ตอนที่ 114- คิดถึงเธอแทบใจจะขาด
***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย ****
ที่ห้องนอนในอพาร์ทเม้นท์ของฮวางโบ ฮยอนจุงและฮวางโบกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดของกันและกันอยู่บนเตียง
ชายหนุ่มค่อยๆประคองศีรษะของภรรยาออกจากวงแขนของเขาแล้ววางลงบนหมอนอย่างทะนุถนอมก่อนจะบอกเธอว่า “หลับฝันดีนะฮะ..ที่รักของผม”
หญิงสาวส่งยิ้มหวานแล้วตอบไปว่า “จ้ะ..เธอก็เช่นกันนะ”
แต่ก่อนที่เธอจะหลับตาลงชายหนุ่มกลับพูดขึ้นมาลอยๆว่า...”ที่ผมบอกคุณไปก่อนหน้านี้...ผมหมายความอย่างนั้นจริงๆนะฮะ”
“หา? เรื่องไหนเหรอ?”
“ที่ผมพูดอ่ะ ผมซีเรียสจริงๆน่ะฮะ...คุณอย่าใส่เสื้อผ้าแบบที่มันปิดอะไรไม่ค่อยมิดอีกนะ!”
“ชั้นใส่ไม่ได้เลยเหรอ? แม้แต่ตอนที่ขึ้นแสดงบนเวทีด้วยเนี่ยนะ?”
“ตราบใดที่มันไม่(โป๊) มากจนเกินไป...ผมก็จะยอมหยวนๆให้คุณเป็นกรณีๆไปฮะ”.
“โอเคจ้ะ เรานอนกันได้แล้วน่ะ” พูดจบเธอก็ซุกตัวอยู่ใต้ไหล่อันกว้างและอบอุ่น แล้วค่อยๆหลับไปอย่างมีความสุข
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาที่ออฟฟิศของท่านประธานบริษัทต้นสังกัดของฮยอนจุง ชิกุนกับฮยอนจุงกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่เก้าอี้ยาวภายในห้อง
“ล้มเลิกมันไปเถอะ” เสียงท่านประธานพูดกับเขา แต่แล้วกลับเปลี่ยนใจว่า...ไม่...เดี๋ยวก่อน
ชายหนุ่มนั่งเงียบและมีสีหน้าที่ดูผิดหวัง
“ท่านคุยกับพวกเขาแล้วหรือฮะ...?”
“อืมม...ใช่...”
“แล้วพวกเขาไม่โอเคหรือฮะ?”
“ใช่เลย”
ฮยอนจุงถอนหายใจออกมาอย่างแรงเมื่อได้ยินคำตอบจากชิกุน...
“แล้วนายคาดหวังว่าจะได้คำตอบว่าอะไรเหรอ? มันแน่นอนอยู่แล้วที่พวกเขาจะตอบว่า “ไม่”...สำหรับในตอนนี้นายก็สามารถจะ...” เขาหยุดชะงักไปแล้วพูดต่อในใจว่า <นายน่าจะลองทบทวนและคิดอีกซักทีน่ะ..>
“....................”
ชิกุนมองฮยอนจุงด้วยแววตาที่เห็นอกเห็นใจอยู่ครู่นึงแต่แล้วก็ทำหน้าขึงขังและพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “มีอีกเรื่องนึงนะ...ต่อไปนี้ชั้นจะไม่ยอมยกโทษให้นายเรื่องที่ชอบแอบหลบออกไปจากที่พักของวง SS501 ตามอำเภอใจอีกแล้ว นับจากนี้ไปนายมีเส้นตายเคอร์ฟิวตอนเที่ยงคืนต้องกลับมาให้ถึงบ้าน ยกเว้นแต่จะมีตารางงานที่ต้องทำ...เข้าใจมั้ย...นี่นายรู้รึเปล่าว่าชั้นยอมผ่อนปรนให้นายมากแค่ไหนแล้ว ห?”
ชายหนุ่มรู้สึกช็อคเมื่อได้ยินชิกุนยื่นคำขาด “แต่ท่านประธานฯฮะ”<ไม่ได้นะฮะ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ผมคงแห้งเหี่ยวตายกันพอดี>
“เฮ้อ..จากนี้ไป...ชั้นต้องทำในสิ่งที่ชั้นจำเป็นต้องทำให้ถูกต้องซ่ะที...ชั้นถูกนายปั่นหัวมานานเกินพอแล้ว..และถ้าขืนชั้นยังปล่อยให้เรื่องต่างๆมันเป็นไปตามที่นายต้องการล่ะก็...เฮ้อ...(พังกันหมดแน่)”
เมื่อได้ยินที่ชิกุนพูดฮยอนจุงเริ่มมีความรู้สึกหลายๆอย่างสับสนปนเปภายในใจ....
“มันเป็นความรับผิดชอบและเอกสิทธิ์ของชั้นในการบริหารจัดการตารางงานและชื่อเสียงของนาย...ในขณะที่นายยังมีสัญญาอยู่กับทางบริษัท นายอย่าลืมเรื่องนี้ไปซะล่ะ”
“ที่ชั้นกำลังพูดกับนายแบบนี้เพราะว่าชั้นเป็นห่วง..ภาพลักษณ์ของนายมันอาจจะเสียหายได้ถึงแม้ความผิดพลาดที่นายทำมันอาจจะเป็นเรื่องเล็กนิดเดียว...แต่นั่นอาจจะเป็นอันตรายถึงขั้นที่นายต้องหมดอนาคตในวงการนี้ไปเลยก็ได้”
ชายหนุ่มรู้สึกหดหู่สุดขีดถามกลับไปว่า “ผมสามารถจะ...”
แต่เขาแค่เกริ่นก็เจอชิกุนสวนกลับมาทันทีว่า “ไม่ ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เรื่องต่างๆมันเลยเถิดมามากเกินพอแล้ว การที่นายหนีจากกองถ่ายละคร F4 ตามใจชอบมันก็เพียงพอแล้วสำหรับการถูกลงโทษอย่างเป็นทางการน่ะ แล้วเรื่องแอบไปแต่งงานแบบลับๆโดยไม่ได้บอกกล่าวพวกเราเลยอีกล่ะ? นายรู้มั้ยว่า...ชั้นสามารถจะฟ้องนายได้เลยนะ...สำหรับเรื่องนั้น....”
ชายหนุ่มพูดเสียงเข้มขึ้นมาทันที “ว่าไงนะฮะ?”
“เอางี้นะ ถ้ามันเป็นกรณีที่ว่าชื่อเสียงของนายถูกทำลายย่อยยับเกินกว่าจะกอบกู้กลับคืนมาได้เพราะนายไม่ยอมรับและไม่ให้ความร่วมมือกับการบริหารจัดการของพวกเรา ดังนั้นบริษัทก็จะสูญเสียกำไรมหาศาลเนื่องจากนายไม่สามารถจะทำงานในวงการนี้ต่อไปได้เพราะชื่อเสียงมันป่นปี้ไปหมดแล้ว” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นต่อไปว่า “ นายอาจจะต้องจ่ายเงินชดใช้ในส่วนที่เราได้ลงทุนไปกับนายทั้งหมดตั้งแต่แรกเริ่ม...”.
ชายหนุ่มทำหน้านิ่วพร้อมกับพูดออกมาว่า “นี่มัน..”<ข่มขู่กันชัดๆอ่ะ>
“ชั้นขอโทษด้วย ถ้าทำให้นายเสียความรู้สึกแต่นี่มันคือเรื่องของธุรกิจ...ขอให้เข้าใจด้วยนะ”.
“..............”
“เฮ้ ชีวิตจริงมันไม่ใช่เรื่องอะไรที่มันง่ายๆอย่างนั้นหรอกนะ ฮยอนจุง ที่ชั้นพูดมามันอาจจะฟังดูโหดเกินไป แต่นี่คือสิ่งที่ถูกต้องที่ควรกระทำและเป็นวิธีที่ดีที่สุดด้วย...”
“ท่านประธานฮะ”ชายหนุ่มเอ่ยปากเรียกด้วยสีหน้าที่ดูตื่นๆ
“นายอย่ามามองชั้นด้วยสายตาอย่างนั้นนะ ที่ชั้นกำลังทำไปทั้งหมดนี้ก็เพื่อนาย...นายก็ทนทนไปก่อน มันคงไม่ทรมานเท่าไหร่หรอกน่า...ก็แค่หลังจากละคร F4 จบเท่านั้นเอง...”
เขายังคงมองหน้าชิกุนด้วยท่าทางกระวนกระวาย...
“วิธีนี้มันก็เป็นวิธีที่เราเคยใช้มาก่อนแล้วนี่น่ะ ดังนั้น ชั้นว่านายก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร ใช่มั๊ย?”
“ดังนั้น ผมก็ต้องระมัดระวังตัวใช่มั๊ยฮะ...”
“ใช่ นายต้องระวังตัวให้มากถึงมากที่สุด ทุกคนรู้กันหมดแล้วว่าพวกเธอกำลังคบกันอยู่...แต่ยังไงมันก็จะเป็นเรื่องที่อันตรายและเป็นการกระทำที่ไม่มีความยั้งคิดอย่างยิ่งถ้าเกิดมีคนเห็นพวกเธอสองคนออกมาจากบ้านเดียวกันในตอนเช้าน่ะ”
ชายหนุ่มนั่งตาลอยจ้องมองเพดานโดยไม่พูดอะไร...
“ฮยอนจุง” <นี่ฟังชั้นอยู่รึเปล่าเนี่ย>
“ฮะ”
“อย่างที่นายเคยพูดไว้นะ...ว่านายเติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วหลังจากที่นายแต่งงาน...นายจำเป็นต้องตัดสินใจและลงมือกระทำอย่างชาญฉลาดเพื่อเป็นการปกป้องสิ่งที่เป็นของๆนายให้ดีๆ...”
“.................”
“เพราะว่านายดูจริงจังแน่วแน่กับการแต่งงานอย่างมาก...ถ้างั้นชั้นสามารถจะคาดหวังว่านายกำลังทำตัวให้เหมือนผู้ใหญ่จริงๆอย่างนั้นได้ใช่มั้ย?”
...เขาได้แต่หลับตาลงโดยไม่พูดโต้ตอบใดๆ...
“นี่ นายอย่าทำท่าเหมือนกับว่าโลกมันจะแตกไปต่อหน้านายในวันนี้ไปหน่อยเลยน่ะ...เวลาสี่เดือนมันผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยที่นายไม่ทันรู้ตัว”
“ฮาาา”.เขาได้แต่ร้องออกมาด้วยสีหน้าที่ดูทุกข์ทรมานใจสุดๆ
“โธ่เอ๊ย..”ชิกุนบ่นออกมาพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ <ชั้นไม่ควรปล่อยให้นายไปร่วมในรายการเรียลลิตี้แต่งงานบ้าๆนั่นเลยให้ตายสิ...>
วันต่อมาที่สถานที่ถ่ายทำรายการของฮวางโบ ขณะที่หญิงสาวกำลังนั่งหัวเราะอยู่ท่ามกลางแขกรับเชิญที่มาร่วมรายการ เธอก็รู้สึกได้ว่าโทรศัพท์มือถือของเธอกำลังสั่น จึงรีบหยิบขึ้นมาอ่านข้อความซึ่งสามีสุดที่รักส่งมา
”คุณกำลังยุ่งอยู่รึเปล่าฮะ?”
”ชั้นกำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำจ้ะ”
”โอเคฮะ”
ระหว่างช่วงพักเบรค หญิงสาวโทรกลับไปหาฮยอนจุงแต่เขากลับไม่รับสาย เธอจึงส่งข้อความไปแทน
หลังจากถ่ายทำรายการเสร็จในช่วงบ่ายแก่ๆ ขณะที่ฮวางโบกำลังเตรียมตัวจะขับรถกลับบ้าน เธอลองโทรหาคุณสามีอีกครั้งแต่แล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างแรงด้วยความผิดหวังเมื่อได้ยินสัญญาณสายไม่ว่าง
หญิงสาวเอนตัวพิงกับเบาะที่นั่งในรถแล้วบ่นพึมพำว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ? ทำไมวันนี้ชั้นถึงติดต่อเธอไม่ได้เลยนะ? ก่อนจะตัดสินใจส่งข้อความไปหาเขาอีกครั้ง”
” ชั้นกำลังจะกลับบ้านแล้วนะ เธอโทรหาชั้นหน่อยนะจ๊ะหลังจากเสร็จงานของเธอแล้ว”
ที่อพาร์ทเม้นท์ของฮวางโบ หญิงสาวกำลังนั่งมองโต๊ะอาหารด้วยแววตาที่ดูว่างเปล่าทั้งๆบนนั้นมีอาหารนานาชนิดที่เธอเตรียมไว้เป็นอาหารเย็นวางอยู่เต็มไปหมด
เธอนั่งกัดริมฝีปากด้วยความรู้สึกกระวนกระวายใจ “นี่วันนี้เขามีงานถ่ายละคร F4 ด้วยหรือ? ชั้นจำได้ว่าเขาเคยบอกว่าอาทิตย์นี้ต้องไปถ่ายวันอังคารกับพฤหัสนี่นา..เฮ้อ..เขาไม่รับสายที่ชั้นโทรไปเลยอ่ะทำไงดี...”
ที่ด้านนอกสตูดิโออัดเสียง
“ผมจะออกไปข้างนอกสักพักใหญ่ๆนะฮะแล้วจะรีบกลับที่บ้านพักก่อนเที่ยงคืน” ฮยอนจุงบอกกับพี่ผู้จัดการ
“ชั้นจะเชื่อได้ไงว่านายจะกลับมาจริงอ่ะ? ชั้นไว้ใจนายไม่ได้อีกต่อไปแล้ว... “
“ผมให้สัญญาแบบลูกผู้ชายกับท่านประธานแล้วฮะ...ถ้าเกิดผมไม่รักษาไพ่ใบสุดท้ายของผมเอาไว้..”
“ถ้านายไม่ทำแล้วจะเป็นไงเหรอ?”
ชายหนุ่มนึกย้อนไปถึงคำพูดของชินกุน... [ ถ้านายประพฤติตัวดีและทำตามที่ชั้นบอกจนไปกระทั่งละคร F4 มันจบล่ะก็...ชั้นจะลองพิจารณาเรื่องการแต่งงานอย่างเป็นทางการของนายในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้าในมุมมองที่เป็นด้านบวกมากขึ้น]
“ถ้าผมไม่ทำ เรื่องต่างๆก็จะยิ่งยากลำบากมากขึ้นสำหรับผม ดังนั้นผมจะต้องรักษาสัญญาอย่างสุดชีวิตฮะ” ชายหนุ่มยืนยันกับพี่ผู้จัดการ
แต่ดูเหมือนผู้จัดการจะยังไม่เชื่อสนิทใจซักเท่าไหร่ “แล้วถ้านายยังไม่ทำตามที่บอกล่ะ....?”
“ถ้าพี่ขอให้ผมทำอะไร ผมจะยอมทำตามที่พี่ต้องการทุกอย่างเลย”
“นี่นายหมายความอย่างงั้นจริงๆอ่ะ?”
“จริงสิฮะ...เร็วๆหน่อยฮะพี่แล้วช่วยคืนโทรศัพท์ผมมาด้วย!” เขาเริ่มส่งเสียงเร่งเร้า
แต่พี่ผู้จัดการยังยื้อต่อไปว่า “นายจะทำทุกอย่างตามที่ชั้นสั่งจริงๆใช่มั้ย?”
“ฮะพี่...คืนผมมาเลยฮะ...ให้ไว”
“อ่ะ เอาของนายคืนไป” (ฮึ...ทำท่ายังกับจะลงแดง...โดนยึดโทรศัพท์แค่วันเดียว)
ชายหนุ่มรับโทรศัพท์กลับมาแล้วรีบกล่าวลาทันที “เจอกันพรุ่งนี้ฮะพี่ “ จากนั้นวิ่งอ้าวไปที่รถของเขา..
ที่บ้านของฮวางโบ หญิงสาวยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะกินข้าวเงียบๆราวกับรูปปั้นประดับโต๊ะ
ในขณะนั้นฮยอนจุงก็มาถึงล๊อบบี้ของอพาร์ทเม้นท์แล้วและกำลังยืนรอลิฟท์อยู่แต่ลิฟท์เจ้ากรรมดันค้างอยู่ที่ชั้น 21 นานมากเสียจนชายหนุ่มอดทนรอต่อไปไม่ไหวจึงวิ่งขึ้นบันไดไปแทน เขาวิ่งกึ่งกระโดดขึ้นบันไดไปจนถึงชั้น15 ซึ่งเป็นชั้นที่พักของฮวางโบ
ในเวลาเดียวกันหญิงสาวซึ่งกำลังนั่งมึนสับสนทำอะไรไม่ถูกจ้องมองอะไรเรื่อยเปื่อยไปรอบห้องอย่างเลื่อนลอยพร้อมกับกัดเล็บเพื่อคลายเครียด จู่ๆก็ต้องสะดุ้งโหยงเพราะได้ยินเสียงกริ่งที่หน้าประตู เธอเงยหน้าขึ้นมาแล้วรีบวิ่งไปที่ประตูหน้าห้อง ทันทีที่ประตูเปิดออกฮยอนจุงก็โผล่พรวดเข้ามาหาเธอด้วยใบหน้าที่แดงก่ำและหายใจหอบราวกับไปวิ่งแข่งโอลิมปิคมา สองร่างโผเข้าหากันอย่างแม่เหล้กดึงดูดกันและกันไว้ เขาใช้เท้าแตะไปที่ประตูให้มันปิดอย่างรวดเร็ว สองแขนกอดรัดร่างเธอจนไม่มีอากาศผ่านเข้าไปได้ จูบรุนแรงจากเขาบดขยี้ลงมาที่ริมฝีปากบางอย่างเร่าร้อน ก่อนที่เธอจะผละริมฝีปากบางแล้วถาม
“เธอหายไปไหนมาทั้งวันเลยน่ะ? “
ชายหนุ่มช้อนตัวฮวางโบขึ้นมาและอุ้มเธอตรงดิ่งไปที่ห้องนอน ในตอนนั้นหญิงสาวเริ่มตอบรับการทักทายของสามีหนุ่มด้วยการจูบเขากลับไปอย่างดูดดื่ม
ชายหนุ่มพูดยิ้มๆด้วยเสียงอู้อี้ว่า “.ผมมองไม่เห็นทางเลยอ่ะ”
พูดไม่ทันขาดคำเขาเดินชนเข้ากับกรอบประตูห้องนอนทำให้ขาของภรรยาสุดสวยไปฟาดกับกรอบประตูจังๆ
หญิงสาวร้องเสียงหลง แต่ใบหน้ายังคงยิ้มแย้มด้วยความสุข
“อุ๊บส์! โทษทีฮะ “แต่ก็อุ้มเธอเดินต่อเข้าไปแล้วล้มลงนอนบนเตียงแล้วถอดปราการที่ป้องกันเรือนร่างเธอออกอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวนอนหายใจหอบถี่พร้อมกับพูดว่า “วันนี้ชั้นติดต่อเธอทางโทรศัพท์ไม่ได้เลยนะ..”
ชายหนุ่มบอกเธอด้วยน้ำเสียงที่ดูเสียใจ “มีบางอย่างเกิดขึ้นฮะ...ขอโทษด้วยนะ” ว่าแล้วรีบประทับจูบให้ภรรยาเป็นการขอโทษอีกครั้ง
หญิงสาวยกมือขึ้นมาโอบรอบคอสามีสุดที่รักและพูดว่า “ชั้นคิดถึงเธอ! ชั้นคิดถึงเธอทั้งวันเลยอ่ะ!!”
ชายหนุ่มค่อยๆเลื่อนริมฝีปากลงมาจุมพิตที่ซอกคอของเธอพร้อมกับกระซิบถามว่า “คุณคิดถึงผมเหรอ ...มากแค่ไหนฮะ?”
“อ๊าา...ได้โปรดอย่าถามอะไรชั้นแบบนี้เลยนะ...”
ชายหนุ่มก้มลงมองหน้าภรรยาแล้วพูดยิ้มๆว่า “คุณคิดถึงผมจนแทบขาดใจตายได้...แต่ว่าห้ามคุณตายเป็นอันขาด..เข้าใจมั้ยฮะ”
หญิงสาวแกล้งมองค้อนใส่สามีพร้อมกับบอกว่า “ฟังดูเหมือนเธอกำลังบอกให้ชั้นไปตายอย่างงั้นแหละ”
“ไม่ฮะ คุณตายไม่ได้เด็ดขาด...ไม่ว่ายังไงก็ตาม เพราะถ้าคุณตาย ผมคนนี้ก็ไม่รู้จะอยู่ไปเพื่ออะไรน่ะฮะ”...พูดจบเขาก็ระดมจูบด้วยความรักความคิดถึง
“ห้ามคุณรู้สึกชินกับการอยู่คนเดียวเป็นอันขาดนะฮะ! คุณต้องคิดถึงผมจนแทบขาดใจตาย...แล้วก็ห้ามทำตัวให้ชินกับความเหงาถึงแม้ผมจะทิ้งให้คุณต้องอยู่คนเดียว....คุณต้องคิดถึงผมราวกับว่าคุณกำลังจะตาย” แล้วกายหนาก็อยู่บนร่างอันบอบบางพร้อมส่งสายตาหวานซึ้ง
“บทเริ่มต้นของการรอคอยมันได้เริ่มขึ้นแล้วใช่มั้ย?...แต่ถึงยังไงชั้นก็สามารถจะรอเธอได้ตลอดไป....ถึงแม้ชั้นจะคิดถึงเธอแทบตายก็ตาม...เพราะว่าในที่สุด เธอก็จะวิ่งกลับมาหาชั้น...มามอบความรักให้กับชั้นเหมือน ณ ขณะนี้....ซารางเฮ...”
แล้วสงครามแห่งความรักก้ผ่านพ้นไป แต่ชายหนุ่มยังคงไม่พอกับสิ่งที่เขาห่างหายจากเธอไปตั้งหนึ่งอาทิตย์ เขายังต้องการสัมผัสเธออีก และหากเป็นไปได้เขาอยากให้เวลาหยุดอยู่ตรงนี้ หยุดแค่ตอนนี้ และมีเพียงแค่ เราสองคน
โปรดติดตามคู่รักผักกาดหอมรีมิกซ์ ตอนต่อไป
Create Date : 22 ตุลาคม 2553 |
|
2 comments |
Last Update : 22 ตุลาคม 2553 21:00:15 น. |
Counter : 917 Pageviews. |
|
|
|
ยิ่งอ่านก็ยิ่งสัมผัสได้ถึึงความรักของทั้งคู่
ยิ่งห่างกันก็ยิ่งคิดถึงกันมากเท่านั้น