CSI : Grave Danger เควนติน ตารันติโนจากโลกมืดสู่แสงสว่าง
CSI : Grave Danger เควนติน ตารันติโน จากโลกมืดสู่แสงสว่าง- พล พะยาบ - คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 11 กันยายน 2548 อาจเพราะกระแส สืบจากศพ ยังอยู่ในความสนใจของคนไทย ซีรีส์หรือหนังชุดทางโทรทัศน์เรื่อง CSI : Crime Scene Investigation เกี่ยวกับหน่วยนิติวิทยาศาสตร์แห่งลาส เวกัส ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงในอเมริกา จึงได้รับความนิยมในบ้านเรา ตั้งแต่มาฉายทางเคเบิลทีวี ต่อด้วยฟรีทีวี และล่าสุดเป็นหนังแผ่นให้ซื้อให้เช่ากันได้ตามสะดวก จนถึงปัจจุบัน CSI ที่อเมริกา เดินทางมาถึงปีที่ 7 มีการแตกแขนงออกมาเป็น CSI : Miami และ CSI : New York โดยเปลี่ยนฉากหลังไปตามชื่อชุด พร้อมทีมตัวละครใหม่ โดยนำดาราที่เป็นที่รู้จัก ไม่ว่าจะเป็น เดวิด คารูโซ และแกรี่ ซีนีส มาแสดงนำ โดยส่วนตัวผู้เขียนชอบดูซีรีส์ที่มีเรื่องราวต่อเนื่องอย่าง ER, Six Feet Under หรือ Lost มากกว่าซีรีส์ที่เรื่องราวจบในตอนอย่าง CSI ซึ่งมีรูปแบบการเล่าเรื่องซ้ำเดิม เพราะมีข้อจำกัดเรื่องเวลา แต่อาศัยว่าสมาชิกในบ้านหลายคนโปรดซีรีส์ชุดนี้เป็นพิเศษ ผู้เขียนจึงมีโอกาสได้ดูกับเขาบ้าง ทำให้พอรู้จักตัวละคร ทั้งคาแร็กเตอร์และเรื่องราวของแต่ละคน และวิธีการนำเสนอที่เรียกได้ว่าเป็นรูปแบบตายตัวของซีรีส์ชุดนี้ ที่สำคัญคือ ได้รู้ข่าวว่าผู้กำกับฯคนโปรดโดดมาร่วมขบวนการสืบจากศพในวาระปิดท้ายปีที่ 5 ชื่อตอน Grave Danger ความยาว 2 ชั่วโมง หรือประมาณ 85 นาที ไม่รวมโฆษณา ซึ่งออกฉายในสหรัฐช่วงเดือนพฤษภาคม 2548 ผู้กำกับฯคนนั้นก็คือ เควนติน ตารันติโน เจ้าตำรับหนังอินดี้หวือหวาอย่าง Pulp Fiction(1994) และ Kill Bill(2003-2004) นั่นเอง เควนติน ตารันติโน จะทำ CSI ออกมาอย่างไร ผู้กำกับฯที่มีสไตล์เฉพาะตัว จนเรียกได้ว่ามีลายเซ็นเป็นของตนเอง จะเสกสรรค์ปั้นแต่งการสืบคดีปริศนาออกมาได้หวือหวาแค่ไหน นี่คือความน่าสนใจให้ติดตามชม Grave Danger เป็นคดีที่เกิดขึ้นกับนิค(จอร์จ เอดส์) หนึ่งในตัวละครหลัก ถูกลักพาตัวไปฝังทั้งเป็นในโลงพลาสติกใส โดยคนร้ายติดกล้องถ่ายทอดสดภาพนิคในโลงศพมาให้ CSI เฝ้าดู พร้อมเรียกเงิน 1 ล้านเหรียญเป็นค่าไถ่ตัวนิค ทีม CSI นำโดย กริสซั่ม(วิลเลี่ยม แอล. ปีเตอร์เซน) แคทเธอลีน(มาร์ก เฮลเกนเบอร์เกอร์) วอร์ริค(แกรี่ เดอร์ดัน) ซารา(จอร์จา ฟอกซ์) และเกร็ก(อีริค ซแมนดา) จึงต้องร่วมมือกันอย่างเต็มความสามารถ เพื่อช่วยเพื่อนให้ได้ก่อนเส้นตายคืออากาศหายใจในโลงศพจะหมดลง จากเรื่องราว นับว่านี่คือตอนพิเศษสำหรับ CSI จริงๆ เพราะเป็นคดีที่หน่วย CSI ที่มีหน้าที่คลี่คลายความเดือดร้อนของคนอื่น ต้องตกเป็นเหยื่อโดยตรงเสียเอง อีกทั้งการสืบคดีมิใช่แค่สืบหาคนร้าย แต่ต้องใช้นิติวิทยาศาสตร์ค้นหาเพื่อนร่วมงาน ได้เห็น 2 ทีม CSI ทั้งกะเช้าและกะค่ำร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว เห็นความห่วงใยซึ่งกันและกัน(แม้กระทั่งหัวหน้าซึ่งมักจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับลูกน้องอย่างเอคลี่) ซึ่งที่ผ่านมาหนังไม่ได้เปิดโอกาสให้พวกเขาแสดงความรู้สึกต่อกันเท่าใดนัก เหล่านี้คือความแปลกใหม่ซึ่งปรากฏใน Grave Danger อย่างไรก็ตาม ส่วนที่แฟนขาประจำ CSI คุ้นเคยก็ยังอยู่ครบถ้วน ทั้งขั้นตอนการสืบคดี ภาพคอมพิวเตอร์กราฟิกจำลองเหตุการณ์ที่ไม่อาจมองเห็นได้ หรืองานโปรดักชั่นอย่างการถ่ายภาพ การตัดต่อ ที่เป็นไปตามรูปแบบเดิม จนเรียกได้ว่าถ้าไม่บอกว่าเป็นผลงานของผู้กำกับฯใหญ่ก็คงไม่มีใครสังเกต แล้วเหตุใดเควนติน ตารันติโน ลงมือเองทั้งทีจึงปล่อยให้งานออกมาเช่นนี้ เหตุผลแรก แม้ตารันติโนจะเป็นเจ้าของพล็อตเรื่อง แต่ก็ไม่ได้เขียนบทเอง ซึ่งต่างจากหนังที่เขากำกับเรื่องอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษคือ แม้ว่า Grave Danger จะเป็นตอนที่ยืดเวลาพอจะเป็นหนังยาวได้ 1 เรื่อง แต่การฉายทางโทรทัศน์ที่ต้องมีโฆษณาคั่น การนำเสนอย่อมไม่สามารถขยับขยายยืดหยุ่นเรื่องราวได้เหมือนกับหนังฉายในโรง เพราะจะถูกกำกับอย่างเคร่งครัดด้วยบทหนังซึ่งกำหนดเวลาไว้ตามสคริปต์รายการ นอกจากนี้ การฉายทางโทรทัศน์ซึ่งถูกควบคุมระดับการนำเสนอ เท่ากับเป็นการปิดโอกาสตารันติโน ปล่อยของ ตามสไตล์ตนเอง ไม่ว่าจะเป็นคำพูดดิบหยาบ ฉากความรุนแรง นอกจากนี้ ยังมีแฟนประจำ CSI หลายล้านคนติดตามชมอยู่ จึงต้องเลี่ยงกลวิธีการเล่าเรื่องและสไตล์ด้านภาพพิลึกพิลั่นแหกขนบซึ่งอาจเสี่ยงต่อผลลัพธ์ด้านลบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่คือตอนส่งท้ายที่ควรสร้างความประทับใจให้ผู้ชม ดังนั้น แฟนเดนตายที่คิดจะได้เห็น CSI ในแบบตารันติโน จึงต้องผิดหวังไปตามระเบียบ แล้วขาใหญ่อย่าง เควนติน ตารันติโน ได้ใส่สไตล์เฉพาะตัวให้เห็นเป็นรูปธรรมอย่างไรบ้าง ประการหนึ่งคือเขาเป็นเจ้าของพล็อตเรื่อง ความคิดที่ให้ตัวละครถูกฝังทั้งเป็นก็นำมาจากเหตุการณ์ เจ้าสาว(อูมา เธอร์แมน) ถูกฝังทั้งเป็นใน Kill Bill Vol.2 (2004) ภาพความคิดคำนึงของนิค ช่วงที่เขาสูญเสียสัมปชัญญะเพราะขาดออกซิเจนและพิษของมดที่รุมกัด โดยเห็นร่างกายตนเองถูกเพื่อนชันสูตร ผ่าตัดเอาอวัยวะภายในออกมา เป็นตลกร้ายตามสไตล์ตารันติโน ถ้าเป็น CSI ตอนปกติไม่มีทางได้เห็นอารมณ์ประมาณนี้แน่ เพลงประกอบย้อนยุคแบบที่ตารันติโนชอบนำมาใส่ไว้ในหนังก็มีให้ได้ยิน นั่นคือเพลง Outside Chance ของ The Turtles ดังมาจากข้อความเรียกค่าไถ่ที่คนร้ายส่งมาให้ ที่เป็นไฮไลต์คือ ฉากที่แคทเธอลีนไปขอเงินล้านเหรียญจากพ่อผู้เป็นเจ้าของกาสิโน มีนักแสดงรุ่นเก่าอย่างโทนี่ เคอร์ติส และแฟรงค์ กอชชิน มาแสดงเป็นตนเองกำลังสนทนารำลึกความหลังเกี่ยวกับภาพยนตร์ช่วงทศวรรษที่ 70 อันเป็นยุคทองที่ตารันติโนหลงใหลนั่นเอง เรียกว่ายังเหลือร่องรอยยี่ห้อ ตารันติโน ให้เห็นพอเป็นกระสัย อีกจุดหนึ่งที่ต้องกล่าวถึงคือ นี่คือหนังเรื่องแรกที่ตารันติโนหันหลังให้กับการนำเสนอโลกอาชญากร โลกมืดของคนนอกกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นมือปืน นักฆ่า โจร นักพนัน นักต้มตุ๋น คนเสพยา เปลี่ยนมายืนอยู่บนฝั่งของผู้รักษากฎหมายแทน เหมือนจอมเปิบเนื้อสัตว์หันมาถือศีลกินมังสวิรัตซะอย่างงั้น... คนที่ติดตามงานของตารันติโนมาตั้งแต่ Reservoir Dogs หากอยากสัมผัสโลกด้านสว่างของตารันติโนก็ต้องหา Grave Danger มาชมไม่แน่...นี่อาจเป็นเรื่องแรกและเรื่องสุดท้ายก็ได้
Create Date : 20 กรกฎาคม 2549
3 comments
Last Update : 21 สิงหาคม 2549 2:23:20 น.
Counter : 2646 Pageviews.
โดย: duldb 20 กรกฎาคม 2549 6:03:33 น.
โดย: sunnyJa 25 ตุลาคม 2555 12:16:01 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30 31