1 2 3 4 5 6 7
8 9 10 11 12 13 14
15 16 17 18 19 20 21
22 23 24 25 26 27 28
29 30 31
22 มกราคม 2566
อาการน้ำนิ่ง
ไม่มีทฤษฎีหรืองานวิจัยใดมารองรับความเชื่อของ Magnolia หรอก แต่มันเกิดขึ้นขณะที่เราเดินผ่านเส้นทางน้ำสายเล็กๆ ที่ถูกขุดขึ้นเป็นคลองสั้นๆ แต่เป็นคลองตันไม่มีทางออก น้ำนิ่งไม่ใสเหมือนแหล่งน้ำธรรมชาติ ผิวน้ำจะขยับก็ต่อเมื่อมีลมพัดผ่าน แม้แต่เป็นคลื่นก็ยังไม่ได้เลย จึงผุดเป็นความคิดในหัวอย่างหนึ่งว่า น้ำนิ่งก็เหมือนคนที่ดูมีบุคลิกสงบนิ่ง ชีวิตราบเรียบไม่มีขึ้นหรือลง ไม่ต้องคิดอะไรให้วุ่นวายใจ ใช้ชีวิตตามวิถีทางที่ไม่หวือหวา ให้อยู่ในขอบเขตแค่ไหนก็แค่นั้น ไม่ต้องไหลตามใคร และไม่มีใครมาพัดพา ซึ่งก็น่าอิจฉาไปอีกแบบที่ไม่มีใครสนใจและไม่ต้องสนใจใคร แต่ลองสังเกตน้ำนิ่งนั้นใกล้ๆ ไม่เหลือความใสสะอาดแล้ว เมื่อถูกขังนานๆ ก็กลายเป็นสีขุ่น เต็มไปด้วยตะไคร่ มีตะกอน ใบไม้แห้ง และเศษขยะลอยอยู่ปลายน้ำเต็มไปหมด สภาพไม่น่าภิรมย์ ดีที่ยังไม่ส่งกลิ่น เช่นเดียวกับคนที่นิ่งเงียบก็ไม่ได้หมายความว่าใจจะว่างเปล่านะ ในใจอาจจะขุ่นคลั่กอยู่ก็ได้ เราว่าคงเหมือนน้ำนั่นแหละ บางทีอาจเจอสิ่งปฏิกูล เจอขยะ เจอฝน เจอแดด แต่ไหลวนไปไหนไม่ได้ ไม่มีเครื่องบำบัดหรือเติมออกซิเจนในน้ำ น้ำนิ่งก็คือน้ำขังนั่นเอง อะไรที่ขังอยู่นานๆ ไม่ได้ระบายออก หรือเปลี่ยนเส้นทางไหลไปสู่เส้นทางอื่นบ้าง ก็ใช่ว่าจะดี วันหนึ่งอาจจะเน่าเสีย เป็นมลภาวะ เป็นอันตราย และไม่ใช่สิ่งที่น่าพิสมัยเหมือนอดีต เราเชื่อว่าเหมือนอารมณ์ความรู้สึกของคน ถ้านิ่งสนิทเกินไป ไม่แสดงออกด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่แท้จริง มีสิ่งคับข้องขังอยู่ในใจก็ไม่ระบายออกมา เก็บขยะหรือความเครียดเอาไว้ สั่งสมไว้นานๆ เพื่อปกปิดหรือกลบเกลื่อนไว้ไม่ให้ใครรู้สิ่งที่อยู่ข้างใน มันคงไม่ต่างอะไรกับ “อาการน้ำนิ่ง” หรอก หากอะไรที่ไม่สบายใจถูกปล่อยไปได้บ้าง ไม่ขังมันไว้นานเกินไป ก็เหมือนสายน้ำที่ไหลไปไม่หยุดนิ่ง ออกซิเจนก็เพิ่มขึ้น ความขุ่นหมองก็ลดลง ปลาได้หายใจแหวกว่ายเติบโต ไม่มีขยะที่ลอยฟ่องให้เห็น ลองนึกดูสิว่า ถ้าเปรียบเป็นใจคน มันจะดีสักแค่ไหนถ้าไม่ต้องปิดกั้นความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองบ้างแม้เพียงช่องทางรอดเล็กๆ ให้ได้ระบายออกก็ยังดีกว่านะVIDEO
Create Date : 22 มกราคม 2566
Last Update : 22 มกราคม 2566 16:29:23 น.
0 comments
Counter : 847 Pageviews.