* = * * = * * = * บวชเนกขัมนารี ดีอย่างไร? * = * * = * * = *






สวัสดีค่ะ





เนื่องด้วยเราเองเพิ่งจะได้ไปบวชเนกขัมนารีมาในช่วงเทศกาลวิสาขบูชาที่ผ่านมาแล้วก็คุณก๋าฯ (กะว่าก๋า) กับนัท-คุง แนะนำว่า ควรเขียนเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการบวชให้อ่านกันบ้างเผื่อมีคนที่สนใจจะบวชบ้าง จะได้รู้ว่าต้องทำอะไร ยังไงนะคะ


ก็ถือเป็นเอนทรี่ประเดิมสำหรับกลุ่มบล็อกใหม่คือ พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณัง คัจฉามิไปด้วยเลยแล้วกันค่ะ




ก่อนอื่นบอกพื้นเพก่อนนะคะว่า ที่จริงประสบการณ์การบวชเนกขัมนารี (หรือที่คนทั่วไปชอบเรียกว่าชีพราหมณ์) ก็ไม่ได้เยอะนักหรอกค่ะ ในชีวิตเคยบวชครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 (ไม่รวมที่ไปถืออุโบสถศีลมา 1 ครั้ง) ซึ่งทั้งสี่ครั้งก็เป็นวัดที่บ้านเกิดตัวเอง (จ.เพชรบุรี) ทั้งสิ้นนะคะ







ครั้งแรกของการบวชก็เมื่อราวๆ 9-10 ปีที่แล้วที่วัดถ้ำชีค่ะ เป็นวัดแรกเลยทีเดียวกับประสบการณ์การบวชเนกขัมฯ ซึ่งที่นี่แหละค่ะที่เป็นที่บอกให้เรารู้ว่า ที่ถูกต้องไม่ควรเรียกว่าชีพราหมณ์ เพราะนี่คือศาสนาพุทธ (โดนดุซ้า แหะๆ )


สำหรับที่วัดนี้นะคะ มีเสื้อผ้าให้ยืมค่ะ แล้วก็ค่อนข้างเข้มงวด (ซึ่งเราชอบมว้ากกกกกก ) เดี๋ยวจะอธิบายรายละเอียดอีกทีนะคะ แต่ขอบอกก่อนว่า จากการบวชมาสี่วัดนะคะ ขอเตือนคนที่ทุกข์ใจแล้วคิดจะไปบวชก่อนว่า (คือไม่รู้ว่าคนไม่ทุกข์ใจไปบวชแล้วจะรู้สึกอย่างเดียวกันหรือเปล่านะคะ แต่เท่าที่ถามน้องวัยรุ่นที่เขามาบวชโดยไม่มีเรื่องทุกข์ว่า เขาก็จะเป็นแค่วันแรก พอวันที่สองก็จะดีขึ้นน่ะค่ะ) ช่วง 3 วันแรก จะมีอาการที่ (ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่ามันเหมือนกันมั้ยแต่คิดว่าน่าจะคล้ายๆ กัน) เรียกกันว่า ร้อนผ้าเหลืองค่ะ อย่างเรานี่ทุกข์ทรมานมาก เหมือนมีแต่ความคิดว่า กลับเหอะ อย่าบวชต่อเลย นี่ไม่ใช่ทางของเรา มันไม่ใช่คำตอบ บลา บลา บลา




อย่างล่าสุดที่เราไปบวชมา มีพี่คนหนึ่งเค้ามีปัญหาหนักมากเหมือนกัน แล้วเค้าก็มาบวชครั้งแรก เค้าจะสึกตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ แต่ทั้งเราและคนอื่นๆ พูดบอกเค้าเหมือนกันว่า ให้อยู่ครบ+พ้นสามวันไปก่อน (มีพี่อีกคนบอกประมาณว่า เหมือนเจ้ากรรมนายเวรเค้ามารังควาน หรือก่อกวนเราไม่ให้เราทำบุญได้สำเร็จน่ะค่ะ ซึ่งถ้าเรายอมแพ้ไป ก็จะเป็นไปตามเจตน์จำนงเค้าน่ะนะคะ)


พอครบสามวัน หน้าตาแกดีขึ้นนะคะ แล้วแกก็บอกว่าจะอยู่ต่อ (ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ 5 หรือ 7 หรือเต็มคอร์ส 9 วันค่ะ) เราก็ให้กำลังใจแกไปหละค่ะ ก็หวังว่าการบวชเนกขัมฯ ครั้งนี้ ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรในทางโลกได้แค่ไหน แต่หวังว่าคงดีขึ้นสำหรับใจของแกน่ะนะคะ








เอาหละค่ะ หลังจากเตือนสำหรับผู้บวชใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว ต่อไปมาเล่าการบวชเนกขัมนารีแบบคร่าวๆ กันบ้าง เป็นการปูพื้นก่อนจะเล่าประสบการณ์ตัวเองให้ฟังบ้างนะคะ




สำหรับการบวชเนกขัมนารีนั้น ก็คือ การไปอยู่วัด ถือศีล 8 ทำวัตรเช้า-เย็น และนุ่งขาว ห่มขาว นั่นเองค่ะ ซึ่งศีล 8 นั้นก็ได้แก่

1. ไม่ฆ่าสัตว์
2. ไม่ลักทรัพย์
3. ประพฤติพรหมจรรย์
4. ไม่พูดเท็จ
5. ไม่กิน-ดื่มของมึนเมา
6. ไม่กินในยามวิกาล (หลังเที่ยง)
7. ไม่ฟัง ดู ร้อง เพลง การบันเทิงอื่นๆ ไม่ใส่เครื่องประดับตกแต่ง ไม่ผัดทาเครื่องหอม
8. ไม่นอนบนที่นอนอันสูงใหญ่










จาก //watprayoon.org/index.php?topgroupid=1&subgroupid=599&groupid=91




นอกจากนั้น หลายๆ ที่ก็จะให้ผู้ที่เป็นเนกขัมฯ (หรือบางที่ก็เรียกศีลจาริณีนะคะ) ได้ปฏิบัติภาวนาหรือกรรมฐานด้วยนะคะ ซึ่งเราเห็นว่า จะบวชทั้งที ควรเลือกที่ที่มีการให้ปฏิบัตินะคะ (คือบางที่ จะไม่มีการกำหนดให้ทำค่ะ แต่ให้ปฏิบัติเอง ซึ่งถ้าใครพอรู้มาบ้างก็อาจจะทำเอง แต่บางที่ก็ไม่เข้มงวด ทำให้คนที่ไปบวชนั่งคุยกันเอง ซึ่งก็ไม่ดีอีกแหละค่ะ เพราะทำให้จิตฟุ้งซ่าน ใช้เวลาในการบวชเสียไปเปล่าๆ นะคะ) เพราะไหนๆ ก็ได้ใช้เวลาอยู่ที่นั่นแล้ว แล้วการปฏิบัติแต่ละที่ก็จะไม่เหมือนกันด้วยค่ะ เลือกให้ถูกกับความชอบและจริตกับตัวเองแล้วกันนะคะ


เพราะเท่าที่ทราบมา ในระดับของการทำบุญนะคะ จะไล่ระดับจากน้อยไปมากดังนี้คือ ทาน - ศีล - ภาวนาค่ะ เพราะฉะนั้นหากบวชเนกขัมฯ แล้วเราได้ทำทั้งสามอย่างก็เรียกว่าทำครบได้บุญทั้งในสามระดับเลยนะคะ อย่างศีล 8 นี่ก็ต้องรักษาอยู่แล้ว (กำลังบุญดีกว่าแค่ศีล 5 ซึ่งเป็นศีลที่ "มนุษย์" ทุกคนต้องมีน่ะนะคะ) แล้วถ้าภาวนาด้วยก็ได้บุญอีก (ซึ่งมากกว่าทานกับศีลอีกค่ะ ก็เลยอยากให้เลือกที่ที่มีให้ปฏิบัติกรรมฐานกัน) ส่วนเรื่องทานนี่ แล้วแต่เลยค่ะ มีทั้งอภัยทาน (ที่นับว่าเป็นทานระดับสูงๆ แต่จำไม่ได้ว่ากับธรรมทานแ้ล้วอันไหนได้บุญมากกว่าค่ะ เพราะเซิร์ชหาข้อมูลแล้ว มีข้อมูลบางอันบอกอภัยทานมีอานิสงส์กว่า บางอันก็บอกว่าธรรมทานค่ะ ก็เลยไม่คอนเฟิร์มแล้วกัน) สังฆทาน ให้ทานแก่ผู้รักษาศีลด้วยกัน (อาจจะซื้อน้ำปานะมาให้เป็นส่วนกลางก็ได้นะคะ) ฯลฯ





รูปจาก //www.watisan.com/showdetail.asp?boardid=1649&pg=2



ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วขอยกเอาเรื่องของการให้ทานมาแปะไว้ด้วยเลยแล้วกันนะคะ (เซิร์ชหามาค่ะ แต่ดันลืมก็อปปี้ลิงก์มาแปะไว้ซะงั้น)






การให้ทานที่ถือว่าเป็นความดี และได้บุญมากนั้นจะประกอบด้วยปัจจัย ๓ ประการอันได้แก่

๑.วัตถุบริสุทธิ์ คือเป็นของที่ได้มาโดยสุจริต ไม่ได้ไปยักยอกมา โกงมา หรือได้มาด้วยวิธีแยบยล

๒.เจตนาบริสุทธิ์ คือมีจิตยินดี ผ่องใสเบิกบาน ไม่รู้สึกเสียดายสิ่งที่ให้ ตั้งแต่ก่อนให้ ขณะให้ และหลังให้

๓.บุคคลบริสุทธิ์ คือให้กับผู้รับที่มีศีลธรรม ตัวผู้ให้เองก็ต้องมีศีลที่บริสุทธิ์





การให้ทานที่ถือว่าไม่ดี และยังอาจเป็นบาปกรรมถึงเราทางอ้อมอีกด้วยได้แก่

๑.ให้สุรา ยาเสพย์ติด เป็นต้น (ถ้าเขาเมาแล้วขับรถชนตาย เราก็มีส่วนบาปด้วย)

๒.ให้อาวุธ (ถ้าอาวุธนั้นถูกเอาไปใช้ประหัตประหาร บาปก็มาถึงเราด้วย)

๓.ให้มหรสพ คือการบันเทิงทุกรูปแบบ

๔.ให้สัตว์เพศตรงข้ามเพื่อผสมพันธุ์ อันนี้รวมถึงการจัดหาสาวๆ ไปบำเรอผู้มีอำนาจหรือผู้น้อยด้วยเป็นต้น

๕.ให้ภาพลามก หรือสิ่งพิมพ์ลามก เพราะทำให้เกิดความกำหนัด เกิดกามกำเริบ (เมื่อดูแล้วเกิดไปฉุดคร่า ข่มขืนใคร บาปก็ตกทอดมาถึงเราด้วย)










นอกจากนั้นสำหรับที่กล่าวมาในส่วนของบุคคลบริสุทธิ์ที่ได้รับทานจากเรา ก็มีอานิสงส์ต่างออกไปดังนี้ด้วยค่ะ


1. ให้ทานแก่ สัตว์เดรัจฉาน

2. ให้ทานแก่ ปุถุชนผู้ทุศีล อานิสงส์สูงกว่าให้แก่สัตว์เดรัจฉาน

3. ให้ทานแก่ ปุถุชนผู้มีศีล อานิสงส์สูงกว่าให้แก่ปุถุชนผู้ทุศีล (เพราะงั้นถ้าไปให้ทาน ทำอาหารเลี้ยงคนบวชเนกขัมที่ถือศีลแปดนี่ก็ดีกว่าทำทานแก่บุคคลทั่วๆ ไปอะค่ะ)

4. ให้ทานแก่ บุคคลนอกพุทธศาสนาที่ปราศจากความกำหนัดในกาม อานิสงส์สูงกว่าปุถุชนผู้มีศีล

5. ให้ทานแก่ ผู้ปฏิบัติเพื่อบรรลุเป็นพระโสดาบัน อานิสงส์สูงกว่าให้แก่บุคคลนอกพุทธศาสนาที่ปราศจากความกำหนัดในกาม

6. ให้ทานแก่ พระโสดาบัน มีอานิสงส์มากกว่าให้ทานแก่ ผู้ปฏิบัติเพื่อบรรลุเป็นพระโสดาบัน

7. ให้ทานแก่ ผู้ปฏิบัติเพื่อบรรลุเป็นพระสกิทาคามี มีอานิสงส์มากกว่าให้ทานแก่พระโสดาบัน

8. ให้ทานแก่ พระสกิทาคามี มีอานิสงส์มากกว่าให้ทานแก่ผู้ปฏิบัติเพื่อบรรลุเป็นพระสกิทาคามี

9. ให้ทานแก่ ผู้ปฏิบัติเพื่อบรรลุเป็นพระอนาคามี มีอานิสงส์มากกว่าให้ทานแก่ พระสกิทาคามี

10. ให้ทานแก่ พระอนาคามี มีอานิสงส์มากกว่าให้ทานแก่ ผู้ปฏิบัติเพื่อบรรลุเป็นพระอนาคามี

11.ให้ทานแก่ ผู้ปฏิบัติเพื่อบรรลุเป็นพระอรหันต์ มีอานิสงส์มากกว่าให้ทานแก่ พระอนาคามี

12.ให้ทานแก่ พระอรหันต์ มีอานิสงส์มากกว่าให้ทานแก่ ผู้ปฏิบัติเพื่อบรรลุเป็นพระอรหันต์

13. ถวายทานแก่ พระปัจเจกพุทธเจ้า มีอานิสงส์มากกว่าให้ทานแก่ พระอรหันต์

14. ถวายทานแก่ พระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า มีอานิสงส์มากกว่าถวายทานแก่ พระปัจเจกพุทธเจ้า


ซึ่งผู้รับทานจากเรานั้นก็เปรียบเสมือนเนื้อนาบุญน่ะค่ะว่าจะดีไม่ดีแค่ไหน เปรียบเสมือนการที่เราจะหว่านเมล็ดข้าว (ทาน) ลงบนพื้นปูนกับพื้นนาอันอุดมสมบูรณ์ โอกาสที่ข้าวจะงอกเงยสมบูรณ์ก็ย่อมเกิดกับพื้นนามากยิ่งกว่าพื้นปูนน่ะนะคะ เพราะฉะนั้นถ้ามีโอกาสได้ทำทานแก่บุคคลที่เราคิดว่าเป็นเนื้อนาบุญอันดี ก็ให้ทำซะนะคะ





สำหรับในส่วนของสังฆทานนั้นที่จริงมีเงื่อนไขที่จะทำให้ได้บุญมากหรือน้อยด้วยนะคะ แต่เอาไว้จะกล่าวในเอนทรี่อื่นแล้วกันค่ะ (เดี๋ยวจะไม่ใช่บล็อกเรื่องบวชเนกขัมฯ แหะๆ )













กลับมาที่ประสบการณ์การบวชเนกขัมฯ ของเรานะคะ สำหรับในส่วนของวัดถ้ำชีเอง ก็มีเงื่อนไขสำหรับผู้บวชดังนี้นะคะ (อันนี้เป็นข้อมูลตั้งแต่ 9-10 ปีที่แล้วนะคะ ไม่แน่ใจว่ามีอะไรแก้ไขหรือเพิ่มเติมหรือไม่ค่ะ)

1. ปิดโทรศัพท์มือถือโดยเด็ดขาด ห้ามติดต่อสื่อสารค่ะ (เพราะอยากให้ผู้มาปฏิบัิติได้ตั้งใจปฏิบัติจริงๆ โดยไม่เอาจิตไปวุ่นวายกับเรื่องอื่นๆ ทางโลกน่ะค่ะ)

2. ที่นี่ฉันมังสวิรัติทั้งวัดค่ะ เพราะฉะนั้นผู้บวชก็ต้องกินมังสวิรัติด้วยเช่นกันค่ะ

3. ที่นี่ฉันมื้อเดียวค่ะ คือไม่มีอาหารเช้า จะกินประมาณ 10.00 น. (ถ้าจำไม่ผิดนะคะ) ตอนเช้ายังกินได้แต่น้ำปานะค่ะ เพราะฉะนั้น...ผู้บวชก็เช่นเดียวกันนะคะ

4. ต้องตั้งใจปฏิบัติ ช่วงที่ให้ปฏิบัติเองก็ต้องปฏิบัติ ไม่ควรหลบไปนอนค่ะ

5. การปฏิบัติของที่นี่ ไม่ให้ท่องบริกรรมค่ะ ไม่ว่าจะพุทโธ สัมมาอรหัง ยุบหนอพองหนอ แต่เป็นการตามดูให้รู้เฉยๆ เป็นแบบอาณาปานสติค่ะ (แต่เราไปบวชแค่ 7 วัน ไม่แน่ใจว่าถ้าบวชยาวๆ กว่านี้จะสอนแบบอื่นหรือเปล่านะคะ) คือตามดูลมหายใจและความรู้สึกตัวทั่วพร้อมเฉยๆ ค่ะ ไม่แน่ใจว่า น่าจะเป็นแค่ สมถะกรรมฐานมากกว่าวิปัสสนากรรมฐานหรือเปล่านะคะ แต่ถ้าบวชนานๆ กว่านี้ก็อาจจะมีคอร์สที่เข้มข้นอย่างวิปัสสนากรรมฐานเพิ่มก็ได้กระมังคะ

6. เวลานั่งสมาธิของที่นี่ ไม่ให้หลับตาค่ะ เพราะหลวงพ่อท่านว่า จะทำให้จิตเข้าสู่ความง่วงงุนได้ง่าย ท่านจะให้ลืมตา (ที่จริงก็ประมาณหลับลงมาครึ่งตาเหมือนพระพุทธรูปหละค่ะ)

7. มีชุดขาวให้ยืมค่ะ




ซึ่งขอบอกว่า ข้อ 5 กับ 6 นี่กว่าตัวเองจะปรับตัวทำ+ปฏิบัติได้นี่ก็พักใหญ่เหมือนกันค่ะ แต่ท้ายที่สุดก็ทำได้น่ะนะคะ ก็บอกไว้ให้เป็นข้อมูลนะคะว่ามีการปฏิบัติแนวนี้ประมาณนี้ ลองพิจารณาดูนะคะว่าเหมาะสมกับจริตของตัวเองหรือไม่อย่างไรค่ะ














สำหรับวัดที่สอง คือวัดกำแพงแลงค่ะ ไปบวชที่นี่เพราะอยู่ไม่ไกลจากบ้านเราด้วยน่ะนะคะ ซึ่งไปบวชทั้งหมดสองครั้ง แตกต่างกันดังนี้


ครั้งแรก จะเป็นการนำปฏิบัติโดยเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน (องค์เก่าไปอยู่ที่วัดใหญ่สุวรรณารามแล้วค่ะ) และเชิญพระจากวัดอื่นๆ มาช่วยนำปฏิบัติด้วยค่ะ ส่วนครั้งล่าสุดเป็นวิทยากรซึ่งเป็นกลุ่มฆราวาสที่สนใจปฏิบัติธรรมมานำในการปฏิบัติ ซึ่งก็ขอเล่ารายละเอียดในครั้งหลังนี้แล้วกันนะคะ เพราะน่าจะเป็นการปฏิบัติหลักของวัดนี้ไปแล้วค่ะ

1. วิทยากรหลักในการบรรยายจะมี 1 ท่านและมีทีมวิทยากรอีก 5-6 คนเวลาที่แยกกลุ่มให้สอบถามและบอกเล่าถึงผลการปฏิบัิติ

2.การปฏิบัติ จะเน้นให้เอาจิตเข้าฐาน (ซึ่งเขาจะพยายามให้เข้าฐานที่อยู่เหนือสะดือสองนิ้วน่ะค่ะ) และใช้วิธีให้จิตนับ ศูนย์ หนึ่ง สอง สาม จนถึงเก้า และศูนย์แล้วก็นับถอยหลังจากศูนย์ เก้า แปด จนมาถึง หนึ่ง ศูนย์ อีกครั้งค่ะ โดยใช้ทั้งการนั่งสมาธิและเดินนะคะ

3. ที่นี่กินสองมื้อ คือ เช้า กับเพลค่ะ

4. มีอาหารมังสวิรัติให้ แต่ถ้าเป็นวันพระใหญ่ (อย่างวิสาขบูชาที่ผ่านมา) ก็จะไม่ได้ทำอาหารมังสวิรัติ แต่ให้กินอาหารจากการบิณฑบาตของพระที่วัดแทน ซึ่งก็มักจะเป็นเมนูที่ไม่ใช่มังสวิรัติน่ะค่ะ

5. มีเอาศาสตร์ต่างๆ เกี่ยวกับสุขภาพมาสอนเพิ่มด้วย เช่น ลมปราณแบบบู๊ตึ๊ง การขูดกัวซา ฯลฯ

6. ไม่มีชุดให้ยืม ต้องเอาไปด้วยตนเองนะคะ











สำหรับอีกวัดที่ไปบวช ขอไม่พูดถึงแล้วกันนะคะ เพราะค่อนข้างไม่ถูกจริตตัวเองเท่าไหร่น่ะค่ะ คือ เหมือนแค่มานุ่งขาวห่มขาว ฟังเทศน์ (ที่มีหลายข้อความออกจะน่าระคายหูเมื่อออกมาจากปากภิกษุน่ะนะคะ) แต่ไม่ได้ปฏิบัติอะไรมากมาย ดังนั้นขอข้ามไปแล้วกันนะคะ













มาถึงคำถามว่า บวชเสร็จแล้วเป็นอย่างไรบ้าง ดีอย่างไรนะคะ


สำหรับตัวเอง ในการบวชที่วัดถ้ำชีครั้งแรก และบวชที่วัดกำแพงแลงครั้งหลัง ค่อนข้างดีขึ้นนะคะ คือ ใจและจิตดีขึ้น แม้จะยังแก้ไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็เหมือนได้ไปล้างใจและจิตตัวเองให้สะอาดขึ้น แล้วก็ในครั้งหลังจะได้กัลยาณมิตรในการบวชที่ค่อนข้างดีด้วยค่ะ เป็นรุ่นน้องที่ห่างกว่ากันสิบกว่าปีเลยทีเดียว แต่เขาตั้งใจปฏิบัติมาก ก็เลยทำให้ต่างคนต่างตั้งใจปฏิบัิติกันอย่างเต็มที่ ทำให้ในช่วงบวช ลืมทุกข์ของตัวเองไปเลยค่ะ


ซึ่งการบวชเนกขัมฯ สำหรับเรา เราบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้มีพระคุณ (อาทิ พ่อแม่) และเจ้ากรรมนายเวรค่ะ (ส่วนการหวังถึงพระนิพพานนี่ สำหรับตัวเอง ยังรู้สึกว่าไกลเกินเอื้อมอยู่ค่ะ แต่จะพยายามปฏิบัติไปเรื่อยๆ นะคะ) สำหรับเราแม้การทำบุญด้วยการปฏิบัติภาวนานี้จะไม่ได้เห็นผลทันตาแบบประเภท ปัญหาถูกแก้ไขโดยฉับพลัน หรือพ้นทุกข์ได้ทันที แต่ข้อดีของการปฏิบัติที่เห็นได้ชัดนะคะ


1. จิตและใจเราดีขึ้นกว่าตอนก่อนไปบวชค่ะ

2. มีวิธีการและหนทางสำหรับมาฝึกปฏิบัติต่อที่บ้านด้วยตนเอง

3. หลังจากนั้นไม่นาน ทุกข์มันจะคลี่คลายขึ้น (เมื่อวิบากกรรมส่งผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว)


แล้วก็เมื่อมาปฏิบัติด้วยตนเองต่อที่บ้าน (ทุกวันนี้คือมีสวดมนตร์ทำวัตรเช้า-เย็น ปฏิบัติภาวนาเช้า-เย็น สวดมนตร์บทพิเศษก่อนนอนค่ะ แล้วก็เปิดซีดีธรรมะฟัง อ่านหนังสือเกี่ยวกับธรรมะตลอด) ก็ทำให้เราทุกข์น้อยลงเยอะนะคะ แล้วก็คิดว่าจะพยายามปฏิบัติอย่างนี้ให้เป็นอาจิณณกรรม (คือกรรมที่ทำประจำอย่างสม่ำเสมอ) ต่อไปด้วยค่ะ อย่างน้อยก็จะได้ช่วยส่งผลต่อๆ จากพวกครุกรรมต่าง ๆ (กรรมหนักต่างๆ ซึ่งมักจะเป็นกรรมที่ส่งผลอันดับแรกๆ) ที่เป็นอกุศลกรรมได้บ้างน่ะนะคะ






จาก //watyai.igetweb.com/index.php?mo=3&art=279061

















สำหรับท่านใดที่คิดจะปฏิบัิติธรรมหรือไปบวชเนกขัมนารี นอกจากที่เราเคยไปมาแล้ว ก็มีที่ที่น่าสนใจ (และเราหวังว่าจะไปปฏิบัติในอนาคต) ดังนี้นะคะ (แต่ถ้ารู้แนวทาง หาวิธีการที่ถูกกับจริตตัวเองได้แล้ว ปฏิบัติอยู่กับบ้านก็ได้ค่ะ เีพียงแต่เวลาไปปฏิบัติที่วัดหรือที่ปฏิบัติ นอกจากเวลานอนประมาณ 4-6 ชม.แล้วนี่ เรียกว่าเวลาที่เหลือของแต่ละวันเป็นเวลาสำหรับการปฏิบัติล้วนๆ ซึ่งเยอะกว่ามาปฏิับัติเองที่บ้านน่ะนะคะ )


1. ยุวพุทธิกสมาคม (ที่นี่ต้องสมัครล่วงหน้าทางเว็บไซต์ประมาณ 1-2 เดือนนะคะ)
//www.ybat.org/v4/index.asp


2. วัดมเหยงค์ จ.พระนครศรีอยุธยา (พระอาจารย์สุรศักดิ์ เขมรังสีค่ะ)
//www.watmahaeyong.net/home/index.php

มีเพื่อนบล็อกที่เคยไปอัพไว้เมื่อปี 2551 ค่อนข้างละเอียด จะลองไปอ่านดูก็ได้นะคะ
//www.bloggang.com/mainblog.php?id=zeri&month=10-07-2008&group=24&gblog=4


3. วัดอัมพวัน สิงห์บุรี (หลวงพ่อจรัญ)
//www.jarun.org/v6/th/home.html


4. สวนสันติธรรม (หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช)
//www.wimutti.net/


5. วัดสนามใน (ปฏิบัิติธรรมแนวหลวงพ่อเทียน - แนวสติจับที่ความเคลื่อนไหวค่ะ)
//www.watsanamnai.org/







สำหรับท่านใดที่สะดวกเดินทางไกลๆ ได้ ก็มีที่อื่นๆ ดังนี้ค่ะ (ขอบคุณกระทู้ที่ห้องศาสนาด้วยนะคะ)

1. สวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
โทร. ๐๗๗-๔๓๑-๕๙๖-๗, ๐๗๗-๔๓๑-๖๖๑-๒
วิปัสสนาจารย์ ท่านพุทธทาสภิกขุ
แนวการปฏิบัติ อานาปานสติภาวนา


2. วัดป่าสุนันทวนาราม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
วิปัสสนาจารย์ พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
แนวการปฏิบัติ อานาปานสติภาวนา
เปิดอบรม “อานาปานสติภาวนา” แก่ผู้สนใจ ครั้งละ ๙ วัน
เปิดรับครั้งละ ๑๐๐-๑๕๐ คน เป็นการปฏิบัติที่เคร่งครัด กินอาหารวันละ ๑ มื้อ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิมายา โคตมี คุณดารณี บุญช่วย
โทร. ๐๒-๓๒๑-๖๓๒๐, ๐๒-๖๗๖-๓๔๕๓, ๐๒-๖๗๖-๔๓๒๓










ถ้าท่านใดมีที่อื่นที่แนะนำ ก็สามารถบอกเพิ่มได้นะคะ ส่วนตัวเจ้าของบล็อกเอง ถ้ามีโอกาส (และบุญ) ได้ไปปฏิบัติที่ไหนได้เพิ่มเติม จะนำมาบอกเล่าให้เพื่อนบล็อกได้ฟังบ้างค่ะ เพื่อจะได้เป็นข้อมูลตัดสินใจว่า จะตรงกับจริตของแต่ละท่านหรือไม่อย่างไรนะคะ

หรือถ้าท่านใดเคยไปปฏิบัติที่ใดแล้วมีข้อมูลอยากบอกเพิ่ม ก็สามารถบอกได้นะคะ จขบ.จะนำมาอัพเพิ่มพร้อมให้เครดิตให้ค่ะ















หวังว่าคงพอเป็นประโยชน์ต่อ "พุทธศาสนิกชน" บ้างนะคะ

















ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาค่ะ

925385+29578/6495/593



Create Date : 02 มิถุนายน 2554
Last Update : 2 มิถุนายน 2554 9:50:31 น. 56 comments
Counter : 8147 Pageviews.

 


เจตนาบริสุทธิ์ ส่งผลให้กับทุกอย่างเป็นเบื้องต้นนะคะ

มีพี่ในกลุ่มพูดไว้ ..
เอาไว้สบายใจ แล้วไปบวชกัน
คือเค้ามีความรู้สึกว่า ..
เข้าไปด้วยความรู้สึกดีดี
และออกมาด้วยความรู้สึกดีดีน่ะค่ะ

ดี.เคยเห็นคนที่ทุกข์มากไปบวช
อย่างที่พี่เต้ยเล่าเลย
อยู่ได้ไม่นาน ไม่พ้นสามวันก็ต้องออกมา
แบบว่าตอนไปก็จะไปเอง
พอไม่ไหวก็หนีออกมาเลย
อารมณ์แบบ เอาแต่ใจทุกกรณีเลย

จะทำอะไร .. สภาวะจิตใจนี่สำคัญจริงๆเลยนะคะ





โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:6:55:50 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับคุณเต้ย

เมื่อก่อนผมเป็นคนกลัวเข็มมาก
แต่เมื่อลูกชายเพื่อนป่วยเป็นธารัสซีเมียขั้นรุนแรง
และบังเอิญโชคดีมากที่เลือดผมเป็นกรุ๊บเดียวกับน้อง
ผมไม่ลังเลยครับที่จะให้เลือก

นี่ให้มาสองครั้งแล้วครับ

และผมต้องให้ไปเรื่อยๆจนกว่าน้องจะได้ทำการเปลี่ยนสเตมเซลล์

พอไปนอนให้เลือดจริงๆ
ก็ไม่เจ็บและไม่น่ากลัวเลยครับ

เสียดายก็แต่พยาบาลแก่ๆทั้งนั้นเลยครับ 5555










โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:7:00:43 น.  

 
เป็นกิจกรรมดีๆ ที่สร้างบุญ สร้างกุศลให้กับตัวเองและผู้อื่นได้รอบข้างรอบตัวเลยครับ
ชื่นชมกันเป็นอย่างยิ่งครับ


โดย: ถปรร วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:7:02:33 น.  

 
มาอ่านเป็นความรู้ค่ะ


โดย: narellan วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:7:54:07 น.  

 
ดีจังค่ะ ขอบคุณที่แชร์ค่ะ


โดย: กรุ๊ปบีราศีสิงห์ วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:8:10:42 น.  

 
ขอบคุณข้อมูลที่แบ่งปันนะคะ ตัวพี่เองเคยบวชมาแล้วครั้งแรกในชีวิต 3 วัน ช่วงวันหยุดสงกรานต์ ที่ผ่านมา ชอบมาก เนื่องจากเหมือนชีวิตหยุดนิ่งและได้คิดทบทวน ต่อไปหากมีเวลาและโอกาส ก็จะต้องบวชอีกแน่นอนค่ะ


โดย: แม่หมูแดง IP: 58.9.176.82 วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:8:24:56 น.  

 
ผมเพิ่งเข้ามานั่งอ่านบล็อกคุณเต้ยอีกครั้ง
หลังภารกิจเสร็จสิ้น
ป้อนข้าวลุกเสร็จ
ส่งขึ้นรถไปกับมาดาม
ผมก็มานั่งอ่านต่อนี่ล่ะครับ

อนุโมทนาบุญกับการบวชในครั้งนี้นะครับ

เจ้ากรรมนายเวรเขาอยู่ในจิตหรือความคิดของเราครับ
สลัดไม่หลุดง่ายๆแน่นอน
เพราะเป็นสิ่งที่เราเคยทำไว้
เคยพูดไว้
เคยคิดไว้

ต้องใช้เวลา และต้องใช้วิธี
เพื่อให้หลุดไปจากความทรงจำก้อนนั้นครับ

วิธีการวิปัสนาก็ถือเป็นหนทางที่ดีวิธีหนึ่งเลยนะครับผมว่า

แต่ก่อนหน้าจะไปวิปัสนาอาจต้องเริ่มต้นที่การทำสมาธิก่อน
เพื่อฝึกการรู้ทันความคิดขงตัวเอง
ถ้าทำได้บ่อยๆ
รู้ทันอารมณ์และความคิดที่เกิดขึ้น
ก็ทุกข์น้อยลงแล้วล่ะครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:8:27:10 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณสาวไกด์ ขอเข้ามาอ่านนะคะ ดีจังเลยค่ะได้มีโอกาสทำบุญที่ดีๆ เคยคิดอยากไปบวชเนกขัมฯเหมือนกันค่ะ แต่ไม่สะดวกหลายๆอย่างเลยทำได้แค่สวดมนต์ภาวนาที่บ้านแทน ผลทางใจก็ดีกว่าตอนไม่ได้ยึดถือธรรมเป็นที่ตั้ง ถึงไม่รู้จักกันก็ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ มีความสุขทั้งทางโลกและทางธรรมค่ะ


โดย: รับสุข วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:9:40:34 น.  

 
สวัสดีค่ะ

..บางครั้งรู้สึกทุกข์ แล้วอยากจะไปบวชไม่ใช่เพื่อหนีทุกข์นะคะ แต่อยากบวชเพื่อเข้าใจทุกข์

..เวลานั้นหาไม่มีเลย ทำงานหยุดอาทิตย์ละ1วัน ทำงานบ้านก็หมดและ พอมีวันหยุดก้จะอยากแต่เที่ยว แย่จริงๆเลย

ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ดีๆให้กันนะคะ
โหวตข้อคิดธรรมมะ ค่ะ


โดย: pinkypunch วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:9:41:24 น.  

 
มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา มโนเสฎฺฐา มโนมยา มนสา เจ
ปสนฺเนน ภาสติ วา กโรติ วา ตโต นํ สุขมเนฺวติ ฉายาว อนปายินี

ใจเป็นผู้นำสรรพสิ่ง ใจเป็นใหญ่กว่าสรรพสิ่ง ถ้าพูดหรือทำสิ่งใดด้วยใจบริสุทธิ์
ความสุขย่อมติดตามเขา เหมือนเงาติดตามตน

มีความสุขกับใจที่สั่งได้ ตลอดไป...นะคะ



คุณเต้ย เขียนเรื่องนี้ได้ดีมาก ละเอียดมากด้วย..ค่ะ
น่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่คิดจะไปถือศีลกินเพลไม่มากก็น้อย...นะคะ

ปอป้า ขออนุโมทนาในทุกบุญกุศลาด้วย...ค่ะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:10:18:14 น.  

 
ผมกำลังเขียนหมื่นตาในเรื่องนี้พอดีเลยล่ะคัรบ
แต่สงสัยอีกหลายเดือนกว่าจะเสร็จครับ
ผมว่าจะเขียนหมื่นตาธรรมะ 3
โดยเน้นเนื้อหาแบบเข้มข้นเลยครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:11:29:16 น.  

 

พี่อุ้มเคยไปบวชมา 3 วัด
ตามเพื่อนไป
แต่เพื่อนดันไม่ยอมตื่นตี 3 ชีเลยได้แค่ห่มขาว
ส่วนเราก็ได้ปฏิบัติก็โอเค
นำกลับมาปฏิบัติได้
แต่ได้แง่คิดกลับมาว่า
ถ้าเรามีสติเราไม่จำเป็นต้องมาที่วัด
เราสวดมนต์ภาวน่เราก็มีความสุข
สุขที่ได้เป็นผู้ให้และไม่เบียดเบียนใคร
พี่อุ้มก็เลยไม่ได้ไปวัดอีกเลย
(แต่ส่วนมากมักไม่ว่างไปด้วย)น้องเต้ยเขียนแล้วเคลียมากๆ เลยจ๊ะ



โดย: อุ้มสี วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:11:29:49 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
แวะมาทักทายเหมือนเช่นเคย สบายดีนะคะคุณเต้ย


โดย: เกศสุริยง วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:13:17:43 น.  

 
ถ้าจะบริจาคต้องเอาของส่งไปให้ยังไงอะคะพี่อุ้ม?
..............................
..............................
น้องเต้ยโทรหาพี่แดงเลยค่ะ
โทร.08-9550-0526


โดย: อุ้มสี วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:13:47:22 น.  

 
ตอนนี้ผมก็เขียนพล็อตไปเรื่อยๆครับคุณเต้ย
กว่าจะเขียนพล็อตเสร็จ กว่าจะวาดรูปเสร็จอีกนานเลยครับ

เดือน 8 คงจะมีความเรียงออกมาก่อน 1 เล่มครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:14:27:43 น.  

 
กลุ่มบล็อคใหม่ถูกใจเลยครับ


โดย: คนเคยผ่านมหาสมุทร วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:15:05:18 น.  

 
สำหรับคนไม่เคยไปบวชรู้สึกยากจังค่ะ
สงสัยกิเลสตัวเองยังหนาอยู่มาก
โดยเฉพาะข้อที่ว่าให้กินมื้อเดียว
ทำยากที่สุดเลยค่ะ


โดย: ส้มแช่อิ่ม วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:15:54:16 น.  

 


มีมื้อเย็นมาฝากค่ะคุณสาวไกด์ ขอให้อิ่มอร่อยนะคะ

โมทนาบุญค่ะ
ตามรายการที่แจ้งป้าเคยไปมาบ้างเหมือนกัน
โดยส่วนตัวก็คิดว่าได้คุ้มกับเวลาที่เสียไปค่ะ




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:16:27:16 น.  

 
ใช่ครับ

ต้องค่อยๆทำครับ

เสร็จเมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้นครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:16:47:56 น.  

 
เหมือนมีแต่คนจะซื้อ 3 เล่มทั้งนั้นเลย อิอิ


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:17:00:12 น.  

 


กระซิบ : พี่เต้ยไม่ต้องเกรงใจ จขบ ปู๊นนนนนะคะ
แบบว่าเม้นท์ได้เต็มที่เลยค่ะ
ยาวแค่ไหนไม่จำกัด .. บล็อกให้พื้นที่แค่ไหน ก็แค่นั้นเลยค่ะ55+



หม่ำมื้อเย็นให้อร่อยนะคะ
วันนี้ชาวดงเผาปลากับเตาอบเล็กๆที่ไปถอนมาหมาดๆค่ะ
รอบแรกไม่สุก
ระหว่างรอเล็งว่ารอบสองจะพอดี หรือไหม้ไปเลย
เลยมานั่งอยู่แถวนี้ก่อนค่ะ
แบบว่าหลบๆออกมาจากครัว
ถ้าปลาไหม้
ใครอยู่ในครัวจะโทษคนนั้น อิอิ





โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:18:29:37 น.  

 
อนุโมทนาบุญด้วยครับ

เป็นกลุ่มบล็อกที่ต้องติดตามบ่อยๆ เลยครับ

วันอาทิตย์ตอนบ่ายมีกิจกรรมที่ห้องหนังสือเรือนธรรมนะครับ เผื่อสนใจ เป็นกลุ่มของท่านกฤษณมูรติครับ


โดย: คนขับช้า วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:19:48:42 น.  

 

สรุปว่าปลาไม่ไหม้ค่ะ
แต่ผักแอบดำ

ดี.แอบไปหลังบ้านด้วยดีกว่า อิอิ





โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:20:54:23 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สุข สดชื่น แจ่มใส ในวันพฤหัสบดีจ้าครูเต้ย
สงสัยบล็อกติดเขื้อมั๊งคะ 555
ไปอ่านคำตอบครูเต้ยที่บล็อกคุณดีแล้วค่ะ



โดย: หอมกร วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:21:17:28 น.  

 
สวัสดีพี่สาวไกด์

5555 ตกลงหลังประชุม มี่รอกลับพร้อมยายดีกว่า

จะได้ไม่ต้องย้อนมารับยายในอีก3วัน เหนื่อยจัง เดี๋ยวสักครู่

ต้องอาบน้ำเรียกพลังเสียหน่อย...เอ หรือข้ามไปร้านฝั่งตรงข้าม

ให้พนักงานอาบ,อบ,นวดให้สักหน่อย ดีที่ตอนจัดข้าวของ

มี่หยิบนิยายเรื่อง แหวนสวาท มาด้วย อิอิ...คืนนี้คงหลับฝันดี

มาค่ะไปนอนกันดีกว่านะคะ555 ตื่นแล้วค่อยหาข้าวกิน



โคลงสองสุภาพ

๏ จันทร์ ๕ ๏

วิจิตรจันทร์เรียงร่ำถ้อย....................................... หวานพิศรัญจวนคล้อย
ขับพร้องมณีสรวง

ดาริกากรายสนิทเส้น............................................ เสริมสวาทสรรหวามเน้น
หลืบร้อยภักดิ์เสมอ

วอมวาววับขยับบ้าง.......................................... กรีดร่ายเขียนพิสมัยอ้าง
หิ่งห้อยนั่นหนอ

เพยียพลอยระริกกระซิกกระซี้........................... ซุกซ่านสุคนธ์ลี้
เรื่อยไล้ประโลมโฉม

ดอยดงเอบอิ่มอ้อน.......................................... อวลอุ่นกรุ่นกระจายต้อน
เหล่าเร้นแมลงใส

ระบำพนาไหววาดเวิ้ง........................................ พรรณพฤกษ์พลันสลอนเลิ้ง
โลดแล้วเพรียกหา

มหกรรมคีตเพริศแพร้ว..................................... เติมแต่งแสงประทีปแก้ว
หล่อหล้าเกษมสรวล

คืนลำนำมาสชม้าย............................................. แพรวพริบพราวเยือนย้าย
เสกสร้างประกายฝัน


โดย: ญามี่ วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:21:20:30 น.  

 
งานจัดแค่อาทิตย์นี้เท่านั้นครับ
รายละเอียดส่งไปให้ทาง Facebook แล้วนะครับ


โดย: คนขับช้า วันที่: 2 มิถุนายน 2554 เวลา:21:45:12 น.  

 
ขอบพระคุณที่แบ่งปันสิ่งดีๆ มากค่ะ
และขอบคุณที่โหวตให้พระจันทร์ด้วยนะคะ


โดย: เจ้าแห่งน้ำคือพระจันทร์ วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:2:11:38 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับคุณเต้ย









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:6:52:17 น.  

 
ขออนุโมทนาสาธุ ในบุญกุศลครั้งนี้ด้วยนะคะ แม่บุญเคยบวชเก้าวัน ๆ พระชนวันพระทีวัดหลวงพ่อจรัญ ที่สิงหืบุรี สามวันแรกยากมาก ๆ จริง ๆคาะ หลังจากนั้นก้อยู่ได้จนครบ หากมีโอกาสจะกลับไปอีกค่ะ

แวะมาชวนไปทานข้าว หลังจากถือศีลมาหลายวัน ไปนะคะ
Photobucket


โดย: Maeboon วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:9:59:29 น.  

 
สุกรานิ อสาธูนิ อตฺตโน อหิตานิ จ
ยํ เว หิตญฺจ สาธุญฺจ ตํ เว ปรมทุกฺกรํ

กรรมไม่ดีและไม่เป็นประโยชน์แก่ตน ทำได้ง่าย
ส่วนกรรมใดดีและเป็นประโยชน์ กรรมนั้นแลทำได้ยากอย่างยิ่ง

มีความสุขกับความสำเร็จในการทำสิ่งที่ยากได้ ตลอดไป...นะคะ





โดย: พรหมญาณี วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:10:11:18 น.  

 
ขออนุโมทนาสาธุบุญด้วยคนนะคะ

อ่านแล้วมีประโยชน์มาก ๆ เลยค่ะ

แต่สำหรับตัวเคโกะเองแล้ว คงไม่เหมาะ - -" จริตหนา ยึดติดมาก ๆ ด้วยค่ะ เหอ ๆ - -"

ทุกวันนี้ก็พยายามเข้าวัดทำบุญให้ตลอดอ่ะค่ะ ได้แค่นั้นเองอ่าาา


โดย: :D keigo :D วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:11:37:15 น.  

 
สั่งได้สิคะ

ในเว็บแจ่มใสลด 15 เปอเลย


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:14:09:52 น.  

 
อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:14:52:46 น.  

 
ผมไม่เชียวชาญเรื่องทางพุทธ แต่ขอเอาใจช่วยครับ


โดย: sirimas_m วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:15:37:46 น.  

 

เป็นประสบการณ์ที่ดีที่ใครก็อยากทำเนาะ พี่บาปหนักไปแล้วคงทุกข์มาก เพราะห่วงที่บ้าน...ไม่เคยได้ไปเลยจ้ะ แต่ก็ไม่ทุกข์ร้อนดิ้นรน เมื่อถึงเวลาจะได้ไป คงได้ไปเอง...

เห็นสัมภาษณ์เต้ยแว๊บๆ ที่บ้านน้องดี เดี๋ยวพี่แวะไปดู เผื่อจะรู้จักเต้ยมากขึ้น...

สวัสดีวันศุกร์จ้ะเต้ย





โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:15:54:20 น.  

 
สวัสดีค่ะ
อนุโมทนาบุญ ด้วยนะคะ สาธุ สาธุ ค่ะ
แวะมาทักทายค่ะแล้วก็แวะมาชวนไปทาน องุ่นเปรี้ยวด้วยกันค่ะ (จะผิดศีลมั้ยนี่)เลยเที่ยงแล้วด้วยซิ
ปฏิบัติวันแรกก็ต้องมี ฟุ้งซ่านเป็นธรรมดาค่ะ พอวันต่อๆไปก็จะดีขึ้นเรื่อยๆค่ะ


โดย: phunsud วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:16:14:27 น.  

 
เจ๊หลีก็อยากบวชดูซักครั้งค่ะในชีวิตนี้


โดย: กิน ๆ เที่ยว ๆ วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:17:16:00 น.  

 
ขอบคุณที่เอาข้อมูลดีๆ แบบนี้มาเล่าให้ฟังครับ ที่อ่าน ข้อ.ไม่ฟัง ดู ร้อง เพลง การบันเทิงอื่นๆ ข้อนี้ดูเหมือนจะปฏิบัติได้ยากครับ แต่ถ้าไปที่นั่นจริง ผมว่ามันก็น่าจะยาก


โดย: toor36 วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:18:04:58 น.  

 

ไปอ่านมาแล้วจ้ะเต้ย...

จะมาเมาท์ต่อว่า...พี่ก็อยากมีห้องสมุดอยู่ในบ้านเหมือนเต้ยเลย...ป่านนี้ยังทำไม่สำเร็จ แอบอิจฉาชั้นหนังสือที่บ้านคุณก๋า กับบ้านพี่นาถ เยอะแยะ อลังการมาก...

พี่ไม่กลัวปลวก...กลัวไม่มีห้องสมุดมากกว่า...

ดีใจที่ได้รู้จักเต้ยมากขึ้นจ้ะ






โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:19:49:45 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
แวะมาทักทายยามเย็น สบายดีนะคะคุณสาวไกด์


โดย: เกศสุริยง วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:20:11:43 น.  

 
อนุโมทนาบุญด้วยนะคะ เป็นกิจกรรมที่ดีมากจริงๆค่ะ อ่านจบเลยค่ะ ส่วนตัวยังไม่เคยไปบวชแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ


โดย: กางเกงยักษ์ลอยฟ้า วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:22:01:19 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณสาวไกด์

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะสำหรับการได้
มีโอกาสไปบวช .. และนำประสบการณ์
นำมาบอกเล่าค่ะ

เราเองเคยคิด "อยากลอง" เหมือนกันนะค่ะ
แต่ว่ามาคิดๆ ดู แค่อยากลองคงไม่ดีแน่ๆ
เพราะว่าการบวชเราว่าเราต้องพร้อม ต้องอยาก
เรียกว่าแบบเต็มใจและตเต็มร้อยเลย
ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ผลน่ะค่ะ ...

ช่วงเวลาเรามีปัญหา เราได้แต่นั่งอ่านหนังสือ
กับสวดมนต์ที่บ้านน่ะค่ะ ไม่กล้าหรือว่าพร้อมพอ
จะไปวัด .. ไปแบบบวชเลยนะค่ะ
แต่ว่ามาอ่านประสบการณ์ของคุณสาวไกด์แล้ว
ดูว่าก็ไม่ยาก แถมทำให้ใจดีขึ้นด้วย
น่าสนใจเลยล่ะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 3 มิถุนายน 2554 เวลา:22:58:41 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับคุณเต้ย








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 4 มิถุนายน 2554 เวลา:7:11:05 น.  

 
..สวัสดีค่ะ

แวะมาปฏิบัิติธรรม ที่นี่อีกรอบค่ะ

พรุ่งนี้ได้หยุดงานแล้ว เย้


โดย: pinkypunch วันที่: 4 มิถุนายน 2554 เวลา:8:16:04 น.  

 
อนุโมทนาบุญด้วยคนค่ะ

คิดเหมือนกันว่า ว่างๆอยากไปซักครั้งเหมือนกัน จิตใจคงสงบขึ้นเยอะค่ะ


โดย: ellie@aggie วันที่: 4 มิถุนายน 2554 เวลา:13:54:04 น.  

 
ดีจัง สาวไกด์ได้บวชด้วย ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ

แล้วก็ต้องขอบคุณสำหรับความรู้เรื่องการบวชเนกขัมนารี เคยได้ยินแต่ชื่อ มารู้เรื่องโดยละเอียดก็หนนี้เอง


โดย: haiku วันที่: 4 มิถุนายน 2554 เวลา:14:46:21 น.  

 
อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ปีนี้จองเข้ากรรมฐานที่ยุวพุทธไว้เหมือนกันค่ะ 8วัน 7คืน เดือนกันยายน นี้ จะเอาบุญมาฝากด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ


โดย: cakecode วันที่: 4 มิถุนายน 2554 เวลา:17:49:36 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับคุณเต้ย








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 มิถุนายน 2554 เวลา:5:33:22 น.  

 



อาทิตย์สุขสันต์ค่ะ
มีความสุขกับทุกเส้นทางของชีวิตนะคะ




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 5 มิถุนายน 2554 เวลา:11:56:51 น.  

 

ม่าม๊าแวะมาอณุโมทนาบุญด้วยนะ

หนูดีมากเลยที่เอามาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟัง

แล้วยังแนะนำสถานที่ให้อีก

นับว่าเป็นการบอกบุญให้กับผู้จะไปบวชได้ทราบทั่วกันค่ะ

สาธุ สาธุ สาธุ ขอให้หนูปรารถนาสิ่งใดสำเร็จทุกประการนะ




โดย: mamamodern วันที่: 5 มิถุนายน 2554 เวลา:17:11:43 น.  

 
อนุโมทนาบุญด้วยครับ


โดย: ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง วันที่: 5 มิถุนายน 2554 เวลา:19:47:02 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับคุณเต้ย









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มิถุนายน 2554 เวลา:5:38:49 น.  

 
ขออนุโมทนาบุญด้วยคนนะคะ
เป็นประโยชน์มากเลยค่ะ


โดย: hellojaae (hellojaae ) วันที่: 20 มิถุนายน 2554 เวลา:11:26:03 น.  

 
,มาร่วมอนุโมทนาบุญย้อนหลังครับสาธุ


โดย: ใบไม้เบาหวิว วันที่: 19 มกราคม 2555 เวลา:12:14:07 น.  

 
ใครรู้บ้างว่า เป็นผู้หญิง จะขอลาบวชชีพรามณ์ ( เนกขัมมะ)ได้ไหม ช่วยบอกด้วย เพราะทราบมาว่า สำนักปฏิบัติธรรมพุทธสาวิกาอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี จะจัดโครงการบวชชี( โกนผม)และบวชชีพรามณ์ 15วัน ตั้งแต่วันที่ 10-25 ก.ย.56 ค่าใช้จ่ายประมาณ 20,000 บาท


โดย: ป. ปลา IP: 183.89.114.215 วันที่: 29 พฤษภาคม 2556 เวลา:14:16:34 น.  

 
I carry on listening to the newscast lecture about getting free online grant applications so I have been looking around for the most excellent site to get one. Could you advise me please, where could i get some?
Discount Louis Vuitton mens wallet //www.led-ropelights.org/


โดย: Discount Louis Vuitton mens wallet IP: 94.23.252.21 วันที่: 3 สิงหาคม 2557 เวลา:18:43:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สาวไกด์ใจซื่อ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 203 คน [?]




ชอบอ่านหนังสือและดูหนังค่ะ ตอนนี้ทำงานด้านการท่องเที่ยวอยู่ นิสัยดีบ้างร้ายบ้าง แล้วแต่สภาวการณ์และคนที่เจอ


เนื้อหาและรูปภาพทั้งหมดในบล็อกสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่อนุญาตให้นำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล็อก


ติดต่อเจ้าของบล็อกได้ที่ theworpor@yahoo.com
หรือ
https://www.facebook.com/saoguide






Group Blog
 
 
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
2 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สาวไกด์ใจซื่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.