iamZEON Blog : Comics , Anime และอีกสารพัดเรื่อง
|
||||
อาเฮียจงอ่าย
นสพ.คมชัดลึก ฉบับวันที่ 3 มี.ค. 2558
คอลัมน์ ขมน้ำตาล หวานบอระเพ็ด โดย พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ทัศนคติ
โดย หนุ่มเมืองจันท์ จากคอลัมน์ ฟาสต์ฟู้ด ธุรกิจ ใน มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 1799 (6-12 ก.พ. 2558)
จริยธรรม ของผู้บริหาร
=================================================================
ขมน้ำตาล หวานบอระเพ็ด : จริยธรรม ของผู้บริหาร : โดย....พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ เกือบยี่สิบปีที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้เซ็นสัญญาเข้าเป็นลูกจ้างของบริษัทต่างชาติแห่งหนึ่ง โดยมีบันทึกต่อท้ายสัญญาว่า หากผมลาออกจากที่นั่น จะต้องไม่ไปรับตำแหน่งผู้บริหารในธุรกิจประเภทเดียวกันที่เป็นคู่แข่ง ถ้าผมไปทำก่อนจะถึงระยะเวลาที่กำหนด จะต้องถูกปรับเป็นจำนวนเงินตามที่ตกลงกันไว้ ยกเว้นแต่ผมไปทำในตำแหน่งลูกจ้างระดับปฏิบัติงานทั่วไป ที่ไม่มีส่วนกำหนดนโยบายของธุรกิจในองค์กรใหม่ก็สามารถทำได้ ในขณะเดียวกันหากผมยึดมั่นในข้อตกลงบันทึกช่วยจำได้ ก็จะได้รับเงินพิเศษจำนวนหนึ่ง ซึ่งมากพอที่จะทำให้ผมตัดสินใจเซ็นบันทึกท้ายสัญญาว่าจ้างครั้งนั้น ในขณะที่คนรอบตัวของผมซึ่งรู้ถึงการเซ็นสัญญาครั้งนั้น ฝ่ายหนึ่งก็บอกว่า เป็นสัญญาทาสที่ไม่น่ายอมรับ เพราะเมื่อออกจากงานไปแล้วเราควรที่จะไปทำอะไรก็ได้ อีกฝ่ายหนึ่งก็บอกว่า ดีแล้ว เป็นธรรมดีและเป็นมารยาททางธุรกิจอยู่แล้ว ครั้งนั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกผมว่า สัญญาอย่างนี้ ถ้าทั้งคู่มีมโนธรรมและจริยธรรมทางธุรกิจ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยกมาเซ็นกัน เพราะการว่าจ้างผู้บริหารหมายความว่า นายจ้างต้องการแนวทางการปฏิบัติหรือนโยบายจากแนวคิดของผู้บริหารท่านนั้น ดังนั้น หากว่าผู้บริหารวางนโยบายให้องค์กรปฏิบัติในอนาคต แล้วลาออกไปอยู่กับคู่แข่งทางธุรกิจก็เท่ากับว่าเป็นไส้ศึก ที่เอากลยุทธ์หรือนโยบายที่ตนเองวางไว้ด้วยมือ ไปบอกให้คู่แข่งรู้แนวทางการปฏิบัติล่วงหน้า และรู้วิธีการแก้ไขหรือป้องกันอย่างชัดเจน เพราะผู้วางนโยบายได้เปลี่ยนข้างไปอยู่อีกฝ่ายหนึ่งแล้ว สิ่งที่ผมยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างนั้น มีเกิดให้เห็นทุกวันในประเทศไทย โดยที่คนในสังคมไทยเองก็ไม่เห็นว่าเป็นสิ่งผิดปกติ หรือเป็นเรื่องความบกพร่องทางจริยธรรมที่ไม่ควรกระทำ และควรนำไปสอนให้เด็กและเยาวชนได้รับรู้ว่า อะไรถูก อะไรผิด อะไรคือความดีอะไรคือความเลว สังคมไทยทุกวันนี้มองกันเพียงแค่คนผู้นั้นเก่ง, มีความสามารถ และร่ำรวย หรือมีชื่อเสียงเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ข้าราชการระดับอธิบดีหรือสูงกว่านั้นทำหน้าที่เป็นผู้กำหนดนโยบาย เพื่อควบคุมให้ผู้ประกอบการธุรกิจต้องทำตามระเบียบปฏิบัติ และไม่ประกอบธุรกิจด้วยการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบต่อผู้บริโภค แต่ทันทีที่เกษียณอายุจากราชการหรือลาออกจากราชการปุ๊บ วันรุ่งขึ้นก็ไปกินตำแหน่งผู้บริหารในบริษัทเอกชนที่ตนเองเคยเป็นผู้ออกระเบียบควบคุมทันที หรือรู้ตัวล่วงหน้าว่าตนเองจะลาออกจากราชการ หรือจะเกษียณอายุจากราชการในเวลาอันใกล้ จึงเร่งรีบออกข้อกำหนดหรือระเบียบอันเป็นคุณต่อหน่วยงานหรือองค์กรใหม่ ที่ตนเองรู้ล่วงหน้าว่าจะย้ายไปทำงานกินเงินเดือนด้วยหลังจากออกจากราชการไปแล้ว กรณีตัวอย่างที่ยกมาทั้งหมดนั้น เกิดขึ้นตลอดมา โดยที่สังคมไทยไม่คิดเลยว่า เป็นการฉ้อฉลโกงกินอย่างหนึ่ง ไม่ต่างไปจากการคอร์รัปชั่นที่รู้จักกันมานาน หลายคนกลับได้รับการยกย่องจากสังคมว่า เป็นผู้มีความรู้ความสามารถด้วยซ้ำไป โดยลืมไปว่า คนยิ่งมีหน้าที่ตำแหน่งใหญ่โต ยิ่งต้องมีจริยธรรมเอาไว้คอยกำกับตัวเองมากกว่าผู้น้อย ดังที่เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่า พระดี เพราะมีศีลมากกว่าเณร นั่นเองครับ ================================================================= ที่มา //www.komchadluek.net/detail/20140513/184480.html ฮ่องกงรั้งอันดับ 3 ค่าเช่าร้านค้าปลีกแพงที่สุด
ฮ่องกงรั้งอันดับ 3 ค่าเช่าร้านค้าปลีกแพงที่สุด
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มิถุนายน 2553 09:33 น. SCMP - ฮ่องกงยังครองอันดับเมือง ที่มีอัตราค่าเช่าร้านค้าปลีกแพงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก โดยได้แรงหนุนจากยอดค้าปลีกและยอดนักท่องเที่ยว ที่หลั่งไหลเข้ามาช้อปปิ้งบนเกาะแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย จากผลสำรวจของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระบุ รัสเซลล์ สตรีตในย่านคอสเวย์ เบย์ เป็นถนนหรูติดริมทะเล ซึ่งมีราคาแพงที่สุดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ด้วยอัตราค่าเช่า 1,205.46 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตารางฟุตต่อปี ผลสำรวจอัตราค่าเช่าร้านค้าปลีกบนถนนชั้นนำ 127 สายทั่วโลกยังพบว่า ฮ่องกงเป็นรองก็แต่กรุงปารีส และมหานครนิวยอร์กเท่านั้น โดยแม้ว่าฮ่องกงยังคงรั้งอันดับเดิมเมื่อปีที่แล้ว แต่อัตราค่าเช่าร้านที่รัสเซลล์ สตรีต พุ่งร้อยละ 1.3 จากปีก่อน อัตราค่าเช่าร้านค้าปลีกย่านถนนชองเซลิเซ่ในกรุงปารีสทะยานสู่อันดับ หนึ่ง พุ่งร้อยละ 2.04 จากปีที่แล้ว เป็น 1,255.90 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตารางฟุตต่อปี ตามติดมาด้วยย่านฟิฟท์ อเวนิว ในนครนิวยอร์ก ซึ่งหล่นจากอันดับหนึ่งเมื่อเดือนมี.ค.ปีที่แล้ว โดยอัตราค่าเช่าลดลง 150 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 1,250 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตารางฟุตต่อปี คอลลิเออร์สระบุว่า อัตราค่าเช่าที่แพงในฮ่องกงอาจได้รับแรงหนุนจากการค้าปลีก ที่แข็งแกร่ง โดยยอดค้าปลีกประจำเดือนเม.ย.ของฮ่องกงพุ่งขึ้นร้อยละ 15.6 เป็น 25.1 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง นอกจากนั้น การบริโภคภายในท้องถิ่น, การจับจ่ายของนักท่องเที่ยวยังเป็นแรงกระตุ้นสำคัญให้การค้าปลีกเติบโต โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังฮ่องกงในเดือนเม.ย. พุ่งร้อยละ 14.6 เป็น 2.76 ล้านคน ขณะที่คอสเวย์ เบย์ ซึ่งเป็นย่านช้อปปิ้งมาแต่ดั้งเดิม แบรนด์สินค้าปลีกต่างชาติหลายรายกำลังมองหาทำเลทอง เปิดร้านค้าที่นั่น เช่นเดียวกับที่จิมซาจุ่ย ซึ่งเป็นแหล่งจับจ่ายซื้อของ ที่สำคัญอีกแห่ง คาดว่ายอดค้าปลีกของฮ่องกงจะโตอย่างไม่หยุดยั้ง เพราะแรงกดดันจากเงินเฟ้อ และการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของจำนวนนักท่องเที่ยว โดยโครงการของคอลลิเออร์สในการเช่าร้านค้า ซึ่งมีทำเลอยู่บนชั้นหนึ่งของอาคารในย่านช้อปปิ้งสำคัญของฮ่องกงจะขยายตัว ถึงราวร้อยละ 10ในอีก 12 เดือนข้างหน้า เศรษฐกิจโลกที่กำลังฟื้นตัว และตลาดสินเชื่อ ที่กระเตื้องขึ้น เป็นปัจจัยขับเคลื่อนในทางบวก รอสส์ มัวร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของคอลลิเออร์สระบุในผลสำรวจ ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีก ซึ่งมีงบดุลแข็งแกร่ง กำลังมีความมั่นใจกลับคืนมาอย่างรวดเร็วในการขยายกิจการสู่ตลาด ที่แต่ก่อนมองว่าค่าเช่าที่แพงเกินไป หรือเจาะลูกค้ายาก มัวร์ระบุว่า แม้มีความเคลื่อนไหวลดค่าเช่าร้านค้าปลีกในหลายประเทศ แต่ร้านค้าปลีกสินค้าฟุ่มเฟือยก็ยังคงเป็นภาคธุรกิจสำคัญ ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว นอกจากนั้น การเติบโตอย่างต่อเนื่องของชนชั้นกลางในแถบเอเชีย-แปซิฟิก, ตะวันออกกลาง ตลอดจนแถบยุโรปกลางและตะวันออก ประกอบกับความต้องการบริโภคของลูกค้ากลุ่มนี้จะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการ เติบโตของธุรกิจค้าปลีกสินค้าฟุ่มเฟือยต่อไป |
iamZEON
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 111 คน [?] ยินดีต้อนรับทุกท่านนะครับ ^^/ ข่าวสารการ์ตูนญี่ปุ่น กับเกี่ยวข้องอย่างภาพยนตร์-เพลง รายชื่อการ์ตูนออกใหม่-งานหนังสือ เรื่องทั่วๆไปทั้งในและนอกประเทศก็มีบ้าง
Group Blog
Friends Blog
Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |