มารยาทของเด็ก
เขียนในฐานะที่เราก็ไม่ได้มีมารยาทดีมากนัก
ตอนที่เรากำลังโต เข้าสู่วัยรุ่น ยายเราเสียพอดี
บ้านเราไม่มีผู้ใหญ่สอนเรามากนักในช่วงนั้น
เราไม่มีนิสัยเป็นพี่คนโตดูแลใครเท่าไหร่
เราเลยถูกคนเตือนเยอะ ว่าบางทีทำไม่ถูกกาละเทศะ
แต่ข้อดีของเราข้อเดียวคือเราเป็นคนพูดสุภาพ
แม้จะดูไม่เรียบร้อยนัก
อย่างคนที่มีความเป็นพี่
หรือมีความรับผิดชอบต่อครอบครัว
จะรู้จักมารยาทสังคม ไม่เคอะเขินตั้งแต่เด็ก
เราว่าเราไม่ได้เพียบพร้อมในเรื่องนั้น
แต่สิ่งที่เรารู้แน่ๆ คือ
เวลาที่เราสอนน้อง แล้วมีเพื่อนมาบ่นว่าเด็กคนนั้นเป็นอย่างนั้น
ไม่เหมาะสม
เราจะบอกว่า ให้เตือนเขา และให้บอกเขาว่าควรทำอย่างไร
ที่เราแน่ใจเสมอ
คือคนที่รักเราจะเตือนเรา คนที่ไม่รักเราก็จะเอาเราไปว่าเสียหาย
(แต่อย่างเพื่อนบ่นน้องคือต้องช่วยกันเตือนและสอน)
เมื่อเขายังเด็ก ก็ต้องบอก--
นี่ตอนนี้ ปีที่แล้ว ไปประชุมนั่งรถกันไป
ไปส่งอาจารย์ท่านหนึ่งที่โรงแรม
อาจารย์เราอีกท่าน หันมาบอกเราว่า..
เราไม่ลงไปยกกระเป๋าให้อาจารย์ท่านนั้นล่ะ
โอ๊ย เราก็ลืม เราไม่ค่อยมี service mind แฮะ
(วันนั้นไม่มีน้องผู้ชายและเราก็เด็กสุด)
อะไรที่เป็นสิ่งที่ผู้น้อยควรรู้กาละเทศะ บางทีเราตกไปมาก
แม้ปัจจุบันจะค่อนข้างปรับมามากแล้ว บางวันก็มีลืม
โชคดีคือมีคนเตือนให้เสมอ
----
ช่วงนี้อ่านเรื่องโควิดมาก เลยได้อ่านเศรษฐศาสตร์ การเมือง
ตลอดจนฟิสิกส์ ว่าไปการวางท่อระบายอากาศอะไรไปเรื่อย
การเมืองกับเศรษฐกิจนี่ อ่านเรือยๆ เริ่มอิน
เริ่มปะติดปะต่อเรื่องได้ แม้จะไม่ได้ตามข่าวมานานมาก
ก็เลยได้ติดตามนักการเมืองที่ชอบ ที่ทำงานเข้าท่า สุภาพ สำรวม
เริ่มดูว่าใครทำอะไร
แล้วเราก็พบว่า
1. คนที่มีประสบการณ์และทัศนคติที่ดี
เขาก็ทำงานของเขา ไม่ว่าร้ายใคร
เขาจะพูดแต่สิ่งที่เขาทำ หรือเป้าหมายของเขา
ชี้แจงเรื่องของเขา หัวข้องานเขาไป
2. คนที่พอจะมีความคิดดี แต่ไม่ทันมีประสบการณ์
การออกความเห็นในช่วงเวลาที่ลำบากของโลกนี้
มันจะแป๊กมาก เนื้อหาเบามาก
ไม่มีมูลอะไรเลย
3. มารยาทและทัศนคติเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล
พบว่าคนที่อายุน้อยและอายุเยอะ คนใหม่คนเก่า
กระจายอยู่ทุกฝั่งฝ่าย
บางทีก็มีวาจาที่แสดงความไม่สมดุลทางอารมณ์ได้เสมอ
มาจากทัศนคตินั่นแหละ
พอถึงตอนนี้เราก็เริ่มเข้าใจ
ต่อไปในการเลือกตั้ง ไม่ว่าท้องถิ่นหรือระดับชาติ
เราจะเลือกคนที่ทำงานเป็น มารยาทและทัศนคติดี
ควรจะเป็นอย่างนั้น
อีกประการหนึ่ง คนที่ไม่มีประสบการณ์
ควรเรียนรู้งาน หรือไปเป็น clerkship ก่อน
แล้วความเก๋ามันจะมาเอง จะไม่ต้องลำบากทำให้ดูเก๋าเลย
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [