+ + = = = + + อาภัพ 18 อย่าง (ประการ) + + = = = + +
สวัสดีค่ะ
หลังจากที่ได้เปิดประเดิมบล็อกธรรมะไปกับ การบวชเนกขัมนารี (คลิกเพื่ออ่าน)ไปแล้ว
บอกเล่าเรื่องบุญกิริยาวัตถุ 10 พร้อมทั้งคลิปของท่านว.วชิรเมธี (คลิกเพื่ออ่าน)ไปแล้ว
อกุศลกรรมบถ 10 คิดผิด พูดผิด ทำผิดนิดเดียว ก็ผิดแล้ว(คลิกเพื่ออ่าน)
ตามด้วยการพูดถึงกรรมที่ให้ผลตามความหนัก-เบาไปแล้ว(คลิกเพื่ออ่าน)
กรรมที่ให้ผลตามลำดับเวลา (คลิกเพื่ออ่าน)
กรรมที่ให้ผลตามหน้าที่ (คลิกเพื่ออ่าน)
กรรมที่เห็นผลทันตา (คลิกเพื่ออ่าน)
ได้อัพเรื่องการถวายสิ่งของแด่พระภิกษุสงฆ์ที่ญาติโยมควรปฏิบัติไปแล้วคือ
1. กาลิก 4 อย่าง (คลิกเพื่ออ่าน)
2. การถวายของจำนวนมากๆ การประเคนของและการถวายอาหารแด่ภิกษุอาพาธ (คลิกเพื่ออ่าน)
3. การถวายผักผลไม้ และการกัปปิยะ (คลิกเพื่ออ่าน)
4. ปะระมัตถะทาน การทำบุญในพระวินัย การทำบุญในพระสูตร (คลิกเพื่ออ่าน)
5.ห้ามเอ่ยปากว่าจะทำอาหารอะไร และเนื้อสัตว์ที่ห้ามฉัน 10 อย่าง (คลิกเพื่ออ่าน)
6. อินทรีย์ 5 (คลิกเพื่ออ่าน)
วันนี้จะมาบอกเล่าถึงสิ่งที่เราเกิดข้อสงสัยตอนที่ได้สวดมนตร์แปลเป็นครั้งแรก (แต่เพิ่งคิดจะหาคำตอบเอาเมื่อไม่นานมานี้ แหะๆ ) นั่นก็คือ ในคำอธิษฐานหลังทำวัตรเย็น จะมีอยู่ท่อนหนึ่งที่บอกว่า หากยังเป็นผู้อาภัพอยู่ ยังต้องท่องเที่ยวไปในวัฏสงสาร ขอให้ข้าพเจ้าเป็นเหมือนโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ ได้รับพยากรณ์แต่พระพุทธเจ้าแล้ว ไม่ถึงฐานะแห่งความอาภัพ 18 อย่าง
ก็เลยเกิดข้อสงสัยขึ้นมาว่า ไอ้อาภัพ 18 อย่างนี่มีอะไรบ้างหว่า
แล้วก็ได้คำตอบจากลิงก์นี้นะคะ //www.dmc.tv/forum/lofiversion/index.php/t4568.html
รายละเอียดเชิญอ่านได้เลยค่า
"ขอให้ข้าพเจ้าเป็นเหมือนพระโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ ได้รับพยากรณ์แต่พระพุทธเจ้าแล้ว ไม่ถึงความอาภัพ 18 ประการ"
ในหนังสือ " วิมุตติรัตนมาลี " ซึ่งพระพรหมโมลี (วิลาศ ญาณวโร ป.ธ.๙) ท่านได้รจนาไว้ และได้รับรางวัลชนะเลิศวรรณกรรมไทย ประเภทร้อยแก้ว สาขาศาสนา เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๑๖ พรรณาไว้ดังนี้
" จริงอยู่ นับตั้งแต่ได้ก่อสร้างพระกฤษฎาภินิหารมา (บุญอันยิ่งที่ทำไว้)
จนกระทั่งได้รับสัทธยาเทศคำพยากรณ์ จากสำนักแห่งองค์สมเด็จพระชินวรสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าเป็น นิยตโพธิสัตว์
คือ พระโพธิสัตว์ผู้เที่ยงแท้ ที่จักได้สำเร็จแก่พระปรมาภิเษกสัมโพธิญาณในอนาคตกาลแล้ว ในขณะที่ก่อสร้างอบรมบ่มพระพุทธบารมีอยู่อย่างมโหฬาร ต้องสังสรณาการท่องเที่ยวเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในสายธารแห่งห้วงมหรรณพภพ สงสาร นับด้วยแสนโกฏิชาติเป็นประมาณหรือมากยิ่งกว่านั้น
พระบรมโพธิสัตว์ผู้เที่ยงที่จะได้บรรลุพระโพธิญาณทั้งหลาย ย่อมได้รับอานิสงส์แห่งพระพุทธบารมีที่ตนบำเพ็ญเป็นหลักเกณฑ์แน่นอน ๑๘ ประการ
๑. ไม่เป็นคนมีจักษุบอดมาแต่กำเนิด
๒. ไม่เป็นคนหูหนวกมาแต่กำเนิด
๓. ไม่เป็นคนบ้า
๔. ไม่เป็นคนง่อยเปลี้ย
๕. ไม่เป็นคนใบ้
๖. ไม่เกิดในประเทศป่าเถื่อน
๗. ไม่เกิดในท้องแห่งนางทาสี
๘. ไม่เป็นคนมีความเห็นผิดเป็นนิยตมิจฉาทิฐิ
๙. ไม่เป็นสตรีเพศ
๑๐. ไม่ประกอบกรรมอันเป็นอนันตริยกรรม
๑๑. ไม่เป็นคนมีโรคเรื้อน
๑๒. เมื่อไปเกิดในกำเนิดแห่งสัตว์เดียรฉาน ย่อมเป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในประเภทมีกายไม่เล็กกว่านกกระจาบ และมีกายไม่ใหญ่กว่าช้าง
๑๓. ไม่ไปเกิดในกำเนิดแห่งขุปปิปาสิกเปรต นิชฌามตัณหิกเปรต แลกาลกัญชิกาสุรกาย
๑๔. ไม่ไปเกิดในอเวจีมหานรก และโลกันตนรก
๑๕. เมื่อไปเกิดเป็นเทวดาในกามาวจรสวรรค์ คือสวรรคเทวโลก ๖ ชั้น ก็ไม่เกิดเป็นเทวดาซึ่งนับเนื่องเข้าในเทวดาจำพวกหมู่มาร
๑๖. เมื่อเกิดเป็นองค์พระพรหม ณ เบื้องบรมรูปาพจรพรหมโลก ก็ไม่ไปเกิดในปัญจสุทธาวาสพรหมโลก ทั้งนี้ก็เพราะว่าพรหมโลกชั้นปัญจสุทธาวาสนี้ เป็นภูมิที่อยู่แห่งพรหมอนาคามีอริยบุคคลโดยเฉพาะ
๑๗. ไม่ไปเกิดใน อรูปพรหมโลก เลยเป็นอันขาด
๑๘. ไม่ไปเกิดในจักรวาลอื่นเลยเป็นอันขาด
ซึ่งหลายๆ ข้อพออ่านๆ ไป เราก็อาจจะเกิดข้อสงสัยขึ้นมาใช่ไหมคะว่า "ทำไมถึงเรียกว่า "อาภัพ" หละ?" ซึ่งก็มีผู้ตอบไว้ดังนี้ค่ะ
๑. ไม่เป็นคนมีจักษุบอดมาแต่กำเนิด ยากต่อการได้เห็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและอริยสงผู้เป็นเนื้อนาบุญ
๒. ไม่เป็นคนหูหนวกมาแต่กำเนิด ยากต่อการฟังธรรม
๓. ไม่เป็นคนบ้า ยากต่อการเข้าใจธรรม
๔. ไม่เป็นคนง่อยเปลี้ย ยากในการสร้างบารมี
๕. ไม่เป็นคนใบ้ ยากต่อการแสดงธรรมให้ผู้อื่นบรรลุธรรม อยากต่อการถามข้อสงสัยในการปฏิบัติธรรม
๖. ไม่เกิดในประเทศป่าเถื่อน ยากต่อการพบผู้มีศีลธรรม
๗. ไม่เกิดในท้องแห่งนางทาสี ต้องเป็นทาสให้ผู้อื่นใช้งาน ไม่มีเวลาศึกษาธรรม
๘. ไม่เป็นคนมีความเห็นผิดเป็นนิยตมิจฉาทิฐิ บรรลุไม่ได้
๙. ไม่เป็นสตรีเพศ บางสิ่งบางอย่างที่บุรุษทำได้หรือมีสิทธิ์ แต่สตรีเพศทำไม่ได้หรือไม่มีสิทธิ์
๑๐. ไม่ประกอบกรรมอันเป็นอนันตริยกรรม นานเกิน จนเสียเวลาการสร้างบารมี
๑๑. ไม่เป็นคนมีโรคเรื้อน ไม่เอื้อต่อการสร้างบารมี
๑๒. เมื่อไปเกิดในกำเนิดแห่งสัตว์เดียรฉาน ย่อมเป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในประเภทมีกายไม่เล็กกว่านกกระจาบ และมีกายไม่ใหญ่กว่าช้าง กายเล็กกว่านกกระจาบเป็นพวกกรรมเยอะ อีกนานถึงจะเกิดเป็นมนุษย์และบรรลุธรรมได้
๑๓. ไม่ไปเกิดในกำเนิดแห่งขุปปิปาสิกเปรต นิชฌามตัณหิกเปรต แลกาลกัญชิกาสุรกาย นี้ก็นานไป ไม่มีเวลาสร้างบารมี
๑๔. ไม่ไปเกิดในอเวจีมหานรก และโลกันตนรก นี้ก็เช่นกัน
๑๕. เมื่อไปเกิดเป็นเทวดาในกามาวจรสวรรค์ คือสวรรคเทวโลก ๖ ชั้น ก็ไม่เกิดเป็นเทวดาซึ่งนับเนื่องเข้าในเทวดาจำพวกหมู่มาร มารเป็นพวกมิจฉาทิฐิ ไม่ดี อยากต่อการยอมรับและเข้าใจธรรมะของพระศาสดา
๑๖. เมื่อเกิดเป็นองค์พระพรหม ณ เบื้องบรมรูปาพจรพรหมโลก ก็ไม่ไปเกิดในปัญจสุทธาวาสพรหมโลก ทั้งนี้ก็เพราะว่าพรหมโลกชั้นปัญจสุทธาวาสนี้ เป็นภูมิที่อยู่แห่งพรหมอนาคามีอริยบุคคลโดยเฉพาะลงมาเกิดไม่ได้ บรรลุชั้นนั้นเลย พระโพธิสัตว์ทุกองค์ไม่เกิด
๑๗. ไม่ไปเกิดใน อรูปพรหมโลก เลยเป็นอันขาด นานไป สร้างบารมีไม่ทัน
๑๘. ไม่ไปเกิดในจักรวาลอื่นเลยเป็นอันขาด อธิษฐานที่จะตรัสรู้จักรวาลนี้ ก็เรยสร้างบารมีที่นี้ ไปสร้างที่อื่นก็คนละสายกัน
สำหรับตัวเองนะคะ ตอนที่รู้ว่าการเกิดเป็นผู้หญิงเป็นความอาภัพ 1 ใน 18 ประการนี่ ยอมรับว่าค่อนข้างแอนตี้เลยหละค่ะ (แต่ที่จริงก็มีหลายจิตนะคะ ที่ขออธิษฐานเกิดเป็นหญิงด้วยเหตุผลต่างๆ กัน เพราะฉะนั้นไม่ใช่เพราะเป็นความอาภัพแต่อย่างเดียวหรอกค่ะ) แต่พอ ณ ปัจจุบันนี้ หลังจากที่ศึกษาและปฏิบัติธรรมก็ค้นพบว่า เออ..ความเป็นหญิงมันก็เป็นความอาภัพหลายๆ อย่างจริงๆ ค่ะ
อย่างเช่น การที่เราจะอุปัฏฐากพระสงฆ์ที่เราเคารพนับถือ เราก็ทำไม่ได้เต็มที่เท่าผู้ชาย หรืออย่างในเถรวาท ณ ปัจจุบันเองก็ไม่ให้ผู้หญิงบวชเป็นภิกษุณีแล้ว เป็นต้นค่ะ
ก็หวังว่า...บทความนี้คงพอเป็นประโยชน์สำหรับหลายๆ ท่านบ้างนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ
1,159,285+91838=1,2511,123/7075/659
Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2555 |
|
30 comments |
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2555 13:05:20 น. |
Counter : 7261 Pageviews. |
|
|
|
คนล่วงทุกข์ได้ด้วยความเพียร
ฝึกฝนตนเองให้มีความเพียร ตลอดไป...นะคะ