Group Blog All Blog
|
บ้านเช่า : จากเพื่อนอมนุษย์สู่เพื่อนมนุษย์ เรามาเช่าบ้าน เพื่อที่่จะปลูกต้นไม้ ทำตัวเหมือนได้กลับบ้าน สมมติว่าได้กลับบ้านกรุงเทพฯ นี่เป็นบ้านที่ติ๊ต่างมิติว่าสื่อถึงบ้านกรุงเทพฯ เราเช่าผ่านเอเย่นต์ เราก็ไม่ได้นอนหรอกตอนแรก ซื้อต้นไม้จากงานเกษตรแฟร์ ตุลาคม 2566 มาทิ้งไว้ แล้วก็มารดน้ำ ตอนนั้นไปจิ้มต้นกุหลาบมา 7 ต้น กล้วยไม้หกต้น ก็แวะมารดน้ำ ตอนนั้นในบ้านยังไม่ได้ทำอะไร บ้านทั้งหลัง ที่เป็นบ้านชั้นเดียว ไม่มีมุ้งลวด ไม่มีม่าน มีแอร์ห้องนึง ซึ่งเปิดๆ ดับๆ ใต้หลังคามีรังแตน แต่ตัวบ้านทาสีขาวตัดฟ้านี้น่ารัก รั้วก็ทาเสาสีฟ้าค่อนกรมท่าที่ผสมขาวแล้ว โทรเดียวกับตัวบ้าน รวมแล้วน่ารักดี เราก็เช่า เช่าแล้ว เราปูกระเบื้องข้างบ้าน ติดเครื่องทำน้ำอุ่นอีกห้องน้ำนึง (มีห้องเดียว เอเย่นต์มาติดให้) ตอนนี้ห้องน้ำทั้งสองห้อง มีเครื่องทำน้ำอุ่น แต่จริงๆ เมื่อก่อน เราก็ไม่ค่อยได้อาบน้ำที่บ้านเช่านี้ ถ้าไม่อาบที่หอใน ที่เป็นที่พักในองค์กรเรา เราก็ไปอาบที่สระว่ายน้ำสปอร์ตคลับน้อย ที่เราเป็นสมาชิกมานานมากกว่า 5 ปีได้ แต่อาจจะไม่ต่อเนื่องช่วงโควิดที่เราไปตืดอยู่ต่างประเทศ พอดีว่า หมู่บ้านเช่านี้ใกล้สปอร์คลับเราพอดี ก็เลยเข้าทาง --------- ทีแรกเรามาเช่า เอเยนต์บอก บ้านรอบๆ เรามีคนอยู่ บ้านนี้กลับ เสาร์อาทิตย์ บ้านนี้จะมีคนมาอยู่ เอาเข้าจริง บ้านที่มีคนอยู่จริงคือหลังทางซ้ายมือของเรา ที่ตากผ้าบนรั้ว รวมชุดชั้นในพาดมาบ้านเรา เราเช้าได้เดือนนึง เอาช่างมาทำบ้าน ทำหลายอย่าง เพิ่งจะเริ่มทำบ้าน.. ตอนเย็นวันที่สองที่ช่างมาทำ เราเลิกงานกลับมา ภรรยาหัวหน้าช่าง บอกเราว่า ลุงข้างบ้านนอนตายหน้าบ้านตรงม้านั่ง ข้างบ้านที่ว่า ก็คือข้างซ้ายที่มีลุงป้านั่นเอง แต่เป็นพี่น้องกัน ลุงเป็นน้อง ตายก่อน แต่ดูเหมือนทั้งสองคนจะป่วยไม่ค่อยสบายทั้งคู่ เราเองเพิ่งมาอยู่ แบบไม่ได้อยู่ คือมารดน้ำต้นไม้ที่ซ์้อจากงาน ---------- ยังไม่ทันรู้จักใครเลย เพิ่งจะเห็นลุงป้าคู่นี้ กับผ้าที่ตากนี่แหละ สื่อให้เห็นต่างเพื่อน หลังลุงตาย ป้ายังตากผ้าลุงแล้วปลิวมาตกบ้านเราได้อีก เราต้องรีบเอาคืน กลัวลุงมาแจ้งขอผ้าจะเป็นเรื่องใหญ๋ เราทำบ้านเราต่อไป ทีมช่างเก่าที่เคยทำร้านเรา ทำอะไรบ้าง-- ปูกระเบื้องข้างบ้าน ตรงที่เป็นดิน ให้พื้นที่ติดบ้านไม่เป็นดิน จะได้เดินไม่เกรอะรองเท้า ให้ต่อก๊อกน้ำไปจุดที่คิดว่าจะปลูกต้นไม้ทั้งหมด ซึ่งก็คือ เกือบรอบบ้านนั่นแหละ ฮ่าๆ เพิ่มเหล็กดัดปิดหัวท้ายข้างบ้าน (เป็นพื้นที่รูปตัวแอล ถ้ามองจาก bird eye view) เอาไว้ล็อคได้ จะได้ไม่มีใครมาโผล่หลังบ้านเรา แบบปีนรั้วมาประชิดบ้านแบบนี้ สงสารคนปีน เห็นหน้าเราจะตกใจ จริงๆ คือแปลนแบบเดิมเจ้าของเดิมทำไว้อยู่แล้วคือปิดบ้านหลังไปจนชิดรั้ง แราแค่เปลี่ยนเป็นเหล็กดัด เอาประตูโรงรถออก เพราะที่จอดไม่พอ ไม่ต้องมีประตู ประตูรั้วมีแล้ว เมื่อก่อนเค้าคงเอาไว้กั้นหมาที่เลี้ยงมั้ง ทรงประตูโรงรถปิดได้เหมือนบ้านฝรั่งเลย ส่วนเราไทยแท้ ก็เปิดค่ะ เอาออก ที่จอดก็ร่มดีเหมือนกัน ในตัวบ้าน ปูแผ่นความร้อนใต้หลังคา เอามุ้งลวดกั้นหลังเอารังแตนออก ติดม่านรอบบ้านทั้งหลัง ติดแอร์ใหม่แทนแอร์เดิม เพิ่มแอร์เองอีกห้องไว้นอน รื้อสวนข้างๆ ทำประตูเหล็กดัดมีมั้งลวดเพิ่ม เปลี่ยนประตูเข้าหน้าบ้านอันใหม่ ย้ายไฟโคมในบ้าน ซื้อไฟที่ชอบมาติดในบ้าน บลา บลา ก็ทำเยอะอยู่ ทำให้เป็นอย่างที่เราชอบ ไปเลือกม่านยาว แบบที่ชอบที่ iKEA เพราะว่า อยากได้ลายๆ น่ารัก ไว้ในห้องรับแขก ส่วนห้องนอนเอาม่านทึบ สีโทนเข้มเรียบที่โฮมโปรนี่แหละ เพราะว่า อยากให้แตตไม่เข้า แต่สุดท้ายก็ร้อนอยู่ดี เพราะเหมือนว่า ช่างเอาส่วนที่เป็นม่านบางไว้ชิดหน้าต่าง แล้วรางที่สองที่ออกห่างหน้าต่างค่อยเป็นม่านทึบ ปกติคงต้องไว้แบบนี้อยู่แล้วมั้ง ผลที่ได้คือ แสงแดดที่ลอดระหว่างม่าน คือม่านทึบมันจะไม่ชิดหน้าต่าง่ เพราะมันต้องเป็นราวชั้นที่สอง ราวชั้นแรกที่ติดหน้าต่าง เป็นผ้าม่านบางบังตาสีขาวลูกไม้ ทำให้แดดที่ผ่านม่านลูกไม้ขาว มันจะแหย่เข้าด้านข้างได้ สรุปคือ ถ้าบ่ายแดดร้อนมากๆ นอนในห้องจะแสบตัว พอกันกับหอนอกที่เช่าไว้ สรุปว่ากลางวันนอนไม่ได้เลย กลายเป็นคนรักห้องทำงาน เอาเสื่อมาปูนอนในห้องทำงาน นอนดูโต๊ะทำงานกับปริ้นเตอร์ เวลาบ่ายๆ วันหยุด (ที่ลงสวนเสร็จแล้ว) ดีไหมก็ดีนะ ทุกที่คือที่ที่เรานอนได้ ดีสิ กลางวันนอนห้องนี้จะไม่ร้อน กลางคืนจะนอนไหนก็ได้ ถ้าอยากนอนเตียงก็ไปนอน ได้ฟิลบ้าน กทม คือนอนเตียงกว้างๆ ------- รอบบ้านเรา ด้านหน้า ตอนเดือนแรกไม่มีคนมาเช้า เป็นเอเย่นต์เดียวกันดูแล ด้านข้างขวา ของบ้านที่ตรงข้ามเรา (จริงๆ แล้วบ้านมันเยื้องกัน เพราะฝั่งตรงข้างมีโซนห้องแถว เอาใหม่ บ้านที่เราเรียกว่าบ้านตรงข้ามเนี่ย จริงๆ แล้ว ตรงกับเราแค่รั้ว ประตูรั้วเราอยู่ซ็าย และมีรั้วอีกสั้นๆ ประมาณเมตรนนึงไปทางซ้ายของประตู ดังนั้น อธิบายได้สั้นๆ ว่า ส่วนประตูรั้ว กับรั้วซ็ายหัวประตู จะตรงข้ามบ้านหลังนึง ซึ่งคือทางขวามือของบ้านตรงข้าม ตรงกันแค่ประตูรั้ว กับรั้วสั้นทางซ็าย บ้านเราส่วนใหญ่ที่เหลือ ก็คือ ตรงกับบ้านตรงข้าม ซึ่งเราจะเล่าต่อไปว่า หลังนี้ตอนคนเช่าที่มาไล่ๆ กับเรา เค้าโดนขโมยขึ้นด้วย (เรียกหลังนี้ว่าบ้านตรงข้ามค่ะ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ของบ้านเช่าเรา ตรงข้ามกับเค้า) บรรยายไปแบบนั้น เพื่อจะบอกว่า บ้านหลังที่ประตูรั้วตรงเราเนี่ย ถ้าหันหน้าหาเรา เค้าคือ บ้านทางขวามือของบ้านตรงข้าม เค้าประกาศขาย ประกาศขายโดยที่ไม่รับนายหน้า และเอเย่นต์ตอนแรกบอกว่า นี่เป็นบ้านเพื่อนเค้า (น่าจะไปติดต่อขอเป็นนายหน้า แต่เขาไม่รับนายหน้ามั้ง) ก็บอกเราว่า นี่เค้าไปทำงานต่างจังหวัด จะกลับมาทุกเสาร์อาทิตย์ ข้อเท็จจริง คือ บ้านไม่เคยมีคนมาเลย ไม่ใด้มาเสาร์อาทิตย์แน่นอน ตอนหลังเราไปเปิดในเนตก็คือ บ้านประตูรั้วตรงกับเรานี่ มีประกาศขาย ผ่านไปหลายปีก็ลดราคาลงมาเรื่อยๆ ด้วย แต่ไม่ให้เช่า และไม่มีนายหน้า แต่บ้านหันมาทางทิศใต้ เราบอกเลย แตตจะแรงกว่าบ้านเราที่หันทิศเหนือแน่นอน แม้จะแดดคนละฤดู แต่เรามีร้านหันหน้าทิศใต้ เราว่ามันก็แสบอยู่ ประกอบกัน บ้านเช่าเราตอนนี้มีต้นตีนเป็ดบังร่มให้ บ้านเราเลยได้มาเงาแห้งความเย็น แฮ่ๆ คือเราไม่่ได้มีแผนจะซื้ออยู่แล้วไงคะ แค่แบบ อุ้ยเค้าประกาศขายด้วย เอาจริง บ้านเราที่เรามาเช่า ก็ถามขายเรานะ ตอนมาเช่า เอเย่นต์ได้เปรยไว้อยู่ประมาณนึง ตรงหน้าบ้านทางซ้าย จะบังแดดบ่ายบางช่วงฤดูพอดี (ที่ว่าแสบๆ ในห้องนอนนั่นคือบังให้แล้วนะ) (แดดสมัยนี้ แรงจริง แสบจริงจัง) ข้างบ้านเราทางขวา--ที่รั้วติดกันนี้ (ลุงป้าอยู่ซ้ายจ๊ะ) บ้านนี้มีญาติอยู่ซอยใกล้กัน มาตัดเล็มต้นไม้ให้เป็นระยะ แหล่งข่าวแจ้งว่า บ้านนี้ไปอยู่อังกฤษกันหมด ช่วงปิดเทศกาล บ้านนี้จะเหมือนมีญาติๆ มาจากที่อื่น มาพักบ้าน มาพักหรือมาจอดรถตากผ้าก็ไม่แน่ใจ เพราะปัํมน้ำไม่เคยยได้ยินเสียงเลยเวลามาอยู่ สงสัยจะมาจอดรถเฉยๆ มั้ง หลังบ้านเราที่ตรงกัน เป็นแบบนานๆ มาที เหมือนจะมีคนอยู่แต่ก็ไม่ค่อยเห็น แหล่งข่าวแจ้งว่า บุพการีบางท่านของบ้านนี้ has gone ... จึงเหมือนกับไปอยู่ที่บ้านหลังเก่าอีกที่บ้าง คือบ้านนี้จะมีเปิดไฟในครัว เปิดไฟเหมือนมีมนุษย์บ้างในบางวันหยุด มีบ้าง ไม่มีบ้าง เราเคยเอาขนมคุ้กกี้ให้เค้าดอนปีใหม่ เค้ามีขับรถมาดูหน้าบ้านเรา (ที่รกมาก) และให้คุ้กกี้เราด้วยเหมือนกัน เราว่า บ้านนี้ดูปกติสุดแล้ว วันนึงเราตัดกุหลาบให้ เค้าบอกอยู่บนต้นก็สวยแล้วค่ะ เพราะจากหน้าต่างครั้งบ้านเค้า จะมองยาว เห็นสวนกุหลาบแนวข้างบ้านตลอดเวลา แต่เราก็ตัดให้ เพราะปกติเราทำแจกันอยู่แล้ว (เราเพิ่งหยุดทำแจกันช่วงนี้เพราะผึ้งแตนถล่มดอกไม้เรามากๆ มีพวกต้นหน้าบ้านที่ไม่ค่อยโดน เพราะนกมากินแมลงเยอะ) (จริงๆ ข้างบ้านนกก็ไป แต่ผึ้งแตนนี้คือ เปิดตัวตั้งแต่ก่อนสว่าง เพราะงั้นเช้ามา สว่างที่พระอาทิตย์ขึ้นคือ ดอกข้างตัวบ้าน (ตอลดแนวสวนข้างบ้าน) แบะหมดแล้ว กลีบตรงที่ติดเกสร ก็ช้ำ ช้ำมากเลยแหละ ให้ไปต่อในแจกันนี่ไม่ไหวเท่าไหร่ เลยพักก่อน) ส่วนหลังบ้านที่แทยงเราสองหลัง ไม่มีคน ไม่เห็นเลยแบบปิดตายหรือขายไม่ออกหลังนึง อีกหลังนึง ทีแรกเหมือนมีคน ต่อมาดูเงียบๆ ไปเลย เคยขับรถวนไปดูหน้าบ้าน เหมือนไม่มีคนอยู่แล้ว (ดูเมื่อปีก่อน) สรุป รอบบ้านเราที่เอเย่นต์ชี้บอกว่า มีคน มีคน มีคน ที่จริงแล้ว วันที่เราเข้ามา มีคนอยู่ประจำหลังเดียว ให้นับเป็น 7 หลังรอบตัวนะ มี 1/7 ที่มีมนุษย์ เพราะหน้าบ้านเราคาบเกี่ยวจริงๆ แค่สองหลัง ข้างบ้านซ้ายขวา นับเป็นสองหลัง หลังบ้านรั้วตรงกัน กับมุมทแยงอีกสอง รวมเป็นสาม เจ็ดหลังนี้ หกหลังไม่มีมนุษย์ ---- ต่อมาก็เริ่มมีคนมาเช่าบ้านตรงข้ามเรา เออ วันนี้เริ่มง่วงแล้ว เดี๋ยวมาเล่าต่อ วันนี้ เราทำน้ำลอยดอกมะลิ (จากต้นในบ้านจ้า) ไว้ดื่มแหละ ชื่นใจมาก วันนี้แค่นี้ก่อน ราตรีสวัสดิ์ค่า
|
สุขใจพริ้ว
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() เป็นบันทึกเรื่องราวทั่วไป ตามที่ใจนึกอยาก ของคนทำงานไกลบ้าน Friends Blog
Link |