ตำนานอสุรกาย (4)
ตำนานอสุรกาย (4)
ขนหัวลุก
ใบหนาด
บรรดา ผีเด็ก หรือ "เด็กผี" นอกจาก ลูกกรอก แล้วก็ยังมี กุมารทอง กับ รักยม แต่กุมารทองนั้นไม่ค่อยโด่งดังเพราะมีคนสนใจเลื่อมใสน้อย ผิดกับผีเด็กชนิดแรกกับชนิดหลัง ที่จะได้เล่าสู่กันฟัง ดังนี้
3.รัก-ยม
ผี น้อยจอมแก่นคู่นี้ถือว่าเป็นผียอดฮิต ใครๆ ก็รู้จักดีว่าเป็นผีที่ผู้ขมังเวทแกะสลักจากไม้รักกับไม้มะยม บางตำราก็บอกว่าแกะจากกาฝากที่ตายซากคาต้นไม้ ต้องร่ายเวทระหว่างแกะด้วยเพื่อเพิ่มความขลัง แต่ถ้าจะให้ขลังสุดยอดต้องเป็นวันพระ 15 ค่ำ ก่อนจะใส่ขวดเล็กๆ แช่น้ำมันจันทน์เอาไว้ติดบ้านเถิด จะประเสริฐนักแล
ข้อสำคัญอย่าลืมเซ่นด้วยของกินของเล่นก็แล้วกัน เรียก ว่าเลี้ยงเหมือนเลี้ยงลูกแล้ว รัก-ยม ก็จะไม่ลืมพระคุณไปตลอดกาล
คิด แล้วก็เป็นผีที่มีสรรพคุณสำหรับเจ้าของ คือทำหน้าที่เฝ้าบ้าน กันขโมย เวลาจะออกจากบ้านก็บอกกล่าวซะหน่อย... พ่อแม่จะออกไปธุระข้างนอก ช่วยดูแลบ้านด้วยนะลูกนะ! หรือไม่ก็กำชับว่า อย่าให้ขโมยมันมาขึ้นเรือนนะลูกเอ๋ย!
รับรองว่าปลอดภัยไร้กังวล หมดห่วงไปร้อยแปดอย่าง บอก ไม่เชื่อ
ถ้า เกิดมีผู้ร้ายมาด้อมๆ มองๆ เพราะเห็นว่าเจ้าของบ้านออกไปแล้ว บ้านนี้ก็ไม่มีคนเฝ้า แต่เอ๊ะ...ทำไมเห็นเด็กสองคนไว้ผมจุกรุ่ยร่าย กำลังวิ่งเล่นที่ระเบียงกับนอกชาน ส่งเสียงหัวเราะคิกคักตามประสาเด็ก แต่ฟังแล้วเยือกเย็นวังเวงใจยังไงชอบกลแฮะ
อ้าว? หมูหมาเจ้ากรรมก็ดันพากันโก่งคอหอนโจ๋ววว...ขึ้นมาดื้อๆ ซะยังงั้น บรรดาขโมยขโจรห้าหกร้อยก็ตัดสินใจกันหันหลังกลับไปดื้อๆ
อย่าเสี่ยงดีกว่า งานนี้น่ะ!
บาง รายมีญาติมาเยี่ยม เกิดได้ยินเสียงเด็กๆ วิ่งเล่นเกรียวกราวดังมาจากชั้นบน แถมหัวเราะร่วนจนต้องขึ้นไปดู เพราะรู้ๆ อยู่ว่าบ้านนี้ไม่มีลูกหลานที่ไหน แต่พอเปิดประตูห้องเข้า ไปก็เห็นเด็กเล็กๆ สองคนกำลังเล่นปล้ำฟัดกันบนที่นอน ก่อนจะหันมายิ้มฟันขาว...หายวับไปกับตาเหมือนกลายเป็นอากาศธาตุหรือสายลมไป ดื้อๆ
...ญาติที่ว่าก็เลยพลอยเป็นลม ล้มตึงลงสลบคาที่อยู่ตรง นั้นเอง!
ผู้ใหญ่ ท่านกำชับนักหนา ว่าใครคิดจะเลี้ยงรัก-ยม ต้องไม่มีลูกหลานเล็กๆ อยู่ในบ้าน ไม่งั้นจะทำให้รัก-ยม อิจฉาตามประสาเด็ก อาจเล่นรังแกหรือทำร้ายให้บาดเจ็บสาหัสได้ง่ายๆ
4.ผีบ้านผีเรือน
คน ไทยนี่จะถือว่าอยู่กับผีตั้งแต่เกิดจนตายก็ยังได้ เพราะทุกบ้านจะถือว่ามีผีบ้านผีเรือนกันทั้งนั้น เช่น ผีปู่ย่าตายาย ผีพ่อ ผีแม่ ซึ่งสมัยก่อนนิยมเก็บกระดูกส่วนหนึ่งใส่โกศไว้บูชา ก่อน นอนก็จะกราบไหว้ระลึกถึงพระคุณ ที่เคร่งๆ หน่อยก็จะมีเครื่อง เซ่นใส่ถ้วยเล็กๆ ทั้งข้าวน้ำเป็นประจำทุกวัน
ก่อนออกจากบ้านหรือเข้าบ้านก็ต้องไหว้ผีกันอีกแล้ว...ก็ผีศาลพระภูมิที่ถือว่าเป็น "เจ้าที่เจ้าทาง" นั่นปะไร!
ไม่ ใช่จะมีแต่ผีดิบของฝรั่งเท่านั้นหรอกน่า คนไทยก็มีผีดิบเหมือนกัน แต่ว่าแตกต่างกันตรงที่ผีดิบฝรั่งชอบลุกจากโลงตอนกลางคืนออกมาเที่ยวดูด เลือดชาวบ้าน แต่ผีดิบไทยหมายถึง "ผีที่ยังไม่ได้เผาหรือฝัง"
ไม่ว่า จะมีผีสุกผีดิบยังไงก็หลอกหลอนได้ไม่เลือกหน้าพอๆ กัน เผลอๆ ผีดิบไทยยังอาจจะหลอกหลอนได้ดุเดือด หรือวิจิตรพิสดารหลายรูปแบบยิ่งกว่าผีฝรั่งด้วยซ้ำไป
เบ็ดเสร็จปาเข้าไป 20 ผีแล้วนะครับ!
ไหน จะมีผีเบ็ดเตล็ดที่น่าตระหนกอกสั่นพอๆ กัน เช่น ผีอำ ผีเข้า ผีถ้วยแก้ว ผีเหาะผีเหินผีเดินอากาศอีกเยอะแยะ ตะละอย่างล้วนไม่น่าเจอะเจอหรือคบหาสมาคมด้วยประการทั้งปวง ยกเว้นผีถ้วยแก้วที่อุตริชักชวนกันเล่น เคราะห์หาม ยามซวยไปเจอผีดุๆ เข้ามีหวังวงแตก หรือวิ่งกันป่าราบก็เคยปรากฏมาแล้ว
หวังว่าคงได้ รับรู้เรื่องผีๆ สางๆ เพิ่มขึ้นพอสมควร ที่แน่ๆ ก็คือยอมรับว่าผีไทยๆ ของเรามีมากมายกว่าผีชาติอื่นๆ ไม่ว่าผีฝรั่ง ผีแขก ผีญี่ปุ่น หรือผีมอญ ผีลาว ผีจีน จาม พราหมณ์พม่าก็ไม่ได้กระผีกผีไทยหรอกครับ พับผ่า!
//www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPREEzTVRBMU1nPT0=§ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHhNQzB3Tnc9PQ==
ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [
