Don't Worry, Be Happy

 
กันยายน 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
13 กันยายน 2549
 

Title: งานวัด


ผมได้มีโอกาสไปงานวัดเมื่อหลายๆเดือนก่อน...

เมื่อลองนึกย้อนไปในสมัยที่ผมยังเด็ก
จำได้ว่างานวัดนี่แหล่ะ เป็นสถานที่ที่ผมและพรรคพวก
ได้ไปสิงสถิตอยู่ที่นั่นบ่อยที่สุด

เพราะบ้านของผมในตอนนั้น (จวบจนถึงตอนนี้)
ตั้งอยู่ใกล้วัดครับ...
ถือว่าเป็นข้อดี ของการอาศัยอยู่ในแถบไกลเมือง
ผมไม่แน่ใจว่าแถวสีลม รัชดา สุขุมวิท จะมีงานวัดหรือไม่
(ผมเคยลองถามเพื่อนผมที่อาศัยอยู่ในย่านนั้น พบว่า
ไม่มีใคร เคยไปงานวัดเลย ที่ไปบ่อยๆเห็นจะเป็น
งานปาร์ตี้ ตามผับ บาร์เท่านั้น)

วันไหนมีงานวัดจะสามารถรู้ได้เลยครับ
เพราะเสียงเพลง ที่ลอยละล่องตามสายลม
ปลิวมากระแทกที่หูของผมถึงในบ้านอยู่ทุกครั้งไป

เสน่ห์ของงานวัดอย่างหนึ่งก็คือ
การเปิดเพลงลูกทุ่งอันเสียงดังโดยที่ไม่กลัวลำโพงแตก
เพื่อเป็นการเรียกคนให้เข้าไปเที่ยวในงาน

ไม่ว่าใครที่อยู่ในรัศมีไม่เกิน1 กิโลเมตรเป็นใครก็ต้องได้ยินครับ

เมื่อเข้าไปในงานแล้วเราจะพบว่า มีเวทีสำหรับแสดงยี่เก
ลำตัด และ คอนเสิร์ตลูกทุ่ง

ถ้าเป็นเวทีลิเกนั้น สังเกตได้ว่า
บรรดาคุณพี่ คุณน้า จวบไปถึงรุ่นคุณย่า คุณแม่ยกทั้งหลาย
นั่งรออยู่หน้าเวทีกันสลอน รอพระเอกยี่เกหนุ่มออกมา
เจื้อยแจ้ว เกี้ยวพาราสีนางเอก เรียกเสียงกรี๊ดกันวิกแทบแตก

เวทีลำตัดนั่นก็อีกกลุ่มหนึ่ง
ซึ่งแม่ผมเป็นแฟนประจำคณะลำตัด
ของครูหวังเต๊ะ และแม่สีนวล จนถึงขั้นคลั่งไคล้
เวทีไหนมีลำตัด เวทีนั้นต้องมีแม่ คอยชมอยู่เงียบๆ เสมอ

ส่วนเวทีคอนเสิร์ตลูกทุ่ง จะเป็นพื้นที่ประจำ
ของคุณลุงขี้เมาทั้งหลาย ที่คอยชูคอรอหางเครื่องออกมาปรากฏกาย
พร้อมกับส่งเสียงหวีดวิ้ว เป่าปากกันเป็นที่ครื้นเครง

ส่วนพื้นที่ของเด็กๆอย่างพวกผมล่ะ
นั่นก็คือการละเล่นเกมต่างๆ
ทั้งปาโป่ง บิงโก ยิงปืน มอเตอร์ไซด์ไต่ถัง
สาวน้อยตกน้ำ (อันนี้สมัยเด็กผมยังไร้เดียงสานัก
จึงได้แต่ยืนดูไม่กล้าปา กลัวพี่สาวเค้าว่าเอา)
และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือลานประลองรถบั๊มพ์

ซึ่งในสมัยนั้นผมติดรถบั๊มพ์เข้าขั้นงอมแงม
สมัยก่อนจะครั้งละ 10 บาท
ผมเล่นไปจนหมดเงินค่าขนมในแต่ละวันที่แม่ให้มา
บางครั้ง เมื่อค่าขนมหมดแล้ว แต่ยังเล่นไม่หนำใจ
ผมวิ่งกลับไปบ้านเพื่อแอบจิ๊กเศษเงินในกระเป๋าแม่
เพื่อกลับไปเล่นต่ออีกครั้ง

ผมเคยหยิบไปกระทั่งเศษเหรียญ 25 สตางค์ 50 สตางค์ 75 สตางค์
แล้วเอามารวมกันให้ได้ 10 บาทเพื่อไปเล่น
นึกย้อนไปทีไรผมได้แต่ขำตัวเองทุกทีสิ

หลังเที่ยวเล่นจนเหนื่อยแล้ว
ภายในงานยังมีของกินมากมายทั้งของคาว หวาน
หลักๆที่ขาดไม่ได้เห็นจะมี หอยทอด ขนมผักกาด
ก๋วยเตี๋ยวเรือ ซึ่งคนเยอะมาก บางคนอยากกินจัด
ถึงกับต้องยองๆ โซ้ยกันก็มี (อาการนั่งยองๆ แล้วโซ้ยก๋วยเตี๋ยวไปด้วย)

พวกของหวานก็นำทีมโดยสายไหม ขนมน้ำตาลปั้น
ขนมรังผึ้ง ถังแตก แต่ที่ผมชอบที่สุดเห็นจะเป็น
ขนมไมโครโฟน (ชื่อที่ผมชอบเรียก ด้วยรูปร่างที่คล้ายกับไมโครโฟน
โดยนำแป้งที่ปั้นเป็นก้อนวงรีใหญ่ๆ ห่อด้วยไส้กรอกเล็กๆ
นำเอาไปทอดลงในกระทะ ทำให้ได้แป้งสีเหลืองนวล หนานุ่มอร่อย)
ปิดท้ายด้วยไอติมน้ำอัดลม ที่มีทั้งน้ำโค้ก น้ำแดง น้ำเขียว สไปรท์ ฯลฯ

ส่วนไฮไลท์ของงานวัดในทุกค่ำคืน
นั่นก็คือหนังกลางแปลง
ทุกคนจะมีกระดาษหนังสือพิมพ์ที่เตรียมมาจากบ้าน
ดีหน่อยก็คงเป็นเสื่อ มานั่งจับจองที่ดีๆ ไว้รอดูหนังกัน
และที่สำคัญต้องอย่าลืมทา ก.ย. 15 มากันก่อน
ไม่งั้นเดี๋ยวดูหนังไม่สนุก

ผมชอบดูหนังกลางแปลง เพราะว่าบรรยากาศของมัน
หากดูหนังจนเมื่อยคอ ก็แหงนหน้าขึ้นมองดูดาวบนฟ้าได้
หากหิวเมื่อไหร่ ก็ลุกไปซื้อข้าวโพดขั้ว หรือปลาหมึกปิ้งก็ได้
โดยไม่ทำให้เสียอรรถรสในการดูแต่อย่างใด
และที่สำคัญ ไม่ต้องรำคาญกับเสียงโทรศัพท์เหมือนในโรง
เพราะเป็นพื้นที่โปร่งและเสียงอันดังของหนังที่กลบหมดทุกเสียง

เป็นอันว่า คืนไหนที่ได้ไปงานวัด
ผมจะเดินกลับบ้านไปพร้อมกับความสุขทุกทีไป

มาจนถึงทุกวันนี้ หากมีโอกาส
ผมก็จะแวะเวียนไปงานวัดบ้างบางครั้ง
(เดี๋ยวนี้ไม่ได้จัดในเขตพื้นที่วัดแล้ว เป็นพื้นที่ของสนามบอลแทน)

รถบ๊มพ์ในงานวัดสมัยนี้ มีดีเจคอยเปิดเพลงดังๆ
พร้อมกับพูดจาแทะโลมแซวเด็กสาวๆ ไปเรื่อย

รถมอเตอร์ไซด์ไต่ถังก็ไม่มีให้ดูแล้ว
ที่มีให้ดูบ่อยจนรำคาญตาเห็นจะเป็นพวก
เด็กเทสต์ เด็กแวนท์ (แก๊งซิ่งมอเตอร์ไซด์)
รวมถึงเด็กสกอยต์ (เด็กผู้หญิงที่ชอบซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์)
ที่ชอบนุ่งกางเกงขาสั้น โชว์ขาอ่อนอันลายพร้อยให้ได้เห็น
(ผมไม่รู้ว่าพ่อแม่เค้าปล่อยให้ออกจากบ้านมาได้ยังไง)
ที่ชอบเข้ามาก่อความวุ่นวาย ต่อยตีกันอยู่ทุกที

จนทำให้เดี๋ยวนี้ ไม่มีใครกล้าจะไปงานวัดอีกแล้ว

ผมกลัวว่า

ซักวัน

งานวัดที่เคยทำให้ผมมีความสุข...ในวัยเยาว์

จะหายไป





Create Date : 13 กันยายน 2549
Last Update : 13 กันยายน 2549 23:41:27 น. 1 comments
Counter : 762 Pageviews.  
 
 
 
 
บ้านอยู่แถวไหนเนี่ยพ่อคุณยังมีงานวัดให้เที่ยว แวะมาทักทายที่นี่ เพราะที่อ่านๆ มา รู้สึกบรรยากาศใกล้เคียงกับตัวเองที่สุดละ
 
 

โดย: deArnim วันที่: 6 มกราคม 2550 เวลา:4:28:41 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ยางมะตอยสีชมพู
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นมนุษย์เงินเดือน รับใช้การตลาด
ต้องคิดงานให้เกินคาด แล้วจะได้ตังค์ใช้

ชอบดนตรี เสียงเพลงเป็น ชีวิตจิตใจ
ตัวอักษรนั้นไซร้ กัดแทะได้ ทุกวี่วัน



ลายปากกา


ของเค้าดีจริง เข้าไปเยี่ยมชมกันได้ครับ ^ ^
ถึงแม้ว่าผมอาจจะยังไม่ใช่นักเขียน ถึงแม้ว่าผมอาจจะไม่มีคุณสมบัติแม้ที่จะคิดเขียน และถึงแม้ว่า เรื่องที่ผมเขียนนั้นจะห่วยแตกแค่ไหนก็ตาม แต่ว่ามันก็ออกมาจากมันสมองอันน้อยนิดของผม ขอร้องเถิดครับ กรุณาอย่าเอาไป คัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนี่งส่วนใดหรือทั้งหมดของงานเขียนของผมเลย (ยางมะตอยสีชมพู) ผมขอสงวนสิทธิ์ตามกฏหมาย ซึ่งหากฝ่าฝืนโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว จะมีโทษ ปรับตามกฏหมายตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือนำเรื่องไปเสนอสำนักพิมพ์ ถือเป็น การเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 800,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับนะครับ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ที่ยังเข้าใจ และเห็นใจคนชอบเขียนห่วยๆอย่างผม (ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ. กฏหมายลิขสิทธิ์)
[Add ยางมะตอยสีชมพู's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com