Apple has lost a visionary and creative genius, and the world has lost an amazing human being.

But his spirit will forever be the foundation of Apple. 6 October 2011

<<
พฤษภาคม 2564
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
14 พฤษภาคม 2564

สองวัดสองแผ่นดิน : วัดราชนัดดารามวรวิหาร (1)



ถ้าจะกล่าวถึงวัดราชนัดดาฯ ก็คงต้องนึกถึงสิ่งก่อสร้างเพียงหนึ่งเดียว
ในโลกนี้ นั่นคือโลหะปราสาท กล่าวกันว่า เป็นหลังที่สามของโลกนี้
โดยหลังแรกนั้นกล่าวว่าสร้างโดยนางวิสาขาในสมัยพุทธกาล
โดยอ้างอิงจากเรื่อง
การสร้างวิหารของนางวิสาขา 9 เดือนแล้วเสร็จ       
ในพระสุตตันตปิฎกหมวดขุททกนิกายวิสาขาสูตร ใจความโดยย่อว่า
 
นางวิสาขานั้นเลื่อมใสในพุทธศาสนา วันหนึ่งได้ไปฟังธรรมที่วิหาร
แล้วสาวใช้ลืมเครื่องประดับศีรษะที่เรียกว่า มหาลดาปสาธน์ ไว้
เครื่องประดับมีน้ำหนักมากเนื่องจากประดับด้วยหินมีค่ามากมาย
 
พระพุทธเจ้าเห็นนางวิสาขาลืมมหาลดาปสาธน์ไว้ก็สั่งให้พระอานนท์
นำไปเก็บเพื่อรอนางมารับกลับไป เมื่อนางวิสาขานึกขึ้นได้จึงให้สาวใช้ไปเอา
แต่ก่อนไปก็สั่งว่า หากพระอานนท์เป็นผู้ยกไปเก็บไว้ก็อย่าได้นำกลับคืนมา
เพราะนางจะถือว่าเป็นของถวายแล้ว เมื่อสาวใช้ไปถึง พระอานนท์ก็กล่าวว่า
 
ฉันได้นำไปวางไว้ข้างบันได เจ้าจงไปรับกลับไปคืนนางวิสาขาด้วยเถิด
นางสาวใช้จึงบอกกับพระอานนท์ตามที่เจ้านายสั่งไว้ แล้วกลับไปมือเปล่า
นางวิสาขากลับมาคิดดู เห็นว่ามหาลดาปสาธน์ที่ถวายพระอานนท์ไปนั้น
หาประโยชน์กับพระภิกษุไม่ จึงสั่งสาวใช้ให้ไปนำกลับมาที่บ้าน
 

 
แล้วนางก็เรียกช่างทองมา เพื่อตีราคาขายแก่พ่อค้า ซึ่งพ่อค้ากล่าวว่า
มีถึงราคา 6 โกฏ และสำหรับค่าบำเหน็จนั้นต้องไม่น้อยกว่า 1 แสน
ซึ่งพวกตนไม่มีเงินพอ และต่อให้ซื้อไปก็หาคนรับซื้อได้ยาก
เพราะนอกจากเป็นของมีราคาแล้ว

ผู้สวมใส่ยังต้องกำลังเท่ากับช้าง 5 เชือก ด้วยน้ำหนักหินมีค่าที่ประดับอยู่
ผู้ที่สวมใส่ได้นั้นจึงมีเพียง 3 คน คือนอกจากนางวิสาขาเองแล้ว
ก็มีนางมัลลิกาภรรยาของพันธุลมัลลเสนาบดี
และลูกสาวเศรษฐีกรุงพาราณสีเท่านั้น
 
นางวิสาขาได้ฟังดังนั้นจึงกล่าวว่า นางจะเป็นผู้ซื้อไว้ในราคา 9 โกฏ 1 แสนเอง
แล้วให้ขนเงินจำนวนดังกล่าวใส่เกวียนไปที่วิหารเพื่อถวายแด่พระพุทธเจ้า
แล้วเล่าความเป็นมาของเงินนั้น พระพุทธองค์จึงมีดำรัสว่า
จงนำเงินนี้ไปสร้างที่อยู่สงฆ์ ตรงประตูเมืองด้านทิศตะวันออกเถิด
 
วันหนึ่งพระพุทธเจ้าจะเสด็จไปโปรดภัททิยะ เศรษฐีที่เมืองภัททยนคร
นางวิสาขาทราบเรื่องจึงรีบไปทูลขอพระองค์ ว่าอย่าเสด็จไปเลย
ด้วยนางพร้อมที่จะถวายทรัพย์เพื่อการศาสนาโดยที่องค์สัมมาพระพุทธเจ้า
ไม่จำเป็นต้องจาริกไปยังเมืองอื่นเลย แต่พระพุทธเจ้าตอบว่า จำเป็น
 

 
นางวิสาขาจึงทูลขอว่า ด้วยวิหารที่นางได้บริจาคเงินนั้นยังสร้างไม่เสร็จ
ขอให้พระองค์ทรงเลือกภิกษุที่จะช่วยดูแลการก่อสร้างวิหารหลังนี้ด้วยเถิด
พระพุทธองค์ตรัสว่าจงเลือกเอง นางวิสาขานั้นคิดในใจว่า แม้นจะศรัทธา
ในตัวพระอานนท์ แต่เรื่องนี้เป็นงานใหญ่นางต้องการได้พระเถระที่มีฤทธิ์
 
นางวิสาขาจึงทูลขอพระมหาโมคคัลนะ พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า โมคคัลนะ
จงพาบริวารทั้ง 500 กลับไปเถิด ด้วยอานุภาพของท่าน เพียงวันนั้น
อิฐหินดินทรายไม้ทั้งหมดที่ต้องใช้ในการก่อสร้างก็ได้มาครบ
การก่อสร้างใช้เวลาทั้งสิ้น 9 เดือน ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับที่พระพุทธเจ้า
 
ได้เสด็จกลับมายังกรุงสาวัตถีพอดี วิหารนั้นมี 2 ชั้นๆ ละ 500 ห้อง
มียอดวิหารที่ทำจากทองคำเป็นแท่งขนาดเท่ากับจุน้ำได้ 60 หม้อ
นั่นจึงเป็นที่มาของเรื่องโลหะปราสาทหลังแรกที่หลายคนอาจกล่าวสาธุ
ด้วยความอิ่มเอมในศรัทธาในพระพุทธศาสนาของนางวิสาขาอย่างยิ่งยวด
 
แต่ในความคิดคนปัจจุบันอาจตั้งคำถามว่า นั่นมันคือเรื่องจริงหรือเปล่า ?
เราคงไม่รู้ในคำตอบนั้นด้วยศาสนสถาน ที่ร่วมสมัยกับพระพุทธเจ้าในอินเดีย
ไม่มีสิ่งใดที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบัน แต่ยังมีสิ่งก่อสร้างแห่งหนึ่งที่ศรีลังกา
นั่นก็คือ โลหะปราสาทแห่งที่สองให้ค้นหา แม้ว่าจะเหลือเพียงซากก็ตามที



Create Date : 14 พฤษภาคม 2564
Last Update : 20 พฤษภาคม 2564 15:30:38 น. 11 comments
Counter : 1032 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณหอมกร, คุณKavanich96, คุณเริงฤดีนะ, คุณ**mp5**, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณnewyorknurse, คุณhaiku, คุณtuk-tuk@korat


 
เจิมๆๆ
โลหะปราสาทเดิมสีดำ
ดูขลังๆๆ

พอบูรณะ หรือ ปฏิสังขร ใหม่เป็นสีทองอร่าม

ดูสวยงามอลังการณ์ ความงดงามต้น/ปลายถนนราชดำเนิน
จากสะพานผ่านฟ้า

เวลานั่งเรือคลองแสนแสบไปวัดภูเขาทอง
ก็จะต้องข้ามไปวัดราชนัดดาด้วยทุกครั้ง

เดิมต้องแวะซื้อประทัด ไฟเพรียง ด้วย


วันหน้ามาส่งกำลังใจค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 14 พฤษภาคม 2564 เวลา:14:20:59 น.  

 
(โอ่ง)ไฟเพนียง*


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 14 พฤษภาคม 2564 เวลา:14:22:26 น.  

 
เรื่องราวทั้้งหมด คงจะเขียนไว้เพื่อ ให้ชาวพุทธได้คิดว่า
ของมีค่าของบางคน อาจจะไม่มีค่าต่อ ภิกษุ (บางรูป) ซึ่งสละ
แล้วก็สะสม
...
ถ้าเป็นปัจจุบันน่าจะมีภิกษุที่ ยังสะสมอยู่บ้าง... แต่พูดไปก็ไม่
ดีอีกแหละ 555 เราคงถือตามคำสอนของพระพุทธองค์ดีกว่า


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 14 พฤษภาคม 2564 เวลา:15:10:51 น.  

 
พูดถึงโลหะปราสาทแล้วนึกถึงวัดราชนัดดาเลยครับ แล้วนึกเลยไปถึงร้านผัดไทยเตาถ่านลุงภา ขนมเบื้องโบราณ ตี๋เย็นตาโฟ ฮ่าๆๆๆๆ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 14 พฤษภาคม 2564 เวลา:15:47:08 น.  

 
สวัสดีค่ะ..

เป็นวัดหนึ่ง..เวลาที่ไปทำบุญ 9วัดจะขาดไม่ได้

ขึ้นไปบนสุด ชมวิวรอบๆวัดคะ



โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 14 พฤษภาคม 2564 เวลา:18:02:11 น.  

 
คนสร้างก็ได้บุญไปตามส่วน
คนมัวแต่สงสัยก็ไม่ได้บุญต่อไป
ขอบคุณที่นำมาฝากกันจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 14 พฤษภาคม 2564 เวลา:19:57:39 น.  

 
สวัสดีครับ

ชอบอ่านชอบฟังเรื่องเล่าแบบนี้ครับ ชวนให้จินตนาการ และคิดตาม

ขอบคุณที่ส่งกำลังใจให้ที่บล็อกนะครับ
ดูเหมือนว่า สนพ. บงกช เค้าพิมพ์หนังสืออื่นๆ และนิยายมาก่อนทำการ์ตูนใช่ไหมครับ เป็นสนพ. หนึ่ง ที่ค่อนข้างมีมาตรฐานในการจัดพิมพ์ดีนะครับ


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 14 พฤษภาคม 2564 เวลา:23:12:43 น.  

 


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 15 พฤษภาคม 2564 เวลา:8:54:21 น.  

 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 15 พฤษภาคม 2564 เวลา:17:48:04 น.  

 
สวัสดีตอนค่ำๆวันเสาร์ครับ




ขอขอบคุณสำหรับกำลังใจที่บล็อก 3F - ยำไข่ดาว ด้วยนะครับ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 15 พฤษภาคม 2564 เวลา:20:11:39 น.  

 
ขอบคุณค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 18 พฤษภาคม 2564 เวลา:13:10:04 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ผู้ชายในสายลมหนาว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]




New Comments
[Add ผู้ชายในสายลมหนาว's blog to your web]