบไม่มีคาร์โบไฮเดรตและไขมัน พอกินวิตามิน fat burner เข้าไป มันไม่มีสารอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต+ไขมันลงกระเพาะอาหาร ทำให้รู้สึกปวดมึนศรีษะภายหลังจากกินวิตามินภายใน 15 นาที)

มื้อเที่ยงแป้งจะกินค่อนข้างเยอะ ข้าวหรือก๋วยเตี๋ยวตามด้วยขนมเค้ก 1 ชิ้น(ทำเอง ได้วิชาช่วงโควิดเลยไม่ต้องซื้อกิน ใช้แต่วัตถุดิบเกรดคุณภาพสูง อย่างเนยฝรั่งเศส ช็อกโกแลตสวิสเซอร์แลนด์ อร่อยมากคะ)+นมไขมันต่ำ free lactose ขวดเล็ก 1 ขวด เลยจัดวิตามินเผาผลาญเป็น 2 เม็ด เมื่อก่อนกินแบบนี้ กรดไหลย้อนมาภายใน 15 นาทีเพราะเค้กรสช็อกโกแลตอุดมด้วยเนยนมครีมซึ่งเป็นอาหารไขมันสูง ร่างกายย่อยยาก ตอนนี้มีตัวช่วยชิลเลยคะ

ส่วนมื้อเย็นกินค่อนข้างน้อยเพราะไม่ค่อยได้ใช้พลังงานอะไรมาก กินวิตามินเผาผลาญ 1 เม็ด แค่นี้น้ำหนักก็ลงพรวดพราด 1-2 โลต่อเดือน โดยที่ไม่ต้องกิน Green tea extract +L-carnitine เลยคะ

หากจะเอาพริกไทยดำมาแทน l-carnitine ไม่ช่วยอะไรได้มาก
เพราะโดสค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับ l-carnitine 500 mg กับ bioperine 10-20 mg ต่อเม็ดคะ

ที่สำคัญ กินวิตามิน fat burner ยี่ห้อ natural letter ต่อเนื่อง นอกจากช่วยลดน้ำหนัก กระชับสัดส่วนแล้วยังช่วยลดกรดไหลย้อนและบรรเทาอาการกระเพาะอาหารอักเสบ+ช่วยย่อยอาหารอีกด้วย

อย่างแม่แป้ง กินเดือนเดียว น้ำหนักลงมา 2 โล เสื้อผ้าหลวม หน้าตอบลง แป้งเลยให้หยุดกิน พอเดือนต่อมาโทรมาบอกว่า น้ำหนักขึ้นมาเท่าเดิมเนื่องจากแม่ยังกินอาหารเยอะ แต่ด้วยวัย 70 ปี มวลมนุษยชาติทุกคนจะมีเอนไซม์ในระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีเหมือนวัยหนุ่มสาว พอไม่ได้กินวิตามิน fat burner ต่อเนื่อง เลยทำให้น้ำหนักกลับคืนมาคะ

หาซื้อได้ที่

วิตามิน Energizing Fat Burner ยี่ห้อ Natural Letter - Hamer candy : Inspired by LnwShop.com

Tel.081-8453461
Line :noi_nunoy2512

@แก๊บ ; คำถามเกินความรู้พยาบาลวิชาชีพอย่างแป้งแล้วคะ

แนะนำควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านชะลอวัย ตามโรงพยาบาลใหญ่ๆจะมีทุกที่ จะได้คำตอบที่ตรงประเด็นและถูกต้องตามหลักการคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 30 มกราคม 2566 เวลา:0:37:10 น.
  
สวัสดีค่ะ พี่แป้ง อายุ 39 ปี นน.39 kg. สูง 158 cm.
อยากสอบถามค่ะ พอดีได้อ่านบทความพี่แป้งอันนึงเขียนช่วงสิงหาปี 63 ที่พี่แป้งหยุดกินวิตามินเกี่ยวกับผิวตัวนึงไป 5 เดือนช่วงโควิด คิดว่าไม่มีผลอะไรกับผิว แล้วกลับมากินอีกครั้งจึงเห็นว่าช่วยเรื่องร่องแก้มยับได้ หนูสนใจมากค่ะ ขออนุญาตถามพี่แป้งได้มั้ยคะว่าตัวไหน เผื่อไม่ใช่ตัวที่แนะนำกันที่มีอยู่แล้วค่ะ ขอบคุณค่ะ 💗
โดย: mmonday IP: 110.169.220.41 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:4:11:47 น.
  
@น้องหมู ; 555 พี่แป้งพอจะเข้าใจอารมณ์ที่วิตามินเม็ดใหญ่ ติดคอกลืนลำบากอย่าง Ester-c คะ เมื่อก่อนยอมรับว่า กินบ้างไม่กินบ้างโดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ที่อยู่บ้านทั้งวัน ไม่ได้ออกไปไหน แต่ฝึกพลิกแพลงสูตรเบเกอรี่ อุปกรณ์ที่ต้องล้างอย่างเยอะ ทำเอาเหนื่อย(ใจ)อยู่บ้าง เลยแอบงดบ้าง อายุขึ้น 48 ปี(อีก 4 เดือน 49 ปี)พอไม่ได้กินวิตามิน อ้าว!ภูมิแพ้กำเริบบ่อย ตอนหลังไม่กล้างด Ester-c ถึงเม็ดใหญ่ก็ช่างเถอะ คิดอย่างเดียว กินแล้วสวยคงกระพัน ชะลอวัยได้เป็น 10+ปี มีแรงใจกลืนเชียวคะ 55

พี่แป้งจะมีชื่อเรียกวิตามินที่เม็ดใหญ่+กลืนยาก ให้คนฟังรู้สึกอยากกินตามว่า’’วิตามินนางฟ้า’’ พอเฉลยปุ๊บ ทุกคนจะยิ้มอ่อนตามเลยคะ อิอิ

@mmonday ; อืม!!น่าจะเป็นวิตามิน Restrorative hydrating complex นะคะ คือตอนแรกพี่แป้งคิดว่า วิตามินไม่น่าจะมีผลอะไรกับร่องแก้ม แต่พอหยุดกิน ร่องแก้มด้านซ้ายเริ่มเห็นชัด(ด้านขวาไม่มีร่องแก้ม)แถมคิ้วฝั่งซ้ายก็ตก ไม่เท่ากันกับฝั่งขวา แต่พอกลับมากินอีกครั้ง อ้าว!ทำไมคิ้วเท่ากันทั้ง 2 ข้าง ร่องแก้มแลดูตื้นไม่ลึกเหมือนตอนที่หยุดกินคะ

เหมือนว่า วิตามินสามารถฟื้นฟูความชุ่มชื้นคืนสู่ผิว ทำให้ผิวชุ่มน้ำไม่แห้งกร้าน ส่วนที่คล้อยห้อยก็เต่งตึงขึ้นไม่เป็นไปตามวัย แต่เทียบกับ Ulthera,Thermage ไม่ได้เลย วิตามินเพียงแค่เพิ่มความชุ่มชื้นทั่วร่างกาย ร่องแก้มเลยได้อานิสงส์ไปด้วยคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:15:51:19 น.
  
@mmonday ; พี่แป้งลืมแจ้งหนูไปคะ เวลาที่เรานอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ อย่างสัปดาห์ที่แล้วพี่แป้งเดินทางไปเยี่ยมพ่อแม่ที่สกลนคร ครั้นพอถึงเวลากลับโดยเครื่องบิน นอนเที่ยงคืนครึ่ง ตื่น 6 โมงเช้า
ตอนที่ทาแป้งแต่งหน้า สังเกตว่า คิ้วฝั่งซ้ายตก ไม่เท่ากันกับข้างขวาชัดเจน ทั้งๆที่กินวิตามิน restrorative hydrating complex ไม่เคยขาด

พอมากทม.ช่วงกลางคืนได้ส่องกระจกดูใบหน้าอีกครั้ง ปรากฎว่า คิ้วฝั่งซ้ายยังตกเช่นเดิม(เวลาที่เรานอนดึก พักผ่อนน้อย ร่างกายจะสูญเสียน้ำเรียกง่ายๆว่า แห้งนั่นเอง)พอหน้าขาดน้ำ ใบหน้าเลยไม่อิ่มฟูคะ

จนรุ่งเช้า ตื่นนอนส่องกระจก อ้าว!คิ้วฝั่งซ้ายไม่ตกล่ะคะ เป็นอันว่าใบหน้าเท่ากันทั้ง 2 ข้างเหมือนเดิม อันนี้เล่าสู่กันฟังคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา:23:52:31 น.
  
สวัสดีค่ะ ตอนนี้อายุ 45 ปี นน.44 สส.158 ขอความกรุณาแนะนำโพรไบโอติกของอเมริกาคุณภาพสูงให้ด้วยค่ะ เคยทานของ carifornia gold nutrition 30 billion CFU แล้วรู้สึกการขับถ่ายเหมือนปกติ คือปกติจะขับถ่ายประมาณวันเว้นวันค่ะ จุดประสงค์ที่ต้องการทานคือต้องการเรื่องของผิว และไม่อยากให้มีของเสียอยู่ในร่างกายเป็นเวลานานค่ะ ขอขอบพระคุณมากค่ะที่สละเวลามาให้คำตอบค่ะ
โดย: น่านน้ำ IP: 49.229.203.113 วันที่: 24 มีนาคม 2566 เวลา:12:17:42 น.
  
ขออนุญาตเพิ่มเติมคำถามอีก 1 คำถามค่า แม่มีอาการลุกนั่งลำบาก เจ็บแปล๊บที่หัวเข่า ขึ้นบันได ย่อเข่าก็ลำบาก (ไม่ทราบว่าเป็นอาการของเข่าเสื่อมหรือเปล่าคะ คิดเอาเอง) ต้องการให้ช่วยแนะนำวิตามินคุณภาพสูงๆ สำหรับอาการนี้ด้วยอะคะ แม่ นน.58 สส.158 อายุ 65 ซึ่งหนูก็มีอาการแบบนี้เหมือนกัน ถ้าหนูจะทานด้วยจะต้องทานปริมาณเท่าไหร่ และสามารถทานตลอดชีวิตได้มั้ยคะ จะมีอันตรายอะไรมั้ย?
โดย: น่านน้ำ IP: 27.145.164.201 วันที่: 24 มีนาคม 2566 เวลา:20:54:24 น.
  
สวัสดีค่ะ คุณแป้ง

ก่อนอื่นต้องขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ ที่คุณแป้งมาช่วยให้ความรู้ และแนะนำวิตามินที่มีประโยชน์มานานหลายปี ส่วนตัวติดตามคุณแป้งมานานแล้วค่ะ แต่ไม่ค่อยได้ส่งคำถามมา จะหาอ่านเอาจากการตอบปัญหาของคุณแป้งกับคนอื่นๆ

ส่วนตัวมีข้อคำถามดังนี้นะคะ ตอนนี้อายุ 51 ปี น้ำหนัก 49 มีปัญหาสุขภาพโดยรวมดังนี้ค่ะ

1. ตรวจค่าคอเลสตอรอล ได้ค่าสูง 250 คุณหมอแนะนำให้ทานโอเมก้า -3 แต่บางท่านแนะนำ krill oil บวกการออกกำลังกายแบบ HIT ไม่ทราบว่าควรทานตัวไหนดีกว่ากันคะ
2. มีวิตามินตัวไหนป้องกันแสงแดดมั้ยคะ พอดีมีภารกิจช่วงหนึ่งที่ต้องโดนไอแดดช่วงกลางวัน
3. อยากให้คุณแป้งแนะนำวิตามินของผู้หญิงวัย 51 ด้วยค่ะ

ขอบคุณและขออนุโมทนาบุญในคำแนะนำของคุณแป้งอีกครั้งนะคะ
โดย: กระแต IP: 101.109.253.5 วันที่: 27 มีนาคม 2566 เวลา:12:26:02 น.
  
@น่านน้ำ ; แนะนำวิตามิน Jarro-Dophilus EPS Digestive Probiotic 5 Billion CFU ยี่ห้อ Jarrow Formulas ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนอาหารเช้า-ก่อนนอน

@น่านน้ำ ; ผิวกระดูกอ่อนเข่าอักเสบ 
“อาการเจ็บ-เสียวเข่าที่พบเจอได้ทุกวัย”
“ปวดเข่า-เข่ามีเสียงเวลาขึ้นลงบันได”
สัญญาณบ่งบอกอาการเข่าเสื่อม

“โรคผิวกระดูกอ่อนลูกสะบ้าเข่าอักเสบ”
 “อีกโรคปวดเข่ายอดฮิตของคนหนุ่มสาว และวัยกลางคน ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเข่าเสื่อมตอนอายุเกิน 50”

โรคผิวกระดูกอ่อนลูกสะบ้าเข่าอักเสบ เป็นกลุ่มอาการปวด-เสียว-แปล๊บ-เจ็บที่บริเวณหน้าเข่า ที่เรียกว่า patellofemoral pain syndrome โดยเกิดรอยโรคที่ใต้ลูกสะบ้า ( Patellar )
แพทย์บางท่านจะแปลและบอกคนไข้ว่าโรคผิวสะบ้านิ่ม หรือ Chondromalacia patellae หรือ ผิวลูกสะบ้าเสื่อม หรือ เริ่มเสื่อม

โรคผิวสะบ้าอักเสบนี้ พบได้บ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายประมาณ 2-3 เท่า อายุที่พบได้บ่อยคือ วัยกลางคน 20 - 40 ปี และนักกีฬาบางรายที่ออกกำลังไม่ถูกวิธี ซึ่งพยาธิสภาพของโรคนี้เกิดที่บริเวณผิวข้อ ( Cartilage )ใต้กระดูกลูกสะบ้า

อาการของโรค
ผู้ป่วยจะมีอาการเสียว ปวด เจ็บหรือแค่รู้สึกแปล๊บๆในรายทีอาการไม่มาก โดยจะเป็นบริเวณหน้าเข่าหลายรายมีอาการเสียงดังในเข่าร่วมด้วย

อาการที่พบในชีวิตประจำวันมากที่สุดคือ จะมีอาการเจ็บ เสียว

1.เวลาขึ้นลงบันได อาการจะมากหรือน้อยก็ขึ้นกับโรคว่าเป็นแผลหรือผิวลูกสะบ้าอักเสบมากหรือน้อย
2.เวลานั่งอยู่ในรถ แล้วลุกลงจากรถ หรือนั่งนานๆแล้วลุกเปลี่ยนท่า
3.นั่งยองๆ ทำกิจกรรมต่างๆ หรือ นั่งเก้าอี้ตัวเตี้ยๆแล้วจังหวะลุกขึ้นจะเจ็บเสียว
4.นั่งพับเพียบ หรือ ขัดสมาธิ

โดยสรุป จะมีอาการตอนที่เข่าอยู่ในจังหวะงอ
โดยส่วนใหญ่อยู่ที่การงอเข่ามากกว่า 90 องศา
พองอเข่าได้สักพักแล้วเหยียดเข่าในท่าลุกขึ้นทันที จะมีอาการเสียว
เนื่องจากมีแรงกระทบไปที่ใต้ลูกสะบ้ามากขึ้น นั่นเอง 

การเดินบนทางราบ อาการเจ็บจะไม่มากหรืออาจไม่มีอาการ
โดยรวมแล้วอาการปวดมักไม่มาก ไม่รุนแรง คนไข้มักทนได้
มีอาการแค่เพียงเสี้ยววินาทีที่เจ็บเสียว จะปวดลักษณะรำคาญ 
คนไข้จะรู้สึกเป็นเรื้งรัง เป็นหลายเดือน หลายสัปดาห์แล้วไม่หายสักที จนหลายคนวิตกจริตคิดว่า เข่าจะเสื่อมแล้วใช่ไหม

คำตอบคือ โรคนี้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งได้ที่จะพัฒนาไปเป็นเข่าเสื่อมได้ในอนาคตเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น ถ้าไม่รักษาจากปวดน้อยก็อาจมีปวดเสียวมากในบางวัน หากมีอาการกำเริบก็จะปวดมากขึ้นเป็นบางครั้งได้แต่จะมีอาการบวม ร้อนที่เข่าเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

เช็คอาการปวดเข่า เข่ามีเสียง สัญญาณของ“ข้อเข่าเสื่อม”
1. รู้สึกปวดเข่า โดยเฉพาะเวลางอเข่าหรือเมื่ออากาศเย็นๆ
2. รู้สึกปวดเข่า เวลาขึ้นลงบันได วิ่ง หรือ กระโดด
3. ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กเวลางอเหยียดเข่า
4. รู้สึกปวดเข่ามากขึ้นเมื่อนั่งพับเพียบ นั่งยองๆ  
    หรือนั่งในท่าที่เข่างอมากๆ


ที่มา : https://jirantanin.com>blog>เสียวเข่า-เจ็บแปล๊บ

อาการของคุณแม่และคุณน่านน้ำ น่าจะมีโอกาสเป็นโรคผิวกระดูกอ่อนลูกสะบ้าเข่าอักเสบ จุดเริ่มต้นของเข่าเสื่อมคะ แต่แนะนำว่าควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อจะได้ทราบว่า เป็นโรคอะไรกันแน่

โดยมากแพทย์จะซักประวัติการใช้งานข้อเข่า X-ray หรือ MRI เพื่อดูให้ละเอียดถึงผิวกระดูกอ่อน ( Cartilage lesion )

เล่าให้ฟังนิดนึงนะคะ แม่แป้งปัจจุบันอายุ 71 ปี มีอาการปวดเข่าเวลาเดินระยะไกลและนั่งคุกเข่าใส่บาตรตอนเช้าพอจังหวะลุกขึ้นยืนจะเจ็บแปล๊บ เวลาขึ้นลงบันได ไม่เป็นปัญหาเพราะแม่ย้ายห้องนอนมาอยู่ชั้นล่างเป็นเวลา 10 ปีแล้วคะ

แป้งเคยแนะนำวิตามินบรรเทาอาการที่ว่ามา อาการเจ็บแปล๊บดีขึ้น แต่มีผลข้างเคียงคือ แสบร้อนท้องวาบๆ เลยให้หยุดกิน ทุกวันนี้แม่เริ่มกินคอลลาเจนสำหรับกระดูกและข้อตามเพื่อนๆวัยเดียวกันที่มีปัญหานี้ แม่กินคอลลาเจนได้ 3 เดือน ปรากฎว่า เวลาลุกนั่งใส่บาตรไม่ค่อยเจ็บแปล๊บเหมือนเมื่อก่อน

แนะนำวิตามินดังนี้
1.Glucosamine Hyaluronic acid chondroitin MSM ยี่ห้อ Solgar ครั้งละ 1 เม็ด พร้อมอาหารเช้า-เย็น
2.antioxidant optimizer ยี่ห้อ earth nutrients ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น

หนูและคุณแม่สามารถกินวิตามินที่แนะนำได้ต่อเนื่อง ไม่จำเป็นต้องหยุดพัก หากหยุดกิน ผลที่ได้จะเหมือนตอนก่อนกินวิตามินเพราะอนุมูลอิสระได้ก่อตัวขึ้นจนเกิดความเสื่อม การกินวิตามินไม่อาจฟื้นคืนสภาพของกระดูกและข้อได้ทั้งหมด แต่ช่วยชะลอได้แน่นอน โดยไม่มีอันตรายต่อตับและไตคะ

อาการเจ็บเข่าเสียวแปล๊บ มีเสียงกรอบแกรบ เพื่อนพี่แป้ง(ผู้หญิง 9 คน)เป็นกันทุกคน แม้กระทั่งเพื่อนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ(นักบาสเกตบอลเก่า)กินอาหารสุขภาพ(ตระกูลถั่ว งาดำ)ไม่กินไขมัน ปิ้งย่างของทอด ผักผลไม้ครบทุกหมวดหมู่ มีลูกคนเดียว ก็ยังเป็นยกเว้นพี่แป้งยอมรับว่า กินไม่เคร่งครัดเท่าเพื่อนคนนี้เลยแถมไม่ค่อยออกกำลังกายอีกด้วยแน่ะ เห็นเพื่อนกินวิตามินพอควรแต่ผลิตในไทยอย่าง Astaxanthin,Collagen,B1-6-12 ฯลฯ

ตอนที่อ่านไลน์กลุ่ม แล้วเห็นเพื่อนๆบ่นเรื่องหัวเข่า ยังคิดว่า สงสัยเป็นเพราะเราไม่มีลูกมั๊งท่า แต่ทว่ามีเพื่อนอีก 2 คนที่ไม่มีลูก เข่าก็มีเสียงกรอบแกรบนะคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 29 มีนาคม 2566 เวลา:9:51:46 น.
  
@น่านน้ำ ; แนะนำให้ลองกินวิตามินทีละตัว หากตัวแรก ไม่เห็นผลเกิน 50% เริ่มกินวิตามินตัวที่ 2 หรือคอลลาเจนร่วมด้วย เพราะอาการที่เป็นอยู่ บางครั้งวิตามินแค่ตัวเดียวเอาไม่อยู่คะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 30 มีนาคม 2566 เวลา:0:26:25 น.
  
รับทราบค่ะ ขอบพระคุณพี่อย่างสูงค่ะ ที่สละเวลาตอบคำถามสุขภาพให้ ขอผลบุญหนุนนำให้พี่และครอบครัวพบเจอแต่สิ่งที่ดี สุขภาพดี แข็งแรงค่ะ มีคำถามที่รบกวนถามอีกค่ะพี่ อายุ 45 ย่าง 46 ปี นน.44 สส.158 ค่ะ คำถามดังนี้ค่ะ
1. วิตามิน กลูโคซามีน ไฮยา ของ solgar ที่พี่แนะนำมีส่วนผสมของคอลลาเจนอยู่ด้วย คอลลาเจนที่ผสมอยู่ทานตลอดชีวิตได้หรือไม่คะ คุ้นๆ ว่า เคยอ่านในบทความของพี่เกี่ยวกับการทานคอลลาเจนว่าทานมากจะไปเป็นผังพืดรัดที่ไต เพราะย่อยสลายไม่หมด วิตามินตัวนี้ทานมากจะเกิดภาวะนั้นมั้ยคะ
2.รบกวนแนะนำ วิตามินโพรไบโอติค ที่เห็นผลจริงและคุณภาพสูงให้ด้วยค่ะ ปกติถ่ายประมาณวันเว้นวัน เคยทานของ california gold nutrition 30 billion CFU แล้วไม่เห็นผลอะไร หรือเป็นเพราะไม่ได้ทานต่อเนื่องหรือเปล่าไม่แน่ใจค่ะ
3. วิตามินของเยอรมัน ยี่ห้อ Mivolis คุณภาพระดับไหนค่ะ พอที่จะทานไปตลอดชีวิตได้รึป่าวคะ พอดีสนใจวิตามินลดผมหลุดร่วงของเค้าอยู่ค่ะ ถ้าคุณภาพไม่สูง พี่แนะนำเป็นตัวไหนที่เห็นผลจริง คุ้มค่าคุ้มราคาซัก 1 ตัว ค่ะ
4. ถ้าพี่มีงบประมาณจำกัด แล้วพี่ต้องเลือกแค่อย่างใดอย่างหนึ่งรัหว่างการทานวิตามินเพื่อชะลอวัย กับทำอัลเทอร่า ปีละ 1 ครั้ง พี่จะเลือกอะไร เพราะอะไรค่ะ
5. วิตามินเมลาโทนิน ทานตลอดชีวิตเป็นอันตรายมั้ยคะ แล้วยี่ห้ออะไรคุณภาพสูง ทานยังงัยคะ

ขอบพระคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าด้วยค่ะ
โดย: น่านน้ำ IP: 27.145.170.81 วันที่: 31 มีนาคม 2566 เวลา:14:42:18 น.
  
@กระแต ; ไหว้ย่อ สาธุคะ ขอให้ได้บุญไปเท่าๆ กันเลยนะคะ น้ำหยดทีละติ๋ง อีกหน่อยก็เต็มตุ่ม(บุญ)คะ

ตอบคำถามทีละข้อนะคะ
1.แป้งขอทราบค่า lipid profile ทั้ง 4 ตัว(cholesterol,Triglyceride,HDL,LDL)ได้มั๊ยคะ

แป้งเป็นพยาบาลประจำอยู่แผนกตรวจสุขภาพมา 10+ปี คุณหมอสอนวิธีดูผลไขมันเพื่ออธิบายให้คนไข้ทราบคร่าวๆเบื้องต้น ซึ่งจะต้องดูประกอบกันทั้ง 4 ตัว การมีค่าไขมันตัวใดตัวหนึ่งสูง เช่น คอเลสเตอรอลเกิน 200 mg/dl ไม่ได้บ่งบอกว่า ไขมันคอเลสเตอรอลสูงเสมอไป

อย่างแป้งตรวจสุขภาพปี 2565 มีค่าคอเลสเตอรอล 234 mg/dl หากมีค่า HDL > 70 mg/dl ขึ้นไป คุณหมอผู้เชี่ยวชาญโรคต่อมไร้ท่อบอกว่า ค่าไขมันคอเลสเตอรอล OK.เพราะมีค่าไขมัน HDL ค่อนข้างสูง ถือว่า บาลานซ์กันคะ บางปีค่าคอเลสเตอรอลแป้ง 250 mg/dl ส่วนใหญ่เป็นช่วงที่ไปเที่ยวทะเลแล้วกินอาหารทะเลเยอะมากกว่าปกติ ค่าไขมันคอเลสเตอรอลจะได้ประมาณนี้เสมอ HDL 85 mg/dl คุณหมอดูผลแล้วบอกว่า ปกติคะ

Omega-3 ช่วยลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ แต่ไขมันคอเลสเตอรอลไม่ค่อยลงนะคะ ดีไม่ดี แขนขาเขียวเป็นจ้ำเลือดเพราะ Omega-3 ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี เลือดไม่หนืด แค่เฉี่ยวขอบเตียงหรือโต๊ะ เส้นเลือดดำจะแตกทันที จ้ำเขียวมาชัดในอีกวันถัดไปเลยคะ
วิตามินกลุ่มนี้ทำให้เลือดไม่จับตัวกัน ไม่เป็นลิ่มเลือดง่ายแต่ก็ส่งผลให้เลือดออกง่าย

แป้งเห็นเพื่อนรุ่นเดียวกับแป้งเพิ่งเลิกกิน Omega-3 ไป เหตุผลคือ คุณหมอชะลอวัยแนะนำให้กินเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งเป็นขุย(เพื่อนใกล้หมดประจำเดือนเต็มที) แค่เดือนเดียว ผิวเพื่อนหายแห้ง แต่มีรอยเขี้ยวช้ำที่ต้นขาและน่อง 3–4 รอย แถมน้ำหนักขึ้นอีกด้วย(กรดไขมัน Omega-3 กระตุ้นความอยากอาหาร)

แป้งแนะนำให้กลับไปหาหมอ แจ้งขอเปลี่ยนวิตามินตัวอื่น เกือบเดือนแล้วที่ไม่เจอกัน เลยยังไม่ได้ถามไถ่ว่า ตกลงได้กินวิตามินตัวไหนทดแทน

Krill oil คุณสมบัติเหมือนกับ Omega-3 ที่มาต่างกันคือ กรดไขมันโอเมก้า 3 จากน้ำมันคริลล์ จัดเป็นกรดไขมันที่ร่างกายดูดซึมได้มากกว่า เนื่องจากกรดไขมันนี้มักจับกับฟอสโฟลิพิดที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จึงช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีกว่า จึงลดไขมันคอเลสเตอรอลได้มากกว่า Omega-3 คะ

HIIT หรือ High-Intensity Interval Training เป็นการออกกำลังกายอย่างหนักในช่วงเวลาสั้น ๆ สลับกับการออกกำลังกายเบา ๆ ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 10-30 นาทีเท่านั้น

โดยมีงานวิจัยชี้ว่า HIIT อาจเป็นการออกกำลังกายรูปแบบหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูง แม้การออกกำลังกายแบบ HIIT จะใช้เวลาเพียงช่วงสั้น ๆ แต่ก็อาจส่งผลดีต่อสุขภาพมากกว่าการออกกำลังกายในระดับปานกลางถึง 2 เท่า ซึ่งวิธีการออกกำลังแบบ HIIT นั้นค่อนข้างหลากหลาย โดยอาจเลือกวิ่งเร็ว ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก หรือบอดี้เวท

แป้งชื่นชอบคาร์ดิโอ (Cardio Exercise) เป็นการออกกำลังกายที่เป็นการเสริมความแข็งแรงของระบบหัวใจไหลเวียนเลือดและปอดให้สามารถนำออกซิเจนมาใช้ได้มากขึ้น เพิ่มศักยภาพในการออกกำลังกายให้ดีขึ้น และช่วยในการเผาผลาญแคลอรี่ เพื่อการลดน้ำหนักได้ดี

การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอนั้นแบบออกได้เป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ ตามความหนักของการออกกำลังกายหรือแรงกระแทกที่เกิดขึ้น ดังนี้
          1. การออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกต่ำ (Lower Impact Cardio Exercise) คือการออกกำลังกายที่ส่งผลให้เกิดแรงกดหรือแรงกระแทกที่ข้อต่าง ๆ น้อย ได้แก่
                    - การเดิน
                    - ขี่จักรยาน
                    - ว่ายน้ำ
                    - การออกกำลังกายในน้ำ
                    - การออกกำลังกายด้วยเครื่องเดินวงรี (Elliptical Trainer)
          เหมาะสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากๆ มีปัญหาการบาดเจ็บที่ข้อต่อต่าง ๆ หรือเพิ่งเริ่มออกกำลังกายใหม่

          2. การออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกสูงขึ้น (Higher Impact Cardio Exercise) คือการออกกำลังกายที่ส่งผลให้เกิดแรงกดหรือแรงกระแทกที่ข้อต่าง ๆ มาก ซึ่งได้แก่
                   - การวิ่ง
                   - การเต้นแอโรบิก หรือ คลาสต่างๆที่มีการกระโดด
                   - การกระโดดเชือก
          เหมาะสำหรับผู้ที่มีความแข็งแรงในระดับหนึ่งและไม่มีปัญหาการบาดเจ็บข้อต่อต่าง ๆ

โดยทั่วไปแล้ว การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอแนะนำให้ทำ 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือ วันละประมาณ 20-30 นาที แต่การเลือกประเภทการออกกำลังกายควรเลือกให้เหมาะสมกับสุขภาพและสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลเพื่อลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ

วิตามิน Krill oil หากคุณภาพสูงจริง ขอแค่เดินวันละ 1 หมื่นก้าว คอเลสเตอรอลก็ลงนะคะ อย่างแม่แป้งกินวิตามิน Policosanol 20 mg วันละ 1 เม็ด ร่วมกับการเดินวันละ 1 หมื่นก้าว ไขมันคอเลสเตอรอลลงเหลือต่ำกว่า 200 mg/dl

ปัจจุบันแม่ไม่ได้กินแล้วเพราะแป้งขอให้รอดูผลไขมันคอเลสเตอรอลจากการกินวิตามิน Energizing Fat burner
ว่านอกจากช่วยเผาผลาญแล้วยังช่วยลดไขมันได้หรือเปล่า จะได้ไม่ต้องกินหลายตัว เกือบครึ่งปีที่กิน Energizing Fat burner แม่ก็ยังไม่ได้ไปตรวจไขมันเลยคะ

Policosanol เป็นส่วนผสมของสารประกอบที่แยกได้จากไขพืชธรรมชาติ พบได้จากอ้อยหรือขี้ผึ้ง ช่วยรักษาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดและยับยั้งกระบวนการลิพิดเปอร์ออกซิเดชัน(Lipid peroxididation)ตลอดจนเพิ่มการเผาผลาญไขมัน

ภาวะคอเลสเตอรอลสูงเพิ่มความเสี่ยงทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจ และสมอง การรับประทานธัญพืชที่มีเส้นใยอาหารสูงอย่างลูกเดือย
ช่วยให้เส้นใยอาหารเข้าไปจับตัวกับไขมันคอเลสเตอรอลในลำไส้และยับยั้งการดูดซึมไขมันในร่างกาย ซึ่งอาจส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดลดต่ำลงได้

มีการศึกษาโดยให้ผู้ที่มีคอเลสเตอรอลสูงจำนวน 40 คน รับประทานลูกเดือยวันละ 60 กรัม เป็นเวลา 4 สัปดาห์ พบว่าผู้เข้าร่วมการทดลองมีระดับคอเลสเตอรอลรวมและคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (LDL) ลดต่ำลง อิ่มท้องแถมหลับง่ายด้วยนะคะ

ไม่ทราบหมดประจำเดือนหรือยังคะ ดื่มกาแฟใส่ครีมหรือกาแฟดำหรือเปล่า ส่วนมากรับประทานอาหารประเภทไหน หากไม่ได้กินอาหารไขมัน+คาร์โบไฮเดรตสูง คอเลสเตอรอลในเลือดจะสูงจากวัยทองคะ

2.วิตามินป้องกันแสงแดดได้ 100% ไม่มีคะ
แป้งเคยกิน astaxanthin 12 mg 2 เม็ด หลังอาหารเช้า ช่วงที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นและอังกฤษฤดูร้อน เดินเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์กลางแดดเปรี้ยง ถอยกลับก็ไม่ได้เพราะไปกับทัวร์ โอ๊ะ!! ยังไงผิวก็คล้ำขึ้น ยกเว้นจะทาครีมกันแดดโป๊ะทุก 2 ชม. (สารป้องกันแสงแดดในครีมกันแดดไม่เสถียร ละลายน้ำได้ง่าย แค่เหงื่อออก ฤทธิ์ปกป้องแสงแดดหมดสิ้นทันที)

ลองกิน Lyc-O-mato 15 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 2 เม็ด หลังอาหารเช้า-เที่ยงดูนะคะ

3.ขอทราบรายละเอียดว่า ต้องบำรุงด้านใดเป็นพิเศษ เช่น ผิวพรรณ ผิวแห้ง กังวลเรื่องไขมันคอเลสเตอรอลสูง นอนไม่หลับ เหนื่อยง่าย หรือแค่ต้องการชะลอวัยเพียงอย่างเดียว รบกวนส่งคำถามมาอีกครั้งคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 2 เมษายน 2566 เวลา:23:50:08 น.
  
ขอบคุณ คุณแป้งมากๆ เลยนะคะ ตอบคำถามให้อย่างละเอียด ครบทุกมุมเลย ดีกว่าคุยกับหมออีกค่ะ อิอิ

ขออนุญาตตอบคำถามเลยนะคะ
ขณะนี้อายุ 51 ค่ะ ยังคงมีประจำเดือนอยู่
ข้อ 1. ค่า cholesterol 256 / Triglyceride 72 / HDL 64 / LDL 178
ข้อ 2. จะซื้อ Lyc-O-mato มาลองทางดูค่ะ เพื่อจะช่วยทนแดดได้บ้าง
ข้อ 3. ต้องการบำรุงเรื่องผิวพรรณ ผิวค่อนข้างแห้ง กังวลเรื่องคอเลสเตอรอล เนื่องจากคุณพ่อเป็นและเกิดโรคเส้นโลหิตในสมอง
ส่วนตัวแล้วเป็นคนหลับง่ายค่ะ เพราะออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-4 วัน (ครั้งละ 30-40 นาที)

เปิด FB คุณแป้งดู อยากสวยและผิวพรรณดีแบบคุณแป้งบ้าง ตอนนี้เลยจัดวิตามินตามดังนี้ค่ะ

-skin revitalization ( Aurora Burealis)
-ALA 600 mg.
-Fat Burner (Natural letter)
-Skin whitening (Esmeralde)
-Healthy hair renew (Esmeralde)
-Hyaluronic Acid 50 mg. (Jarrow formulas)

ควรมีตัวไหนเพิ่มเติมอีกมั้ยคะ รบกวนคุณแป้งอีกครั้งด้วยค่ะ

โดย: กระแต IP: 101.109.253.5 วันที่: 4 เมษายน 2566 เวลา:14:09:45 น.
  
@กระแต ; ยินดีคะ
ความจริงการแปลผลค่าไขมันในเลือดมีสูตรคร่าวๆดังนี้

LDL-C = Total Cholesterol – (Triglyceride/5)-HDL

256-72หาร5(14.4)-64=177.8(ปัดขึ้นเป็น 178)

ค่าปกติของ LDL ไม่ควรเกิน 160 mg/dl ในคนปกติ
และไม่เกิน 130 mg/dl ในผู้ที่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ
ส่วน HDL ที่ดี ควรเกินกว่า 45 mg/dl

LDL ของคุณกระแตเกินเกณฑ์ 160 มานิดหน่อย ถึงแม้คุณพ่อจะมีภาวะคอเลสเตอรอลสูงจนเกิดโรคหลอดเลือดในสมอง(หลอดเลือดในสมองตีบ (Atherosclerosis)  80% เกิดจากลิ่มเลือดก่อตัวขึ้นจากผนังหลอดเลือดสมองที่มีคราบไขมันเกาะจนแข็ง ทำให้หลอดเลือดสมองตีบแคบลงจนอุดตัน ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ อายุ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง สูบบุหรี่ แอลกอฮอล์)

โรคเหล่านี้เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการรับประทานอาหารเป็นหลัก เคยมีคำกล่าวไว้ว่า You are what you eat(คุณกินอะไรเข้าไป คุณก็เป็นอย่างนั้น) หากเราระมัดระวังและควบคุมเรื่องการกิน จะไม่มีทางเป็นโรคเดียวกับคุณพ่อคะ

พ่อแป้งเป็นโรคความดันโลหิตสูงตั้งแต่อายุ 40 ปี ความที่เรียนพยาบาลมา ก็เตรียมตัวเตรียมใจหมายมั่นจะต้องเป็นความดันโลหิตสูงตามพ่อแน่นอน กลับกลายเป็นว่าแป้ง,น้องชายและน้องสาว(อายุ 49,48,47 ปี) ไม่มีใครเป็นโรคความดันโลหิตสูงสักคน
ฝั่งครอบครัวสามีก็เช่นกัน พ่อสามีเป็นความดันโลหิตสูง สามีและพี่น้อง ไม่มีใครเป็นโรคความดันโลหิตสูง กรรมพันธุ์มีส่วนเกี่ยวข้องแค่ 30%ที่เหลือคือ พฤติกรรมการใช้ชีวิตและการกิน

ดังนั้นไม่มีความจำเป็นต้องวิตกกังวลใดๆเลยคะ พยายามลด LDL และเพิ่ม HDL ค่าไขมันคอเลสเตอรอลจะลดลงตามไปด้วย

ธัญพืชตระกูลถั่ว เช่น วอลนัท พีแคน อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ฯลฯ แค่กินวอลนัทวันละ 10 เม็ด สัก 3 เดือน ค่า HDL(ไขมันดี)จะสูงขึ้น LDLและคอเลสเตอรอล(cholesterol)จะลดลงอย่างเห็นได้ชัดนะคะ

หากไม่ชอบตระกูลถั่วเพราะเปลือกแข็ง(ถั่วพีแคนและวอลนัทเปลือกจะนิ่ม ไม่แข็งเหมือนอัลมอนด์)ลูกเดือยต้มเป็นทางเลือกที่ดีมากในการลดคอเลสเตอรอล แป้งเพิ่งเริ่มกินลูกเดือยแทนข้าวได้ 2-3 สัปดาห์(เป็นคนไม่ชอบกินข้าว แต่ชอบกินขนมปัง เส้นก๋วยเตี๋ยวและพาสต้า ขนมจีน)มื้อเย็นตักข้าวมา 1 ทัพพีคือ เหลือครึ่งทัพพีประจำ พอร่างกายมีคาร์โบไฮเดรตน้อย ส่งผลให้นอนไม่หลับ(เสาร์-อาทิตย์)บ่อยครั้ง พอเปลี่ยนวิถีการกิน กลายเป็นนอนหลับทุกคืน ทั้งๆที่วันเสาร์-อาทิตย์แป้งนอนกลางวัน~1-2 ชม.อิอิ

ข้อเสียคือ ต้องมานั่งเลือกเม็ดบิ่น แตกหัก ฝ่อ เน่าออก ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.กว่าจะเสร็จ ลูกเดือยยี่ห้อไร่ทิพย์ 500 กรัม เลือกเม็ดเสียออกชั่งได้ 1 ขีด ใช้งานต้มได้จริง 4 ขีด

ไม่แนะนำ ลูกเดือยผงชงดื่มเพราะปริมาณลูกเดือยน้อยมาก
ส่วนใหญ่เป็นมอลโตเดกซ์ตริน(แป้ง)ทั้งนั้นคะ

ลูกเดือยลดการอักเสบได้ดีเพราะมีฤทธิ์เย็น วันหลังแป้งจะเขียนบล็อกเล่าให้ฟังว่าเป็นอย่างไร(กล้ามเนื้อหลังอักเสบ กินยา Acorxia 90 mg 10 วัน(จัดยาเอง)อาการทุเลาลง แต่ยังมีความปวดตึงหลังด้านซ้ายอยู่เนืองๆ พอกินลูกเดือยเพียง 2 สัปดาห์ เกิดความแตกต่างในร่างกาย(เห็นผลเร็วเพราะส่วนหนึ่งกินวิตามินด้วย)อ้าว!! อาการปวดร้าวหลังหายเป็นปลิดทิ้ง

บางอาการ หากเป็นค่อนข้างเยอะ การกินวิตามินคุณภาพสูงไม่เพียงพอ อาหารเป็นยาอายุวัฒนะคือคำกล่าวที่ไม่เกินความจริง ที่สำคัญ ลูกเดือยมีราคาถูกมากๆแต่คุณภาพคับแก้วจริงๆ

ดูจากค่าไขมันทั้ง 4 ตัว หากคุณกระแตแค่กินธัญพืช(งดอาหารไขมันสูง ของทอด ขนมหวาน+ออกกำลังกาย อีก 3 เดือน ตรวจเลือดใหม่ ค่าไขมันคอเลสเตอรอล+LDLจะลดลงและค่า HDL(ไขมันดี)จะเพิ่มขึ้น แต่ถ้างดอาหารไขมันสูงไม่ได้ วิตามิน Energizing Fat burner ร่วมด้วยคือคำตอบคะ

แนะนำวิตามินเพิ่มเติมดังนี้
1.Restorative hydrating complex ยี่ห้อ vitality life ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
2.Antioxidant optimizer ยี่ห้อ earth nutrients ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น


โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 12 เมษายน 2566 เวลา:0:17:33 น.
  
สวัสดีค่ะพี่แป้ง รบกวนสอบถามค่ะ อายุ33 ปีน้ำหนัก 55 สูง 158 ตอนนี้ เป็นเนื้องงอกมดลูก คุณหมอให้ กินยาฮอร์โมนอยู่
1. สามารถกินวิตามินตามนี้ได้ไหมคะ? Nac / AlA / Grapeseed /lycopene / vit c เน้นขาวใส ชะลอวัยค่ะ
2. ถ้าเปลี่ยนจาก grapeseed เป็น pycnogenol จะดีกว่าไหมคะ? (ไม่มีฝ้ากระ แต่อยากเน้นเรื่องผิวพรรณ)
3. ช่วงนี้เห็นพวกสารสกัดส้มสีเลือด ที่กำลังนิยมทานเพื่อป้องกันแสงแดด ช่วยเรื่องผิว อยากทราบว่า มันจะช่วยได้ เหมือนๆพวก lycopene ไหมคะ?

ขอบคุณค่ะ
โดย: อ้อม นะคะ IP: 184.22.167.238 วันที่: 12 เมษายน 2566 เวลา:6:39:09 น.
  
ขอบคุณคุณแป้งอีกครั้งนะคะ สำหรับคำแนะนำดีๆ มีประโยชน์มากมายเลยค่ะ รู้แนวทางในการเลือกอาหารดีๆ มีประโยชน์ และไม่แพงอย่างลูกเดือย หรือถั่วต่างๆ เพราะส่วนตัวก็ชอบพวกธัญพืชเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย คริ คริ

ส่วนวิตามินที่คุณแป้งแนะนำเพิ่มเติมมา เดี๋ยวจะจัดหาเพิ่มตามคุณแป้งนะคะ จะได้สวย และมีออร่ากับเค้าบ้าง

ขอบคุณค่ะ

โดย: กระแต IP: 101.109.253.5 วันที่: 13 เมษายน 2566 เวลา:10:31:39 น.
  
พี่แป้งคะ รบกวนถามเพิ่มเติมค่ะ พอดีเห็นช่วงนี้เค้านิยม กันแดดแบบกินตัว fern block อ่ะค่ะ ยี่ห้อ Heliocare อยากทราบว่า ตัวนี้ กรณีเป็นเนื้องอกมดลูก สามารถทานได้ไหมคะ? แล้วกินตัวนี้แทน ไลโคปีน ได้ไหมคะ?
ขอบคุณมากค่ะ 🙏🏻
โดย: อ้อม นะค IP: 1.46.2.65 วันที่: 17 เมษายน 2566 เวลา:7:20:32 น.
  
@อ้อมนะคะ ; พี่แป้งขอตอบคำถามทีละข้อนะคะ

1.สามารถกินวิตามินที่ถามมาได้ทั้งหมดเลยคะ
2.pycnogenol โดดเด่นจากเทคโนโลยีกระบวนการสกัดกว่า grape seed จึงทำให้มีราคาสูงและประโยชน์มากกว่าคะ
หากอยากรู้ว่า วิตามินตัวไหนดีกว่ากัน ควรจะทดลองด้วยตัวเองเพราะแต่ละคนมีความไวต่อวิตามินไม่เท่ากันคะ

3.สารสกัดส้มสีเลือด(Blood Orange)ประกอบด้วยสารประกอบสำคัญ 4 ชนิดคือ
Anthocyanins, Ascorbic acid, Hydroxycinnamic acids และ Flavones
ซึ่งฤทธิ์ในการป้องกันแสงแดดจะต้องมีโดส(Dose)หรือปริมาณที่เหมาะสม แต่วิตามินที่ผลิตในไทยอย่างสารสกัดส้มสีเลือด หากพลิกดูปริมาณส่วนผสมแต่ละตัวจะค่อนข้างน้อย ดังนั้นฤทธิ์ในการป้องกันแสงแดด จึงแทบไม่มีเลยคะ

การกินวิตามินแต่ละชนิด สิ่งสำคัญที่สุดคือ โดส(Dose)
นอกเหนือจากคุณภาพของวัตถุดิบและเทคโนโลยีกระบวนการในการสกัด หากรับประทานน้อยเกินไปหรือไม่เพียงพอในแต่ละวัน คือ คาดหวังผลลัพธ์อะไรไม่ได้เลยนะคะ

@กระแต ; ยินดีแบ่งปันคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 18 เมษายน 2566 เวลา:22:40:32 น.
  
ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะพี่แป้ง รบกวนอีกคำถามนึงที่พิมพ์ไว้ ไม่แน่ใจว่าพี่แป้งเห็นไหมนะคะ

*พี่แป้งคะ รบกวนถามเพิ่มเติมค่ะ พอดีเห็นช่วงนี้เค้านิยม กันแดดแบบกินตัว fern block อ่ะค่ะ ยี่ห้อ Heliocare อยากทราบว่า ตัวนี้ กรณีเป็นเนื้องอกมดลูก สามารถทานได้ไหมคะ? แล้วกินตัวนี้แทน ไลโคปีน ได้ไหมคะ?
ขอบคุณมากค่ะ 🙏🏻
โดย: อ้อม นะคะ IP: 184.22.68.231 วันที่: 21 เมษายน 2566 เวลา:7:18:45 น.
  
@อ้อมนะคะ ; Fernblock มีต้นกำเนิดมาจากเฟิร์นชนิดหนึ่งซึ่งเป็นสมุนไพรในแถบอเมริกากลาง มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Polypodium Leucotomos ใช้รักษาโรค เช่น สะเก็ดเงิน ผิวหนังอักเสบ

ผลการปิดกั้นรังสี UVA,UVB ของ Heliocare ป้องกันความเสียหายของผิวหนัง พบในสัตว์ทดลองนะคะ

มีการศึกษาในมนุษย์กลุ่มเล็กๆ จำนวน 21 คน ผู้ป่วยบางรายได้รับสารไวแสงเพื่อเร่งความเสียหายจากรังสี UVA บางรายไม่ได้รับการรักษา ซึ่งทั้งหมดรับประทาน Polypodium leucotomos
เมื่อครบเวลาทดลอง มีการประเมินเพื่อวัดผลการป้องกันของผลิตภัณฑ์ นักวิทยาศาสตร์สังเกตเห็นว่า ช่วงระยะเวลาที่ผิวเริ่มแดงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และลดสัญญาณเริ่มต้นอื่นๆ ของความเสียหายที่ผิวหนัง จึงสรุปว่า Heliocare ให้การปกป้องผิวในระดับหนึ่ง

ผลข้างเคียง คือ ปวดท้อง

กรณีเนื้องอกมดลูก สามารถกินเพื่อทดแทน lycopene ได้คะ
เพราะมีส่วนผสม P.leucotomos, Lutein, Vitamin C (L-ascorbic acid), Lycopene, Vitamin E (DL-alpha-tocopheryl acetate)

คำถามที่หนูทักท้วงมา พี่แป้งไม่ได้ลืมตอบจ้า
เพียงแต่พี่แป้งมีเงื่อนไขที่ได้แจ้งไว้ในบล็อกแล้วว่า
จะตอบคำถามในช่วงเสาร์-อาทิตย์
ปิดรับคำถามทุกวันเสาร์ เวลา 12.00 น.
แต่หนูส่งคำถามมาวันที่ 17 เม.ย 66 เลยเพิ่งมาตอบให้นะคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 25 เมษายน 2566 เวลา:22:47:24 น.
  
สวัสดีค่ะ คุณแป้ง

รบกวนขอข้อมูล เฉพาะเรื่องผมเพิ่มเติมนะคะ เนื่องจากตอนนี้อายุ 51 ปีแล้ว และมีกรรมพันธ์ุ ทางพ่อ-แม่ ผมบาง และเส้นเล็กทั้งคู่เลยค่ะ

ลักษณะเส้นผมของตัวเองก็เป็นผมเส้นเล็กค่ะ และการหลุดร่วงบ้างตามวัย แม้จะยังไม่หมดประจำเดือน จะขอสอบถามคุณแป้งว่า ระหว่างวิตามิน 3 ตัวนี้ ควรกินตัวไหนบ้าง และปริมาณเท่าไหร่ค่ะ

Hair extra strength (Earth Nutrients)
Healthy hair renew (Esmeralde)
Supreme hair essential (Esmeralde)

ขอขอบคุณในการแบ่งปันความรู้ และข้อมูลของวิตามินแต่ละตัวของคุณแป้งตลอดมานะคะ
โดย: กระแต IP: 101.109.253.5 วันที่: 3 พฤษภาคม 2566 เวลา:10:00:34 น.
  
อยุ60ปี สูง155หนัก 75
รบกวนถามน้องแป้งดังนี้
กระดูก
มีข้อมือแขนหักกินวิตามินตัวไหนช่วยเชื่อมกระดูกได้ ตอนนี้เข้าเฝือกอยู่
มีโรคประจำตัว แพ้อากาศ หอบหืด เส้นเลือดตีบ
มียาทานอยู่2ตัว ยาความดันกับยาละลายลิ่มเลือด
โดย: พี่รื่นฤดี IP: 49.228.225.161 วันที่: 4 พฤษภาคม 2566 เวลา:11:48:35 น.
  
@กระแต ; อันที่จริงวิตามินทั้ง 3 ตัวคือ มีประสิทธิภาพในการกระตุ้นรากผม เพียงแต่ต้องกินร่วมกันจึงจะเห็นผลชัดเจน เช่น
Hair extra strength( Earth nutrients)ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น+Healthy hair renew(Esmeralde)ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น

หรือ Supreme hair essential(Esmeralde) ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น วิตามินตัวนี้แป้งกินประจำ นอกจากผมไม่ร่วงแล้ว ผมยังขึ้นใหม่อีกด้วยคะ เคยมีพี่ผู้หญิงอายุน่าจะ 56 ปี กินวิตามินตัวนี้สม่ำเสมอ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่งดกินวิตามินราว 2 เดือน ปรากฎว่า ผมร่วงจนเห็นหนังศีรษะ แกตกใจใหญ่โต บอกว่า จะไม่งดวิตามินอีกแล้ว

แต่เคยมีน้องผู้หญิงอายุ 30 ต้น กินวิตามินตัวนี้ไม่เห็นผลอะไรเลย ผมยังร่วงเหมือนเดิมคะ

แป้งแนะนำ Supreme hair essential ยี่ห้อ Esmeralde เพราะจะกินวิตามินแค่วันละ 2 เม็ด ลองดูสัก 1-2 เดือน หากผมยังร่วงอยู่ค่อยเปลี่ยนมากิน Hair extra strength +Healthy hair renew คะ

@พี่รื่นฤดี ; ขอให้พี่รื่นฤดีหายวันหายคืนนะคะ

6 ขั้นตอนในการรักษากระดูกหักให้หายเร็วขึ้น
1. ให้ร่างกายได้รับพลังงานและแคลอรี่ที่เพียงพอ

การรักษากระดูกหักต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติ ดังนั้นควรเพิ่ม
ปริมาณแคลอรี่เพื่อส่งเสริมการหาย ตัวอย่างเช่น ในการแตกหักของกระดูกส่วนยาว(กระดูกแขนและขา)ที่กระทบกระเทือนจิตใจ มีความต้องการการเผาผลาญอาหารเพิ่มขึ้นในทันที ซึ่งสามารถแปลงเป็นความต้องการแคลอรี่ถึงสามเท่าของปกติ ในขณะที่ผู้ใหญ่ที่เคลื่อนไหวตามปกติอาจต้องการพลังงาน 2,500 แคลอรีต่อวัน ผู้ป่วยที่กระดูกหักหลายท่อน อาจต้องการพลังงาน 6,000 แคลอรี่ต่อวัน

น้ำหนักตัว 75 กก.ควรได้โปรตีนวันละ 112.5 กรัม(75x1.5)

2. เพิ่มปริมาณโปรตีน ควรกินอกไก่วันละ 3.5 ขีดและเวย์ยี่ห้อ Optimum nutrition เลือกรสที่ชอบ ครั้งละ 1 สกู๊ป หลังอาหารเช้า-เย็น ควรเลือกเวย์คุณภาพสูงจะดีกว่าเวย์ยี่ห้อทั่วไปเพราะยี่ห้อที่ดีจะมีราคาสูง แต่จะได้ปริมาณโปรตีนและกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการสร้างกระดูกครบถ้วนคะ(ยี่ห้อที่ราคาถูก ส่วนใหญ่ปริมาณโปรตีนมีไม่ถึงตามที่ระบุในฉลากแถมผสมมอลโตเดกซ์ตริน(Moltodentrin)คือ ผงแป้ง นั่นเอง หรือ หากไม่ชอบดื่มเวย์ เปลี่ยนเป็นไข่ขาวต้มวันละ 4 ฟองแทน(ไข่ขาว 1 ฟองมีโปรตีน 4 กรัม เบอร์ 0 ให้โปรตีน 7 กรัม)

3. เพิ่มสารอาหารต้านการอักเสบ เช่น วิตามินซี
4. เพิ่มปริมาณแร่ธาตุเพื่อรวมสารอาหารหลักในการสร้างกระดูก 20 ชนิด กรดอะมิโนจำเพาะที่มีความสำคัญเป็นพิเศษ ได้แก่ ไลซีน อาร์จินีน โพรลีน ไกลซีน ซีสทีน และกลูตามีน ตัวอย่างเช่น ไลซีนช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม เพิ่มปริมาณแคลเซียมที่ดูดซึมเข้าสู่
เมทริกซ์ของกระดูกและช่วยในการงอกของเนื้อเยื่อ

5. เพิ่มปริมาณวิตามิน
เอนไซม์ประมาณ 200 ชนิดต้องการสังกะสีในการทำงาน หน้าที่หลายอย่างเกี่ยวข้องกับการเพิ่มจำนวนเซลล์ การเสริมสังกะสีช่วยในการสร้างแคลลัส(ระยะซ่อมแซมจะเริ่มขึ้นประมาณ 2 สัปดาห์หลังจากเกิดการแตกหัก ในขั้นตอนนี้โปรตีนที่ผลิตโดยเซลล์ สร้างกระดูกและเซลล์สร้างกระดูกจะเริ่มรวมตัวกันเรียกว่าแคลลัสที่อ่อนนุ่ม สารกระดูกใหม่ที่อ่อนนุ่มนี้จะแข็งตัวเป็นแคลลัสแข็ง)เพิ่มการผลิตโปรตีนของกระดูก และกระตุ้นการรักษากระดูกหัก

6. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์

โดยทั่วไปแล้ว กระบวนการสมานกระดูกจะเสร็จสิ้นภายใน 6-8 สัปดาห์ แต่ความเร็วอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งคืออายุ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ต้องเผชิญกับเส้นทางสู่การฟื้นตัวที่ยาวนานกว่าเด็ก
เงื่อนไขทางการแพทย์ใด ๆ(โรคประจำตัว)ที่มีอยู่จะส่งผลต่อกระบวนการเปลี่ยนแปลงของกระดูกตามธรรมชาติสามารถชะลอการฟื้นตัวได้

แนะนำวิตามินดังนี้
1.Ester-c 1000 mg ยี่ห้อ Solgar ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น
2.B6 250 mg ยี่ห้อ Life extension ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
3.แพทย์ที่ทำการรักษาน่าจะสั่งแคลเซียมมาให้ด้วย ลองตรวจสอบว่า ใน 1 เม็ด มีแคลเซียม แมกนีเซียมและวิตามินดีอยู่ด้วยหรือเปล่า
เนื่องจากการสร้างกระดูกต้องอาศัยแมกนีเซียมและวิตามินดี (วิตามินสามารถรับผ่านแสงแดดได้ หากไม่ค่อยออกแดดควรได้รับอย่างน้อย 600-800iuต่อวัน)
4.zinc ยี่ห้อ blackmore ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนอาหารเช้า
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 10 พฤษภาคม 2566 เวลา:6:13:56 น.
  
ขอบคุณคุณแป้งอีกครั้ง สำหรับคำแนะนำที่ดีๆ มาโดยตลอดนะคะ
โดย: กระแต IP: 101.109.253.5 วันที่: 10 พฤษภาคม 2566 เวลา:10:47:01 น.
  
@ว้อแว้ ; ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะคะ
1.B-complex 100 mg ยี่ห้อ solgar
2.silymarin 150 mg ยี่ห้อ natural factors ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น

@กระแต ; ยินดีคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 16 พฤษภาคม 2566 เวลา:22:37:28 น.
  
สวัสดีพี่แป้งค่ะ จากครั้งก่อนที่สอบถามเกี่ยวกับอาการที่เป็นที่หัวเข่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาได้ไปตรวจที่ รพ.มาแล้ว ผลปรากฏว่าหนูเป็นลูกสะบ้าเข่าอักเสบ ตามที่พี่แป้งบอกไว้เลยค่ะ แต่แม่เป็นข้อเข่าเสื่อมระยะ 2 ค่ะ พี่แป้งเก่งมากเลยค่ะ หนูอายุ 46 นน.43 สูง 158 แม่ อายุ 65 นน.58 สูง 158 คำถามที่ขอสอบถาม มีดังนี้ค่ะ

1. วิตามิน Glucosamine hyaluronic acid chondroitin msm ของ Solgar ที่พี่แป้งแนะนำมีส่วนผสมของ Biocell collagen II 300 มก.ให้ไฮโดรเลซ์คอลลาเจน type II 180 มก. เลยต้องการทราบว่าวิตามินตัวนี้เมื่อทานไประยะยาวจะทำให้เกิดฟังผืดรัดที่ไตมั้ยคะ และร่างกายสามารถนำไปใช้ได้หมดหรือเปล่า เป็นภาระให้ตับไตหรือไม่ อย่างไร คะ

2. แม่ เป็นข้อเข่าเสื่อมระยะที่ 2 และทานยาแก้ปวดมาเยอะเพราะปวดหัวอยู่บ่อยครั้ง สามารถทานวิตามินตัวนี้ได้หรือไม่คะ จะมีปัญหาตับไตในอนาคตมั้ยคะ

ขอบพระคุณพี่แป้งล่วงหน้าเลยค่ะที่เสียสละเวลามาตอบคำถามให้ค่ะ
โดย: น่านน้ำ IP: 203.147.27.198 วันที่: 25 พฤษภาคม 2566 เวลา:13:27:16 น.
  
@น่านน้ำ ; ขอบคุณที่ชมนะคะ ลูกสะบ้าเข่าอักเสบ ผู้หญิงจะเป็นกันเยอะมากคะ

1.Biocell collagen 300 mg มี Hydrolyzed collagen 180 mg ต่อ 3 เม็ด ถือว่าปริมาณคอลลาเจนน้อยมากๆๆ จึงดูดซึมได้หมด
ถึงแม้จะกินต่อเนื่องระยะยาว จะไม่เกิดปัญหาผังผืดรัดที่ไตแน่นอน
วิตามินตัวนี้เน้นที่ glucosamine,chondroitin,MSM ที่ช่วยส่งเสริมการเคลื่อนไหวและบำรุงข้อเข่าคะ

คอลลาเจนที่มีผลอาจทำให้เกิดผังผืดรัดที่ไต มักจะเป็นคอลลาเจนที่มีปริมาณ 10,000 mg ขึ้นไปต่อโดสคะ

2.วิตามินตัวนี้จะไม่มีปัญหาตับไตเพราะผลิตด้วยวัตถุดิบคุณภาพดีและใช้เทคโนโลยีชั้นสูงในกระบวนการผลิตคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 30 พฤษภาคม 2566 เวลา:22:05:12 น.
  
สวัสดีค่ะพี่แป้ง ตอนนี้หาNac ยี่ห้อ jarrow formuals ไม่ได้เลยค่ะพี่แป้งแนะนำยี่ห้อที่มีคุณภาพเห็นผลได้ไหมคะอยากผิวขาวใสค่ะ อยากได้สัก2-3 ตัวค่ะ อายุ 28 น้ำหนัก 44สูง 158 ค่ะ
โดย: Tt IP: 1.47.7.199 วันที่: 3 มิถุนายน 2566 เวลา:11:14:53 น.
  
ขออีกคำถามนะคะ โปรตีนที่ทานกันวันละ 2-3 สกู๊ป ถ้าเรากินไปนานๆจะมีผลเสียในร่างกายมั้ยคะมีผลเกี่ยวกับระบบฮอร์โมนมั้ย ยี่ห้อดังๆเช่น Amway Plantea (ยังไม่เคยทานนะคะเห็นเค้าฮิตทานกัน) หนูอยากเพิ่มน้ำหนักด้วยค่ะ
โดย: Tt IP: 1.47.7.199 วันที่: 3 มิถุนายน 2566 เวลา:11:34:25 น.
  
@Tt ; life extension,natural factors

@Tt ; ไม่มีผลต่อระบบฮอร์โมนเพราะส่วนประกอบหลักเป็น Maltodextrin ถึงจะมีโปรตีนจากพืชก็จริง แต่ไม่มากพอที่จะกระตุ้นฮอร์โมนเพศได้คะ

ลองอ่านบทความดูนะคะ

แป้งเคยสงสัยมานานแล้วว่า ทำไมเครื่องดื่ม 3in1 ที่บรรจุแยกซองอย่าง กาแฟหรือโอวัลติน หรือ ผงลูกเดือยบด ฯลฯ ทำไมปริมาณถึงได้มากมายเมื่อเทียบกับน้ำหนักสุทธิ คือ เวลาที่ชงโอวัลติน เราตวงผงโอวัลตินใส่ 2-3 ช้อนโต๊ะ เติมน้ำตาล+นม ยังไงปริมาณ(น้ำหนัก)ก็ไม่เท่า 3in1 ที่แจ้งไว้บนซอง ยังคิดเลยว่าบริษัทผู้ผลิตใจดีจัง แยกซองมาให้พร้อมรับประทานสะดวก ที่แท้มีที่มาที่ไปอย่างนี้นี่เองคะ
 
มอลโทเดกซ์ทริน (maltodextrin) คือคาร์โบไฮเดรต (carbohydrate) ประเภทโพลีแซคคาไรด์( polysaccharide)ได้จากการย่อยโมเลกุลของสตาร์ซ (starch) บางส่วนให้เป็นสายสั้นๆ ของน้ำตาลกลูโคส (glucose) มีลักษณะเป็นผงหรือเกล็ดสีขาวไม่มีรสหรือมีรสหวานเล็กน้อยสามารถละลายในน้ำได้ดี
 
Maltodextrin เป็นผงสีขาวที่ทำจากข้าวโพด ข้าว แป้งมันฝรั่ง หรือข้าวสาลี  มอลโทเด็กซ์ตรินส่วนใหญ่ได้มาจากข้าวโพด แม้กระทั่งรุ่นที่ได้มาจากข้าวสาลีมักจะปราศจากกลูเตนเนื่องจากกลูเตนจะถูกกำจัดออกในระหว่างกระบวนการผลิต
 
ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารอย่างขว้างขวางเนื่องจากมีราคาถูก จึงช่วยในเรื่องการประหยัดต้นทุน เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารสําหรับผู้ที่ต้องการควบคุมนํ้าหนัก อาหารสําหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เวย์โปรตีน อาหารไขมันตํ่า ไอศกรีม ผลิตภัณฑ์อาหารแห้ง ประเภทอาหารผง เช่น เครื่องดื่มผง เครื่องปรุงรสชนิดผง ฯลฯ
 
มอลโทเด็กซ์ตรินถูกนำมาใช้แทนน้ำตาลหรือไขมันในผลิตภัณฑ์อาหารหลายชนิด เช่นไอศกรีม อาหารสำเร็จรูปชนิดแห้ง  ซีเรียล ขนมขบเคี้ยว และเครื่องดื่ม โดยทั่วไปจะพบในพาสต้า อาหารแช่แข็ง ซีเรียล ขนมหวาน อาหารสำเร็จรูป
 
มอลโทเดกซ์ตริน (Maltodextrin) ช่วยปรับปรุงเนื้อไอศกรีมให้ข้น หนืดมากขึ้น เหมาะสำหรับไอศกรีมทุกชนิด โดยเฉพาะไอศกรีมเชอร์เบทและซอร์เบท์ เพื่อให้เนื้อไอศกรีมเกาะตัวกันได้ดีขึ้น และเจลาโต้ ที่จะทำให้ไอศกรีมข้นขึ้น
 
Maltodextrin ถือว่าปลอดภัยในการรับประทาน อันที่จริงแล้ว มอลโทเด็กซ์ตรินยังผลิตในลำไส้เมื่อเราย่อยอาหารจำพวกแป้ง มีปริมาณแคลอรี่เท่ากับน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรต
 
 Maltodextrin มีค่าดัชนีน้ำตาล (GI) สูง ซึ่งหมายความว่า อาจทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้นได้  การบริโภคในปริมาณเล็กน้อยนั้นปลอดภัย แต่ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรคำนึงถึงปริมาณที่บริโภคเป็นพิเศษ
 
มอลโทเด็กซ์ตรินเป็นคาร์โบไฮเดรต ดังนั้นจึงมีคุณสมบัติเพิ่มรอบเอวแบบเดียวกับขนมปังขาว
 
เนื่องจากพบได้ในอาหารแปรรูปหลายชนิด อาหารที่มีมอลโทเด็กซ์ตรินสูงจึงมีแนวโน้มที่จะมีน้ำตาลและเกลือสูง มีไฟเบอร์ต่ำ ซึ่งช่วยเพิ่มน้ำหนัก ระดับคอเลสเตอรอลที่สูงขึ้นและโรคเบาหวานประเภทที่ 2
 
อาจมีความกังวลสำหรับผู้ที่มีความไวต่ออาหารโดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคลำไส้อักเสบสัญญาณของการแพ้ maltodextrin ได้แก่ ท้องอืด ตะคริว และท้องร่วง

มอลโทเด็กซ์ตรินถูกเติมลงในอาหารเพื่อรักษารสชาติ ยืดอายุการเก็บรักษา เพิ่มความหนาและปริมาณอาหาร
 
อาหารทั่วไปบางชนิดที่อาจมีมอลโทเด็กซ์ตริน ได้แก่:
• ซุป
• น้ำสลัด
• พาสต้า
• อาหารแช่แข็ง
• อาหารทดแทนเนื้อสัตว์มังสวิรัติ
• สารให้ความหวานเทียม
• ลูกกวาดและขนมหวาน
• เวย์โปรตีน
• ขนมอบ
• ซีเรียล
• ผลิตภัณฑ์อาหารแห้งสำเร็จรูป
• โปรตีนจากพืช
 
อ่านจบแล้วหายสงสัยเป็นปลิดทิ้ง มวลมนุษยชาติไม่สามารถหลีกเลี่ยงมอลโทเด็กตรินซ์ได้ ยกเว้นประกอบอาหารรับประทานเองโดยใช้วัตถุดิบสดใหม่คะ

โปรตีนจากพืชที่ต้องกิน 2-3 สกู๊ป อย่าง Plantea ปริมาณโปรตีนต่อสกู๊ปมีแค่ 20 กรัม
1.5 Scoop = Protein 30 G
2 Scoop = Protein 40 G
3 Scoop = Protein 60 G
 
หากต้องการเพิ่มน้ำหนัก โปรตีนจากพืชไม่ใช่คำตอบเพราะ 1 serve ให้พลังงานเพียง 190 แคลอรี่
ต้องเป็นโปรตีนประเภท Mass gain เช่น Serious Mass ยี่ห้อ optimum nutrition ซึ่งจะมี Maltodextrin ในสัดส่วนที่มากกว่าเวย์เพิ่มกล้ามเนื้อ คือ 1 serve ให้พลังงาน 625 แคลอรี่คะ

โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 7 มิถุนายน 2566 เวลา:0:09:47 น.
  
สวัสดีค่ะ คุณแป้ง

มีเรื่องจะต้องรบกวนขอคำแนะนำอีกแล้วค่ะ

พอดีเพิ่งหายจากโควิด แต่ตอนกังวลเรื่อง long Covid จะขอคำแนะนำวิตามินป้องกัน long covid โดยเฉพาะเรื่องผมร่วง แอบกลัวมากๆ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ดีมาโดยตลอดนะคะ
โดย: กระแต IP: 180.183.13.142 วันที่: 10 มิถุนายน 2566 เวลา:11:05:02 น.
  
@กระแต ; แป้งอ่านคำถามที่ส่งมา รู้สึกเนื้อหานิดเดียว แต่เจือปนไปด้วยความกังวลและกลัวในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง จริงๆแล้วใจเย็นๆก่อนนะคะ ความวิตกกังวลมีผลทำให้ภูมิต้านทานต่ำลง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนที่กินวิตามินคุณภาพสูงมักได้เปรียบคนที่ไม่กินอยู่แล้วคะ เกือบลืมถามไปว่า ใช้แชมพูและครีมนวดผมยี่ห้ออะไร สระผมกี่วันครั้งคะ

เพื่อนรุ่นพี่แป้งติดโควิดรอบแรกเดือนเม.ย 2565 อาการแค่มีไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยเนื้อตัว ไม่ได้แอดมิทเพราะออกกำลังกายสม่ำเสมอ+กินวิตามินตามร้านขายยานิดๆหน่อยๆ พอกลางเดือนพ.ค 66 ติดโควิดรอบสองจากลูกชายวัยเริ่มทำงานที่ชอบไปเที่ยวกลางคืน มีอาการท้องร่วงรุนแรงจนขาดน้ำ แอดมิทโรงพยาบาลเอกชนขนาดกลาง 3 วัน ค่าใช้จ่ายคืนแรก 6 หมื่นกว่าบาท ปกติอาการแบบนี้จะเสียค่าใช้จ่ายคืนแรกแค่ 15,000-20,000 บาท
แต่นี้ปาเข้าไป 3 เท่า แสดงว่า มีการใช้ยาค่อนข้างเยอะในการรักษาภาวะขาดน้ำ พอออกจากโรงพยาบาล ก็มีอาการลองโควิดคือ วิตกกังวล หายใจไม่อิ่ม เหนื่อยง่ายคะ

เล่าให้ฟังนิดนึงนะคะ แป้งไม่ใส่แมสตั้งแต่โควิดรอบแรก ยกเว้นเข้าห้าง ซึ่งทุกสถานที่ก็บังคับใส่แมส(แต่แอบถอดแมสบ่อยเพราะอึดอัดหายใจไม่ออก )
เดือนต.ค 65 รัฐบาลประกาศให้ใส่แมสด้วยความสมัครใจ ก็ไม่ใส่แมสตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ไม่ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์เพราะปกติทำกับข้าว+เบเกอรี่ ก็ล้างมือจนแทบเปื่อยอยู่แล้ว อะไรที่เค้าปฎิบัติกัน ไม่ทำตามสักอย่าง ฉีดวัคซีนโควิดแค่เข็มเดียว(ที่จริงตั้งใจจะไม่ฉีด แต่สามีบังคับ) เพิ่ม Ester-c 1000 mg จากวันละ 2 เม็ด เป็น 3 เม็ด เวลาออกไปข้างนอกตลอด ผลปรากฏว่า ไม่ติดโควิด แสดงว่า วิตามินคุณภาพสูงช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้จริงๆคะ

ผู้ป่วยโรคโควิด-19 หลายๆคนมีปัญหาผมร่วงหลังจากที่หายป่วยไปแล้ว 2-3 เดือน ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากไวรัสโดยตรง แต่เป็นผลพวงจากการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นกับร่างกายจากเชื้อไวรัส เช่น ไข้สูง ความเครียด ความวิตกกังวล ซึ่งเป็นอาการที่พบได้จากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19

โดยปกติแล้วเส้นผมคนเราจะร่วงวันละประมาณ 100 เส้น หลังจากหายป่วยจากโรคโควิด 2-3 เดือน ผมอาจร่วงได้ถึงวันละ 300 เส้น ตลอดระยะเวลา 6 เดือนเลยทีเดียว ส่วนใหญ่ผมที่ร่วงไปก็จะค่อยๆงอกกลับมาใหม่อีกครั้ง และกลับมามีผมเหมือนก่อนป่วยในเวลา 6-9 เดือน

ผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 65 ปี ป่วยเป็นโรคโควิด-19 เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 มีไข้สูง ไอ เหนื่อย เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ขณะนี้หายดีเป็นปกติ ไม่ไอ ไม่เหนื่อย ผมเริ่มร่วงหลังจากหายป่วย 2 เดือนครึ่ง เวลาหวีผม ผมหลุดออกมาเป็นกระจุกหลายร้อยเส้นต่อวัน ผมร่วงต่อเนื่อง 2 เดือนผมบางลงมากทั้งศีรษะ ลูกสาวที่ป่วยพร้อมกัน ผมก็ร่วงเหมือนกันแต่น้อยกว่า

แนะนำผู้ป่วยไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องวิตกกังวล อีกประมาณ 4 เดือนผมก็จะหยุดร่วงและจะงอกขึ้นมาใหม่เหมือนเดิม

ลองอ่านข้อมูลเพิ่มเติมกันคะ

ดร. Sachin Dhawan ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “แม้ทุกกลุ่มอายุจะได้รับผลกระทบจากอาการผมร่วงเท่าๆ กัน แต่อาการนี้มักจะพบได้ช่วงวัยกลางคนมากกว่า”

ดร. Sachin Dhawan กล่าวเสริมว่า ผู้ป่วยควรทานคาร์โบไฮเดรตให้เพียงพอในอาหารทั้งสามมื้อ ควรทานปริมาณโปรตีนอย่างเพียงพอ หรือจะเพิ่มถั่วเหลือง, เต้าหู้ไก่และปลาลงในมื้ออาหารได้
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบ หากร่างกายยอมรับได้ ก็สามารถเพิ่มถั่วลงในการบริโภคประจำวันของคุณด้วย

ดร. Jagadeesan กล่าวว่า อาการผมร่วงอย่างรุนแรงเกิดจากการหยุดชะงักชั่วคราวของวงจรเส้นผม และผู้ป่วยสามารถหายเป็นปกติภายในไม่กี่เดือน

ที่มา :
เฟซบุ๊ค หมอ มนูญ ลีเชวงวงศ์

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอาการผมร่วงในโควิด-19 | Hfocus.orghfocus.orghttps://www.hfocus.org › content › 2021/09

วิตามินสูตรพิเศษที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันสำหรับผู้ที่มีอาการหลังโควิด(Long Covid)เพื่อช่วยบรรเทาอาการหลังโควิดแบบองค์รวม ได้แก่
 
• N-Acetyl Cysteine ช่วยละลายเสมหะ ลดอาการไอ ต้านอนุมูลอิสระ และเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน
• Curcumin Phytosome ช่วยบรรเทาอาการอักเสบในเซลล์ที่เกิดจากการทำลายของไวรัส
• เมลาโทนินช่วยบรรเทาอาการอักเสบ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ปรับสมดุลคุณภาพการนอน และลดความเครียดสะสม
• วิตามินซีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวและลดอาการภูมิแพ้
• วิตามินดี 3 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาว โดยเฉพาะ T-Cells ที่ช่วยฆ่าเชื้อไวรัส
• สังกะสีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเม็ดเลือดขาวชนิดต่างๆ
• Finger root extract(สารสกัดจากกระชายขาว)ซึ่งอุดมไปด้วยแพนดูราตินเอ ช่วยฆ่าเชื้อไวรัสและลดความรุนแรงของโรค
• สารสกัดจากกระเทียมเข้มข้นส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
• Quercetin สารฟลาโวนอยด์ที่ช่วยบรรเทาอาการอักเสบและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน

ซึ่งวิตามินป้องกันภาวะ Long Covid มีเยอะมาก
แต่คุณกระแตคงจะกินไม่หวาดไม่ไหว แนะนำวิตามิน Greens Antioxidant complex ยี่ห้อ Esmeralde ครั้งละ 2 เม็ด ก่อนอาหารเช้า(ช่วยฟื้นฟูเซลล์ทั่วร่างกาย ล้างสารพิษ เพิ่มพลังงาน ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน)

โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 14 มิถุนายน 2566 เวลา:22:30:56 น.
  
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ โดยส่วนตัวคงจะแอบกังวลมากไป ในสิ่งที่ยังมาไม่ถึงหน่ะค่ะ

ช่วงโควิด อาการคือ ไข้สูงค่ะ 38.5 ขึ้นไป ระยะเวลาสามวัน ไม่รับกลิ่น รับรส ถึงจะไอมาก และถี่ แต่ก็ไม่เจ็บคอเท่าไหร่ค่ะ และมีน้ำมูก อันนี้เป็นอาการโดยรวม

ส่วนแชมพูที่ใช้ ที่คุณแป้งสอบถามมา ปกติสระผมวันเว้นวัน ด้วยแชมพูยี่ห้อ CHI ค่ะ
โดย: กระแต IP: 101.109.253.5 วันที่: 15 มิถุนายน 2566 เวลา:12:26:16 น.
  
@กระแต ; อาการแบบเดียวกันเป๊ะกับสามีแป้งที่ติดโควิดช่วงก.ค 65 เลยคะ (ปกติสามีเป็นคนที่มีระดับความเครียดสูงอยู่แล้ว) พอหายดีเริ่มมีอาการ Long Covid คือ วิตกกังวล เหนื่อยง่าย หายใจไม่อิ่ม เลยลองให้กินวิตามิน Revitalizing immune force ยี่ห้อ Holistic Nutrition ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนอาหารเช้า-เย็น เป็นเวลา 4 เดือนคะ

ผลลัพธ์ดีมากๆเพราะอาการเหนื่อยง่าย หายใจไม่อิ่ม วิตกกังวลหายไปภายใน 2 เดือน แต่แป้งยังไม่วางใจเพราะคนที่ติดเชื้อไวรัสโควิดจะมีโอกาสติดเชื้อซ้ำเป็นครั้งที่ 2 อยู่แล้ว

ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซ้ำรอบ 2 ทั่วโลกมีจำนวนไม่น้อยและไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการติดเชื้อสามารถลดลงเมื่อเวลาผ่านไป หรือแม้จะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 เข็มแล้ว เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนก็อาจลดลงได้เช่นกัน

โควิดสามารถติดซ้ำได้อีกเรื่อย ๆ แม้การติดเชื้อครั้งแรกจะทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทาน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ภูมิจะค่อย ๆ ลดลง ยิ่งมาเจอสายพันธุ์โอมิครอน BA.4 BA.5 หรือ BA.2.75 หรือสายพันธุ์ย่อย XBB ตัวใหม่ ๆ ที่แพร่ได้ไวขึ้น แถมหลบภูมิคุ้มกันเก่งขึ้น
ก็เพิ่มโอกาสติดเชื้อได้อีกรอบ ซึ่งที่ผ่านมาพบบางคนติดเชื้อซ้ำหลังหายป่วยเพียง 1-2 สัปดาห์เลยด้วยซ้ำ หรือบางคนก็ป่วยรอบ 2 รอบ 3 หลังหายป่วยมาได้ 28 วัน หรือ 4 สัปดาห์ เนื่องจากภูมิต้านทานที่มีจะอยู่ลดลงประมาณ 3 เท่า เมื่อมาเจอสายพันธุ์ใหม่ ๆ แม้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วยังมีโอกาสติดเชื้อได้

แป้งตัดสินใจให้สามีกินวิตามิน Revitalizing immune force ต่ออีก 2 เดือน ปัจจุบันหยุดกินวิตามินตัวนี้ประมาณครึ่งปีแล้วเพราะสามีบ่นว่า น้ำหนักลดลงซึ่งปกติสามีเป็นคนผอมอยู่แล้ว

หากคุณกระแตยังกังวลเรื่องลองโควิดโดยเฉพาะผมร่วง โปรดระลึกไว้เสมอว่า COVID-19 เป็นไวรัสที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน หากเรามีภูมิต้านทานสูง เชื้อโรคจะไม่สามารถเข้าสู่ร่างกายเราได้ ดังนั้นภาวะผมร่วงจึงไม่เกิดขึ้นคะ

แชมพู CHI มีส่วนผสมของซิลิโคน(Dimethicone)หรือเปล่าคะ
เท่าที่ดูส่วนประกอบ : Aqua/Water/Eau, Sodium C14-16 Olefin Sulfonate, Cocamidopropyl Betaine, Glycerin, Acrylates Copolymer, Polysorbate 20, Keratin Amino Acids, Hydrolyzed Ceratonia Siliqua Seed Extract, Argania Spinosa Kernel Oil , Simmondsia Chinensis (Jojoba) Seed Oil , Hydrolyzed Silk, Panthenol, Disodium Laureth Sulfosuccinate, Caprylyl Glycol, Phenoxyethanol, Polyquaternium-10 , Disodium EDTA, Glycol Distearate, Linoleamidopropyl PG-Dimonium Chloride Phosphate, PEG-8 Methyl Ether Dimethicone, Potassium Sorbate, PEG-150 Pentaerythrityl Tetrastearate, Hexylene Glycol, Steareth-4, PEG-6 Caprylic/Capric Glycerides, Citric Acid, Polyquaternium-7, Zea Mays (Corn) Starch, Guar Hydroxypropyltrimonium Chloride , Fragrance (Parfum), Citronellol, Geraniol, Hexyl Cinnamal, Hydroxycitronellal, Limonene, Linalool, 80-0469-C

PEG-8 Methyl Ether Dimethicone เป็นสารสังเคราะห์ ช่วยเคลือบให้ผิวนุ่มและลดแรงตึงผิวเพื่อสกัดชั้นสารเคมีด้วยสูตรโมเลกุลและซิลิโคน ซึ่งอยู่ลำดับกลางค่อนไปท้าย แสดงว่า มี
ซิลิโคนไม่มากแต่ถือว่า มีค่ะ

หากช่วงไหนมีผมร่วงเพิ่มขึ้นผิดปกติ ควรเปลี่ยนแชมพูและครีมนวดผมที่ไม่มีซิลิโคนหรือสาร SLS ผมจะหลุดร่วงน้อยลง แต่แลกมาด้วยผมจะแห้งชี้ฟู ไม่สลวยเงางามเหมือนใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของซิลิโคน ได้อย่างเสียอย่างนะคะ

แป้งเปลี่ยนแชมพูและครีมนวดผมที่มีซิลิโคนมาเป็นไม่มีซิลิโคนมา ปีกว่าแล้วคะ (เห็นเพื่อนวัยเดียวกันผมร่วงผมบางลง ไม่อยากให้ตัวเองอยู่ในจุดนั้น)ผมชี้ฟูนิดนึง เวลาสระผมเจอผมร่วงระหว่างสระไม่เกิน 20 เส้นคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 20 มิถุนายน 2566 เวลา:22:48:15 น.
  
ขอบคุณ คุณแป้งอย่างสูงนะคะ ที่ให้คำตอบ และคำแนะนำมาอย่างละเอียด วิตามิน Revitalizing immune force ทานอยู่ค่ะ แต่แค่เฉพาะมื้อเช้า ก่อนอาหาร 1 เม็ด ซึ่งหากต้องการป้องกัน long-covid คงต้องเพิ่มเป็นก่อนอาหารเย็น อีก 1 เม็ด ใช่มั้ยคะ

ส่วนแชมภู หากจะรบกวนถามยี่ห้อที่คุณแป้งใช้ ซึ่งไม่มีซิลิโคนเป็นส่วนประกอบ คุณแป้งพอจะแนะนำได้มั้ยคะ

ส่วนตัวแล้ว จะพยายามรักษาสภาพร่างกายให้มีภูมิคุ้มกัน ด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย และทานวิตามินอย่างเหมาะสม ตามที่คุณแป้งแนะนำนะคะ เพื่อให้ร่างกางกายแข็งแรง และไม่เป็น long - covid ค่ะ
โดย: กระแต IP: 101.109.253.5 วันที่: 28 มิถุนายน 2566 เวลา:10:24:28 น.
  
สวัสดีครับพี่แป้ง
อยากรบกวนขอคำแนะนำครับ ผมอายุ30 สูง173 หนัก68
(เป็นคนชอบดื่มชอบสูบหนัก ตอนนี้เลิกสูบแล้วครับ ดื่มนานๆครั้งครับ)

1. มีค่าไต egfr 70.3 มีวิตามินหรืออะไรพอช่วยได้ไหมครับ

2. อยากดูแลผิวหน้าให้ผ่องใสบ้าง ควรทานวิตามินเพิ่มอะไรบ้างครับ แล้วจะทานได้ไหมครับค่าไตแบบนี้ หรือไม่ควรครับ

3. ถ้าทานได้มีตัวไหนที่แนะนำให้ทานไปตลอด ไม่สะสม ไม่กระทบตับ ไตไหมครับ

4. สุดท้ายนะครับ เห็นพี่แป้งแนะนำยี่ห้อ healthy origins บ่อยๆ ซื้อได้ที่ไหนครับ

5. สุดท้ายของสุดท้ายนะครับพี่แป้ง นึกขึ้นได้ว่าเคยอ่านเจอว่าคอลลาเจนคนเป็นโรคไตห้ามทานเด็ดขาดเลยใช่ไหมครับ

ขอบพระคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าด้วยครับ
ขอให้พี่แป้งสวยและแข็งแรงตลอดไปนะครับ
โดย: Benz IP: 115.87.77.23 วันที่: 18 กรกฎาคม 2566 เวลา:16:10:48 น.
  
สวัสดีครับพี่แป้ง สอบถามเพิ่มเติมครับ ติดตามมานานมากๆแล้ว และตามอ่านอยู่ตลอดหลายปีเลยครับ แต่ช่วงหลังๆเหมือนพี่แป้งจะแนะนำ glutathione มากกว่า nac อันนี้ไม่แน่ใจว่า glutathione แบบ reduce จะทำให้ผิวขาวใสได้ดีกว่า nac หรือเปล่าครับ

ขอบคุณครับ
โดย: Bestbest IP: 58.8.214.3 วันที่: 20 กรกฎาคม 2566 เวลา:0:06:03 น.
  
@กระแต ; โอ!!แป้งต้องขอภัยคุณกระแตอย่างสูงที่ตอบคำถามช้ามาก
เหตุเพราะแป้งไม่เห็นคำถามคุณกระแตในวันที่ส่งมา น่าจะแป้งเช็คกล่องคำถามไม่ละเอียด เรียกง่ายๆว่า สะเพร่านั่นแหละคะ ไม่แก้ตัวใดๆ 55 อย่าได้โกรธเคืองกันเลยนะคะ

ปกติแป้งจะพยายามตอบคำถามแต่ละสัปดาห์ให้เสร็จสิ้นอย่างช้าสุดคือ วันอังคาร บางทีเสาร์-อาทิตย์ติดภารกิจหรือไปบ้านเพื่อน กลับมาก็เหนื่อยล่ะ เลยมักจะตอบคำถามเลทเป็นวันจันทร์-อังคารคะ

ครั้งหน้าหากแป้งตอบช้าแบบนี้ รบกวนทักมาทางแชทใน FB แป้งปังปอนด์ ปีกนางฟ้าได้เลยนะคะ ส่วนแชทในเพจแป้งปังปอนด์ จะไม่แจ้งเตือน เราต้องกดเข้าไปดูเอง ซึ่งบ่อยครั้งที่แจ้งเตือนให้ไปกดถูกใจเพจนั้นเพจนี้ แป้งเลยกดดูเฉพาะช่วงที่โพสต์บทความในเพจเท่านั้น แต่แชท FB จะมีเมลแจ้งเตือนทุกครั้ง แปลกดีคะ

ตอบคำถามทีละข้อนะคะ
1.ถูกต้องคะ การที่เพิ่มวิตามินเป็นวันละ 2 เม็ด เหตุผลคือ ระดับภูมิคุ้มกันเราค่อนข้างต่ำ(หากมีภูมิคุ้มกันสูง จะไม่ติดโควิดหรือเจ็บป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย นี่เป็นเหตุผลที่แป้งไม่ติดโควิด ถึงแม้ไม่ใส่หน้ากากอนามัย วันก่อนไปเยี่ยมผู้สูงอายุที่แอดมิท ICU ก็ไม่ใส่หน้ากากอนามัย กลับมาก็ปกติ ไม่เจ็บไม่ป่วย แต่แฟนใส่ทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน แกกินวิตามินน้อยกว่าแป้งเยอะเพราะส่วนใหญ่กินแล้วแพ้ มีผลข้างเคียง ไม่ต้องถามถึงยารักษาโรค แพ้ระนาวเลยคะ) ซึ่งการกินวิตามิน Revitalizing immune force เพียงเม็ดเดียว ไม่เพียงพอสำหรับการป้องกัน Long-Covid คะ

2.เรื่องแชมพูที่ไม่มีซิลิโคน แป้งเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ ตอนแรกใช้แชมพูขิงยี่ห้อ ขิงเพียว(เพื่อน+พี่สาวเพื่อนแนะนำมาว่า ใช้แล้วผมขึ้นเต็มช่วงกลางหัว+ผมไม่หงอก)พอแป้งลองใช้จนหมด 2 ขวดๆละ 250 ml. ผมไม่ร่วงเหมือนแชมพูที่มีซิลิโคน แต่ผมบริเวณที่หงอกก็ยังเหมือนเดิม ผมไม่ได้ขึ้นเหมือนที่พี่สาวเพื่อนบอก
แป้งคิดว่า พี่สาวเพื่อนคงจะผมฟูเพราะแชมพูไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน เลยเข้าใจว่า ผมขึ้นเยอะ ปัจจุบันเลิกใช้ล่ะคะ

แป้งใช้แชมพูยี่ห้อ clear anti dandruff(ไมเซล่าสูตรเย็น) 0% paraben&non-added silicone เวลาสระผมจะเย็นหัว สดชื่นดีเพราะผสมเมนทอล เวลาสระผมร่วงไม่เกิน 20 เส้น แต่หัวฟูใช้ได้เลยคะแถมเส้นผมแอบแข็งกระด้าง แต่ดีตรงที่เวลาออกกำลังกายเหงื่อออกเต็มหัว ผมไม่ร่วงเลยนะคะ

เวลาแป้งจะถ่ายรูป จะสลับมาใช้แชมพู+ครีมนวดที่มีซิลิโคนอย่าง
ลอรีอัล ไม่งั้นผมชี้ฟู ไร้น้ำหนักเหมือนสุขภาพผมไม่ดี แต่ที่จริงคือดี เพราะทำให้แลดูเส้นผมเยอะขึ้น เพียงแค่ผมไม่เงาสลวยเท่านั้นเอง พอเวลาสระผม จะเห็นความแตกต่างเลยว่า ผมร่วงกราวราว 50 เส้นคะ 🤣

แชมพูสมุนไพรอย่างดอกบัวคู่ก็ดี แต่แป้งยังไม่เคยลอง เลือกสูตรที่มีมะกรูดนะคะ

ขอให้คุณกระแตมีสุขภาพแข็งแรงโดยเร็ว ไม่เป็น Long-Covid
เพราะเป็นคนที่ดูแลตัวเองได้ดีทั้งกินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายและรับประทานวิตามินสม่ำเสมอ(ที่พลาดติดโควิดน่าจะมีภาวะเครียดจากหน้าที่การงานหรืออาจนอนดึก พักผ่อนน้อย ทำให้ระดับภูมิต้านทานต่ำ ส่งผลให้เชื้อไวรัสโควิดเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย)

หมายเหตุ ช่วงนี้แป้งนอนดึกตี 2 นิดๆเพราะออกกำลังกายตอน 3 ทุ่ม พอ 5 ทุ่มดันท้องหิว กลัวนอนไม่หลับ เลยกินขนมปังโฮลวีตราดคาราเมล(ทำเอง)โรยอัลมอนด์สไลด์(อบเอง) 3 แผ่น เลยมานั่งตอบคำถามแต่เด๋วว่าจะเข้านอนแล้วคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 23 กรกฎาคม 2566 เวลา:2:14:39 น.
  
ขอบคุณคุณแป้ง ที่เสียสละมาตอบคำถามให้อย่างละเอียดนะคะ

ตั้งแต่ทานวิตามินตามสูตรที่คุณแป้งแนะนำ ก็ไม่ป่วย รู้สึกสดชื่น ไม่อ่อนเพลียค่ะ แม้ว่าบางวันจะพักผ่อนน้อน หรืองานหนักก็ตาม

เรื่องแชมภู จะลองเปลี่ยนตามที่คุณแป้งแนะนำ และฟีดแบ็คให้ทราบนะคะ

สุดท้าย ขอให้คุณแป้งสวยวัน สวยคืน และมีสุขภาพดีตลอดๆ ไปเลยนะคะ
โดย: กระแต IP: 101.109.253.5 วันที่: 24 กรกฎาคม 2566 เวลา:13:19:22 น.
  
@Benz ; ขอบคุณสำหรับถ้อยคำดีๆที่อวยพรพี่แป้งคะ

ดีจังเลยนะคะที่เลิกสูบบุหรี่ได้เพราะหลายอย่างในร่างกายที่เปลี่ยนไป จะไม่มีวันทำหน้าที่ได้เหมือนเดิมคะ

เล่าประสบการณ์ให้ฟังนิดนึงนะคะ

เรื่องจริงที่พี่เแป้งเจอ คือ อาการบาดเจ็บของกระดูกไม่ว่าจะเป็นส่วนใดของร่างกาย ถึงแม้จะเกิดมานานและกระบวนการรักษาเสร็จสิ้นแล้ว ความบอบช้ำจะยังหลงเหลืออยู่เสมอ

ตอนนั้นพี่แป้งอายุน่าจะ 5-6 ขวบ นั่งซ้อนท้ายรถจักรยาน พ่อเป็นคนถีบ แล้วข้อเท้าซ้ายพี่มันเข้าในซี่ล้อจักรยาน แผลเหวอะแต่ไม่ลึกถึงกระดูก กระดูกไม่หัก หมอเย็บให้ เดินไม่ได้น่าจะเป็นเดือน จำไม่ได้แน่ชัด จำได้แค่ว่า เวลาจะกินข้าว เข้าห้องน้ำหรืออะไรก็ตาม พ่อจะเป็นคนอุ้มพี่แป้งพร้อมเบาะลอยตัวทำกิจกรรมตลอด รู้สึกสนุกดี
ตอนนั้นไม่รู้สึกกังวลหรือเครียดอะไร คิดแค่ว่า ชีวิตดี๊ดี ไม่ต้องเดิน สบายแท้ อะไรประมาณนี้คะ

พอช่วงอายุ 21-22 ปี เวลาใส่รองเท้าส้นตึก(ช่วงนั้นฮิตมาก) ขาซ้ายจะพลิก(น่าจะเกิดจากเอ็นข้อเท้าที่เคยบาดเจ็บ)ประจำ

พออายุ 49 ปี(ปัจจุบัน)เวลาออกกำลังกายแล้วยกขาซ้ายขึ้นลงเร็วๆ จะเจ็บตรงเอ็นข้อเท้าในวันรุ่งขึ้นตลอดคะ

ตอบคำถามทีละข้อนะคะ
1. การตรวจค่าไต eGFR คือ การตรวจวัดอัตราการคัดกรองของกระแสเลือดในไตต่อนาที เพื่อตรวจเช็คประสิทธิภาพการกรองของไตว่า มีปัญหาหรือไม่

ค่า eGFR ปกติ คือ อัตราการคัดกรองของเสียภายในไต สามารถคัดของเสียได้มากกว่า 90 มล./นาที เป็นต้นไป
จึงทำให้การตรวจค่าไตแบ่งเป็น 5 ระยะดังนี้
 
• การตรวจค่าไตระยะที่ 1 eGFR ≤ 90 มล./นาที/1.73 ตร.ม. การทำบงานของไตทำงานปกติแต่ค้นพบสิ่งแปลกปลอมในการทำงานของไตเช่น นิ่ว กรวยไตอักเสบ และไตบวม
• การตรวจค่าไตระยะที่ 2 eGFR 60 – 89 มล./นาที/1.73 ตร.ม. การทำงานของไตมีผิดปกติเล็กน้อย
• การตรวจค่าไตระยะที่ 3 eGFR 30 – 59 มล./นาที/1.73 ตร.ม. การทำงานของไตทำงานปานกลาง
• การตรวจค่าไตระยะที่ 4 eGFR 15 – 29 มล./นาที/1.73 ตร.ม. การทำงานของไตทำงานผิดปกติมาก
• การตรวจค่าไตระยะที่ 5 eGFR < 15 มล./นาที/1.73 ตร.ม. มี การทำงานของไตอยู่ภาวะไตวาย

ค่า eGFR 70.3 แสดงว่า การทำงานของไตมีผิดปกติเล็กน้อย

พี่แป้งเคยแนะนำพี่ผู้หญิงอายุ~58 ปี มีค่า eGFR 60 กว่า ให้กิน 1.Turkey tail 500 mg ยี่ห้อ host defence ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
2.Ultra liver cleanse ยี่ห้อ Aurora Borealis ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนนอน
3.ไข่ขาวต้มสุกวันละ 3 ฟอง(ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ถ้าได้ก็ดี)

ครบ 3 เดือน ไปตรวจค่า eGFR 90 กว่าคะ

2.ยังไม่เหมาะสมที่จะกินวิตามิน ต้องรอให้ค่า eGFR อยู่ในเกณฑ์ปกติก่อนคะ

3.Ester-c 1000 mg ยี่ห้อ Solgar ,Green antioxidant complex ยี่ห้อ Esmeralde ,Lyc-o-mato

4.พี่แป้งสั่งผ่านอีเมลของบริษัทโดยตรง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ดูแล แล้วให้ส่งไปที่โกดังของชิปปิ้งอีกที จากนั้นลงตู้คอนเทนเนอร์เพื่อส่งมายังไทยหากให้บริษัทส่งโดยตรงทางเครื่องบิน ค่าส่งโหดร้ายมากคะ

กรุณาอย่าให้พี่แป้งแนะนำชิปปิ้งเลย เหตุเพราะครั้งแรกที่สั่งวิตามิน+สกินแคร์+น้ำหอม ผ่านฉลุยด้วยดี แต่ครั้งที่สอง โชคไม่ดี โดนศุลกากรตรวจลงตรา ยึดสินค้าหมดทั้งคอนเทนเนอร์(สินค้าไม่มีใบจดแจ้งนำเข้า)ดีที่สั่งวิตามินมาตุน 20+ขวดในครั้งแรก กินได้น่าจะ 2 ปี ครั้งที่สองสั่งน้ำหอม 4 ขวด+สกินแคร์ สูญเงิน 1.5 หมื่นบาทคะ

ในเมืองไทยหาซื้อได้ที่ Hamer candy : Inspired by LnwShop.com

5.ถูกต้องคะ พี่แป้งเคยอ่านผ่านตาในกระทู้พันทิป~3-4 ราย
แค่เห็นหัวข้อว่า กินวิตามินแล้วไตวายเฉียบพลัน นึกตะหงิดเลยว่า น่าจะกินคอลลาเจนรวมอยู่ด้วย ตามคาดคะ เจ้าของกระทู้เล่าว่า กินวิตามิน~7-8 ตัว คอลลาเจนเป็นหนึ่งในนั้น

@Bestbest ; ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ น่ารักที่สุด

เรื่องของเรื่องคือ สามีพี่แป้งกิน NAC 500 mg ยี่ห้อ Jarrow formulas(ตอนนั้นยังไม่เลิกผลิต)ติดต่อกันมา 2 ปี อยู่ดีก็มีผดผื่นคันขึ้นกลางหลัง ซึ่งจุดประสงค์ที่กินเพื่อล้างพิษในตับ(ตอนนั้นหยุดกิน milk thistle)

พี่แป้งเลยวิเคราะห์ว่า ในบางคนหากกิน NAC ต่อเนื่องนานๆ อาจเกิดผลข้างเคียงขึ้นได้แบบสามีพี่แป้ง ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่มีปัญหาอะไร เลยแนะนำ Glutathione reduced แทน ซึ่งผลลัพธ์เรื่องความขาวใสของแต่คนไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับระดับอนุมูลอิสระในร่างกาย

อย่างพี่แป้งแค่กิน Ester-c วันละ 2 เม็ด ผิวหน้าจะขาวผุดผ่องกว่าปกติ แต่กินเพียงเม็ดเดียว เฉยๆคะ อธิบายได้ว่า พอกินวิตามินที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ระบบในร่างกายขจัดอนุมูลอิสระหมดสิ้น(ช่วงที่กินวิตามิน) จึงส่งผลให้ใบหน้าผ่องใสทันที

ถามว่า Glutathione reduced จะทำให้ผิวขาวใสกว่า NAC หรือเปล่า ขอตอบว่า ไม่แน่ใจเพราะหยุดกินนานมากแล้ว จำผลลัพธ์ไม่ได้จริงๆคะ

โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 25 กรกฎาคม 2566 เวลา:22:15:32 น.
  
สวัสดีค่ะคุณแป้ง รบกวนสอบถามนะค่ะ อายุ 48 ปี น้ำหนัก 53.5 สูง 163 cm นะค่ะ รบกวนสอบถามเรื่อง วิตตามินบำรุงสายตา เนื่องจากได้รับมรดกต้อหินจากคุณแม่ที่เป็นเบาหวาน และตัวเองสายตาสั้นประมาณ 5.5
และต้องกินอย่างไรคะ
โดย: ศิวพร IP: 58.97.30.2 วันที่: 7 สิงหาคม 2566 เวลา:12:22:22 น.
  
รบกวนสอบถามอาหารเสริมให้คุณพ่ออีกข้อนะคะ อายุ 83 ปี น้ำหนัก 68 ส่วนสูง 172 ซม ค่ะ เคยผ่าตัดเปลี่ยนเส้นเลือดหัวใจปริ และมีอาการแขน ขา อ่อนแรงบางซีก พูดตะกุกตะกัก เหมือนรู้ว่าสิ่งของคืออะไร แต่พูดไม่ออก หมอให้ความเห็นว่าเหมือนเส้นเลือดที่เกี่ยวกับสมองสั่งการด้านการพูดมีปัญหาเล็กน้อย ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ แต่ก็ไม่หนักมาก คือ แพทย์ไม่ได้ผ่าตัดให้ แต่ให้ยามาทาน และให้ทำกายภาพที่บ้านแทนเรื่อยมา จนการพูดกลับมา 80-90%

รบกวนคุณแป้งแนะนำอาหารเสริมที่ช่วยบำรุงเรื่องดังกล่าวข้างต้น

ขอบคุณมากๆค่ะ
โดย: ศิวพร IP: 58.97.30.2 วันที่: 7 สิงหาคม 2566 เวลา:12:44:23 น.
  
@ศิวพร ; ระดับสายตาสั้น ถูกแบ่งออกเป็น 2 ระดับอย่างง่ายๆ คือ 

1.  สายตาสั้นระดับต่ำ จะวัดได้อยู่ในช่วงระหว่าง -0.25 ถึง -3.00 D
2.สายตาสั้นระดับสูง คือระดับความสั้นของสายตาที่มีค่ามากกว่า -6.00 D ซึ่งผู้ที่มีภาวะสายตาสั้นระดับสูง อาจมีความเสี่ยงจากโรคแทรกซ้อนทางสายตาอื่นๆ เช่น โรคต้อกระจก โรคต้อหิน จอประสาทตาหลุดลอก 

ค่าสายตาคุณศิวพร -5.5 ถือว่า มีความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม หากร่างกายมีสารต้านอนุมูลอิสระในระดับสูง การดำเนินโรคจะช้าลงหรือลดลงไปคะ

ข้อมูลข้างล่างคือ แป้งศึกษาวิตามินที่ช่วยลดอัตราการเกิดต้อหินจากเวปต่างประเทศ

1.การศึกษาในสัตว์พบว่า ความผิดปกติของไมโทคอนเดรียภายในเซลล์ปมประสาทเรตินาเป็นองค์ประกอบสำคัญในการพัฒนาและความก้าวหน้าของต้อหิน นิโคตินาไมด์ อะดีนีน ไดนิวคลีโอไทด์ (NAD+) มีบทบาทสำคัญในการทำงานของไมโตคอนเดรีย
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการป้องกันระบบประสาทโดยแท้จริง

2.ฟลาโวนอยด์เป็นกลุ่มสารประกอบจากพืชที่หลากหลาย ซึ่งมักพบในดาร์กช็อกโกแลต ไวน์แดง ผลไม้ตระกูลส้ม เบอร์รี่ และชา
หนึ่งในอาหารเสริมที่มีฟลาโวนอยด์ที่ได้รับการศึกษาเป็นอย่างดีในบริบทของการจัดการโรคต้อหิน คือ แปะก๊วย 

3.วิตามินอื่นๆ เช่น วิตามิน A, C, D และ E ได้รับการตรวจสอบในการจัดการโรคต้อหิน เนื่องจากมีบทบาทในการต้านอนุมูลอิสระและปกป้องระบบประสาทในโรคทางตาและระบบอื่นๆ

4.มีหลักฐานว่าการรับประทานอาหารที่อุดมด้วยผักใบเขียว (ซึ่งมีไนเตรตและไนตริกออกไซด์ในระดับสูง) มีความเกี่ยวข้องกับอัตราการเกิดต้อหินที่ลดลง

หมายเหตุ : ปริมาณวิตามินที่ใช้ในการทดลองทางคลินิกสูงกว่าปริมาณที่แนะนำต่อวัน

อย่างไรก็ตาม การทดลองทางคลินิกและการศึกษาโดยทั่วไป
มักมีขนาดเล็ก(บางการศึกษามีผู้เข้าร่วมทดลอง 27 คน)และสร้างผลลัพธ์ที่ขัดแย้งกันว่า จริง ๆ วิตามินสามารถชะลอการลุกลามของต้อหินหรือไม่

แนะนำวิตามินดังนี้
1.Ultra vision ยี่ห้อ Earth Nutrients ครั้งละ 2 เม็ด ก่อนอาหารเช้า
2.gingko biloba ยี่ห้อ Natural factors ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
คาดว่า คุณศิวพรน่าจะกิน Ester-c อยู่แล้ว แนะนำกินต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ในด้านสารต้านอนุมูลอิสระและเพิ่มการไหลเวียนเลือดที่ดวงตา

@ศิวพร ; ขอทราบผลเลือดล่าสุด เช่น CBC ,BUN,CR, eGFR หากไม่มี ไม่เป็นไรคะ

คุณพ่อมีภาวะโลหิตจางหรือไม่

ขอทราบรายชื่อยาและปริมาณที่กินทุกตัว เนื่องจากต้องดูว่า วิตามินที่แนะนำจะทำปฏิกิริยากับยารักษาโรคหรือไม่
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 15 สิงหาคม 2566 เวลา:23:02:05 น.
  
เรียนคุณแป้ง

ผลตรวจสุขภาพประจำปี 2565 ล่าสุดนะคะ
CBC 4.2
BUN ไม่ได้ตรวจ คงต้องตรวจเพิ่มปีนี้
CR 0.99
EGFR 68.41

ขอบคุณมากๆค่ะ
โดย: ศิวพร IP: 157.167.29.180 วันที่: 19 สิงหาคม 2566 เวลา:9:38:03 น.
  
เพิ่มเติมนะคะ

RBC (CBC) 4.2 M/uL
WBC (CBC) 5290 cell/uL
โดย: ศิวพร IP: 157.167.29.180 วันที่: 19 สิงหาคม 2566 เวลา:20:00:09 น.
  
เรียน คุณแป้ง

ด้วยความกังวล เลยไปเจาะเลือดวันที่ 20/8 ปี 2566 ขออัพเดท ดังนี้นะคะ

Total WBC 8.39
RBC 3.92
Hemoglobin 12.3
HCT 35.6
Mean cell volume 90.8
Mean cell hemoglobin 31.4
Mean cell hb concentration 34.6
RBC Distribution Width 11.8%
RBC Morphology No significant morphological abnormality seen


BUN 11.5
CR 0.85
EGFR (African American ) 93.9
EGFR( Non African American ) 81.02
EGFR for thai 74.98

ขอบคุณมากๆค่ะ
โดย: ศิวพร IP: 157.167.29.180 วันที่: 20 สิงหาคม 2566 เวลา:14:59:32 น.
  
Uric acid 4.5

ขอบคุณค้า
โดย: ศิวพร IP: 157.167.29.180 วันที่: 20 สิงหาคม 2566 เวลา:15:10:00 น.
  
@ศิวพร ; โอ!ขอบคุณมากๆนะคะที่พาคุณพ่อไปตรวจเลือดอัพเดต แอบเกรงใจคุณศิวพร เลยบอกว่า ไม่เป็นไร

ความจริงแป้งอยากทราบผลเลือด ก่อนที่จะแนะนำวิตามิน แพลนว่า จะแนะนำวิตามิน 2–3 ตัว ซึ่งบางตัวอาจมีผลต่อค่า CBC BUN Cr eGFR พอเห็นค่า Hb,HCT เลยเก็ทคะ

เท่าที่แป้งเคยสังเกตผลเลือดของคนสูงอายุเพศชาย อย่างพ่อ(72ปี),เตี่ย(87ปี) รวมถึงพ่อคุณศิวพร(83ปี) จะพบว่า มีภาวะโลหิตจาง แต่ในอดีตพ่อและเตี่ย ไม่มีภาวะโลหิตจางนะคะ

ภาพรวมที่ต้องโฟกัส คือ เมื่อระดับออกซิเจนหมุนเวียนสูงขึ้น การไหลเวียนโลหิต+ระดับพลังงานจะดีขึ้นและความแข็งแกร่งทางกายภาพจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ไม่เหนื่อยง่ายด้วย(คนที่เป็นโลหิตจางทำอะไรจะเหนื่อยง่ายกว่าคนอื่น)เมื่อการไหลเวียนเลือดทั่วร่างกายดีขึ้น เลือดจะไปเลี้ยงสมองเพิ่มมากขึ้น
ซี่งจุดนี้เราสามารถกินวิตามินที่มีคุณสมบัติข้างต้นได้ ดีกว่ากินจากอาหารเพราะระบบย่อยอาหารของผู้สูงอายุทำงานได้ไม่ดีเหมือนวัยหนุ่มสาว

แป้งขออนุญาตตอบคำถามอีกครั้งในวันศุกร์นี้เพราะต้องพิจารณาตัดวิตามินในใจบางตัวออก ผู้สูงอายุไม่ควรกินวิตามินหลายตัวเนื่องจากการดูดซึมสารอาหารไม่ค่อยดี(เสื่อมตามวัย)

ดูเหมือนคุณศิวพรจะกังวลเรื่องผลเลือด เลยลืมแจ้งรายชื่อยาที่คุณพ่อกินอยู่นะคะ แป้งกลัวว่า วิตามินที่แนะนำจะตีกันกับยา รบกวนอีกทีคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 23 สิงหาคม 2566 เวลา:0:14:00 น.
  
เรียน คุณแป้ง

สงสัยตัวเองจะเข้าใจผิดนะค่ะ ไปตรวจเลือดตัวเองแทนคุณพ่อ ทำให้คุณแป้งเข้าใจผิด ส่วนคุณพ่อจะหาข้อมูลเพิ่มให้นะค่ะ

ขอบคุณคุณแป้งมากๆค่ะ
โดย: ศิวพร IP: 157.167.29.180 วันที่: 23 สิงหาคม 2566 เวลา:9:38:14 น.
  
รบกวนสอบถามคุณแป้ง เพราะกังวลค่าไต จะสามารถกินวิตตามินที่คุณแป้งแนะนำเเรื่องดวงตาได้ไหมคะ หรือ ต้องพักกินวิตตามินค่าไตที่คุณแป้งแนะนำสมาชิกท่านอื่นก่อนดีคะ

ขอบคุณมากๆค่ะ
โดย: ศิวพร IP: 157.167.29.180 วันที่: 23 สิงหาคม 2566 เวลา:9:39:30 น.
  
@ศิวพร ; อุ๊ย!!แป้งต้องขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้คุณศิวพรเข้าใจคลาดเคลื่อน

แป้งกลับไปดูคำตอบเดิมแล้ว ครั้งหน้าคุณศิวพรสังเกตสัญลักษณ์ @ แปลว่า สื่อถึงผู้ถาม
คุณศิวพรถามแป้งมา 2 ครั้ง ครั้งแรกคือ คำถามของตนเอง ครั้งที่ 2 คำถามของคุณพ่อ
แป้งเลยใช้ @ 2 ครั้ง ซึ่ง @ ครั้งที่ 2 คือ คำตอบของคุณพ่อคะ

หากถามมาหลายคำถาม(หลายคน) โดยเว้นพารากราฟ มา 1 ครั้ง
แป้งจะใส่ @ แค่ครั้งเดียว แล้วตอบเป็นข้อๆไปคะ

วิตามินคุณพ่อ ไม่ต้องไปตรวจเลือดอะไรเพิ่มเติมก็ได้คะ จะยุ่งยากเปล่าๆ งั้นแป้งจะแนะนำวิตามินแค่ 2 ตัว แต่ขออนุญาตตอบสัปดาห์หน้าเพราะต้องตัดวิตามินออก 1 ตัว(แพลนว่าจะแนะนำวิตามิน 3 ตัว พอไม่มีผลเลือด คงเหลือ 2 ตัวพอ)

@ศิวพร ; ไปตรวจสุขภาพก็ดีเหมือนกันนะคะ จะได้รู้ว่า แต่ละปีผลเลือดเปลี่ยนแปลงแค่ไหน

ค่า HCT 36-38 คุณศิวพร 35.6 ถือว่า ต่ำกว่าเกณฑ์ คาดว่า น่าจะมีความอ่อนเพลียมากกว่าคนอื่น เมื่อเทียบกับคนวัยเดียวกัน ซึ่งแป้งจะรู้ซึ้งดีเพราะเพื่อนๆในกลุ่ม ไม่มีใครมีภาวะโลหิตจาง คนอื่นไม่เหน็ดเหนื่อย แต่แป้งต้องอาศัยพลังงานจากวิตามินช่วย ไม่งั้นทำอะไรก็เหนื่อยง่ายคะ

ค่า Cr ผู้หญิง : 0.6-1.1 mg/dL คุณศิวพร 0.85 ถือว่า อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ค่า BUN 6-20 mg/dl คุณศิวพร 11.5 ถือว่า อยู่ในเกณฑ์ปกติ

ถ้าอยากลดค่า ครีเอตินิน (Cr) เพื่อชะลอไตเสื่อม ควรเลี่ยงการรับประทานโปรตีนที่มาจากเนื้อแดง เช่น เนื้อวัว หรือ หมูเนื้อแดง ควรรับประทานเนื้อสีขาว อย่าง เนื้อปลา ไก่ กุ้ง และไข่ เพราะเนื้อที่มีสีแดงเหล่านี้เป็นแหล่งของครีเอตินินเช่นกัน

ค่า eGFR 74.98 ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลใจเพราะไตยังทำหน้าที่ได้ตามปกติ ไม่ถือว่า ไตเสื่อมจนต้องเฝ้าระวัง เรื่องมรดกต้อหินจากคุณแม่ที่เป็นโรคเบาหวาน อันนั้นน่ากลัวกว่าไตเสื่อมเยอะ
เพราะมีวิตามินช่วยค่าไตให้ทำงานเป็นปกติอยู่ 2 ตัว(แป้งกินแค่ Ultra liver cleanse ไม่ได้กิน Turkey tail ขนาดกินวิตามินวันละ 20+เม็ด ค่า eGFR ปี 22 เท่ากับ 104.28 (เคยลงไว้ในบล็อก)

แป้งมีเพื่อน 2 คนที่มีค่า BUN,Cr อยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ค่า eGFR 60-70 กว่า มีข้อสังเกตว่า ทั้ง 2 คนนอนดึก+กินอาหารรสเค็มจัดกว่าแป้ง เค้าก็กินวิตามิน 3-4 ตัวคะ(เพื่อนแป้งชมว่า อธิบายดีกว่าหมออีก หมอรีบพูดๆ ฟังไม่ทัน)

แนะนำว่า ควรกินวิตามินป้องกันดวงตาอย่างต่อเนื่อง
หากเริ่มต้นกินวิตามินเร็ว จะสามารถปกป้องดวงตาได้ดีกว่า
ส่วนจะกินวิตามินค่าไตร่วมด้วย สามารถกินได้ ไม่เป็นปัญหาเลยคะ แต่หากกังวลใจ รอครบ 1 ปี ตรวจดูค่า BUN,Cr ,eGFR ว่าเปลี่ยนแปลงอย่างไร ค่อยกินวิตามินบำรุงไต ยังไม่สายคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 28 สิงหาคม 2566 เวลา:1:55:33 น.
  
สวัสดีค่ะ อายุ 45 ย่าง 46 สูง 152หนัก 42 เป็นกรดไหลย้อน มีอาการ ปวดเข่า สายตาพร่ามัว เริ่มมีริ้วรอย ฝ้า กระ ไม่สดใส อยากให้คุณแป้งแนะนำวิตามิน ชะลอวัย และ อาการปวดเข่า และข้อ วิตามินที่กิน มี q 10,บี รวม ,วิตามิร ,ซี ขอบคุณึ่ะ
โดย: พอนด้า IP: 148.122.140.110 วันที่: 30 สิงหาคม 2566 เวลา:18:01:16 น.
  
ขอบคุณคุณแป้งมากๆค่ะ

รบกวนสอบถามเรื่องคุณแม่อีกคนนะคะ คุณแม่อายุ 80 ปี เป็นเบาหวาน ความดันมานานเกือบ 40 ปีแล้วนะค่ะ สูง 163 หนัก 51 กิโล

เคยปรึกษาเรื่่องอาการนอนไม่หลับกับคุณแป้งนานมากแล้ว ก็ได้กินเมลาโทนินขนาด 5 mg ครั้งละ 2 เม็ดก่อนนอน แรกๆ ก็หลับดีค่ะ หลังๆ ไม่ค่อยหลับ จึงพยายามหาตัวช่วยอื่น เช่น เช่นยาจีนต้ม ยาไทยสมุนไพร สารสกัดจาำลำไย แต่ก็มีอาการคล้ายกันคือ แรกๆ หลับ แต่หลังๆ ก็ไม่หลับ จนปัจจุบัน กินยาเม็ดยี่ห้อหนึ่ง ที่มีสารสกัดจากโสมเกาหลี งาดำ เห็ดหลินจือ เก๋ากี้ ตังกุย ครั้งละ 3 เม็ด แรกๆ ก็หลับดี หลังๆ ก็เหมือนเดิม หลับน้อยลง จึงกินคู่ขนานกับเมลาโทนินที่กินครั้งละ 2 เม็ด สลับกันเมื่อตัวใดตัวหนึ่งดื้้อยา เช่น 3 วันกินเมลาโทนิน อีก 3 วันกินสมุนไพรจีน แล้วก่อนหน้านี้สัก 3 เดือน ก็พาคุณแม่ไปฉีด NAD มานะค่ะ สังเกตดูว่าช่วงฉีด NAD แล้วกินเมลา/ยาเม็ดที่มีสมุนไพรดังกล่าวแล้วหลับง่ายขึ้น

วันเสาร์ที่ผ่านมา จึงไปหาตัวเลือกอื่นนอกจากสองตัวที่สลับไปมาเป็นหลัก คือ ยา CBD Oil น้ำมันกัญชาหยดใต้ลิ้น ลองใช้เดี่ยวๆเมื่อคืนวันเสารฺ์ที่ผ่านมา ไม่หลับจนถึงเที่ยงคืน คุณแม่จึงกินยาสมุนไพรครั้งละ 3 เม็ด ปรากฏว่าหลับจนถึงตีสามครึ่ง

รบกวนคุณแป้งพอแนะนำอาหารเสริมช่วยให้การนอนหลับได้นานขึ้นนะค่ะ

ขอบคุณมากๆค่ะ
โดย: ศิวพร IP: 157.167.29.180 วันที่: 3 กันยายน 2566 เวลา:9:38:48 น.
  
@ศิวพร ; แนะนำวิตามินสำหรับคุณพ่อดังนี้
1.Ubiquinone 100 mg ยี่ห้อ Jarrow Formulas ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เที่ยง
2.Ester-c 1000 mg ยี่ห้อ Solgar ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า

หมายเหตุ วิตามินทั้ง 2 ตัว มีฤทธิ์เพิ่มการไหลเวียนเลือดทั่วร่างกายคะ

@พอนด้า ; แนะนำวิตามินดังนี้
1.licorice(DGL)500 mg ยี่ห้อ nature’s answer ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า ช่วยลดกรดไหลย้อน
2.Green antioxidant complex ยี่ห้อ Esmeralde ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนอาหารเช้า-เย็น
3. Hyaluronic Joint Complex ยี่ห้อ source naturals ครั้งละ 2 เม็ด หลังอาหารเช้า
4.Astaxanthin 12 mg ยี่ห้อ Nutrex ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า

คนที่เป็นกรดไหลย้อน ไม่ควรกินวิตามินซีที่ไม่ได้สกัดความเป็น
กรดออกไป ยิ่งกินยิ่งกระตุ้นกรดไหลย้อน
แนะนำวิตามินชนิด Ester-c ซึ่งเป็นวิตามินที่สกัดความเป็นกรดออกไป จึงไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหารและกระตุ้นกรดไหลย้อนคะ

กินวิตามินอีกี่มิลลิกรัม ยี่ห้ออะไรคะ
ปกติหากกินวิตามินอี 400 iu ต่อวัน ยี่ห้อที่มีคุณภาพสูง ผิวจะมีความชุ่มชื้นขึ้นระดับหนึ่งเลยนะคะ

นอนไม่หลับ สาเหตุจากกินข้าวน้อยเกินไปหรือเปล่าคะ

คาร์โบไฮเดรตไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นซีโรโทนินซึ่งเป็นสารเริ่มต้นของเมลาโทนิน ที่ช่วยให้หลับ โดยกระบวนการเกิดซีโรโทนิน ในอีกทางหนึ่ง ซีโรโทนินเพิ่มได้จาก อาหารคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ดูดซึมช้า  




โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 4 กันยายน 2566 เวลา:1:57:05 น.
  
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเกี่ยวกับการกินวิตามิน
วิตามินอี กินของ solgar 268 mg(400iu) ถ้าจะกิน
วิตามินซี สามารถกินของsolgar ได้ไหมค่ะ
อาการนอนไม่หลับกลัวจะเป็นอาการวัยทอง เพราะกินข้าวครบทั้งสามมื้อ
วิตามินทั้งหมดที่คุณแป้งแนะนำกินพร้อมกันได้หมดใช่ไหมค่ะ

ขอบคุณมากค่ะขอให้คุณแป้งมีวันใหม่ที่สดใสทุกวัน
โดย: สวัสดีค่ะ คุณแป้ง IP: 84.215.200.4 วันที่: 5 กันยายน 2566 เวลา:23:56:55 น.
  
สวัสดีค่ะคุณแป้ง
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำเกี่ยวกับการกินวิตามิน
วิตามินอี กินของ solgar 268 mg(400iu) ถ้าจะกิน
วิตามินซี สามารถกินของsolgar ได้ไหมค่ะ
อาการนอนไม่หลับกลัวจะเป็นอาการวัยทอง เพราะกินข้าวครบทั้งสามมื้อ
วิตามินทั้งหมดที่คุณแป้งแนะนำกินพร้อมกันได้หมดใช่ไหมค่ะ

ขอบคุณมากค่ะขอให้คุณแป้งมีวันใหม่ที่สดใสทุกวัน
โดย: พอนด้า IP: 84.215.200.4 วันที่: 6 กันยายน 2566 เวลา:0:00:16 น.
  
@ศิวพร ; NAD ต้องฉีดต่อเนื่องไปตลอดเหมือนวิตามิน หากหยุดฉีดเมื่อไหร่ ร่างกายจะกลับเป็นเหมือนก่อนกินวิตามินคะ

ส่วนน้ำมันกัญชาที่หยดใต้ลิ้น จะเห็นผลชัดเจนในครั้งแรกๆ ต่อมามักจะไม่ค่อยได้ผลคะ

ในฐานะที่แป้งต้องเผชิญกับภาวะนอนไม่หลับอยู่บ่อยครั้งตั้งแต่อายุ 36 - 49 ปี เพิ่งค้นพบว่า สาเหตุหลักที่ทำให้นอนไม่หลับคือ กินข้าวน้อยเกินไป(ครึ่งทัพพีต่อมื้อ)ปกติไม่ชอบกินข้าวตั้งแต่เด็ก เน้นกินกับข้าว ชอบจำพวกเส้น เช่น ขนมจีน สปาเกตตี้ จะกินได้เยอะหน่อยพอคาร์โบไฮเดรตไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นสาร serotonin ซึ่งเป็นสารเริ่มต้นของเมลาโทนินที่ช่วยให้หลับ

ปัจจุบัน แป้งยังคงกินข้าวน้อยเหมือนเดิม แต่เพิ่มสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตทดแทนข้าว เช่น ลูกเดือย ขนมปัง มันฝรั่ง(อบ)
ปรากฎว่า ขนาดมื้อเย็นช่วง 20.00 น.ดื่มโค้ก 1 กระป๋อง(รู้สึกกระหายเพราะกิน seafood) ซึ่งเมื่อก่อนจะนอนไม่หลับ คืนนั้นหลับสบายเชียวคะ

คาดว่าคุณแม่คุณศิวพร น่าจะไม่ค่อยกินข้าว คาร์โบไฮเดรตเลยต่ำจนทำให้นอนไม่หลับ มื้อเย็นลองปั่นลูกเดือยใส่นมอัลมอนด์ให้คุณแม่(ลูกเดือยมีเมลาโทนินสูง)

ส่วนวิตามินที่ช่วยให้นอนหลับ แป้งลองมาเกือบหมดแล้ว พอมาคิดย้อนหลัง หากแป้งกินสารอาหารคาร์โบไฮเดรตเพียงพอ ยังไงก็หลับ(ปัจจุบันกินเมลาโทนิน 3 mg.1 เม็ด+sleep tonic+Ultimatum detox)

ลองกินเมลาโทนิน 5 mg 1 เม็ด +สมุนไพร 3 เม็ด หรือยังคะ
ถึงแม้ผู้สูงอายุจะไม่ควรกินวิตามินหลายตัว ยกเว้นกรณีนอนไม่หลับคะ

หากยังไม่หลับดี แนะนำ sleep tonic ยี่ห้อ Vitality life ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเย็น ลองสังเกตดูว่า พอกินวิตามินไปไม่เกิน 15 นาที คุณแม่จะเริ่มง่วงเหงาหาวนอน แสดงว่า พอกินวิตามินก่อนนอน
คืนนั้นจะหลับยาวคะ

หรือจะลองกิน Sleep tonic พร้อมเมลาโทนิน ก่อนนอน ก็ได้นะคะ

เล่าให้ฟังนิดนึง ช่วงที่แป้งนอนไม่หลับ วิตามินก่อนนอนที่กินสูงสุดคือ 6 เม็ด บางคืนต้องตื่นมากินเมลาโทนิน 3 mg 1 เม็ด+Ultimatum detox+sleep tonic อย่างละ 1 เม็ด สิริรวมเป็น 9 เม็ด ถึงจะหลับยันเช้า

ทุกวันนี้กินวิตามินก่อนนอนครั้งเดียว เน้นคาร์โบไฮเดรตให้เพียงพอ ไม่มีคืนไหนที่จะไม่หลับคะ

@พอนด้า ; ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะคะ
วิตามินอีของ Solgar เกรดคุณภาพสูง แต่อาจไม่เพียงพอ
ลืมถามไปว่า ผิวแห้งจนคัน หมายถึงผิวกายหรือผิวหน้า?

ส่วน Ester-c สามารถกินยี่ห้อ Solgar ได้เลยคะ

วิตามินทั้งหมดที่แนะนำสามารถกินพร้อมกันได้คะ

หากนอนไม่หลับ แนะนำว่า ควรงด Q10 ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นพลังงาน อาจมีผลทำให้นอนไม่หลับ

แป้งว่า อาจจะยังไม่ถึงวัยทองเพราะประจำเดือนต้องเริ่มขาด มาๆ หยุดๆ สลับกัน

เรื่องตาพร่ามัว แป้งแนะนำ Astaxanthin นอกจากช่วยเรื่องผิว และชะลอวัย ยังช่วยเรื่องสายตาได้พอควร
ครบ 3-4 เดือน หากยังไม่ดีขึ้น ควรกินวิตามิน Ultra vision ยี่ห้อ Earth nutrients ครั้งละ 2 เม็ด ก่อนอาหารเช้า ตาใสขึ้นแน่นอนคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 13 กันยายน 2566 เวลา:0:04:47 น.
  
ได้อ่านให้คุณแม่ฟังแล้วค่ะ ขอบคุณคุณแป้งมากๆค่ะ
โดย: ศิวพร IP: 157.167.29.180 วันที่: 22 กันยายน 2566 เวลา:12:33:57 น.
  
สวัสดีค่ะพี่แป้ง หนูติดตามพี่แป้งมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยปี1 ตอนนั้นชอบมาสิงในบล็อกของพี่แป้งบ่อยๆแอบจดความรู้และสูตรการทานวิตามินค่ะ55555 ตอนนี้อายุ 25 ปี นน.72 สูง171ค่ะ ปัญหาตอนนี้คือหลังคลอดลูกมาได้2-3ปี ผิวพรรณแย่มากๆเลยค่ะ สิว รอยสิว ผิวเหลืองหมองคล้ำ ไม่ขาวอมชมพูสดใสเท่าตอนที่ยังไม่มีลูกเลยค่ะ ทั้งระบบเผาผลาญก็แย่มากๆค่ะ หลังคลอดน้ำหนักขึ้นมาเยอะและลงยากมากๆค่ะ อยากจะขอความกรุณาให้พี่แป้งช่วยแนะนำวิตามิน ที่พอจะทำให้ผิวกลับมาขาวอมชมพูสดใสเหมือนเดิมทีค่ะ ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะพี่แป้ง
โดย: Meishihuiเหม่ยฮุ่ย IP: 49.237.38.30 วันที่: 10 ตุลาคม 2566 เวลา:14:35:03 น.
  
สวัสดีครับ สอบถามครับ ผมทาน Healthy Origins Grape Seed 300 mg อยู่ครับ หวังผลเรื่องผิวพรรณ ช่วยลดเม็ดสี ถ้าผมทานวันละ 2 เม็ด ควรทาน 2 เม็ดตอนเช้าทีเดียวเลย หรือเช้า 1 เม็ด เย็น 1 เม็ดดีครับ ผมอายุ 47 ปี มีโรคประจำตัวกรดไหลย้อน ขอบคุณครับ
โดย: Tan IP: 49.229.187.124 วันที่: 12 ตุลาคม 2566 เวลา:10:48:07 น.
  
@Meishihui เหมยฮุ่ย ; ขอบคุณมากมายสำหรับการติดตามพี่แป้งนะคะน่ารักที่สุดเลยคะ จุ๊บๆ

ผิวพรรณที่เปลี่ยนแปลงไป คาดว่าอาจเกิดจากการต้องเลี้ยงดูบุตรอย่างใกล้ชิด 24 ชม.มีผลทำให้พักผ่อนน้อย ไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ผิวพรรณเลยไม่สดใส

อย่างพี่แป้งเวลาเพื่อนๆมาจากตจว.เราต้องทำขนมเค้ก คุ้กกี้ ทาร์ตสับปะรดไต้หวัน ฯลฯ เอาจริงคือ รู้สึกเหนื่อยกว่าปกติเพราะพี่แป้งลดวิตามินเพิ่มพลังงาน 1 ตัว ผลคือ จะรู้สึกเหนื่อยเหมือนคนทั่วไป แต่หากไม่ลดวิตามินตัวนี้ นอกจากพลังงานจะเยอะมาก ทำขนมจนดึกดื่นก็ไม่เหนื่อยล้า ไม่รู้สึกง่วงหรือหาวนอน แต่บ่อยครั้งจะมีผลทำให้นอนไม่หลับ(กระตุ้นพลังงานมากเกินไป) ตีสามต้องลุกมากินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงซึ่งมีซีโรโทนิน ทำให้ผ่อนคลายและช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเมลาโทนินทำให้หลับง่ายขึ้น กลายเป็นน้ำหนักขึ้นเพราะกินดึกคะ

ทีนี้พอพี่แป้งพักผ่อนน้อยติดกัน 1-2 วัน ผลคือ ผิวหน้าไม่ผุดผ่อง แลดูแห้งโทรมเชียว พอเพื่อนๆกลับไป ก็ได้นอนเพียงพอ ตื่นเช้ามาหน้าตาสดใส ผิวหน้าเปล่งปลั่ง ทาแป้งติดตั้งแต่เช้ายันเที่ยงคืนแน่ะ

ขนาดพี่แป้งนอนน้อยไม่กี่คืน ยังสภาพเยินขนาดนี้ แล้วหนูต้องเลี้ยงลูกน้อยอีก เลือดไหลเวียนไม่ค่อยดี ผิวพรรณเลยไม่สดใสคะ

แนะนำวิตามินดังนี้
1.Lyc-O-mato 15 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 2 เม็ด หลังอาหารเช้า
2.green antioxidant complex ยี่ห้อ Esmeralde ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนอาหารเช้า-เย็น วิตามินตัวนี้ช่วยเรื่องลดสิวและรอยสิวได้แน่นอน พี่แป้งคอนเฟิร์มเพราะที่ผ่านมาอายุน้อยกว่านี้ เวลาเป็นสิว จะเหลือรอยดำไว้จนกลายเป็นกระ แต่ล่าสุดอายุ 49 ปี รอยดำจางหายไปจนรู้สึกว๊าว! แบบว่ารู้งี้กินวิตามินตัวนี้ตั้งนานแล้ว จะได้ไม่เป็นสิวให้รำคาญจิตใจคะ

เสาร์-อาทิตย์ล่าสุด พี่แป้งพาหลานไปเที่ยวพัทยามา คืนก่อนหน้าพี่แป้งทำเค้ก 3 ปอนด์ จำนวน 2 ก้อน ฝากให้น้องชาย นอนดึกพักผ่อนน้อยตามเคย ผลคือ นอนพัทยาคืนแรก ตื่นมามีสิวอักเสบเม็ดไม่ใหญ่มากที่ปลายคาง 1 เม็ด ไม่ได้ทายาแก้สิวเพราะไม่ได้เตรียมไป เมื่อวานส่องกระจกดู ปรากฎว่า สิวยุบไปแล้วคะ เย้!!

3.Ester-c 1000 mg ยี่ห้อ solgar ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น
4.grape seed 300 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า

@Tan ; หากต้องการกิน Grape seed เพื่อหวังผลเรื่องผิวพรรณและลดเม็ดสี
แนะนำครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-เย็น เพราะหากกินครั้งละ 2 เม็ดทีเดียว จะเพิ่มการไหลเวียนเลือดมากเกินไป จนอาจทำให้เลือดแข็งตัวช้าลง ส่งผลให้มีเลือดออกเป็นเวลานานหากเกิดบาดแผลและเกิดรอยฟกช้ำได้ง่ายคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 17 ตุลาคม 2566 เวลา:0:16:30 น.
  
สวัสดีค่ะพี่แป้ง หนูขอสอบถามอาหารเสริมตัวที่ชื่อว่า Astaksantin เห็นตอนนี้เป็นกระแสแรงมาก และกล่าวไว้ว่าให้วิตามินซี 6,000 เท่า และ บำรุงผิว บำรุงตา และสรรพคุณอื่นๆ อีกมากมาย ถ้าหนูจะกินตัวนี้อย่างเดียวไม่ทานตัวอื่นจะได้ไหมคะ จะได้เซฟงบ อะคะ 😆
โดย: Ticha IP: 49.228.100.152 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2566 เวลา:9:41:33 น.
  
สวัสดีค่ะ คุณแป้ง ยังจำกันได้มั้ยคะ ที่แตเคยสอบถามเรื่องปัญหาคอเลสเตอรอลไว้คราวที่แล้ว ตอนนี้ผลตรวจสุขภาพของปีนี้ (2566) ออกมาแล้วค่ะ ดูท่าจะหนักกว่าเดิมไปอีก เลยอยากจะขอคำแนะนำเพิ่มเติมนะคะ

ต้องบอกพื้นฐานร่างกายให้ทราบก่อนค่ะว่า ขณะนี้อายุ 52 ปี หมดประจำเดือนแล้ว น้ำหนัก 48.5 สูง 162 เซ็นติเมตร ปกติแล้วสามารถนอนหลับได้ดีค่ะ

ค่าผลเลือดที่ออกมาเทียบกับปีที่แล้วดังนี้ค่ะ
1. ค่าคอเลสเตอรอล ปี 65 (256) ปี 66 (288)
2. ค่าไตรกลีเซอร์ไรด์ ปี 65 (72) ปี 66 (41)
3. ค่า HDL ปี 65 (64) ปี 66 (83)
4. ค่า LDL ปี 65 (178) ปี 66 (197)

ควรทานวิตามินตัวไหนเพิ่มเติมมั้ยคะ หรือควรไปพบแพย์เลยดี ไม่งั้นปีหน้าคาดว่าจะทะลุ 300 เป็นแน่ ขณะนี้ทานวิตามินดังนี้ค่ะ

1. Antioxidant optimizer 2 เม็ด
2. Skin revitalization 2 เม็ด
3. Skin whitening 2 เม็ด
4. Lyc-o mato 2 เม็ด
5. Supreme hair essential 2 เม็ด
6. Hyaluron acid 2 เม็ด
7. ALA 2 เม็ด

มีเพื่อนแนะนำวิตามิน Chores-bloc ของ ฺBlackmore มาเพื่อลดคอเลสเตอรอลค่ะ ไม่ทราบว่าควรทานเพิ่มเติมไปด้วยมั้ยคะ

รบกวนขอคำแนะนำจากคุณแป้งอีกครั้งนะคะ และขออนุโมทนาบุญมาณ ที่นี้ด้วยค่ะ

โดย: กระแต IP: 101.109.253.5 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2566 เวลา:11:08:18 น.
  
@Ticha ; เอาจริงๆ พี่แป้งก็เห็นว่า กระแสของ Astaxanthin มาแรงตั้งนานนับ 10+ ปีแล้วนะคะ คิคิ

Astaxanthin (แอสตาแซนทิน) เป็นสารประเภทแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ในธรรมชาติ ที่ทำให้เกิดสีแดงหรือสีชมพูในพืชหรือสัตว์ ซึ่งมีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยป้องกันการทำลายเซลล์และกระบวนการออกซิเดชั่นที่มีผลทำให้เกิดริ้วรอยและการเสื่อมของเซลล์ก่อนวัยอันควร 

มีวิตามินซี 6000 เท่า,เรสเวอราทรอล (Resveratrol) มากถึง 3,000 เท่า,โคเอ็นไซม์คิวเท็น (Coenzyme Q10) มากถึง 800 เท่า,คาเทชิน (Catechin) มากถึง 560 เท่า
วิตามินอี (Vitamin E) มากถึง 500 เท่า ,เบต้า แคโรทีน (Beta Carotene) มากถึง 11 เท่า,ลูทีน (Lutein) มากถึง 2.6 เท่า
ไลโคปีน (Lycopene) มากถึง 1.6 เท่า ซึ่งเป็นเพียงผลจากหลอดทดลองเท่านั้นคะ

แต่ในชีวิตจริง ผลลัพธ์ที่ได้จะต่างอย่างสิ้นเชิงจากปัจจัยแวดล้อม เช่น พฤติกรรมการใช้ชีวิต การบริโภคอาหาร การออกกำลังกาย การนอนหลับ ฯลฯ

ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เราจะกิน Astaxanthin 1 เม็ด แล้วจะได้ประโยชน์ครอบจักรวาลคะ

Astaxanthin อาจทำปฏิกิริยากับยาชนิดอื่นที่ใช้อยู่ เช่น 
• ยารักษาความดันโลหิตสูง 
• ยากลุ่ม 5 แอลฟา รีดักเตส อินฮิบิเตอร์ (5-Alpha Reductase Inhibitor) เช่น ดูทาสเทอไรด์ (Dutasteride) และยาฟีนาสเตอไรด์ (Finasteride) ซึ่งออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างฮอร์โมนเพศชาย 
• ยากดภูมิคุ้มกัน เนื่องจาก Astaxanthin อาจส่งผลต่อความเร็วของตับในการย่อยสลายยาบางชนิด ทำให้ประสิทธิภาพและผลข้างเคียงของยาเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไป และอาจกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน 

ผลข้างเคียงจากการบริโภค Astaxanthin
การรับประทาน Astaxanthin อาจทำให้ขับถ่ายบ่อยขึ้น หากรับประทานปริมาณมากอาจทำให้ปวดท้อง และการรับประทานเกินวันละ 48 มิลลิกรัมทุกวัน อาจทำให้อุจจาระมีสีแดง 

นอกจากนี้ อาจทำให้ระดับแคลเซียมและความดันโลหิตลดต่ำลง และงานวิจัยบางชิ้นพบว่า อาจส่งผลต่อระดับฮอร์โมนเพศชาย แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนถึงผลข้างเคียงในการบริโภค Astaxanthin ต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน

หนูสามารถทดลองด้วยตัวเองได้เลยว่า กิน Astaxanthin เพียงเม็ดเดียว แล้วเห็นผลลัพธ์ในด้านใดบ้างหรือไม่เห็นผลเลย ไม่ลองไม่รู้คะ

@กระแต ; สาธุคะ
อ๋อ!!จำได้คะ เห็นว่า ออกกำลังกายสม่ำเสมอและชอบทานธัญพืช ขอบคุณสำหรับ

สิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมที่อาจส่งผลต่อระดับคอเลสเตอรอล ได้แก่
1.อายุและเพศ เมื่อผู้หญิงและผู้ชายมีอายุมากขึ้น ระดับคอเลสเตอรอลมักจะสูงขึ้น ซึ่งก่อนวัยหมดประจำเดือน ผู้หญิงมีระดับคอเลสเตอรอลรวมต่ำกว่าผู้ชายในวัยเดียวกัน หลังจากวัยหมดประจำเดือน ระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) ของผู้หญิงมีแนวโน้มสูงขึ้น

ตราบเท่าชีวิตการเป็นพยาบาล แป้งจะได้ข่าวคราวผู้หญิงวัยทองแทบทุกคนว่า ก่อนหน้านี้จะมีระดับคอเลสเตอรอลปกติ แต่พอเข้าสู่วัยทองปุ๊บ ทั้งความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูงกระหน่ำมาพร้อมๆกัน อย่างแม่แป้ง ไม่เคยมีไขมันในเลือดสูง วัยทองปุ๊บ ค่าไขมัน cholesterol 250 กว่าๆ(แต่ไม่เป็นความดันโลหิตสูง เพื่อนๆแม่เป็นทั้ง 2 อย่าง อาจเกิดจากพฤติกรรมการกินในอดีตร่วมด้วย)หรือเพื่อนๆรุ่นเดียวกัน ไขมันคอเลสเตอรอล ~234-290 ได้รับยาลดไขมันทุกคนคะ

2.พันธุกรรม ยีน(Gene)ส่วนหนึ่งเป็นตัวกำหนดปริมาณคอเลสเตอรอลที่ร่างกายสร้างได้ คอเลสเตอรอลในเลือดสูงสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนในครอบครัว


Chores-bloc/Blackmore มีสารประกอบหลักคือ Plant sterol มีงานวิจัยพบว่า ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ 13% สามารถลองกินดูได้ หากไม่เห็นผล รบกวนสอบถามอีกครั้ง จะแนะนำวิตามินตัวอื่นให้คะ

Plant Sterol คือสารสกัดที่มีโครงสร้างทางเคมีคล้ายกับคอเลสเตอรอลในร่างกาย มีกลไกช่วยลดอัตราการดูดซึมคอเลสเตอรอลเข้าสู่ร่างกาย เนื่องจากมีโครงสร้างคล้ายกับคอเลสเตอรอล จึงสามารถเข้าแย่งจับรวมตัวกับไมเซลล์ (Micelle) ในลำไส้เล็กและดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดแทนไขมันคอเลสเตอรอลตัวจริงได้ ทำให้คอเลสเตอรอลตัวจริงถูกดูดซึมได้น้อยลง ส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดลดลง

ทั้งนี้ Plant Sterol จะมีเพียงปริมาณน้อยมากในอาหารธรรมชาติปกติ เช่น ข้าวสาลี ข้าวโพด ผลไม้ ธัญพืชต่างๆ อุตสาหกรรมอาหารจีงคิดค้นผลิตภัณฑ์เพื่อลดคอเลสเตอรอลที่เติมสารสกัด Plant Sterol ลงไป ซึ่งพบว่าในหลายประเทศ มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนผสมของ Plant Sterol เช่น โยเกิร์ต กาแฟผงสำเร็จรูป เครื่องดื่มธัญพืชสำเร็จรูป  เนย เนยเทียม มาร์การีน เป็นต้น

แนะนำ ให้ออกกำลังกาย 40-60 นาทีขึ้นไปร่วมด้วย
เหตุผลคือ ในช่วง 30 นาทีแรกของการออกกำลังกาย ร่างกายจะดึงพลังงานมาจากน้ำตาลและแป้งมาใช้เป็นพลังงานหลัก และหลังจาก 30 นาที ร่างกายจึงจะดึงไขมันที่สะสมในร่างกายออกมาใช้เป็นพลังงาน(โดยจะเน้นการออกกำลังกายในระดับปานกลางถึงหนัก (moderate to high-intensity exercise)จากนั้นจะเริ่มเผาผลาญไขมันที่พอกตับ(คนส่วนใหญ่มักออกกำลังกายไม่ถึงจุดนี้)ตามลำดับคะ

คอเลสเตอรอล LDL คือ ไขมันชนิดไม่ดี เพิ่มโอกาสเกิดการสะสมของไขมันบนผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดแข็งหรือตีบ
ในขณะที่ HDL ซึ่งเป็นไขมันชนิดดี จะช่วยในลดการเกาะตัวของไขมันบนหลอดเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเส้นเลือดหัวใจ
ส่วนไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งเป็นไขมันอีกชนิดหนึ่งในกระแสเลือด
มีงานวิจัยพบว่า การมีระดับไตรกลีเซอไรด์สูงอาจเชื่อมโยงกับการเกิดโรคหัวใจ

เวลาแพทย์พิจารณาให้ยาลดไขมัน จะดูที่ LDL อันดับแรก
โชคดีที่คุณกระแตมีค่า HDL 83 ถือว่าค่อนข้างสูง( เพื่อนสนิทคนหนึ่งของแป้งออกกำลังกายในฟิตเนสสม่ำเสมอ+กินอาหารสุขภาพ ค่า HDL 108 แน่ะคะ)ค่า HDL ยิ่งสูงยิ่งดี คุณกระแตอย่าเพิ่งกังวลใจ ยังมีเวลาปรับตัวอีกเยอะคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 21 พฤศจิกายน 2566 เวลา:22:29:15 น.
  
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ จะพยายามปฏิบัติตามที่แนะนำให้ได้ทุกข้อเลยค่ะ สาธุอนุโมทนาบุญ และ ขอให้คุณแป้งสวยวัน สวยคืนนะค้า
โดย: กระแต IP: 101.109.253.5 วันที่: 16 ธันวาคม 2566 เวลา:11:09:49 น.
  
@… ; สาธุคะ
แป้งมีเรื่องแชมพูสระผมจะเล่าให้ฟังคะ

แป้งซื้อแชมพูสระผมมาหลายยี่ห้อเพื่อทดลอง เผื่อเจอสิ่งที่ดีกว่า ปัจจุบันเลิกใช้ยี่ห้อ clear ที่ไม่มีซิลิโคนแล้วคะ

ลองใช้แชมพูยี่ห้อ L’Oréal ขวดสีชมพู โห!! ผมลื่นแต่เป่าแห้งยากเพราะมีส่วนผสมของซิลิโคน ตอนสระผม เส้นผมร่วงกราว เวลาเหงื่อออกคันหัวอีกต่างหาก เลยหยุดใช้คะ

ด้วยความเสียดาย(สามีก็ใช้ไม่ได้ ผมร่วงเยอะขึ้น) เสาร์ที่แล้ว แป้งออกกำลังกาย เหงื่อออกเยอะ แต่ไม่สระผมในคืนนั้นเพราะสระผมตอนกลางคืน กว่าจะเป่าผมให้แห้ง จะทำให้นอนดึก

พอตอนสายๆ แป้งทำงานบ้านตามปกติ(แพลนว่าจะสระผมทีเดียวเพราะเวลาดูดฝุ่น เหงื่อจะออกเยอะอยู่แล้ว) เจ้ากรรม ยิ่งเหงื่อออกที่หัว ยิ่งคันยิบๆ พอเสร็จภารกิจ ลองสระผมด้วยแชมพูยี่ห้อ L’Oréal
ขวดเดิม เพิ่มเติมคือ พอขยี้แชมพูให้เป็นฟอง แป้งใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล กด 3-4 ปั๊มเพื่อผสมกับแชมพู นวดผมให้ทั่วแล้วล้างออก อ้าว!!หายคันหนังหัวเป็นปลิดทิ้งคะ

จากนั้นนวดผมยี่ห้อ Dove Botanical Selection(มีซิลิโคนลำดับที่ 3 )สังเกตว่า ตอนล้างครีมนวดผมออก ผมไม่ร่วงเยอะ แบบร่วงน้อยไม่ถึง 30 เส้น โห!ดีงาม พอเป่าผมด้วยไดร์เสร็จ ว๊าย!!ผมลื่นนุ่มสลวยเงางามเชียวคะ

แป้งลองสระผมแบบเดิม(ราดน้ำส้มสายชู)มา 4-5 ครั้งแล้ว นอกจากไม่คันหนังหัว,ผมร่วงน้อยลงกว่าเดิมแถมผมลื่นอีกด้วยคะ
สรุปคือ ไม่ต้องทิ้งแชมพูแล้ว(มีอีกหลายยี่ห้อที่สระผมเพียงครั้งเดียว แล้ววางไว้เช่นเดิม)

หมายเหตุ น้ำส้มสายชูที่ทำจากแอปเปิ้ล จะช่วยในการขจัดแชมพูส่วนเกินที่ตกค้างอยู่บนหนังศีรษะ และปรับสภาพเส้นผมได้เป็นอย่างดี(ใช้น้ำมะนาวได้เช่นกัน)
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 7 มกราคม 2567 เวลา:23:09:13 น.
  
สวัสดีค่ะพี่แป้ง อยากให้พี่แป้งช่วยแนะนำวิตามินบำรุงผิวใส และวิตามินบำรุงที่เหมาะกับช่วงวัยค่ะ ตอนนี้อายุ 30 สูง 157 น้ำหนัก 50 ค่ะ
โดย: au_elle IP: 49.229.220.174 วันที่: 10 มกราคม 2567 เวลา:10:54:00 น.
  
รบกวนพี่แป้ง แนะนำวิตามินเพื่อผิวขาวใส รูขุมขนกระชับ ลดริ้วรอย แบบกินต่อเนื่องได้นานๆ ไม่ส่งผลต่อตับไตทีนะคะ

หนูอายุ 28 ปี เพศ หญิง น้ำหนัก 55 กก. สูง 157 ซม.
มีร่องแก้ม กับริ้วรอยตรงขอบตา
มีอาการปวดหัวซีกซ้าย ชีวิตเจอแดดบ่อยๆ ผิวหน้าค่อนข้างขาดน้ำ

รบกวนแนะนำหนูเรื่องการเว้นระยะทานวิตามินทีนะคะ
เคยเจอบางคนบอกว่าทานติดกัน 3-6 เดือน แล้วหยุด 1 เดือน แบบนี้น่ะค่ะ
โดย: หญิงหญิง IP: 49.228.166.162 วันที่: 12 มกราคม 2567 เวลา:17:04:47 น.
  
ขออนุญาตสอบถามเพิ่มเติมค่ะพี่แป้ง

หนูสนใจ grape seed กับ pycnogenol
สงสัยว่าสองตัวนี้กินคู่กันไปเลยได้ไหมคะ
มันจะไม่เกินขนาดใช่ไหมคะ
โดย: หญิงหญิง(คนเดิมก่อนหน้า) IP: 49.228.165.144 วันที่: 12 มกราคม 2567 เวลา:21:22:07 น.
  
รบกวนอีกครั้งค่ะพี่แป้ง หนูทำ IF ด้วย ไม่กินมื้อเย็นเลยแม้แต่แคลอรี่เดียว จะทานอาหารแค่ภายใน 8 ชม. เลยอยากให้พี่แป้งช่วยจัดตารางเวลาทานอาหารเสริมให้หน่อย

หนูกราบขอบพระคุณพี่แป้งล่วงหน้าเลย
รับรู้ว่าเดี๋ยวพี่แป้งจะต้องมาตอบแน่นอน

หนูเคยติดตามพี่มาตั้งแต่ก่อนโควิดระบาด จนถึงตอนนี้พี่ก็ยังสละเวลามาแนะนำผู้คนเรื่องสุขภาพต่างๆอีก

ขอบคุณนะคะ
โดย: หญิงหญิง(คนเดิมก่อนหน้า2) IP: 49.228.165.144 วันที่: 12 มกราคม 2567 เวลา:21:30:00 น.
  
สวัสดีค่ะพี่แป้ง เคยมาสอบถามปัญหากับพี่แป้งเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นมาสอบถามปัญหาสิว แต่หลังจากผ่านไปหลายปี ปัญหาที่รบกวนชีวิตในวันนี้ก็เปลี่ยนไป กลายเป็นปัญหาเกี่ยวกับน้ำหนักตัวแทน เนื่องจากต้องรักษาโรคจิตเวช(ย้ำคิดย้ำทำ วิตกกังวล ซึมเศร้า) ทำให้ต้องทานยาหลายตัว ขนาดทานหลายตัวยังไม่เห็นผล แต่สิ่งที่เห็นผลชัดเจนเลยคือน้ำหนักตัวที่เพิ่มอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่เดือน ปัจจุบันหนัก 87 สูง 161 เมื่อก่อนน้ำหนักตัวอยู่ที่ 46-47 แต่ช่วงที่มีปัญหาสิวจึงได้ไปลองทานยาคุมจนน้ำหนักขึ้นไป 65 เมื่อไม่เห็นผลใดๆจึงหยุดยาคุมไป ประจวบกับเป็นช่วงที่เริ่มรักษาอาการทางจิตเวชพอดี น้ำหนักที่น่าจะหยุดขึ้นเอาๆเพราะยาคุมก็น่าจะหมดไป แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น เริ่มแรกที่รักษาอาการทางจิตเวชไม่รู้เลยว่ายาที่รักษาอาการทางจิตเวชมักมีผลข้างเคียงทำให้อ้วน ทั้งๆที่ทานอาหารเหมือนปกติทุกอย่าง แต่น้ำหนักตัวกลับพุ่งเอาๆ ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนหรือเพิ่มโดสของยาน้ำหนักก็จะขึ้นเอาๆ จนปัจจุบันหนัก 87 โรคภายนอกที่เกิดจากความอ้วนก็มากันเต็มไปหมด ทั้งปวดเข่า ปวดสะบัก ปวดเอว ปวดส้นเท้า ปัจจุบันอายุ 34 ปีค่ะ ถ้าอายุมากกว่านี้แล้วน้ำหนักยังเท่านี้อยู่ ความดันหรือเบาหวานคงได้ถามหาแน่ๆ จำได้ว่าเมื่อก่อนบอร์ดของพี่แป้งมักจะมีคนจำนวนมากมาขอคำปรึกษาด้านสุขภาพ ไอเราก็ไม่กล้ามารบกวนพี่แป้งเพิ่มอีกคนนึง ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆก็ไม่อยากรบกวนพี่แป้งเลยค่ะ แต่พักหลังมากนี้เห็นคนมาสอบถามปัญหาสุขภาพน้อยลง เลยคิดว่าถ้ามาปรึกษาช่วงนี้น่าจะไม่เป็นการรบกวนพี่แป้งมากเกินไป ต้องขออภัยจริงๆนะคะที่อาจจะคิดเองเออเอง หรือคิดอะไรซับซ้อนมากกว่าคนปกติ น่าจะเป็นผลจากโรควิตกกังวลค่ะ เลยทำให้ตัวเองคิดมากไปต่างๆนาๆ คำพูดถ้าผิดพลาดประการใดต้องก็ขออภัยพี่แป้งไว้ ณ ที่นี้นะคะ

ปัญหาที่อยากจะรบกวนปรึกษาพี่แป้งคือ พอจะมีวิตามินตัวไหนที่จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานหรือน้ำตาลหรือไขมันในร่างกายมั้ยคะ ต้องทานหลายตัวก็ยอมค่ะ เพราะปัจจุบันทนกับปัญหาสุขภาพที่เกิดจากโรคอ้วนไม่ไหวแล้วจริงๆ จึงคิดจะทานวิตามินควบคู่ไปกับการออกกำลังกายเบาๆที่พอจะทำไหวค่ะ ไม่ขอหนัก 46-47 เท่าเดิม ขอแค่ไม่ปวดส้นเท้า ไม่ปวดเข่า ไม่ปวดสะบัก ไม่ปวดเอวก็พอแล้วค่ะ

อายุ 34 ปี

น้ำหนัก 87

ส่วนสูง 161 ซม.

ทานยารักษาโรคจิตเวชอยู่หลายตัวค่ะ แต่ยาไม่คงที่ มีการปรับเปลี่ยนโดสหรือเปลี่ยนตัวยาบ่อยๆเนื่องจากอาการไม่ดีขึ้นค่ะ

ไม่มีโรคประจำตัวอื่นๆ นอกจากโรคอ้วนค่ะ

ขอบพระคุณพี่แป้งมากๆค่ะ
โดย: สโรชา IP: 184.22.103.32 วันที่: 20 มกราคม 2567 เวลา:0:30:39 น.
  
@กระแต ; สาธุคะ
แป้งมีเรื่องแชมพูสระผมจะเล่าให้ฟังคะ

แป้งซื้อแชมพูสระผมมาหลายยี่ห้อเพื่อทดลอง เผื่อเจอสิ่งที่ดีกว่า ปัจจุบันเลิกใช้ยี่ห้อ clear ที่ไม่มีซิลิโคนแล้วคะ

ลองใช้แชมพูยี่ห้อ L’Oréal ขวดสีชมพู โห!! ผมลื่นแต่เป่าแห้งยากเพราะมีส่วนผสมของซิลิโคน ตอนสระผม เส้นผมร่วงกราว เวลาเหงื่อออกคันหัวอีกต่างหาก เลยหยุดใช้คะ

ด้วยความเสียดาย(สามีก็ใช้ไม่ได้ ผมร่วงเยอะขึ้น) เสาร์ที่แล้ว แป้งออกกำลังกาย เหงื่อออกเยอะ แต่ไม่สระผมในคืนนั้นเพราะสระผมตอนกลางคืน กว่าจะเป่าผมให้แห้ง จะทำให้นอนดึก

พอตอนสายๆ แป้งทำงานบ้านตามปกติ(แพลนว่าจะสระผมทีเดียวเพราะเวลาดูดฝุ่น เหงื่อจะออกเยอะอยู่แล้ว) เจ้ากรรม ยิ่งเหงื่อออกที่หัว ยิ่งคันยิบๆ พอเสร็จภารกิจ ลองสระผมด้วยแชมพูยี่ห้อ L’Oréal
ขวดเดิม เพิ่มเติมคือ พอขยี้แชมพูให้เป็นฟอง แป้งใช้น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิ้ล กด 3-4 ปั๊มเพื่อผสมกับแชมพู นวดผมให้ทั่วแล้วล้างออก อ้าว!!หายคันหนังหัวเป็นปลิดทิ้งคะ

จากนั้นนวดผมยี่ห้อ Dove Botanical Selection(มีซิลิโคนลำดับที่ 3 )สังเกตว่า ตอนล้างครีมนวดผมออก ผมไม่ร่วงเยอะ แบบร่วงน้อยไม่ถึง 30 เส้น โห!ดีงาม พอเป่าผมด้วยไดร์เสร็จ ว๊าย!!ผมลื่นนุ่มสลวยเงางามเชียวคะ

แป้งลองสระผมแบบเดิม(ราดน้ำส้มสายชู)มา 4-5 ครั้งแล้ว นอกจากไม่คันหนังหัว,ผมร่วงน้อยลงกว่าเดิมแถมผมลื่นอีกด้วยคะ
สรุปคือ ไม่ต้องทิ้งแชมพูแล้ว(มีอีกหลายยี่ห้อที่สระผมเพียงครั้งเดียว แล้ววางไว้เช่นเดิม)

หมายเหตุ น้ำส้มสายชูที่ทำจากแอปเปิ้ล จะช่วยในการขจัดแชมพูส่วนเกินที่ตกค้างอยู่บนหนังศีรษะ และปรับสภาพเส้นผมได้เป็นอย่างดี(ใช้น้ำมะนาวได้เช่นกัน)
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 22 มกราคม 2567 เวลา:0:24:24 น.
  
@au…elle ;
พูดเรื่องผิวใส จนป่านนี้พี่แป้งยังไม่หายสงสัยเลยคะ

กลางปีที่แล้ว พี่แป้งไปพักโรงแรมระดับ 4 ดาว(แต่ในเวปเอเจนท์จะเขียนว่า 5 ดาว)แห่งหนึ่งที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน ความที่ระบบโรงแรมยังไม่เข้าที่เข้าทาง มีปัญหาหลายอย่างที่ต้องคอมเพลนเพราะพัก 4 คืน

มีโอกาสได้คุยกับผู้จัดการห้องพักและน้องที่ประจำหน้าฟร้อนท์
พี่แป้งใส่เดรสแขนกุด ผู้จัดการ(อายุ 35 ปี)ทักพี่แป้งว่า ไม่นึกว่าลูกค้าอายุ 50 ปีแล้ว ดูผิวสิ แล้วบอกลูกน้องให้มองที่แขนและผิวหน้าพี่แป้ง ไม่มีริ้วรอย ไม่เหี่ยวเลย

พี่แป้งเลยถามว่า รู้อายุพี่ได้ยังไง
ผู้จัดการตอบว่า บ่ายเมื่อวาน(วันเช็คอิน)ได้รับรายงานเรื่องแม่บ้านกำลังถูพื้นห้องอาหาร แต่ไม่ได้วางป้ายเตือนให้ระวังลื่น พี่แป้งกินเสร็จกำลังจะเดินออกจากห้องอาหาร แล้วลื่นไถลเสียหลักนิดนึง เลยบอกแม่บ้านไปว่า อายุวัยทองแล้ว ถ้าลื่นหกล้มเนี่ยเรื่องใหญ่ เผลอๆกระดูกสะโพกหักเลยนะคะ

ผู้จัดการบอกว่า แม่บ้านไม่อยากเชื่อว่า แขกอายุ 50 ปี ดูยังไงก็ไม่ถึง ต้องเป็นพี่แป้งแน่นอน ซึ่งก็ถูกต้องคะ ผิวแขนพี่แป้งเนียนละเอียด ผิวหน้าดีไม่สู้ผิวกาย แต่หน้าไม่คล้อย ร่องแก้มไม่ลึก(อีกด้านไม่มี)ซึ่งเป็นผลจากการกินวิตามินสม่ำเสมอต่อเนื่องล้วนๆคะ

เล่ามาทั้งหมดคือ ผู้จัดการและน้องๆเค้าชมเราเพราะกลัวเราตำหนิการให้บริการที่บกพร่องของโรงแรมหรือเปล่าน้อ แต่พอพี่แป้งไปพักโรงแรมเดิมอีกครั้ง น้องผู้จัดการ offer afternoon tea set ให้พี่แป้งด้วยนะคะ

แนะนำวิตามินดังนี้
1.lycopene 15 mg ยี่ห้อ life extension ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
2.grape seed 300 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
3.ester-c 1000 mg ยี่ห้อ solgar ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า

จริงๆวัย 30 ปี ยังไม่ต้องกินวิตามินบำรุงอะไรมากเพราะยังมีความชุ่มชื้น ความเต่งตึงของผิวจากการทำหน้าที่ของฮอร์โมนเอสโตรเจนอยู่เยอะ เพราะฉะนั้นควรเน้นวิตามินในส่วนที่ขาดหรือมีปัญหาจะดีกว่าคะ(พี่แป้งเริ่มกินวิตามินจัดเต็มจากอเมริกาอายุ 39ปี)

@หญิงหญิง ; ปวดหัวซีกซ้ายเกิดจากไมเกรนหรือเปล่าคะ แสงแดดเป็นตัวกระตุ้นไมเกรนอย่างดีเลยคะ ลองดื่มกาแฟดำ(กาแฟมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือด)ดูนะคะ

สามีพี่แป้งก็ปวดหัวไม่เกรนประจำ แทบไม่แตะยาแก้ปวด แต่อาศัยดื่มกาแฟแทน ช่วยได้เยอะเลยคะ

แนะนำวิตามินดังนีั

1.ALA 600 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
2.grape seed 300 mg ยี่ห้อ healthy origins ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
3.ester-c 1000 mg ยี่ห้อ solgar ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
4.restoration hydrating complex ยี่ห้อ vitality life ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า

การกินวิตามินชะลอวัยสไตล์พี่แป้ง ไม่มีหยุดพักแม้เพียงวันเดียวเพราะหากหยุดกิน ระดับวิตามินที่ไหลเวียนในกระแสเลือดจะลดระดับลงจนหมดไปจากร่างกาย สภาพร่างกายจะเหมือนตอนก่อนกินวิตามิน บางคนหยุดกินไป แล้วพอเริ่มต้นกินใหม่ จะใช้เวลานานขึ้นจึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลง

หนูอาจยังไม่ถึงจุดที่ต้องยืมวิตามินกินอย่างพี่แป้ง สามี น้องๆในออฟฟิศ บางทีวิตามินที่กินประจำเกิดหมด ลืมสั่งซื้อ แต่ไม่มีกินแล้ว การยืมวิตามินจะเกิดขึ้นเพราะเหตุผลข้างต้นคะ

หมายเหตุ พี่แป้งค้นคว้าศึกษาการกินวิตามินชะลอวัยจากเวปต่างประเทศ 10+ปี ไม่ได้อ่านเวปภาษาไทยเพราะหากอ่านเวปภาษาไทยจะไม่กล้ากินวิตามิน กลัวตับพังคะ

@หญิงหญิง ; สามารถกิน grape seed,pycnogenol ควบคู่กันได้ไม่เกินขนาด แต่จริงๆวิตามินทั้ง 2 ตัวมีสรรพคุณคล้ายกัน เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้นะคะ

@หญิงหญิง ; หากทำ if วิตามินที่กินทั้งหมดหลังมื้อเช้า ให้เปลี่ยนมาเป็นหลังอาหารเที่ยงแทนคะ

ขอให้ประสบความสำเร็จในการทำ if นะคะ
จริงๆการทำ if ถือเป็นการชะลอวัยอย่างหนึ่ง ขอเวลาค้นเวปต่างประเทศเพิ่มเติมสักหน่อย วันหลังจะเล่าในบล็อกให้ฟังคะ

@สโรชา ; เหมือนคุ้นๆชื่อหนูอยู่นะคะ หนูไม่ต้องเกรงใจพี่แป้งหรอกคะ ตอนทำงานเป็นพยาบาลประจำการก็ชอบแนะนำ+ให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพอยู่แล้วเพราะหมอไม่มีเวลามานั่งอธิบายยืดยาว(คนไข้เยอะมาก) พี่แป้งเคยเห็นน้องๆที่กินยารักษาโรคซึมเศร้า เค้าจะแอบเกรงใจคนอื่นเหมือนหนูเลยคะ

พี่แป้งคิดเสมอว่า เราเรียนพยาบาลศาสตร์มายากเย็น หากรู้อะไรที่เป็นสิ่งดีและมีประโยชน์กับคนอื่น จะไม่รีรอที่จะแนะนำเพราะเค้าไม่ได้ร่ำเรียนมาแบบเราคะ

ระบบเผาผลาญที่เปลี่ยนแปลงไปจากผลข้างเคียงของยา จะไม่มีวิตามินหรือวิธีการใดยับยั้งได้ ไม่ว่าจะกินวิตามินเพิ่มการเผาผลาญกี่ตัวก็ตามทีเพราะหนูยังคงต้องกินยารักษาโรคจิตเวช ระดับยาจะวนเวียนคงที่ในกระแสเลือดอยู่แบบนั้น ผลข้างเคียงจะยังอยู่เช่นกัน

พี่แป้งฉีดวัคซีน AZ เพียงเข็มเดียว มีผลข้างเคียงที่เห็นได้ชัดคือ พลังงานเยอะมากๆจนต้องหยุดวิตามินเพิ่มพลังงานไปหลายตัวและระบบเผาผลาญทำงานน้อยลงจนส่งผลให้น้ำหนักพุ่งพรวดจาก 54 โลเป็น 61 โล(เครื่องชั่งโรงแรม)แต่ชั่งที่บ้าน 60 โล ตอนนั้นก็กินวิตามินเผาผลาญ 2 ตัว แต่ไม่เป็นผลเพราะยังมีฤทธิ์ของวัคซีนในกระแสเลือด

จนกระทั่งหมดฤทธิ์วัคซีน(8 เดือนผ่านไป)น้ำหนักกลับคืนมาที่ 55 โล โดยกินเท่าเดิม ปัจจุบันกินวิตามินเผาผลาญแค่ตัวเดียวคะ

หากหนูยังต้องการรายชื่อวิตามินเผาผลาญ(น่าจะกินสัก 3 ตัว)
รบกวนแจ้งพี่แป้งอีกครั้งนะคะ

ว่าแต่ไม่สนใจทำ if ร่วมด้วยเหรอคะ เพราะน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาจากอาหารที่เรากินเข้าไป หากลดแคลอรี่และจำนวนมื้อลง+กินวิตามินเผาผลาญ น่าจะดีกว่ากินวิตามินเพียงอย่างเดียวคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 22 มกราคม 2567 เวลา:0:25:00 น.
  
ขอบคุณคุณแป้งมากนะคะ ในคำแนะนำเรื่องการใช้ apple cider vinegar ผสมกับแชมภูสระผม เพื่อให้ผมร่วงน้อยลง และยังจำปัญหาที่แตประสบอยู่เรืองผมร่วงได้

ไว้แต จะลองใช้ผสมกับแชมภูที่บ้านบ้างค่ะ แล้วจะมารีวิวให้ฟังอีกทีนะคะ
โดย: กระแต IP: 101.109.253.5 วันที่: 29 มกราคม 2567 เวลา:12:00:04 น.
  
เส้นเลือดฝอยที่หน้าแตกง่ายเวลาอาเจียนและที่ตัวเป็นรอยฟกช้ำง่ายควรกินวิตามินตัวไหนคะ
โดย: แก๊บ IP: 58.8.217.80 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:19:10:27 น.
  
คุณแป้งคะ เคยถามคุณแป้งนานแล้วเกี่ยวกับคุณแม่ที่มีภาวะกระดูกบาง คุณแป้งแนะนำ rainbowlight แคลเซียมกินคู่กับ mk7 จะสั่งซื้อต่อเหมือนเขาหยุดผลิตแล้ว มียี่ห้ออื่นแนะนำไหมคะ คุณแม่อายุ 80 ปี เป็นเบาหวาน ความดัน ค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ
โดย: ศิวพร IP: 58.11.156.204 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:20:18:52 น.
  


@แก๊บ ; เส้นเลือดฝอยที่หน้าแตกง่าย เรียกว่า Petechiae(เพตติเคีย)มีลักษณะเป็นจุดสีแดงเนื่องจากมีเลือดไหลออกจากเส้นเลือดฝอยลงสู่ผิวหนังโดยรอบ โดยจุดแดงเล็ก ๆ นี้ จะมีขนาด 1-2 มิลลิเมตรหรือใหญ่ไม่เกิน 1 เซนติเมตร

สาเหตุที่ทำให้เส้นเลือดฝอยแตกบนใบหน้า
1.พันธุกรรมโดยไม่ทราบสาเหตุ มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในครอบครัว ปัจจัยเสี่ยงมักเพิ่มขึ้นตามอายุเช่นกัน
2.การตั้งครรภ์ ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เพิ่มขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์อาจทำให้เส้นเลือดฝอยแตกได้ ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์จะหายได้เองหลังคลอด ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังเป็นเรื่องปกติในการตั้งครรภ์
3.โรซาเซีย(Rosacea) สภาพผิวที่พบบ่อยนี้ทำให้เกิดรอยแดงบริเวณกว้าง ส่วนในกรณีของ erythematotelangiectatic rosacea จะทำให้เส้นเลือดฝอยแตกเป็นเรื่องปกติ
4.แสงแดด การได้รับแสงแดดมากเกินไป อาจทำให้หลอดเลือดขยายใหญ่ขึ้นได้ หากถูกแดดแผดเผา ผิวหนังชั้นบนอาจลอกเป็นขุย มีผลทำให้เห็นเส้นเลือดฝอยบางส่วนบนใบหน้าชัดเจนชั่วคราว
5.การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ อากาศร้อนจะทำให้หลอดเลือดขยายตัวมากขึ้น
6.สารระคายเคืองจากสิ่งแวดล้อมหรือสารเคมี
7.บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์ในระดับปานกลางหรือเป็นครั้งคราว อาจทำให้ผิวหนังแดงเนื่องจากการขยายตัวของหลอดเลือด การดื่มสุราและการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนัก อาจทำให้เกิดเส้นเลือดฝอยแตกได้ในที่สุด
8.อาการบาดเจ็บ การบาดเจ็บไม่ว่าจะเล็กน้อยถึงรุนแรงอาจทำให้เกิดอาการช้ำได้ เมื่อมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า หลอดเลือดที่แตกก็อาจสังเกตเห็นได้ชัดเจน
9.อาเจียนหรือจาม ความกดดันอย่างฉับพลันบนใบหน้าจากการไอจามอย่างรุนแรงหรือการอาเจียน อาจทำให้เส้นเลือดฝอยในผิวหนังแตกได้ เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดแรงกดดันเพิ่มขึ้น อาจทำให้เกิดอาการแสบบริเวณใบหน้าหรือดวงตาได้
10.จุดผื่นแดงชนิดนี้ มักพบได้ในคนไข้ที่มีเกร็ดเลือดทำหน้าที่ผิดปกติ เช่น โรคไข้เลือดออก เกร็ดเลือดต่ำ
11. คนไข้ที่กินยาแอสไพริน(เพื่อยับยั้งการเกาะกลุ่มกันของเกร็ดเลือด)เป็นเวลานาน มักพบจุดเลือดออกใต้ผิวหนัง

แนะนำ Ester-c หรือ วิตามินซีสังเคราะห์ที่มีส่วนผสมของไบโอ
ฟลาโวนอยด์(bioflavonoids)วันละ 1000 mg จะช่วยให้ผนังหลอดเลือดแข็งแรงขึ้น แต่ส่วนใหญ่มักจะหายเองภายใน 1-2 อาทิตย์ ไม่ต้องกังวลใจนะคะ

ส่วนร่างกายเป็นรอยฟกช้ำง่าย แสดงว่า อาจกินวิตามินที่มีส่วนทำให้เลือดหยุดไหลช้าลง เช่น น้ำมันปลา,krill oil ,กระเทียม ฯลฯ
จริงๆแล้วควรจะกินวิตามินเค(K)คะ

วิตามินเค หรือ วิตามินK เป็นวิตามินที่มีหน้าที่และบทบาทสำคัญต่อลิ่มเลือด ป้องกันไม่ให้เลือดออกมากเกินไป หรือเลือดออกจนไหลไม่หยุด โดยจะมีความแตกต่างจากวิตามินชนิดอื่น ๆ เช่น วิตามินซี วิตามินบี ตรงที่วิตามินเคมักจะไม่ได้ถูกนำมาใช้รับประทานเป็นอาหารเสริมกันอย่างแพร่หลาย

แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงสามารถพบอาหารเสริมที่เป็นวิตามินเคในบางพื้นที่ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา 

วิตามินเคเป็นกลุ่มของสารประกอบที่ประกอบไปด้วย วิตามินเค 1 และวิตามินเค 2
วิตามินเค 1 ได้จาก การรับประทานผักใบเขียว และผักชนิดต่าง ๆ
วิตามินเค 2 ได้จาก การรับประทานเนื้อสัตว์ ไข่ ชีส และการสังเคราะห์จากแบคทีเรียบางชนิด 

อาหารที่ทำมาจากนมและไข่ เช่น เนย ชีส ไข่แดง ครีมชีส
อาหารประเภทนี้จะให้วิตามินเค2  โดยเฉพาะเนยแข็งประเภทฮาร์ดชีส (Hard Cheese) ที่ให้ปริมาณของวิตามินเคสูงสุด เนยแข็งประเภทฮาร์ดชีส 100 กรัม จะได้รับวิตามินเคมากถึง 87 ไมโครกรัม หรือคิดเป็น 72% ต่อปริมาณร้อยละที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน

ผลไม้ที่มีวิตามินเคสูง เช่น ทับทิม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ อะโวคาโด
กีวี ลูกพรุน

ส่วนวิตามิน K2(MK-7)แนะนำยี่ห้อ natural factors 100 mcg ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:0:22:25 น.
  
ขอบคุณพี่แป้งที่แชร์นะคะ อ่านเพลินมากค่ะ แต่เห็นพี่แป้ง mentioned เรื่องผิวตัว ผิวหน้า แล้วสะดุดที่ร่องแก้ม เพราะตอนนี้หนูมีริ้วเล็กๆมุมปาก และร่องแก้มที่เริ่มมีนิดๆ พยายามบำรุงด้วย skincare แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ช่วยเรื่องนี้เท่าไหร่ อยากให้พี่แป้งช่วยแนะนำเพิ่มเติม หรือถ้ามีเรื่องเล่าดีๆ แชร์ให้อ่านได้เลยนะคะ
โดย: au_elle IP: 172.96.161.170 วันที่: 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:14:11:23 น.
  
@ศิวพร ; ส่วนผสมที่คล้ายคลึงของแคลเซียมและแมกนีเซียม, D3, horsetail ในยี่ห้อ rainbow light ค่อนข้างหายาก แต่ก็มีใกล้เคียงโดยมีความจำเป็นต้องกินหลายเม็ดเพื่อให้ได้แคลเซียม 500 mg/วันเทียบเท่า rainbow light 1 เม็ดนะคะ

ยี่ห้อ solgar คุณภาพดีแต่ไม่มีวิตามิน D3 คะ

แนะนำ calcium & magnesium ยี่ห้อ Calson ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น(จะได้แคลเซียม 600 mg/วัน)

Mk-7 90 mcg ยี่ห้อ Jarrow formulas ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า หากไม่มียี่ห้อนี้แนะนำ natural factors คะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา:23:22:44 น.
  
Test
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 11 มีนาคม 2567 เวลา:1:01:30 น.
  
วิธีแก้ปัญหาที่เห็นผลชัดเจน

1.ฉีดสารไฮยาลูโรนิก(Hyaluronic acid)หรือเรียกว่า
ฟิลเลอร์(filler)
2.Thermage (เทอร์มาจ)เป็นเครื่องมือยกกระชับผิวโดยใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุ (Monopolar RF) เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ขาดความตึงกระชับ มีไขมันส่วนเกินสะสมบริเวณใบหน้า แก้ม คาง เหนียง ต้องการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด
3. Ulthera (อัลเทอร่า) คือ เทคโนโลยียกกระชับแบบ Original มีหลักการทำงานโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง และมีความเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ยิงลงไปใต้ชั้นผิวเพื่อให้ผิวเกิดการยกกระชับขึ้น
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 11 มีนาคม 2567 เวลา:2:10:05 น.
  
เกริ่นมาแบบนี้เพื่อที่จะเล่าว่า พี่แป้งดูซีรีส์เกาหลีบนจอไอแพด ซึ่งหลายครั้งเหมือนภาพหลุดโฟกัส ทำให้เห็นร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ริ้วรอยหน้าผากทั้งพระเอกและนางเอกหรือนักแสดงสมทบ
บางทีเห็นนางเอกใต้ตาบวมคล้ำ ริ้วรอยระหว่างคิ้ว บางครั้งนางเอกอายุ 30 ปลาย เห็นผิวบริเวณใต้ตาลงเป็นริ้วๆเหมือนผิวแตกลาย ตอนแรกก็ตกใจ ตอนหลังชักชิน
มิน่าล่ะ !! เวลาที่กล้องแพนไปที่นางเอก หน้านางเอกจะดูเบลอๆ ภาพไม่คมชัด

พี่แป้งเลยสงสัยว่า อ้าว!!เกาหลีเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องเทคโนโลยีความงามเป็นอันดับต้นๆของเอเชีย ทำไมนักแสดงระดับพระเอกนางเอก ถึงได้มีร่องแก้ม ร่องน้ำหมากกัน จะว่าไม่มีเวลาไปฉีดก็ใช่ที่เพราะคลีนิกความงามเยอะมากๆ

คิดไปคิดมา อ๋อ!!น่าจะเป็นเพราะสภาพอากาศที่เกาหลีหนาวเย็นยาวนานกว่าเมืองไทย ส่งผลให้ผิวเริ่มแห้งกร้านในวัยยี่สิบกลางๆ
ถึงจะฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม+ร่องน้ำหมาก แต่อย่างที่ทราบกันดีว่า ฟิลเลอร์เกาหลี(คงอยู่ 4-6 เดือน)คุณภาพด้อยกว่าฟิลเลอร์จากฝั่งยุโรป(คงอยู่ 8-12 เดือน) หากอยากเป๊ะจริงๆ ต้องฉีดฟิลเลอร์เกาหลีปีละ 2-3 ครั้ง คาดเดาว่านักแสดงน่าจะทนเจ็บไม่ไหวหรือฉีดบ่อยจนดื้อไม่ได้ผลเหมือนโบท็อกซ์ก็อาจเป็นได้

พี่แป้งเคยเห็นนักแสดงระดับพระเอก อายุ 30 กลาง หรือนักแสดงระดับนางเอกวัย 45 ปี ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วปากเป็นรอยบุ๋มก็มี ไม่ต้องพูดถึงร่องแก้มร่องน้ำหมาก เห็นชัดเชียวเวลาภาพหลุดโฟกัสคะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 11 มีนาคม 2567 เวลา:2:11:04 น.
  
@สโรชา ; เอ!! พี่แป้งเห็นหนูไม่ตอบคำถาม เลยถือโอกาสแนะนำวิตามินที่ช่วยเผาผลาญนะคะ

1.Green tea extract 500 mg ยี่ห้อ source naturals หลังอาหารเช้า
2.Energizing Fat burner ยี่ห้อ natural letter ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเที่ยง-เย็น
3.L-Carnitine 500 mg ยี่ห้อ Jarrow formulas ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนอาหารเช้า-เย็น

@กระแต ; รอรีวิวนะคะ

@au_elle ; โอ๊ย!!พี่แป้งไม่ได้เข้ามาดูคำถามในบล็อกหลายสัปดาห์เลยคะ

พี่แป้งเริ่มออกกำลังกายในฟิตเนสเมื่อกลางปีที่แล้ว ใช้เวลาครั้งละ 1 ชม. หากเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ จะใช้เวลาราว 2 ชม. โดยลองเล่นเครื่องเล่นที่มีอยู่ไปเรื่อยๆ ทำให้ได้เจอผู้คนหลากหลายวัย ตั้งแต่วัยรุ่นยันวัยทอง(รวมพี่แป้ง) จนกระทั่งเมื่อต้นปี 2567 มาคิดได้ว่า เรามีปัญหาเซลลูไลต์ ควรจะเน้นการออกกำลังกายที่ขา เลยเล่นเครื่อง Stepper machine ครั้งละ 45-55 นาที เวลาล่วงเลยมา 2 เดือนเศษ เห็นได้ชัดเจนว่า เซลลูไลต์ลดลงไปราว 25% เลยมีกำลังใจในการออกกำลังกายคะ

เอาจริงๆที่พี่แป้งออกกำลังกายหนักขนาดนี้ได้เพราะอัดวิตามินเพิ่มพลังงาน ไม่งั้นไม่มีทางทำเช่นนี้ได้ อย่าถามว่า เหงื่อออกขนาดไหน เอาเป็นว่า ต้องสระผมทุกคืน ยิ่งวันไหนใส่เสื้อที่ทำจากโพลีเอสเตอร์(หากนึกไม่ออก คิดถึงชุดนักกีฬาที่บางเบา ผู้ขายชอบใส่เตะฟุตบอลบอล)ซึ่งมีคุณสมบัติไม่ระบายความร้อนเหมือนผ้าฝ้าย แต่บางเบา แห้งไว กักเก็บกลิ่นตัวได้ดีมากๆ เวลาพี่แป้งเดินสวนกับผู้ชายที่ใส่เสื้อฟุตบอล จะกลั้นหายใจทุกครั้งเพราะเคยแบบสูดลมหายใจเอากลิ่นเข้าไปเต็มปอด โอ๊ย!! โคตรขมคอเลยคะ

เพิ่งจะนึกออกอีกเรื่องนึงคะ ราวเดือนต.ค 66 พี่แป้งไปสังสรรค์กับเพื่อนสมัยเรียนม.ต้น เผอิญเจอลูกสาวเพื่อนไปเรียนป.โทที่ออสเตรเลีย น้องอายุน่าจะ 27 ปี พี่แป้งเลยซักถามเรื่องความเป็นอยู่ นั่นโน่นนี่จิปาถะ น้องพาแฟนชาวออสซี่รุ่นราวคราวเดียวกันมาด้วยคะ

แฟนน้องถามเพื่อนๆพี่แป้งว่า แต่งงานหรือยัง ทุกคนก็ตอบไปตามปกติ แต่พี่แป้งนึกสนุก เลยตอบไปว่า โสด เท่านั้นแหละ เพื่อนๆเฮกันใหญ่

ลูกสาวเพื่อนที่เรียกสรรพนามพี่แป้งว่า ’’ป้า‘‘ พูดมาประโยคนึงว่า ‘‘ถ้าป้าแป้งไปอยู่ออสเตรเลีย คนที่นั่นจะเข้าใจว่า ป้าแป้งอายุ 29 ปีแหละ ’‘เราก็ ห๊ะ!! ทั้งๆที่เพื่อนๆอีก 4 คนก็นั่งอยู่ด้วยกัน แต่พูดแบบนี้กับพี่แป้งคนเดียวคะ เอิ๊ก!!

เรามาเข้าปัญหาร่องแก้มและรอยย่นที่มุมของหนูเลยนะคะ

Skincare ไม่ช่วยอะไรเลยเพราะทำหน้าที่บำรุงแค่เซลล์ผิวชั้นนอกคะ

วิธีแก้ปัญหาที่เห็นผลชัดเจน

1.ฉีดสารไฮยาลูโรนิก(Hyaluronic acid)หรือเรียกว่า
ฟิลเลอร์(filler)
2.Thermage (เทอร์มาจ)เป็นเครื่องมือยกกระชับผิวโดยใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุ (Monopolar RF)
3. Ulthera (อัลเทอร่า) คือ เทคโนโลยียกกระชับโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง

หรือลองกินวิตามินที่มีคุณสมบัติโอบอุ้มน้ำในเซลล์ น่าจะเห็นผล เช่น
1.hyaluronic acid 60 mg ยี่ห้อ Jarrow formulas ครั้งละ 2 เม็ดก่อนนอน
2.restorative hydration complex ยี่ห้อ vitality life ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า
3.timeless skin ยี่ห้อ earth nutrients ครั้งละ 1 เม็ด ก่อนนอน


หนูอายุไม่มาก แต่น่าจะมีผิวแห้ง เลยเกิดร่องแก้ม ดังนั้นพี่แป้งคิดว่า อาจสามารถกินวิตามินเพื่อชะลอปัญหานี้ได้คะ



โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 11 มีนาคม 2567 เวลา:2:13:23 น.
  
รีวิว Apple cider vinegar ผสมกับแชมภูใส่ผมแล้วค่อยสระ ผมร่วงน้อยลงอย่างชัดเจนค่ะคุณแป้ง โดยเฉพาะเวลาที่ลงครีมนวด ซึ่งปกติจะมีเส้นผมหลุดร่วงตามมา แต่ตอนนี้น้อยลงมากๆ

ขอบคุณสำหรับเทคนิคดีๆ ที่มาแบ่งปันกันนะคะ
โดย: กระแต IP: 101.109.253.5 วันที่: 11 มีนาคม 2567 เวลา:10:14:07 น.
  
สวัสดีคุณแป้งสาวสองพันปี ติดตามคุณแป้งได้สักพักเผอิญเห็นในกูเกิ้ล ลองสั่งชาสมุนไพร gout less มาให้สามีลองทานดู นางเป็นเกาต์มาหลายปีแล้วคะ เวลากำเริบที่ไร จะปวดมากจนแทบเดินไม่ได่ มิตาต้องพาไปคลีนิคเพื่อฉีดยาทุกครั้ง พอมาเจอบล็อกคุณแป้ง เลยลองให้สามีทาน นางบ่นขมแต่ยอมทาน ปรากฏว่า อาการปวดแบบทรมาน หายไปในซองที่สาม เหมือนสวรรค์มาโปรดครอบครัวเราเลยคะ ขอบพระคุณคุณแป้งที่กรุณาแนะนำสิ่งดีดีให้นพระ

พอดีชาสมุนไพร goutles ที่เคยสั่งได่ในช็อปปี ไม่มีขายแล้ว ไม่ทราบว่า มิตาจะหาซื้อได้ที่ไหนบ้างคะ รบกวนด้วยนะคะ
โดย: รมิตา IP: 49.237.5.230 วันที่: 24 มีนาคม 2567 เวลา:11:50:59 น.
  
@กระแต ; ยินดีคะ
แป้งดีใจมากๆที่รู้ว่าคุณกระแตก็ใช้เทคนิคนี้ได้ผลคะ คนที่ผมไม่ร่วงเยอะจะไม่มีวันเข้าใจคนผมร่วงมากๆหรอกคะ
พอแป้งใช้เทคนิคนี้ได้ผล ทำให้นึกถึงคุณกระแตคนแรกเลยคะ
ใจยังคิดอยู่เลยว่า คุณกระแตจะเข้ามาอ่านมั๊ยน๊า หากไม่เข้ามาอ่านก็ไม่เป็นไร คนอื่นที่ผ่านมาอ่านจะได้นำเทคนิคนี้ไปลองดูคะ

@รมิตา ; ขอบคุณมากนะคะสำหรับความชื่นชมแป้ง
ยินดีมากๆที่แป้งมีส่วนช่วยแนะนำสิ่งดีๆให้สามีคุณมิตาได้หายเจ็บปวดทรมานจากโรคเกาต์คะ ฝากไว้นิดนึงว่า แอลกอฮอล์และน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวมีส่วนกระตุ้นให้โรคเกาต์กำเริบรุนแรงยิ่งขึ้นคะ

Goutless ยี่ห้อ marry life สอบถามและหาซื้อได้ที่

https://hamercandysiam.lnwshop.com/

Tel.061-7429944
Id line : 0617429944
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 25 มีนาคม 2567 เวลา:21:41:11 น.
  
รบกวนสอบถามนะค่ะ ได้ยินเภสัชบางคน แนะนำว่า ไม่ควรกินแคลเซียมแล้ว ถ้่าจะป้องกันกระดูกพรุน ควรกินวิตตามิน D3 กับ K2 ไปเลยดีกว่า

จริงไหมคะ
โดย: ศิวพร IP: 172.96.161.170 วันที่: 26 มีนาคม 2567 เวลา:8:45:48 น.
  
@ศิวพร ; แป้งแอบเห็นด้วยอยู่นะคะ ตั้งแต่ทำบล็อกเรื่องแคลเซียม ก็ตั้งใจว่า คงจะไม่กินแคลเซียมเสริมถึงแม้จะเข้าสู่วัยทองคะ

โดยทั่วไปแคลเซียมคาร์บอเนตจะทำให้ท้องผูกมากที่สุด หากรับประทานแคลเซียมมากเกินไปจนเกิดการสะสม จะลดการดูดซึมธาตุเหล็กและสังกะสี เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในไต หินปูนในเต้านม มะเร็งเต้านม หินปูนในหลอดเลือด หลอดเลือดตีบตันและเกิดภาวะแคลเซียมสะสมในผนังหลอดเลือด

วิตามินดี มีบทบาทในการช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม
วิตามินเคเป็นสารอาหารหลักที่ช่วยจับแคลเซียมและสร้างเซลล์กระดูกที่โตเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการป้องกันการสะสมของแคลเซียมในหลอดเลือด 

กรณีที่ต้องการแคลเซียมเพื่อป้องกันภาวะกระดูกพรุนในผู้หญิงวัยทอง หากกินแคลเซียมจากธรรมชาติไม่เพียงพอ ถึงแม้จะกินวิตามิน D3 & K2 ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่เซลล์และช่วยสร้างกระดูก วิตามิน 2 ตัวนี้แทบไม่ช่วยอะไรเพราะไม่รู้จะดูดแคลเซียมจากแหล่งไหน ในเมื่อเราไม่ได้กินอาหารจากธรรมชาติเข้าไปอย่างเพียงพอคะ

ตามปกติเราได้รับแคลเซียมจากอาหาร เช่น นม เนย เต้าหู้ บร็อคโคลี เมล็ดธัญพืช โยเกิร์ต คะน้า งา ผักกาดขาว ปลาซาร์ดีน ฯลฯ

ในกรณีได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ อาจรับประทานอาหารเสริมแคลเซียมเพิ่ม มักได้รับในขนาด 500 มิลลิกรัม/วัน ซึ่งเป็นปริมาณไม่มากพอที่ส่งผลให้เกิดการสะสมแคลเซียมในร่างกายคะ

จริงๆแล้ว แป้งเคยเห็นหมอบางคนก็ไม่แนะนำให้ผู้หญิงวัยทองกินแคลเซียม แต่ผู้ป่วยที่กระดูกหักทุกรายไม่ว่าอายุเท่าใดก็ตาม บางคนแค่กระดูกนิ้วร้าวหรือหัก 1 นิ้ว แพทย์จะสั่งแคลเซียมเสริมวันละ 1000-1500 mg/วันให้ผู้ป่วยเป็นเวลา 3-6 เดือนเลยนะคะ

ดังนั้นการกินแคลเซียมคุณภาพสูงเสริมแค่วันละ 500 mg มีประโยชน์ต่อร่างกายในกรณีผู้หญิงวัยทองที่ต้องการป้องกันโรคกระดูกพรุนพอๆกับการกิน D3&K2 เพียงอย่างเดียว(แคลเซียมบางยี่ห้อมีส่วนผสมของ D3&K2 รวมอยู่ด้วย)แต่ถ้าสามารถกินอาหารที่มีแคลเซียมจากธรรมชาติในแต่ละวันเพียงพอ
ก็ไม่จำเป็นต้องกินทั้งแคลเซียม D3 & K2 (แป้งไม่กินทั้งแคลเซียม D3& K2 เพราะมั่นใจว่าได้รับแคลเซียมเพียงพอจากหลายทางคะ)

แหล่งอาหารธรรมชาติของแคลเซียม : นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส โยเกิร์ต ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ผักใบเขียวรวมทั้ง ผักโขม น้ำส้ม ธัญพืช หอยนางรม ถั่วเหลือง อัลมอนด์ ถั่วเขียว





โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 3 เมษายน 2567 เวลา:0:03:44 น.
  
@ศิวพร ; แป้งเพิ่งจะได้เห็นคลิปรีล(reel)ที่มีเภสัชบางคนแนะนำว่า ไม่ให้กินแคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งเป็นแคลเซียมที่มีมานานมาก ดูดซึมได้ไม่ค่อยดี เลยเห็นด้วยกับเภสัชท่านนั้น แต่แป้งแนะนำให้คุณศิวพรกินแคลเซียมซิเทรต ลองอ่านดูแล้วจะรู้ว่า แคลเซียมมีหลายรูปแบบนะคะ

แคลเซียมที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดจะมีหลายรูปแบบ ซึ่งให้ประโยชน์เหมือนกันแต่การดูดซึมแตกต่างกัน แบบที่เป็นเม็ดฟู่ ชนิดเม็ด และชนิดแคปซูล โดยอยู่ในรูปของเกลือของแคลเซียมชนิดต่างๆ เช่น แคลเซียมคาร์บอเนต (calcium carbonate) แคลเซียมซิเทรต (calcium citrate) แคลเซียมกลูโคเนต (calcium gluconate) แคลเซียมแล็กเทต (calcium lactate) และ แคลเซียมแอลทรีโอเนต (calcium L-threonate) เป็นต้น

เกลือของแคลเซียมแต่ละชนิดจะให้ปริมาณแคลเซียมแตกต่างกัน ดังนี้
1.แคลเซียมคาร์บอเนต จะให้แคลเซียมร้อยละ 40
2.แคลเซียมซิเทรต จะให้แคลเซียมร้อยละ 21
3.แคลเซียมแล็กเทต จะให้แคลเซียมร้อยละ 13
4.แคลเซียมแอลทรีโอเนต จะให้แคลเซียมร้อยละ 13
5.แคลเซียมกลูโคเนต จะให้แคลเซียมร้อยละ 9

อาหารเสริมแคลเซียมสองรูปแบบหลักคือ คาร์บอเนตและซิเตรต แคลเซียมคาร์บอเนตมีราคาถูกที่สุดและมักเป็นตัวเลือกแรกที่ดีจากคุณสมบัติที่ให้แคลเซียมมากถึง 40%
แคลเซียมรูปแบบอื่นในอาหารเสริม ได้แก่ กลูโคเนต แลคเตทและแอลทรีโอเนต แคลเซียมอะมิโน แอซิต คีเลต

อาหารเสริมแคลเซียมคาร์บอเนตละลายได้ดีในสภาพที่เป็น
กรด ดังนั้นควรรับประทานพร้อมอาหาร

แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium Carbonate) คือ ยาที่ทางเภสัชกรรม/นักวิทยาศาสตร์ได้นำมาผลิตเป็นหลายสูตรตำรับยา  เช่น  ยากลุ่มบำรุงและเสริมสร้างกระดูก ยาลดกรด ยาช่วยย่อย ยาแก้ท้องอืด ยาแก้ท้องเสีย แต่ที่พบมากที่สุดในตลาดยาบ้านเรา จะเป็นรูปแบบของยาบำรุงและเสริมสร้างกระดูก 

สมัยแป้งเรียนพยาบาลตอนไปฝึกงานแผนกฝากครรภ์ตามโรงพยาบาลประจำจังหวัด เวลาที่มีคุณแม่มาฝากครรภ์ แพทย์จะสั่งแคลเซียมเสริมให้สตรีตั้งครรภ์ทุกครั้ง หากเป็นโรงพยาบาลรัฐ จะเป็น CHALKCAP-1000 คือ แคลเซียมคาร์บอเนต 1,000 มิลลิกรัม (ให้แคลเซียมร้อยละ 40 เทียบเท่าแคลเซียม 400 มิลลิกรัม )ซึ่งมีผลข้างเคียงคือ ท้องผูก ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน ฯลฯ

ปกติคุณแม่ส่วนใหญ่จะไม่ทราบถึงผลข้างเคียงของแคลเซียมคาร์บอเนตว่า ทำให้ท้องผูก ดังนั้นสตรีมีครรภ์ส่วนใหญ่จึงได้ของแถมเป็นริดสีดวงทวารคะ

แป้งจำได้ว่า คุณศิวพรเคยถามยี่ห้อแคลเซียมไป ซึ่งแป้งได้เลือกยี่ห้อที่มีส่วนผสมของแคลเซียมซิเทรต+D3+magnesium รวมในเม็ดเดียว ซึ่งดูดซึมได้ดีกว่าและราคาสูงกว่าแคลเซียมคาร์บอเนต
โดยไม่มีผลข้างเคียงทำให้ท้องอืด โดสที่แนะนำไปค่อนข้างน้อยเพราะแคลเซียมซิเทรต 1000 mg ให้แคลเซียมร้อยละ 21 เทียบเท่าแคลเซียม 210 mg หากกินวันละ 500 mg จะได้แคลเซียมเพียง 105 mgต่อวัน คือน้อยมากๆ ร่างกายนำไปใช้หมดอยู่แล้วคะ

แคลเซียมมีข้อบ่งชี้ว่า ควรแบ่งกินครั้งละน้อย เช่น ครั้งละ 500 mg
เพราะการดูดซึมไม่ค่อยดี ถึงต้องมี D3& แมกนีเซียมผสมอยู่ด้วยเพื่อช่วยการดูดซึม ซึ่ง CHALKCAP เป็นแคลเซียมคาร์บอเนตเพียงอย่างเดียว ไม่มี D3& แมกนีเซียมคะ

ผลข้างเคียงที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

1.นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า เพศชายที่รับประทานแคลเซียม ปริมาณ 1,000 มิลลิกรัมทุกวัน จะมีโอกาสเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 20% จากสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียม

มีความเป็นไปได้ว่า แคลเซียมสร้างขึ้นในหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำ อาจมีผลต่อความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดในบางคน

แคลเซียมหรือหินปูน อาจเกาะอยู่ผนังหลอดเลือด ลิ้นหัวใจ หรือเยื่อหุ้มหัวใจ ที่ควรระวังคือ หินปูนอาจเกาะผนังหลอดเลือดที่นำเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งเกิดจากการเสื่อมสภาพของหลอดเลือดแดง และจะเกิดขึ้นก่อนเกิดอาการของโรคหัวใจนานหลายปี

จากการศึกษาพบว่า ภาวะแคลเซียมเกาะที่หลอดเลือดนี้ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากหลอดเลือดอุดตันเฉียบพลัน

มีรายงานการศึกษาที่พบว่า การรับประทานแคลเซียมในรูปผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมองด้วย แต่การเกิดโรคหลอดเลือดสมองมีอัตราช้ากว่าและไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ซึ่งเกิดโอกาสเสี่ยงได้ ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง

ผู้สูงอายุมีโอกาสเป็นโรคหัวใจอยู่แล้ว การเสริมแคลเซียมมากก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงให้แก่ผู้สูงอายุ

แมกนีเซียมเป็นกุญแจสำคัญในการดูดซึมของร่างกายที่เหมาะสม หากเรากินแคลเซียมมากเกินไป โดยไม่มีแมกนีเซียม วิตามินดีและวิตามิน K2เพียงพอ แคลเซียมส่วนเกินจะไม่ได้ใช้ประโยชน์ และอาจจะก่อให้เกิดการกลายเป็นหินปูนของหลอดเลือดแดง ที่นำไปสู่โรคหัวใจวายและโรคหลอดเลือดหัวใจ ข้อนี้ควรตระหนักอย่างยิ่งค่ะ

คุณหมอหลายท่านก็แนะนำให้ผู้หญิงวัยทองให้กินแคลเซียม แต่จะเน้นว่า ไม่ให้กินแคลเซียมเสริมต่อวันมากเกินไปกลัวไปเกาะตามหลอดเลือด ควรพยายามกินแคลเซียมจากธรรมชาติร่วมด้วย

หมอชะลอวัยก็แนะนำให้เพื่อนแป้งกินแคลเซียม น่าจะเป็นแคลเซียมคาร์บอเนตเพราะเพื่อนบ่นว่า ท้องผูก แน่นอึดอัดท้อง

อย่างแป้งทำเค้กกินเอง จะใช้เนยฝรั่งเศส(ความชอบส่วนตัว)ไม่ใช้น้ำมันพืชเพราะอยากได้แคลเซียมจากเนย หรือทำขนมปังใส่ครีมชีส จะได้แคลเซียมจากชีสหรือทำนมอัลมอนด์+งาดำดื่มทุกเช้าอะไรประมาณนี้คะ

คำแนะนำจากแป้งคือ หากไม่สามารถกินแคลเซียมจากอาหารธรรมชาติได้เพียงพอ การเสริมแคลเซียมซิเทรตปริมาณต่อวันไม่มาก ยังไงร่างกายดูดซึมไปใช้หมด ไม่ต้องกังวลไปนะคะ
ยี่ห้อของอาหารเสริมเป็นตัวบ่งบอกคุณภาพ เราเลือกได้คะ
โดย: แป้งปังปอนด์ วันที่: 6 เมษายน 2567 เวลา:16:40:33 น.
  
ขอบคุณมากๆค่ะ
โดย: ศิวพร IP: 141.193.68.200 วันที่: 23 เมษายน 2567 เวลา:9:43:02 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แป้งปังปอนด์
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 878 คน [?]



เริ่มเขียนblog 20ก.ค55
ปัจจุบัน ( 3 มี.ค 57 ) แป้งได้มีเพจแป้งปังปอนด์ สร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์แชร์ข้อมูลจาก blog ให้ท่านที่สนใจได้ติดตามอ่านอย่างสะดวกและรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาโหลดเนื้อหาจาก blog ดังนั้นขออนุญาตงดตอบคำถามใดๆทางเพจและ facebook ค่ะ






หากท่านใดมีคำถามเกี่ยวกับการกินวิตามินเพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพและบำรุงผิวพรรณ รบกวนส่งคำถามไปยัง blog แป้งปังปอนด์ นานาสารพันปัญหา volume 5 อย่างเดียวเท่านั้นค่ะ


ขออนุญาตฝากกด like เพจแป้งปังปอนด์ เพื่อเป็นกำลังใจในการสรรค์สร้างผลงานด้วยมันสมองและสองมือพยาบาลสาวภูไท คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จบการศึกษา ปี พ.ศ 2539 จากที่ราบสูงคนนี้ด้วยนะคะ


สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการนำชื่อ " แป้งปังปอนด์ " ไปใช้เพื่ออ้างอิงหรือติดป้ายสินค้าในเวปไซด์หรือที่ใดๆหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน " Blog แป้งปังปอนด์ " แห่งนี้ไปใช้ ทั้งโดยการเผยแพร่เพื่อการอ้างอิงหรือนำรูปภาพไปโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด




New Comments
MY VIP Friend