หน้าไหม้ ไข่ตึง ทาร์ตไข่ Lord Stows Bakery ขนมเจ้าอร่อยแห่งมาเก๊า
ทาร์ตไข่ จากร้าน Lord Stows Bakery
ด้วยเหตุที่ประเทศโปรตุเกสเข้ามาปกครองมาเก๊านานกว่า 400 ปี ทำให้วัฒนธรรมหลายๆ อย่างของโปรตุเกสได้เข้ามาเผยแพร่และผสมผสานกับวัฒนธรรมจีน กลายเป็นวัฒนธรรมแบบเฉพาะตัวของชาวมาเก๊า และรวมไปถึงเรื่องอาหารการกิน ที่จะมีกลิ่นอายของความเป็นโปรตุเกสเข้ามาผสมด้วย โดยเฉพาะขนมต่างๆ นั้น ก็จะเห็นได้ว่าบนมาเก๊า มีทั้งขนมที่ผสมผสานระหว่างจีนและมาเก๊า รวมถึงขนมแบบโปรตุเกสให้เลือกชิมกันหลากหลายเมนู แต่ขนมแบบโปรตุเกสที่ขึ้นชื่อที่สุดบนมาเก๊า และนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนมาเก๊าต้องลองชิมสักครั้งก็คือ ทาร์ตไข่
ทาร์ตไข่ร้านนี้มีสโลแกนคือ หน้าไหม้ ไข่ตึง
Lord Stows Garden Café ที่หมู่บ้านโคโลอาน
หนึ่งในร้านทาร์ตไข่ชื่อดังอันดับต้นๆ ที่มาเก๊าก็คือร้าน Lord Stows Bakery ซึ่งว่ากันว่าเป็นเจ้าแรกที่ทำทาร์ตไข่มาขายที่มาเก๊า จุดเริ่มต้นของร้านนี้มาจาก Andrew Stow ชาวอังกฤษได้อพยพมาตั้งรกรากอยู่ที่มาเก๊า
ซึ่งเดิมนั้นเขาทำงานให้กับบริษัทขายยา ต่อมาก็มาทำงานทางด้านโรงแรม ก่อนจะมีโอกาสได้ฝึกงานที่ร้านอาหารโปรตุเกส จากนั้นก็ได้คิดค้นสูตรทาร์ตไข่สไตล์โปรตุเกสที่ผสมผสานเทคนิคแบบอังกฤษลงไปด้วย กลายมาเป็นทาร์ตไข่ชื่อดังที่วางขายในร้านมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1989 เป็นต้นมา ทาร์ตไข่ของร้าน Lord Stows Bakery มีทีเด็ดอยู่ที่ หน้าไหม้ ไข่ตึง ซึ่งตัวแป้งทาร์ตจะเป็นชั้นๆ กรอบ หอม ชุ่มเนย ไส้ด้านในเป็นไข่ เนื้อนุ่มแน่นหอม หวานกำลังดี ด้านบนเป็นน้ำตาลไหม้ และของแท้ต้องมีผงซินนามอนโรยหน้าเพิ่มความหอมยั่วน้ำลาย
นอกจากเจ้าทาร์ตไข่อันลือชื่อนี้แล้ว ที่ร้านนี้ก็ยังมีเบเกอรี่แบบต่างๆ วางขายอีกหลากหลายเมนู แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้คนจากทั่วทุกสารทิศก็จะมาต่อแถวเข้าคิวเพื่อรอซื้อทาร์ตไข่ไปลิ้มรสกัน ร้านดั้งเดิมของ Lord Stows Bakery ตั้งอยู่ที่เกาะโคโลอาน ในหมู่บ้านโคโลอาน ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ริมทะเล
ต่อมาก็เริ่มขยับขยายมาเป็นร้านแบบคาเฟ่ ให้มีที่นั่งกินกัน ซึ่งแต่ก่อนหากใครอยากจะลองลิ้มทาร์ตไข่เจ้านี้จะต้องเดินทางไปถึงเกาะโคโลอาน แต่ในปัจจุบันก็มีมาเปิดขายอยู่ที่ เดอะ เวเนเชียน มาเก๊า แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอีกแห่งหนึ่งของมาเก๊า ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อหามาลองชิมกันได้อย่างสะดวก และนอกจากนี้ก็ยังมีสาขาอยู่ที่ต่างประเทศอีก 3 สาขา ด้วย
มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยอีกนิดหน่อยสำหรับทาร์ตไข่ชื่อดังบนเกาะมาเก๊า Andrew Stow ผู้ก่อตั้งร้าน Lord Stows Bakery นั้น เมื่ออพยพมาอยู่ที่มาเก๊า ก็ได้พบรักกับสาวชาวท้องถิ่นนามว่า Margaret แล้วก็ร่วมกันทำทาร์ตไข่ขาย มาจนกระทั่งมีเหตุให้ต้องเลิกร้างกันไป สาว Margaret
จึงได้มาตั้งร้านใหม่เป็นของตัวเอง มีชื่อว่า Margarets Café Nata ซึ่งก็มีทาร์ตไข่เป็นเมนูขึ้นชื่อด้วยเช่นกัน และทาร์ตไข่ของทั้งสองร้านนี้ก็มีรสชาติใกล้เคียงกัน แล้วก็ถือว่าเป็นทาร์ตไข่สองเจ้าที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยสูสีกันอีกด้วย หากใครอยากชิมทาร์ตไข่ของ Lord Stows Bakery ให้อร่อยที่สุด ก็แนะนำว่าให้มากินที่ร้านเลย หรือกินหลังจากซื้อมาแล้วไม่เกิน 6 ชั่วโมง เพราะแป้งทาร์ตจะยังกรอบอร่อยอยู่ ยิ่งได้กินตอนอุ่นๆ เพิ่งออกจากเตามาใหม่ๆ ก็จะยิ่งฟินมากขึ้น
แต่ถ้าหากว่าจะซื้อกลับบ้านมาเป็นของฝาก ก็สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้อีก 3 วัน ซึ่งสามารถกินแบบเย็นๆ ได้ด้วย ได้รสชาติไปอีกแบบ แต่ถ้าจะนำมาอุ่น แนะนำให้อุ่นในเตาอบ ประมาณ 3-4 นาที ก็จะได้ทาร์ตกรอบๆ ใกล้เคียงกับตอนออกมาจากร้านใหม่ๆ เลยทีเดียว
ร้าน Lord Stows Bakery มีสาขาบนเกาะโคโลอาน 4 สาขา ที่เดอะ เวเนเชียน มาเก๊า 2 สาขา และที่ University of Macau Town Centre อีก 1 สาขา ส่วนในต่างประเทศ มีสาขาที่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //www.lordstow.com
ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์
สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ
Create Date : 11 พฤศจิกายน 2558 |
|
0 comments |
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2558 11:46:38 น. |
Counter : 1444 Pageviews. |
|
|
|