1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30
Title: คืนจันทร์ส่อง
และแล้วเทศกาลที่หลายๆคนรอคอย...ก็ผ่านพ้นไป จะสุขใจ หรือ ทุกข์ใจในวันนี้ก็แล้วแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของแต่ละคนนั้น เช้านี้ก็เช่นกัน เมื่อผมได้รับคำถามจากใครต่อใครหลายคนว่า ลอยกระทงไปเที่ยวที่ไหนมา คำตอบของผมที่ตอบเหมือนๆกันแทบทุกปีนั่นก็คือ นอนอยู่บ้านจ้า... ใช่ครับในช่วงคืนวันเพ็ญเดือน 12 ของทุกปีผมไม่ได้ไปลอยกระทงที่ไหนเลยเป็นเวลานานแล้ว หลังจากที่ผ่านพ้นวัยเด็ก เลยเถิดไปถึงช่วงวัยคะนอนมานานพอสมควร ทุกปีที่มีงานลอยกระทงแถวบ้านผม ผมมักจะเห็นพวกเด็กๆวัยหัวนมยังไม่แตกพาน เดินหัวเกรียนควงคู่ไปกับเด็กหญิงผมสั้นซอยที่ต่างแข่งกันแต่งหน้าแต่งตัวสวยๆ ประชันโฉมกันอย่างสุดฤทธิ์เพื่อไปลอยกระทงกัน ส่วนจะเลยเถิดไปต่อกันที่ไหนนี่...ผมไม่ทราบ หากฉับพลันความคิดสงสัยผ่านวาบขึ้นมาในสมองว่า ผู้คนมากมายที่ต่างเดินเบียดเสียดเพื่อไปปล่อยกระทงลงน้ำกันอย่างมืดฟ้ามัวดินนี่พวกเขาจะรู้ไหมว่า ทำไมและเหตุใดถึงได้มีและเกิดประเพณีลอบกระทงนี้ขึ้น หรือแค่คิดว่า ขอให้ได้ไปลอยกระทงกับแฟน ได้เดินเที่ยวงาน กินขนมสายไหม นั่งชิงช้าสวรรค์ ดูคอนเสิร์ตมันส์ๆ ตบท้ายด้วยการยกพวกตีกันแค่นั้นก็พอ ผมไม่รู้... เมื่อสมัยที่ผมยังเด็กๆ ผู้หลักผู้ใหญ่ที่พาผมไปลอยกระทง มักจะบอกว่า ให้เราอธิษฐานขอพรจากพระแม่คงคา และ ขอให้ความทุกข์ ความโศกรวมถึงโรคภัยต่างๆ ให้ลอยไปกับแม่น้ำนั่นซะ นั่นคือความเชื่อส่วนหนึ่งที่ถูกปลูกฝังกันมาตั้งแต่สมัยยังเยาว์วัย โตขึ้นมาหน่อยถึงได้รู้ว่าพิธีลอยกระทงนั้นมาจากพระราชพิธีจองเปรียงชักโคม ลอยโคม ซึ่งเป็นพิธีของพราหมณ์ เพื่อบูชาพระเป็นเจ้าทั้งสาม คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม และก็ได้รูว่ากระทงนั้น เกิดจากฝีมือของนางนพมาศ สนมเอกของพระร่วงเจ้ากรุงสุโขทัย ที่ได้ทำกระทงรูปดอกบัว และรูปต่างๆถวายพระร่วงเพื่อนำไปสักการบูชาพระพุทธบาทนัมฆทานที ซึ่งเป็นรอยพระบาทที่พระพุทธเจ้าได้ประทับไว้ ณ หาดทรายแม่น้ำนัมมทานที ในประเทศอินเดีย แน่นอนข้อมูลพวกนี้ ผมได้มาจากอินเตอร์เน็ตไม่ได้มาจากความจำในสมัยยั่งเรียนอยู่ทั้งหมดหรอกครับ อืม...บ่นมามากพอแล้ว ขอข้ามไปเลยแล้วกัน แต่ขอออกตัวอีกนิดนึงนะครับว่าผมไม่ได้มีเจตนาว่าร้ายใครที่ไปงานลอยกระทง แล้วก็ไม่ได้อยากแสดงตัวโอ้อวดว่าเป็นผู้รู้ความหมายลึกซึ้งของประเพณีนี้หรอกนะครับ... แต่... ที่เขียนมาทั้งหมดนี้มันเกิดมาจากความรำคาญปนความสงสัยมากกว่า... ถามว่า...หากลอยกระทงเพราะต้องการระลึกถึงบุญคุณพระแม่คงคาจริง ทำไมถึงยังแห่กันเอาขยะไปลอยกันอย่างนั้นล่ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นกระทงธรรมชาติ หรืออะไรที่ย่อยสลายได้ง่ายก็ตามเถอะ แต่อย่างไรซะ มันก็ขึ้นชื่อว่าเป็นสิ่งปฏิกูลอยู่ดีมิใช่หรือ หรือหากต้องการลอยทุกข์โศกให้ลอยออกไปไกลจากตัวเรา...ทำไมถึงเอาความทุกข์แสนสาหัสไปให้กับแม่น้ำลำคลองด้วย... โอ๊ะโอ...อ่านไปอ่านมา เขียนไปเขียนมา ท่าทางเหมือนผมกำลังจะหาเรื่องอยู่ใช่ไหมครับ แต่...ขอออกตัวอีกทีว่าไม่ได้มีเจตนา อืม...ขณะที่ผมบ่นใส่แป้นคีย์บอร์ดนี้อยู่ เสียงประทัดยังคงดังปุ้ง! ปุ้ง! ปัง! ปัง! อย่างต่อเนื่องเหมือนเมื่อวันงานไม่มีผิด...เอ๊หรือที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพราะรำคาญเสียงประทัดกันนะ...เอาน่ะ เด็กๆเราก็เคยเป็นเคยทำมาก่อน ช่างหัวมันประไรก็แล้วกัน... ผมมองลอดบานหน้าต่างออกไป แลเห็นแสงจันทร์เต็มดวงนวลสวยเต็มตาเชียว อย่างน้อยความงดงามหลังจากคืนวันลอยกระทงก็ยังคงมีอยู่บ้าง ผมจำได้ว่าเมื่อคืนวันลอยกระทง ผู้คนในหมู่บ้านแห่แหนกันออกไปงานลอยกระทงที่ถูกจัดขึ้น ผมยังคงนั่งเงียบๆคนเดียวอยู่ในบ้าน มองผ่านช่องหน้าต่างเห็นดวงจันทร์สวยพร้อมกับจิบน้ำยอดข้าวอย่างช้าๆ เงียบๆ และคนเดียว เหมือนจะเหงาแต่ไม่เหงา เหมือนว่าจะทำให้ตัวเองดูเท่ แต่ขอโทษ ไม่ใช่เลย ผมแค่ขี้เกียจต่างหากล่ะ ขี้เกียจออกไปเบียดเสียดกับผู้คน ขี้เกียจออกไปเผชิญกับรถติด ขี้เกียจและขี้เกียจ... เสียงประทัดยังคงดังอย่างต่อเนื่อง บทความหาเรื่องชิ้นนี้ก็สมควรน่าจะจบลงได้แล้ว กราบขออภัยหากข้อความที่ผมเขียนไปสะกิดต่อมโกรธา หรือติ่งโมโหใครเข้า โปรดเข้าใจด้วยนะครับว่าผมแค่ขาดความอบอุ่น ผมแค่อยากระบาย ผมแค่อยากเรียกร้องความสนใจ...ก็เท่านั้นดวงจันทร์เต็มดวงยังคงส่องแสงนวลสวย...คืนนี้ผมตั้งใจว่าจะจิบเบียร์แกล้มแสงจันทราอีกซักหนึ่งวัน น่าจะทำให้หัวใจที่ฟุ้งซ่านสงบลงได้บ้าง ไม่มากก็น้อย...
Create Date : 13 พฤศจิกายน 2551
8 comments
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2551 21:13:37 น.
Counter : 2656 Pageviews.
โดย: เลดี้เพี้ยนนนน (sharefeeling ) วันที่: 13 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:56:55 น.
โดย: gottabemary IP: 124.120.70.193 วันที่: 14 พฤศจิกายน 2551 เวลา:22:08:06 น.
โดย: ยางมะตอยสีชมพู IP: 124.121.131.206 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:05:00 น.
โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:45:35 น.
โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) วันที่: 17 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:07:13 น.
โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:24:04 น.
ยางมะตอยสีชมพู
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
เป็นมนุษย์เงินเดือน รับใช้การตลาด ต้องคิดงานให้เกินคาด แล้วจะได้ตังค์ใช้ ชอบดนตรี เสียงเพลงเป็น ชีวิตจิตใจ ตัวอักษรนั้นไซร้ กัดแทะได้ ทุกวี่วัน ของเค้าดีจริง เข้าไปเยี่ยมชมกันได้ครับ ^ ^ ถึงแม้ว่าผมอาจจะยังไม่ใช่นักเขียน
ถึงแม้ว่าผมอาจจะไม่มีคุณสมบัติแม้ที่จะคิดเขียน
และถึงแม้ว่า เรื่องที่ผมเขียนนั้นจะห่วยแตกแค่ไหนก็ตาม
แต่ว่ามันก็ออกมาจากมันสมองอันน้อยนิดของผม
ขอร้องเถิดครับ กรุณาอย่าเอาไป คัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง
ส่วนหนี่งส่วนใดหรือทั้งหมดของงานเขียนของผมเลย (ยางมะตอยสีชมพู)
ผมขอสงวนสิทธิ์ตามกฏหมาย ซึ่งหากฝ่าฝืนโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว จะมีโทษ ปรับตามกฏหมายตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือนำเรื่องไปเสนอสำนักพิมพ์ ถือเป็น การเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 800,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับนะครับ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
ที่ยังเข้าใจ และเห็นใจคนชอบเขียนห่วยๆอย่างผม
(ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ. กฏหมายลิขสิทธิ์)
กาลแล้ว ... ก็ทำตามกันมาอ่ะน๊ะ และได้ทำบุญ ได้กราบ
ขอขมาพระแม่คงคา ที่เราใช้น้ำ ดื่ม ใช้ในชีวิตประจำวันตั้งแต่เล็กจนโต... และ ได้ร่วมพร้อมหน้าพร้อมตาทำกระ
ทงกัน กับคนที่บ้าน อบอุ่นดีค่ะ เป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกัน
อีกเทศกาลหนึ่ง ปีนึงจะมีครั้ง ...
นานาจิตตัง ทุกคนมีความคิดไม่เหมือนกัน
แต่สังคมสมัยนี้ มันต่ำลงจริงๆน่ะแหล่ะ การแต่งตัวของ
เด็กสมัยนี้ แล้วมาเข้าวัด ... เห็นแล้วเศร้าใจ
เห้อ .. อ้าวววววววว
เหมือนเข้ามาบ่นแฮ๊ะ