Group Blog All Blog
|
วันพุธนี้ เป็นวันที่เรามีเวลา ด้วย เรามีเวลา ไม่ได้ง่วง และไม่ได้กินกาแฟบ่าย่ ไม่ได้ทำงานจนล้า จะจับจะทำอะไร ทุกคนก็เป็นห่วง เช่น ก้มได้ไหม (กลัวเราไปแคะราก) เรา : ได้ค่ะ ตอนนี้คอหมุนได้ 270 องศาแล้ว ไม่ต้องห่วง ------------- จบวันพุธ-- อยากเล่าเรื่องวันจันทร์ วันจันทร์เป็นวันหยุดชดเชยวันเกิดในหลวง มีพี่หมอสูติ ที่ รพ เราขึ้นบ้านใหม่ ซึ่งเรารักแกมาก เพราะชอบเอาคำถามบ้าๆ บอๆ ไปถามแก แกก็ตอบได้ทุกอย่าง :) นอกจากนี้ เรายังสัณฐานคล้ายแก จนมีคนมาขอทำหมันกับเรา ฮ่า --------------- ไปร่วมงาน ได้ตักบาตร สวดมนต์ ได้ร่วมอนุโมทนาถวายสังฆทานอาหารและปัจจัย ได้แผ่เมตตาให้บ้านพี่เค้า และบ้านเรา ให้แม่ให้ยาย ให้ญาติเราด้วย เทวดาคงจะมารับบุญมากอยู่นะ อากาศดีทีเดียว พอหมดงานพระก็มีงาน ที่แบบต้องกั้นประตู (เราเพิ่งเคยเห็น) เข้าบ้าน และโห่กับแห่ของรอบบ้าน สามรอบ แล้วเอาของเข้าบ้าน จากนั้นก็มีของกินเล่น พวกลูกชิ้นทอด ขนมจีน ส้มตำ ทำให้เราอิ่มก่อนโต๊ะจีนจะตั้งซะอีก เราเลยลากลับ ทว่า...... ----------------- ความพีคมันเริ่มจากการที่เราเกิดอยากแวะที่ดินเรา ที่ได้แค่ลงเสาเข็มมา 2 เดือนละ (เราป่วย) เราก็เลยขับไปดูที่ดิน และดินมันแฉะ เรารู้เลยว่า เข้าไปเดินดู แตะเราจะกลายเป็นเกี๊ยะ แน่นอน เราก็เลย แสดงอัจฉริยภาพ โดยการขับรถเข้าไปในดินที่ถมนั้น มีน้ำนองนิดหน่อย และ เราก็ถอยออกมาไม่ได้ รถเราคันน้อย แต่ยัยคนขับกล้าหาญปานโฟร์วีล เห้อ.... หลังจากพยายามอยู่นาน เราก็เลยโทรหาพี่คนโต พี่เราบอกให้เอาหินรองหลังล้อก่อนถอย เราทำแล้วถอยได้หนึ่งคำรบ มันมีแอ่งอีกข้าง ตอนนี้สองล้อหน้าจมน้ำ หมดทางออก โทรหาพี่อีก พี่บอกว่า เอาไม้รองสองฝั่ง และให้เปิดโทรศัพท์ไว้ด้วย บ่นเรา ว่ามีคนช่วยไหม ถ้ามีคนเช่วยขย่มหน้ารถ ดันช่วยจะดีมาก กับถามว่า ไปก้มเก็บไม้ เดี๋ยวก็ปวดคออีก หาคนช่วยได้ไหม คนช่วย ----- ,มีคุณป้าตัวผอม แต่งกายรัดกุม ถือตะกร้าหมากผ่านมา และตะโกนบอกเราว่า จอดข้างนอกก็พอ อย่าไปจอดในนั้น เดินผ่านไป ...ขอบคุณค่ะ แกช่วยเราไม่ไหวอยู่แล้วล่ะ -------------- เราถอยได้ในที่สุดด้วยการ ก่อนจะเกียร์ R ให้ D ไปข้างหน้านิดนึงก่อน ให้มีแรงไต่ พี่เราบอกว่า ที่ทำให้มีไม้รอง คือการเพิ่มแรงเสียดทาน หรือ มิว (สอนลูกมัธยม เราจะได้คำตอบแบบวิชาการจากพี่บ่อยมาก) อาจกล่าวได้ว่า การที่เรา D นิดนึงก่อน R ก็ช่วยให้มิวพุ่งทะยานด้วยนะ เพราะเรา RRRR อยู่ตั้งนาน จนแบบ เอาวะ ไปหน้านิดนึง ถอยกลับ คราวนี้ได้เฉย เราหลุดออกมา บอกพี่ สภาพเราตอนนั้นเหงื่อแตกท่วมตัว รองเท้าเป็นเกี๊ยะอย่างที่กลัวนักกลัวหนา เดินจุ่มดินอ้อมรถไปมาหลายรอบมาก ไปคุ้ยหาไม้ก็อีกหนึ่ง เง้อออ ดีรองเท้าทน ไม่ขาด รองเท้าคีบยี่ห้อที่สายหนาแน่น ถ้าเป็นคีบยาง อาจจะสายหลุดแล้ว ฝั่งที่วางเท้าคนขับคือ มีก้อนขี้ดิน จากรองเท้าแตะเราเพียบ (เอารถไปล้างรอบนี้ คงโดนคิดเงินเพิ่ม) เราก็เลยแวะถ่ายรูปรองเท้าแตะ ควบโคลนนั้น บนทางที่เลยที่ดินเรามา ที่เป็นซีเมนต์กับนาสวย (ของคนอื่น) ระหว่างการถ่ายภาพรองเท้าควบโคลนที่ระลึก นี่มันใต้ต้นไม้ใหญ่อะไรไม่รู้ แต่ มดแดงใหญ่เยอะมาก ก็เริ่มมาหาเรา เดินหนีก็มีอีกเพียบ ในที่สุด ก็มีมดตัวเก่ง ไต่เข้าขากางเกงซ้ายเรา ฮะ อะไรนี่ เราเห็นเป็นแถวทุ่งนาก็เลยจะล้วงจากตรงเอว มันน่าจะมีแค่ตัวเดียว และเมื่อหันหลังไป เราก็พบว่า เราไม่มีเวลาล้วงอะไรแล้ว วัวฝูงใหญ่กำลังถูกต้อนเข้ามาใกล้เรา ไม่เกินยี่สิบเมตรนี้แล้ว เรารีบขึ้นรถขับออกมา ----------------- เห้อ ว่าที่บ้านใหม่เรานี่มัน บ้านนาเหลือเกิน อย่างไรก็ดี เราจบวันจันทร์ด้วยการได้ถางหญ้าที่บ้านเช่า บุ้งเยอะมาก และทำให้เราไม่ได้นอนจนถึงเมื่อคืนนี้ (ไม่กล้านอน บุ้งเยอะมากกก) แล้วจะมาเล่าต่อ
|
สุขใจพริ้ว
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] เป็นบันทึกเรื่องราวทั่วไป ตามที่ใจนึกอยาก ของคนทำงานไกลบ้าน | ||||