ตอนที่ 106 ~ พวกเราแต่งงานกันแล้ว
***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย ****
ที่สนามบินอินชอน
“ชั้นคงไม่ต้องเข้าไปส่งเธอข้างในน่ะ?“ ฮวางโบหันหน้ามาถามคุณสามีซึ่งนั่งอยู่เบาะข้างๆเธอในรถ
“นี่คุณจะไม่ไปส่งผมจนถึงประตูขึ้นเครื่องเหรอ?”
“ถึงเข้าไปข้างในนั้น พวกเราก็ไม่สามารถจะร่ำลากันอย่างที่เธอต้องการได้หรอกนะ”..
“………………………” ...
“ชั้นจะจอดส่งเธอตรงด้านหน้าประตูทางเข้าก็แล้วกัน...เดินทางปลอดภัยนะจ๊ะ”
เธออวยพรเขาพร้อมกับหยุดรถตรงใกล้ๆทางเข้า ทั้งสองมองหน้ากันด้วยความอาลัย
หลังจากเงียบไปครู่นึงเธอก็เอ่ยปากขึ้นมา “ชั้น...”
ซึ่งเวลาเดียวกันนั้นฮยอนจุงก็พูดขึ้นมาเช่นกัน “ผม”.
เธอชะงักไปแล้วพูดยิ้มๆว่า “เธอพูดก่อนสิ”
“ไม่ฮะ คุณพูดก่อน”
“ที่จริงมันก็ไม่มีอะไรมากหรอกน่ะ”
“ผมก็เหมือนกันฮะ”
“ชั้นก็แค่อยากจะบอกเธอว่า ขอให้การเดินทางสะดวกปลอดภัย...แล้วก็อย่าลืมคิดถึงชั้นด้วยล่ะ..”
ชายหนุ่มหันไปมองภรรยาด้วยรอยยิ้มที่ดูปวดร้าว “คุณรู้มั้ยว่าเราเพิ่งแต่งงานกันมาได้แค่ 3 วันเอง?”
เธอยิ้มให้เขาโดยไม่ตอบ ทำไมเธอจะไม่รู้ เธอคงต้องทำใจอยู่แล้วกับการที่ต้องแต่งงานกับนักร้องไอดอลชื่อดัง
“วันนี้เป็นวันที่ 4 ของชีวิตคู่ของเรา” เขาถอนหายใจแล้วพูดต่อว่า “ผมเสียใจจริงๆฮะที่ผมต้องไปแล้วปล่อยให้คุณต้องอยู่คนเดียวน่ะ”
“ชั้นก็เสียใจเช่นกันจ้ะ...ที่ไม่สามารถไปกับเธอได้ แต่งานก็คืองานน่ะ เข้าใจใช่มั๊ย”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่หดหู่ “พวกเราเพิ่งเป็นคู่แต่งงานกันหมาดๆ...นี่มันชีวิตแต่งงานแบบไหนกันเนี่ย...? T_T”
เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนพูดปลอบใจว่า “ยิ่งพวกเราคิดถึงกันมากขึ้นเท่าไหร่ เราก็จะได้รู้ซึ้งถึงคุณค่าของกันและกันมากยิ่งขึ้นไปอีกไงล่ะ...เรามาคิดแบบบวกๆกันดีกว่าน่ะ”
เขาจ้องหน้าเธอนิ่งๆ
ฮวางโบพยายามมองกลับไปแต่แล้วก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง “อย่ามองชั้นแบบนั้นสิ...เธออยากจะให้ชั้นทำยังไง?”
“ผมไม่อยากไปเลยฮะ”คุณสามีเริ่มงอแงอ้อนภรรยา
เธอพยายามกลั้นหัวเราะแล้วแกล้งดุไปว่า “หยุดเลยน่ะ เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว เดี๋ยวชั้นก็ใจอ่อนพอดี่”
“ก็ได้ฮะ...ผมจะรีบกลับมาหาคุณน่ะ”
“อืม...โอเคจ้ะ...แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย” เธอตอบพร้อมกับพยักหน้าแสดงความพอใจ
เขาส่งสายตาสงสารอยู่อย่างนั้น...เธอเอื้อมมือไปแตะเขาเบาๆแล้วพูดว่า “ไปได้แล้วล่ะ”
แต่เขายังนั่งนิ่งจ้องหน้าเธอแล้วถามว่า “ผมควรจะลงไปแบบนี้จริงๆหรือฮะ?”
หญิงสาวหันหน้าไปจุ๊บที่แก้มของเขาแล้วอวยพรว่า “โชคดีนะจ๊ะ ตั้งใจแสดงละครให้ดีๆ แล้วก็อย่าลืมโทรกลับมาหาชั้นด้วยล่ะ”
ฮยอนจุงยังคงนั่งหันหน้ามองภรรยาสุดที่รักอยู่อีกครู่นึง ก่อนยกแขนขึ้นโอบคอของเธออย่างอบอุ่น แล้วมอบจุมพิตอำลาอันเนิ่นนานก่อนจะตัดใจก้าวลงจากรถไป...
วันศุกร์ หลังจากถ่ายทำรายการ Infinity Girls จบลง ฮวางโบกำลังนั่งทานอาหารเย็นอยู่กับอึนยีที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“สาวๆคนอื่นเขายุ่งกันหมด...มีชั้นคนเดียวเหรือเนี่ยที่ว่างไม่มีอะไรทำต่ออ่ะ? “อึนยีว่า
ฮวางโบหัวเราะคิกแล้วถามกลับไปว่า “ปกติแล้วพี่จะเป็นคนที่งานยุ่งที่สุดในกลุ่มเราไม่ใช่หรือคะ?”
“แล้วเธอล่ะ? ช่วงนี้งานไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่เหรอ?”
“ของชั้นก็เหมือนๆเดิมค่ะ”
“อืมม..เธอคงจะเบื่อมากเลยใช่มั้ย เพราะว่าเจ้าบ่าวเด็กของเธอไม่อยู่นี่นา...?”
ฮวางโบสะดุ้งเฮือก “เจ้าบ่าวเด็ก?”
หัวเราะคิกแล้วถามว่า “นี่เธอรู้สึกไม่ดีเพราะว่าชั้นไปเรียกเขาว่าเจ้าบ่าวเด็กอย่างงั้นใช่มั้ย? เพราะว่าชั้นยังเห็นเขาเป็นแค่เด็กคนนึงรึเปล่า?”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวนี้ชั้นชินแล้วล่ะ...ชั้นก็แค่ได้ยินแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านออกไป”
“ว้าว นั่นมันเป็นทัศนคติที่ดีมากๆเลยนะ...”
ฮวางโบได้แต่หัวเราะโดยไม่ตอบอะไร แต่ในใจแอบคิดว่า <ชั้นสงสัยว่าตอนนี้เขากำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำรึเปล่านะ...?>
“.................”.
..
อึนยีทำท่าลังเลก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า “อืมมม....ชั้นจะหยุดพูดเรื่องนี้เลยนะ ถ้าเธอคิดว่าชั้นสอดรู้สอดเห็นเรื่องส่วนตัวของเธอมากเกินไปน่ะ”
ฮวางโบจ้องหน้าอึนยีงงๆ “หา ว่าไงนะคะ…?”
“เพราะว่าชั้นไม่ค่อยมีประสบการณ์ในด้านนี้นัก...บางทีชั้นอาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกของเธอได้ดีเท่าไหร่” “.....................”
“มันก็แค่รู้สึกว่า...เดี๋ยวนี้เธอดูจะทำอะไรที่มันดูแรงอ่ะนะ”
“อะไรที่เรียกว่า แรง หรือค่ะ?”
“ชั้นจะอธิบายไงดีล่ะ? มันเกิดอะไรขึ้นกับฮวางโบคนเดิมผู้แสนจะระมัดระวังตัวที่ชั้นรู้จักน่ะ? เดี๋ยวนี้เธอดูจะ..”<เปลี่ยนไปมาก>
“พี่อยากจะบอกว่าชั้นไม่ค่อยระวังตัวเหมือนแต่ก่อน...หรือว่าทำอะไรแบบไม่ยั้งคิดมากเกินไปอย่างนั้นหรือคะ?”
“เฮ้อ..มันก็ความหมายเดียวกันนั่นแหละ”
“...ชั้นรู้ค่ะ”
“................”
“บางทีชั้นอาจจะกำลังเลียนแบบพฤติกรรมของเขาอยู่ และที่น่าตลกก็คือ...ชั้นไม่ได้เกลียดมันซักนิด...ไม่สิ ไม่ใช่แค่นั้น..ชั้นรู้สึก...สบายใจมากขึ้น ไม่อึดอัดเหมือนแต่ก่อน”
“สบายใจ...?”
เธอนิ่งคิดก่อนพูดต่อไปว่า “การระมัดระวังตัวมันเป็นสิ่งที่ดีนะคะแต่...บางครั้งมันก็สามารถทำให้เราสับสนได้เหมือนกันถ้าระมัดระวังมากจนเกินไป”
“...?”
“พี่จำได้มั้ยคะว่าชั้นเคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาช่วงนึงน่ะ เพราะว่าชั้นรู้สึกว่าตัวเองจะต้องระวังตัวอย่างมาก...?”
“อืม..จำได้สิ”
“แม้ว่าช่วงนั้นความระมัดระวังเป็นสิ่งที่เราต้องทำ..แต่มันก็ทำให้ชั้นและฮยอนจุงต้องยุ่งยากลำบากใจมากจริงๆ และถึงแม้ตอนนั้นเราต้องระวังตัวกันแจ...แต่ชั้นจะรู้สึกเสียใจอย่างมาก...ถ้าตอนนี้ชั้นยังทำตัวระมัดระวังแบบนั้นอยู่”
“เสียใจต่อใคร? ฮยอนจุงเหรอ?”
“ใช่ค่ะ...และสำหรับตัวชั้นเองด้วย”.
ฮวางโบยิ้มกว้างแล้วพูดต่อไปว่า “ถ้าการมีอายุมากขึ้นหมายถึงการต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น...งั้นมันก็ดีแล้วล่ะค่ะที่ชั้นเป็นฝ่ายที่ต้องระมัดระวัง...ชั้นอยากให้ฮยอนจุงยังเป็นเหมือนที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้”
อึนยีหัวเราะอออกมาเมื่อได้ยิน “นี่เธอไม่อยากจะให้เขาโตเป็นผู้ใหญ่เหรอ?”
“ไม่ค่ะ ชั้นไม่อยาก...ชั้นไม่อยากให้เขาละทิ้งความเป็นตัวของเขา”
“ละทิ้งความเป็นตัวเขา?”
“อืมม..มันเป็นอะไรบางอย่างที่พวกเราเคยคุยกันไว้น่ะค่ะ”
อึนยีนั่งงงไปพักนึง แต่แล้วก็ยิ้มออกมา “ชั้นคิดว่าชั้นรู้แล้วล่ะว่าเธอหมายถึงอะไร”
เธอหัวเราะคิกแล้วตอบไปว่า “ชั้นรู้ค่ะว่าพี่จะต้องเข้าใจ”
“แต่ยังไง...ชั้นก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะว่าเธอจะบินไปหาเขาที่โน่นนะ” เธอถอนหายใจหายใจออกมา “ถึงแม้ว่าเธอไป...ชั้นก็คิดว่าเธอน่าจะระวังให้มากกว่านี้”.
“พวกเราจะไม่สามารถทำอะไรได้เลยนะคะถ้าต้องคอยระวังตัวอยู่ตลอดเวลาน่ะ! แล้วเราก็คงจะติดแหงกอยู่ในห้องไปไหนไม่ได้เลย..มันคือการใช้ชีวิตแบบไหนกันคะ ถ้าเป็นอย่างนั้นน่ะ?”
อืนฮียักไหล่ “ก็จริงของเธอนะ..มันต้องเป็นเรื่องยากมากๆที่จะใช้ชีวิตเป็นคู่รักคนดังเหมือนพวกเธอ ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นจุดสนใจของทุกคนน่ะ”
ฮวางโบพูดแกมหัวเราะว่า “ก่อนหน้านี้...ชั้นก็ไม่ได้เป็นที่สนใจอะไรมากมายขนาดนั้น”
“เธอจะไม่เป็นที่สนใจมากขนาดนี้ถ้าเธอไม่ได้อยู่กับเขา...แต่ตอนนี้...เธอสองคนกลายเป็น “คู่รักคนดังระดับชาติ” ไปแล้วอ่ะนะ มันก็มีแนวโน้มที่เธอจะต้องถูกจับตามองไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนก็ตาม”
“พี่คิดว่าพวกเราจะเป็นจุดสนใจลดน้อยลงมั้ยคะ ถ้าเกิดว่า...เราแต่งงานกันน่ะ?” อึนยียิ้มเจ้าเล่ห์ “ถ้าเธอแต่งงานกันน่ะเหรอ…? ถ้ามันเกิดขึ้นจริงๆ งั้นก็คง...”
“ก็คงอะไรคะ?”
“เธอก็คงจะต้องคอยเตรียมรับกับความโกลาหลวุ่นวายขนานใหญ่ไปซักระยะนึงเลยล่ะนะ...ชั้นรู้ว่าบางคนเขาก็ไม่คิดหรอกนะว่าพวกเธอสองคนจะไปกันได้ไกลถึงขั้นแต่งงานน่ะ”
“ทำไมล่ะคะ?”
“ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะการคบกันหรือออกไปเดทกันมันก็เรื่องนึง แต่การแต่งงานนี่มันเป็นคนละเรื่องกันเลยนะ.” อึนฮียักไหล่ก่อนพูดต่อว่า “ไม่รู้สินะ...แต่ชั้นว่ามันคงจะน่าสนุกจริงๆอ่ะ ที่จะได้เห็นปฏิกริยาของผู้คนที่มีต่อข่าวนี้น่ะ”
“แล้วพี่ล่ะคะ คิดยังไง?”
“เรื่องอะไรล่ะ?”
“ก็...พี่จะรู้สึกว่ามันแปลกมั้ย...ถ้าชั้นบอกว่าชั้นจะแต่งงานน่ะ?”
“แหม มันก็ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องที่ไกลความจริงซักเท่าไหร่...เพราะว่าพวกเธอก็เป็นคู่แต่งงานในรายการมาตั้งเกือบ 6 เดือน...แต่ยังไง” อึนฮีเริ่มหัวเราะคิกๆพร้อมกับพูดว่า “ มันอดขำไม่ได้เลยอ่ะเมื่อคิดว่าฮยอนจุงจะกลายเป็นชายหนุ่มที่แต่งงานมีครอบครัวแล้ว ^^”
ฮวางโบได้ยินก็ส่ายศีรษะพร้อมกับบ่นพึมพำกับตัวเอง “ทำไมมันถึงรู้สึกแปลกๆได้ล่ะ?”
“ทำไมเหรอ? เพราะว่าเขาเป็นไอดอล...นอกจากนั้น...เขาก็ยังอายุน้อยอยู่เลย”
“แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเขายังเป็นผู้เยาว์อยู่ซักหน่อย”
“ก็จริงนะ”.พูดจบก็จ้องหน้าฮวางโบด้วยแววตาเป็นประกาย “นี่เธอ”
“ว่าไงคะ?”
อึนยีหรี่ตาท่าทางสงสัยตะหงิดๆ “เธอกำลัง...จะแต่งงานเหรอ?”
<หา?> “อะไรคะพี่?”
“บอกชั้นมาเดี๋ยวนี้เลย เธอกำลังจะแต่งงานกับเขาหรือ?”
ฮวางโบไม่ตอบได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาของอึนยี...
อึนยีเร่งเร้าพร้อมกับถามเสียงดังขึ้นอีกว่า “.จริงน่ะเหรอ? เธอกำลังจะแต่งงานจริงๆใช่มั้ย?”
ฮวางโบเริ่มรู้สึกประหม่า รีบกระซิบบอกไปว่า “ พี่คะ พูดเบาๆลงหน่อยสิคะ”
”จริงเหรอเนี่ย?” อึนยียังคงถามซ้ำด้วยความตกตะลึง
”พวกเราอาจจะทำอย่างนั้น...ซักวันใดวันนึงในอนาคต”
”ในอนาคตงั้นเหรอ?”
”แหม ก็ถ้าเรายังไปไหนมาไหนด้วยกันแล้ว...บางทีต่อไปก็อาจจะ”
”เธอ ไม่ต้องมากั๊กเลยนะ...บอกความจริงชั้นมาเดี๋ยวนี้ “
ฮวางโบหลบสายตาของอึนยีซึ่งจ้องเขม็งมาที่เธอแล้วถามว่า “ บอกเรื่องอะไรคะพี่?”
”ชั้นรู้จักเธอดีนะ! ไม่ว่าจู่ๆเธอจะกลายเป็น “เฮจุงผู้ทำอะไรไม่ยั้งคิด” จากเดิมที่เป็น “เฮจุงซึ่งระมัดระวังตัวสุดขีด”…คนเราน่ะ ไม่สามารถจะเปลี่ยนสีตัวเองได้เพียงชั่วข้ามคืนหรอกนะ ชั้นรู้ดีว่าคนอย่างเธอไม่มีวันจะมาพูดพล่อยๆเรื่องแต่งงานได้...”
”................”
”แล้วเธอจะแต่งกันเมื่อไหร่ล่ะ?”
”.............”
”ฤดูใบไม้ผลิปีหน้าเหรอ? ว่าไงล่ะฮึ?”
”.............”
”บางทีนั่นมันอาจจะเร็วเกินไป? หรือว่าจะเป็นฤดูใบไม้ร่วงปีหน้าล่ะ? “ อึนยีส่ายหน้าแล้วก็คิดเองต่อไปว่า “นั่นมันก็ไกลเกินไปอีก...ฮยอนจุงเขายังไม่ได้เข้ากรมรับใช้ชาติเลยนี่...”
”.............”
อึนยีเริ่มจริงจังสุดขีด “นี่เธอ ปล่อยให้ชั้นพูดคนเดียวอยู่ได้”
แต่ฮวางโบยังคงปิดปากสนิทจ้องหน้าอึนยีอย่างเดียว
”โอ ไม่น่ะ”
”.............”
...
”หรือว่า..บางทีพวกเธออาจจะ...?”
”อะไรคะพี่?”
”พวกเธอไม่ระวังให้ดีใช่มั้ย? …<ถูกเสกเด็กเข้าท้อง> ไปแล้วล่ะสิ?”
<หา?!!> “ พี่พูดถึงอะไรอยู่เนี่ย?”
อึนยีเอียงตัวเข้ามากระซิบข้างหูเธอว่า “หรือว่าเธอท้อง?”
ฮวางโบช็อกสุดขีดตะโกนออกมาว่า “ พี่-ค้า !!! “ แต่แล้วก็รีบยกมือขึ้นมาปิดปากเมื่อรู้สึกตัว
อึนยีส่ายหน้าก่อนวิเคราะห์สถานการณ์ต่อไปว่า “ชั้นเดาว่า...คงจะไม่ใช่แฮะ”
ฮวางโบพยายามก้มศีรษะลงต่ำเพื่อซ่อนใบหน้าอันหน้าแดงก่ำเป็นลูกตำลึงสุกของเธอ...
”ดูเธอสิ...ท่าทางมันน่าสงสัยดูมีพิรุธอย่างแรงเลยนะเนี่ย”
ฮวางโบหลับตาลงแล้วกระซิบว่า “ช่วยกรุณา เบาลงอีกหน่อยได้มั้ยคะพี่”
อึนยีลดเสียงลดแต่ยังซักไซ้ต่อไปว่า” ถ้างั้น มันคืออะไรกันแน่? บอกชั้นมาเดี๋ยวนี้น้า”
”พี่อยากจะให้ชั้นพูดอะไรเหรอ?”
”ทำไมเธอถึงได้เอาเรื่อง “แต่งงาน” ขึ้นมาพูดกับชั้นได้ล่ะ? ชั้นรู้ว่าเธอไม่ใช่คนประเภทที่จะเอาเรื่องนี้มาพูดเล่นๆหรอกนะ”
ฮวางโบถึงกับสะดุ้งเฮือก <งานเข้าแล้วสิชั้น>...
”ไม่เอาน่า เธอกำลังปิดบังอะไรบางอย่างอยู่ใช่มั้ย ฮึ?”
”.............”
“ตกลงเธอกำหนดวันแล้วรึยัง?”
ฮวางโบหลับตาลงช้าๆอีกครั้ง เหมือนกำลังชั่งใจอะไรบางอย่าง...
”ว่าไงละ หืมม?”
”ห้ามพี่เอาเรื่องนี้ไปโพนทะนาอย่างเด็ดขาดเลยนะคะ”
อึนยีหูผึ่งทันทีเมื่อได้ยิน “โอเคจ้ะ ด้วยเกียรติ์ของลูกเสีอ”
”ถ้าพี่เอาไปเล่าให้ใครฟังก็ตามล่ะก็...ชั้นจะกินยาแก้เครียด จะได้หลับไม่ตื่น <แล้วไม่ต้องพาชั้นไปล้างท้องที่โรงพยาบาลด้วยน่ะ> เพราะชั้นจะฆ่าตัวตาย”
”จ้ะ จ้ะ รู้แล้วล่ะน่า!”
”นี่ชั้นซีเรียสนจริงๆน่ะ ไม่ได้พูดเล่น”
”จ้า ชั้นรู้” <เล่ามาซะทีสิ>
แต่ฮวางโบยังคงทำท่าลังเล...
”เร็วเข้าสิเธอ ชั้นอยากรู้เรื่องใจจะขาดอยู่แล้วน่ะ”
ในที่สุดฮวางโบก็ยอมพูดออกมาแต่เบาจนแทบเป็นเสียงกระซิบ “พวกเรา...แต่งงานกันแล้วค่ะ”
อึนยีได้ยินไม่ถนัด “ว่าไงนะ? พวกเธอทำอะไรไปแล้วน่ะ?”
ฮวางโบเอียงตัวเข้าไปกระซิบข้างหูอึนยีว่า “ พวกเราแต่งงานกันแล้วค่ะ”
”โอ๊ย เรื่องนั้นใครๆเขาก็รู้กันหมดแล้วล่ะ แล้วเมื่อไหร่เธอถึงจะแต่งงานกันจริงๆล่ะ?”
ฮวางโบถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนบอกไปว่า “พวกเราแต่งงานกันเมื่อวันพฤหัสที่แล้วค่ะ”
อึนยีหน้าเหวอสุดขีด ในขณะที่ฮวางโบยังคงพูดต่อไป “เราแต่งกันที่มาเก๊าค่ะ”
อึนยีจ้องหน้าเธอท่าทางตกตะลึงสุดๆ
”คือทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน แล้วก็.....”
”แล้วคุณพ่อคุณแม่ของเธอล่ะ ท่านว่าไงบ้าง?”
ฮวางโบส่ายหน้าพร้อมสีหน้าดูเศร้าไปทันที “ ท่านยังไม่ทราบเลยค่ะ”.
อึนยีซึ่งทำตาโตเป็นไข่ห่านพูดออกมาดังๆว่า “เธอต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆเลย”
”เรื่องนั้นชั้นรู้อยู่แล้วค่ะ...ดังนั้นพี่ช่วยพูดให้เบาๆลงหน่อยก็ได้น่ะค่ะ”
ติดตามอ่าน คู่รักผักกาดหอม รีมิกซ์ ตอนที่ 107 ต่อไป
Create Date : 05 ตุลาคม 2553 |
|
3 comments |
Last Update : 5 ตุลาคม 2553 0:28:51 น. |
Counter : 821 Pageviews. |
|
|
|
ถึงแม้จะไม่ค่อยได้เข้ามาเม้นท์แต่อยากจะบอกกับยายว่า ติดตามผลงานการแปลของยายมาตลอด และจะสนับสนุนผลงานของยาย และ กิจกรรม ของบ้าน ซางซูตลอดไป และที่สำคัญยังรักจุงโบ บูอินและชิลลางที่น่ารักนี้ตลอดไปด้วยจ้าาาา