เพราะถึงอย่างไร การจะดูหนังให้สนุก ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะหนังที่สะท้อนภาพของเหตุการณ์จริงในอดีตอย่าง Life Is a Miracle เรื่องนี้
Life Is a Miracle นับว่าเป็นงานเด่นเรื่องแรกจากประเทศ เซอร์เบียและมอนเตเนโกร เพราะชื่อนี้เป็นชื่อที่เพิ่งตั้งเป็นทางการเมื่อปี 2003 แทนชื่อยูโกสลาเวียเดิม *
แต่หากกล่าวถึงชื่อยูโกสลาเวียบนเวทีหนังโลกแล้ว ถือได้ว่าไม่ใช่คนแปลกหน้าแปลกตาแต่อย่างใด ถ้านับเฉพาะผลงานของผู้กำกับฯชาวบอสเนียนอย่าง อีมีร์ คูสตูริซา(Emir Kusturica หรืออีมีร์ คูสตรูริกา ชื่อที่คุ้นตานักดูหนังบ้านเรา) เขาเคยคว้าปาล์มทองมาแล้วถึง 2 ครั้ง กับ When Father Was Away on Business ปี 1985 และ Underground ปี 1995 ยังไม่นับรางวัลอื่นจากทั่วโลกอีกหลายต่อหลายรางวัล
ขณะที่ When Father Was Away on Business และ Underground คูสตูริซากล่าวถึงช่วงเวลาต่อเนื่องกันนับแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงหลังสงครามที่นายพลติโตปลดแอกยูโกสลาเวียจากโซเวียต มาถึง Life Is a Miracle คูสตูริซาหยิบเหตุการณ์คาบสมุทรบอลข่านมาเล่าในแนวทางตลกร้ายอย่างที่เขาเคยทำกับ Underground
สงครามที่ดุเดือดในสมรภูมิได้ขยายวงมาถึงตัวคูสตูริซา เขาเดือดดาลกับการประหัตประหารผู้บริสุทธิ์ถึงกับท้าดวลกับ โวญีสลาฟ เซเซลจ์ นักชาตินิยมหัวรุนแรงและเป็นผู้นำกองกำลังทหารชาวเซิร์บ(ภายหลังถูกศาลโลกฟ้องในคดีอาชญากรสงคราม) นอกจากนี้เขายังเขียนคำร้องอันเผ็ดร้อนเกี่ยวกับสถานการณ์ในบ้านเกิดของเขาลงในหนังสือพิมพ์ La Monde ของฝรั่งเศส
คูสตูริซาเจ็บปวดอย่างยิ่ง บอกว่าสงครามนี้ฆ่าพ่อของเขา และตัดขาดกับซาราเยโวบ้านเกิดนับแต่นั้น แม้แต่ตอนถ่ายทำ Life Is a Miracle เมื่อไม่นานนี้ ซึ่งสถานที่ถ่ายทำอยู่ไม่ไกลจากบ้านเก่า คูสตูริซาก็ไม่ยอมแวะไปที่นั่น
ปี 1998 Black Cat, White Cat ส่งให้เขาได้รางวัลสิงโตเงินหรือรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมที่เวนิซ
ก่อนจะมี Life Is a Miracle งานที่น่าจะทำให้คูสตูริซาลบล้างข้อกล่าวหาได้สำเร็จ
-3-
ก่อนหน้า Life Is a Miracle ปี 2001 มีหนังเรื่องเยี่ยมที่สะท้อนภาพสงครามคาบสมุทรบอลข่าน นั่นคือ No Mans Land จากบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา เกี่ยวกับทหารเซิร์บและทหารบอสเนียนที่พลัดหลงมาอยู่ด้วยกันในหลุมเพลาะในเขตกลางสมรภูมิพร้อมด้วยปืนเพียง 1 กระบอก
สำหรับ Life Is a Miracle นั้นต่างออกไป หนังนำเสนอด้วยอารมณ์ ยั่วล้อ และมีส่วนผสมของแฟนตาซี เสียงดนตรีที่เน้นเครื่องเป่า จังหวะคึกคัก(โดยวง The No Smoking Orchestra ที่คูสตูริซาเป็นสมาชิกในตำแหน่งเบส) ฟังราวกับงานรื่นเริง ทำให้หนังดูสนุกสนาน ไม่เครียด แม้ตอนที่ตัวละครกำลังเผชิญวิกฤต
สัตว์ เป็นองค์ประกอบที่คู่กับหนังของคูสตูริซา เขามักใช้สัตว์หลากชนิดเป็นภาพเปรียบกับสังคมมนุษย์อันยุ่งเหยิง ใน Underground สัตว์ปรากฏตั้งแต่ตอนต้นในฉากเครื่องบินทิ้งระเบิดใส่เมือง สวนสัตว์ถูกทำลาย สัตว์ตายเกลื่อน ที่เหลือรอดก็กินกันเอง ใน Black Cat, White Cat มีทั้งสุนัข แมว เป็ด ไก่งวง หมู
ส่วนใน Life Is a Miracle นอกจากลาแล้ว ยังมีฝูงสัตว์เลี้ยงที่บ้านของลูกา ทั้งสุนัข แมว เป็ด ไก่ ที่อาศัยอยู่ด้วยกันแต่ไล่ตีไล่ฟัดกันตลอดเวลา เปรียบเหมือนสงครามของมนุษย์ชาติเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีหมีที่ปรากฏช่วงต้นเรื่อง และเป็นมุขตลกร้ายที่แสบไม่ใช่เล่น
อย่างที่กล่าวไว้ตอนที่แล้วว่า Life Is a Miracle น่าจะช่วยแก้ข้อกล่าวหาให้คูสตูริซาเมื่อครั้งทำ Underground ว่าเข้าข้างฝ่ายเซิร์บ เนื่องจากคราวนี้แม้เขาจะใช้ตัวละครชาวเซิร์บเป็นพระเอก แต่พระเอกเซิร์บคนนี้ก็ตกหลุมรักสาวมุสลิมบอสเนียน และไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ท่าทางจะดูสนุกแบบปลกๆ นะคะ