เวียงนาคินทร์ ตอนที่ 54
ตอนที่ 54
พินทุมณีเทวีสดับว่าผู้ใดมาขอเข้าเฝ้าก็ทรงประหลาดพระทัยนัก ถึงต้องตรัสนางกำนัลถามซ้ำอีกรอบว่าใช่มหิตาเทวีแน่หรือ
นางมาทำไม? ไหนเชิดหน้าชูคอใส่ข้านักไง นางที่มาถวายความปฏิเสธว่ามิทราบ มหิตาเทวีมิได้มีข้อความใดทูลถวายมา
หม่อมฉันว่า...ต้องเป็นเพราะเรื่องเมื่อตอนสายแน่ๆ เลยเพคะ บัวลออออกความเห็น
กระไรรึ? นางตัวดีได้โอกาสก็ทูลฟ้อง
ว่ายังไงนะ นี่ถึงขั้นสั่งตบหน้าเจ้าเชียวรึ บังอาจไปแล้วนะ เจ้าเป็นคนของข้าแท้ๆ ทำอย่างนี้ได้ยังไง พินทุมณีเทวีบริภาษออกมายืดยาว โดยมีนางบัวลออนั่งทำหน้าน่าสงสารอยู่ข้างพระแท่น
แล้วนี่มาหาข้าถึงตำหนักได้ อยากรู้เรื่องคำทำนายล่ะสิ เจ้าฉลาดมากบัวลออที่ไม่บอกนาง นางเทวียิ้มอย่างสมพระทัยแล้วหันไปประทานคำชมให้คนสนิท บัวลออยิ้มรับทันที
คงร้อนรนสินะ นางน้องตัวดี
ไม่ร้อนจะเสด็จมาถึงที่เหรอเพคะ เมื่อครั้งก่อนทรงบริภาษใส่พระเทวีเสียใหญ่โต ว่าจะตัดพี่ตัดน้องบ้างล่ะ หม่อมฉันยังจำได้ดีเพคะ
ถ้าไม่เห็นว่าข้ามีประโยชน์คงไม่คิดจะมาสินะ ดีล่ะ งั้นให้นางนั่งรอไปก่อน
นานเท่าไรดีเพคะ
แล้วแต่ว่าข้าอยากคุยกับนางเมื่อไร เจ้าไม่ต้องไปไล่นางดอกหาน้ำหาท่าไปต้อนรับเสียให้ดี จัดเครื่องหวานไปให้นางด้วยเดี๋ยวจะหาว่าข้าไม่ต้อนรับ
ได้เพคะ นางตัวดียิ้มรับ แล้วออกไปปฏิบัติตามรับสั่งทันที
ส่วนพินทุมณีเทวีนั้นก็แสร้งซ่อนอยู่ภายในห้องบรรทมทำกิจวัตรส่วนพระองค์ไปเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะออกไปพบพระขนิษฐา เมื่อมหิตาเทวีตรัสถามนางกำนัล พวกนางก็บอกให้ทรงคอยต่อไปอีกสักครู่พระพี่นางจะเสด็จออกมา แต่อีกครู่ของพวกนางนั้นผ่านไปเป็นชั่วยาม จนเคียงฟ้าเริ่มหงุดหงิดนึกก่นด่าพินทุมณีเทวีอยู่ในใจเป็นนานสองนาน แถมบอกกับตนเองว่าหากว่ามหิตาเทวีจะตบตีพระพี่นางอีกหล่อนก็จะไม่ห้ามเลย
สองชั่วโมงต่อมาอดทนรอพินทุมณีเทวีไม่เสียเปล่านัก ไม่ยอมกลับตำหนักตามคำขอของศรีดาราและปทุมมา หล่อนยังนั่งทนรอเพราะไม่อยากเสียเที่ยวเปล่า แล้วในที่สุดการรอคอยก็สิ้นสุดเมื่อพระพี่นางยอมเสด็จออกมา หญิงสาวลุกขึ้นเดินไปหาทันที ในขณะที่เจ้าของตำหนักมีสีพระพักตร์สมพระทัยนัก
ถวายพระพรเพคะเสด็จพี่
โอ้...น้องพี่ ขอโทษที่ทำให้รอพี่เผลอหลับไปน่ะ แล้วนางพวกนี้ก็ไม่กล้าปลุกเลยทำให้เจ้าต้องรอนานแบบนี้ แน่นอนว่าเคียงฟ้ารู้ดีว่ามันเป็นคำเท็จ แต่ยังยิ้มอย่างอ่อนหวานให้พินทุมณีเทวี
ว่าแต่เจ้ามีธุระใดกับพี่รึ? วันนี้ถึงได้มาหาถึงตำหนักได้ ไหนเจ้าว่าไม่อยากมาที่นี่แล้วอย่างไรเล่า หญิงจากอนาคตกาลยืนนิ่งไปเล็กน้อย แต่มิได้จนมุมเสียทีเดียว
ก็แหม...คราวก่อนเสด็จพี่สู้อุตส่าห์ไปเยือนตำหนักน้องก่อน หนำซ้ำยังส่งข้าวของมาช่วยงานบุญอีกด้วย แล้วเยี่ยงนี้จะให้น้องแข็งกระด้างต่อเสด็จพี่ต่อไปได้อย่างไรเล่าเพคะ เรื่องที่ผ่านมานั้นไม่รู้ภูติผีตนใดมันเข้าสิงสู่ใจน้อง อาจเป็นเพราะน้องกำลังเสียใจเรื่องพี่กุสุมาลย์มากเกินไปก็ได้ จึงได้ล่วงเกินเสด็จพี่ไปโปรดอย่าได้ถือสาเลย
หล่อนชมตัวเองว่าพูดคล่องแคล่วอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ดูท่าจะเรียนรู้วิชาหว่านวจีมาจากพินทุมณีเทวีมาพอสมควรแล้ว จึงได้ทดลองใช้บ้างซึ่งก็ได้ผลเป็นอย่างดี พระพี่นางของมหิตาเทวีทรงแย้มสรวลตอบอย่างหวานเลี่ยน ดวงเนตรนั้นก็ฉายแววรู้เท่าทัน เพียงแต่มิได้ตรัสอันใดออกมาให้ทิ่มแทงพระทัยกันอีก
พี่เข้าใจ พี่จะไปถือสาน้องได้อย่างไร ตอนนั้นน้องคงเสียใจแทบบ้า ไหนจะนางกำนัลอันเป็นที่รักตายจาก ไหนจะถูกสวามีตำหนิเอา ไหนจะถูกเสด็จแม่ลงทัณฑ์เอาอีก นี่พี่ก็ตั้งใจจะทูลขอให้เสด็จแม่ยกโทษให้เจ้าอยู่เหมือนกันนะ แต่เจ้าของวิชาตอบกลับหวานล้ำเสียยิ่งกว่า ทำเอาเคียงฟ้าเผลอทำหน้าขมขื่นแต่ต้องรีบปั้นหน้ายิ้มรับ
มานั่งนี่เถิด มานั่งข้างพี่ พระนางชี้ที่ว่างข้างวรกาย นี่พวกเจ้าหาอะไรมารับรองน้องข้าหรือยัง อย่าให้เสียชื่อตำหนักเราได้
อย่าลำบากเลยเพคะเสด็จพี่ พวกนางหาขนมมาให้น้องเสวยจนอิ่มหนำแล้ว หล่อนไม่จะพิธีรีตองใดๆ อีก จึงตัดเข้าประเด็นทันที
ที่มาวันนี้น้องมีเรื่องใคร่ทูลถามเสด็จพี่
เรื่องกระไรรึ? พินทุมณีเทวีแสร้งทำสีพระพักตร์ประหลาดใจได้สมจริงยิ่งนัก
เมื่อสายน้องพบบัวลออที่อโศกคยา นางเล่าให้น้องฟังว่าโหรหลวงได้ทำนายทายทักเกี่ยวกับการศึกครั้งนี้ น้องใคร่รู้นักได้ยินว่าเกี่ยวข้องกับเสด็จพี่ภูวิษะของน้องด้วย
หืม? แล้วไยเจ้าไม่ถามภูวิษะเสียเองเล่า เขาย่อมจะรู้ดีกว่าพี่นัก เคียงฟ้าสะอึกไปบ้างจะให้ตอบอย่างไรเล่าว่าภูวิษะเจ้าหมางเมินพระชายาอย่างยิ่ง คำน้อยก็ไม่ตรัสต่อกัน
เสด็จพี่ไม่ค่อยนำเรื่องราชกิจมาเล่าให้น้องฟังดอกเพคะ มันเป็นเรื่องของบุรุษ เมื่อตอบไปแล้วก็นึกชมตนเองขึ้นมาว่านี่คงจะเป็นวจีของมหิตาเทวีเป็นแน่ อย่างหล่อนหรือจะเอาประเพณีมาเลี่ยงความได้แบบนี้ ดังนั้นจึงค่อยคลายใจว่าดวงจิตของมหิตาเทวีจะไม่ลุกขึ้นมาอาละวาดด่าทอพินทุมณีให้เสียเรื่องไปเสียก่อน
โถ...เขาคงกลัวเจ้าคิดมากกระมัง เมื่อตรัสตอบแล้วก็แย้มสรวล กระตุ้นความอยากรู้ของผู้ฟังให้มากขึ้น
น้องย่อมเป็นกังวลแน่เพคะ การศึกการสงครามเอาแน่เอานอนไม่ได้ ใครเล่าจะอยากให้สวามีที่รักไปรบกัน
น้องพี่เรื่องนั้นเจ้าไม่ต้องเป็นกังวลดอก ท่านโหรทำนายว่าศึกนี้เราจะชนะอย่างแน่นอน เจ้าก็ดูเอาสิเมืองปาลเล็กจ้อยแค่นั้นบังอาจแข็งขืนเอาใจออกห่างจุมภะคิดใคร่ไปพึ่งพะโค หากเกิดศึกประชิดเมืองขึ้นมาคิดหรือว่าพะโคจะส่งทัพมาช่วยทัน
พินทุมณีเทวีกล่าวมิผิดพลาด หากเทียบระยะทางระหว่างพะโคกับจุมภะปุระแล้ว จุมภะยังใกล้กว่ามากนัก ดังนั้นหากพิชิตเมืองปาลให้ราบคราบได้ก่อนที่พะโคจะยกทัพมาทันนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยาก ดวงเนตรพระนางเป็นกายเหยียดหยามนักยามเมื่อตรัสถึงเมืองน้อยที่ไม่อาจทาบบารมีนครใหญ่อย่างจุมภะปุระได้
ส่วนพระขนิษฐาของพระนางเล่ากำลังตื่นตะลึงที่พินทุมณีเทวีตรัสวิเคราะห์ได้เฉียบคมยิ่งนัก จนไม่น่าเชื่อว่าสตรีที่ไม่เคยสนใจเรื่องการศึกสงครามหรือการบ้านการเมืองใดๆ อย่างพระภคินีจะทรงปราดเปรื่องถึงเพียงนี้ แต่ไม่นานนักเคียงฟ้าก็นึกขึ้นมาได้ว่าพินทุมณีเทวีคงจะได้ฟังกระทู้การศึกนี้มาจากพระสวามีเป็นแน่แท้ คงมิใช่ว่าพระภคินีจะเข้าใจทุกสิ่งได้ด้วยพระสติปัญญาขององค์เอง
สวามีของเจ้าก็ปรีชาเลิศล้ำมิใช่น้อย แล้วก็มิได้ไปแต่ผู้เดียวเสียหน่อย เจ้าอย่าได้กังวลไป
ขอบพระทัยเพคะ แล้วท่านโหรว่าเพียงแค่นี้เท่านั้นรึเพคะ?
ยังมีอีกข้อ...แต่ว่า เจ้าไม่รู้จะดีกว่า นางเทวีแสร้งทำเป็นถอนหทัย ทำเอาเคียงฟ้าเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีกเป็นคำรบสอง ว่าพินทุมณีเทวีจะลีลาอีกนานหรือไม่
มีกระไรไม่ดีหรือเพคะ? หล่อนยังแสร้งตีหน้าใส่ซื่อถามต่อไป ในขณะที่พระพี่นางชม้ายดวงเนตรมามอง ด้วยสีพระพักตร์เห็นพระทัยพระขนิษฐานยิ่งนัก จนหล่อนอุปทานไปว่าความหมายในแววเนตรนั้นคือเวทนาเลยด้วยซ้ำ
บอกน้องมาเถิดเพคะ
เจ้าสัญญากับพี่ก่อนนะ หากรู้แล้วจะไม่เก็บไปคิดมาก ยิ่งเกริ่นหญิงสาวก็ยิ่งแปลกใจ เริ่มรู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมาทันที
หากเป็นเรื่องไม่ดี สู้หาทางป้องกันไว้ก่อนไม่ดีกว่าหรือเพคะ?
มันมิใช่เรื่องไม่ดี หนำซ้ำยังเป็นเรื่องมงคลด้วยซ้ำ
เรื่องมงคล? พระภคินีพยักพักตร์
นอกจากจะตีเมืองปาลได้แล้ว อาจจะ...ได้เจ้าหญิงของปาลปุระมาเป็นสนมอีกด้วย
หมายความว่ายังไงเพคะ? นี่มีการเจรจาเกิดขึ้นแล้วรึ? หล่อนกรีดร้องด้วยความตกใจ
ยังดอก ยังไม่มีการเจรจาความใดๆ เพียงแต่... พินทุมณีเทวีจงใจเว้นวรรคการตรัสลงชั่วขณะ แล้วหันมาสำรวจสีพระพักตร์ขององค์ขนิษฐา
เพียงแต่กระไรเพคะ? หญิงอ่อนหัดอย่างไรก็มิทันเล่ห์ เคียงฟ้าจึงกระโจนลงสู่กับดักที่พระพี่นางวางไว้ทันที ท่านโหรทำนายว่า ผู้นำทัพในครั้งนี้จะมีฤกษ์วิวาห์! หล่อนไม่รู้ว่าตนเองมีสีหน้าอย่างไร ยามที่รับฟังคำทำนายดังกล่าวแต่คงไม่สู้ดีนัก สังเกตได้จากแววเนตรของพินทุมณีเทวีที่ทอดมาอย่างสมเพชเวทนาเต็มที่
แต่เสด็จพี่สัญญากับน้องว่าจะไม่มีหญิงอื่น ถ้อยดำรัสรำพันออกมาราวตกอยู่ในภวังค์ เคียงฟ้าเสียวแปล่บทันทีเมื่อดวงจิตของมหิตาเทวีเริ่มมีปฏิกิริยา หล่อนพยายามอย่างยิ่งที่จะตั้งสติให้อยู่เหนือจิตดวงเดิมในอดีตกาล
อย่าเพิ่งคิดมากไป คำทำนายมีเพียงผู้นำทัพเท่านั้น ยังมิได้ระบุว่าเป็นภูวิษะเสียหน่อย จะให้แน่นอนก็คงต้องนำดวงสวามีเจ้ามาตรวจดูอีกครั้ง แต่ได้ยินว่าเขาไม่ยินยอมนี่ แล้วยังไม่สนใจคำทำนายอีกด้วย พระพี่นางดำริไปถึงสุรเสียงของพระสวามี ยามที่ตรัสเล่าถึงท่าทางยะโสของเจ้านาคราช
ภูวิษะ กล่าวว่าการจะมีคู่นั้นขึ้นอยู่กับใจตนเองเท่านั้น ถึงไปรบก็คงมิได้เมียกลับมาดอก กาลนั้นราชบุตรเขยชยาทัตเมื่ออยู่ตามลำพังกับพระชายาแล้ว จึงไม่เก็บสีพระพักตร์และบอกเล่าด้วยความไม่พอพระทัยต่อภูวิษะเจ้า
ภูวิษะเป็นคนน่าชังนัก อวดดี โอหัง มิเกรงกลัวผู้ใด คนอย่างนี้ให้เป็นใหญ่ขึ้นมาคงไม่เห็นหัวใคร ยิ่งถูกมหิตาส่งเสริมเช่นนี้ด้วยแล้วล่ะก็ พระนางรีบเสริมเอาพระทัยพระสวามี
จริงของเจ้า แต่ชายผู้นี้มีความสามารถ ทั้งเฉลียวฉลาดรอบรู้ ท่าทีหรือก็องอาจผึ่งผาย ข้าสงสัยว่า...เขามิใช่สามัญชน อาจเป็นเจ้าชายจากเมืองใดเมืองหนึ่ง
แล้วไยต้องปิดฐานะเล่าเพคะ?
คนเราถ้าบริสุทธิ์ใจ ไยต้องปิดบังที่มาที่ไป ยิ่งไปกว่านั้นสืบหาก็ไม่พบประวัติอีกด้วย นับว่ากลบเกลื่อนร่องรอยแนบเนียนนัก ต้องระวังคนผู้นี้ให้มากอย่าให้เป็นใหญ่ขึ้นมา
แล้วหม่อมฉันจะทำเยี่ยงไรดีเพคะ น้องสาวของหม่อมฉันหลงรักชายผู้นั้นอย่างไม่ลืมหูลืมตาด้วยซ้ำ ดูแต่นางกำนัลที่โตมาด้วยกันอย่างกุสุมาลย์นางยังขับไสให้ไปตายเพียงเพราะพิษรักแรงหึง ทั้งที่กุสุมาลย์เป็นเพียงนางกำนัลอันต่ำต้อยไม่มีอันใดหาญมาเทียบเคียงนางได้ด้วยซ้ำ
พินทุมณีดวงใจของข้า จงฟังเอาไว้ หากเจ้ามีโอกาสจงใช้ความหึงสาพยาบาทของมหิตาให้เป็นประโยชน์ บุรุษนั้นจะพินาศได้ด้วยสตรี
ตะ...แต่ว่า เราเพียงแค่หาทางขับไล่ภูวิษะออกไปให้พ้นธานีก็น่าจะพอแล้วนี่เพคะ ถ้าไปยุยงมากมหิตาก็มีแต่เจ็บปวด แค่นี้นางก็แทบจะเป็นบ้าไปแล้ว ดูสิคราวก่อนถึงกับบุกมาตบตีข้าถึงตำหนัก
ก็นี่อย่างไรเล่าหลักฐานแห่งความลุ่มหลง มันบ่งชี้ไม่ว่าภูวิษะจะทำสิ่งใดต่อให้ชั่วร้ายเลวทรามต่อจุมภะแค่ไหน หญิงที่ลุ่มหลงบุรุษเยี่ยงนั้น คงจะลืมเลือนศักดิ์ฐานะแห่งเทวีจุมภะ
ก็เป็นไปได้ ถ้าอย่างนั้นน้องจะรีบตักเตือนมหิตาเสียแต่เนิ่นๆ นะเพคะ
พินทุมณีเจ้าอย่ามองทุกอย่างดีงามเกินไป มหิตาหรือจะฟังเจ้ายามนี้นางเกลียดชังเจ้ายิ่งกว่าสิ่งใด ทั้งที่เจ้าเป็นพี่สาวร่วมอุทรของนางแท้ๆ พินทุมณีเทวีอับจนถ้อยวจีจำต้องเงียบไป
เจ้ารักจุมภะหรือไม่?
รักสิเพคะ ตรัสมาได้ จุมภะเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของน้องนะเพคะ
แล้วรักพี่หรือไม่? คราวนี้พินทุมณีเทวีแย้มสรวลพระเนตรหวานเชื่อมทอดองค์เข้าสวมกอดพระสวามี
สิ่งนั้นมิต้องตรัส ก็ทรงแน่แก่พระทัยได้เลยเพคะ พินทุมณีผู้นี้มอบดวงใจไว้รองบาทเสด็จพี่เนิ่นนานแล้ว ราชบุตรเขยชยาทัตฟังรับสั่งแล้วก็แย้มสรวลออกมาอย่างพอพระทัย
แล้วเจ้าเชื่อพี่หรือไม่
เสด็จพี่ชาญชัยยิ่งกว่าผู้ใด ใครเลยจะเทียบเคียงได้ น้องก็มีแต่ต้องพึ่งบารมีเสด็จพี่เท่านั้น ยามอยู่กับพระสวามีอันเป็นที่รักถ้อยดำรัสนั้นล้วนแต่หอมหวานทั้งสิ้น แต่พินทุมณีเทวีหาได้ตรัสเกินจริงไม่
ชยาทัตผู้นี้เป็นบุรุษที่จัดได้ว่ารูปงามแม้จะไม่ทรงโฉมเท่าภูวิษะเจ้า แต่เป็นคนเฉลียวฉลาดนักยามที่เข้าพิธีเลือกคู่ ชยาทัตเป็นผู้เดียวที่ตอบปริศนาธรรมได้ทุกประการ ยังความชื่นชมแก่พระบาทเจ้าและมหาเทวียิ่งนัก ก่อนหน้านั้นกมุทรามหาเทวีทรงเป็นกังวลเรื่องราชบุตรเขยที่จะมาเป็นคู่กับพินทุมณีเทวี
ด้วยความที่พินทุมณีเทวีเป็นเจ้าหญิงแห่งจุมภะพระนางจึงเอาแต่พระทัย ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องเรียนเขียนอ่านเท่าใดนัก และด้วยความที่เป็นสตรีจึงไม่ถูกกวดขันเท่าบุรุษ เพียงแค่อ่านออกเขียนได้ แต่งกาพย์ กลอน และจัดเรียงบัญชีได้ แค่นี้ก็นับว่าประเสริฐแล้ว หากเรื่องการบ้านการเรือนมิได้บกพร่องจึงไม่ได้มีความจำเป็นต้องขวนขวายเท่าใดนัก
ทั้งพระบาทเจ้าและมหาเทวีจึงมีพระประสงค์จะได้ราชบุตรเขยที่เป็นบัณฑิตสักพระองค์ เพื่อจะเป็นคู่คิดคู่เคียงนำพาราชธิดาของพระองค์ไปได้ ชยาทัตเป็นบุคคลที่ได้รับเลือกจากบุรุษหลายร้อยคนที่มาเข้าพิธีคัดเลือกราชบุตรเขย มีทั้งความเฉลียวฉลาด ทั้งฝีปากเป็นเอกในด้านการทูต และท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตน จึงเป็นที่พอพระทัยโปรดให้สยุมพรกับพินทุมณีเทวี แม้มิได้เป็นเจ้าชายสูงศักดิ์ก็ตาม
พินทุมณีหากมหิตาร้อนรุ่ม ภูวิษะหรือจะอยู่ได้
หมายความว่าอย่างไรเพคะ?
หากปล่อยให้คนผู้นี้ทำความดีความชอบต่อไป จะเป็นที่โปรดปรานของพระบาทเจ้ายิ่งขึ้น ทีนี้อย่าว่าแต่เจ้าชายอนันตราชก็อย่าหมายว่าจะได้เป็นเจ้านครองค์ถัดไปเลย
ขนาดนั้นเทียวหรือเพคะ? พินทุมณีเทวีเริ่มวิตกกังวลตามน้ำคำพระสวามี
เจ้าคงคิดว่าพี่วิตกมากเกินไป ถ้าอย่างนั้นลองไปถามกมลาภาเทวีดูสิ ว่ารู้สึกกังวลแทนเจ้าชายอนันตราชหรือไม่
เมื่อเอ่ยอ้างไปถึงเจ้าหญิงพระองค์โตแห่งจุมภะแล้ว ก็เป็นที่รู้กันว่ากมลาภาเทวีหมายจะนั่งบัลลังก์ทองเคียงคู่กับเจ้าชายอนันตราชผู้เป็นสวามี ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีผู้ใดเหมาะสมหรือโดดเด่นเท่า ทั้งชาติตระกูล ทั้งเรื่องการยกทัพจับศึก เจ้าชายอนันตราชนั้นปรีชาสามารถนัก
จริงด้วยสิ...เมื่อครั้งก่อนนั้น ภูวิษะเป็นผู้ได้หน้าในการนำชัยมาสู่จุมภะ หาใช่เจ้าชายอนันตราช แต่กับยกเจ้าหญิงบรรณาการให้ไป เรื่องนี้เสด็จพี่กมลาภาพิโรธหนักไปหลายเดือนเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนั้น พี่คิดว่าภูวิษะหมายปองจะขึ้นครองบัลลังก์ นอกจากกัมลาภาเทวีแล้วก็มีมหิตาน้องของเจ้านี่แหละ เป็นที่โปรดปราน ให้ช่วยราชกิจต่างๆ เจ้าฟังแล้วคิดเห็นเป็นอย่างไรเล่า?
นั่นสิเพคะ ภูวิษะเป็นผู้ใดก็มิมีใครทราบ ทั้งเทือกเขาเหล่ากอถิ่นกำเนิดทุกอย่างดูเป็นปริศนาไปหมด บางทีเขาอาจมาที่นี่ด้วยจุดประสงค์บางอย่างถึงต้องปิดบังตัวตนเอาไว้
ป้องกันไว้ดีกว่าแก้ หากเขาไม่มีความประสงค์ร้าย มิได้เป็นสายของเมืองใดก็ดีไป พี่มิได้ประสงค์จะทำร้ายเขาเพียงแต่อยากให้หยุดอยู่เพียงแค่การเป็นสวามีของมหิตาก็พอแล้ว
อืม...ม อย่างนี้นี่เอง ถ้าว่ารักกันนักหนาทำอะไรพลาดมหิตาก็ช่วยปกป้องอยู่ดี ขอเพียงไม่ให้คนผู้นี้สร้างความดีความชอบเท่านั้นก็พอใช่ไหมเพคะ ? พระสวามีมิได้ตรัสตอบเพียงแค่แย้มสรวลและส่งแววเนตรชื่นชมมายังพระชายา เพียงเท่านี้พินทุมณีเทวีก็อ่อนระทวยอยู่ในวงพาหาแล้ว
และถ้ามัวแต่ทะเลาะกับมหิตาก็ขาดซึ่งสมาธิจะทำการใดได้
ใช่แล้ว! พินทุมณีเจ้าชาญฉลาดนัก!
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Create Date : 24 กรกฎาคม 2556 |
Last Update : 24 กรกฎาคม 2556 7:29:15 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1836 Pageviews. |
|
|