Italian for Beginners อิตาลีสื่อรัก
Italian for Beginners อิตาลีสื่อรักพล พะยาบ คอลัมน์อาทิตย์เธียเตอร์ มติชนรายวัน 8 ตุลาคม 2549 แม้กระแสด็อกม่า 95 ของขบวนแถวคนทำหนังชาวเดนมาร์ก จะอ่อนแรงลงไปมากแล้วในปัจจุบัน นับจาก ลาร์ส วอน เทรียร์ หนึ่งในผู้ก่อตั้งในฐานะเป็นที่รู้จักมากที่สุดหันไปทำหนังที่ไม่ยึดติดกับกฎด็อกม่าเรื่อง Dancer in the Dark(2000) มาจนถึง ไตรภาคอเมริกา แต่ผลผลิตของด็อกม่ายังเพิ่มจำนวนอยู่เรื่อยๆ ไม่ใช่แค่เพียงในเดนมาร์กเท่านั้น ด็อกม่า 95(Dogma 95) หรือการทำหนังให้บริสุทธิ์ ปราศจากการปรุงแต่งให้เกิดมายาภาพเร้าอารมณ์จนฟุ่มเฟือยเกินจริง ก่อตั้งโดย ลาร์ส วอน เทรียร์, โธมัส วินเทอร์เบิร์ก, คริสเตียน เลฟริง และโซเรน ครากห์-จาคอบเซน 4 ผู้กำกับฯชาวเดนมาร์ก มีกฎเหล็ก 10 ข้อ ที่เรียกกันว่า คำปฏิญาณแห่งความบริสุทธิ์ (The Vow of Chastity) เช่น ห้ามจัดแสง ห้ามใช้เครน ดอลลี่ หรืออุปกรณ์เคลื่อนกล้องใดๆ นอกจากมือเปล่า ห้ามมีดนตรีประกอบ รวมถึงกฎข้อสุดท้ายที่เป็นที่ถามไถ่ถกเถียงกันอย่างมากว่าจะเป็นไปได้แค่ไหน คือไม่มีการลงเครดิตให้แก่ผู้กำกับฯ กลุ่มด็อกม่า 95 เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1995 แต่หนังเปิดตัวของกลุ่มคือ The Celebration ของโธมัส วินเทอร์เบิร์ก ประสบความสำเร็จทั้งเงินและกล่องในปี 1998 ชื่อของด็อกม่า 95 จึงเป็นที่รู้จักตั้งแต่นั้น ด้วยกฎเคร่งครัดที่กลายเป็นกรอบจำกัดในการนำเสนอผลงาน อีกทั้งกฎบางข้อดูจะขัดแย้งกับสภาพความเป็นจริงพื้นฐานของคนทำหนัง ประกอบกับหัวเรือใหญ่อย่างลาร์ส วอน เทรียร์ กับโธมัส วินเทอร์เบิร์ก สละเรือไปก่อน ด็อกม่า 95 ในปัจจุบันจึงไม่ขลังเหมือนเมื่อเริ่มแรก และมีสถานะเป็นเพียง ปรากฏการณ์ ในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์โลกเท่านั้น กระนั้น ผลผลิตของด็อกม่า 95 ที่ผ่านมา มีที่น่าจดจำและควรหยิบมาชมมาพูดถึงไม่น้อย นอกจาก The Celebration(1998) และ The Idiots(1998) ของ 2 ผู้ก่อตั้งด็อกม่าอย่างวินเทอร์เบิร์ก และวอน เทรียร์ ตามลำดับแล้ว ยังมีเรื่องอื่นเช่น Interview (2000) จากเกาหลีใต้ Julien Donkey-Boy(1999) จากสหรัฐ Cabin Fever(2000) จากนอร์เวย์ Italian for Beginners หนังโรแมนติก-คอมิดี้ ปี 2000 จากเดนมาร์ก ของ โลน เชร์ฟิก เป็นอีกผลผลิตหนึ่งของด็อกม่า 95 ที่ได้รับเสียงชื่นชมไม่น้อย และถูกบันทึกไว้ว่าเป็นหนังด็อกม่าเรื่องแรกที่กำกับฯโดยผู้หญิง หนังอิงจากนิยายเรื่อง Evening Class(1996) ของ มาอีฟ บินชี่ นักเขียนหญิงชาวไอริช ใช้ฉากกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของเดนมาร์ก กล่าวถึงกลุ่มชายหญิง 6 คนที่มีชั้นเรียนภาษาอิตาเลียนเป็นสิ่งเชื่อมโยงพวกเขาและเธอ เริ่มจาก แอนเดรียส บาทหลวงหนุ่มเพิ่งย้ายมายังโบสถ์ประจำเมืองแทนบาทหลวงเจ้าอารมณ์ที่ทำร้ายร่างกายนักเล่นออร์แกนจนต้องหามส่งโรงพยาบาล แอนเดรียสเพิ่งสูญเสียภรรยาจากโรคร้าย สภาพจิตใจยังไม่ปกติดีนัก เขาได้รับคำแนะนำจากหญิงที่ทำงานในโบสถ์ให้ลองแวะไปเข้าชั้นเรียนภาษาอิตาเลียนเผื่อว่าจะคลายความหดหู่ให้ชีวิตยอร์เก้น พนักงานต้อนรับในโรงแรมที่แอนเดรียสเข้าพัก เป็นอีกคนหนึ่งที่ลงเรียนภาษาอิตาเลียน ยอร์เก้นเป็นหนุ่มใหญ่ท่าทางทึ่มๆ มีปัญหาหนักอกจากการที่ตนเองไม่สามารถมีอะไรกับผู้หญิงมา 4 ปีแล้ว เขามีเพื่อนสนิทชื่อ เฮลฟิน หนุ่มผู้โปรดปรานทีมฟุตบอลยูเวนตุส เฮลฟินเป็นคนก้าวร้าว ชอบโวยวายใส่คนอื่นแม้กระทั่งลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในร้านอาหารของโรงแรมที่ตนเองทำงานอยู่ ในร้านนี้ยังมี จูเลีย แม่ครัวสาวชาวอิตาเลียน ผู้แอบรักยอร์เก้นทำงานอยู่ด้วย สมาชิกชั้นเรียนภาษาอิตาเลียนคนอื่นๆ ได้แก่ 2 สาว คาเรนกับโอลิมเปีย คาเรนเป็นเจ้าของร้านตัดผมที่เพิ่งสูญเสียแม่ผู้ติดเหล้า และเฮลฟินดูจะให้ความสนใจอยู่ ส่วนโอลิมเปียเป็นสาวซุ่มซ่ามแห่งร้านเบเกอรี่ซึ่งเคยเปลี่ยนงานมาแล้วถึง 43 หน เธอมีพ่อปากร้ายและเพิ่งเสียชีวิตในเวลาใกล้เคียงกับแม่ของคาเรน ชั้นเรียนภาษาอิตาเลียนกับพิธีศพของพ่อทำให้เธอได้รู้จักใกล้ชิดกับบาทหลวงแอนเดรียสผู้เปลี่ยวเหงา อย่างไรก็ตาม ชั้นเรียนดังกล่าวต้องพบปัญหาใหญ่เมื่อครูผู้สอนเกิดป่วยหนัก ไม่สามารถมาสอนต่อได้ จำนวนนักเรียนที่มีไม่มากนักทำให้มีแนวโน้มว่าชั้นเรียนต้องถูกยุบ แต่โชคดีที่เฮลฟินซึ่งเก่งภาษาอิตาเลียนและเพิ่งตกงานเข้ารับหน้าที่สอนแทน สื่อรักชั้นเรียนภาษาอิตาเลียนจึงดำเนินต่อไปได้ท่ามกลางเรื่องรักชวนหัวของคนเหงา 6 คน 3 คู่ โดยมีฉากส่งท้ายสวยสดงดงามที่เมืองเวนิซ ประเทศอิตาลี ปี 2003 มีหนังเดนมาร์กเรื่อง Reconstruction ใช้กรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นสถานที่ปลายทางที่ตัวละครใฝ่ฝันจะไปให้ถึงเพื่อสื่อถึงความโรแมนติก Italian for Beginners ก็เช่นกัน หนังใช้ความเป็นอิตาลี ทั้งภาษาอิตาเลียน และเมืองเวนิซ เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งความรักและความมีชีวิตชีวา พลิกฟื้นตัวละครจากความหดหู่เปลี่ยวเหงาให้กลับสดใส ไม่มืดมนเหมือนที่ผ่านมา เห็นได้ว่าตัวละคร 5 ใน 6 คน ล้วนแต่มีปัญหาส่วนตัวที่ไม่อาจก้าวพ้น จนเป็นอุปสรรคต่อความรักและการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แอนเดรียสทุกข์ตรมที่สูญเสียภรรยา ยอร์เก้นเสื่อมสมรรถภาพและขี้อาย เฮลฟินหยาบกระด้างและปากเสีย คาเรนสูญเสียแม่โดยเธอจมอยู่กับความรู้สึกผิดบาป ส่วนโอลิมเปียซุ่มซ่าม ขาดความมั่นใจ เรื่องราวซึ่งเกี่ยวพันกับชั้นเรียนภาษาอิตาเลียนช่วยพวกเขาและเธอให้ได้พบกับทางออกในชีวิต ขณะที่จูเลียเป็นเพียงคนเดียวในกลุ่มที่ไม่มีปัญหาส่วนตัว ดูไม่ทุกข์ร้อนกังวล และมีความสุขอยู่ตลอดเวลา ที่สำคัญคือเธอเป็นคนอิตาเลียน อีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับอิตาลีคือ รถยี่ห้อมาเซอราตีซึ่งเป็นรถสัญชาติอิตาเลียนของแอนเดรียส ที่เขาเอ่ยถึงตั้งแต่ช่วงต้นเรื่อง(แต่ไม่ปรากฏให้เห็นในหนัง เพราะหากนำมาเข้าฉากถือเป็นการผิดกฎด็อกม่าที่ว่าอุปกรณ์ประกอบฉากต้องมีอยู่แล้วในสถานที่ถ่ายทำ) ถูกกล่าวถึงในบทสนทนาในฉากสุดท้าย กระทั่งเป็นบทสรุปที่น่าประทับใจและเปี่ยมความหมายยิ่ง แม้โดยทั่วไปการถ่ายทำตามกฎด็อกม่ามักจะทำให้หนังขาดความสวยงาม ไม่ประณีต ทั้งยังน่าเวียนหัวกับการถือกล้องส่ายไปมา แต่สำหรับ Italian for Beginners เหมือนว่าผู้กำกับฯจะพยายามทำให้หนังดูนิ่งและประณีตเท่าที่จะทำได้ภายใต้กรอบจำกัด ลักษณะการเคลื่อนกล้องด้วยมือและการตัดต่อแบบจัมพ์คัทแม้จะยังมีอยู่ แต่ภาพที่ออกมาดูสบายตา ไม่รบกวนการรับชมมากนัก เมื่อรวมกับเรื่องราวเบาๆ มีแง่มุมให้ยิ้ม ให้หัวเราะ ทำให้หนังให้ความรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยน ดูง่าย ต่างจากหนังด็อกม่าเรื่องอื่นๆ จุดที่น่าสนใจคือการที่ Italian for Beginners เป็นหนังเมโลดราม่าในแนวทางโรแมนติก-คอมิดี้ซึ่งเต็มไปด้วยความบังเอิญและเรื่องราวชวนหัวสวยหรูนั้น ขัดแย้งโดยตรงกับวิธีการนำเสนอแบบด็อกม่าซึ่งดูสมจริงคล้ายหนังสารคดี ในมุมหนึ่งวิธีแบบด็อกม่าช่วยปรับลดความไม่สมจริงและความจงใจของเมโลดราม่าลงได้ ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่ง แนวทางโรแมนติก-คอมิดี้ซึ่งภาพโดยทั่วไปมักจะเป็นหนังเชิงพาณิชย์เต็มตัว ย่อมขัดแย้งกับหนังด็อกม่าซึ่งถูกมองว่าเป็นหนังอาร์ต หนังเรื่องนี้จึงถือว่านำสองแนวทางแตกต่างมารวมกันได้อย่างลงตัวกลมกลืนItalian for Beginners จึงเป็นหนังที่ให้ความรู้สึกดีๆ ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกคน ดูจบด้วยรอยยิ้มส่งท้ายเช่นเดียวกับตัวละคร
Create Date : 08 มกราคม 2550
7 comments
Last Update : 16 มกราคม 2553 2:17:58 น.
Counter : 2027 Pageviews.
โดย: หลานหลาน IP: 124.120.92.228 9 มกราคม 2550 0:25:12 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [? ]
บทวิจารณ์ภาพยนตร์รางวัลกองทุน ม.ล.บุญเหลือ เทพยสุวรรณ ปี 2549 ..............................select movie / blog ....... --international-- ....... The Walking Dead I Wish I Knew 127 Hours The Expendables vs. Salt No puedo vivir sin ti Bright Star The World is Big and Salvation Lurks Around the Corner Sin Nombre Invictus Afghan Star Moon Gigante The Promotion An Education Up in the Air Snow (Snijeg) Liverpool Tahaan Lion's Den Tulpan Everlasting Moments Absurdistan Topsy-Turvy Ramchand Pakistani The Pope's Toilet Antonio's Secret พลเมืองจูหลิง Flashbacks of a Fool And When Did You Last See Your Father? The Boy in the Striped Pyjamas Gran Torino Departures Gomorra Abouna + Daratt Grace Is Gone The Road to San Diego Into the Wild Slumdog Millionaire The Silly Age The Year My Parents Went on Vacation It's Hard to Be Nice Ben X Caramel The Class Kings จาก Kolya ถึง Empties The Unknown Woman Dokuz Heima Cocalero The Blood of My Brother & Iraq in Fragments 12:08 East of Bucharest Rescue Dawn Mongol 6 : 30 Something Like Happiness To Each His Cinema The Counterfeiters ข้างหลังภาพ Lions for Lambs + Michael Clayton Father and Daughter Possible Lives กอด The Buried Forest รัก-ออกแบบไม่ได้ Lights in the Dusk The Piano Teacher Do You Remember Dolly Bell? Sisters in Law Al Otro Lado A Time for Drunken Horses Zelary Bug The Invasion The Science of Sleep Paris, I love you Still Life The Lives of Others Heading South Renaissance ABC Africa The Death of Mr. Lazarescu Maria Full of Grace The Last Communist Eli, Eli, lema sabachthani? 4 : 30 Late August, Early September The Circle The Cave of the Yellow Dog Italian for Beginners Love/Juice Your Name is Justine The Syrian Bride Dragon Head Reconstruction Eros The Scarlet Letter The Night of Truth Familia Rodante Bonjour Monsieur Shlomi Lantana Flanders Tokyo . Sora The World Whisky Buffalo Boy S21 : The Khmer Rouge Killing Machine Fire, Earth, Water C.R.A.Z.Y. All about My Mother Jasmine Women Battle in Heaven The Day I Became a Woman Man on the Train CSI : Grave Danger Innocence Life Is a Miracle Drugstore Girl Der Untergang The Bow Happily Ever After The Wayward Cloud The House of Sand Or, My Treasure Janji Joni Moolaade Vodka Lemon Angel on the Right Twentynine Palms The Taste of Tea ....... --independent-- ....... Goodbye Solo The Hurt Locker (500) Days of Summer Towelhead Kabluey Three Burials of Melquiades Estrada Titus Chuck & Buck The Woodsman Pollock Last Days The Limey Inside Deep Throat Coffee and Cigarettes Garden State My Name is Joe Sexy Beast Real Women Have Curves The Brown Bunny Before Sunset Elephant Bubble You Can Count on Me 9 Songs ....... --classic-- ....... Memories of Underdevelopment (1968) The Last Laugh The Snows of Kilimanjaro The Cabinet of Dr.Caligari Nanook of the North The Apu Trilogy ....... --หนังมีไว้ให้คิด-- ....... The Schoolgirl's Diary Long Road to Heaven The Imam and the Pastor Maquilapolis ....... --what a film!-- ....... Kabuliwala (1956) Macunaima (1969) Kozijat rog (1972) The Girl and the Echo (1964) Fruits of Passion (1981) Happy Gypsies (1967) ....... --introducing-- ....... Death Race 2000 (1975) ซอมบี้ปากีฯ+ผีดิบมาเลย์+ซูเปอร์แมนตุรกี Zinda Muoi Father and Daughter ....... --directed by-- ....... Ouran (1968) Pierwsza milosc (1974) Salome (1978) 4 หนังสั้น เคียรอสตามี recommended ....... - 'รงค์ วงษ์สวรรค์ กับภาพยนตร์ - เทมาเส็ก พิคเจอร์ส - Heading South - Still Life - The Apu Trilogy - The Day I Became a Woman - จาก Fire, Earth สู่ Water พญาอินทรี ศราทร @ wordpress
1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
โ้อ้วนี้ไปคนละเรื่องเลย แฮะ ๆ