Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
8 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
ตอนที่ 32-การจะรักใครสักคน...มันถึงได้ยากเย็นนักน่ะ

***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนต้นฉบับเขียนขึ้น อย่าได้ปะปนหรือสับสนกับคำพูดหรือเนื้อหาของรายการฯ***

ดึกของค่ำคืนนั้น ที่บ้านของคู่รักผักกาดหอม

ฮวางโบยืนกอดกล่องกีตาร์ในขณะที่ฮยอนจุงกำลังเปิดประตูด้วยมือข้างนึง ส่วนอีกมือก็ถือกีตาร์อยู่ เขายืนเอาตัวเองดันประตูไว้เพื่อให้เธอเดินเข้าไปในห้องก่อน เธอดูลังเลเล็กน้อยก่อนจะก้าวเข้าไป..เขาปิดประตูหลังจากเดินเข้ามาและเปิดสวิทช์ไฟ

ฮวางโบหรี่ตาเล็กน้อย แล้วกวาดตาดูรอบๆบ้านคู่รัก ของพวกเขา เปียโนขนาดเล็ก โปสเตอร์ขนาดยักษ์ที่ติดอยู่ข้างกำแพง แล้วก็สุภาษิตประจำตระกูลที่แขวนอยู่อีกด้านนึง และผ้าม่านที่กำลังกระพือจากแรงลมที่เขามาทางหน้าต่างที่เปิดอยู่...

เธอยิ้มอย่างปลอดโปร่ง .นี่คือบ้าน...ชั้นเคยมาแค่ครั้ง...ไม่ใช่สิสองครั้ง..ชั้นยังไม่ทันได้มีความทรงจำที่ดีกับมันซักเท่าไหร่เลย...แต่ยังไงมันก็คือบ้านของพวกเรา>...

เขารู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นรอยยิ้มที่อบอุ่นของเธอ “ผมเปิดหน้าต่างทิ้งเอาไว้เพราะห้องจะได้ไม่อับจนเกินไปน่ะฮะ..โชคดีที่วันนี้ฝนไม่ได้ตกลงมา”

เขาวางกีตาร์ที่ถืออยู่ลง แล้วยื่นมือไปหาเธอ...ฮวางโบมองหน้าเขางงๆ...

เขาใช้สายตาชี้ไปที่กล่องกีตาร์ที่เธอยังกอดเอาไว้ “นั่นไงฮะ คุณจะถือไว้อีกนานมั๊ยฮะ”

เธอก้มลงมองกล่อง.. “โอ๊ะ!.” แล้วก็รีบส่งให้เขาโดยไม่ได้พูดอะไร

ฮยอนจุงถือกล่องกีตาร์เข้าไปในห้องนอน ส่วนฮวางโบค่อยๆเดินเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นแล้วแอบชำเลืองดูภายในห้องนอน เขาวางกล่องกีตาร์ลงบนเตียงแล้วเปิดฝาออก นกกระดาษหลากสีสรรสวยงามสะท้อนกับแสงไฟในห้อง เขาเงยหน้าขึ้นมาแล้วจ้องไปที่เธอ เธอสะดุ้งเฮือก แล้วพยายามหลบสายตาเขา

”เข้ามานี่สิฮะ” เขาส่งเสียงเรียกเธอ

<นี่! ชั้นจะเข้าไปในนั้นได้ยังไงกัน...แค่นี้ชั้นก็ตื่นเต้นจะแย่อยู่แล้ว เพราะว่าเราอยู่กันแค่สองต่อสอง.>..เธอแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน..แล้วหันหลังให้เขา
เขาเห็นท่าทางของเธอแล้วแอบอดขำไม่ได้ “ฮุฮุ เรามาช่วยกันนำเจ้านกพวกนี้มาใส่โหลกันเถอะฮะ”

เธอหันไปมองหน้าเขางงๆ เขาหยิบโหลแก้วขนาดใหญ่ออกมาจากข้างเตียงนอน มันใหญ่พอที่จะใส่นกกระดาษได้เป็นพันตัว!

เขาพูดต่อไปว่า “ตอนแรกผมกะว่าจะซื้อโหลที่ทำจากคริสตัล” (ยักไหล่)..แต่มันออกจะแพงไปหน่อย...”

”ฮุฮุ...” เธอขำกับคำพูดของเขา

“แต่ยังไงมันก็ยังดูหรูกว่าอันที่ทำจากพลาสติกใช่มั้ยฮะ” แล้วก็ทำหน้ายิ้มแบบขี้โกง

ฮวางโบลงไปนั่งกองกับพื้นแล้วหัวเราะออกมา “ฮุฮุฮุ”

หน้าตาของเขาเริ่มสดใสขึ้น เมื่อเห็นเธอหัวเราะ “ ใช่แล้ว..บูอินจะดูสวยที่สุดเมื่อคุณหัวเราะแบบนี้” <ที่จริง ตอนที่คุณร้องไห้ก็สวยเหมือนกันฮะ..แต่มันทำให้ผมปวดใจ.>

เธอก้มหน้าลงแล้วก็หัวเราะออกมาไม่หยุด “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”
***************************************************

คู่ผักกาดกำลังนั่งอยู่บนเตียง ช่วยกันเอานกกระดาษมาใส่ลงในโหลแก้ว

”ชิลลาง~ ?”

เขาเงยหน้าขึ้นมามองเธอ “ว่าไงฮะ”

ฮวางโบว่า “เธอมีเทคนิคพิเศษในการพับนกกระดาษจริงๆน่ะเหรอ ชั้นน่ะสงสัยมาตลอดเลยนะ...”

”ใช่แล้วฮะ.” เขาตอบอย่างมั่นใจ

เธอกระพริบตาด้วยความสงสัย “แล้วมันทำยังไงเหรอ”

”มันเป็นความลับสุดยอด บอกไม่ได้ฮะ”

เธอถึงกับตาโต “อะไรกัน..เรื่องพับนกมี่มันเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ~ ?”

เขาพูดอย่างจริงจังว่า “ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กซักแค่ไหน...ความลับของความรู้และทักษะมันเป็นเรื่องสำคัญจริงๆนะฮะ ผมจะไม่ยอมเปิดเผยมันจนกว่าผมจะได้ลิขสิทธ์มาก่อนฮะ”

”ฮุฮุ นั่นมันน่าขันมากมากๆเลยนะ...ฮ่าฮ่าฮ่า...” เธออดขำไม่ได้อีกแล้ว

เขารู้สึกพอใจมากที่ได้รอยยิ้มของเธอกลับมาอีกครั้ง.. <ผมมีความสุขที่เห็นคุณดูสดใสขึ้นก็เพราะผม..ถึงแม้ว่าผมจะทำอะไรให้คุณแทบไม่ได้เลย...แต่ผมก็มีความสุขที่สามารถทำให้คุณหัวเราะได้.>...

เธอเองก็อดคิดไม่ได้เช่นกัน <ทำไมชั้นถึงกลายเป็นคนโง่ทุกครั้งเวลาที่อยู่กับเธอนะ...ชั้นจะทำยังไงดี...ชั้นมีความสุขจากการเล่นเกมคู่รักหวานแหววโดยไม่ยั้งคิดแบบนี้กับเธอ…>

เขานั่งมองขวดโหลที่มีนกกระดาษใส่อยู่จนเต็มอย่างมีความสุข และพูดขึ้นมาว่า

”พวกมันอาจจะมองดูเหมือนๆกัน แต่ว่านกของผมน่ะจะดูโดดเด่นกว่าใครเลยน่ะฮะ” เขาเอามือชี้ไปที่นกตัวนึงในนั้น

“ผมทำตัวนี้ฮะ”

”มันต่างกันยังไงเหรอ~ ?”

”ถ้าคุณมองดูมันใกล้ๆ”

เธอเริ่มสนใจ “จ้ะ แล้วไง”

”คุณจะเห็นว่า...ปีกของมัน...กำลังขยับอยู่!”

เธอตกใจ จริงเหรอ แล้วรีบมาดูนกตัวที่เขาชี้อย่างละเอียดละออ แล้วบอกเขาว่า ชั้นดูไม่ออกจริงๆนะ

”อาจจะเป็นเพราะ...”

”ว่าไง”

บูอินไม่สามารถจะเห็นมัน...”

”ทำไมล่ะ”

เขาพูดหน้าตาจริงจังสุดๆ “มันเป็นเวทมนต์ที่สามารถจะเห็นได้เฉพาะคนที่มีหัวใจที่บริสุทธิ์เท่านั้นฮะ และมันคงเป็นเรื่องยากที่จะมีหัวใจที่บริสุทธิ์เมื่อคุณอายุใกล้จะสามสิบแล้ว ใช่มั้ยฮะ”

เธออึ้งๆงงๆไปพักนึง ก่อนจะรู้ตัวว่าถูกเขาอำอีกแล้ว “อะไรกันเนี่ย~ !!” เธอตะโกนเสียงดังแล้วก็ฟาดที่ไหล่เขาไปทีนึง

ฮยอนจุงพยายามหลบ “ฮ่าฮ่าฮ่า เสร็จผมทุกที ฮ่าฮ่าฮ่า.”

ฮวางโบโมโหที่ถูกเขาอำอีกแล้ว นอนดิ้นเอาขาเตะลมอยู่บนเตียง “นี่!!! ทำไมเธอต้องทำแบบนี้อยู่เรื่อยเลยน่ะ”
***************************************************
ฮวางโบถูพื้นห้องจนเสร็จเรียบร้อย เธอยืนดูห้องที่สะอาดเอี่ยมแล้วคิดในใจว่า

<ถึงแม้มันจะเป็นแค่สำหรับรายการโชว์ แต่มันก็คือบ้าน...ชั้นเสียใจ ที่ชั้นไม่ได้ใส่ใจ...ชั้นจะพยายามมาที่นี่ให้บ่อยขึ้น...>แอบชำเลืองดูฮยอนจุงจากประตูห้องนอนที่เปิดอยู่

เขานอนตะแคงข้างอยู่บนเตียงและกำลังหลับสนิท

เธอรู้สึกอ่อนไหวเมื่อเห็นใบหน้าที่กำลังหลับอยู่ของเขา.<.ชั้นไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้องอีกต่อไปแล้ว...ชั้นอยากจะให้สมองของชั้นไม่สามารถคิดถึงเรื่องอะไรเลย...ชั้นรับมือกับอะไรที่มันซับซ้อนขนาดนี้ไม่ได้..>

เธอโบค่อยๆเดินเข้าไปใกล้เตียงนอน และ นั่งลงที่ขอบเตียงและก้มลงมองหน้าของฮยอนจุงที่กำลังหลับอยู่...<เธอยังทำให้หัวใจชั้นเต้นแรงได้ทั้งๆที่หลับอยู่เลยนะ...ถ้าเทวดาเป็นผู้ชาย..ท่านจะต้องเหมือนกับเธอแน่ๆเลย..>.แล้วก็ยิ้มออกมาจนเห็นฟัน เธอเอื้อมมือไปเสยผมหน้าม้าที่ยาวลงมาปิดตาเขาแล้วก็ขำ <ดูเธอสิ...ยังกับเด็กทารกเลย..>
***************************************************
รุ่งเช้าวันต่อมา ฮยอนจุงถูกปลุกขึ้นมาจากเสียงโทรศัพท์มือถือของเขา เขาพยายามเอามือคลำหาโทรศัพท์จากกระเป๋าเสื้อแล้วเอามันมาวางแนบหูทั้งๆที่ตาเขายังคงปิดสนิท

”สวัสดีฮะ”

”นี่ ฮยอนจุง! นี่นายอยู่ที่ไหนน่ะ?” เสียงของพี่ผู้จัดการแผดมาจากปลายสาย

”ผมเหรอฮะ” เขาพูดโดยที่ยังไม่ยอมลืมตา

”นายไม่ได้อยูที่บ้าน แล้วตอนนี้นายอยู่ที่ไหนกัน หา!!”

เขาขยี้ตา...”ผมอยู่ที่..” ในที่สุดเขาก็ลืมตาขึ้นมาแล้วมองไปรอบๆ.. !!! แล้วก็กระเด้งตัวขึ้นมานั่งโดยทันที

”เอ่อ..ผมอยู่ที่...บ้านเพื่อนฮะ เราไปเจอกันตอนดึกมาก ดังนั้น”

”เตรียมตัวให้เรียบร้อยภายในหนึ่งชั่วโมงนะ ตอนนี้ 9 โมงแล้ว แล้วบ้านเพื่อนของนายอยู่ที่ไหนล่ะ ชั้นจะได้แวะไปรับ”

”ไม่ต้องหรอกฮะ เดี๋ยวผมไปตามที่พี่นัดตรงเวลาแน่นอน..เอ่อ..แล้วผมต้องไปที่ไหนเหรอฮะ”

หลังจากวางหูโทรศัพท์ ฮยอนจุงลุกขึ้นมานั่งบนเตียงและพยายามระลึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อคืน เขากวาดตามองดูรอบๆอีกครั้งแต่ในบ้านดูเงียบมากๆ จึงเดินออกมาที่ห้องนั่งเล่นซึ่งก็ไม่มีเสียงใดๆเช่นกัน

”บูอิน...?”

เขาเดินไปเคาะประตูห้องน้ำแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จากนั้นก็เดินต่อมาที่ห้องครัว ถึงได้เห็นว่ามีฝาชีอยู่บนโต๊ะอาหาร เมื่อเขาเปิดดูก็เห็นว่ามีอาหารจานเล็กๆวางอยู่หลายจานพร้อมกับกระดาษโน้ตที่เธอเขียนถึงเขา...

ชิลลาง

ชั้นกำลังจะไปแล้วล่ะเพราะว่าชั้นไม่คิดว่าจะสามารถปลุกเธอได้
ชั้นหุงข้าวไว้ให้แล้วนะอยู่ในหม้อ ส่วนชุปเธออุ่นในไมโครเวฟเอาเองนะใช้ 3 นาทีจ้ะ จริงๆชั้นก็อยากอยู่เป็นเพื่อนเธอตอนที่กินอาหารเช้า..แต่ชั้นไม่คิดว่าชั้นจะสามารถมองหน้าเธอได้ในตอนนี้....ขอโทษด้วยนะ. ตั้งใจทำงานให้ดีๆ และชั้นจะพยายามมีความมั่นใจให้มากกว่านี้เมื่อเราพบกันคราวหน้า อย่าลืมกินอาหารเช้าล่ะแลัวก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องจานชาม..ชั้นจะมาจัดการให้ทีหลังจ้ะ...

-ฮวางโบ

ฮยอนจุงก้มลงอาหารเช้าที่เธอเตรียมไว้ให้ด้วยความรู้สึกบางอย่าง <ผมอยากให้คุณปลุกผมขึ้นมานะ...มันจะยากเย็นอะไรนักเชียวฮะ กับการปลุกคนที่ตื่นยากอย่างผมให้ตื่นเนี่ย...>
***************************************************
ที่กองถ่าย IG

ทีมงานกำลังวุ่นวายอยู่กับการเตรียมถ่ายฉากต่อไป เหล่านักแสดงประจำรายการก็มานั่งเม้าท์แตกเสียงดัง ในขณะที่ฮวางโบกลับนั่งซึมเหม่อลอย
เธอกำลังคิดสับสนในใจว่า <ชิลลาง...เธอกินอาหารเช้ารึเปล่า? หรือว่ายังหลับอยู่นะ? เธอตื่นไม่ไหวรึเปล่า? ชั้นน่าจะช่วยปลุกเขานะ.. เขาคงจะเหงามากเลยที่ต้องนั่งกินข้าวเช้าเพียงลำพัง.> มือของเธอขยับโทรศัพท์ไปมา...<ชั้นควรจะโทรไปปลุกเขามั้ยนะ? >

เธอรู้สึกผิดหวังที่ตัวเองที่ไม่มีสมาธิใการทำงานเลยแม้แต่น้อย
<ฮวางโบ เฮจุง! นี่เธอเป็นบ้าไปแล้วรึไง ตอนนี้เธอต้องทำงานนะ ตั้งสติหน่อย..>.เธอพยายามเตือนตัวเอง

ทันใดก็รู้สึกว่าโทรศัพท์สั่น..จึงรีบหยิบมันขึ้นมาเช็คดูข้อความทันที
”ทำไมคุณถึงไปโดยที่ไม่ปลุกผมล่ะฮะ? ตอนนี้ผมกำลังจะไปญี่ปุ่นแล้วน่ะฮะ ผมจะตั้งใจทำงาน..คุณก็ควรทำเช่นกันน่ะฮะ”

เธอประทับใจกับข้อความที่ได้รับ แต่พยายามเตือนสติตัวเองว่า ใจเย็นๆ <ชั้นกำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำ...ถ้ายังทำตัวแบบนี้..ส่วนของชั้นอาจจะถูกตัดออกทั้งตอนก็ได้> แล้วก็ยิ้มออกมา)
***************************************************
ช่วงพักเบรคอาหารกลางวัน
ฮวางโบพยายามหามุมที่ลับตาคนเพื่อมาส่งข้อความตอบฮยอนจุง

”เธอได้กินข้าวเช้าที่เตรียมไว้รึเปล่า? เธอคงไม่ได้รีบจนถึงขนาดกับกินไม่ทันหรอกนะ?” <จริงๆอยากเขียนไปด้วยว่า ชั้นคิดถึงเธอ..>

ฮยอนจุงส่งข้อความตอบกลับมาว่า “เพราะว่าผมยุ่งมาก ก็เลยกินไปได้นิดเดียวฮะ มันคงจะดีกว่านี้ถ้าคุณปลุกผม ตอนนี้คุณทำอะไรอยู่ฮะ?”

”กำลังพักเบรคจากการถ่ายทำ ตอนนี้เธออยู่บนเครื่องบินแล้วเหรอ?”

”อยู่สนามบินฮะ ตอนนี้กำลังเป็นโรคกลัวเครื่องบินไปแล้ว...^^”

<ฮุฮุ> “เธอคงจะเอียนกับมันจริงๆ แต่เธอต้องบินบ่อยๆเพื่อไปหาเงินนี่นา...^^”

”ใช่ฮะ การเป็นหัวหน้าครอบครัวนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ...^^”

ในขณะที่ฮวางโบกำลังส่งข้อความคุยโต้ตอบกับฮยอนจุงอยู่ อึนยีเดินเข้ามาหาเธอ ทำเอียงคอน้อยๆเหมือนกำลังสงสัยอะไรบางอย่าง

”ในโลกนี้มีเงินที่ได้มาง่ายๆด้วยเหรอ? ^^”

”ผมโทรหาคุณตอนนี้ได้มั้ยฮะ?”

เธอลังเลเล็กน้อยก่อนจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไป “อย่าเลย เดี๋ยวชั้นจะทำงานไม่ได้” <ตอนนี้ชั้นก็แทบจะไม่มีสมาธิอยู่แล้ว...^^>

“แย่จังฮะ”..

อึนยีส่งเสียงทักขึ้นมาว่า “นี่!!! เธอกำลังหัวเราะคิกคักกับตัวเองเรื่องอะไรเหรอ?”

เธอสะดุ้งโหยง “โอ๊ะ..ไม่ ไม่มีอะไรหรอก” เธอรีบปฎิเสธพัลวัน

”อ๋อ~.เหรอ” อึนยียิ้มแบบเจ้าเล่ห์ แล้วถามต่อ “งั้นใครกันน่ะ?”
เธอทำหน้างุนงง “หา~~~?

”ก็คนที่เธอส่งข้อความคุยกันอยู่ตอนนี้น่ะ เธอแอบมี...ผู้ชายแล้วเหรอ?” อึนยีแกล้งถาม

<ทำไงดี...ชั้นต้องตอบกลับข้อความเขาแล้วด้วยน่ะ..T_T> “อะไร? พี่พูดถึงอะไรน่ะ? มันไม่ใช่อย่างที่คิดหรอกน่า”

อึนยียักไหล่ “โอ๊ะ~..งั้นก็ไม่เป็นไร”

<นี่ชั้นยังไม่ได้ร่ำลาชิลลางเลย.> ท่าทางดูเป็นกังวลของเธอ

อึนยีเอียงคออีกรอบแล้วพูดว่า “โอเค..เธอคงจะมีเหตุผลที่ดีน่ะ”

แล้วก็พูดแบบจงใจอีกว่า “เธอ..อย่าใช้เวลานานนักล่ะ...ที่จะสารภาพน่ะ..เพราะยังไงเธอก็ต้องมาเล่าให้ชั้นฟังอยู่ดี”

ฮวางโบกัดริมฝีปากแล้วถามกลับไปว่า “ชั้นมีเรื่องอะไรที่ต้องสารภาพเหรอ?”

อึนยีชายตามองฮวางโบแล้วบอกว่า “ชั้นจะไปล่ะน่ะ เธอทำอะไรอยู่ก็ทำต่อไปก็แล้วกันน่ะ ไม่กวนแระ”

ทันทีที่อึนยีเดินคล้อยหลังไป ฮวางโบรีบหยิบโทรศํพท์ขึ้นมาแล้วเช็คข้อความ

”นี่เริ่มถ่ายทำแล้วเหรอฮะ? ทำไมคุณถึงไม่ตอบผมล่ะ?”

เธอรีบพิมพ์ข้อความตอบกลับไป “ใช่จ้ะ กำลังจะเริ่มแล้ว ชั้นต้องไปแล้วนะ ดูแลตัวเองดีๆด้วยล่ะ”

”ฮะ คุณก็ดูแลตัวเองดีเช่นกันฮะ แล้วก็อย่าร้องไห้น่ะฮะ”

”ชั้นไม่ร้องไห้หรอกน่า เธอคิดว่าชั้นเป็นเด็กขี้แยรึไง?”

”ผมรู้ว่าคุณเป็น...”

เสียงผู้ช่วยผู้กำกับดังขึ้นว่า ทุกคนกรุณามารวมกันทางนี้ครับ...เรากำลังจะเริ่มถ่ายแล้ว...

เธอรีบส่งข้อความหลังได้ยินเสียงตะโกน “ชั้นต้องไปจริงๆแล้วล่ะ ดูแลตัวเองนะฃิลลาง”

”ผมจะคอยดูรายการโชว์ของคุณนะ.. ยิ้มค่อยไว้น่ะ”

”โอเคจ้ะ ชั้นจะยิ้มให้สุดๆเลย ต้องไปแล้วล่ะ ^^”

”โอเค ไว้เจอกันฮะ”

ฮวางโบมองข้อความในโทรศัพท์และพยายามที่จะไม่ยิ้มและเก็บอาการก่อนจะวิ่งไปรวมตัวกับคนอื่นๆ
***************************************************

เช้าวันเสาร์ที่ 1 กันยายน ในขณะที่ฮวางโบกำลังขับรถอยู่เธอคุยโทรศัพท์กับฮยอนจุงไปด้วย

”เธอตื่นแล้วเหรอ?”

”ฮะ เพิ่งตื่น“ แล้วก็หาวให้เธอฟัง

<ฮุฮุ> “ยังง่วงอยู่ล่ะสิ?”

เขาทำเสียงเหนื่อยๆ “อา า า ~~~~~~ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมถึงต้องมีตอนเช้าด้วยน่ะ....”

”ฮุฮุ ลุกได้แล้ว และก็อย่าลืมกินช้าวเช้าก่อนออกไปด้วยน่ะ”

”โอเคฮะ”เขาถอนหายใจ

”นี่เธอแหนื่อยมากเกินไปรึเปล่า? ตื่นไม่ไหวเหรอ?”

”...ไม่ฮะ”

”งั้น..ทำไมทำเสียงแบบนั้นล่ะ?”

”ผมอยากให้คุณมาอยู่ด้วยกันที่นี่ ผมเกลียดการทำอาหารเช้ามากเลย”

เธอออกอาการฉุนนิดๆ “อะไรเนี่ย นี่เธอเห็นชั้นเป็นคนงานเป็นแม่บ้านของเธอเหรอไง?”

เขาหัวเราะคิก “ไม่ฮะ ไม่ใช่แบบนั้นซ่ะหน่อย”

เธอรู้สึกเสียใจ <ชั้นก็อยากจะไปอยู่ไปเธอจริงๆน่ะ.> “ตั้งใจทำงานด้วยล่ะวันนี้ แล้วก็ดูแลตัวเองดีๆน่ะ”

”ได้เลยฮะ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า” เธอพอใจกับคำตอบของเขา
***************************************************
ช่วงเย็นวันนั้นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ฮวางโบกินอาหารเย็นใกล้จะเสร็จแล้ว ส่วนอึนยีซึ่งมาด้วยกันนั่งมองดูเธอเป็นระยะๆด้วยสายตาแปลกๆตลอดช่วงเวลาที่นั่งกินข้าว

อึนยีมองหน้าฮวางโบอย่างระมัดระวัง...

ฮวางโบเห็นท่าทางเพื่อนชักเริ่มสงสัย “พี่ค่ะ มีอะไรที่อยากจะบอกชั้นรึเปล่า?”

”ก็อาจจะ..น่ะ?”

เธองงกับคำตอบ “แล้วมันคืออะไรล่ะค่ะ?”

อึนยีหันไปมองรอบๆตัวแล้วพูดว่า “เราไปจากที่นี่กันดีกว่า ชั้นอยากจะหาที่ๆมันเงียบกว่านี้น่ะ” แล้วก็ลุกขึ้นยืน

<มีเรื่องอะไรเหรอเนี่ย? ท่าทางจะซีเรียสมากน่ะ.> “โอเคค่ะ”.แล้วก็เดินตามอึนยีออกไปข้างนอก

ที่สวนสาธารณะ สองสาวนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวในมุมที่ค่อนข้างมืดและเงียบสงบ
ฮวางโบถามว่า “ทำไมพี่ถึงดูมีลับลมคมในจังเลยคะ?”

อึนยีจ้องหน้าฮวางโบแล้วพูดว่า...”เธอ...มีเรื่องบางเรื่องที่เธอไม่ได้บอกชั้นรึเปล่า?” อึนยีเริ่มเปิดประเด็น


”หา?”

”นี่เธอไม่ได้เข้าไปเล่นเน็ตบ้างเลยเหรอ? ช่วงนี้เธอไม่ได้อัพเดทมินิโอมเพจของเธอเลยนะ?”

ฮวางโบงง “ชั้นก็เข้าไปเล่นนะคะ แล้วยังไงเหรอค่ะ?”

อึนยีเอียงคอแล้วพูดต่อว่า “นี่ชั้นเข้าใจผิดไปเหรอ?”

”อะไรคะ? บอกมาเลยดีกว่าว่าพี่คิดอะไรอยู่?”

อึนยีค่อยๆถลึงตาใส่ฮวางโบแล้วพูดดังๆว่า “เธอ!”

”อะไรเหรอ บอกมาเถอะค่ะ~~”

”เขาคือฮยอนจุง ใช่มั้ย? “ อึนยียิงประโยคเด็ดออกมา

เธอถึงกับสะดุ้ง แล้วรีบถามว่า “อะไรน่ะคะ?”

”ก็คนที่เธอส่งข้อความคุยกับเขาเมื่อคราวที่แล้วน่ะ...ชั้นยังเห็นด้วยนะว่าเธอน่ะหัวเราะคิกคักแล้วก็ส่งข้อความไปอีกต้องหลายรอบหลังจากนั้นน่ะ” อึนยีพูดด้วยสีหน้ากรุ้มกริ่ม

ฮวางโบเริ่มสับสนแต่พยายามทำชิลๆเพื่อกลบเกลื่อน “ไม่ใช่ค่ะ”

”ไม่ใช่เหรอ?”

“จริงๆน่ะเหรอ ที่ไม่ใช่เขา”

ฮวางโบเงียบไม่ตอบ

“เธอตั้งใจจะเก็บเงียบแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนเหรอ?”

”แล้วทำไมชั้นถึงต้องบอกพี่ด้วยล่ะ?”

อึนยีถอนใจ “งั้น..ก็คงเป็นเขาจริงๆสินะ~~”


”แล้วมันเป็นยังไงเหรอ?”

อึนยีหรี่ตา “แล้วยังไงเหรอ? นี่เธอกำลังล้อชั้นเล่นรึเปล่าเนี่ย?”

”เราแค่ส่งข้อความหากัน ก็พวกเราเป็นรุ่นพี่กับรุ่นน้องกัน”...

”พวกเธอสองคนเป็นแค่รุ่นพี่กับรุ่นน้องเท่านั้นเหรอ?”

ฮวางโบยังคงปากแข็งตอบไปว่า “แน่นอนค่ะ แต่ตอนนี้เราเป็นคู่แต่งงานในรายการจับคู่เรียลลิตี้.”

อึนยีขมวดคิ้ว “งั้นเธอก็กำลังพยายามทำเพื่อเติมเต็มรูปแบบของของรายการให้สมบูรณ์อย่างนั้นสินะ?”

เธอนิ่งเงียบไม่ตอบ

”ช่วยบอกความจริงชั้นหน่อยได้มั้ย” อึนยียังคงเซ้าซี้ไม่เลิก

”อะไรคะ?”

”เธอชอบเขา...ใช่มั้ย”
เงียบไม่ตอบ

”เธอรู้ใช่มั้ยว่ามันเป็นเรื่องที่โง่มากๆเลย”
เงียบไม่ตอบ


เงียบไม่ตอบ
”เธออาจจะเป็นคนที่เจ็บอยู่ข้างเดียว....จากเรื่องนี้นะ...”

ฮวางโบนิ่งเงียบ พูดอะไรไม่ออก เธอรู้สึกปวดใจเมื่อได้ยินสิ่งที่อึนยีพูดอึนยีได้แต่ถอนหายใจ

อึนยีชำเลืองมองเธอแล้วพูดต่อว่า “เธอรู้ใช่มั้ยว่า...ที่ชั้นพูดแบบนี้น่ะ...ไม่ใช่เพราะชั้นอิจฉาเธอ.”

”แล้วพี่อิจฉารึเปล่าล่ะ?”

”นี่!!! เดี๋ยวเหอะ”

”พี่อาจจะอิจฉานิดๆใช่มั้ย?”

อึนยีตอบอย่างจริงจัง “ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน”

”เวลาคนอื่นมาพูดเรื่องที่ดูเหมือนเอาใจใส่เราแบบนี้เป็นเพราะพวกเขาเป็นห่วงจริงๆรึเปล่าคะ?”

อึนยีงงกับคำถามของฮวางโบ??

”แล้วการเป็นห่วงที่มันหมายความว่าเขากังวลเกี่ยวกับเราจริงๆใช่มั้ยคะ?”

อึนยีงงอีกครั้ง??

”แล้วพวกเขากังวลเรื่องอะไรกันคะ?”

”นี่ ฮวางโบ” อึนยีได้ยินแบบนั้นก็พูดไม่ออก

”ชั้นอยากจะไปอยู่ในที่ๆไม่มีใครรู้จักจริงๆน่ะค่ะ...”

***************************************************

”งั้นฮยอนจุงเขาก็รู้สึกแบบเดียวกับเธอน่ะสิ?” อึนยีพยายามสรุป

”ที่จริงแล้ว...มีหลายอย่างที่เป็นเรื่องยากลำบากสำหรับชั้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา”

อึนยีจ้องหน้าเธอ...

”ไม่ว่าชั้นจะพยายามคิดให้มากซักแค่ไหน....ชั้นก็ไม่สามารถหาคำตอบได้...ชั้นไม่มีความกล้าหาญพอที่จะอยู่โดยที่ไม่ได้พบหน้าเขา” เธอยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

“ถ้าชั้นไม่ได้เจอเขา...ชั้นก็คงจะไม่ตาย...ชั้นสามารถจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ใช่มั้ยคะ?.”

อึนยีรู้สึกเศร้าไปกับเธอด้วย....

”ทุกๆ คืน...ชั้นคอยบอกตัวเองให้ปล่อยเขาไป”

“โชคดีที่ว่า ชั้นไม่ได้เจอกับเขาบ่อยเท่าไหร่...ชั้นจะพยายามลืมเขาช่วงที่เราไม่ได้เจอกัน...ชั้นพยายามบอกตัวเองแบบนั้นทุกๆครั้งที่ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า..”

”ชั้นพยายามบอกตัวเองมาตลอดว่ามันเป็นแค่ความฝัน....ความฝันที่แสนจะเลวร้ายและโหดร้าย” น้ำตาของฮวางโบเริ่มไหล

”นี่ ฮวางโบ”

”แต่...ชั้นก็ทำไม่ได้ ชั้นทำอะไรไม่ได้ซักอย่าง...ชั้นอาจจะเป็นคนโง่ ไร้สติ แล้วก็เป็นเด็กไม่รู้จักโต....แต่ชั้นก็ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆค่ะ....” เธอร้องไห้ออกมา

อีนยีถอนหายใจอย่างแรง “นี่!!

ฮวางโบยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดหน้าแล้วก็ร้องไห้ “เกลียดตัวเอง ชั้นเกลียดตัวเองจริงๆเลย...ที่เป็นแบบนี้...ชั้นเกลียดความจริงที่ว่าชั้นไม่สามารถทำอะไรเพื่อเขาได้...ชั้นเกลียดที่ว่าชั้นได้แต่มองดูเขาโดยที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย”

อึนยีเองก็เริ่มมีน้ำตาเหมือนกัน “นี่เธอ...ถ้าเธอทุกข์ทรมานกับเรื่องนี้มากขนาดนี้.”...

ฮวางโบยิ้มออกมาทั้งน้ำตา “แต่พอตอนที่เขาโทรมาหา...ชั้นก็จะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง...สมองชั้นกลายเป็นวุ้น เมื่อได้อ่านข้อความของเขา...ชั้นไม่สามารถจะคิดอะไรได้เลย”

”นี่มันจริงๆเลย....<ชั้นจะช่วยเธอยังไงดี..จริงๆนะ..?>

จู่ๆเสียงโทรศัพท์ของฮวางโบดังขึ้นว่ามีข้อความใหม่ ฮยอนจุงส่งข้อความมา

“วันนี้งานเสร็จเร็วนิดนึง.. ตอนนี้ผมกำลังทำราเมนอยู่ฮะ”

ฮวางโบยิ้มออกมาเมื่อได้อ่านข้อความแต่ไม่นานน้ำตาของเธอก็ค่อยๆไหลออกมาอีกครั้ง

คำอธิบายท้ายบท
1. สุภาษิตประจำตระกูล ตอนย้ายเข้าบ้านหลังที่ 2 คิมฮยอนจุงได้เขียนป้ายผ้าสุภาษิตประจำตระกูลว่า “ ชีวิตของชั้นคืองาน งานจงมาหาชั้น “ และติดไว้ที่กำแพงบ้าน

2. ฮูเบ-รุ่นน้อง คำภาษาเกาหลีที่ใช้เรียกคนที่เป็นรุ่นน้องที่โรงเรียน ที่ทำงาน หรือว่าในสายอาชีพเดียวกัน

ยาย(นาจา)
8/5/10




Create Date : 08 พฤษภาคม 2553
Last Update : 8 พฤษภาคม 2553 20:43:26 น. 11 comments
Counter : 892 Pageviews.

 
เศร้าอ่ะเศร้า TT' การที่ชอบใครสักคนเเล้วบอกคนอื่นไม่ได้ มันทรมานขนาดนี้เลยเหรอ


โดย: เลดี้ IP: 58.11.36.205 วันที่: 8 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:24:21 น.  

 
"แพคหนังสือเสร็จหรือยังคะ ตอนนี่อ่านฟิคอยู่คะ " ส่งข้อความมาคะ

อิอิ ขอบคุณนะคะ


โดย: ning IP: 124.120.234.241 วันที่: 8 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:33:56 น.  

 
ตอนนี้นี่เศร้าต่อเนื่องเลยนะค่ะ


โดย: แพร IP: 58.64.82.140 วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:8:07:03 น.  

 
เศร้า

ขอบคุณค่ะ


โดย: สิงโตหัวโต วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:12:25 น.  

 
"ฮวางโบยิ้มออกมาเมื่อได้อ่านข้อความแต่ไม่นานน้ำตาของเธอก็ค่อยๆไหลออกมาอีกครั้ง"

ยาย เศร้าได้ใจมากเลย สงสารโบจังเลย แต่เอาเถอะนะ เชื่อจุงของเราเถอะ จุงรักโบจะตาย กิกิ


โดย: lookomm IP: 118.172.1.135 วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:14:36:11 น.  

 
ทำไมเคร้าอย่างนี้กับการรักใครสักคน สงสารจัง


โดย: noyhnasangchu2010 IP: 125.26.12.222 วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:15:53:45 น.  

 
น่ารักจังเลย ยายนาจา ทำไมถึงอ่านไปยิ้มคนเดียวก็ไม่รู้ หวานกันจังเลยแต่ตามฉบับจุงโบนะ


โดย: hunny IP: 124.122.102.207 วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:03:56 น.  

 
สงสารเค้าทั้งสองคนจัง
แต่ในน้ำตา
ก็ยังสัมผัสได้ถึง
ความงดงามของความรักนะ
เฮ้อ....เอาใจช่วยทั้งคู่
เอาใจช่วยยายด้วย
ขอบคุณยายนะที่แปลให้อ่าน
สัญญาจะอ่านทุกตอนเลย


โดย: joy&yoo IP: 222.123.242.190 วันที่: 9 พฤษภาคม 2553 เวลา:22:31:54 น.  

 
ยิ้มทั้งน้ำตาเลยโบขอเรา


โดย: nonnie~ IP: 10.16.1.204, 58.137.199.116 วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:13:21:54 น.  

 
มันน่าจะเศร้าน่ะทำไมหนุไม่เศร้าหละเนี้ย
เพราะว่าหนูรุ้ว่าเค้าคุนยโทณศัพท์กันบ่อยหรือป่าวน่ะเลยคิดแต่ส่วนดีๆๆแต่ก่อนที่มันจะดีมันต้องทุกข์ก่อนใช่ป่ะที่หนูบอกอ่ะว่าคนเราไม่ได้รับความสุขถ้าไม่เคยเจอความทุกข์มาก่อน..

หนุรุ้สึกได้ว่าจุงรักแฟน...มากกกกกกกกกกกกกกกกกก

โอ้ย อิจฉาจริงๆๆเลย
อุ อุ อุ..โรคจิตไปแล้วคนอื่นเค้าเศร้าดันมีความสุข


โดย: 1985pumpui IP: 125.25.69.110 วันที่: 16 พฤษภาคม 2553 เวลา:17:33:12 น.  

 
อ่านถึงตอนนี้แล้วมันชัดจริงๆค่ะว่าจุงอ่ะอ่านโบทะลุเลย รู้ว่าโบกังวลและหวั่นไหว
ชิมิสามี แต่ยังจะชอบล้อเรื่องอายุอยู่เรื่อยแอบเคืองแทนโบ(เกี่ยวมั้ย)
เฮ้อ!!!เป็นห่วงโบจัง สงสารจุงด้วย บ้างครั้งอยากให้โบนึกถึงตัวเองมากๆก่อนนึกถึงคนอื่นบ้างจังเลย
ถ้าโบไม่คิดถึงทุกอย่างรอบข้างจุงมากเกินไปอาจเห็นชัดก็ได้นะว่าจุงนะ
พร้อมที่จะเผชิญกะทุกอย่างถ้ามีพันยาอยู่เคียงข้าง หนูรู้สึกอย่างนั้นจริงๆค่ะ
ผู้ชายอย่างจุงหนักแน่นและเป็นนักสู้ออกเหมือนโบแหละแต่โบเหมือนจะคิดมากๆๆเกินไปหรือเปล่านะ
ยายวันนี้หนูสลับอารมณ์ไปมาแต่ไม่งงค่ะ ไม่ว่าจะเศร้าหรือสุข หนูก็รักจุงโบค่ะ
Fighting นะค่ะ ขอบคุณค่ะ



โดย: kanjabo IP: 192.168.182.178, 124.122.247.124 วันที่: 30 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:36:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.