|
ตอนที่ 76 ~ ยังไงซะ ชั้นจะแต่งงานกับเธอให้ได้
***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย ****
ภายในรถซึ่งกำลังมุ่งหน้ากลับโซล ฮยอนจุงเป็นคนขับในขณะที่ฮวางโบกำลังงีบหลับไปชั่วครู่ ในตอนนี้เป็นเวลาตีสามของวันใหม่แล้ว ระหว่างที่ขับรถเงียบๆไปคนเดียว เขาก็เริ่มคิดสับสนว่าจะเอายังไงดีสำหรับเรื่องของเขากับเธอที่อาจถูกเปิดเผยขึ้นมา
“นี่ชั้นควรจะประกาศเรื่องของเราให้ทุกๆคนรับรู้ก่อนที่ข่าวลือมันจะแพร่ออกไปมั้ยนะ...? เอ..หรือว่าชั้นควรจะไปคุยกับพวกเมมเบอร์ก่อนดี? แล้วเรื่องบริษัทต้นสังกัดของวงเราอีกล่ะ...? เฮ้อ...แล้วก็แฟนคลับอีก...? โอ๊ย...ปวดกบาล(ว่ะ)...ไว้คิดทีหลังแล้วกัน”
ขณะนั้นฮวางโบก็เริ่มรู้สึกตัว ลุกกลับขึ้นมานั่ง ยืดแขนบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนถามเขาว่า
“ฮ้าาาา เราถึงไหนกันแล้วเนี่ย?”
“เพิ่งจะผ่านเมืองชุนอานไปเองฮะ”
“งั้นเหรอ เดี๋ยวเราแวะที่จุดพักรถข้างหน้าแล้วกันนะ เราจะได้สลับที่กัน ชั้นจะเป็นคนขับจากที่นั่นไปจนถึงโซลเลย”
“โอเคฮะ”
World Cup Stadium, กรุงโซล ฮวางโบขับรถเข้าไปในจอดชิดข้างๆรถเธอ
“ ถึงแล้วล่ะ...เธอขับต่อไปบ้านต่อเลยแล้วกันน่ะ”
“ได้ฮะ วันนี้คุณขับรถได้ดีมากเลย...”
ฮวางโบลงจากรถแล้วเดินกลับไปที่รถของตัวเอง ส่วนฮยอนจุงก็ลงมายืนส่งเธออยู่ข้างๆรถ
ในขณะที่เธอกำลังเปิดประตูรถ ก็ได้ยินเสียงเขาเรียก
“ฮวางโบ ฮเยจุง!”
ฮวางโบหันกลับไปมอง ก็เห็นว่าเขากำลังยืนพิงรถและจ้องมาที่เธอชั่วครู่ ก่อนที่จะเดินดุ่มๆตรงเข้ามาหา เธอรู้สึกตกใจได้แต่ยืนนิ่งมองดูเขาที่เดินเข้ามาใกล้
ฮยอนจุงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าและมองเธอด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรัก ก่อนที่จะก้มลงประทับจูบที่ริมฝีปากของเธอ ทั้งสองคนยืนอยู่ระหว่างบานประตูรถที่เปิดอ้าอยู่ แต่ชั่วอึดใจฮยอนจุงก็ดึงตัวเธอเข้ามากอดไว้แน่น เขาใช้ขาเตะประตูให้ปิดก่อนที่ดันตัวฮวางโบเข้าไปพิงที่รถ ไม่มีคำพูดใดๆระหว่างเขาและเธอ ทั้งสองต่างมอบจุมพิตที่ร้อนแรงและเต็มไปด้วยความรักความเสน่หาให้แก่กัน….
หลังจากการจุมพิตที่เนิ่นนาน...ฮยอนจุงยังคงโอบเธอเอาไว้ในขณะที่ฮวางโบยืนนิ่งซุกหน้าอยู่กับอกของเขาและยิ้มอย่างมีความสุขภายใต้อ้อมกอดที่อบอุ่นของเขา
ฮยอนจุงก้มลงจูบที่หน้าผากของเธอเบาๆ “ซารางเฮ...”
ฮวางโบสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ ก่อนจะตอบเขาด้วยเสียงที่ยังสั่นๆ “ซารางเฮ..”.
สองคนยืนสบสายตากันอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่ศีรษะของทั้งคู่จะค่อยๆเอียงเข้าหากันเพื่อมอบจุมพิตให้แก่กันและกันอีกครั้ง
วันอาทิตย์ ที่โบสถ์ประจำของฮวางโบ หลังจากที่กิจกรรมในโบสถ์วันอาทิตย์ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ฮวางโบยังคงอยู่ในห้องสวดมนต์ เธอกำลังนั่งหลับตาและสวดขอพร...
“ได้โปรดกรุณาประทานความแข็งแกร่งแก่ลูกด้วย...เพื่อที่ลูกจะได้ไม่มีความกลัวใดๆ...เพื่อที่ลูกจะได้ไม่เป็นคนขี้ขลาด ลูกเชื่อว่าพระองค์ได้ส่งเขาลงมาให้กับลูก...ดังนั้นได้โปรดกรุณาช่วยลูกปกป้องเขาให้ปลอดภัยด้วย...”
หลังจากนั้นเธอก็เดินออกมาทักทายและกล่าวคำอำลาเพื่อนๆสมาชิกโบสถ์ก่อนที่จะกลับ
เมื่อขึ้นมานั่งประจำที่คนขับบนรถ ฮวางโบก็กลับครุ่นคิดถึงเรื่องบางเรื่องมากขึ้นไปอีก หลังจากลังเลใจอยู่ชั่วขณะเธอก็ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน
“ชั้นอยากจะขอหมายเลขติดต่อสำนักงานร.ป.ภของมหาวิทยาลัยจอนบุคได้มั้ยค่ะ?”
ที่พักของสมาชิกวง SS501 ช่วงกลางคืน ในขณะที่เหล่าเมมเบอร์ต่างคนต่างนอนกลิ้งอยู่บนเตียงนอนในห้องของตัวเอง ฮยอนจุงผุดลุกขึ้นมานั่งหลังจากตัดสินใจว่าจะพูดอะไรบางอย่างกับเพื่อนๆ เขาหันมาบอกยองแซงซึ่งนอนอยู่บนเตียงข้างๆว่า
“ชั้นมีเรื่องบางอย่างที่ต้องคุยกับพวกนายน่ะ...”
ยองแซงเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือการ์ตูนที่กำลังนอนอ่านอยู่แล้วจ้องหน้าเขาด้วยความสงสัย...ไม่นานนักทุกคนก็ออกมารวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่น
ฮยอนจุงเริ่มเปิดประเด็น “ชั้นคิดว่าควรจะบอกเรื่องนี้กับพวกนายน่าจะดีกว่า...”
“ ...?” ทุกคนนิ่งรอคำตอบ
“เมื่อวานนี้ชั้นไปที่จอนจู...กับบูอิน”
หลังจากได้ยินจุนเบบี้ร้องออกมาเป็นคนแรกว่า “อะไรน่ะฮะ??”
จองมินยกมือขึ้นทาบอกแล้วอุทานออกมา “โอ พระเจ้าช่วย..”
คยูจงตกใจจนพูดไม่ออกได้แต่ทำตาโตเป็นไข่ห่าน...
ส่วนยองแซงถามกลับไปแบบชิลๆว่า ..”แล้วไงเหรอ?”
“มีคนบางคนที่โน่น...จำพวกเราได้...”ฮยอนจุงยังคงพูดน้ำเสียงราบเรียบ
จุนเบบี้ร้องออกมาอีกรอบ “หา จริงเหรอ !!”
จองมินทำหน้ากังวลสุดขีด...
ส่วนคยูจงซึ่งเริ่มได้สติจึงถามไปว่า “ใครเหรอฮะ...?”
ยองแซงได้แต่นั่งรอฟังเงียบๆ...
“ร.ป.ภ.คนนึงที่มหาวิทยาลัยน่ะ...”
ยองแซงนั่งกระพริบตาเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง....
จุนเบบี้ว่า “ร.ป.ภ. หรือฮะ?”
จองมินถามย้ำขึ้นมาว่า “นายแน่ใจเหรอ?”
“อืมม...เขาจำชั้นได้รึเปล่าอันนี้ไม่ค่อยแน่ใจ...แต่ที่แน่ๆก็คือเขารู้ว่าบูอินเป็นใคร”
“ถ้างั้น...มันก็เหลือแค่ว่ามีเวลาอีกนานเท่าไหร่ก่อนที่เรื่องนี้จะรั่วไหลไปเข้าหูพวกสื่อน่ะสิ?” ยองแซงว่า
“...........” ฮยอนจุงนั่งคิด
คยูจงพยายามคิดด้วยความสับสน “แล้วพวกเราจะทำยังไงกันดีฮะ?”
จองมินนิ่งเงียบ.
จุนเบบี้โยนระเบิดคำถามต่อไปว่า “พี่ฮะ แล้วถ้าเกิดท่านประธานรู้เข้าล่ะ...”
ฮยอนจุงว่า “ถ้าชั้น...ไปบอกก่อน...”
จองมินหลังจากนั่งเงียบไปพักนึง พูดแทรกขึ้นมาทันทีว่า “เรื่องนี้มันสำคัญถึงกับต้องทำอย่างนั้นเลยเหรอ?”
ฮยอนจุงหันมามองม้ามินทันที...
จองมินยังพูดต่อไปด้วยท่าทางสงบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน “ มันมีกฎระเบียบข้อไหนกันเหรอที่ห้ามไม่ให้เรามีเดทหรือ ออกไปเที่ยวกับใครซักคนน่ะ? ไม่มี ใช่มั้ยล่ะ.”
คยูจงหันมามองจองมินด้วยความแปลกใจ....
จุนเบบี้พูดขัดขึ้นมาว่า “แต่ถึงยังไง ท่านฯก็คงจะไม่ตื่นเต้นดีใจไปด้วยหรอกน่ะ...”
จองมินสบัดผมอีกครั้งแล้วให้เหตุผลว่า “ถ้าพวกเราใช้ชีวิตตามที่พวกเขาต้องการให้ทำทุกอย่างแล้วล่ะก็ นายจะเรียกแบบนั้นว่าเป็นการใช้ชีวิตที่แท้จริงได้ยังไงกัน? “ จากนั้นก็หันกลับมาพูดกับลีดเดอริ์อีก “ อย่ากลัวไปเลยน่ะ! นายสามารถจะไปไหนมาไหนกับเธอได้อย่างภาคภูมิใจแน่ ชั้นเชื่ออย่างนั้น!”
ฮยอนจุงยิ้มกว้างหลังจากได้ยินคำพูดให้กำลังใจของม้ามิน <นายก็ไม่ได้แย่เสมอไปหรอกน่ะ นายก็มีส่วนดีบ้าง มิน่า แฟนคลับนายถึงได้หลงไหลนายนัก>
“ใช่ฮะ...เพื่อป้องกันเรื่องรักๆใคร่ๆ...แม้แต่ของพวกเราเอง” คยูจงช่วยเสริม
จุนเบบี้ยังพูดขัดขึ้นมาว่า “แต่...นี่มันเป็นคนละเรื่องกันเลยนะ พี่ฮวางโบเขาก็เป็นคนในวงการบันเทิงเหมือนกับพวกเรา...และอายุของเธอก็...” ว่าแล้วก็ค่อยชำเลืองมองลีดเดอร์
“.....................” ฮยอนจุงนิ่งเงียบไม่สนใจหรือใส่ใจ.
ยองแซงเองก็เงียบเช่นกัน
จุนเบบี้ยังพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูกังวลต่อไปว่า “แล้วโดยเฉพาะเรื่องปฏิกริยาของแฟนคลับ...เรื่องนี้มันจะหนักมากเกินไปสำหรับพี่เขารึเปล่า”
“ดังนั้น ชั้นถึงกำลังสงสัยอยู่ว่า...เราควรที่จะประกาศเรื่องนี้ออกไปในเวบไซด์ทางการของแฟนคลับรึเปล่า....ก่อนที่เรื่องมันจะบ้าไปกันใหญ่น่ะ....”ฮยอนจุงรีบเห็นด้วยทันที
“เดี๋ยวก่อน! “ยองแซงร้องห้ามออกมา
ฮยอนจุงหันมามองหน้ายองแซง
“อย่าเพิ่งรีบร้อนไปสิ...”ยองแซงรีบพูดทันที
“...................”
“พวกแฟนคลับคงจะไม่หายคลั่งเพียงเพราะว่านายประกาศเรื่องนี้ออกไปหรอกน่ะ....ชั้นว่านายควรจะใช้วิธีนี้เป็นวิธีสุดท้ายน่ะ ถ้าหาทางออกไม่ได้จริงๆอ่ะ” ยองแซงช่วยให้คำแนะนำ
“ชั้นล่ะเกลียด ความรู้สึกแบบนี้จริงๆ ความรู้สึกที่ชั้นกำลังแอบซ่อนอะไรบางอย่างอยู่แบบเนี้ย” ฮยอนจุงเริ่มหัวเสีย
“แอบซ่อน? งั้นนายก็ยอมรับแล้วน่ะสิ ว่านายปกปิดเรื่องนี้มาตลอดจนกระทั่งตอนนี้?” ยองแซงพูดแทงใจดำ
ฮยอนจุงนั่งนิ่งหุบปากสนิท
“ชั้นแน่ใจว่านายมีเหตุผลที่ดีพอที่ปกปิดเรื่องนี้เอาไว้จนถึงตอนนี้ และชั้นคิดว่า...นายไม่สามารถที่จะมองข้ามเหตุผลอันนั้นไปได้ง่ายๆเลยใช่มั้ย?” ยองแซงพูดแทงใจดำ
ฮยอนจุงรู้สึกหดหู่...
จุนเบบี้แทรกขึ้นมาทันทีว่า” เหตุผลอะไรกันหรือฮะ?”
บรรยากาศในห้องเริ่มมาคุ คยูจงเงียบไม่พูด...จองมินได้แต่นั่งมองหน้าลีดเดอร์อยู่เงียบๆ...
ฮยอนจุงก็อึ้งพูดไม่ถูกเมื่อเจอคำถามจี้ใจดำของยองแซงเข้าไป
ยองแซงยังพูดต่อไป “และนายควรจะต้อง...ให้เวลาพวกเราก่อนซักระยะนึง...เป็นอย่างน้อย...”
ฮยอนจุงจ้องหน้ายองแซงเหมือนอยากจะถามว่า <ทำไมนายถึงรู้ทั้งๆที่ชั้นยังไม่ได้พูดอะไรเลยล่ะ>
ยองแซงจ้องหน้าลีดเดอร์กลับเหมือนอยากจะบอกเช่นกันว่า <คิดว่าชั้นไม่รู้จักนายดีรึไงกัน>
จองมินถามขึ้นมาว่า “เหตุผลที่ว่านั่น...มันมีอะไรที่เกี่ยวกับพวกเราด้วยใช่รึเปล่า?”
ฮยอนจุงได้แต่เงียบ... ส่วนคยูจงเหมือนจะเริ่มรู้แล้วเช่นกัน ก้มหน้าลงมองพื้น...
จุนเบบี้ซึ่งยังคงไม่รู้เรื่องรู้ราว ได้แต่มองไปมองมารอบๆ “พวกเราหรือฮะ...?”
จองมินพูดต่อไปว่า “ชั้น โอเคน่ะ.. ชั้นก็ไม่แน่ใจนักหรอกว่ามันจะช่วยนายได้ซักแค่ไหน. แต่...ชั้นโอเค”
ฮยอนจุงซาบซึ้งกับคำพูดของจองมิน
“ผมก็ด้วยฮะ” คยูจงพูดเสริมขึ้นมา
ฮยอนจุงเริ่มมีน้ำตาซึมๆเนื่องมาจากหลายอารมณ์ที่สับสนปนเป
ยองแซงถอนหายใจก่อนจะพูดว่า “ชั้นไม่สนหรอกนะ...ว่านายจะไปเดทกับใคร...หรือว่าตกหลุมรักใครอยู่ นายสามารถไปพบมากแค่ไหนก็ได้แล้วแต่นาย เพราะชั้นคงห้ามความรู้สึกแบบนี้ที่มีกับเธอไม่ได้หรอก?”
“.........................”
“แต่ว่า...นายควรคิดและไตร่ตรองให้รอบคอบมากกว่านี้. คือชั้นหมายถึงเรื่องที่จะประกาศให้คนอื่นรับรู้น่ะ...” ยองแซงยังคงแนะนำตามสไตล์
“......................”
“ยังไงซะ คนอื่นก็จะค่อยๆรู้เรื่องนี้ไปเอง...ถึงแม้นายจะไม่ได้ประกาศมันออกไปก็ตาม ชั้นคิดว่ามันน่าจะดีกว่าถ้านายจะทำตัวเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องงานตามปกติที่เคยทำ...”
“.......................”
“ชั้นคาดว่า...พวกผู้บริหารของบริษัทเราคงจะช็อคไปตามๆกัน...มันจะต้องเป็นเรื่องฉาวที่ไม่ธรรมดาเลยล่ะ...และพวกแฟนคลับก็คงจะช็อคสุดขีดเช่นเดียวกัน...แต่ยังไงแล้ว...ถ้าพวกเขาเป็นแฟนคลับตัวจริงของนาย...ท้ายที่สุดเขาจะต้องกลับมาสนับสนุนนายอย่างแน่นอน”
ฮยอนจุงรู้สึกขอบคุณอยู่ในใจ <ขอบใจน่ะ>
“นายอย่าพยายามมากจนเกินไปที่จะทำเรื่องนี้ให้เป็นที่รับรู้ของสาธารณชนเลยนะ...เก็บไว้เป็นความลับให้ดีที่สุดเท่าที่นายจะทำได้...ชั้นรู้ว่านายจะต้องเผชิญกับสงครามเรื่องนี้ไม่ช้าก็เร็ว...แต่อย่าพยายามไปเร่งให้มันเกิดขึ้น...ที่จริง...ก็ไม่ใช่ว่าชั้นจะมีประสบการณ์อะไรมากมายหรอกนะ...แต่ว่าเรื่องของความรักมันจะดูน่าตื่นเต้นมากขึ้น...เมื่อแอบซ่อนเอาไว้ไม่ให้ใครรู้ใช่มั้ยล่ะ?”
จองมินทำหน้างง.. “นี่ยองแซงเป็นคนที่พูดได้คล่องแบบนี้มาตั้งแต่แรกเลยรึเปล่า?”
คยูจงพูดบ้าง “ชั้นเข้าใจที่นายพูดน่ะ”
ฮยอนจุงว่า “ใช่...นายพูดถูก แต่ว่า...”
ยองแซงคิดอยู่ในใจ <นี่ชั้นลงทุนพูดกล่อมนายตั้งยืดยาวขนาดนี้ ยังจะมี “แต่” อีกเหรอ?>
“สำหรับชั้น...เหนือสิ่งอื่นใด....” ฮยอนจุงพูด
ทุกคนหันมามองลีดเดอร์เป็นตาเดียว
ฮยอนจุงเงียบไปสักพักแล้วพูดต่อ “คือ...ชั้นอยากจะแต่งงานตอนนี้”
จองมินว้ากออกมาทันที “นาย-ว่า-ไง-น้า???”
คยูจงว่า “พี่พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า !!”
จุนเบบี้ยืนอ้าปากค้าง ยองแซงทำหน้าตกใจก่อนพูดเสียงดังว่า “นี่ นาย !!!!”
ลีดเดอร์เหลียวมองดูเมมเบอร์ไปรอบๆ
ทันใดนั้นยองแซงก็ลุกพรวดขึ้นมาแล้วตะโกนใส่หน้าเขา “ไอ้บ้านี่...พอได้เลย!”
คยูจงพุ่งเข้าไปฉุดขาของยองแซงเอาไว้ “นี่นาย ควบคุมสติหน่อย!”
จองมินอุทาน “โอพระเจ้า “ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วถามไปว่า “นี่นายบ้าไปแล้วรึเปล่า?”
จุนเบบี้ทำหน้าสับสนก่อนพูดว่า “ในที่สุดพี่เขาก็เสียสติไปแล้วจริงๆ...”
ยองแซงซึ่งกำลังพยายามสลัดขาออกจากมือคยูจงยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดออกมาว่า “ให้ตายเหอะ ชั้นก็มีขีดจำกัดเหมือนกันนะ ว่าจะรับเรื่องบ้าๆนี่ได้แค่ไหนน่ะ! “
ฮยอนจุงเห็นท่าทางปรี๊ดแตกของยองแซงแล้วก็รีบปีนหนีขึ้นไปอยู่บนโซฟาแล้วหยิบหมอนขึ้นมาถือไว้เป็นกำบัง “ยังไง...นายก็น่าจะสะกดอารมณ์เอาไว้บ้างน่ะ!”
ยองแซงเริ่มตั้งท่ายกขาขึ้นมาจะเตะ อ้ากกก “ทำไม หมาบ้าอย่างนายถึง....!!!”
ส่วนจองมินอารมณ์ก็เริ่มคุกรุ่นจวนจะถึงจุดระเบิด เดินกลับไปกลับมาให้ห้องนั้นอยู่หลายรอบ และในที่สุดก็ยกมือขึ้นชี้หน้าลีดเดอร์ “ไอ้บ้า..เอ๊ยยยยยย นายเป็นคนเดียวรึไงที่มีแฟนน่ะ? หา? นายคิดว่าตัวเองเป็นคนเดียวที่เคยอยู่ในห้วงของความรักเหรอ? แต่งงาน ? เชอะ! การแต่งงานมันง่ายสำหรับนายขนาดนั้นเลยรึไง? แล้ววงของพวกเรามันก็เป็นเรื่องง่ายสำหรับนายอย่างนั้นด้วยใช่มั้ย?” ว่าแล้วก็สบัดตัวเดินกลับเข้าไปที่ห้อง
จุนเบบี้ตกตะลึง < เจ้าม้านี่คงจะโมโหจนลืมไปแล้วว่ากำลังพูดกับใครอยู่...>
คยูจงเริ่มทำหน้าที่ห้ามทัพ “ทุกคน หยุดได้แล้ว เดี๋ยวพวกเราจะโดนห้องข้างล่างด่าอีกรอบ ถ้าขืนยังเสียงดังกันแบบนี้”
ฮยอนจุงยกหมอนขึ้นมาปิดหน้าก่อนจะพูดออกมาอย่างดื้อรั้นว่า”ยังไงซะ ชั้นจะแต่งงานกับเธอให้ได้ถึงแม้ว่าจะต้องตายก็ตาม ...”
4 หนุ่มเมื่อได้ยินต่างก็อึ้งกันไปหมด จ้องลีดเดอร์กันตาเขม็งก่อนที่จะพร้อมใจกระโดดขึ้นไปรุมทับอยู่บนตัวเขา “ตายให้สมใจซะเถอะ!!!!! ไอ้บ้าเอ๊ยยยย!!!!!!!”
ฮยอนจุงได้แต่นอนหมอบอยู่ใต้หมอนร้องโอดโอย “อ้ากกกกกก ชั้นขอโทษ....T__T อย่าเพิ่งฆ่าชั้นให้ตายตอนนี้เลย! “<ชั้นยังไม่ทันได้ผลิตจูเนียร์ เลยน่ะ T__T>
โปรดติดตาม คู่รักผักกาดหอมรีมิกซ์ ตอนที่ 77 -เขาอาจจะเป็นผู้ชายที่เรียบง่ายที่สุดในเกาหลี
Create Date : 28 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 28 กรกฎาคม 2553 20:06:49 น. |
|
6 comments
|
Counter : 1046 Pageviews. |
|
|
|
โดย: kimyoungbi IP: 114.128.12.67 วันที่: 28 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:59:23 น. |
|
|
|
โดย: มินมิน IP: 125.27.55.15 วันที่: 28 กรกฎาคม 2553 เวลา:21:54:22 น. |
|
|
|
โดย: ตอง IP: 117.47.83.241 วันที่: 28 กรกฎาคม 2553 เวลา:22:31:07 น. |
|
|
|
โดย: noyhnasangchu2010 IP: 125.26.15.135 วันที่: 29 กรกฎาคม 2553 เวลา:20:35:13 น. |
|
|
|
โดย: kaprow IP: 124.120.132.225 วันที่: 30 กรกฎาคม 2553 เวลา:10:03:10 น. |
|
|
|
โดย: ning IP: 115.87.76.38 วันที่: 3 สิงหาคม 2553 เวลา:18:45:39 น. |
|
|
|
| |
|
"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"
|
|
|
|
|
|
|
|
หุหุ สนุกเหมือนเดิม ยิ่งผ่านมาหลายตอนยิ่งสนุกชวนติดตามจริงๆ ขอบคุณยายมากเลยนะ ยายแปลออกมาได้ดีมาก ชมจากใจจริงเลยนะ ไม่น่าเชื่อว่าลีดเดอร์ของน้องๆจะบ้าได้มากขนาดนี้ ขอให้ความรักของทั้งสองคนนี้อยู่อย่างนี้ตลอดไป และขอเป็นกำลังใจให้ยายตลอดไปด้วยค่ะ