ห้องผีสิง
ห้องผีสิง

ขนหัวลุก

ใบหนาด



"ตุ๋ย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกในห้องสยองขวัญ

คุณ ลุงบอกพ่อแม่ผมว่าให้ผมเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ คุณลุงจะดูแลอย่างดีที่สุดเหมือนลูกเลย ผมได้อยู่ที่บ้านคุณลุงด้วย...แต่ห้องที่ผมอยู่น่ะเป็นห้องผีสิง!

คุณ ลุงพัฒน์เป็นญาติห่างๆ ทางพ่อผม นานๆ เราจะได้เจอกันที แต่เขาก็เห็นผมมาตั้งแต่เล็กๆ คุณลุงมีลูกสาวสองคน เรียนมหาวิทยาลัยปี 1 กับ ม.6 บ้านอยู่แถวบางกะปิ เป็นบ้านเก่าแก่มากๆ มันดูโอ่อ่าแต่บรรยากาศเงียบเหงาน่าวังเวงใจสิ้นดี

แน่ละครับ ก็อยู่กันแค่สี่คนคือคุณลุง คุณป้าและลูกๆ กับคนรับใช้แบบเช้ามาเย็นกลับอีกสองคน

มี เรื่องน่าประหลาดอย่างหนึ่ง คือคุณลุงคุณป้าและลูกๆ อยู่รวมกันในห้องหนึ่งชั้นล่าง ส่วนชั้นบนซึ่งมีถึงสามห้องนอนกลับปล่อยไว้เฉยๆ ไม่มีใครอยู่...คงขี้เกียจขึ้นบันไดมั้ง

คุณลุงให้ผมเลือกเอาเองว่าอยากอยู่ห้องไหน ผมเลือกห้องที่อยู่ติดกับบันไดเพราะมีห้องน้ำในตัวด้วย

ชั้น บนนี่กว้างขวางมาก เวลากลางคืนคงจะน่ากลัวพิลึก คิดดูซิครับ ทุกคนใช้ชีวิตอยู่เฉพาะชั้นล่างเท่านั้น ชั้นบนที่ผมอยู่จึงเป็นเหมือนโลกอีกโลกหนึ่งเลย...เป็นโลกที่เวิ้งว้างว่าง เปล่า ตอนค่ำๆ ผมกินข้าวเสร็จแล้วจะรีบกลับขึ้นห้องเลย ขืนรีรออยู่จนดึกดื่น ทุกคนจะเข้านอนกันหมด และบ้านก็ยิ่งวังเวงจนขนลุกแน่ะครับ

พอเข้าห้องแล้วผมจะไม่โผล่ออกมาอีกเลยจนรุ่งเช้า!

แต่ ในห้องนอนของผมก็ใช่ว่าจะอบอุ่นปลอดภัย ผมรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาอยู่ด้วยตลอดเวลา จนผมซึ่งเป็นคนชอบปิดไฟนอน ต้องเปิดไฟดวงหนึ่งไว้ทั้งคืน

ตอนมา อยู่ใหม่ๆ คุณลุงใจดีซื้อคอมพิวเตอร์ให้ผมใช้ โต๊ะที่วางคอมพ์นี้เดิมหันหน้าเข้าฝาผนัง เวลานั่งผมจะหันหลังให้กลางห้อง แต่พอใช้ไปสักพัก ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบๆ พิกล เลยย้ายที่นั่งใหม่ หันโต๊ะออกกลางห้องและผมนั่งชิดผนัง ค่อยยังชั่วหน่อย...แต่ความรู้สึกว่าถูกจับจ้องจากสิ่งลึกลับก็ยังมีอยู่

จะเป็นด้วยความรู้สึกนี้หรือเปล่าก็ไม่ทราบ ทำให้ผมปรุงแต่งเรื่องราวเป็นความฝันสุดสยอง

คืนหนึ่ง หลังจากมาอยู่ที่นี่ได้เดือนเศษ ผมก็ฝันไป ซึ่งในฝันนั้นเหมือนความจริงมากเลยครับ

ใน ฝันนั้น ผมก็อยู่ในห้องนี้แหละ แต่ไม่ได้อยู่คนเดียว มีผู้ชายผู้หญิงวัยกลางคนยืนอยู่ด้วย ทั้งคู่มีใบหน้าโศกเศร้า น้ำตาไหลตลอดเวลา และเหม่อมองมาทางเตียงที่ผมนอน เมื่อผมมองตามสายตานั้นก็ต้องสะดุ้งสุดตัว...

บนเตียงนี้มีร่างของ เด็กสาวคนหนึ่งนอนตายอยู่ เธอตัวแข็งทื่อ ดวงตาครึ่งหลับครึ่งเปิด ปากเผยอซีดขาว มีคนจัดการกับศพโดยเอาน้ำสีเหลืองๆ คงเป็นน้ำขมิ้นตำกับมะกรูดแล้วเอาแต่น้ำมาลูบไล้ทาศพ จากนั้นก็หวีผมสามครั้งแล้วหักหวี ผมเห็นเขาเอาเหรียญใส่ปากศพแล้วก็เอาแผ่นขี้ผึ้งแผ่กว้างปิดคลุมหน้าศพจนมิด และสวมเสื้อเอากระดุมไว้ข้างหลังก่อนจะเอาเสื้อสวมธรรมดาทับอีกชั้น

สุดท้ายก็เอากรวยดอกไม้ธูปเทียนใส่มือศพที่พนมมือ

ผมตกใจตื่น กลัวอย่างบอกไม่ถูก กลัวจนไม่กล้ามองข้างๆ กลัวจะเห็นศพนั้นมานอนแข็งทื่ออยู่ด้วยน่ะซีครับ

ความ กลัวติดตรึงอยู่กับกระดูกสันหลังผมต่อมาอีกนานเชียวละ มันหวาดไปหมด ภาพศพเด็กสาวยังจำได้ติดตา ผมกลัวว่ามองไปจะเห็นเธอมายืนพนมมือถือดอกไม้ธูปเทียน มีขี้ผึ้งปิดหน้า! บรื๋ออออ...

ในที่สุดผมก็ทนไม่ไหว คิดแล้วคิดอีกว่าถ้าไม่อยู่บ้านคุณลุงแล้วจะไปอยู่ไหนเนี่ย?

ผม ขอคุยกับคุณป้าแล้วเล่าเรื่องทุกข์ใจให้ฟัง ผลที่ได้รับกลับดีเกินคาด คุณป้าร้อง โถ! คำเดียว แล้วก็ให้ผมย้ายจากข้างบนลงมาอยู่ข้างล่าง ซึ่งห้องที่ลงมาอยู่นี้เล็กมาก เป็นห้องเก็บของ มันมีเนื้อที่พอจะวางเตียงกับโต๊ะคอมพิวเตอร์ได้เท่านั้น พอใส่ตู้เสื้อผ้าแบบพลาสติกเข้าไปแล้วแทบไม่มีที่จะเดิน แต่ผมก็ดีใจและรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาบ้าง มันดีกว่าอยู่ข้างบนคนเดียวมากเลย

ผม เชื่อว่าห้องที่ผมนอนข้างบนคงเคยเป็นของใครคนหนึ่ง และใครคนนั้นก็คงจะตายในห้องจริงๆ ถึงคุณลุงคุณป้าจะไม่พูดอะไร แต่ท่าทางของท่านก็บอกว่ามันจะต้องเป็นอย่างที่ผมคิด

จะอย่างไรก็ ตาม ผมคิดว่าจะทนอยู่ที่นี่จนเรียนจบ ม.ปลาย จากนั้นถ้าเข้ามหาวิทยาลัยผมจะไปอยู่หอ ขออย่างเดียว...อย่าให้เจอะเจอเรื่องผีๆ สางๆ อีกเลยก็แล้วกันครับ!

//www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPREEwTURnMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdPQzB3TkE9PQ==



Create Date : 04 สิงหาคม 2552
Last Update : 4 สิงหาคม 2552 20:44:06 น.
Counter : 790 Pageviews.

1 comment
ผีบ้านสวน
ผีบ้านสวน

ขนหัวลุก

ใบหนาด



"เมฆ"เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากสวนตลิ่งชัน

ตอนนี้ตลาดนัดทางน้ำกำลังโด่งดังนะครับ มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมยิ่งกว่าตลาดน้ำสมัยก่อน ไม่ว่าที่ต่างจังหวัดหรือกรุงเทพฯ อย่างดอนหวาย หรือบางคล้า และตลิ่งชัน ในเมืองหลวงนี่เอง

คนที่ไปเที่ยวตลาดน้ำตลิ่งชันในปัจจุบันนี้ เห็นแต่ความคึกคัก เดินดูของกินของใช้สารพัดอย่าง ดูเผินๆ เห็นตลาดต้นไม้เรียงรายสองฝั่งถนนหน้าอำเภอ เอ๊ย! หน้าเขตกับเรือกสวนเขียวชอุ่มดูร่มรื่นน่าชื่นใจ แทบจะมองไม่เห็นว่าได้เปลี่ยนแปลงจากสภาพเดิมไปมากน้อยแค่ไหน ทั้งๆ ที่ความจริงน่ะไม่เหมือนกับสมัยก่อนเลยครับ

สมัยหนุ่มผมเป็นลูกชาวสวนที่ตลิ่งชัน ตอนนั้นถือว่ายังอุดมสมบูรณ์สมกับคำว่าสวนผลไม้ชานเมือง มีผลหมากรากไม้สารพัดชนิดที่คนสมัยนี้แทบจะคิดไม่ถึง

ทุเรียน มะปราง มะเฟือง มะไฟ มะขวิด น้อยหน่า...ขนาดมังคุดก็ยังมีนี่นา!

ผล ไม้พวกนี้ล้วนแต่ดกดื่นเต็มสวน โดยเฉพาะมะไฟนี่ต้องยกให้ "ลุงเจือ" ว่าแก "ทำมะไฟ" เก่งที่สุด...ภาษาชาวสวนบ้านผมน่ะครับ หมายถึงคนที่ปลูกมะไฟเก่งกาจ ออกลูกดกสะพรั่งต้น ตั้งแต่โคนขึ้นไปถึงกิ่งก้าน ห้อยระย้าเหลืองอร่ามน่าประทับตาประทับใจจริงๆ

เดี๋ยวนี้ลุงเจือสิ้นบุญไปแล้ว มะไฟกับผลไม้ต่างๆ ก็พลอยอับเฉาโรยราไปกับความเจริญ มีถนนหลายสายตัดผ่าน ตึกรามบ้านช่องผุดขึ้นคึกคัก ต่อให้ชาวสวนระดับ "มือชอุ่ม" แค่ไหนก็เสกเป่าให้ฟื้นสภาพเดิมไม่ได้หรอกครับ

เรื่องขนหัวลุกที่ตลิ่งชันก็ไม่น้อยหน้าใคร!

ตาผูกคนริมคลองอยู่กับเมียชื่อรื่น แค่สองคนตายายมาตั้งแต่ยังหนุ่มสาวจนล่วงเข้าวัยชรา ลูกเต้าแยกย้ายออกไปอยู่ที่อื่น นานๆ ถึงจะกลับมาเยี่ยมพ่อแม่สักครั้ง

สองผัวเมียเลี้ยงห่านไว้แทนหมา นับว่าดุได้การเชียว ไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้า

รวมทั้งหมาหรืองูย่างกรายเข้ามา มันร้องลั่นเสียงแหลม แถมยังไล่จิกกัดไม่กลัวอะไรทั้งนั้น...งูเงี้ยวเขี้ยวขอตามเรือกสวนค่อนข้าง ชุกชุมครับแต่ถ้าบังอาจโผลไปที่นั่นเป็นต้องเผ่นหนีห่านเร็วจี๋เหมือนหมูหนี ตะขาบยังไงยังงั้น

ไม่รู้ว่าเวรกรรมหรือเพราะงูเห่ามันอาฆาตกันแน่ วันหนึ่งตาผูกก็โดนงูเห่ากัดตายใกล้ๆ กับทางเดินเข้าหมู่บ้านพอดี

คราวนี้ชาวบ้านร้านช่องก็โจษขานกันว่าผีตาผูกดุร้ายน่ากลัวอย่าบอกใครเชียว!

คนที่ผ่านไปมามักจะมองเห็นแค่ที่โคนตะขบริมทาง อันเป็นที่ตายของแก รูปร่างหน้าตาเหมือนคนเป็นๆ นี่แหละ บางคนจำไม่ได้ว่าแกตายไปแล้วก็ไม่เดือดร้อนเท่าไหร่ แต่คนที่จำได้ต้องบอกว่าขนหัวลุกไปตามๆ กัน

ตาผูกเป็นคนรูปร่าง เตี้ยเล็ก หน้ากลม คางแหลม หัวทุย ตัดผมสั้นเกรียน มองเห็นปราดเดียวก็จำได้ และนั่นยิ่งทำให้มีคนเห็นผีตาผูกชัดๆ หลายต่อหลายคน ไม่ว่าน้าชื้น ป้าเยาว์ ลุงหนุน ยายแจ่ม ตากรี...เล่นเอาวิ่งหนีกระเซอะกระเซิงชนิดแหกป่าแหกสวนกันเป็นทิว

วันดีคืนร้าย ผมกับเพื่อนๆ อีก 2 คนก็เจอดีเข้าชนิดจังเบอร์!

สาเหตุมาจากการไปเที่ยวงานวัด วัยหนุ่มทำให้พวกเราเลือดร้อน ไม่เกรงกลัวอะไรง่ายๆ ดูหนังดูลิเกจนงานเลิกแล้วเดินกลับบ้านกลางดึกในคืนเดือนหงายแจ่มฟ้า

ขณะที่กำลังพูดคุยเสียงโขมง หัวเราะต่อกระซิกกันมาใกล้ต้นมะขามแผ่ใบร่มครึ้ม ผมไม่ได้นึกถึงตาผูกที่โดนงูกัดตาย ทั้งๆ ที่มองเห็นผู้ชายร่างเล็กโผล่ออกมาโคนไม้แล้วเดินนำหน้าเราฉับๆ สังเกตแต่ว่าชายนั้นนุ่งกางเกงขาก๊วยตัวเดียว เดินเหมือนลอยไปยังงั้นแหละ

"ใครวะ?" ไอ้น้อยถามขึ้น ส่วนไอ้คล่องหัวเราะ "ตาผูกมั้งแกมารับเราไงวะ"

เพื่อนผมพูดเล่นแท้ๆ แต่ร่างเล็กๆ ที่เดินนำหน้าก็หยุดกึกก่อนจะหันขวับมามอง...แสงจันทร์ที่ส่องลงมากระทบใบ หน้าดำๆ นัยน์ตาพองโต เล่นเอาผมขนลุกซ่า ชาวาบไปทั้งตัวเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาวเหมือนจับไข้

"ตาผูก!!" ไอ้น้อยกับไอ้คล่องหลุดปากออกมาพร้อมๆ กัน ใบหน้านั้นหันกลับก่อนจะเดินฉับๆ ต่อไป...ผมรู้สึกเหมือนแผ่นดินยุบหายไปดื้อๆ แต่ฟ้าดันถล่มโครมครามลงมาจนหัวหมุน ตาลาย ได้ยินเสียงตัวเองแผดร้องแสบแก้วหู ก่อนจะกระโจนพรวดออกไปข้างหน้าชนิดลืมตัวลืมตายในพริบตา

มา รู้สึกตัวอีกทีก็ถึงบ้านแล้ว เล่นเอาแผ่หลาอยู่บนระเบียง เหน็ดเหนื่อยแทบขาดใจ...แต่ยังดีกว่าเพื่อนสองคนที่จับไข้จับหนาวอยู่หลาย วันกว่าจะค่อยทุเลา!

//www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPREF6TURnMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdPQzB3TXc9PQ==



Create Date : 03 สิงหาคม 2552
Last Update : 3 สิงหาคม 2552 0:37:08 น.
Counter : 680 Pageviews.

5 comment
รีสอร์ตผีสิง
รีสอร์ตผีสิง

ขนหัวลุก

ใบหนาด



"พลอย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากรีสอร์ตสยองขวัญ

คุณเคยเข้าไปในสถานที่ใดที่หนึ่ง แล้วขนลุกซู่โดยไม่มีต้นสายปลายเหตุไหมคะ? เขาว่าถ้าเป็นอย่างนั้น แสดงว่าที่นั่นต้องมีสิ่งเหนือธรรมชาติแน่ๆ พูดง่ายๆ คือคุณสัมผัสได้ถึงพลังงานของ...ผี!!

ตอนที่แต่งงานใหม่ๆ ยังไม่มีลูก ฉันชอบไปเที่ยวกับสามีทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ ส่วนมากจะไปใกล้ๆ ค้างคืนวันศุกร์ วันเสาร์และกลับวันอาทิตย์ ไม่หัวหินก็พัทยา บางแสน...เราชอบทะเลค่ะ นานๆ ทีถึงจะไปอยุธยา ไกลที่สุดก็เขาใหญ่โน่น เพื่อนรักของเราทำบ้านพักอยู่ที่นั่น

ถ้าไปเขาใหญ่เราจะนัดเพื่อนๆ ไปกันหลายคน ร้องคาราโอเกะแล้วนอนนับดาว

เมื่อ 2-3 ปีก่อนฉันโดนผีหลอกที่บางแสนค่ะ!

วันนั้นเป็นวันศุกร์ เราโทร.ไปจองรีสอร์ตแห่งหนึ่ง เขาบอกว่าเต็ม แต่เราอยากไปมาก ไม่รู้เป็นอะไร เขาเลยตอบมาว่าถ้าใครยกเลิกจะรีบโทร.มาแจ้งเรา...เขาโทร.มาเย็นวันศุกร์ค่ะ บอกว่ามีห้องว่างแล้ว เราก็ดีใจมาก เย็นนั้นรีบบึ่งไปบางแสนเลย

ไปถึงที่นั่นราว 3 ทุ่ม ที่พักเป็นบังกะโลหลังสุดท้ายอยู่ด้านใน ไกลจากทะเล แต่มีมะม่วงต้นใหญ่กำลังมีลูกที่กินได้พอดี พนักงานที่มาช่วยเปิดห้องใจดี และบอกว่าถ้าอยากกินก็เก็บได้ตามสบาย

เขาใจดีและสุภาพมากค่ะ ท่าทางเป็นคนอีสาน ตัวเล็กๆ ยังหนุ่มอยู่เลย แต่เขาดูกลัวๆ อะไรบางอย่าง หันซ้ายหันขวา สะดุ้งโหยงตอนที่ฉันแตะบ่าเขาเพื่อให้ทิป เขามาส่งเราแล้วก็รีบสวัสดีลากลับไปเลย บอกว่าเอาไว้พบกันตอนเช้า

ฉันเดินเข้าไปในบังกะโล ทันใดนั้นก็ขนลุกซู่ ตัวชา วาบๆ รู้สึกคล้ายหนาวสะท้านขึ้นมาวูบหนึ่ง...

ไฟในบังกะโลนี้ไม่ค่อยสว่างนัก ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนแล้วสำรวจห้องน้ำพร้อมกับรู้สึกพิกล บังกะโลนี้มีกลิ่นอับๆ คล้ายไม่มีคนมาพักนานแสนนาน ขอบหน้าต่างยังมีฝุ่น แต่เตียงปูใหม่นะคะ เขาคงมาปูเตรียมต้อนรับเราตั้งแต่เมื่อกลางวัน ห้องน้ำแห้งสนิทก็จริง แต่ก๊อกน้ำค่อนข้างฝืด....สามียังออกปากว่าเหมือนไม่ได้ใช้มานานแล้ว

หน้าต่างห้องนอนตรงหัวเตียงเปิดออกไปเจอกับมะม่วงต้นใหญ่อีกต้นหนึ่ง ตอนกลางวันมันคงร่มรื่น แต่กลางคืนแบบนี้มันดูน่ากลัวจัง ฉันบอกสามีว่าเราปิดหน้าต่างแล้วเปิดแอร์ดีกว่านะ อย่าเปิดพัดลมเลย เพราะรอบๆ ตัวเรามันมืดสนิทและเงียบมากจนผิดปกติ...คือไม่มีเสียงอะไรเลยแม้แต่แมลง กลางคืน!

บังกะโลหลังนี้ก็อยู่ห่างจากหลังอื่นมาก จนดูเผินๆ เหมือนเราอยู่โดดเดี่ยวกลางสวนใหญ่...เมื่อเปิดแอร์ เราก็ยิ่งรู้ว่ามันไม่ได้เปิดใช้มาอย่างน้อยก็เป็นเดือนๆ ละ กลิ่นมันบอก! ทีวีปลายเตียงก็เหมือนกัน เก่ามาก ภาพคอยล้มอยู่เรื่อย

คืนนั้น เราตัดสินใจนอนเร็ว เพื่อจะได้ตื่นแต่เช้าไปเดินชายหาดกัน...ฉันอยู่ในอ้อมกอดของสามีแต่ไม่หลับ เลยค่ะ สามีหลับไปนานแล้ว เราปิดไฟกลางห้องแล้วเปิดไฟห้องน้ำไว้

ถ้าคุณเคยอ่านเรื่องผีมาเยอะ คุณก็ต้องชินกับมุขเดิมๆ คือฉันได้ยินเสียงเหมือนมีคนอยู่ในห้องน้ำ ทำอะไรก๊อกๆ แก๊กๆ คล้ายหยิบนั่นจับนี่ และพอเคลิ้มก็มีเสียงน้ำไหล...แต่พอฉันสะดุ้งตื่น เงี่ยหูฟัง เสียงก็หายไป

แต่ที่ร้ายที่สุดคือ ฉันได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้อยู่นอกหน้าต่างตรงหัวเตียง!

ฉันนอนตัวแข็งเลยค่ะ หลับตาปี๋ อุดหู ซุกเข้าหาสามีและผ้าห่มแทบคลุมโปง...พยายามคิดว่านั่นเป็นเสียงคอมเพรสเซอร์ แอร์ที่เก่ามากเลยฟังคล้ายเสียงสะอื้น

ในที่สุดฉันก็เคลิ้มหลับ และฝันไป เป็นฝันที่กลัวมากเลย...

ในฝันนั้น ฉันลุกขึ้นเปิดหน้าต่างที่หัวเตียง และที่ต้นมะม่วงนั่นมีผู้หญิงผูกคอตาย ร่างเธอห้อย ขาลอยจากพื้น คอพับ ใบหน้าบวมเป่ง ตาถลน ลิ้นจุกปาก...แต่เธอจ้องฉันแล้วหัวเราะอย่างน่ากลัวที่สุด!

ฉันผวาตื่นและพบว่าเป็นเวลาเช้าพอดี แสงสว่างเรื่อๆ ส่องจากช่องอากาศข้างบนหน้าต่าง...ฉันใจชื้นแต่ก็ยังระทึกขวัญ

ก่อนจะออกไปที่ทะเล ฉันบอกสามีว่าคืนนี้กลับบ้านเถอะนะ ฉันไม่อยากอยู่แล้ว เพราะเชื่อว่าที่นี่ต้องเคยมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น สามีที่น่ารักบอกว่าเขาก็สัมผัสได้และไม่สบายใจเลย มันอึดอัดมาก แถมยังได้ยินเสียงกระทบบานหน้าต่างที่หัวเตียงตลอด เหมือนมีอะไรแขวนอยู่ที่ต้นมะม่วงแล้วแกว่งมาโดนหน้าต่างดังกึกๆๆๆ เป็นจังหวะที่น่าขนพองสยองเกล้าจริงๆ

ตอนบ่ายที่เราเช็กเอาต์ ก็ยังรู้สึกว่าแม้จะเป็นกลางวัน ที่นี่ก็ยังน่ากลัว...เผ่นดีกว่าค่ะ คิดแล้วขนหัวลุกจริงๆ เลย!

//www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPRE14TURjMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdOeTB6TVE9PQ==



Create Date : 31 กรกฎาคม 2552
Last Update : 31 กรกฎาคม 2552 0:53:22 น.
Counter : 4041 Pageviews.

3 comment
ผีขึ้นแท็กซี่
ผีขึ้นแท็กซี่

ขนหัวลุก

ใบหนาด



"โน้ต" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากแท็กซี่สยอง

เมื่อ เดือนที่แล้วผมพาน้องแก้มแฟนของผมไปดูหนังรอบดึกแถวอนุสาวรีย์ กว่าหนังจะเลิกก็ตีหนึ่งกว่าแล้วล่ะครับ เราต้องออกมาเรียกแท็กซี่เพื่อไปส่งแก้มถึงบ้านที่รามอินทรา

อากาศ คืนนั้นเย็นสบายเพราะฝนเพิ่งหยุดตก มันชุ่มฉ่ำและโรแมนติกน่าดู เมื่อผมออกมาริมถนนก็มองเห็นแท็กซี่คันหนึ่งสีชมพูจอดอยู่ริมขอบทางเพื่อรอ รับผู้โดยสาร ผมตรงดิ่งไปที่รถคันนั้นทันที แต่น้องแก้มดึงมือผมไว้ก่อน

"นั่น! มีคนขึ้นไปแล้ว รอเรียกคันอื่นเถอะ" เธอพูดเบาๆ น้ำเสียงปกติ แต่ผมซิต้องแปลกใจมากเชียว เพราะภายใต้แสงไฟสว่างจ้า ผมไม่เห็นมีใครขึ้นแท็กซี่คันนั้นเลยสักคน

" ตาฝาดรึเปล่าจ๊ะแก้ม? พี่ไม่เห็นใครเลยนะ" ผมพูดขำๆ แต่เธอไม่ขำด้วย มองหน้าผมงงๆ แล้วบอกว่าจริงๆ นะ เมื่อกี้มีผู้ชายผู้หญิงคู่หนึ่งเดินจูงมือกันอยู่ ไม่ห่างจากเราเท่าไหร่ แก้มยังเห็นว่าผู้ชายนุ่งกางเกงยีนส์ขาลีบ สวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงิน ส่วนผู้หญิงนุ่งขาสั้น เสื้อแขนพองสีแดงลายสกอต!

เห็นละเอียดขนาดนั้นเชียวล่ะครับ

แก้ม เล่าว่าคนทั้งคู่เปิดประตูรถแท็กซี่ด้านหลังขึ้นไปนั่งแล้วปิดประตู แต่เธอเอะใจว่าทำไมแท็กซี่ยังจอดนิ่งอยู่ ไม่ออกรถไปซะที มิหนำซ้ำตัวผมเองก็ทำท่าตรงรี่จะไปขึ้นรถคันนั้น

น้องแก้มทำตาปริบๆ อย่างงงงันและบอกผมว่า เดินไปดูกันดีกว่า ว่ามีคนนั่งในแท็กซี่คันนั้นหรือไม่?

มือ เธอเย็นเฉียบขณะที่ผมจูงเธอไปชะโงกดู และเห็นชัดๆ ว่าเบาะหลังว่างเปล่า...โชเฟอร์ขยับตัวพร้อมที่จะบริการเรา น้องแก้มครางแล้วบอกว่าเธอกลัวมาก ไม่กล้าขึ้นรถคันนี้ แต่ช่วยไม่ได้จริงๆ ครับ แถวนี้เหลือแท็กซี่อยู่คันเดียวและมันก็ดึกมากแล้วด้วย

ผมเปิด ประตูก้าวเข้าไปนั่ง น้องแก้มทำหน้ามุ่ยเหมือนอยากร้องไห้ ก่อนจะค่อยๆ หย่อนตัวตามผมเข้ามา ผมบอกให้โชเฟอร์ใช้ทางด่วนเลยจะได้ถึงบ้านน้องแก้มเร็วๆ

ในรถคันนั้น ทีแรกก็มีกลิ่นใบเตยหอมๆ ผมเห็นใบเตยมัดใหญ่กองสุมอยู่ด้านหลังของเบาะ แต่พอนั่งไปเรื่อยๆ ผมเกิดได้กลิ่นคล้ายโรงพยาบาล มันแปลกมากครับ น้องแก้มเองก็คงได้กลิ่นเหมือนกัน...กระตุกมือผมแล้วเบียดตัวเข้ามาท่าทาง หวาดกลัวอะไรบางอย่าง

ราวครึ่งชั่วโมงก็มาถึงบ้านน้องแก้มโดยปลอดภัย ผมส่งเธอเข้าบ้านแล้วใช้บริการแท็กซี่คันเดิมให้ไปส่งที่ศรีย่าน บ้านผมอยู่แถว นั้นครับ

ขณะที่นั่งรถมาตามลำพัง ผมก็ได้ทีถามโชเฟอร์ว่ารถคันนี้มีอะไร รึเปล่า? โชเฟอร์พูดว่า "ไม่มีอะไรหรอกพี่ แต่พี่ถามขึ้นมาก็ดีแล้ว ผมรู้สึกมีอะไรแปลกๆ"

มันแปลกยังไงหรือครับ?

โชเฟอร์ เล่าว่า ตลอดทางที่วิ่งมา เขามองกระจกหลังและเห็นเป็นคนสี่คนนั่งอยู่ คือมีผมกับน้องแก้มซึ่งนั่งชิดกันแถวกลางเบาะ แต่มีเงาของผู้หญิงคนหนึ่งนั่งริมหน้าต่างด้านน้องแก้ม และผู้ชายอีกคนหนึ่งนั่งริมหน้าต่างด้านผม! จะว่าตาฝาดหรือเงาหลอนก็ไม่ใช่

เอาละสิ! ผมชักหนาวๆ ร้อนๆ เลยพูดกับโชเฟอร์ตามตรงว่า ก่อนที่ผมจะเปิดประตูมานั่งในรถเขาน่ะ แฟนผมเห็นชายหญิงคู่หนึ่งเข้ามานั่งก่อน!

" ผมบอกจริงๆ นะพี่ ว่าก่อนพี่จะมาถึงรถผมน่ะ ผมรู้สึกว่ารถผมมันยวบเหมือนมีใครขึ้นมานั่งจริงๆ แต่ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรไง...โอย! ผมจะทำไงเนี่ย?"

ขากลับนี่เราไม่ได้ขึ้นทางด่วนนะครับ แต่มาตามทางปกติ และเรื่องที่เราสอบถามกันไปมานี่น่ะ ทำเอาเราหนาวๆ ร้อนๆ ทั้งคู่

ทันใดนั้น โชเฟอร์ร้องออกมาเบาๆ "โอ๊ย! พี่...ผมไม่ไหวแล้ว"

เขาเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมันข้างทางแล้วรีบลงจากรถทันที ผมก็ตาเหลือกสิครับ รีบตะกายลงจากรถตามเขาแล้วถามว่าอะไรเหรอ? เขาเห็นอะไร?

"ผมเห็นอีกแล้ว! ผู้ชายผู้หญิงคู่นั้น เขานั่งอยู่ข้างพี่! ไม่ใช่ผีแล้วอะไรล่ะ?"

เขา ยืนยันว่าในรถเขาไม่เคยมีประวัติภูตผีปีศาจใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่อยู่ในรถต้องเป็นผีจากแถวอนุสาวรีย์แน่ๆ เป็นใครมาจากไหน? ตายยังไงก็สุดรู้! ผมเดาว่าคงเป็นหนุ่มสาวจากปรโลกที่ชวนกันมาเที่ยว...โธ่! แล้วมานั่งแท็กซี่นี่ทำไม? จะไปไหนกันหรือครับ?

โชเฟอร์มือไม้ อ่อน บอกว่าขับไม่ไหวแน่ๆ ต้องจอดอยู่ที่นี่จนกว่าจะมีผู้โดยสารเรียก หรือจนกว่าจะเช้า ส่วนผมต้องเรียกแท็กซี่คันอื่นกลับบ้านล่ะครับ!

//www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPRE13TURjMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdOeTB6TUE9PQ==



Create Date : 30 กรกฎาคม 2552
Last Update : 30 กรกฎาคม 2552 19:47:33 น.
Counter : 879 Pageviews.

1 comment
เฮี้ยนสุดใบหนาดขีด
เฮี้ยนสุดใบหนาดขีด

ขนหัวลุก

ใบหนาด



"จอม วศิน" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อผีสาวตามมาถึงกรุงเทพฯ

ผมเพิ่งเล่าเรื่องไปเที่ยวหัวหินแล้วเจอผีมาหยกๆ ที่ไหนได้ล่ะ เรื่องที่ทำท่าว่าจะจบน่ะมันยังไม่จบ...ผีที่ผมเจอในโรงแรมนั้นตามมาถึง กรุงเทพฯ พวกเราเจอกันทุกคน!

ขอย้อนเหตุการณ์สักนิดว่าผมกับ เพื่อนๆ ทั้งชายและหญิงเก้าคน นึกสนุกนั่งรถไฟฟรีไปเที่ยวหัวหินเมื่อวันเสาร์ และได้เขาพักในโรงแรมที่มีราคาย่อมเยาแต่บรรยากาศแปลกๆ เราได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง แต่เปิดไปไม่มีใคร พอจะเข้านอนก็ปรากฏว่าน้ำหวานเพื่อนผมมองเห็นผีผู้หญิงผมยาวชุดขาว มานั่งอยู่ที่เตียงตรงข้ามที่เพื่อนๆ อีกสี่คนนอนอยู่

พวกเธอหวีดร้อง เพื่อนๆ กรูเข้ามาหา ผีก็ตามมาด้วย และเอาเล็บจิกแขนไว้ไม่ให้เธอบอกเพื่อนๆ ว่าเห็นผี!

เช้าวันรุ่งขึ้น เราทำบุญอุทิศส่วนกุศลแล้วก็ขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพฯ เหตุการณ์ดูเป็นปกติดี แต่พี่สาวกับแม่ของผมบ่นว่ารู้สึกพิกลๆ เหมือนมีคนที่ไม่รู้ว่าเป็นใครมาอยู่ในบ้านด้วยทั้งคืน

คืนนั้นเองเจ้าต้น เพื่อนคนหนึ่งที่ไปด้วยกัน โทร.มาเล่าว่าตอนจะเข้าบ้านน่ะ คนข้างบ้านที่เขาเรียกว่า "ป้าแขก" แกเป็นคนทรง อยู่ดีๆ ก็ทักว่า ไปเที่ยวมาสนุกมั้ย? เขาตามมาส่งน่ะ" ป้าแขกพูดลอยๆ ทำเอาต้นขนลุกซู่...ป้าแขกไม่รู้เรื่องผีที่เพิ่งเจอมาสักหน่อย!

ฝ่ายน้ำหวาน สาวผู้โชคดีที่เห็นผีแล้วยังโดนผีหยิกอีกนั้น นึกว่าเรื่องมันจะจบแล้ว แต่เธอเห็นผีผู้หญิงคนเดิมมายืนอยู่นอกประตูกระจก ที่จะเปิดออกสู่ระเบียง...น้ำหวานร้องไม่ออก แต่เข่าอ่อนยวบ ทรุดลงไปกองกับพื้น ก่อนจะคลานไปเคาะประตูห้องแม่ ขอนอนด้วย

ส้มโอ เพื่อนซี้ของน้ำหวานเล่าเสียงสั่นว่า เธออาบน้ำเตรียมตัวนอน พอออกจากห้องน้ำก็มานั่งหวีผมที่โต๊ะเครื่องแป้งในห้องนอน...เธอเหลือบเห็น เงาสะท้อนในกระจกอย่างชัดเจนว่า มีผู้หญิงผมยาวมาก หน้าซีด แต่งชุดขาว มานั่งยิ้มอยู่บนเตียงของเธอ!

เจ้าปั๊มเพื่อนของผมนั่งดูทีวียาม ดึกอยู่กับแม่ ได้ยินเสียงกดออดหน้าประตูรั้ว มันก็เลยลุกขึ้นไปดูว่าใครมา และ...ใช่เลยครับ! ผู้หญิงผมยาวใส่ชุดขาวยืนตัวตรงแหนว...ยิ้มให้อย่างสวยงามอยู่ที่หน้าประตู นั่น

แป้ง เพื่อนสาวร่วมทีมของเราบอกว่าเธอเข้านอน ปิดไฟ ห่มผ้า ตั้งท่าจะหลับอยู่แล้ว ก็พอดีได้ยินเสียงก๊อกแก๊กแบบคนมาค้นของในห้อง พอลืมตามองไปก็เห็นชัดเลยว่าผีผู้หญิง ผมยาวกำลังหยิบเครื่องสำอางของเธอมาดูเล่น...ไฟที่ถนนส่องผ่านหน้าต่างเข้า มา แป้งขยี้ตาแล้วก็ต้องแผดเสียงลั่น เมื่อแน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดหรือฝันไป

เพื่อนอีกสามคนก็ได้กลิ่นธูปบ้าง กลิ่นศพและกลิ่นดอกไม้แห้งบ้าง ตามไปไหนต่อไหนด้วยตลอด!

เย็นวันจันทร์ เราได้ฟังเรื่องจากทุกคนแล้ว ก็เลยไปหาป้าแขกเพื่อนบ้านของต้น เพราะแกเป็นที่พึ่งเดียวของพวกเรา ป้าแขกบอกว่าผีผู้หญิงยังอยู่ในกลุ่มของเรานี่แหละ เพราะเธอชอบพวกเรามาก อีกอย่างเธอได้พลังความเป็นวัยรุ่นของเราไป ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น

ผมกับเพื่อนๆ คุยกันว่า ใช่แล้ว! ผีได้ซึมซับเอาพลังชีวิตของพวกเราไป เหมือนได้ชาร์จแบตเตอรี่น่ะครับ ก็เลยปรากฏตัวให้เราเห็นได้

ป้าแขกบอกว่าเธอไม่ได้ตั้งใจมาหลอกหลอน เธอเพียงแต่ติดใจพวกเราเท่านั้น...เนี่ย! ยังนั่งยิ้มอยู่เลย! ป้าแขกเห็นแบบนั้นจริงๆ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอเป็นใคร? มาจากไหน? เราขอให้ป้าแขกเจรจาให้หน่อย ให้เธอไปๆ ซะ ไม่งั้นพวกเราแย่แน่ กลัวจนไม่เป็นอันทำอะไรแล้ว

คำแนะนำจากป้าแขกคือ ทำสังฆทานและให้พระท่านสวดมนต์ รดน้ำมนต์ให้! เราก็ไปวัดราชาฯ ใกล้ๆ มหาวิทยาลัย ไปเล่าเรื่องนี้ให้พระท่านฟัง ท่านก็เมตตาช่วยสวดมนต์และพรมน้ำมนต์ให้เรา

ผมบอกจริงๆ ครับ ว่าเราไม่มีทางรู้เลยว่าผีสาวตนนั้นกลับไปหัวหินรึยัง? หรือว่าอยากเที่ยวกรุงเทพฯ ต่อ รู้แต่ว่าเสียวสยองกันสุดฤทธิ์ พวกเรากลายเป็นขวัญอ่อน สะดุ้งง่ายและกลายเป็นเด็กติดแม่ คือตามแม่แจกันทุกคน! แม่เราบางคนหาพระให้คล้องคอให้เรารู้สึกมั่นใจและปลอดภัย ซึ่งก็ช่วยได้ระดับหนึ่งครับ

บอกตรงๆ ขณะเขียนถึงเขาอยู่นี่ผมยังหวาดๆ เสียวสันหลังชะมัด มันรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีใครมานั่งดูผมเขียนหนังสืออยู่ตรงนี้ อุปาทานหรือเปล่าก็ไม่รู้สิ...ผมไม่อยากหันไปมองเลยครับ! บรื๋ออออ...

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPREk0TURjMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdOeTB5T0E9PQ==



Create Date : 28 กรกฎาคม 2552
Last Update : 28 กรกฎาคม 2552 0:04:46 น.
Counter : 865 Pageviews.

1 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  

iamZEON
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/

ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น
กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง
รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ
เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
New Comments
Group Blog
All Blog
MY VIP Friend