Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
19 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
ตอนที่ 72 ~ บูอิน ช่วยผมด้วย

***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย ****


วันศุกร์ ที่กองถ่ายของรายการ Infinity Girls
ฮวางโบกำลังยืนอยู่ในมุมสงบและพูดโทรศัพท์อยู่กับฮยอนจุง

”ว่าแต่...เธอกินข้าวกลางวันรึยัง?” เธอถามเขาด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย

”ยังเลยฮะ พวกเขาใช้งานพวกเราเยี่ยงทาสแม้แต่อาหารก็ยังไม่ยอมให้กิน...”

”ใครกันน่ะ? ไอ้บ้าที่ไหนที่กำลังทำให้ชิลลางของชั้นต้องทำงานจนเหนื่อยแล้วก็หิวแบบนี้น่ะ?”

”พวกพี่ผู้จัดการของพวกเราเองน่ะฮะ...พรุ่งนี้วงของเราต้องไปขึ้นแสดง..มันก็พักนึงแล้วที่ ...”

”อ๊า งาน Asian Song Festival น่ะเหรอ?”

”ใช่ฮะ”

”เอ๊ะ..แต่เธอเคยบอกว่าจะไปแสดงในงาน MBC College Song Contest วันพรุ่งนี้ด้วยไม่ใช่เหรอ?”

”ใช่เลยฮะ”

”ฟังแล้วท่าทางพรุ่งนี้เธอจะคงจะงานชุกชุมเลยสิน่ะ”

”ใช่ฮะ พูดตามจริงเลยก็คือผมต้องซิ่งรถจาก World Cup Stadium ในโซลเพื่อไปแสดงต่อที่ จอนจู”

”จอนจูเหรอ?”

”ใช่ฮะ งาน College Song Contest จัดที่นั่นน่ะฮะ”

”งั้นเหรอ? แล้วเธอจะไปทันเวลาหรือเนี่ย?”

”มันคงจะเฉียดฉิวเต็มทีเลยล่ะฮะ แต่ผมคาดว่าผมน่าจะไปถึงที่นั่นได้ก่อนเวลาแสดงนิดๆ”

”ชั้นชักเป็นห่วงแล้วสิว่า ผู้จัดการของเธอจะขับรถแบบบ้าระห่ำขนาดไหนกัน...เธออยากจะให้ชั้นไปขับให้เธอมั้ยล่ะ?”

ฮยอนจุงหัวเราะคิก “คุณจะขับซิ่งแบบเหยียบไม่ยั้ง เพราะนึกว่าถนนไฮเวย์เป็นสนามแข่งรถรึเปล่าฮะ?”

ฮวางโบหัวเราะแล้วพูดต่อว่า “ไม่เอาน่า จริงๆน่ะเธออยากให้ชั้น...?”

”ถ้าคุณมีเวลาว่าง...ผมก็อยากจะขอให้คุณมาขับรถให้...”

”งั้นชั้นก็ควรจะตอบว่า “ขอโทษน่ะ ชั้นไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น” สำหรับคำขอแบบนี้ใช่มั้ย?”

”ไม่ฮะ คุณต้องตอบมาว่า “ชั้นยินดีจะทำให้เธอจ้ะ”

”หุหุ ชั้นขอโทษจริงๆน่ะ แต่ชั้นไม่มีเวลาจริงๆ”

”จริงหรือฮะ? คุณมาไม่ได้เหรอ?”

”พรุ่งนี้ตารางงานของชั้นมันก็แน่นเอี้ยดเหมือนกันจ้ะ ถึงแม้ว่ามันจะน่าเสียดายมากที่ต้องพลาดโอกาสดีๆแบบนี้ไป...”

”ฮะ...แย่จังนะฮะ ถ้าคุณไปได้ เราคงจะสนุกกับการใช้เวลาเดทด้วยกันเป็นเวลานานๆอย่างนั้นบนรถ...”

”อืมม..ถ้าเธอสามารถไปงานคนเดียวโดยไม่ต้องมีผู้จัดการของเธอไปด้วย ชั้นจะลองกลับไปดู ว่าจะจัดการกับตารางของชั้นได้อย่างไรบ้างน่ะ...”


”จริงๆน่ะ?”

เธอถอนหายใจออกมา “จริงสิ...แต่ว่าเธอจะแยกตัวไปคนเดียวได้เหรอ?”

”ขอเวลาผมสักแป๊บนึงน่ะฮะ ไว้ผมจะโทรกลับไปบอกคุณอีกที...”

”ได้จริงเหรอ…?”

”คุณจะยอมไปกับผม ถ้าผมสามารถสลัดพี่ผู้จัดการออกไปได้ใช่มั้ยฮะ?”

”ไม่ใช่น่ะ”

”คุณห้ามเปลี่ยนคำพูดสิฮะ!”

”นี่เธอ~~~~”

”แล้วก็ห้ามคุณพูดอะไรต่อแล้วด้วย...”

”เธอนี่ จริงๆเลยน่ะ”

จู่ๆสัญญาณโทรศัพท์ก็ขาดหายไป เพราะฮยอนจุงวางสายเอาดื้อๆหลังจากเขาพูดจบ

ฮวางโบได้แต่ยืนจ้องโทรศัพท์ตัวเองอย่างงุนงง
*****************************************************************************
ที่สตูดิโอสำหรับซ้อมเต้นของสมาชิกวง SS501

ฮยอนจุงหลังจากวางหูใส่เธอก็ยืนแสยะยิ้มชอบใจ ก่อนจะเดินกลับเข้าไปรวมกลุ่มกับเมมเบอร์คนอื่นๆ ปากก็บ่นว่า < นี่พวกเขาจะไม่ให้พวกเรากินอะไรเลยจริงๆน่ะเหรอ? ทำไมมาบังคับให้เราทำงานแบบนี้แล้วก็ปล่อยให้เราหิวตายกันหมดเนี่ย?>

จุนเบบี้ได้ยินก็รีบพูดว่า “ พี่พูดแบบนั้นอีกครั้งสิฮะ ขอ –อาหาร-ผม-หน่อย~~~~~ ได้โปรด”

จองมินแทรกขึ้นมาทันที “พวกนายนี่มันน่าสงสัยจริงๆเล้ย”<แครอทอ่ะ หักพกมั่งน่ะ พวกนายจะได้ไม่หิวกัน>


10 นาทีหลังจากนั้น
อาหารกลางวันของพวกเขาก็มาถึง เหล่าเมมเบอร์ต่างก็ลงมือสวาปามกันอย่างไม่รีรอ

คยูจงพูดขึ้นมาว่า “ชั้นว่าชั้นกำลังเวียนหัวเหมือนจะเป็นลมอยู่แล้วน่ะ...”

จุนเบบี้ไม่ยอมน้อยหน้าหันไปพูดว่า “ดูชั้นสิ...หน้าตอบจนเหลือแต่กระดูกแล้ว~~~~~”

แต่จองมินรีบขัดขึ้นมาว่า “ชั้นว่าเป็นคนอื่นมากกว่านะที่ผอมจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกแล้วอ่ะ”

”หา? “ จุนเบบี้หันมามองจองมินแบบงงๆ

จองมินพยักเพยิดหน้าไปทางฮยอนจุง “นั่นไง ลีดเดอร์ที่หน้าตาเหมือนแตง-หงี่ (น้องหมา) ของพวกเรา...”

จุนเบบี้มองไปที่ฮยอนจุงด้วยแววตาเศร้าๆ “นายพูดถูก...ชั้นแทบจะจำไม่ได้เลยว่าหน้าตาของลีดเดอร์ก่อนหน้านี้เป็นยังไง”


ในขณะที่พวกเมมเบอร์คุยกันระหว่างที่นั่งล้อมวงกินข้าวกลางวัน ฮยอนจุงได้แต่นั่งกินอาหารของเขาอยู่เงียบๆ

คยูจงส่งเสียงเรียก “พี่ฮยอนจุง”

”.........................”

”พี่ฮะ” คยูจงเรียกซ้ำ เมื่อเขาไม่ตอบ

”...หืมม?”

คยูจงมองลีดเดอร์ด้วยความกังวล “ นี่ระดับพลังงานของพี่มันลดลงต่ำมากซะจนไม่ได้ยินที่ผมเรียกเลยหรือฮะ?”

ฮยอนจุงหน้าตาเหมือนไม่รับรู้ “นายเรียกชั้นเหรอ?”

จองมินได้ยินก็โวยออกมาว่า “โอ๊ย นี่มันเรื่องซีเรียสแล้วน่ะ...ถ้าเกิดพรุ่งนี้เขาเป็นลมล้มไปกลางเวทีจะทำยังไงล่ะ?”

”เป็นลม ก็ดีสิ จะได้เย็น นายนี่ ไม่น่าถามแบบนี้เลย” เบบี้ตอบด้วยหน้าตากวนอย่างแรง

“นี่มันใช่เวลามั๊ยตลก มั๊ย...ฮ้า++++ “จองมินเริ่มอารมณ์เสียอีกแล้ว

เบบี้ถามขึ้นมาว่า “แหมก็แค่ขำขำ ว่าแต่ ที่นี่ ใรทีมปฐมพยาบาลฉุกเฉินเตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลารึเปล่าน่ะ?”

”ทีมฉุกเฉินเหรอ? ทำไมล่ะ?”

”ก็พี่น่ะ ดูเหมือนว่าพร้อมจะเป็นลมลงไปตอนไหนก็ได้นี่ฮะ”

”ชั้นน่ะเหรอ? ชั้นก็...เบิรด์เบิรด์ ...สบายดีนี่นา”

”อ๋อใช่ สบายดี...นายรู้อะไรมั้ย? ชั้นไปดูวิดีโอเก่าๆของพวกเราที่ถ่ายไว้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว…” จองมินไม่วายรื้อฟื้น

”แล้วไง?”

”ชั้นต้องใช้เวลามองหานายอยู่พักนึงเลย เพราะว่าชั้นหาลีดเดอร์ของพวกเราไม่เจอ” ฝีปากของจองมินยังยียวนไม่เลิก

สีหน้าของเขาที่ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ “นายหาชั้นไม่เจอเหรอ? วิดีโอชุดนั้นถ่ายตอนที่ชั้นไม่อยู่รึเปล่า?”

จองมินรีบปฏิเสธ “ไม่ใช่ ที่ชั้นจะบอกก็คือ หน้าตาของนายดูแตกต่างไปจากตอนนั้นมาก...”

ฮยอนจุงยังตอบไปหน้าตายว่า “ชั้นก็ไม่ได้ไปโมดิฟาย์อะไรบนหน้าชั้นมากมายขนาดนั้นนี่นา....

จองมินหัวเราะขำขันออกมา “ ฮ่าฮ่าฮ่า...ที่พูดก็ถูกนะ นายทำไปแค่อย่างเดียวเองนี่นา...แต่ตอนนี้มันให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง...”

”เฮ้ ไม่ใช่คนเดียวที่ไปทำศัลยกรรมมาหรอกน่ะ...ทั้งหมดนั่นมันเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตตังหากล่ะ” ฮยอนจุงเริ่มเถียง

จองมินเบ้ปากแล้วพูดขึ้นว่า “ ว้าว เดี๋ยวนี้นายใช้คำพูดที่มันฟังดูใหญ่โตนะ...การลงทุนเลยเหรอ?”

”ชั้นก็จำคำพูดพวกนี้มาจากที่โน่นมั่งที่นี่มั่ง...โดยเฉพาะเมื่อได้มีโอกาสได้ใช้เวลาร่วมกับคนที่อายุมากกว่า...”

”อายุมากกว่า? ใครกันน่ะ? พี่ฮวางโบเหรอ?” จองมินทายถูกด้วย

”นี่นาย! ทำไมถึงเรียกบูอินว่าเป็น นู...แต่ก็ถูกนะเธอมีอาวุโสกว่าพวกนายนี่นา...เพราะว่าเธอเป็นพี่สะใภ้...”

”ว่าแต่ พี่ฮยอนจุง” คยูจงเอ่ยขึ้นบ้าง

”มีอะไรรึ?”

”พี่สะใภ้เขาจะไม่แวะมาหาพวกเราเร็วๆนี้บ้างหรือฮะ? ผมอยากจะกินอาหารที่พี่เขาทำน่ะ...”

จองมินได้ยินก็เบ้ปาก พูดตัดพ้อว่า “นี่แปลว่าพวกนายไม่พอใจกับอาหารที่ชั้นทำให้กินน่ะสิ ใช่มั๊ย?”

คยูจงสวนกลับไปว่า “ที่นายทำเก่งส่วนใหญ่ก็คือการบ่น แต่การทำอาหารน่ะไม่เห็นจะได้เรื่องซักอย่าง...”

”ถูกต้องนะคร้าบ!” เบบี้จุนรีบรับลูกทันที

จองมินเอาทัพพีที่อยู่มือเคาะหัวเบบี้อย่างแรงทันที “ถูกต้องอะไรของนาย? หา! ”


เบบี้จุนเอามือคลำหัวป้อยๆร้องออกมาเสียงดัง “ โอ๊ย “ แล้วก็จ้องหน้าม้ามินแล้วถามว่า “ ให้ตายเหอะ นี่นายมาตีหัวชั้นทำไมเนี่ย?”

จองมินแลบลิ้นทำหน้าตายียวนส่งเสียงล้อเลียนเบบี้ “แบร่รร~~”

เบบี้เริ่มมีน้ำโหพูดเสียงดัง “ทำไมนายถึง!!! “ ลุกพรวดขึ้นมายืนทันที

จองมินวางทัพพีในมือลงแล้วลุกขึ้นมายืนประจัญหน้ากับเบบี้ “ ได้เลย นายมีอะไรก็โชว์ออกมาให้หมดแล้วกัน ชั้นพร้อมอยู่แล้ว”

ฮยอนจุงเหลือบตามองคู่กัดแล้วถามขึ้นมาว่า นี่พวกนายไม่เคยรู้สึกเหนื่อยที่ต้องทะเลาะกันบ้างรึไง หา?

จองมินลอยหน้าลอยตาตอบไปว่า “พวกเราก็แค่อยากออกกำลังกายเพราะว่าเราเพิ่งกินกันเสร็จ”

เบบี้ก็เสริมว่า “ ใช่ฮะ เราไม่ได้ซ้อมมือมากันพักนึงแล้ว”

ยองแซงซึ่งนั่งก้มหน้าก้มตากินไม่สนใจใคร พอได้ยินก็เริ่มขยับจานของเขาออกมาให้ห่างๆสองคนนั้น...

ฮยอนจุงก็ทำเช่นเดียวกัน ยกชามของเขาขยับหนแล้วพูดว่า ”ชั้นไม่สนใจพวกนายอีกต่อไปแล้วล่ะ...ชั้นเหนื่อยกับการต้องนั่งดูพวกนายสองคนทำอะไรบ้าๆบอๆกันอย่างนี้”

คยูจงก็ขยับจานหนีตามพี่ชายสองคน ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “ในฐานะที่เป็นไอดอล...ที่พวกเราทำแบบนี้มันเหมือนตัวตลกชัด”

ฮยอนจุงหันมาพูดว่า “บางครั้ง...ชั้นก็ไม่อยากจะเชื่อว่าพวกเราเป็นไอดอล..” <จริงๆน่ะ ชั้นอยากจะให้พวกเราไม่ได้เป็น.^^>

ในขณะที่คนอื่นๆพูดกันเสียงดังไปมา ยองแซงก็ยังคงนิ่งเงียบ สนใจแต่จะกินอาหารของตัวเองข้างหน้าให้หมดเท่านั้น

ฮยอนจุงหันมามองแล้วพูดว่า “ดูยองแซงสิ เขามักจะทำตัวเหมือนกับ...เด็กน้อยผู้หิวโหยซึ่งมีชีวิตที่อดอยากแร้นแค้น”.

คยูจงเห็นด้วยเช่นกัน “ถ้าดูจากภายนอก พี่สองคนก็เหมือนเด็กน้อยที่หิวโหยอดอยากทั้งคู่นั่นแหละ...”

ฮยอนจุงเอามือลูบหน้าตัวเองแล้วถามว่า “นี่หน้าชั้นมันดูน่าสมเพชขนาดนั้นเลยเหรอ?”

คยูจงพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูเห็นอกเห็นใจ “ใช่ฮะ...พี่สะใภ้กำลังทำอะไรอยู่เหรอฮะ? เธอไม่ได้ดูแลพี่บ้างเลยเหรอ?”

ฮยอนจุงถอนหายใจ “แบบว่า...” <เธอสามารถทำอย่างนั้นได้จริงๆเหรอ ถึงแม้ว่าเธอจะเต็มใจทำให้ก็ตามน่ะ…?>

ในขณะที่คู่กัดเบบี้กับม้ามินก็กำลังต่อสู้กันด้วยมวยปล้ำแบบจริงจัง...ยองแซงหลังจากกินอาหารเสร็จก็นั่งเอนหลัง เอามือลูบท้องตัวเองพร้อมๆกับมองดูคู่กัดสู้กัน แล้วก็เริ่มเอ่ยปากทำนายการต่อสู้ ในอีกไม่กี่อึดใจ...ฮยองจุนจะจับจองมินทำ Headlock…

คยูจงได้ยินก็หัวเราะออกมาแล้วพูดว่า “ชั้นว่าเขาน่าจะถูกจองมินจับล็อคด้วยท่า Armbar มากกว่าน่ะ”

ฮยอนจุงเริ่มแปลกใจถามขึ้นมาว่า “นี่พวกเขามีเวลาว่างมากถึงขนาดบ้าเกม K-1 กันอย่างนี้เลยหรือ? เทคนิคการต่อสู้ของ 2 คนนี่พัฒนาไปเยอะเลยนะ!”

คยูจงพูดบ้าง”ชั้นว่าให้พวกเขาเล่นแกล้งกันบ้าๆบอๆแบบเดิมมันจะสนุกกว่าน่ะ...”

ฮยอนจุงนั่งดูม้ามินและเบบี้ แล้วยิ้มออกมา <ชั้นชอบที่จะใช้เวลาอยู่กับพวกนาย...6 ปีแล้วสินะที่พวกเราอยู่มาด้วยกัน ทำอะไรบ้าๆบอๆด้วยกันแบบนี้...>

ฮยอนจุงนั่งกอดเข่าแล้วเริ่มครุ่นคิดถึงสถานการณ์ของตัวเองในตอนนี้
<ถึงแม้หลายๆเรื่องมันจะหนักมากสำหรับชั้น แต่พวกนายก็ทำให้ชั้นมีความสุข...มันจะเป็นยังไงนะถ้าเกิดชั้นต้องแยกตัวออกมาจากวง...? ทั้งบูอินและพวกนายต่างก็เป็นสิ่งมีค่าสำหรับชั้น...แล้วชั้นจะมีทั้งสองอย่างพร้อมๆกันไม่ได้เหรอ? ชั้นยังอยากจะอยู่กับพวกนายให้นานไปกว่านี้อีก...เหมือนอย่างที่บูอินเคยพูดไว้ว่า มันยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมใช่มั้ย? แต่ว่า...ทำไมไอดอลถึงแต่งงานไม่ได้ล่ะ?>

หลังจากคิดสับสนไปมา จู่ๆฮยอนจุงก็โพล่งขึ้นมาดังๆว่า “ทำไม (ว่ะ)?”

คยูจงได้ยินก็ทำหน้างงหันไปถามว่า “ทำไม เรื่องอะไรเหรอฮะพี่?”

ฮยอนจุงได้สติก็รีบตอบ”ชั้นหมายถึงว่า..ทำไมถึงไม่สามารถจะ...?”

”นี่พี่กำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่เนี่ย? “ คยูจงอดสงสัยไม่ได้

”ทำไมไอดอลถึงไม่สามารถจะแต่งงานได้ล่ะ?”

ยองแซงขมวดคิ้วแล้วถามว่า “อะไรน่ะ...?”

ฮยอนจุงเริ่มพูดเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ “มันมีกฎระเบียบอะไรที่ห้ามไม่ให้ไอดอลแต่งงานน่ะ??? ไม่มี ใช่มั้ยล่ะ???!!!”

ยองแซงเริ่มกังวลกับอาการของขึ้นของลีดเดอร์ “เฮ้ ...คยูจง...”

คยูจงเองก็กำลังตกใจอยู่เหมือนกัน “อะไรเหรอ..?”

ยองแซงรีบเสนอ “เราน่าจะช่วยกันทำให้ฮยอนจุงสงบสติลงหน่อยน่ะ...ท่าทางเขาออกจะ...”

คยูจงที่นั่งตะลึงอยู่หันมามองหน้ายองแซงเหมือนเตรียมพร้อมจะทำอะไรบางอย่าง

ทันใดนั้นลีดเดอร์ก็ลุกพรวดขึ้นมาแล้วก็ส่งเสียงดังขึ้นไปอีก “ไม่ว่าชั้นจะพยายามคิดมากซักแค่ไหน เรื่องนี้มันไม่เห็นจะเข้าท่าเลยแม้แต่น้อย ใครกัน(ว่ะ)ที่เป็นคนตั้งกฎนี้ขึ้นมาน่ะ? โธ่เว้ยยยยย??!! ”

ยองแซงตะโกนให้สัญญาณว่า “จัดการเขาเดี๋ยวนี้เลย “ ว่าแล้วก็พุ่งเข้าไปรวบขาฮยอนจุงทันที

ส่วนคยูจงก็วิ่งเข้าไปจับแขนของเขาเอาไว้ ทั้งสองคนพยายามจะกดตัวฮยอนจุงให้ลงไปนอนกับพื้นและในที่สุดก็ทำได้สำเร็จ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังร้องโวยวายเสียงดังออกมาไม่ยอมหยุด!

”ทำไม? ชั้นทำผิดอะไรเหรอ? นี่-มัน-ไม่-แฟร์-เลยจริงๆ !!!” ฮยอนจุงยังส่งเสียงดังไม่เลิก

คู่กัดจองมินกับเบบี้ที่เล่นมวยปล้ำกันอยู่ถึงกับสะดุ้ง ต่างคนต่างวางมือแล้วหันมามองลีดเดอร์ด้วยความตกใจ

ยองแซงตะโกนขอความช่วยเหลือ “นี่นาย! มาปิดปากเขาเอาไว้ เร็วๆเข้า!”

เบบี้จุนรีบวิ่งเข้ามาหา แล้วใช้มือของเขาปิดปากฮยอนจุงไว้แน่น

ลีดเดอร์ได้แต่นอนดิ้นไปมาตาเบิกโพลง พยายามจะส่งเสียงพูดแต่ก็ไม่สำเร็จ “อุ๊บ~~~~~~” <นี่พวกนาย! กำลังคิดจะฆ่าชั้นให้ตายเลยรึไง?>

”อยู่นิ่งๆสิ เจ้าหมาบ้า !! ถ้านายยังดิ้นอยู่แบบนี้ พวกเราจะไม่ยอมปล่อยหรอกน่ะ!!” ยองแซงพยายามพูดขู่

<ชั้นหายใจจะไม่ออกอยู่แล้วน่ะ> น้ำตาเริ่มมาเอ่ออยู่ที่ตาซึ่งเบิกกว้างของเขา

ยองแซงเห็นหน้าที่เริ่มซีดของฮยอนจุงก็สะดุ้งรีบบอกเบบี้ว่า “นี่นาย ถ้านายปิดจมูกเขา เดี๋ยวก็หายใจไม่ออกตายกันพอดี”

เบบี้ได้ยินก็รีบยกมือขึ้นมาทันที “โอ๊ะ! โทดทีฮะ เล่นแรงไปหน่อย แหะแหะ”

ฮยอนจุงสูดลมหายใจเข้าไปอย่างแรง “ ฮา ฮา ช่วยชั้นด้วย...”

เบบี้รีบตะโกนตาม “ถ้าพี่ยังตะโกนอีกล่ะก็ ผมจะเอามืออุดปากพี่อีกรอบน่ะฮะ แล้วจะหาว่า หล่อไม่เตือน!”

แต่แล้วฮยอนจุงก็ร้องออกมาสุดเสียงว่า “อ้ากกกก จองมิน เท้านาย! ไอ้บ้า เอากีบ(ม้า)ออกไปจากตัวชั้นเดี๋ยวนี้น่ะ!”

ยองแซงหันมามองที่เท้าของม้ามิน “อะไรกัน? นี่นาย! เอาเท้าไปเหยียบท้องลีดเดอร์แบบนี้ได้ไง...? “

จองมินตอบอย่างชิลๆว่า “ถ้าชั้นไม่ทำแบบนี้ เขาก็จะยิ่งอาละวาดหนักกว่าเดิมน่ะสิ ฮ่ะฮ้า ” ว่าแล้วก็ค่อยๆยกเท้าขึ้นมา

ฮยอนจุงพยายามจะลุกขึ้นมานั่งปากก็ส่งเสียง “อ้ากกกกกก~~~~~~”

ยองแซงเลยต้องเล่นบทโหดออกคำสั่งทันทีว่า “’ฤทธิ์มากนัก อย่างนี้ต้องซ้ำ จัดไปชุดใหญ่!!!”

”จัดให้! “ ว่าแล้วจองมินก็เอาเท้าเหยียบลงไปบนตัวลีดเดอร์อีกรอบ <ชุดนี้ใหญ่หน่อยน่ะ โทษด้วย แหะ แหะ>”

”อ๊าาา~~~~~~” ฮยอนจุงร้องครวญครางจนเกือบจะร้องไห้ออกมา “ให้ตายเหอะ...พวกนาย... บูอิน...ช่วยผมด้วยฮะ T_T”

โปรดติดตาม คู่รักผักกาดหอม รีมิกซ์ ตอนที่ 73

คำอธิบายท้ายบท

1. จอนจู: เป็นเมืองที่อยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลี ใช้เวลาขับรถประมาณ 3.5 ชั่วโมงจากโซล
2. เค-วัน (K-1): เป็นกีฬาต่อสู้ที่นำศิลปะการต่อสู้แขนงต่าง ๆ มาสู้กันเช่น มวยไทย คาราเต้ คิกบ๊อกซิ่ง กังฟู เทควันโด มวยสากล และอื่น ๆ โดยใช้กติกาเดียวกันคือ ห้ามศอกและโน้มคอตีเข่า

3. กีบ(ม้า): เนื่องจากชื่อเล่นของจองมินคือ “ม้า” ดังนั้นฮยอนจุงจึงใช้คำว่า กีบ แทนเวลาพูดถึงเท้าของจองมิน

ป.ล. การที่มินนี่ทำแบบนี้ถือว่ามีเหตุผลนะคะ เหตุการณ์บ้านเมือง เอ้ย ไม่ใช่ ลีดเดอร์จะได้สงบอารมณ์บ้าง เอาน่า รักแท้ย่อมมีอุปสรรค จะได้รักกันนานๆ (โบราณบอกไว้)



Create Date : 19 กรกฎาคม 2553
Last Update : 19 กรกฎาคม 2553 21:04:52 น. 3 comments
Counter : 937 Pageviews.

 
ขอบคุณยายมากๆๆเลยจ้า คู่รักผักกาดตอนนี้สนุกดีค่า มีบทน้องๆมาสร้างสีสัน น่ารักได้อีก ขำๆได้อีก ยายสู้ๆๆ


โดย: มินมิน IP: 125.25.20.15 วันที่: 19 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:17:14 น.  

 
ขำได้อีก ถ้ายายยังมีมุขน่ะคะ หุหุ


โดย: ยาย(นาจา) IP: 58.8.152.46 วันที่: 19 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:51:33 น.  

 
อ่านตอนนี้รู้สึกหดหู่จัง
ชอบมากเลยตอนที่ดั๊บ อยู่ด้วยกันต่อไป
คงไม่มีโอกาสเห็นอีกแล้ว แง..แง

ขอบคุณนะคะยาย


โดย: ning IP: 124.120.248.177 วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:19:58:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.