Group Blog All Blog
|
ใจ และการทดเวลาบาดเจ็บ ทดเวลามาพูดเรื่องที่บ้านตอนนี้ วันนี้วันที่ 12 หลังการผ่าตัด เราอยู่บ้านมาตลอด พี่ซื้อข้าวมาให้กิน เพราะตอนนี้ที่บ้านไม่เปิดครัว บางทีเราก็สั่งเซเว่นมาส่ง แต่ส่วนใหญ่คือพี่ซื้อหามาให้ ในหมู่บ้านบ้าง ไปห้างบ้าง ประมาณนี้ เมื่อวานเย็นพี่เราไปห้าง ได้แหนมทอดมาฝากเรา ถามเราเหมือนกันว่าจะเอาแหนมเนืองหรือแหนมทอด เราบอก แหนมเนืองมันกินที่ตู้เย็น (ตอนนี้ใช้ตู้เย็นเล็กบนบ้านกัน) งั้นเอาแหนมทอด เมื่อวานเรารู้ว่าพี่เราก็กินแหนมทอด แล้วก็กินมะม่วงกับกะปิโหว่เหมือนเรา เมื่อคืนท้องเสียกันทั้งพี่ทั้งน้อง สรุปกันว่าน่าจะเป็นแหนมทอด เพราะกะปิโหว่พี่เรากินน้อยมาก ทีนี้ เราก็เลยบอกว่า ตอนที่พี่เราไปห้าง เราเอาต้มเลือดหมูออกมากิน เอามาเวฟ แต่มันบูดแล้ว เหม็นเน่าเลยไม่กินได้ทิ้งไป ซึ่งต้มมันอยู่ในตู้เย็นตลอด แสดงว่า หมูที่เค้าเอามาปรุงมันระยะสุดท้ายแล้ว แม้มันจะอยู่ในตู้เย็นบ้านเรามา สองคืนก็ตาม พี่เราบอกว่า เออ เมื่อเช้าที่เอามาแกะกินถุงนึงก็ว่ากลิ่นมันไม่ค่อยดี แต่พี่เราถามว่า ไม่ใช่เหม็นหมูอะไรอีกเหรอ (เรามีปัญหาเหม็นเนื้อสัตว์บ้าง เดี๋ยวค่อยเล่า) เรากับพี่เลยคุุยกันเรื่องเมืองไทยกับสตรีทฟู้ด บางอันพี่เราก็คือซื้อในห้างมาให้เรา อย่างแหนมทอดนี่ก็คือในห้างนะ ก็ท้องเสียกันได้ พี่บอกแมลงวันมันไข่ไวมาก สรุปวันนี้เราได้อาหารโฟรสเซ่นมา (อาหารแช่เข็ง) ในช่องฟรีสนะ พี่บอก คุยกันไปมา เลยพูดถึงขนมจีบมรณะ ที่เกิดในเมืองไทย สมัยเริ่มมีโควิด แล้วมีของมาขายตามบ้าน คนซื้อเยอะๆ ไปให้หลายคนกิน ท้องเสียกันมาก และมีคนท้องเสียจนเสียชีวิต พูดถึงอาหารเป็นพิษที่เราเคยเจอ นึกไปช่วงนี้เราต้องอยู่บ้าน เหมือนสมัยโควิดที่เราก้บพี่ต้องอยู่บ้านด้วยกันที่อเมริกา ไปไหนไม่ได้ พี่เวิร์คฟอร์มโฮม เราก็กลับไทยไม่ได้เพราะสนามบินปิด ไม่ได้ทำงาน จนไม่ได้เงินเดือนในที่สุด ตอนนั้นก็คือ กินข้าวที่พี่ทำตลอด มีครัวใกล้ บ้านมันชั้นเดียว แล้วพี่เราคือทำกับข้าวเก่ง ชอบทำให้เรากิน ยิ่งทำงานที่บ้าน พอว่างก็คือทำให้เรากิน เลี้ยงน้องด้วยรสมือตัวเอง ไปร้านเอเชียกัน มีผักสวนครัวของแม่นิดหน่อย (นิดหน่อยมาก) จนตอนหลังพี่เราปลูกกระเพรา เราเล่ามา พี่เราเป็นพี่ชายแท้นะ อันนี้คนกลาง ดวงดูแลฟูมฟักเรามาก ได้กลับมาไทยช่วงเรามีผ่าตัดพอดีอีก เราเลยอยู่บ้านสบาย กินด้วยกัน ขี้แตกด้วยกัน แฟนพี่โชคดีมาก เมนูต่างไป รอดเฉย ผ่ามผ่ามผ่าม เอากลับมาเรื่องเราเหม็นหมู เราถ้ากินเจจะเหม็นเนื้อสัตว์ ทีนี้ช่วงหลังผ่าตัดกลับมาบ้านเราก็กินบะหมี่หมูอะไรได้ปกติ ประมาณวันที่สามหรือสี่ พี่เราก็ซื้อไก่ย่างยี่ห้อมาจากหน้าหมู่บ้าน ทรงคือ ภูมิใจนำเสนอมากว่าเราจะได้กินอะไรแซ่บๆ เราก็โอเค มันตอนเย็นเนาะ เข้าตู้เย็นก่อนเอาไว้ให้เรากินเช้า เช้ามามันเป็นวันที่พี่เราออกไปทำธุระ เราหยิบถุงไก่มา เราเหม็น เราเลยได้สั่งข้าวเซเว่น (หน้าหมู่บ้านเหมือนกัน) มากิน ตกเย็นมาเราก็บอกพี่ พี่เราก็อ้าว แล้วทีนี้ พี่เราก็ชักจะเริ่มถามว่า ช่วงนี้เหม็นอะไรรึเปล่า เมนูไหนว่าจะไปซ์้อ ต้องถามเราก่อนว่าจะเหม็นไหม แต่เรื่องไก่ เราถามเพื่อนเราที่มีอาชีพหลักซื้อข้าวให้แม่กิน เพื่อนบอก ไก่พันธุ์บางทีมันเหม็น ยี่ห้อนี้ที่บ้านมันก็เคยเจอ มีบ้างถ้าได้ไก่พันธุ์ ว่างี้ เออ เพื่อนที่มีความละเอียดเรื่องอาหารนี่ดีนะ มีคำตอบทุกอย่าง เราก็เลยบอกพี่ว่า แค่ไก่วันนั้นแหละ ที่จริงแล้ว บางทีก๋วยเตี๋ยวก็เผ็ดไป เราไม่ชอบเม็ดแปะก๊วยในน้ำเต้าหู้ (ฉลาดแล้วไม่อยากกิน) จริงๆ เรากินหมูเยอะจะตัวเหม็น และถ้าไม่ได้กินเนื้อสัตว์พักนึงจะเหม็น (ทั่วไปนะ เหมือนคนกินเจ) แต่บางที บางวัน โผล่มา เราเหม็นหมูเลยก็มี ส่วนไก่ เราไม่กินเนื้อไก่ขาวเท่าไหร่ ก็กินได้ แต่ถ้าเลือกได้ไม่กิน อย่างข้าวมันไก่ เพิ่งกินพอได้ตอนอยู่มหาวิทยาลัย ที่แบบจริงจังนะ กินได้ปีท้ายๆ ด้วยมั้้ง คือเวลามีห่อข้าวไปงาน มีแจกเป็นข้าวมันไก่นี่จัดว่าเป็นเมนูไม่หรรษาเลย ก็กินได้ แต่ถ้าเลือกได้ไม่กิน ถ้าเลือกไม่ได้ก็กินๆ เขี่ยๆ มื้อเดียวกินได้ไม่ตาย พวกไก่ทอดยี่ห้อ เรากินแต่แป้งนะ กัดเจอเนื้อขาวเราก็หยุด เว้นแต่จำเป็นก็กินๆ คือแป้งที่เคลือบโซเดียมอ่ะ หมดชัวร์ ส่วนไก่ข้างในเรากินตามสะดวกและความหิวที่มีตอนนั้น เหตุที่เราไม่กินไก่ขาว เพราะตอนเด็กๆ เราไปตลาดกับที่บ้าน ไปตลาดสดนะ แล้วเราแยกไม่ออกว่า ไก่สดกับไก่ที่ต้มมันต่างกันยังไง คือมันจะขาวซีดเหมือนกัน แล้วตอนเด็กๆ คือยายป่วยบ่อย แม่ก็จะบนไก่ต้มบ่อยมาก พี่ชายเรา 3 คน หลังบนก็คือฉ๊กไก่จิ้มน้ำจิ่มกินกัน เราจำได้ว่าสีมันเหมือนไก่ดิบในตลาด เราไม่กินเลย และเผลอไม่กินมาจนโต จบละ เราเล่าเรื่องนี้คั่นกระดูกปลิ้นเพราะ 1 เราขอบคุณแม่ที่คลอดพี่ๆ มาก่อนเรา ตอนนี้ขอบคุณที่มีพี่คนกลางอยู่ในบ้านด้วย เราสุขสบายมาก :) โชคดีมากแล้วพี่อยู่ไทยช่วงนี้.. ตอนก่อนจะมาผ่า เพื่อนๆ ถามเราว่า พี่่คนกลางจะดูเราไหวเหรอที่บ้านกรุงเทพฯ (ห่วงด้วยเพราะเห็นเราเป็นผู้หญิง คงกลัวพี่ลำบาก) แต่โดยรวมเราต้องการแค่ของยังชีพ ยาแก้ปวด และการดูแลตัวเองเรื่องอื่นเราทำได้ แผลคอก็ไม่ต้องทำ เพราะปิดกันน้ำไว้ 2 เราได้พิจารณาตัวเองว่า เออ เราก็เป็นคนกินยากเหมือนกัน ไม่ได้ยากนักหนานะ แต่ข้อแม้เบาๆ ก็เยอะ (รวมแล้วก็คงหนัก) เพียงแต่ แบบว่า ทุกทีที่ไปไหนมาไหนได้ ก็เหาะเหินไปหากินเอง ทีนี้พอโดนจำกัด นั่งนานไม่ได้ ใช้ชีวตระยะกระจัดไม่ไกลเตียง ปวดเมื่อยก็เอนตัวงี้ แถมเป็นเมืองไทยที่เราไม่ได้ประกอบอาหารเอง พี่ก็ไม่ประกอบช่วงนี้ (บ่นว่าจะหุงข้าวเองตอนแรก แต่ขี้เกียจเปิดดูแลครัว) ก็เลยกลายเป็นถ้าเราลงรายละเอียดตัวเองเยอะ พี่จะลำบาก จบการรำพันแต่เพียงเท่านี้ จริงๆ นี่ก็เป้นชีวิตหลังผ่าอันนึงแหละ ละอันนั้นที่ตั้งไว้เป็นตอนยังเล่าไปไม่ถึงผ่าเลย เอาใส่ตอนเดี๋ยวไม่สมจริง ฮู้วววว ราตรีสวัสดิ์ค่า
|
สุขใจพริ้ว
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() เป็นบันทึกเรื่องราวทั่วไป ตามที่ใจนึกอยาก ของคนทำงานไกลบ้าน Friends Blog
Link |