ตัวตายตัวแทน
ตัวตายตัวแทน

ขนหัวลุก

ใบหนาด



"รัตนา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากคลองรังสิต

ผี ตนหนึ่งเกือบมาเอาชีวิตฉันไปได้ ไม่รู้ว่าตอนนั้นควรจะเรียกว่า �ดวงดีหรือดวงตก� กันแน่ ถึงได้เจอผีที่มุ่งร้ายหมายขวัญ แต่เมื่อรอดมาได้ก็ต้องเรียกว่า �ดวงดี� ละนะ

เรื่องมันเกิดขึ้น เมื่อ 30 กว่าปีมาแล้ว ตอนนั้นฉันอายุย่าง 14 เป็นเด็กผอมกงโก้ ถึงจะเป็นลูกคนเดียว แต่ก็มีลูกพี่ลูกน้องเยอะแยะไปหมด ซนๆ ทั้งนั้น พ่อแม่ของเราไม่ค่อยเป็นห่วงหรอกค่ะ เพราะเราเอาตัวรอดได้ เก่งทั้งปีนต้นไม้ ว่ายน้ำและแก่นกล้ากันสารพัด

ตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่พอดี...

เรา ไปรวมญาติกันที่บ้านคุณตา ริมคลองแถวๆ รังสิต บรรยากาศดีมากจริงๆ พอแดดร่มลมตก พวกผู้ใหญ่ทำกับข้าว กับแกล้ม ตั้งวงกินกันไปคุยกันไปอย่างสนุกสนาน พวกเราเด็กๆ ล้วนแต่เป็นญาติพี่น้องกันร่วมสิบคนเล่นอย่างอื่นจนเบื่อ เลยชวนกันลงเล่นน้ำในคลองโดยมีน้าสะใภ้ 2-3 คนและพวกพี่เลี้ยงมานั่งอยู่ด้วยริมท่าน้ำ เพื่อดูแลความปลอดภัย ซึ่งที่จริงพวกเขาคุยกันเองซะมากกว่า

บอกแล้วว่าพวกเราว่ายน้ำ เก่ง ไม่มีใครว่ายน้ำไม่เป็นแม้แต่น้องๆ อายุ 6-7 ขวบ สมัยนั้นน้ำในคลองยังสะอาด ยิ่งหน้าบ้านคุณตาด้วยแล้วไม่ต้องห่วงเลยค่ะ น้ำไม่ลึกมากแต่เด็กอย่างเราหยั่งไม่ถึงหรอกนะคะ

อากาศอบอ้าวทำให้ เราไม่อยากขึ้นจากน้ำ พวกผู้ใหญ่ปล่อยให้เราเล่นตามสบายฉันชอบที่สุดเลยเรื่องเล่นน้ำในคลองนี่น่ะ นานๆ จะได้มาซักที ขอเล่นให้ชุ่มปอดหน่อยเถอะน่า

ว่าแล้วฉันก็ว่าย ห่างออกมาจากพี่น้องคนอื่นๆ ขณะเล่นเพลินๆ ก็รู้สึกว่ามีเด็กคนหนึ่งลอยคอ มาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ เมื่อเหลียวไปมองก็พบว่าเป็นเด็กผู้หญิงแปลกหน้า เธอดำผุดดำว่ายเหมือนปลาตัวโตๆ จนฉันนึกขำ แต่ก็แปลกใจเหมือนกันว่าเธอมาจากไหน...

เอ...คงจะมาจากบ้านใดบ้าน หนึ่งแถวๆ นี้ละมั้ง? เด็กหญิงมีผมสั้นแค่หูเหมือนทรงนักเรียนทั่วไป เธอดำน้ำหายไปพักใหญ่จนฉันตกใจว่าคนอะไรดำน้ำอึดขนาดนี้ เธอหายไปราวๆ สามนาที ฉันเริ่มตาหูเหลือก คิดว่าเจอเด็กจมน้ำตายต่อหน้าต่อตา กำลังจะตะโกนขอความช่วยเหลืออยู่แล้ว พอดีเจ้าหล่อนทะลึ่งพรวดขึ้นมา...ห่างจากฉันช่วงแขนเดียว!

ฉันผงะ น้ำกระเซ็นเข้าหน้าเข้าตา พอมองอีกที เด็กคนนั้นก็ลอยคออยู่ที่เดิม ปากเขียวเชียว คงเล่นอยู่นานแล้ว ตาของเธอแดงเหมือนกระปูด มันแดงผิดปกติแต่ฉันยังไม่เอะใจ

เมื่อจ้องตากันอย่างนั้น ฉันก็ทึกทักเอาเองว่าเธอมาตีสนิทอยากเป็นมิตร อยากเล่นด้วย แหม...ได้สิ จะเป็นไรมี! เธอยิ้มแล้วพูดเสียงแหบๆ ว่า

จะพาไปดูปลา ไปไหม?

ฉัน พยักหน้า ขณะที่เธอว่ายน้ำนำไป ทำให้ห่างจากพี่น้องคนอื่นๆ เธอนำฉันไปริมตลิ่งที่มีต้นไม้ใหญ่ แผ่กิ่งก้านจนจรดผิวน้ำ ฉันเดาว่าคงจะมีปลาชุมอยู่แถวๆ รากไม้นั่น...

พอไปถึงตรงนั้น เด็กหญิงแปลกหน้าก็คว้าข้อมือฉันหมับ มือเธอเย็นชืดๆ และมีเมือกลื่นๆ พิกล ฉันมองหน้าเธอ...อะไรกันนั่น! มันเป็นเพราะเงาไม้หรืออะไรกันแน่ ที่ฉันเห็นผิวหน้าเธอกลายเป็นสีดำ ไม่ใช่ดำสนิทนะคะ แต่ก็เกือบล่ะ...

ครั้นโตแล้วนึกย้อนไป ฉันถึงพอจะรู้ว่านั่นคือลักษณะศพที่กำลังเริ่มเน่า เนื้อดำเป็นจ้ำๆ

... นัยน์ตาแดงก่ำของเธอมีเลือดจางๆ ไหลออกมา ที่จมูกมีเลือดเป็นฟองๆ ปากก็มีฟองขาวปนเลือดด้วย มันน่ากลัวสิ้นดี! ฉันพยายามสะบัดมือแต่ไม่หลุด ยิ่งดึงเธอยิ่งยึดไว้แน่น

"มา...มาอยู่ด้วยกันน่า สนุกดีนะ"เธอหัวเราะเสียงแห้งๆ น่าสยดสยอง

ทันใด เสียงน้าสะใภ้เรียกชื่อฉัน อึดใจต่อมาก็ได้ยินเสียงวุ่นวายโกลาหล ฉันรู้สึกคล้ายจะหมดสติและใกล้จะจมน้ำอยู่แล้ว!

พวก พี่ๆ น้องๆ ผู้ชายกระทุ่มน้ำมาแต่ไกล พลางตะโกนเรียกฉันกันใหญ่ ผีเด็กนั่นกระชากมือฉันจนเจ็บ แล้วอยู่ๆ มันก็หายวับไปเฉยๆ พวกพี่น้องมาถึงแล้วพาฉันกลับไปที่ท่าน้ำของเรา น้าสะใภ้คนหนึ่งรับตัวฉันขึ้นจากน้ำแล้วเอาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ห่มให้

ฉันบอกว่ามีเด็กผู้หญิงน่ากลัวมากมาพาฉันไปตรงนั้น!

ผู้ใหญ่ตกอกตกใจกันมาก เรียกทุกคนกลับขึ้นบ้านทันที

ปรากฏ ว่าก่อนฉันไปบ้านคุณตาไม่นานนัก มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งลงเล่นน้ำตอนเย็น แล้วหายสาบสูญไป ไม่มีใครงมศพเธอได้เลย น้าๆ อาๆ วิพากษ์วิจารณ์ว่าฉันคงเจอวิญญาณเด็กผู้หญิงที่ตาย...จะมาลากไปอยู่ด้วย หรือเอาเป็นตัวตายตัวแทน

เป็นอันว่าหลังจากนั้น ผู้ใหญ่พาฉันไปวัด ไปทำบุญสู่ขวัญ เขาว่าโชคดีเหลือเกินที่ผีเอาตัวฉันไปไม่ได้

จนป่านนี้ฉันยังจำหน้าผีเด็กตนนั้นได้ติดตา น่ากลัวจริงๆ ค่ะ!

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPREl3TURjMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdOeTB5TUE9PQ==



Create Date : 20 กรกฎาคม 2552
Last Update : 20 กรกฎาคม 2552 0:35:23 น.
Counter : 773 Pageviews.

2 comment
เจ้าที่!
เจ้าที่!

ขนหัวลุก

ใบหนาด



"ป๊อป" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวิญญาณใต้ดินคุณจะทำยังไงถ้ารู้ว่าห้องที่คุณนอนมาแต่อ้อนแต่ออกน่ะ...มีผี!?

"แม่ซื้อซะล่ะมั้ง" มีคนพูดกับผมแบบนี้...โธ่! แม่ซื้ออะไรจะอยู่กับผมจนโตเป็นควายแบบนี้น่ะ...ผมว่าบ้านหลังนี้ต้องปลูก อยู่บนพื้นที่ที่เคยมีเรื่องอะไรมาก่อนแน่ๆ

จริงๆ แล้วนี่คือเรือนหอที่คุณปู่ปลูกให้พ่อกับแม่ตอนจะแต่งงานเมื่อ 20 กว่าปีก่อน บนที่ดินของคุณปู่เองซึ่งซื้อทิ้งไว้ตั้งแต่เมื่อ 50 ปี ก่อนผมเกิดโน่น...ที่ดินนี้อยู่ในซอยเขตดุสิตนี่เอง คุณปู่ล้อมรั้วไว้

ท่านเล่าว่าสมัยโน้นแถวนี้เป็นทุ่งนา ริมทางรถไฟมีบ้านแค่ไม่กี่หลัง ต่อมาบ้านเรือนก็เต็มไปหมด เหลือแต่ที่ดินผืนนี้ราวๆ หนึ่งไร่ ล้อมรั้วและมีต้นไม้ต้นหญ้าขึ้นรกรุงรัง คนผ่านไปมาก็ทิ้งขยะบ้าง โยนโน่นโยนนี่เข้ามาบ้าง เผลอๆ อาจเป็นที่หลบตาคน แอบเข้ามาสูบยาหรือทำอะไรกันก็มี

ในที่สุด เมื่อพ่อมีแผนจะแต่งงาน คุณปู่ก็ปลูกบ้านให้ใหญ่โตเชียวครับ เพราะท่านเห็นอนาคตว่าอยากให้พ่อมีลูกสักสองคนกำลังดี บ้านจึงมีสามห้องนอนอยู่ชั้นบน และอีกสองห้องนอนชั้นล่าง เผื่อปู่กับย่าหรือตากับยายจะได้มาค้างช่วยเลี้ยงหลาน

หลังจากแต่งงานได้สองปีผมก็เกิด ห้องนอนติดกับห้องพ่อแม่กลายเป็นห้องของผมตั้งแต่บัดนั้น ตอนแรกก็มีเปลเด็กและห้องเด็กอ่อน ต่อมาเปลเด็กก็เอาออกไปไว้ที่ห้องน้องสาว ห้องผมมีเตียงมาตั้งแทน

ผมโตแล้วนี่ครับ ปัจจุบันก็มีเครื่องเสียงและโต๊ะคอมพิวเตอร์

เห็นมั้ย ผมอยู่ห้องนี้มาตั้งแต่อุแว้ๆ จริงๆ

จำ ได้ว่าเมื่อเล็กๆ นอกจากแม่แล้วยังมีพี่เลี้ยงชื่อพี่แป้นคอยดูแลผมอยู่ตลอดเวลาในห้องนี้ ผมจำได้ว่ามีผู้หญิงอีกคน ตัวเล็กบอบบาง หน้าสวย ยิ้มละไมอยู่เสมอ...ผมไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร พอถามผู้ใหญ่เขาก็งงกันเป็นแถว ยืนยันว่าไม่มีแน่ๆ แม่ไม่ได้จ้างคนอื่นมาดูแลผมเลยนอกจากพี่แป้น

เป็นไปได้ไง? ผมยังจำได้ว่าตอนเรียนอนุบาล 1-2 น่ะ ตอนดึกๆ พี่แป้นหลับเค้เก้ข้างเตียงผม ไฟก็เปิดหรี่ทิ้งไว้ ผู้หญิงคนนี้ยังเข้ามาหาผม นั่งข้างเตียง ยิ้มอย่างเอ็นดู หอมแก้มผมและลุกเดินหายไปในความมืดทุกคืน

เอ...ผมชักนึกออกแล้วว่ายิ่งผมโตขึ้น ผู้หญิงคนนี้ก็จะไม่มาหาเลยในตอนกลางวัน แต่จะมาตอนกลางคืน และพอผมอยู่ ป.1 เธอก็ไม่มาอีก

แม่บอกว่า ผมอาจจะเป็นเหมือนเด็กอื่นๆ ทั่วโลก ที่มีเพื่อนในจินตนาการและเพื่อนคนนี้จะหายไปเมื่อเด็กเริ่มโต

พอแม่พูดถึงเพื่อนผมก็นึกขึ้นได้ว่า จริงสินะ นอกจากพี่สาวคนสวยคนนั้นแล้ว บางคืนยังมีเด็กตัวเล็กตัวน้อยมาวิ่งเล่นกันเจี๊ยวจ๊าว แถมพี่แป้นกับแม่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะเห็นเลยซักคน

คนเดียวที่ไม่ขำไปกับจินตนาการบรรเจิดของผมคือ ป้าณีต! ที่จริงผมควรเรียกยายมากกว่า แกแก่มากแล้วและเป็นคนเก่าของคุณยายที่ส่งให้มาดูแลแม่ผม ป้าณีตชื่อเต็มว่า ประณีต แกฟังผมทีไรแกจะครุ่นคิดของแกไปเงียบๆ ไม่โต้ตอบหรือพูดอะไรเลย

เมื่อผมอายุ 16-17 ตอนกลับจากเข้าค่าย รด.ที่เขาชนไก่ เพื่อนในจินตนาการพวกนี้ก็กลับมาหาผมอีก หลังจากหายไปสิบกว่าปี

เริ่มจากพี่สาวคนสวยที่ลอยลงมาจากเพดาน เธอเหมือนเดิมไม่มีผิด คือบอบบางสาวสะพรั่ง ผมสีน้ำตาลยาวสลวย หน้าสวยยิ้มละไม ใส่ชุดกระโปรงบางเบาสีครีม...บางคืนเธอมานั่งข้างเตียง เอียงคอมองผมอย่างรักใคร่ ขณะที่ผมครึ่งหลับครึ่งตื่น

และเด็กพวกนั้น...เด็กที่น่ากลัวมากกว่าน่ารัก!

ตอนเล็กๆ ที่ผมเห็นมาวิ่งน่ะ ผมยังเด็กเกินไป แต่ตอนนี้ผมเริ่มเห็นรายละเอียด...เด็กบางคนเหมือนเด็กดองในโหล คือยังไม่ครบกำหนดคลอดแต่แท้งออกมาและเขาดองไว้น่ะครับ สายสะดือยังติดห้อยยาวอยู่เลย แกมาลอยวนอยู่ในห้องเหมือนลอยอยู่ในน้ำ เด็กบางคนตัวโตขนาดผู้ใหญ่ แต่เป็นทารกคลานไปรอบๆ ขึ้นผนัง ไต่เพดาน ตาโบ๋ ปากไม่มีฟันอ้าแดงหัวเราะร่า...พี่สาวคนสวยจะคอยไล่ไม่ให้มากวนผม

ในที่สุดผมเก็บความสงสัยไว้ไม่ไหว คุยกับแม่ก็ไม่ได้เรื่อง แต่พอถามป้าณีตก็ได้ความว่า...ตอนที่ดินนี้ว่างเปล่าและเริ่มปลูกบ้าน คนงานพบโกศกระดูกพร้อมทั้งรูปถ่ายหน้าศพของผู้หญิงสวย ใครคงเอามาทิ้งไว้...ร่ำลือกันว่าเคยมีคนทำแท้ง เอาเด็กมาทิ้งที่นี่ด้วย

นี่ คือคำตอบสยดสยอง แต่ผมคงจะกลัวไปกว่านี้ไม่ได้ ไม่รู้จะหนีไปไหนเพราะต้องนอนห้องนี้ ทุกวันนี้พี่คนสวยยังมาหาผมอยู่เลยครับ แต่ไม่บ่อยเท่าเมื่อก่อน ผมก็ได้แต่สวดมนต์แผ่เมตตา...เมื่อไหร่พวกเขาจะไปเกิดนะ ผมจะได้นอนสบายๆ ซะที?!

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPREUzTURjMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdOeTB4Tnc9PQ==



Create Date : 18 กรกฎาคม 2552
Last Update : 18 กรกฎาคม 2552 0:11:19 น.
Counter : 739 Pageviews.

4 comment
จนกว่าจะถึงวันนั้น
จนกว่าจะถึงวันนั้น

ขนหัวลุก

ใบหนาด



"เปิ้ล" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากโลกหน้า

คุณเคยได้ยินคำว่า "ลูกหลง" ไหมคะ? ไม่ใช่ลูกปืน แต่เป็นลูกคนนี่แหละ! หมายถึงลูกที่มาเกิดเป็นคนสุดท้องที่แม่ (เกือบ) แก่ และพี่ๆ เขาโตๆ กันไปหมดแล้ว

เจ้า ตัวเล็กก็ "หลง" มาเกิดจึงเป็นขวัญใจของบ้านไปโดยปริยาย พ่อแม่ปู่ย่าตายายทั้งรักทั้งหลง เพราะมันช่างน่ารักน่าเอ็นดูซะเหลือเกิน พวกพี่ๆ ก็พลอยเห่อไปด้วย เห็นมันเป็นตุ๊กตาตัวจ้อย พี่สาวคนโตอายุ 15 อย่างหนูก็ได้ซ้อมบท "คุณแม่" ไปในตัว

แม่มีลูก 3 คนคือ หนูเอง น้องเป้ และน้องแป้ง อายุ 15, 12 และ 10 ขวบตามลำดับ แม่บอกว่าคิดว่าพอแล้ว มีมาตั้ง 3 คนซนๆ ทั้งนั้น กว่าจะเลี้ยงมาโตขนาดนี้เหนื่อยแทบตาย...นี่แม่พูดนะคะไม่ใช่หนูพูด แต่แล้วเมื่อน้องแป้งอายุย่างเข้าปีที่สิบเอ็ด แม่ก็ตั้งท้อง!

โอ้โฮ... ตื่นเต้นกันทั้งบ้านเลยค่ะ รวมทั้งตัวหนูเองด้วย ตอนที่น้องชายกับน้องสาวมาเกิดน่ะหนูยังเด็กเกินไป แต่ตอนนี้แม่จะมีน้องตัวแดงๆ ให้หนูเล่นอีก โอ๊ย! ดีใจจัง หนูว่าดีกว่าตุ๊กตาบลายธ์ตั้งเยอะ...แล้วแม่ก็เจ็บท้องไปโรงพยาบาล แล้วน้องก็ออกมาให้หนูเห็นหน้า

แกน่ารักมากจริงๆ เป็นเด็กผู้หญิงผิวขาวนวลเนียนอมชมพู ใบหน้ากลม ปากแดง ตาโตเรียวยาว หนูเป็นคนตั้งชื่อนะคะ จะตั้งให้หยดย้อยเชียว หนูให้น้องชื่อน้องปรางค่ะ...แก้มของน้องสวยเหมือนมะปรางสุก หนูชอบอุ้มน้องแนบอก กอดเบาๆ เห่กล่อมและค่อยๆ จูบ แกหอมมาก จูบไม่เบื่อเลย แม่มองน้องปรางทีไรก็น้ำตาคลอด้วยความปีติตื้นตัน แม่ชอบจับมือเล็กๆ ของน้องมาจูบทีละนิ้ว...อายุไม่เท่าไหร่ปรางก็ช่างคุย ส่งเสียงอ้อแอ้ จีบปากจีบคอ

ทั้งบ้านเหมือนจะมีแต่ความสุขและความรักอย่างเต็มเปี่ยม!

แต่แล้วเรื่องร้ายก็เกิดขึ้น น้องปรางไม่สบายค่ะ ตอนนั้นแกอายุได้ 4 เดือนพอดี

หนู ไม่อยากโทษใครหรอกนะ แต่วันนั้นมีเพื่อนแม่มาเยี่ยม หนูไม่ชอบเลยเพราะเขาพูดมากและชอบยืมตังค์แม่ วันนั้นเขาพาลูกชายอายุ 5-6 ขวบมาด้วย เด็กเวรคนนั้นมันก้มหน้ามาเกือบชิดน้องปรางของหนูแล้วแกล้งไอใส่ แม่มันหัวเราะขำลูก ส่วนแม่หนูหน้าเจื่อนเลยค่ะ...แล้วน้องปรางก็ติดหวัดมัน

น้อง เป็นไข้สูงและชัก หอบตัวโยน ปากแดงๆ กลับดำคล้ำ ดวงตาปรอย มองทุกคนอย่างน่าสงสาร หนูร้องไห้ สวดมนต์ ยอมแลกกับทุกอย่างให้น้องหาย แต่ไม่เป็นผลค่ะ น้องปรางมีอาการแทรกซ้อน ปอดบวม...ในที่สุดแกก็จากไป

พวก เราทุกคนหัวใจสลาย แม่ร้องไห้แทบขาดใจตายตามลูก หนูสงสารแม่มากเพราะอาการหนัก นอนซม คุณย่าร้องไห้ขณะสั่งให้คนเอาเสื้อผ้า เบาะและเปลของน้องปรางไปเก็บ เพราะแม่เห็นสิ่งของพวกนี้ไม่ได้เลย

แม่ มีอาการน่าเป็นห่วงจริงๆ หนูหดหู่และโกรธแค้นมาก ภาพที่น้องอาการหนักก่อนตายมันทรมานใจหนู...เจ็บปวด ทรมาน หายใจไม่ออกมากกว่าน้องซะอีก แล้วแม่จะแค่ไหน

หนูนอนร้องไห้คิดถึงน้องทุกคืน แขนหนูว่างเปล่า...แล้วคืนนั้นหนูก็ฝันไป...

ใน ฝันหนูอยู่ในทุ่งหญ้าบนเนินเขา อากาศเย็นชื่นใจ แสงสว่างแจ่มใส หนูเห็นคุณยายที่ตายไปเมื่อ 3 ปีก่อน...ท่านอุ้มน้องปรางอย่างทะนุถนอม แล้วส่งให้หนูอุ้มแป๊บนึงด้วย...หนูจูบน้อง แกน่ารักเหมือนเดิม แกหัวเราะพลางจับนิ้วหนูไปกำแน่น แล้วคุณยายก็บอกหนูให้บอกแม่ว่า น้องสบายดี อยู่กับคุณยาย...ท่านว่าพยายามจะไปบอกแม่ แต่แม่เศร้าจนปิดกั้นหัวจิตหัวใจไว้หมด คุณยายเข้าไปไม่ถึงแม่เลย

พอเล่าให้แม่ฟัง แม่ลูบหัวหนู น้ำตาซึม...หนูรู้ว่าแม่ไม่เชื่อหรอก!

และ แล้ววันหนึ่ง ขณะที่แม่นอนดูทีวี แต่คงใจลอยมากกว่า แม่จ้องจดไปเรื่อยๆ ทันใดนั้น แม่เหลือบไปที่ประตูที่จะเปิดไปห้องกินข้าว แม่ตกตะลึงและลุกขึ้นนั่ง หนูมองตามตาแม่ไปแต่ไม่เห็นอะไรเลย นอกจากแสงเหมือนแดดส่อง มีสายรุ้งแปลกๆ ปรากฏอยู่ คล้ายมันสะท้อนมาจากไหนสักที่หนึ่ง...

"เปิ้ลเห็นมั้ยลูก?" แม่ถามเบาๆ "เห็นอย่างแม่มั้ย?"

ขณะที่หนูเห็นเป็นแสงแดดและสายรุ้ง แม่เห็นคุณยายยืนอุ้มน้องปรางและยิ้มให้แม่ จากนั้นก็ค่อยๆ เลือนหายไป

แม่ เชื่อหนูแล้ว หนูดีใจ หนูฝันถึงคุณยายจริงๆ ไม่ได้คิดไปเอง! เรื่องจริงที่หนูดีใจสุดขีดก็คือ น้องปรางยังมีชีวิตอยู่ในโลกโน้น...อยู่กับคุณยายอย่างอบอุ่นและปลอดภัย

หนู รู้ว่าเราเล่าให้ใครฟังก็คงไม่มีใครเชื่อเต็มร้อยสักเท่าไหร่ พวกเขาก็ต้องคิดอยู่ดีแหละว่าหนูกับแม่เสียใจจนเพ้อเจ้อ! แต่ช่างเถอะ หนูกับแม่ได้รับรู้ เราเชื่อมั่นและศรัทธาก็พอแล้ว แม่อาการดีขึ้นมาก ถึงจะเศร้าแต่ก็มีความหวัง ...คือหวังว่าจะได้กลับไปอยู่กับคนที่แม่รักหลังจากชีวิตในโลกนี้ปิดฉากลง

หนูเล่ามาเป็นกำลังใจกับคนที่สูญเสียคนที่รักไป ไม่ใช่ไม่มีวันกลับนะคะ มีแน่ๆ ล่ะค่ะ...วันที่เราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก!

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPREUyTURjMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdOeTB4Tmc9PQ==



Create Date : 16 กรกฎาคม 2552
Last Update : 16 กรกฎาคม 2552 19:39:37 น.
Counter : 669 Pageviews.

0 comment
วันพระใหญ่
วันพระใหญ่

ขนหัวลุก

ใบหนาด



"โน้ต" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวันปล่อยผี

ทำไมคนเราถึงหวาดกลัวผีกันมากในวันพระใหญ่ ไม่เข้าใจจริงๆ ครับ

ใน ความรู้สึกของผมคล้ายกับว่า เมื่อถึงวันพระพวกผีต่างๆ จะออกมาเพ่นพ่านขอส่วนบุญ ยิ่งเป็นวันพระใหญ่คือวันสำคัญทางศาสนา ผู้คนทำบุญกันมากมายมหาศาล วิญญาณต่างๆ ก็คงจะออกมารอคอยส่วนบุญกันเป็นแถว

เมื่อ วันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษานี่เอง ผมเจอกับเหตุการณ์ที่น่าขนหัวลุก ทำเอาคนไม่ใส่ใจการทำบุญทำทาน อย่างผมต้องลุกขึ้นมาใส่บาตรแต่เช้า

เรื่องเริ่มต้นตั้งแต่เย็นวันจันทร์ วันที่ฟ้าฝนชุ่มฉ่ำ ครึ้มเย็นมาตั้งแต่บ่าย และตกพรำๆ อยู่อย่างนั้นเหมือนไม่ยอมหยุด

ราว ห้าโมงกว่าๆ ผมเดินเข้าไปหาแม่ซึ่งกำลังทำกับข้าวอยู่กับเด็กรับใช้ในครัว ขณะที่คุยกันก็ได้กลิ่นแปลกๆ คล้ายใครทอดปลาเค็มมาแต่ไกล ปกติถ้ามีบ้านไหนทอดปลาเค็มกินกับข้าวต้ม มันจะหอมจนเราหิวข้าว แต่คราวนี้มันแปลกครับ...คล้ายกับปลาเค็มนั้นเน่าจนเหม็นตุ ผสมด้วยกลิ่นเหมือนผมไหม้หรือใครเผาหนังหมู!

แม่ก็สบตากับผมแบบรู้ แล้ว เงียบๆ ไว้! แต่เจ้าสาวใช้คนเก่งของเราอุทานออกมาทันที "อุ๊ย! เหม็นอะไรก็ไม่รู้ เหม็นจริงๆ ยี้!!" แม่รีบจุ๊ปากห้าม "ไม่ต้องพูด อย่าทัก"

ดาวทำตาโต มีเครื่องหมายคำถามปรากฏชัด ผมเลยอธิบายว่าบ้านเราน่ะมีวัดอยู่ใกล้ๆ แล้วเวลาห้าโมงเย็นน่ะเขาเผาอะไรล่ะจ๊ะ? พอเป็นวันอากาศปิด คือฝนตกขมุกขมัวแบบนี้มันก็อบเอากลิ่นโชยมาน่ะสิ! ดาวร้องอ๋อ...ทำหน้าสยอง และทันทีนั้น กลิ่นก็หายไป...

อากาศพลันสดชื่น เราไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ อีกเลย

ตกกลางคืน ดาวหอบผ้าห่มมาจากเรือนคนใช้ที่เธอนอนคนเดียวทุกคืน บอกว่ากลัว เลยขอมานอนห้องรับแขกบ้านเราดีกว่า

บ้าน เราชั้นเดียวค่อนข้างกว้าง ด้านหน้าเป็นห้องกระจกมองเห็นสนามหญ้าและต้นไม้ดอกไม้ เราตั้งโต๊ะกินข้าวไว้ที่นี่ พอว่างๆ น้องชายผมก็จะเอาโน้ตบุ๊กมานั่งเล่นอินเตอร์เน็ต บางทีก็ทำงานของมหาวิทยาลัย เขาอยู่ปีหนึ่ง ผมอยู่ปีสาม และเราก็นอนดึกกันทั้งบ้าน

คุณพ่อจะนั่งตรวจงานในห้องของท่าน หรือไม่ก็ดูกีฬา คุณแม่ดูเอเอฟ-รายการโปรด ถ้าเด็กๆ ในรายการเอเอฟไม่นอน แม่ก็จะยังไม่นอนเหมือนกัน

ส่วนเจ้าดาวไปนั่งเท้าคาง เล่นเกมคอมพิวเตอร์กับน้องผม ผมเองเข้าห้องนอนจนเผลอหลับไปตั้งแต่สองยาม มาตื่นอีกทีตอนเพื่อนโทร.เข้ามือถือ ดูนาฬิกาแล้วตีหนึ่ง ครึ่ง...เออ! วันอาสาฬหบูชาแล้วสินะ...

ผมกำลังคุยกับเพื่อนอยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงสะอื้นฮักๆ และทอดถอนใจ มันดังมาจากทางดงกล้วยริมรั้ว ข้างหน้าต่างห้องผมนี่เอง เอ๊ะ! หรือจะเป็นน้องแอน ที่อยู่บ้านไม้เก่าๆ ติดกับรั้วบ้านเรา

ผมรู้จักเธอครับ เราเป็นเพื่อนบ้านกัน เธอเป็นอะไรไปนะ?

จังหวะ พอดีกับเพื่อนวางหู ผมเลยเปิดประตูออกมา ทันใดนั้น ดาวกับน้องชายผมก็ร้องเหวอ! และวิ่งถลันมาจากห้องกระจก ทั้งคู่บอกว่ากำลังเล่นเกมอยู่ดีๆ มีเสียง ผู้หญิงร้องฮื้อ...เสียงเย็นลากยาวอยู่ข้างหลัง

โอ๊ย! มันอะไรแน่? เป็นไปไม่ได้ที่น้องและดาวจะได้ยินเสียงผู้หญิงคนเดียวกับที่มาสะอื้นหลัง ห้องผม เพราะมันเป็นคนละด้าน แถมอยู่ห่างกันมาก

แม่ที่กำลังจะเข้าห้องนอนเลยไม่กล้า เพราะพวกเราทำเอาแม่ชักจะกลัวขึ้นมาน่ะซี!

และ แล้ว...นาทีนั้นเองผมก็เพิ่งนึกออกว่าตอนหลับไปตะกี้ ผมฝันเห็นผู้หญิงมาเรียกที่ประตูบ้าน ซึ่งบ้านเราก็อยู่ตรงทางสามแพร่งของซอยนี้ มันมีอะไรแปลกๆ จากชาวบ้านที่ชอบเอากระทงเล็กๆ ใส่ข้าวมาวางอยู่เสมอ บางทีถึงกับจุดธูปด้วย

... ในฝัน ผมเปิดประตูออกไปเจอสาวผมสั้น แต่งชุดดำยืนก้มหน้าและยื่นมือมาหาผม ในมือเธอมีกระทงใบตองอันเล็กๆ ไม่ใช่กระทงที่เขาเอาไปลอยในคืนลอยกระทงนะครับ แต่เป็นกระทงใส่ข้าวน่ะ...ที่เธอยื่นมาตรงหน้าเป็นกระทงใบตองอันว่าง เปล่า...

ผมไม่รู้ว่าเสียงสะอื้นที่ได้ยิน เสียงถอนใจฮื้อ...ที่ทำให้ดาวกับน้องผมผวา และผู้หญิงในฝัน กับกลิ่นเผาศพเมื่อตอนเย็น มันเกี่ยวเนื่องกันหรือเปล่า?

รุ่ง เช้าคือวันอาสาฬหบูชา หรือที่เขาเรียกว่าวันพระใหญ่ ผมออกไปใส่บาตรและกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ทุกวิญญาณ ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จัก

ขณะเปิดประตูเข้าบ้าน ผมเห็นสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นบนเสาข้างประตู นั่นคือมดดำฝูงใหญ่กำลังคาบไข่อพยพขึ้นที่สูง มันทำให้ผมนึกถึงผู้หญิงชุดดำในฝันเหมือนกัน และมันทำให้ผมระมัดระวังไม่เผลอเหยียบ หรือเอามือไปโดนมดพวกนั้นให้มันเป็นอันตราย

นี่ละครับ เรื่องแปลกๆ ที่เกิดขึ้นในวันพระใหญ่ของผมปีนี้!

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPREUxTURjMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdOeTB4TlE9PQ==



Create Date : 15 กรกฎาคม 2552
Last Update : 15 กรกฎาคม 2552 0:25:20 น.
Counter : 901 Pageviews.

0 comment
รักเธอไม่คลาย
รักเธอไม่คลาย

ขนหัวลุก

ใบหนาด



"แหวว" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวิญญาณรัก

พี่แพร เป็นผู้หญิงที่น่าสงสารมาก เธอไม่ได้เป็นพี่สาวของฉันหรอกค่ะ แต่เป็นแฟนของ พี่วุฒิ - พี่ชายสุดเฮี้ยวของฉันต่างหาก

พี่ วุฒิรูปหล่อ สูงโปร่ง หน้าตาคมคายออกแนวแบดบอย เขาเล่นดนตรีเก่งมาก ทั้งกีตาร์ กลองและร้องเพลง อายุ 22 เพิ่งเรียนจบแต่ยังไม่เป็นโล้เป็นพายอะไรสักอย่าง ดีแต่ว่าพ่อแม่มีเงินเลยตามใจ พี่วุฒิมีรถขับ หาเงินเองได้บ้างจาก การเล่นดนตรีตามผับ แต่ก็ไม่เป็นหลักแหล่ง ส่วนมากจึงต้องขอตังค์แม่ใช้

พี่ แพรกับพี่วุฒิรู้จักกันเพราะเธอเป็นเพื่อนของเพื่อนพี่วุฒิ เธอเพิ่งเรียนจบเหมือนกัน อายุน้อยกว่าพี่วุฒิหนึ่งปี ทั้งคู่เกิดวันเดียวกันแต่คนละปีเท่านั้น

ดูๆ เธอไม่น่าเป็นแฟนพี่วุฒิได้เลย เพราะเรียบร้อย เอา การเอางาน ขยันมาก ชอบดนตรี ร้องเพลงไพเราะน่าฟัง เมื่อ เรียนจบก็ทำงานบริษัทใกล้บ้าน แต่ไกลจากบ้านเรามาก เราอยู่ลาดพร้าว ส่วนเธออยู่บางแคโน่น แต่เมื่อรักกับพี่วุฒิ พี่วุฒิก็อุตส่าห์รับส่งเธอถึงบ้าน เขาว่าเป็นห่วงไม่อยากให้เธอซ้อนมอเตอร์ไซค์บึ่งไปตามถนนใหญ่และเข้าซอย เปลี่ยวไปอีกตั้งไกล

ฉันกับพ่อแม่เกือบจะแน่ใจอยู่แล้วว่าจะได้ พี่แพรมาเป็น พี่สะใภ้ที่น่ารัก แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็โกรธกันค่ะ พี่วุฒิไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไร บ่นแต่ว่ารำคาญเพราะพี่แพรขี้หึงและ ชอบทำตัวเหมือนแม่! คือคอยห้ามเขาสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า และบ่นว่าตลอด ถ้าเขาคบเพื่อนที่เธอเห็นว่าไม่ดี

ฟังแล้วฉันจี๊ดเลยค่ะ! พี่แพรเตือนน่ะถูกต้องแล้ว เธอพยายามให้พี่วุฒิออกห่างๆ จากสิ่งเลวๆ ทั้งหลาย แต่ดูสิ พี่ชายฉันมันไม่รักดีซะงั้น!

เวลาผ่านไปหลายเดือน พี่วุฒิไม่มีท่าทีจะกลับไปคืนดีกับพี่แพรเลย มิหนำซ้ำยังคบกับผู้หญิงใหม่อีกหลายคน ดูท่าพี่ชายฉันจะเละเทะกว่าเก่า ฉันคิดถึงพี่แพรจัง พี่แพรโทร.หาฉันบ่อย บอกว่าคิดถึงฉันมาก

สำหรับพี่วุฒินั้นถึงจะคุยกันได้ก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว

วัน หนึ่งฉันทำความสะอาดบ้าน และพบจดหมายรูปตุ๊กตาหวานแหววถูกทิ้งขว้างอยู่ใต้โซฟา มันเป็นจดหมายที่พี่แพรเขียนมาง้อพี่วุฒิอย่างน่าสงสาร เธอรำพันว่าขีดที่ปฏิทิน ทุกวันว่า วันนี้พี่วุฒิโกรธเธอ! วันนี้พี่วุฒิคุยโทรศัพท์กับเธอแต่ยังไม่หายโกรธ อีกวันก็จดว่าพี่วุฒิคงให้อภัยแล้วแต่ไม่เหมือนเดิม

เธอขอร้องให้พี่วุฒิกลับมาหาเธอ รักกันอย่างเช่นวันที่ผ่านมา...

พี่ ชายหัวดื้อของฉันใจร้ายมากๆ ฉันถามเขาว่ารู้มั้ยว่าพี่แพรเจ็บปวดแค่ไหน? เขาก็หัวเราะว่าฉันยังเด็กไม่รู้เรื่อง หรอก เขาสิไม่รู้อะไรเลย หักอกคนอื่นแต่ตัวเองไม่เคยอกหัก

แล้ววันหนึ่งเราก็ได้รับข่าวร้าย พี่แพรเสียชีวิตแล้วด้วยอุบัติเหตุรถบรรทุกชนมอเตอร์ไซค์ที่เธอซ้อนท้ายกลับจากทำงาน!

ฉัน ร้องไห้ สงสารเธอใจจะขาด ถ้ายังเป็นแฟนพี่วุฒิเธอคงไม่ตายอย่างนี้ ฉันขอให้พี่วุฒิพาฉันกับแม่ไปงานศพเธอ ...หาผู้หญิงที่ดีอย่างเธอสมัยนี้หายากนะคะ

งานศพพี่แพรเศร้ามากๆ พ่อแม่เธอมีลูกสาวคนเดียว เป็น ลูกสาวที่ดี เป็นที่พึ่งของพ่อแม่ยามแก่เฒ่า

รูป หน้าศพของพี่แพรสวยหวาน แต่นัยน์ตาเธอเศร้าเหลือเกิน พี่วุฒิดูซึมๆ ไป เขานั่งอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ และ มีทีท่าว่าเสียเพื่อนคนหนึ่งไป ไม่ใช่สูญเสียคนรัก...พี่วุฒิไม่เหลือใจให้พี่แพรเลยจริงๆ

น่า แปลกอย่าง ตลอดทางที่กลับบ้านไม่ว่าจะหมุนวิทยุไป คลื่นไหนก็จะเจอแต่เพลงผู้หญิงที่เศร้าสร้อย ตามง้อคนที่เธอรัก หรือไม่ก็ตัดพ้ออย่างน้อยใจ ขนาดพี่วุฒิปิดวิทยุเปิดเทปก็ยังมีแต่เพลงพวกนี้...อีก 3-4 วันต่อมา เขาบอกว่าพี่แพรมาหา ทั้งเข้าฝัน ทั้งมานั่งริมเตียง แต่เขาไม่กลัว บอกให้ เธอไปสู่สุคติ

วันเผาพี่แพรเราไปร่วมงานด้วย...คืนนั้นหมาหอนทั้ง คืน บรรยากาศรอบๆ บ้านดูมืดมัวและวังเวง ฉันแว่วเสียงผู้หญิงสะอื้นตลอดเวลา แม่ก็บอกว่าได้ยินเหมือนกัน

ตอน แรกฉันไม่กล้าอยู่คนเดียว แม้แต่จะมองไปที่หน้า ต่างหรือประตูฉันก็ไม่กล้า เพราะกลัวจะเห็นพี่แพรยืนอยู่ ฉันรู้ว่าวิญญาณเธอยังไม่สงบ เธอยังเศร้าโศกเสียใจ ร้องไห้ถึงความรักที่เธอสูญเสียไป

ฉันสงสารจับใจ ไม่รู้จะทำอย่างไรให้เธอสบาย และเชื่อมั่นเหลือเกินว่าเธอมาวนเวียนอยู่ใกล้ๆ พี่วุฒิ ไม่ยอมไปไหน

ใน ที่สุดฉันก็สวดมนต์และนั่งสมาธิถึงเธอ บอกเธอว่า ฉันจะเก็บทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอให้พี่วุฒิตอนที่รักกัน ทั้งการ์ด ทั้งจดหมาย ผ้าพันคอที่เธอถักนิตติ้ง เสื้อที่เธอซื้อ ฉันจะเก็บใส่กล่องอย่างดี แล้ววันหนึ่งเมื่อพี่วุฒิมีวุฒิภาวะกว่านี้ เขาจะได้เห็นสิ่งของพวกนี้ทุกอย่าง และรูปถ่ายทุกใบ เขาจะได้หวนนึกถึงพี่แพร...และรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นฝ่ายสูญเสีย

ฉันขอให้พี่แพรไปสู่สุคติ สักวันหนึ่งฉันจะดึงเอาความ รักที่พี่วุฒิทิ้งไปนั้นกลับมาให้พี่แพรให้จงได้!

//www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPREUwTURjMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHdOeTB4TkE9PQ==



Create Date : 14 กรกฎาคม 2552
Last Update : 14 กรกฎาคม 2552 13:59:08 น.
Counter : 789 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  

iamZEON
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?]



ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/

ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น
กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง
รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ
เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
New Comments
Group Blog
All Blog
MY VIP Friend