Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
4 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 
ตอนที่ 136- ปัญหามีไว้แก้ ไม่ใช่มีไว้กลุ้ม

กลางเดือนมกราคม ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง คู่ผักกาดหอมกำลังนั่งคุยกันระหว่างรออาหารที่เพิ่งสั่งไป


ฮวางโบเอ่ยปากถามคุณสามีเรื่องงานละครของเขา “ช่วงนี้เป็นยังไงบ้างจ๊ะ? เธอยังรู้สึกอึดอัดกับคนอื่นๆในกองถ่ายอยู่อีกรึเปล่า หืม?”



ฮยอนจุงว่า “คุณหมายถึงนักแสดงคนอื่นหรือฮะ?”



“ใช่จ้ะ”

“อืมม...ผมว่ากับ(คิม) บอม แล้วก็ (ลี) มินโฮ ตอนนี้เราเข้ากันได้ดีแล้วล่ะฮะ..เพราะว่าพวกเขาเด็กกว่าผม”


“แล้วเมื่อไหร่ฉากจูบของเธอจะออกฉายล่ะ?”



ชายหนุ่มจ้องหน้าภรรยาอยู่ครู่นึงก่อนถามว่า “.คุณอยากดูฉากนั้นจริงๆเหรอฮะ?


“ไม่จ้ะ..ที่ถามก็เพราะจะได้รู้ว่าไม่ควรจะเปิดดูตอนไหนไง”(ชั้นไม่อยากเห็นภาพบาดตาหรอกนะ)


คุณสามีพูดยิ้มๆว่า “ถ้างั้น คุณคงจะต้องรอไปอีกสักพักนึงล่ะฮะ”


ระหว่าง นั้นพนักงานก็ยกถาดอาหารมาเสริฟที่โต๊ะ แต่แล้วฮวางโบกลับเบือนหน้าหนีทันทีที่เห็นอาหารในจานที่วางอยู่ตรงหน้าเท่า นั้น ใบหน้าของเธอซีดเผือดราวกับคนไม่สบาย จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางร้อนรน



ฮยอนจุงทำหน้างงเมื่อเห็นอาการแปลกๆของภรรยา “เกิดอะไรขึ้นฮะ บูอิน คุณเป็นอะไรไปหน่ะ?”


หญิงสาวไม่ตอบอะไรแต่รีบวิ่งตรงไปยังห้องน้ำ


คุณสามีได้แต่นั่งมึนมองตามหลังภรรยาที่จู่ๆก็เดินหนีไปไม่พูดไม่จา...

***********************************************************************************************************
ที่ด้านนอกร้านอาหาร

ฮยอนจุงเดินออกมาตามหาฮวางโบหลังจากที่เธอลุกหายไปนานสมควร และก็พบว่าภรรยากำลังยืนอยู่ริมถนนมองดูรถที่วิ่งผ่านไป-มา


เขาเดินตรงเข้าไปหาแล้วถามว่า “คุณมายืนทำอะไรตรงนี้ฮะ?”



หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆโดยไม่ตอยอะไร หน้าตาดูซีดเซียว...


เขาอดห่วงภรรยาไม่ได้ “คุณไม่ทานอาหารที่สั่งมาหรือฮะ?”


เธอมองฮยอนจุงพักนึงก่อนจะถามกลับ“.เธอทานเสร็จแล้วเหรอ?”


“ยังฮะ ผมจะยังไม่ได้ทานอะไรทั้งนั้น ถ้าไม่มีคุณ”


“เธอทานไปก่อน..ไม่ต้องรอชั้น”


“ทำไมล่ะฮะ...?”

ฮวางโบไม่ตอบแต่กลับหันหน้าหนีไปอีกทางพร้อมกับยกมือขึ้นปิดปากของเธอ (ฉันอยากอ๊อก..มากมาย)...


“.คุณเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย?” ฮยอนจุงยังมึนตึ้บ กับสิ่งที่เขาได้เห็น


และหลังจากทำอาการแปลกๆในที่สุดหญิงสาววิ่งกลับไปที่รถ

***********************
ภายในรถของฮวางโบ

ฮยอนจุงถามขึ้นมาอย่างไม่ค่อยแน่ใจว่าแต่ก็คิดว่าใช่เพราะเขาก็ศึกษาตำรามาพอสมควร

“แบบนี้รึเปล่าฮะ...ที่เขาเรียกว่า”แพ้ท้อง”?


“ไม่รู้จิ แต่คิดว่า...ชั้นจะใช่น่ะ”


“คุณมีอาการแบบนี้ทุกวันเลยรึเปล่าฮะ?”



ว่าที่คุณแม่ส่ายหน้า”เปล่าจ้ะ”


“ไม่อ่ะก็แค่วันที่ชั้นเห็นหน้าเธอ”


“ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะฮะ”ฮยอนจุงแย้งทันที


“ไม่รู้สิ หรือว่า เธอรักลูกในท้องเกินไป หืม” เธอแกล้งหยอกสามี


“ว้า ..แล้วเราจะทำยังไงกันดีเนี่ย? มื้อกลางวันนี้ คุณยังไม่ได้ทานอะไรเลย ผมเดาว่า...ลูกของเราคงต้องขาดสารอาหารแน่นอนเลย”



“ไม่เป็นไรหรอก ชั้นจะพยายามบำรุงเอง ส่วนมื้อนี้ไว้ค่อยกินทีหลังก็ได้”...


ฮยอนจุงยังคงถามด้วยความห่วงใยเมื่อเห็นอาการแพ้ท้องของภรรยาไม่ได้ “ผมว่า คุณน่าจะไปหาคุณหมอซักหน่อย ดีมั้ยฮะ…?”



เธออดขำสีหน้าที่เป็นห่วงและกังวลของสามีไม่ได้...

“ว่าไงล่ะฮะ”สามียังคงยั้นขยอ

เมื่อเห็นสีหน้าของสามี ซึ่งทำให้อดห่วงไม่ได้ เธอจึงตอบไปว่า “ไม่ต้องห่วงหรอกน่ะ
เพราะว่า พรุ่งนี้ชั้นก็มีนัดไปพบคุณหมออยู่แล้วล่ะ”


“พรุ่งนี้หรือฮะ?”น้ำเสียงถามอย่างตื่นเต้น


“ใช่จ้ะ”


“ที่ไหนฮะ....?”แน่นอน คุณพ่อที่ดีจะต้องไปอยู่เคียงข้างจนกว่าจะคลอด


“ชั้นรู้จักคลีนิคอยู่แห่งนึงหน่ะ”เธออธิบาย...


“................”แล้วมันคือที่ไหนกันเนี่ย ว่าที่คุณพ่ออยากรู้ใจแทบขาด


“คือลูกพี่ลูกน้องของชั้นคนนึงเขาเป็นสูตินารีแพทย์...เขาบอกให้ชั้นแวะไปหาที่คลีนิคตอนประมาณ 9 โมงหน่ะจ๊ะ”


เขากระเด้งตัวถามด้วยความแปลกใจ “9 โมงเช้าหรือฮะ?”



“หุหุ...เธอเพี้ยนไปแล้วรึเปล่า? เช้าๆแบบนั้นชั้นจะไปหาเขาได้ยังไงกัน ถ้าไปล่ะก็ ได้เป็นข่าวหน้าหนึ่งแน่”


“อ๋อ...คุณหมายถึง 3 ทุ่มหรือฮะ?”


“ใช่จ้ะ...หลังจากที่ทุกคนกลับบ้านไปหมดแล้ว”..


“..........................”

*************************************************************************************


รุ่งเช้าวันต่อมาที่คลีนิคสูติ-นรีเวช

ฮวางโบกำลังนอนอยู่บนเตียงสำหรับตรวจคนไข้ และมองดูที่จอของเครื่องอัลตราซาวด์


หมออึนโซกำลังฟังเสียงบางอย่างจากอัลตราซาวด์ จากนั้นเขาก็หันมาถามญาติผู้น้องว่า “เธอได้ยินมั้ย? นี่คือเสียงหัวใจเต้นของลูกเธอน่ะ”


ฮวางโบตอบในขณะที่ดวงตาเปี่ยมไปด้วยน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม “ได้ยินค่ะ”


“เท่าที่ดูมา ทุกอย่างก็ดูโอเคเรียบร้อยดีนะ เสียงการเต้นของหัวใจเด็กก็โอเค..”คุณหมออธิบาย.


คุณพ่อยังหนุ่มซึ่งยืนอยู่ข้างๆเตียง ตามองจ้องเป๋งอยู่ที่จออัลตราซาวด์โดยไม่ปริปากพูดอะไรซักคำ...

หมออึนโซถามขึ้นมาว่า “ดูไม่ออกเลยใช่มั้ยล่ะว่าอะไรเป็นอะไร?”



ฮวางโบตอบไปว่า “ดูไม่ออกเลยค่ะ”


ในขณะที่ฮยอนจุงยังคงจ้องมองที่จออย่างพินิจพิจารณา

“ถ้า ไม่ใช่มืออาชีพจริงๆแล้ว ตอนนี้เธอไม่สามารถจะดูออกได้หรอกนะ...กว่าจะเขาจะมีรูปร่างที่สามารถเห็น ได้ชัดเจนก็อาจจะหลังจากเดือนที่ 4 ไปแล้วน่ะ”...คุณหมอยังอธิบาย

ฮวางโบอดสงสัยไม่ได้ “อืมม..แล้วตอนนี้ของชั้นประมาณกี่เดือนคะพี่?”



“พี่ว่าน่าจะประมาณ...9 สัปดาห์นะ”


“9 สัปดาห์หรือค่ะ?”


“ใช่แล้วล่ะ...นี่เธอกำลังอยู่ในช่วงของเดือนที่ 3แล้วน่ะ”

หลังจากยืนเงียบจ้องจอจนเกือบจะทะลุอยู่พักใหญ่ ฮยอนจุงก็ชี้ไปที่จุดๆหนึ่งบนจออัลตราซาวด์แล้วถามว่า..”.ใช่ตรงนี้รึเปล่าฮะ?”


“ใช่แล้วล่ะ นี่คุณดูออกด้วยเหรอเนี่ย?” คุณหมอถามด้วยความประหลาดใจ


ฮยอนจุงได้ยินคำตอบก็ยืนนิ่งกระพริบตาปริบๆมองดูที่จอด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย...


คุณ หมออดทีงไม่ได้ที่ฮยอนจุงรู้จักเรื่องนี้เป็นอย่างนี้ “ความยาวของทารกตอนนี้น่าจะประมาณ 3 เซนต์ฯ คุณเห็นมั้ย จุดเล็กๆที่กำลังเต้นอยู่น่ะ? นั่นแหละคือหัวใจ”



เมื่อได้ยินเช่นนั้น จู่ๆหัวใจของฮยอนจุงก็เต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวหลังจากได้ยินคำอธิบายของคุณหมออึนโซ

คุณ หมอนิ่งฟังเสียงจากอัลตราซาวด์อีกครั้งก่อนจะพูดว่า “คุณได้ยินมั้ย? มันเหลือเชื่อจริงๆเลยนะว่า ทำไมเจ้าจุดเล็กๆกระจ้อยร่อยที่เราเห็นถึงสามารถทำให้เกิดเสียงที่ดังหนัก แน่นได้ขนาดนี้”

ฮยอนจุงยังคงยืนนิ่งอึ้งไม่พูดไม่จา...


ฮวางโบมองดูอาการคุณสามีอยู่ครู่นึงก่อนจะหันหน้าไปมองที่จออีกครั้ง...

หลังจากทำอัลตราซาวด์เสร็จ คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ก็มานั่งฟังคำแนะนำของหมออึนโซต่อ


คุณหมอพูดแนะนำทั้งสองคนว่า “เธอควรจะมาที่นี่อย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อตรวจเช็คเป็นระยะนะ”


ฮวางโบรีบบอกก้วยความเกรงใจว่า “ขอโทษด้วยนะคะที่ต้องมารบกวนพี่..ในช่วงดึกๆอย่างนี้.”..


“ปกติพี่ก็อยู่จนดึกเป็นประจำอยู่แล้วล่ะ อ่านหนังสือบ้าง ทำอะไรบ้าง ดังนั้นเธอไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอกนะ”คุณหมอกล่าวด้วยความใจดี


“..................”


คุณ หมออึนโซหันมามองฮยอนจุงซึ่งนั่งเงียบ แล้วก็ถอนหายใจออกมา “พี่เข้าใจสถานการณ์ของเธอดี...แต่นี่ก็คือสิ่งที่ดีที่สุดที่พี่พอจะทำให้ พวกเธอได้น่ะ..”


“.ขอบคุณมากนะฮะ”ฮยอนจุงกล่าวพร้อมกับค้อมศีรษะให้คุณหมอ


แต่สำหรับฮวางโบถือว่าเป็นเรื่องระดับชาติ เพราะเธอไม่สามารถเปิดเผยเรื่องนี้กับใครได้


“พี่คะ”.



เหมือน ว่าญาติผู้พี่ของเธอจะเข้าใจดี ว่าไอดอลที่กำลังได้รับความนิยม หากเปิดเผยว่ากำลังจะเป็นพ่อคน มันคงต้องมีผลกระทบกับอาชีพการงานแน่นอน ช่างโชคดีที่ได้มาเจอหมอที่ดีและที่สำคัญเป็นคนที่รู้จักมักจี่กับฮวางโบ เสียด้วย “แต่นี่ก็ถือว่าเธอโชคดีน่ะที่พี่เป็นหมอทางด้านนี้อยู่แล้ว ลองถ้าเป็นหมอคนอื่นล่ะก็ เฮ้อ..ไม่อยากจะคิด พี่นึกไม่ออกจริงๆว่าเธอจะทำยังไง?


ฮวางโบเงยหน้าขึ้นมามองหน้าอึนโซโดยที่มีน้ำตาคลอ...


“แต่ พี่เชื่อว่า เธอคงจะมีแผนสำรองเอาไว้สำหรับอะไรก็ตามที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพราะว่าเธอได้เลือกที่เดินในทางที่ยากลำบากอย่างมาก...จริงๆพี่ก็อยากจะให้ คำแนะนำเพิ่มเติมอีกนะ...แต่กลัวว่ามันจะกลายเป็นการบ่นว่าเธอไปหน่ะ”...


ฮยอนจุงนั่งกัดริมฝีปากขณะที่ฟังอยู่เงียบๆ...


อึนโซหันมาพูดกับชายหนุ่มบ้างว่า “พี่ไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับตัวเธอหรอกน่ะ...แต่ว่าพี่ก็เชื่อในการตัดสินใจของลูกพี่ลูกน้องคนนี้”


“....................”


คุณ หมออึนโซยังคงพูดต่อไปอีกว่า “เธอโชคดีที่ได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นแม่ของลูกเธอน่ะ พี่หวังว่า เธอจะรักและดูแลน้องสาวคนนี้ของพี่ตลอดไป”


ฮยอนจุงพยักหน้าเป็นการตอบรับ “ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดฮะ”


ที่ลานจอดรถ

ฮยอนจุงยังคงมุ่งมั่นกับการจ้องดูภาพถ่ายอัลตราซาวด์ที่ถืออยู่ในมือ ภายในรถซึ่งมีเพียงแสงไฟสลัวๆ


“มันเป็นเรื่องจริงหรือเนี่ย”ระหว่างที่พูดสายตาของเขาก็ยังจ้องจดอยู่อย่างนั้น


ฮวางโบได้แต่ยิ้มเศร้าๆไม่พูดอะไร


น้ำเสียงยังคงตื่นเต้นที่เขาเพิ่งเคยสัมผัส “เขามีชีวิตจริงๆ...คุณได้ยินเสียงหัวใจเต้นใช่มั้ยฮะ?”



ฮวางโบหันไปมองสามี...


“ความยาวตอนนี้ของเขาเท่าไหร่นะฮะ?”ฮยอนจุงถามด้วยความตื่นเต้น


“3 เซนต์ฯจร้า”...


ฮยอน จุงยกมือขึ้นมาลองทำท่ากะขนาดความยาวด้วยนิ้วโป้งและนื้วชี้แล้วบอกว่า “น่าจะยาวประมาณนี้นะฮะ...แต่เขามีชีวิต...มันน่าทึ่งสุดๆเลยฮะ.”


“..................”


คุณพ่อมือใหม่ยิ้มให้กับภาพถ่ายแล้วพูดทักทายว่า “หวัดดี ฮยอนซึ. ลูกพ่อ”


ฮวางโบทอดถอนหายใจโดยไม่พูดอะไรออกมา...


“ผมจะเป็นคุณพ่อแล้ว. “หันหน้าไปพูดกับฮวางโบว่า “พวกเรา...จะเป็นคุณแม่และคุณพ่อแล้วนะฮะ”


“เธอมีความสุขมั้ย?”


“เป็นเรื่องมหัศจรรย์น่าทึ่งจริงๆนะฮะ”


ฮวางโบถามย้ำอีกครั้งว่า “แล้วเธอมีความสุขมั้ยล่ะ?”


แต่ฮยอนจุงกลับพูดซ้ำอีกว่า “มันน่าทึ่งจริงๆน่ะฮะ”


เธอจ้องหน้าคุณสามีเงียบๆเมื่อไม่ได้รับคำตอบ...


เขามองหน้าเธอซักพักแล้วตอบ “ที่จริง...ผมก็มีความสุขนะฮะ...แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกกลัวด้วย”


ฮวางโบเริ่มรู้สึกอ่อนไหวทำตาแดงๆขึ้นมาอีกครั้ง...


ฮยอน จุงนึกในใจกับตัวเองว่า (ถ้าผมบอกว่ามีความสุขอย่างเดียว...แบบนั้นก็คงจะเป็นการโกหกตัวเอง....ผม มันขี้แพ้เกินไปที่จะเป็นคุณพ่อที่ดีจริงๆ...ผมเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่อง ต้องคอยหลบหน้าผู้คน แม้กระทั่งในเวลาที่ผมได้พบกับฮยอนซึเป็นครั้งแรก...)


“..................”


ฮยอนจุงก้มลงมองที่ช่วงท้องของหญิงสาวแล้วบอกว่า “ห่มผ้าให้อุ่นๆเข้าไว้นะฮะ ลูกเราจะได้ไม่หนาว”


ชายหนุ่มมองหน้าฮวางโบอีกครั้งและดึงตัวเข้ามากอดแล้วกระซิบบอกว่า “ผมขอโทษนะ”พูดจบน้ำตาเขาก็ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว...


ฮวางโบอดแปลกใจที่จู่ๆเขาบอกขอโทษแบบนี้ (เขาเป็นอะไรไป เขารู้สึกผิดอะไรเหรอ เกิดอะไรขึ้นกับเธอ หืม)


เขาถามเธอทั้งๆที่สวมกอดอยู่อย่างนั้น “คุณคิดถึงผมมากมั้ยฮะ...?”



หญิงสาวยังไม่ปริปากแต่น้ำตากลับเริ่มไหลออกมา...


“ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ”



“...เรื่องอะไรเหรอ?”


“นัก แสดงก็คือคนที่ได้สวมบทบาทตามที่ได้รับมอบหมาย แต่ทำไมผมจะต้องใช้ชีวิตให้เป็นเหมือนในตัวละครด้วยเล่า ในเมื่อผมไม่ได้มีชิวิตแบบนั้นซ่ะหน่อย”


“.ก็เพราะว่าเธอแสดงได้ดีจริงๆน่ะสิ?”


เขาพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะบอกว่า “ได้โปรดเถอะฮะ คุณไม่เห็นเหรอว่าจริงๆมันเป็นไง”


“ถ้าไม่ใช่....งั้นก็อาจจะเป็นเพราะการแสดงของเธอมันแย่เอามากๆอย่างนั้นใช่มั้ย?”



เขามองหน้าภรรยาพักนึงก่อนจะถาม“...คุณกำลังโกรธผมอยู่ใช่มั้ย! ผมรู้ว่าคุณกำลังพยายามซ่อนความรู้สึกเอาไว้”



เธอก้มหน้าตอบเพราะจนใจที่สามีจับความรู้สึกได้ “.ชั้นกำลังรู้สึก...โมโห”


ฮยอนจุงทำหน้าเศร้าๆเมื่อได้ยิน...


“ที่ ชั้นโกรธก็เพราะว่าชั้นคิดถึงเธอมากเหลือเกิน...ชั้นโกรธก็เพราะชั้นต้องการ จะอยู่กับเธอ...และที่ชั้นโกรธก็เพราะว่าชั้นได้แต่คิดถึงเธออยู่ตลอด เวลา...”.


“ผมเอง ก็รู้สึกเสียใจ...เพราะว่าคิดถึงคุณมากเหลือเกิน”


“...มันดูเหมือนว่าจะเป็นความผิดของเธอทั้งหมดคนเดียว...ทำไมมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ”...


“แต่มันก็เป็นความผิดของผมทั้งหมดจริงๆ...เพราะว่าผมทำตัวดื้อรั้นดันทุรัง”.


ฮวางโบรีบปฏิเสธทันที “ไม่นะ...มันไม่ใช่ความผิดของเธอ...เราสองคนไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนี่.”

เธอยิ้มจางๆก่อนจะพูดต่อไปว่า”เรื่องต่างๆมันคงจะหนักหนาสาหัสสำหรับเรามากกว่านี้ ถ้าพวกเราไม่ได้ตัสินใจทำแบบนั้นลงไป...”




“คุณคิดอย่างนั้นเหมือนกันหรือฮะ?”


เธอพยักหน้าน้อยๆพร้อมกับพูดว่า...”ใช่จ้ะ”


ชาย หนุ่มกระชับวงแขนที่โอบกอดเธอให้แน่นขึ้นอีกแล้วพูดพึมพำว่า “ผมอยากจะเป็นอัจฉริยะจริงๆเลยฮะ เพราะว่า...ผมจะได้หาทางออกสำหรับเรื่องนี้ได้เร็วๆ”


“เธอไม่จำ เป็นจ้องเป็นอัจฉริยะหรอกนะ...เธอสามารถจะเป็นตัวของตัวเองอย่างนี้...เป็น คนที่มีความมั่นใจและตัดสินใจรวดเร็ว” ฮวางโบพูดให้กำลังใจสามี


“มั่นใจหรือฮะ?”


“..ใช่จ้ะ...และก็...”


“...แล้วอะไรอีกฮะ? “


“เธอเป็นอัจฉริยะตัวจริงจ้ะ ที่รักของชั้น ^ ^“


ฮยอนจุงยิ้มกว้างหลังจากได้ยินคำตอบที่ถูกใจจากภรรยาสุดที่รัก..“ใช่ฮะ เราไม่ควรลืมว่า ..เราสองคนเกิดมาเพื่อกันและกัน”


ฮวางโบอดยิ้มกับวลีที่คุณสามีกล่าวไม่ได้ เธอจึงตอกย้ำไปว่า “ใช่จ๊ะ พรหมลิขิตขีดไว้ ให้เราได้มาคู่กัน...ตลอดไป”




ถูกแล้ว พรหมลิขิตขีดไว้ให้ทั้งสองได้เดินทางมาพบกัน แต่ไม่ว่าจะมีขวากหนามหรือมรสุมผ่านมาซักแค่ไหน ก็หาได้ทำให้ทั้งสองหวั่นไหวไม่

โปรดติดตามคู่รักผักกาดหอม ตอนต่อไป


Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2554
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2554 16:56:58 น. 0 comments
Counter : 693 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.