Don't Worry, Be Happy

<<
เมษายน 2553
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
29 เมษายน 2553
 

Back to School: ตอน ตุ๊กตุ่นประจันบาน


เป็นธรรมดาของเด็กๆ ที่จะหาอะไรมาเล่นเพิ่มสีสัน และความซนให้กับชีวิต กระแสความฮิตในการละเล่นของเด็กๆ มักจะเปลี่ยนไปเสมอตามของแถมจากขนม หรืออะไรก็ตามที่เอามาเล่นได้ ไล่ตั้งแต่ปาดินน้ำมัน ดีดลูกแก้ว เขี่ยสติ๊กเกอร์ ไปจนถึงการเป่าไม้ไอศกรีม ก็ได้รับความนิยมจากเด็กๆ เช่นกัน ซึ่งเทคนิคการเป่าไม้ไอศกรีมก็ไม่มีอะไรมาก สำคัญอยู่ที่อุปกรณ์ ไม้ไอศกรีมที่เด็กๆ นิยมใช้ก็ต้องเป็นไม้จากไอศกรีมวอลล์เพราะลักษณะของไม้จะสวย เนียบเรียบ มีความเบาสามารถทำให้เป่าได้ไกล


และเมื่อหมดฤดูกาลความฮิตจากการเป่าไม้ไอติมก็เข้าสู่ช่วงของแถมใหม่จากขนมกาก้า และคัมคัม ซึ่งเป็นปกติของขนมทั้งสองยี่ห้อนี้อยู่แล้ว ที่ขยันเปลี่ยนของแถมให้เด็กติดตามซื้อบ่อยๆ ซึ่งของแถมในซีซั่นนี้เป็นพวกตุ๊กตุ่น จะเป็นตุ๊กตุ่นดราก้อนบอลบ้าง เซนต์เซย่าบ้างก็ว่ากันไป


วันนี้ผมมีนัดกับไอ้ก้อง (อีกแล้ว) แต่ว่าเราไปในฐานะพันธมิตรซึ่งเป็นตัวแทนของโรงเรียนเพื่อไปแข่งดีดตุ๊กตุ่นกับโรงเรียนข้างๆ เนื่องด้วยไอ้ก้องไปปากแมวตามนิสัย ถึงความเก่งกาจในทุกๆ ด้านของมัน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีคนหมั่นไส้มันเยอะ (จริงๆ ก็รวมผมอยู่ด้วยนั่นแหล่ะ) คนแรกที่มันชวนไปเป็นเพื่อนก็คือไอ้พันธ์ แต่ไอ้หมูดำพันธ์ปฏิเสธเพราะว่ายังเคืองไอ้ก้องไม่หายเรื่องแพ้ดินน้ำมัน กิจกรรมที่ไอ้พันธ์ขึ้นชื่อว่าเก่งที่สุดในระดับชั้น และก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันชวนใครต่อใครไปด้วยก็ไม่มีใครยอมไปกับมัน จนมันตัดสินใจชวนผมคนที่มีเรื่องกับมันบ่อยที่สุดไปเป็นเพื่อน


“กูไม่ไป” คำตอบของผมไม่ทำให้มันประหลาดใจแต่อย่างใด
“กูมีข้อเสนอ” ไอ้ก้องยื่นข้อเสนอสวนออกมาทันที
“อะไร?”
“กูจะให้สติ๊กเกอร์ดราก้อนบอล เบอร์ 47 ที่มึงอยากได้”
“ไม่เอา มันหมดเขตไปแล้ว กูจะเอาไปแปะหน้ากูเล่นหรือไง”
“ลูกแก้วหยกสุดรักสุดหวงของมึงล่ะ”
“ไม่เอา กูขี้เกียจเล่นแล้ว รกบ้าน”
“มึงนี่เรื่องมาก...”
“อ้าว...กูใช้สิทธิ์ของกูนะ เออ...ถ้ามึงเอาของที่มันฮิตๆ ตอนนี้มาให้กูบ้าง มันก็น่าคิดอยู่”
“มึงนี่มากเรื่อง...”
“เอองั้นกูกลับล่ะ” ผมทำทีเดินหันหลังกลับไป

“เออๆๆๆ เดี๋ยวกูแบ่งตุ๊กตุ่นให้ 5 ตัว”
“10 ตัว” ผมต่อรอง
“เชี่ย... 2 เท่าเลยเหรอวะ 7 ตัวพอ”
“8 ตัวขาดตัว ห้ามต่อรอง จะเอาไม่เอา” ผมยื่นคำขาด


ไอ้ก้องเด็กอ้วนตัวขาวใช้เวลาตัดสินใจก่อนบอกผม “เออๆๆ 8 ก็ 8 วะ มึงนี่แม่งหน้าเลือดสัด”

สิ้นเสียงไอ้ก้องผมยิ้มพอใจก่อนเดินนำหน้ามันไปที่โรงเรียนข้างๆ ทันที


ที่โรงเรียนข้างๆ มีเด็กอยู่กลุ่มใหญ่ยืนล้อมโต๊ะและส่งเสียงเชียร์ด้วยเสียงอันดัง พวกนั้นกำลังดีดตุ๊กตุ่นแข่งกันอยู่แต่พอเมื่อผมกับไอ้ก้องเดินเข้าไปใกล้กลุ่มนั้น เสียงที่ดังก็เงียบลงแปรเปลี่ยนเป็นสายตาที่มองมาที่เราทั้งคู่ ให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นนักบอลของทีมแมนยูฯ ที่ไปเยือนถิ่นแอนฟิลด์ของลิเวอร์พูลยังไงยังงั้น พวกเรากำลังเข้ามาอยู่ในดินแดนของศัตรู


“นึกว่าจะกลัวจนหนีไปแล้วเสียอีก” เสียงนั้นดังเล็ดลอดออกมาจากกลุ่ม พร้อมกับการปรากฏตัวของเด็กผมเกรียน ผิวคล้ำใส่แว่นขอบหนา ตัวป้อมเตี้ยเดินออกมาจากกลุ่ม มันมีชื่อว่า “กลด”
“หนี...ไอ้คำนี้มันสะกดยังไงวะ” ไอ้ก้องยอกย้อนพร้อมกับหันมาถามผม

ผมคิดในใจว่าผมควรตอบคำถามไอ้ก้องดีไหม หากผมตอบ แน่นอนผมจะถูกหมายหัวทันทีและหากมีอะไรผิดพลาดเกิดขึ้น ผมมั่นใจว่าผมจะซวยแน่นอน ผมจึงเลือกที่จะไม่ตอบ และผมคิดว่านั่นไม่ใช่ประโยคคำถามของไอ้ก้องด้วยซ้ำ มันตั้งใจกวนตีนพวกนี้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

“อืม...ปากเก่งดีจังเนอะ นี่ไม่รู้ใช่ไหมเนี่ยว่าพวกมึงเข้ามาในนี้แล้ว มันไม่มีที่ให้หนีหรอกนะ”
“เดี๋ยวมึงจะรู้ว่าไม่ได้เก่งแต่ปาก เข้าเรื่องเลยดีกว่า ในฐานะที่มึงเป็นเจ้าบ้านแล้ว ทางกูขอกำหนดกติกา และเงื่อนไขแล้วกัน” ไอ้ก้องเริ่มเดินเกมส์
“เชิญ...” ไอ้กลดพูดยิ้มเยาะ แล้วกลับไปนั่งที่โต๊ะตัวเดิม

“ใช้ของเดิมไม่มีโมดิฟายด์ แข่งแบบ 2 ใน 3 เซ็ต ใครได้ 2 เซ็ตก่อนชนะ” ไอ้ก้องหมายถึงปากกาที่ใช้ยิงจะต้องเป็นของเดิม ไม่มีแต่งเพื่อที่จะทำให้ยิงได้แรงขึ้น
“ผู้ชนะจะได้อะไรล่ะ” ไอ้กลดถาม
“ตุ๊กตุ่น 5 ตัว แล้วกูจะแถมตลับเกมส์คุนิโอะดอจด์บอล 1 ตลับ ส่วนมึง...กูขอแค่ลูกแก้วหยกยักษ์คืนก็พอ”
“แน่ใจนะ เงื่อนไขเสียเปรียบอย่างนี้ไม่น่าออกมาจากปากคนอย่างมึงเลยนะ”
“มึงจะเอายังไง”
“ก็ไม่เอายังไงหรอก...เริ่มเกมส์เลยก็แล้วกัน”

ก่อนเกมส์จะเริ่มผมถามความเป็นมาถึงเหตุผลที่ไอ้ก้องต้องเข้ามาแข่งดีดตุ๊กตุ่นถึงรังของศัตรู

“กูผิดเองแหล่ะ...” ไอ้ก้องบอก “ไอ้กลดมันเป็นเพื่อนแถวบ้านกูเอง อยู่แถวๆ ซอย 12 มึงอยู่แถวซอย 2 คงไม่ค่อยได้เห็นมันหรอก ส่วนใหญ่มันจะขลุกอยู่แต่ในบ้าน เย็นๆ มันถึงจะออกมาเล่นข้างนอกที ก็หลังจากที่กูกลับมาจากเล่นกับพวกมึงที่ต้นซอยนั่นแหล่ะ”

ผมคิดในใจมึงไม่ได้มาเล่นกับพวกกูหรอก มึงแค่มาแดกของของพวกกูแล้วมึงก็กลับบ้านหน้าตาเฉย

“ไอ้เรื่องความเก่งกาจในการดีดลูกแก้วมันก็ไม่เป็นรองใคร กูกับมันก็ผลัดกันแพ้ชนะเป็นประจำ เผอิญเมื่อวานมันยั่วโมโหกูนิดหน่อย จนกูเผลอเอาลูกแก้วหยกสุดรักสุดหวงของกูไปเป็นของพนันด้วย”
“แต่มึงเสือกแพ้...” ผมคาดเดาคำพูดไอ้ก้องล่วงหน้า
“ใช่...กูแพ้แต่วันนี้กูจะชนะ” ไอ้ก้องพูดอย่างมั่นใจด้วยดวงตาที่เป็นประกาย


เริ่มเกมไอ้ก้องส่งพิกโกโร่ลงมาสู้ศึกก่อน ด้วยเหตุผลที่พิกโกโร่ตัวสูงน่าจะต้านทานความเร็วของซุนโกคูที่ทางไอ้กลดส่งมาเป็นทัพหน้า ไอ้ก้องเป็นฝ่ายได้ยิงก่อน มันยิงโดยใช้เทคนิคยิงมุมกดทำให้ตุ๊กตุ่นเคลื่อนที่ไปไม่ได้ไกลมากนัก แผนของมันในเกมแรกผมเดาว่ามันน่าจะเพลย์เซฟ เล่นตั้งรับดูเชิงไปพลางๆ ก่อน ส่วนไอ้กลดด้วยความที่เป็นเจ้าบ้านแถมกองเชียร์ยังเยอะมันเลยเดินหน้ากดดันไอ้ก้องตั้งแต่ต้นเกม


“เล่นอย่างนี้นี่อยากแพ้เร็วๆ หรือไงวะ” ไอ้กลดชิงใช้สงครามจิตวิทยาก่อน
“เอาชนะกูให้ได้ซักเกมก่อนแล้วมึงค่อยคุย” ไอ้ก้องเกทับกลับ


ไอ้กลดเดินหน้ารุกจนมาถึงจุดที่จะเผด็จศึกได้แล้ว มันยิงโดยเล็งเป้าไปที่แขนของพิกโกโร่ ทำให้ตัวของมนุษย์ชาวนาเม็กหมุนคว้างไปหนึ่งรอบ แต่พิกโกโร่ยังคงอึดยังไม่ตกจากขอบโต๊ะไปง่ายๆ ซึ่งตรงจุดนี้เองที่ไอ้ก้องรอคอยมันดีดที่ใต้ตัวของพิกโกโร่ที่เลยขอบโต๊ะไป เพื่อให้กระโดดลอยไปที่ด้านหลังของซุนโกคูของไอ้กลด ซึ่งก็ได้ผลเสียด้วย ตอนนี้ไอ้กลดกลับกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ มันพยายามใช้ความคล่องตัวของซุนโกคูหนีไปทางด้านข้าง แต่สายไปเสียแล้วไอ้ก้องใช้เทคนิคดีดตวัดข้อมือไปที่ส่วนขาของพิกโกโร่ ด้วยส่วนของแขนขาที่ยาวกว่าทำให้ได้แรงหมุนที่เหวี่ยงได้เพิ่มมากกว่าและซุนโกคูก็ร่วงตกจากโต๊ะไป ไอ้ก้องขึ้นนำ 1-0


“ใครกันน้า...ที่ว่ากูเล่นแบบคนอยากจะแพ้” ไอ้ก้องพูดเปรยขึ้นมาโดยไม่กลัวกองเชียร์เจ้าบ้านจะกระทืบ แน่นอนว่าประโยคนี้เหมือนกับพวกเรา เอ่อ...ไม่ใช่สิ ต้องไอ้ก้องคนเดียวต่างหากที่กำลังราดน้ำมันลงบนกองไฟที่กำลังโหมกระพือ แต่สิ่งที่ผมกลัวว่าจะเกิดขึ้นก็คือไอ้ก้องมันจะประมาทเพราะแผนที่มันคิดขึ้นมาใช้ได้ผลและถ้ามันยังใช้แผนนี้ต่อไปผมมั่นใจว่าไอ้กลดมันต้องแก้ทางได้แน่ๆ ซึ่งก็คาดไว้ไม่ผิดเมื่อไอ้กลดส่งคุริรินลงมา แรงส่งของคุริรินอาจจะสู้พิกโกโร่ไม่ได้แต่ก็ถูกทดแทนด้วยความเร็วเพราะตัวของคุริรินเบากว่าพิกโกโร่เมื่อไล่ต้อนพิกโกโร่ของไอ้ก้องไปถึงที่มุมโต๊ะแล้ว ไอ้กลดใช้เทคนิกดีดเข้าไปที่ข้างลำตัวเพื่อล็อคแขนขาให้ไอ้ก้องดีดหนีขึ้นข้างบนไม่ได้ และแล้วไอ้ก้องก็พลาดจนได้เมื่อมันดีดที่ใต้ตัวพิกโกโร่ไม่ขึ้น ทำให้ไอ้กลดซัดพิกโกโร่ร่วงลงไปได้อย่างง่ายดาย


“1 ต่อ 1 แล้วนะ” ไอ้กลดพูดเย้ยนำ ส่วนกองเชียร์เจ้าบ้านก็ส่งเสียงรับ “เออน่ะ เออน่ะ!!”

“1-1 แล้วนะ”
“เออน่ะ เออน่ะ!!”

“1-1 แล้วนะ”
“เออน่ะ เออน่ะ!!”

“1-1 แล้วนะ”
“เออน่ะ เออน่ะ!!”

“เชี่ย...กูรู้แล้วต่อเลยอย่าลีลา” ไอ้ก้องเริ่มหัวเสียงบ้างเมื่อเจอแผนจิตวิทยาจากไอ้กลดและกองเชี่ย เอ๊ยยย กองเชียร์


เซ็ตสุดท้ายไอ้ก้องวางหมากโดยการส่งซุนโกฮังลงมาบู๊โดยหวังใช้ความเร็วปะทะความเร็ว ถ้าเป็นการแข่งบาสเก็ตบอลก็เปรียบได้กับทั้งสองทีมใช้กลยุทธสไตล์ Run & Gun เข้าสู้ หรือจะให้พูดง่ายๆ ก็คือวิ่งสู้ฟัดน่ะแหล่ะ
เซ็ตนี้ทั้งคู่ต่างระวังตัวเพราะเป็นเซ็ตตัดสินแล้ว ไอ้ก้องใช้วิธีการยิงวนเป็นวงกลมยั่วคู่ต่อสู้ไปเรื่อย ขณะเดียวกันไอ้กลดก็ยิงตามไปในทิศทางเดียวกัน เซ็ตนี้ถือได้ว่าเป็นการต่อสู้ด้วยจิตวิทยาล้วนๆ ทั้งคู่ต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้ หากใครเกิดทนไม่ไหว ใจร้อนด่วนบุกโดยผลีผลามล่ะก็...เป็นอันช้อยเก็บฉาก


ฟากกองเชี่ย...เอ๊ย กองเชียร์ฝ่ายเจ้าบ้านเงียบเสียงไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ ทุกคนเงียบ ผมเงียบ ไอ้ก้องเงียบ ไอ้กลดเงียบ ทุกคนกำลังลุ้นว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร ผมสบตาไอ้ก้อง ไอ้ก้องสบตาผม เราสองคนต่างสบตากัน ผมค่อยๆ เดินออกมาจากกลุ่มโดยไม่ให้ใครรู้ตัว เป้าหมายอยู่ที่ลูกแก้วหยกยักษ์ ใช่ครับนี่คือแผนที่ผมและไอ้ก้องวางหมากกันมาก่อนแล้ว และเพื่อความตื่นเต้นของเกมไอ้ก้องจะแกล้งแพ้หนึ่งเซ็ตเพื่อให้รูปเกมออกมาเสมอกัน เมื่อเข้าสู่เซ็ตที่สามสถานการณ์จะค่อนข้างตึงเครียด เมื่อถึงตอนนั้นผมก็จะปลีกตัวออกมาหยิบลูกแก้วหยกยักษ์กลับบ้านอย่างสุนทรียะอารมณ์ แผนนี้จะว่าเสี่ยงก็เสี่ยงเพราะหากว่าไอ้ก้องพลาดทุกอย่างก็คือจบ แต่แม้เราจะมีเรื่องด้วยกันอยู่บ่อยๆ ผมก็ยังเชื่อใจว่ามันจะไม่พลาด


เมื่อมิชชั่นเสร็จเรียบร้อย ผมหันกลับไปมองหน้าไอ้ก้องพร้อมกับพยักหน้าเป็นสัญญาณ “มิชชั่นคอมพลีท!!” ให้ไอ้ก้องรู้ตัว มันพยักหน้าเข้าใจแล้วหันไปสนใจในเกมต่อ “เชี่ยเอ๊ย เป็นไงเป็นกันวะ” ไอ้ก้องสบถออกมาพร้อมกับเปิดเกมรุกเข้าใส่ แน่นอนว่านี่คือการแสดงและเป็นหนึ่งในแผนการของเรา


จบเกมไอ้ก้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้มันทำทีเป็นหัวเสียพร้อมกับมอบตุ๊กตุ่น 5 ตัว และตลับเกมแฟมิลี่คุนิโอะดอจด์บอลไปเป็นค่าเสียหายพร้อมกับชวนผมให้ออกจากดินแดนของศัตรูโดยเร็ว เราทั้งสองมองตากันและแอบยิ้มให้แก่กัน


กว่าไอ้กลดมันจะรู้ตัวก็ต่อเมื่อมันกลับถึงบ้านไปแล้ว ว่าตลับเกมที่มันได้มานั้นเป็นเกม 20 in 1 ที่มีแต่พวกเกมเตอร์ติส รถแข่ง และเกมธรรมดาๆ ทั่วไป และมันอาจจะไม่รู้ตัวเลยว่าแท้จริงแล้วตุ๊กตุ่นที่มันได้มา 5 ตัวนั้นเทียบไม่ได้กับตุ๊กตุ่นทั้ง 10 ตัวที่มันเสียไป


เพราะตอนที่ผมตัดสินใจจะใช้แผนนี้ร่วมกับไอ้ก้อง คิดหรือว่าคนอย่างผมจะยอมเสี่ยงกับมันเพียงเพื่อลูกแก้วหยกเพียงลูกเดียว...




 

Create Date : 29 เมษายน 2553
5 comments
Last Update : 29 เมษายน 2553 21:38:58 น.
Counter : 1512 Pageviews.

 
 
 
 
ทักทายยามดึก ฝันดีนะคะ ^^ :)
 
 

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 29 เมษายน 2553 เวลา:21:54:57 น.  

 
 
 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
 
 

โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 30 เมษายน 2553 เวลา:0:22:43 น.  

 
 
 
แวะมาทักทายอยากยิ้มกว้างๆ แค่นั้นเอง
 
 

โดย: รุ่นน้อง IP: 115.67.139.191 วันที่: 30 เมษายน 2553 เวลา:22:10:46 น.  

 
 
 
ป๊าดดดด โทะ ! แผน เด็ด จริง ^^
 
 

โดย: การ์ตี้ IP: 202.28.27.3 วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:52:13 น.  

 
 
 
แวะมาอ่าน

ฮา อ่ะพี่......
 
 

โดย: หมิง IP: 183.89.163.124 วันที่: 15 พฤษภาคม 2553 เวลา:12:29:38 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ยางมะตอยสีชมพู
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นมนุษย์เงินเดือน รับใช้การตลาด
ต้องคิดงานให้เกินคาด แล้วจะได้ตังค์ใช้

ชอบดนตรี เสียงเพลงเป็น ชีวิตจิตใจ
ตัวอักษรนั้นไซร้ กัดแทะได้ ทุกวี่วัน



ลายปากกา


ของเค้าดีจริง เข้าไปเยี่ยมชมกันได้ครับ ^ ^
ถึงแม้ว่าผมอาจจะยังไม่ใช่นักเขียน ถึงแม้ว่าผมอาจจะไม่มีคุณสมบัติแม้ที่จะคิดเขียน และถึงแม้ว่า เรื่องที่ผมเขียนนั้นจะห่วยแตกแค่ไหนก็ตาม แต่ว่ามันก็ออกมาจากมันสมองอันน้อยนิดของผม ขอร้องเถิดครับ กรุณาอย่าเอาไป คัดลอก เผยแพร่ ดัดแปลง ส่วนหนี่งส่วนใดหรือทั้งหมดของงานเขียนของผมเลย (ยางมะตอยสีชมพู) ผมขอสงวนสิทธิ์ตามกฏหมาย ซึ่งหากฝ่าฝืนโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว จะมีโทษ ปรับตามกฏหมายตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หรือนำเรื่องไปเสนอสำนักพิมพ์ ถือเป็น การเสนอขาย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 100,000 บาทถึง 800,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับนะครับ ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง ที่ยังเข้าใจ และเห็นใจคนชอบเขียนห่วยๆอย่างผม (ตามมาตรา 69 แห่ง พ.ร.บ. กฏหมายลิขสิทธิ์)
[Add ยางมะตอยสีชมพู's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com