Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
26 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
ตอนที่ 74 ~ ทุกอย่างต้องดีขึ้น เชื่อผมสิ

***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย ****



ดาวน์ทาวน์เมืองจอนจู

ฮวางโบเอ่ยขึ้นก่อน “เธอช่วยดูจีพีเอสให้หน่อยน่ะ ระวังด้วยล่ะ...”

ฮยอนจุงจ้องดูอย่างตั้งอกตั้งใจ “ ตรงไปข้างหน้าเรื่อยๆฮะ.”

“ในมหาลัย มันไม่มีที่จอดรถข้างในนั้นเลยเหรอ?” ฮวางโบหันไปถาม

เขาหันไปมองรอบๆก่อนจะตอบ“ผมว่าไม่น่าจะมีน่ะฮะ...

“งั้นทางที่ดี..ชั้นก็ควรจะไปรอเธออยู่ด้านนอกดีกว่า รอจนเธอเสร็จค่อยกลับเข้ามาใหม่”

“เดี๋ยวคุณต้องเลี้ยวซ้ายที่แยกหน้าน่ะฮะ” ฮยอนจุงทำมือเป็นสัญญาน

ฮวางโบเลี้ยวรถไปทางซ้ายตามที่บอก...

เขาชี้ไปที่ป้ายถนนซึ่งอยู่ข้างหน้าและพูดออกมาทันที “นั่นไงฮะ มหาวิทยาลัยไปทางนี้ “

“ใช่ เราใกล้จะถึงแล้ว ค่อยยังชั่วหน่อยที่เราไม่สาย”

เขายื่นหน้าไปมองนาฬิกาที่หน้ารถก่อนจะตอบเธอว่า “ใช่ฮะ นี่ยังไม่ 5 ทุ่มเลย” จากนั้นก็เอามือไปตบที่ไหล่ของฮวางโบเบาๆแล้วชมว่า “ ทำเวลาได้ดีมากฮะ!”

ฮวางโบหัวเราะคิกอย่างชอบใจ “ ตอนนี้ ชั้นกลายเป็น พนักงานขับรถประจำตัวเธอที่ชื่อว่า ฮวางโบ ไปแล้วสิน่ะ หุหุ?”

“หุหุ! ฮ่าฮ่าฮ่า ผมก็ว่างั้นล่ะฮะ”

ฮวางโบขับรถมาถึงทางเข้าที่จอดรถ แต่ถูกคุณลุงพนักงานรักษาความปลอดภัยที่อยู่ประจำป้อมเรียกให้หยุด

ร.ป.ภแสดงความเคารพแล้วพูดขึ้นว่า “คุณเข้าไปข้างในไม่ได้น่ะครับ”

ฮวางโบเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เริ่มกระวนกระวายหันไปถามฮยอนจุง “แล้วเราจะเอาไงดีล่ะ?”

ฮยอนจุงชะโงกตัวมาทางด้านฮวางโบแล้วกดกระจกลง “ขอโทษน่ะฮะ”

ร.ป.ภ.มองดูหน้าเขาอย่างพินิจพิจารณา ในขณะที่ฮวางโบนั่งตัวลีบอยู่กับเบาะรถ

ฮยอนจุงรีบยื่นหน้าออกไปข้างนอกรถ แล้วบอกว่า “ ผมมาที่นี่เพื่อมาแสดงในงานฮะ”...

ร.ป.ภ.รีบถามทันที “คุณจะไปแสดงที่ไหนเหรอครับ?”

“ก็ที่นี่ไงฮะ!” ฮยอนจุงตอบออกมาเบาๆ

ฮวางโบนั่งนึกในใจว่า<อะไรกันเนี่ย เธอตอบเขากำปั้นทุบดินแบบนั้นไปได้ไงว่า “ที่นี่”? > เธอลังเลเล็กน้อยก่อนขยับตัวเข้ามาใกล้ๆกระจกแล้วถามว่า “งาน College Song Festival เขาจัดกันที่นี่ใช่มั้ยค่ะ?”

“เอ ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ..แต่คืนนี้ที่มหาวิทยาลัยมีการจัดงานบางอย่าง” ร.ป.ภ.ตอบด้วยความไม่มั่นใจ...

“คือว่า..พวกเรามาที่นี่เพื่อขึ้นแสดงบนเวทีในงานนี้ค่ะ เราขับรถกันมาจากโซลเลย และตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเวลาแสดงมากแล้ว ถ้าเราไม่เข้าไปข้างในตอนนี้ เราจะพลาดการแสดงสดครั้งนี้ไปน่ะค่ะ”

ร.ป.ภถามต่อทันที “ ใครจะเป็นคนแสดงครับ?”

ฮวางโบชี้นิ้วไปที่ฮยอนจุง “คนนี้ค่ะ...”

ร.ป.ภ.มองหน้าฮยอนจุงอีกครั้ง “เข้าใจแล้วครับ...แต่ว่าข้างในนั้นมันไม่มีที่ให้จอดหรอกน่ะครับ..”.

“ชั้นแค่มาส่งเขาแล้วเดี๋ยวจะกลับออกไปแล้วล่ะคะ ตอนนี้เราสายแล้ว ได้โปรดกรุณาให้เราเข้าไปด้วยเถอะค่ะ”...

ร.ป.ภ.ยังดูลังเลแต่ในที่สุดก็อนุญาต “ถึงยังไงคุณก็ไม่มีที่จอดรถอยู่ดีแหละนะ...อืมม งั้นเข้าไปเถอะครับ”

เธอยิ้มให้ร.ป.ภ. “ขอบคุณน่ะค่ะ”

ฮยอนจุงก้มศีรษะให้เช่นกัน “ขอบคุณมากฮะ”

ในขณะที่กระจกหน้าต่างกำลังเลื่อนปิด คู่ผักกาดหอมก็ได้ยินเสียงร.ป.ภ.พูดพึมพำแว่วๆมาว่า “ถ้างั้น เธอมาที่นี่ก็เพื่อมาช่วยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้ชิลลางของเธอที่กำลังจะขึ้นแสดงสิน่ะ”

ฮวางโบสะดุ้ง ทำตาโต ...ฮยอนจุงกระพริบตาแบบไม่แน่ใจ “คุณได้ยินเหมือนที่ผมได้ยินหรือเปล่าฮะ?”

“นี่เขา...จำพวกเราได้หรือเนี่ย?” ฮวางโบเอ่ยถามด้วยความตกใจ

“ผมคิดว่าไม่น่าจะใช่หรอกฮะ...เขาคงแค่พูดอะไรไปตามเรื่อง..” ฮยอนจุงพูดปลอบใจ.

แต่สีหน้าของฮวางโบก็ยังกังวลอยู่ดี “เฮ้อ “ เธอถอนหายใจออกมา

“คุณลุงแกอายุมากแล้ว แกคงไม่รู้จักพวกเราดีขนาดนั้นหรอกฮะ...เขาอาจจะพูดแบบนั้นก็เพราะเราบอกไปว่าผมเป็นนักร้อง...คุณอย่ากังวลไปเลยน่ะฮะ” ฮยอนจุงยังคงพูดปลอบใจ

“ก็จริงของเธอน่ะ? คนอายุรุ่นคุณลุงแบบนั้นคงจะไม่มานั่งดูรายการโชว์ของเราหรอก” เธอเริ่มเห็นด้วยกับเขา.

“ใช่ฮะ...มันคงไม่มีอะไรหรอก อย่าเพิ่งคิดอะไรมากเกินไปเลยฮะ..”

“โอเคจ้ะ” เธอตอบแต่ก็อดคิดไม่ได้ <ชั้นไม่ควรจะมาที่นี่กับเธอตั้งแต่แรกเลยน่ะ...T_T>

ฮยอนจุงได้แต่แอบดีใจเงียบๆ <อ๊า ยู้ฮูววว วันนี้ชั้นมีโอกาสได้ปล่อยข่าวอีกแล้วสิเนี่ย เตรียมจิ้นกันเลยพี่น้อง ^^>

ไม่นานฮวางโบก็ขับรถมาจอดใกล้ๆกับเวทีกลางแจ้งที่จัดงานแสดง

เมื่อมาถึง ฮวางโบก็หันไปพูดว่า “ชั้นอยากจะดูเธอแสดงบนเวทีจริงๆน่ะ...แต่ชั้นเดาว่าคงเป็นไปไม่ได้เพราะว่าไม่มีที่จอด...”

“ฮะ ผมก็อยากจะให้บูอินมานั่งดูผมเล่นกีตาร์เหมือนกันฮะ...”

เธอยิ้มกว้างแล้วอวยพรเขาทันที “โชคดีน่ะ เสร็จเมื่อไหร่ เธอก็โทรหาชั้นล่ะกัน จะได้รีบกลับมารับเธอน่ะ”

“แล้วระหว่างนี้คุณจะไปรอผมอยู่ที่ไหนฮะ?”


“ยังไม่รู้เลย ขอออกไปดูข้างนอกแถวๆนี้ก่อนว่าเป็นยังไง แต่ชั้นคงไม่ขับไปไหนไกลหรอก เพราะว่าไม่คุ้นทางเดี๋ยวเกิดหลงขึ้นมาแย่เลย... “

“ผมว่าผมจะไช้เวลาในการแสดงประมาณ 40 นาทีถึงชั่วโมงน่ะฮะ”

“งั้นก็ โอเคจ้ะ”

ฮยอนจุงยังคงจ้องหน้า ยังไม่ยอมลงจากรถ...

“เร็วเข้า ลงไปได้แล้ว เดี๋ยวก็สายหรอก รีบเข้าไปในงานได้แล้ว” เธอพูดพลางเอามือผลักไหล่ฮยอนจุง

ฮยอนจุงยังคงดื้อไม่ยอมลง...

“มีอะไรรึเปล่า หืม?” เธอหันไปถาม

ฮยอนจุงทำแก้มป่องแล้วยื่นเข้าไปใกล้ๆฮวางโบ แล้วพูดเสียงอ้อนๆว่า “นิดนึงน่ะฮะ น่าน๊า”


ฮวางโบถอนหายใจออกมา แล้วแกล้งถามเหมือนไม่รู้ “เธออยากจะให้ชั้นทำอะไรเหรอ?”

“เร็วสิฮะ ผมรู้ว่าคุณเข้าใจ แต่กำลังแกล้งผมอยู่ ใช่หรือเปล่า <คุณรู้จักหรือเปล่า (แกล้ง) จุ๊บให้รู้ว่า รัก อ่ะ > ”

ฮวางโบลังเลชั่วครู่ หันรีหันขวางแล้วรีบจุ๊บที่แก้มไปหนึ่งที “อ่ะ พอใจรึยัง! ตอนนี้ ไปได้แล้วใช่มั้ย? “

ฮยอนจุงยิ้มอย่างมีความสุขล้นใจ “ ผมจะเล่นให้สุดฝีมือเลยฮะ” จากนั้นก็เดินลงจากรถไปเปิดกระโปรงท้ายเพื่อหยิบกีตาร์คู่ใจก่อนที่จะเดินมุ่งหน้าไปที่บริเวณเวทีการแสดง

ในขณะเดียวกัน ฮวางโบก็นั่งมองด้านหลังของฮยอนจุงที่เดินห่างออกไปด้วยสายตาละห้อย และพูดพึมพำกับตัวเองว่า< ชั้นอยากจะดูเธอเล่นกีตาร์จริงๆน่ะ>



หลังจากนั้นฮวางโบก็ขับรถออกมาจากบริเวณมหาวิทยาลัย และขับลัดเลาะไปตามถนนในเมืองจอนจู

“แถวๆนี้ มันมีที่เหมาะๆตรงไหนบ้างมั้ยน่ะ…?” ฮวางโบพูดระหว่างที่ชะเง้อมองหาหนทาง

ขณะนั้นเองเธอก็สังเกตเห็นว่าที่หน้าต่างกระจกกร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อยู่แถวนั้นมีจอทีวี LCD ขนาดยักษ์ตั้งโชว์อยู่และกำลังฉายรายการถ่ายทอดสดจากเวที College Song Festival อยู่ด้วย

เธอดีใจสุดๆรีบจอดรถอยู่ที่ริมถนนหน้าร้านและนั่งดูทีวีอยู่ในรถ “ว้าว ดึกขนาดนี้ยังมีร้านเปิดอยู่อีกหรือเนี่ย โชคดีจริงๆ”
หลังจากหันไปมองรอบๆ ถนนซึ่งไม่มีผู้คนอยู่บริเวณนั้น เธอก็ลดกระจกรถลงเพื่อที่จะฟังเสียงจากลำโพงหน้าร้านซึ่งต่ออยู่กับทีวีจอยักษ์เครื่องนั้น

ไม่นานนักเธอก็ได้ยินเสียงร้องที่เหมือนมีเสียงลมแผ่วๆของฮยอนจุงคลอไปกับเสียงดนตรีจากวงร็อค หัวใจของเธอเริ่มเต้นแรงเมื่อได้เห็นเขาเดินออกมายืนที่กลางเวทีด้วยท่าทางที่ดูอายๆ

ระหว่างที่ฟังเพลงเธอก็เริ่มรู้สึกอารมณ์อ่อนไหว “ ชั้นว่านี่เป็นครั้งแรกที่ชั้นได้เห็นเธอแสดงบนเวทีจริงๆ...เธอดูเท่ห์มากๆ แล้วก็ดูเปล่งประกายบนเวที” เธอจ้องดูที่จอทีวี มองดูฮยอนจุงร้องเพลงโดยที่สายตาของเขาดูเป็นประกายสดใสเต็มไปด้วยความสุข ริมฝีปากของเธอก็ค่อยๆเผยอยิ้มมากขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่รู้ตัว

<จริงๆน่ะ..ชั้นอยากจะทำให้เธอมีชีวิตที่....มีใบหน้าที่มีความสุขและไร้เดียงสาแบบนั้นได้ตลอด..ได้ทำดนตรีในแบบที่เธอชอบโดยไม่ต้องแคร์อะไรทั้งนั้น>



ทันใดนั้น ภาพของฮยอนจุงบนจอทีวีก็หายไปแต่มีภาพชเวซึงฮยอน (ท็อป-Big Bang) ขึ้นมาแทน

ฮวางโบถึงกับบ่นอุบออกมาทันที “ทำไมพวกเขาถึงไม่ถ่ายแบบใช้มุมกล้อง 2 ตัวล่ะ? หน้าของฮยอนจุงหายไปจากจอแล้วน่ะ! เซ็งจริงๆเลย”

หลังจากจบการสัมภาษณ์สองหนุ่มฮยอนจุงและท็อปแบบสั้นๆบนเวที ฮยอนจุงก็เริ่มเล่นกีตาร์ไฟฟ้าสำหรับการแสดงเพลงสุดท้ายของพวกเขา

“น่าเสียดายจังนะที่เธอไม่มีเวลาพอที่จะซ้อมเพื่อเล่นเบสในคืนนี้น่ะ...” เธอยังคงบ่นพึมพำในลำคอ

เธอนึกกลับไปถึงการแสดงของฮยอนจุงในตอนพิเศษเทศกาลชูซอดก <เธอน่าจะทำมันได้ดีจริงๆน่ะ ถ้าเธอเปลี่ยนแนวเพลงของเธอมาเป็นดนตรีร็อคน่ะ.เสียงร้องของท็อปมันดูโดดเด่นมากทีเดียว แต่แปลกจัง ทำไมหูของชั้นมันได้ยินแค่เสียงของเธอคนเดียวเท่านั้นน่ะ.....>

หลังจากจบเพลงสุดท้ายฮอยนจุงก็เดินกลับไปด้านหลังเวที ในขณะเดียวกันฮวางโบซึ่งมองดูจอทีวีด้วยท่าทางกึ่งเคลิ้มกึ่งฝันก็เริ่มรู้สึกตัว จากนั้นก็รีบสตารท์รถเพื่อกลับไปรับเขา

ที่ลานจอดรถของมหาวิทยาลัย
ฮวางโบจอดรถรอฮยอนจุงอยู่ที่เดิมกับตอนที่มาส่งเขา ไม่นานนักฮยอนจุงก็เดินถือกล่องกีตาร์ตรงมาที่รถ เธอยกมือขึ้นโบกให้เขาตอนที่เดินเข้ามาจนเกือบจะถึงประตูรถ ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเรียกดังขึ้นจากที่ไกลๆ

”คิมฮยอนจุง” เขาหันหลังกลับไปดูก็พบว่าพี่ผู้จัดการกำลังวิ่งตรงเข้ามาหา

ผู้จัดการรีบเอ่ยถามทันที “นายอยากจะให้ชั้นขับรถกลับไปส่งนายที่บ้านมั้ย?”

ฮยอนจุงรีบโบกมือปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอกฮะ พอดีผมมีเพื่อนช่วยขับให้แล้วฮะ”

“เขาคงจะเหนื่อยมากแล้วนะ เพราะขามาก็ขับมาตั้งไกลจากโซลเลย ให้เขาพักดีกว่ามั้ยแล้วเดี๋ยวชั้นจะเป็นคนขับให้พวกนายเอง...”ผู้จัดการยังคงชวนไม่เลิก

“ไม่ต้องหรอกฮะ พวกเราโอเค ขอบคุณพี่มากฮะ”

ฮวางโบซึ่งนั่งอยู่รถเริ่มเครียดเมื่อได้ยิน<จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย...? ขืนให้เขามาขับก็จะต้องรู้เรื่องของพวกเราแน่ๆ โอ๊ยอยากจะบ้าตาย>

เขานิ่งไปพักนึงก่อนจะหาเหตุผลมาอ้าง “เพื่อนของผมเขาไม่ค่อยชอบคนแปลกหน้าเท่าไหร่น่ะฮะ ดังนั้นขอพวกเราไปกันเองตามลำพังก็แล้วกันฮะ พวกเราไม่เป็นไรจริงๆฮะ...ขับกลับเองไหวฮะพี่”

ผู้จัดการจอมจุ้นจ้านยังไม่ยอมวางมือ พยายามก้มมองดูเข้าไปในรถแล้วถามว่า “นายแน่ใจเหรอ? ว่าขับกลับกันเองได้จริงๆน่ะ?”

ฮยอนจุงรีบตอบอย่างหนักแน่น “ได้แน่นอนฮะ”

ผู้จัดการยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วถามว่าเป็นนัยๆ “นี่นายแอบเอาผู้หญิงมาด้วยหรือว่าอะไรกันแน่ฮึ? ท่าทางของนายมันดูมีพิรุธยังไงชอบกล...”

ฮยอนจุงสะดุ้งด้วยความตกใจ <แย่แล้ว เขาจะจับได้มั้ยเนี่ย?> “อะไรนะฮะ?”

ฮวางโบก็ตกใจไม่แพ้กัน <หา!!! โอพระเจ้า!!! คราวนี้ท่าจะไม่รอดแน่ >หน้าเริ่มซีดเป็นไก่ต้ม

ผู้จัดการหัวเราะหึๆ “นายน่ะมันโกหกไม่ค่อยได้เรื่องอยู่แล้วหนิ...รู้ตัวมั้ยว่าตอนนี้ท่าทางนายเหมือนคนถูกจับได้แบบคาหนังคาเขา....ว่ากำลังขโมยของกินอยู่เลยน่ะ....”

เขาฝึนใจหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า...ผมไม่ได้ขโมยอะไรมากินซักหน่อยฮะพี่...”

ในที่สุดผู้จัดการก็ยอมและตบที่ไหล่ของฮยอนจุงเบาๆ “ โอเค เข้าใจแล้วล่ะ เข้าไปนั่งในรถสิ”

แต่ฮยอนจุงยังคงทำท่าลังเลไม่ยอมขึ้นรถ

ผู้จัดการรีบเจ๋อมาเปิดประตูรถให้ “เร็วๆสิ ขึ้นไปได้แล้ว” แล้วก็แอบเหลือบมองเข้าไปในรถ

เมื่อประตูเปิดออกฮยอนจุงตกใจสุดๆ “หา!!!” หัวใจแทบหยุดเต้น

“อ้าว นี่เพื่อนนายหายไปไหนล่ะเนี่ย?”

ฮยอนจุงมองเข้าไปในรถ “เอ่อ...เขาบอกผมว่า...จะไปเข้าห้องน้ำ...สักพักนึงแล้วล่ะฮะ”

“โอ๊ะ งั้นเหรอ? ไม่เป็นไร ชั้นก็แค่อยากมาทักทายเขาสักหน่อยเท่านั้น...”

“ไม่เป็นหรอกพี่..ไม่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้ฮะ” <รีบๆไปให้พ้นจะดีกว่าน่ะฮะ>

ผู้จัดการยิ้ม “ชั้นเดาว่าเพื่อนนายก็คงเป็นพวกสันโดษแบบเดียวกับนาย.อย่างนั้นสิน่ะ”.

เขาตัวเกร็งด้วยความตื่นเต้น แต่ก็พยายามยิ้มแบบอึดอัดเพื่อกลบเกลื่อน “ ใช่ฮะ...เขาออกจะเขินคนแปลกหน้า...”

“เอาล่ะ ขับรถระวังๆหน่อยแล้วกันนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้ ช่วงเช้านายยังมีเวลาพักผ่อนได้”

เขารีบพยักหน้าทันที “ฮะ ดูแลตัวเองด้วยนะฮะแล้วพรุ่งนี้พบกัน”

“งั้นพี่กลับก่อนน่ะ”

“ขอบคุณมากฮะที่ทำงานหนักในวันนี้ “เขาพูดไปพร้อมๆกับโค้งคำนับ

ในที่สุดพี่ผู้จัดการก็โบกมือลาก่อนที่จะวิ่งกลับไปที่มุมหนึ่งของลานจอดรถ

หลังจากยืนมองหลังพี่ผู้จัดการว่ากลับไปแน่ๆแล้ว ฮยอนจุงก็ยื่นศีรษะกลับเข้ามาในรถเพื่อมองหาฮวางโบ

”คุณอยู่ที่ไหนฮะเนี่ย?”

”เขาไปแล้วเหรอ?” เสียงของเธอกระซิบถามกลับมาเบาๆจากด้านหลังรถ

เขาหันหน้าไปดูที่เบาะด้านหลัง “ใช่ฮะ...คุณอยู่.”

ฮวางโบที่นอนราบแอบอยู่ด้านหลังรถค่อยๆโผล่หน้าที่ดูซีดเซียวของเธอขึ้นมาจากพื้นรถ

”โอย ชั้นคงแก่เกินไปที่จะทำอะไรแบบนี้แล้ว !!! ชั้นคิดว่าชั้นกำลังจะหัวใจวายตายไปซ่ะจริงๆเลย!!!” เธอกล่าวในขณะที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อเพราะอากาศร้อน

”หุหุ!!! คุณไปทำอะไรอยู่ตรงนั้นฮะ?” เขาอดขำไม่ได้ที่เห็นหน้าตาซีดเซียวของเธอ

”เธอคิดว่าอะไรล่ะ?” ถอนหายใจอีกครั้งแล้วพูดต่อ “ชั้นก็แอบอยู่น่ะสิ เฮ้อ ทำไมชีวิตของชั้นมันถึงได้ ..” <ตื่นเต้นแบบนี้น่ะ>.

หลังจากนั้นไม่นาน คู่ผักกาดหอมก็ขับรถกลับออกมาจนถึงประตูด้านหน้าของมหาวิทยาลัยแล้วก็เจอ
คุณลุงร.ป.ภ.เจ้าเก่าโบกมือทักทายอย่างเป็นมิตร

ฮวางตกใจจนตัวแข็งทื่อ “เราจะทำยังไงดีล่ะ?”

เขารีบลดกระจกลงแล้วพูดกับเธอว่า “มันคงจะเป็นการเสียมารยาทถ้าเราทำเป็นไม่สนใจที่ผู้ใหญ่ทักทายน่ะฮะ”

ลุงร.ป.ภ.ยิ้มให้ก่อนจะถามว่า “แสดงเสร็จแล้วเหรอครับ?”

ฮยอนจุงรีบก้มศีรษะคำนับก่อนตอบไปว่า “ ฮะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะฮะ...”

ลุงร.ป.ภ. โบกมือให้อีกครั้งก่อนจะอวยพรว่า “ขอให้ขับรถถึงบ้านปลอดภัยน่ะครับ”

ทั้งสองคนก้มศีรษะลงนิดๆและตอบพร้อมๆกันว่า “ค่ะ/ครับ ขอบคุณมากค่ะ/ครับ “ จากนั้นฮวางโบก็เริ่มแตะคันเร่งเพื่อเคลื่อนรถออกไปจากที่นั่น

แต่ก่อนที่กระจกรถจะปิดสนิท คู่ผักกาดหอมก็ต้องประหลาดใจอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงของคุณลุงร.ป.ภ.ที่อวยพรต่อไปอีกว่า “คุณฮวางโบ-ชิ ขอให้มีชีวิตคู่ที่มีความสุขกับสามีของคุณน่ะครับ!!”

ฮวางโบสะดุ้งเฮือก เท้าแตะเบรคโดยอัตโนมัติ! ตาของเธอแทบจะถลนออกมานอกเบ้า !!!

ฮยอนจุงก็ชักเครียดไม่แพ้กัน แล้วรีบบอกเธอไปว่า “รีบไปสิฮะ บัดนาวเลย”

แต่เธอยังคงนั่งนิ่งไม่ขยับ...

”เร็วเข้าสิฮะ !!!!”

ฮวางโบค่อยๆปล่อยเบรค แล้วขับรถต่อ

เขาเห็นสถานะการณ์ของเธอเริ่มเครียด เขาจึงพูดปลอบใจ “มันก็แค่เป็นคำอวยพร...เขาอวยพรให้เราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขน่ะ”

หัวใจของฮวางโบเต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้นตกใจ ก่อนจะพูดเสียงสั่นเครือว่า “ชั้นคิดว่า...พวกเราได้ทำอะไรที่มันบ้าสุดๆลงไปแล้วล่ะ...”

”ไม่น่ะ ทำไมคุณถึงคิดแบบนั้นล่ะ อะไรที่คุณคิดว่าเป็นเรื่องบ้าสุดๆฮะ?”

เสียงของเธอยังคงสั่นอยู่ ไ แล้วนี่เราจะทำยังไงกันดีล่ะ?”

”พอได้แล้วฮะ หยุดรถเดี๋ยวนี้เลย! ผมจะขับให้เอง!” เขาพูดด้วยความหัวเสีย

ฮวางโบรีบเหยียบเบรคเพื่อหยุดรถด้วยความงุนงง ฮยอนจุงลงจากรถแล้วเดินอ้อมมานั่งประจำที่คนขับ ในขณะที่ฮวางโบปีนข้ามไปนั่งที่เบาะข้างๆ

เขาถอนหายใจแล้วพูดต่อไป “มันไม่มีอะไรหรอกฮะ คุณอย่ากลัวไปเลย”...

เธอหันไปมองหน้าเขา “ เราจะทำยังไงกันดี?”

”.........................”

”......................”

”ผมว่าคุณกังวลกับเรื่องนี้จนเว่อร์เกินไปรึเปล่าฮะ...ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี...ไม่ต้องกังวลไปหรอกฮ่ะ...”

”......................”


น้ำตาของเธอเริ่มนองหน้า แล้วถามซ้ำเหมือนคนสติแตก “เราจะทำยังไงกันดี? มันเป็นความผิดของชั้นเอง...”

”ไม่ฮะ มันไม่ใช่ความผิดของบูอินซ่ะหน่อย ใครบอกกันฮะ”

”ถ้าเธอต้องเจ็บปวด...เพราะว่าชั้นเป็นสาเหตุ...โอพระเจ้า...ชั้นจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย...T_T” เธอยังคงรู้สึกกังวล


เขารู้สึกปวดใจเมื่อเห็นท่าทางของเธอ “ ผมจะไม่มีวันต้องเจ็บปวดเพราะบูอิน อย่าได้คิดแบบนั้นเป็นอันขาดฮะ!”

”ตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี..? ยังไงดี...?.” ฮวางโบยังคงพูดอยู่อย่างนั้น

เขาถอนหายใจ ก่อนจะจอดรถแอบที่ริมถนน “ หันมามองผมสิฮะ คนดี”

ฮวางโบยังคงสติหลุด นั่งจ้องมองไปข้างหน้าด้วยดวงตาที่ยังคงมีน้ำตาไหล่เอ่อ

เขาค่อยๆเอื้อมมือไปจับไหล่ของเธอเอาไว้ “มองผมสิฮะ !!!”

เธอตัวสั่นเทาด้วยความกัววล แล้วก็ค่อยๆหันหน้ามาหาเขา...

”อย่าคิดอะไรโง่ๆสิฮะ! มันไม่มีอะไรซักหน่อย! ก็แค่คำอวยพรก็เท่านั้น...” ฮยอนจุงพูดพลางเอามือลูบใบหน้าของเธอ

แต่ฮวางโบยังคงอยู่ในโหมดสติแตก “แล้วถ้ามันไม่ใช่อย่างที่เธอพูดล่ะ? หือ เราจะทำไง?”

”ผมไม่แคร์หรอกฮะ ถึงมันจะไม่ใช่อย่างที่ผมคิด! มันไม่ใช่ว่าโลกจะแตกลงไปวันนี้ซะที่ไหน!”

”เธอ..จะต้องเจ็บปวด” ว่าแล้วเธอก็เริ่มร้องไห้อีกรอบ

”ไม่ฮะ ผมจะไม่เจ็บปวด ผมเป็นห่วงคุณมากกว่า เพราะว่าคุณมีหัวใจที่อ่อนแอและเปราะบาง...”


ฮวางโบน้ำตาไหลเป็นทำนบแตก “ฮยอนจุง...ชั้น...กลัวจริงๆน่ะ”

ฮยอนจุงกอดเธอเอาไว้แน่น “ไม่เป็นไรฮะ ไม่เห็นต้องกลัวเลย...ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกฮะ..คุณเชื่อสิ ว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้น!”

เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของเธอที่ตอนนี้อยู่ในอ้อมอกของเขา “ มันเป็นความผิดของชั้นเอง ...ชั้นไม่ควรจะตกหลุมรักเธอเลย...”

ฮยอนจุงเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกที่อก เขารู้สึกปวดใจ “ นั่นมันเป็นเรื่องโง่มากนะฮะที่พูดอย่างนั้น...คุณพูดออกมาได้ไงฮะ?”

เขาเอามือลูบผมของเธอแล้วพูดต่อไป ”นี่ผมเป็นคนที่ดูไม่น่าเชื่อถือมากเลยหรือฮะ? คุณรู้สึกกลัวมากขนาดนั้นเลยหรือ? เจ็บปวดมากขนาดนั้น...? คุณมองไม่เห็นเลยหรือ...ว่าผมรักคุณมากแค่ไหน?”

”ฮยอนจุงจ๊ะ ชั้นยังไม่พร้อมสำหรับเรื่องอะไรทั้งนั้น...ชั้นยังไม่พร้อมที่จะเห็นเธอต้องเจ็บปวด...ชั้นแน่ใจว่าชั้นยังไม่พร้อมที่จะแยกทางกับเธอ.. ชั้นก็แค่รักเธอ...ชั้นมันโง่งมงายจริงๆ.”

น้ำตายังคงไหลอาบแก้มของฮวางโบในขณะที่อยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นของเขา และโดยที่เธอไม่เห็น ฮยอนจุงก็เริ่มมีน้ำตามาเอ่ออยู่ที่ริมขอบตาเช่นเดียวกัน และนึกถึงอุปสรรคความรักที่พวกเขาจะต้องฝ่าไปให้ได้

โปรดติดตาม คู่รักผักกาดหอม รีมิกซ์ ตอนที่ 75 - วันนั้นมันจะมาถึงในไม่ช้า ผมสาบาน

คำอธิบายท้ายบท

T.O.P. แห่งวง Big Bang และคิมฮยอนจุง (Kim Hyun Joong) แห่งวง SS501 ร่วมมือกันในงาน MBC University Song เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม
พวกเขาขึ้นแสดงเพลง I Bami Gipeo Gajiman (이 밤이 깊어 가지만 / Though Tonight Is Growing Late) จากอัลบั้มแรกของ Seo Tai-ji & Boys (서태지와 아이들) และเพลง Rise and Fall และยังมีการสัมภาษณ์กับลีเฮียวริ (Lee Hyo Ri) ในระหว่างเพลงสองเพลง
งานเพลงมหาวิทยาลัยครั้งที่ 32 (32nd University Song Festival) จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัย JeonBook เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม

ในงาน มีทาโบล (Tablo) และลีเฮียวริ เป็นพิธีกร Big Bang และ No Brain ร่วมกันแสดงเพลงเมดเล่ย์ The Original Youth และยังมี Alex และซอนดัมพี (Son Dam Bi) แสดงเพลง The Original Love
จากนั้นยังมี Kim Gun Mo, WonderGirls, ยูนอา (YoonHa) และ Bobby Kim แสดงเพลง The Original Melody
และก็มีคิมฮยอนจุง และ T.O.P. ร่วมแสดงเพลงเมดเล่ย์ The Original Friends ทางด้าน DF DOC แสดงเพลงเมดเล่ย์ The Original Passion และวง Yoon Do Hyun แสดงเพลงเมดเล่ย์ The Original Spirit
credit:www.blike.net

หมายเหตุจากยาย(นาจา)

พวกเขาคงดีจัยที่อย่างน้อยมีแฟนคลับอยู่ไม่น้อยที่เอาใจช่วยและอวยพรความรักให้พวกเขาอยู่เสมอ





Create Date : 26 กรกฎาคม 2553
Last Update : 26 กรกฎาคม 2553 20:02:06 น. 4 comments
Counter : 1007 Pageviews.

 

แวะมาชวนไปเวียนเทียนด้วยกันจ้า



โดย: หน่อยอิง วันที่: 26 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:25:20 น.  

 
หวานนน...เศร้า...ซึ้งงงงง....ตื่นเต้นนนน...ครบทุกรสเลยขอบคุณยายมากๆเลยจ้า คัมซาฮัมนิดา สู้ๆๆ


โดย: มินมิน IP: 125.25.247.31 วันที่: 26 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:58:05 น.  

 
555 ชอบที่ลุง รปภ.พูดจังเลย คริคริ


โดย: Nunnalin IP: 182.232.40.217, 64.255.180.148 วันที่: 26 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:09:01 น.  

 
แหม! เจ้าผู้จัดการช่างจอมจุ้นนี่เกือบไป
แล้วไหมละ แต่ลุงรปภ.ได้ใจไปเลย

ขอบคุณนะคะยาย


โดย: ning IP: 115.87.76.38 วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:18:19:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.