Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
16 ตุลาคม 2553
 
All Blogs
 

ตอนที่ 111 ~ พ่อตาผมใจดีที่สุดเลย!!

***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย ****



ที่บ้านของครอบครัวฮวางโบ
คู่ผักกาดหอมกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นห้องนั่งเล่น โดยมีคุณพ่อจอมดุนั่งประจัญหน้าพวกเขาอยู่บนเก้าอี้ยาว

คุณพ่อเหวี่ยงสายตาใส่ฮวางโบแล้วบ่นออกมาว่า “ชั้นไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอคือลูกสาวของชั้น”

ฮวางโบนั่งคอตกพร้อมไปพูดว่า “หนูขอโทษค่ะ T_T”

“เธอบอกว่าเสียใจแต่คงจะดีแค่ปากพูดเท่านั้น”

ฮยอนจุงได้แต่นั่งมองพ่อลูกคุยกันด้วยท่าทางกระวนวาย...และเห็นว่าคุณพ่อยังจิกสายตาใส่ลูกสาวอย่างไม่ลดละ...ก็ยิ่งทำให้รู้สึกเครียดมากขึ้นไปอีก และ ทั้งสองยังคงเงียบไร้การสนทนา

หลังจากเงียบกันไปพักนึง ในที่สุดหญิงสาวก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า “พ่อคะ..กรุณาให้ฮยอนจุงเขากลับบ้านไปก่อนเถอะนะคะพ่อ”

“อะไรนะ?”พ่อของเธอหันมาถามทันที

“พรุ่งนี้เขาต้องไปถ่ายละครตั้งแต่เช้าตรู่เลยค่ะ...แล้วตอนนี้มันก็ค่อนข้างดึกมากแล้ว...”เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ชายหนุ่มทำตาโตเมื่อได้ยินแล้วรีบหันไปบอกเธอว่า “ไม่ฮะ ผมโอเค ถึงไม่ได้นอนผมก็ยังสามารถทำงานได้...”

คุณพ่อได้ยินก็เหวี่ยงสายตาใส่ทั้งคู่ด้วยด้วยหมั่นไส้ “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? ชั้น -พ่อของเธอน่ะนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้...ไม่เกรงใจกันบ้างเลยรึไง แล้วนี่จะทำอะไรกันต่อล่ะ นั่งจีบโชว์ต่อหน้าชั้นเลยมั้ย หา?”

หญิงสาวทำหน้ามุ่ยแล้วพูดว่า “โธ่ พ่อคะ พูดแบบนั้นได้ยังไงกันคะ?”

“หึ นี่เธอปีกกล้าขาแข็งตั้งแต่เมื่อไหร่กันเหรอ?”

ฮวางโบนิ่งเงียบแต่ขยับตัวถอยหลังออกมานิดๆ...

คุณสามีชำเลืองมองดูเธอแล้วคิดในใจว่า < ดูเหมือนว่าคุณไม่น่าจะกลัวท่านถึงขนาดนั้นนี่นา...? แล้วเขาก็หันไปมองดูคุณพ่อตาพร้อมกับคิดต่อไปว่า <แต่ว่า..คุณไม่กลัวท่านจริงๆหรือฮะ (ดุซะขนาดนี้) ?>

“..เฮ้อ...แล้ว เรื่องของพวกเธอจะคนจะทำยังไงต่อไป บอกชั้นมาให้ชื่นใจหน่อยสิ?”

ฮยอนจุงได้ยินคำถามก็นั่งกลอกตาแล้วมองไปทางฮวางโบ ??..<เอาไงดีฮะ เราควรจะบอกให้หมดเปลือกมั้ย?>

หญิงสาวก็ทำท่ากลอกตาครุ่นคิดเช่นเดียวกับเขา...”.ว่าไงนะคะ ?”

คุณพ่อหรี่ตามองทั้งคู่แล้วถามต่อไปว่า “พวกเธอแต่งงานกันแล้ว...และจะทำยังไงต่อไป ไหนลองบอกมาให้ชั้นชื่นใจซิ แม่ลูกสาวทูลหัวของพ่อ?”น้ำเสียงแกมประชด

เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วพูดพึมพำว่า “เราก็แค่...”

“อย่าบอกน่ะว่าเธอสองคน...อยู่ด้วยกันแล้ว? “ คุณพ่อตามถามด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่พอใจแกมผิดหวัง

“...ก็ไม่เชิงน่ะค่ะ”..หญิงสาวตอบกลับไปท่าทางหวาดๆ

ลูกเขยหนุ่มรีบช่วยอธิบายว่า “คือว่า.. พวกเราไม่สามารถจะพูดได้เต็มปากว่าเราอยู่ด้วยกันเพราะว่าผมยังไม่ได้ย้ายข้าวของไปที่นั่นเลยน่ะฮะ...แต่ยังไงพวกเรากำลังพยายามจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ฮ่ะ”

“ว่าไงนะ?”

ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเจอสายตาที่จิกมาของคุณพ่อแต่ก็กลั้นใจอธิบายต่อไป “ผมคิดว่า..มันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก...ถ้าจะทำให้คนที่เป็นเจ้าสาวหมาดๆต้องรู้สึก...เหงาอยู่ตามลำพัง.”

คุณพ่ออึ้งกิมกี่... (ดูมันพูดเข้า)

ชายหนุ่มรีบก้มหน้าหลบสายตาแต่ยังพูดต่อไปว่า “เอ นั่นมันไม่ได้อยู่ในคัมภีร์ไบเบิ้ลหรือฮะ? ที่ว่า..เจ้าบ่าวป้ายแดงมีหน้าที่รับผิดชอบในการทำให้เจ้าสาวของเขามีความสุข...ผมเคยได้ยินมาด้วยว่า...เจ้าบ่าวจะได้รับการละเว้นจากการไปทำหน้าที่สนามรบเป็นเวลา 1 ปี...ถึงแม้ว่ามันจะมีสงครามอยู่ก็ตาม...??”

คุณพ่อตาได้ฟังก็นั่งเอียงคอพยายามใช้ความคิด...? <มันพูดถึงประเทศไหน หรือว่าที่ดาวดวงไหนกันแน่ฮึ>

“ดังนั้นผมจึงกำลังพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับเธอตลอดเวลา...ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้...”ฮยอนจุงยังคงพูดไปเรื่อยโดยไม่สนใจว่าพ่อตาจะเข้าใจหรือไม่

“งั้น เธอกำลังบอกว่า...เพราะพวกเธอแต่งงานกันแล้ว...เธอก็เลยจะไปอยู่ด้วยกัน...ไม่ว่าชาวบ้านเขาจะพูดถึงพวกเธออย่างไรก็ตามใช่มั้ย?”

“ไม่ใช่ค่ะ...ไม่ใช่อย่างนั้น” หญิงสาวรีบส่ายหน้าปฏิเสธ

“มันไม่ใช่ว่าเราจะไม่แคร์ว่าคนอื่นๆจะพูดถึงเราอย่างไรบ้าง...แต่ยังไง...เราก็จะไปอยู่ด้วยกันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ฮะ...”

“แล้วเธอมีแผนอะไรไว้ในใจบ้างรึเปล่า?”

“ผมอยากจะประกาศเรื่องแต่งงานของเราออกไปฮะ...”

“...เธอแต่งกันเมื่อไหร่นะ?”

“...วันที่ 13 พฤศจิกา ฮะ..”

ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า...”พวกเราแต่งงานกันแล้วนะฮะ.”สีหน้าดูแหยงๆแต่ก็ยังพูดต่อไป “คุณพ่อ...ได้โปรดกรุณาเลิกพูดว่าการแต่งงานของเรามันไม่ได้เกิดขึ้นจะได้มั้ยฮะ....

“นั่นมันการแต่งงานแบบไหนกันฮึ? ไม่มีพยานไปร่วมรับรู้เลยซักคน!!”

ฮวางโบหลับตาลงเมื่อได้ยิน..<เฮ้อ คืนนี้คงจะอีกยาวไกล>

ฮยอนจุงดึงตัวเธอให้มาอยู่ที่ด้านหลังของเขาแล้วพูดยืนยันหนักแน่นต่อไปว่า “พวกเราแต่งงานกันแล้ว...และตอนนี้ผู้หญิงคนนี้...ก็คือภรรยาของผมฮะ”
คุณพ่อตาจ้องหน้าลูกเขยจนตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้า...

ฮยอนจุงส่ายหน้าพร้อมกับพูดต่อไปว่า “และพวกเราจะไม่ยอมให้การแต่งงานของเราเป็นโมฆะอย่างเด็ดขาด....ถึงแม้ว่าพวกเราจะตายลงไปตอนนี้...มันก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าเราได้แต่งงานกันแล้ว..”

“เฮ้อ...พวกเธอที่ทำยังกับเด็กเล่นขายของ...เธอคิดว่าการแต่งงานมันจะเสร็จสมบูรณ์ได้ด้วยเธอเพียง 2 คนงั้นหรือ?”คุณพ่อตารีบท้วงทันที

ฮยอนจุงได้ยินก็ทำตาโต แต่ไม่สามารถจะโต้ตอบอะไรไปได้...

“ฟังน่ะ ไม่ว่าเธอจะพูดซักกี่สิบกี่ร้อยครั้งก็ตามว่ามันไม่มีอะไรที่ต้องรู้สึกอับอาย...แต่ในสายตาของคนอื่นๆแล้ว...เรื่องนี้มันก็สามารถจะเป็นแค่เพียงเรื่องตลกที่เกิดจากความไม่ยับยั้งชั่งใจของคู่รักฉาวโฉ่อีกคู่นึงเท่านั้น...เธอคิดหรือว่าการสร้างครอบครัวมันเป็นเรื่องง่ายขนาดนั้น?”

ฮวางโบที่น่าสงสารนิ่งฟังและพยายามกลั้นน้ำตาที่จวนจะไหลออกมา...

พ่อของเธอยังคงพูดต่อไป“จริงๆนะ...ชั้น...ชั้นคิดไม่ออกจริงๆว่าทำไมชั้นถึงเลี้ยงลูกสาวมาได้แย่ถึงขนาดนี้...เธอช่างไม่นึกถึงหัวอกของคนที่เป็นพ่อเป็นแม่กันบ้างเลย...”

“หนูขอโทษจริงๆค่ะพ่อ...หนูผิดเอง...”น้ำเสียงสำนึกผิดของเธอเริ่มพลั่งพรู

“ผมก็ต้องขอโทษเหมือนกันฮะ...ทั้งหมดนี่มันเป็นเพราะผมคนเดียว..กรุณาอย่าตำหนิเธอเลยฮะ....ได้โปรดดุด่าผมคนเดียวก็พอ...”ชายหนุ่มพยายามพูดปกป้องภรรยาของเขาทั้งๆที่ตัวเองก็กำลังพยายามกลั้นน้ำตาอย่างสุดฤทธิ์ไม่ให้ไหลออกมา

“เฮ้อ...ชั้นจะสามารถไว้วางใจในตัวเธอและเชื่อใจจนสามารถยกลูกสาวให้อยู่ในการดูแลของเธอได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอเป็นคนที่ทำอะไรไม่ยั้งคิดแบบนี้?”

ชายหนุ่มกัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรงก่อนจะตอบไปว่า “ผมขอโทษฮะ..ที่ผมไม่ได้คิดหน้าคิดหลังให้ดีๆก่อน...แต่ยังไงผมก็ไม่รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ผมได้ทำลงไป...”

“อะไรนะ? “ (นี่ยังไม่สำนึกอีกรึ?)

“คุณพ่อ...คุณแม่ฮะ...ผมขอโทษ...”น้ำตาของชายหนุ่มเริ่มไหลลงมาอาบแก้มและพูดต่อไปว่า “ที่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง..แต่ว่า..ผมก็ได้...คนที่มีค่าและมีความสำคัญที่สุดในชีวิตมาอยู่เคียงข้าง...”

ฮยอนจุงเจ้าบ่าว 4 มิติมองภารยาอีกครั้งแล้วพูดต่อไปด้วยใจมุ่งมั่น “ผมคิดในตอนนั้นว่า...นี่คือวิธีที่ดีที่สุด..เพราะว่าผมก็ไม่แน่ใจว่าผมสามารถที่จะมีโอกาสทำแบบนี้อีกครั้งหรือเปล่า...เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆรอบตัวผม...จริงๆนะฮะ...ผมยังอ่อนด๋อยในหลายๆเรื่อง...และสภาวะการณ์รอบตัวผมมันก็สุดแสนจะยุ่งยากซับซ้อน...ผมไม่แน่ใจว่าผมสามารถจะทำให้เธอรอคอยผมไปได้นานถึงขนาดไหน...นอกจากนั้นแล้วมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับผมอย่างมากอีกด้วย...”

ฮวางโบก้มศีรษะลงต่ำเพื่อซ่อนใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของเธอ และตอนนี้เธอรู้สึกภูมิใจที่เธอเลือกคนที่เธอรักไว้ไม่ผิด

“นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเราถึงได้ตัดสินใจแต่งงานกัน...ถึงแม้ผมจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่บ้ามากๆ...แต่เพราะผมรู้ดีว่าผมจะไม่สามารถชักจูงให้เอเจนซี่ของผมเห็นดีเห็นงามกับเรื่องนี้...ถ้าผมไม่ได้ลงมือทำมันจริงๆ...”


“ทำไมเธอถึงมุ่งมั่นในเรื่องแต่งงานขนาดนี้?”

“ก็เพราะ..พวกเรารักกันฮะ...”

“นี่เธอคิดว่าคู่รักทุกคู่ที่เขาแต่งงานกันเพราะว่าพวกเราแค่รักกันเท่านั้นน่ะเหรอ? “ คุณพ่อตาทำหน้างงกับเหตุผลของเขา

“สำหรับผมแล้ว...แค่นั้นก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วฮะ...พวกเราทั้งคู่ต่างก็บรรลุนิติภาวะแล้ว...ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเราถึงแต่งงานกันไม่ได้...”

“เธอสามารถเลี้ยงดูลูกสาวชั้นได้หรือ?”

ชายหนุ่มตอบไปโดยไม่ทันคิดว่า “เอ่อ...โชคดีมากเลยฮะที่เธอไม่ค่อยกินอะไรมาก...”พอรู้ตัวก็รีบส่ายหน้าแล้วพูดใหม่ว่า “ ไม่ใช่ฮะ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น...คือตอนนี้ผมยังหาเงินได้ไม่มากพอที่จะให้เธออยู่บ้านทำหน้าที่ภรรยาเพียงอย่างเดียวได้...แต่ผมก็ตั้งใจไว้ว่าผมอยากจะให้เธอได้อยู่บ้านไม่ต้องทำงานให้เร็วที่สุดเท่าที่ผมสามารถจะทำได้...”

“เธอจะให้ลูกสาวชั้นเลิกทำงานงั้นเหรอ?”

เขาชำเลืองมองฮวางโบหน่อยๆแล้วตอบไปว่า “นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังหวังเอาไว้ฮะ...”

“แล้วถ้าเกิดเขาไม่ยอมขึ้นมาล่ะ เธอจะทำไง?”คุณพ่อตาพูดราวกับรู้นิสัยลูกสาวของตัวเองดี

“เฮ้อ...ผมก็คงจะไม่ปลื้มซักเท่าไหร่หรอกฮะ...แต่จะทำไงได้ล่ะฮะ..ถ้าเธอยังคงดื้อรั้นที่จะทำมันต่อไป...ผมคิดว่า ผมก็คงไม่สามารถจะไปหยุดยั้งเธอได้...”

“แล้วเธอยังมีหน้าที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นลูกผู้ชายได้อีกหรือ ในเมื่อเธอไม่มีความมั่นใจเลยว่าจะสามารถควบคุมภรรยาของตัวเองได้น่ะ?”

“คุณพ่อฮะ...ถ้าผมพยายามไปบังคับเธอให้เลิกทำงานที่เธอรัก...ผมอาจจะเจอกับปัญหาที่หนักกว่าเดิมก็ได้นะฮะ ผมคิดว่า...มันน่าจะดีกว่าถ้าจะรอให้ถึงวันที่เธอต้องตัดสินใจในเรื่องนั้นด้วยตัวของเธอเอง....กรุณาปล่อยให้ผมจัดการกับเรื่องนี้เเถอะฮะ”

“แล้วมันไม่ทำให้เธอรู้สึกกวนใจซักนิดเลยเหรอ...เวลาที่ยายตัวดีขึ้นไปเต้นโชว์อยู่บนเวทีต่อหน้าคนมากมายน่ะฮึ?”

“...แบบว่า...เรื่องเต้นนี่เฉยๆเลยฮะ เพราะว่าผมเองก็ทำอย่างนั้นเหมือนกัน ของผมเนี่ยหนักกว่าเธออีกฮะ...”

“หนักกว่า เธอหมายความว่ายังไงเนี่ย”

“คือว่า..ในคอนเสิรต์มันก็จะต้องมีเพลงประจำตัวของผมที่จะต้องแสดงความสามารถ แล้วเมื่อถึงตอนนั้นผมก็ต้องฉีกเสื้อเพื่อโชว์กล้ามท้องฮะ”

“แล้วแฟนคลับของเธอเขาไม่กริ๊ดกันลั่นฮอล์หรือ”

“ลั่นฮอล์สิฮะ ยิ่งที่ประเทศไทยครั้งล่าสุด เสียงกริ๊ดสนั่นเลยฮะ”

“นี่เธอฉีกเสื้อโชว์ทั้งตัวเลยเหรอ”

“เปล่าฮะ ผมแค่ดึงชายเสื้อเปิดสะดือราว 2 วิ แฟนเพลงกริ๊ดลั่นฮอลล์เลยฮะ”

เหมือนคุณพ่อตารู้ว่าลูกเขยเล่นมุขประชดถึงกับเหวียงสายตาเซ็งทันที
“ผมต้องขอโทษฮะ แหะแหะ ไม่สนิทอย่าติดตลกใช่มั๊ยฮะ”

การพยักหน้าของคุณพ่อตาสือแทนคำตอบ ในขณะที่ลูกเขยยังคงพูดประเด็นเดิม

“คือว่า.. “เขาชำเลืองมองภรรยาแว่บนึงก่อนพูดต่อไปว่า “...เสื้อผ้าที่เธอใส่เวลาแสดงนี่มัน...” แล้วจู่ๆก็ฮยอนจุงก็หยุดพูดไม่มีเหตุผล

“หา เป็นไงเหรอ?” <ชักพูดเข้าท่าแฮะ>

“เฮ้อ มีอยู่หลายเรื่องเหมือนกันฮะที่เธอไม่ยอมฟังผมซึ่งมันดูแปลกมากๆ...ผมไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้ชอบใส่กระโปรงสั้นๆอยู่เรื่อย. “ว่าแล้วเขาทำหน้าหดหู่ “ ผมขอร้องเธอตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้วนะฮะว่าอย่าใส่มันเลย...แต่เธอก็ยังดื้อรั้นแอบใส่อยู่ตลอด..”

“อืมม..ชั้นรู้ดีเลยว่า..ยายเด็กคนนี้มันหัวดื้อขนาดไหน.”คุณพ่อตาเริ่มแสดงความเห็นอกเห็นใจลูกเขยโดยไม่รู้ตัว

ชายหนุ่มทำหน้ายุ่งแล้วกล่าวต่อไปว่า..”ที่จริงเรื่องนี้มันก็สร้างปัญหาให้ผมพอดูอยู่แล้ว...แล้วนี่ต่อไปเธอจะทำให้ผมต้องปวดหัวมากขึ้นอีกขนาดไหน เพราะว่าตอนนี้เธอก็ไม่ยอมฟังที่ผมพูดเลย? “

“ถ้างั้น ทำไมเธอถึงได้ลงมาลงเอยกับยายคนนี้ที่ทั้งบ้าทั้งดื้อได้ล่ะ...?”

ฮวางโบซึ่งกำลังตกเป็นเป้าโจมตีจากคุณพ่อและสามีตัวเองโดยไม่ตั้งตัว พอได้ยินก็มองค้อนพร้อมกับตั้งท่าจะโวย “พ่อคะ”

แต่เมื่อเจอสายตาของคุณพ่อที่จ้องกลับไป เธอก็พูดอะไรต่อไปถูก...

ลูกเขยหนุ่มพูดต่อไปว่า “นั่นสิฮะ ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไม...แต่เธอออกจะน่ารักอย่างนี้...ผมจะสามารถทำอะไรได้ล่ะฮะ?” เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพูดต่อไปว่า “และถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่เห็นโจ่งแจ้งชัดเจน แต่ว่าเธอก็เสน่ห์แรงใช่ย่อยนะฮะ...”

หญิงสาวโวยขึ้นมาทันที “นี่!!!...ชั้นไปทำอะไรอย่างนั้นเมื่อไหร่...?”

“ยายเด็กใจแตก นี่กล้าดียังไงถึงเรียกสามีตัวเองว่า “นี่!!!” ได้ยังไง หา? “

หญิงสาวตกตะลึงอึ้งกิมกี่พูดอะไรไม่ออก นั่งทำตาโตเป็นไข่ห่าน.. <(อารายกันนี่ เขากลายเป็นพวกเดียวกันตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ>

ฮยอนจุงยังคงบ่นให้พ่อตาฟังต่อไปว่า “เธอน่ะมีเพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชายเพียบเลยฮะ ชื่อในมือถือของเธอแต่ละคน...เฮ้อ..ผมคงได้แต่คิดและระแวง แต่ผมทำอะไรมากไม่ได้..เพราะไม่งั้นเธอจะกล่าวหาว่าผมเป็นคนใจแคบ คนขี้หึง...”

คุณพ่อตาพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเห็นอกเห็นใจว่า “ อ๊า ชั้นสามารถจะเห็นได้เลยว่าต่อไปข้างหน้าเธอต้องไปเผชิญปัญหาอีกมากมาย...”

ลูกเขยหนุ่มพูดเสียงเศร้าๆว่า “ใช่มั้ยฮะ?...แม้แต่คุณพ่อยังคิดเลยว่า...ผมต้องเจอปัญหาหนักเหมือนกับเข็นครกขึ้นภูเขา ฝนทั่งให้เป็นเข็ม แล้วผมจะทำอะไรได้ฮะ?”

หลังจากการสมานฉันท์ของพ่อตา-ลูกเขยดูจะเริ่มต้นได้ด้วยดี.
.
คุณพ่อตาที่เริ่มเห็นใจในชะตากรรมของลูกเขยอย่างฮยอนจุงก็มานั่งดื่มโซจูกระชับสัมพันธ์กันต่อที่โต๊ะอาหาร ในขณะที่ฮวางโบปลีกตัวเข้าไปนอนอยู่ในห้องแล้ว

คุณพ่อตากระดกโซจูเข้าปากก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “ลูกผู้ชายตัวจริงน่ะ...ควรจะรู้จักวิธีในการควบคุมภรรยาให้อยู่ในอาณัติ...โดยไม่ต้องพูดอะไรมาก...เข้าใจมั้ย?”

ลูกเขยรีบพยักหน้ารับ “ฮะ..เข้าใจแล้วฮะ”

“ชั้นจะให้เวลาเธอ...10 ปี เด๊ะๆเลยนะ ถ้าเธอยังไม่สามารถควบคุมภรรยาของเธอได้...และยังคงทำตัวเป็นไอ้ไก่อ่อนขี้แพ้และกลัวเมียล่ะก้อ..ชีวิตเธอจบกันแค่นั้น”

“ได้เลยฮะ 10 ปี ตามนั้น “ ลูกเขยหนุ่มพูดพลางกระดกโซจูต่อไป

“เธอต้องตั้งใจทำให้ดีๆล่ะ...อย่าทำให้ลูกสาวชั้นต้องเป็นหม้ายน่ะ!”

“โอเคฮะ...อืมมม...ว่าแต่คุณพ่อฮะ?”

“มีอะไรรึ?”:

“ปกติแล้วเธอก็มักจะทำตามที่ผมขอเกือบทุกอย่างอยู่แล้วนะฮะ ยกเว้นแค่เรื่องใส่กระโปรงสั้นๆ...”

“แล้วไงเหรอ?”คุณพ่อตาถามด้วยความสนใจและใส่ใจในชะตากรรมของลูกเขย

“ที่คุณพ่อบอกว่า “ควบคุมเธอ” มันหมายถึงอะไรฮะ?”

คุณพ่อกระพริบตาทำท่านิ่งคิดอยู่ครู่นึงแล้วพูดว่า...”ทำให้ยายตัวดีเลิกใส่กระโปรงสั้นๆไปตลอดชีวิตไงล่ะ”

“โอ เข้าใจแล้วฮะ”

“...แล้วก็กำจัดไอ้ลายสักบ้าๆบนหลังยายคนนั้นออกไปด้วยน่ะ”

ชายหนุ่มได้ยินถึงกับอึ้งได้แต่กระพริบตาปริบๆ..(นี่มัน Mission Impossible ชัดๆอ่ะ)

“ชั้นไม่เข้าใจเลยจริงๆนะ ทำไมลูกสาวชั้น.” มองหน้าลูกเขยอย่างจริงจังก่อนพูดต่อไปว่า “ ถึงทำอย่างนั้นลงไปได้?”

“นี่คุณพ่อกำลังจะบอกให้ผมจัดการลบรอยสักของเธอหรือฮะ?” < ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงต้องพาเธอไปเมืองไทยล่ะฮะ เขาเลื่องชื่อเรื่องนี้>

“ทำไมล่ะ? เธอไม่คิดว่าจะสามารถทำได้รึไง?”

“ไม่ใช่อย่างนั้นฮะ...แต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ต่างหาก...”

“เป็นไปไม่ได้เหรอ?”

“รอยสักมันก็เหมือนกับ...แผลเป็นเล็กๆอย่างนึง...แล้วรอยสักของเธอมันก็ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว...ผมว่าเธออาจจะเป็นแผลเป็นที่ใหญ่และเห็นชัดกว่าเดิมถ้าพยายามจะลบมันออกไป....”

“อ้าว...แล้วมันจะไม่ค่อยๆจางไปเองหลังจากเวลาผ่านไปซักระยะนึงหรอกเหรอ?”

เขารีบส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่า “ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นอย่างนั้นนะฮะ...”

คุณพ่อทำหน้านิ่วเหมือนกับผิดหวังเล็กๆก่อนจะพูดว่า..”โอ งั้นรึ “แล้วหันหน้าไปมองทางห้องนอนซึ่งฮวางโบกำลังหลับอยู่ในนั้น...

ชายหนุ่มเห็นท่าทางก็รีบพูดขึ้นมาว่า “ที่จริง...ผมเองก็ไม่แน่ใจนัก...แต่ที่ผมรู้แน่ๆก็คือมีรอยสักบางประเภทที่สามารถลบออกได้...ผมต้องขอโทษด้วยฮะ...ผมคิดว่าผมอาจจะเข้าใจสับสน...บางทีรอยสักของเธออาจจะเป็นประเภทที่ลบได้...”

“ชั้นน่ะไม่สามารถจะเอาชนะความดื้อรั้นของลูกสาวคนนี้ได้เลย ดังนั้นชั้นถึงต้องปล่อยให้เธอมีรอยสักบนหลังอยู่อย่างนี้...เธอ “ จ้องตาฮยอนจุงแล้วทำท่าลังเลเล็กน้อยก่อนพูดต่อไปว่า “ คิมซอบัง(1) คุณลูกเขยคิม ต้องเป็นคนกำจัดมันออกไปซะ”

ชายหนุ่มตกใจจนตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้าเมื่อได้ยิน คิมซอบัง? …”ฮะ”

“ชั้นจะถือว่าเธอเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ โหลยโท่ย เห่ยสุดๆ ถ้าชั้นยังเห็นรอยสักนั่นอยู่บนหลังยายตัวดีตอนหน้าร้อนปีหน้า...”

<โอ๊ะ-โอ งานเข้าแล้วชั้น งานช้างซะด้วยอ่ะ> “โอเคฮะ”ฮยอนจุงตอบด้วยความไม่มั่นใจ

คุณพ่อก้มลงมองที่แก้วโซจูแล้วพูดลอยๆว่า “แก้วชั้นมันรั่วหรือเปล่าเนี่ย.”

ลูกเขยหนุ่มรีบยกขวดโซจูมาเทให้พร้อมกับพูดว่า “ขอโทษฮะ...ผมไม่ทันเห็น...”

“เฮ้อ..ชั้นรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาร้องไห้คร่ำครวญกับสิ่งที่เราเสียมันไปแล้ว และก็รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา...แต่ชั้น..”

ชายหนุ่มเริ่มเครียดขึ้นมาอีกครั้ง...”ฮะ คุณพ่อคิดยังไงพูดไปฮะ”

“ชั้นไม่อยากจะส่งลูกสาวของชั้นให้ออกเรือนไปในลักษณะอย่างนั้น..ชั้นโมโหเขามากซะจนแทบไม่อยากจะมองหน้า..แต่ว่า...”ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนพูดต่อไปว่า “แล้วเธอจะรู้เองว่า ชั้นหมายความยังไงเมื่อเธอมีลูกสาวของเธอเองที่ต้องเลี้ยงดู...”

ชายหนุ่มค้อมศีรษะลงต่ำพร้อมกับพูดว่า..”ฮะ คุณพ่อ”

“ถึงแม้ว่าเธอจะยืนยันว่าพวกเธอจัดการแต่งงานกันไปแล้วด้วยตัวเอง...แต่ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องซักเท่าไหร่นัก...”

ฮยอนจุงนิ่งเงียบเพราะรู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ถูกต้องซ่ะทีเดียว

“เธอ...ไปจัดการนัดเวลาเพื่อพบกับพ่อแม่ของเธอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้…”

เขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ “ท่านว่าไงนะฮะ?”

“จริงๆนะ ชั้นไม่สามารถจะตำหนิเธอแต่เพียงคนเดียวได้...ยายเด็กคนนั้น เป็นคนที่อายุมากกว่าควรจะจัดการทำเรื่องนี้ให้มันถูกต้อง...เฮ้อ...ชั้นก็ไม่แน่ใจว่าชั้นจะกล้ามองหน้าพ่อแม่ของเธอตรงๆรึเปล่า เพราะว่าชั้นรู้สึกอับอายกับลูกสาวคนนี้เหลือเกิน...”

“โอ โอเคฮะ ผมเข้าใจแล้วฮะ คุณพ่อ”

“อืมม..ตกลงว่าเธอมีบ้านที่จะอยู่ด้วยกันรึยังล่ะ?”

เขานั่งอึ้งเมื่อได้ยิน (อืมม เป็นคำถามที่ดีมากเลยฮะ คุณพ่อ) “ผมจะจัดการหามันให้ได้เร็วๆนี้ฮะ” ชายหนุ่มตอบไปแต่เริ่มคิดกับตัวเองในใจว่า

<ชั้นเคยรู้สึกว่าชั้นมีความสุขได้ถึงแม้จะต้องอยู่ในบ้านที่เล็กจนเหมือนกระท่อมตราบใดที่ชั้นมีเครื่องดนตรีที่ชั้นรัก...และต้องไม่มีแมลงสาบ ชีวิตของคิมฮยอนจุง นักดนตรีหนุ่มกำลังจะเปลี่ยนไป มันเป็นเพราะว่าชั้นกำลังเผขิญกับเรื่องใหญ่ที่ชั้นไม่เคยรู้จักมาก่อนในชีวิต...? คุณคงจะเข้าใจผมอย่างแน่นอน...แต่ผมไม่ควรจะคาดหวังว่าคุณพ่อของคุณจะเข้าใจเหมือนกับคุณ...ผมไม่สามารถพูดออกมาว่าพวกเรามีความสุขดีถึงแม้จะอยู่ในกระท่อมหลังเล็กๆ...เพราะว่าความผิดที่ผมก่อเอาไว้มันใหญ่เกินไป...การแต่งงานเป็นเรื่องที่ซับซ้อนยุ่งยากจริงๆ...>

แล้วฮยอนจุงก็นึกถึงตอนที่พวกเขาไปถ่ายรูปแต่งงานที่สตูดิโอด้วยกัน เขาบอกเธอว่า การถ่ายรูปแต่งงานมันเป็นเรื่องที่เหนื่อยจริงๆนะฮะ และฮวางโบก็แกล้งตอบว่า ใช่เลย...งั้น...มันน่าจะดีกว่าถ้าเราทำมันแค่ครั้งเดียวเท่านั้น..ใช่มั้ย?”

“ใช่เลยฮะมันคงจะยุ่งยากมากเลยถ้าต้องทำมันอีกครั้งน่ะ...”เขาถอนหายใจออกมาเบาๆพร้อมกับนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น ระหว่างที่คิดถึงตอนนี้...

<การแต่งงานเป็นเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อน...แต่ว่า...การใช้ชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องง่าย...เพราะว่าผมไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้ด้วยตัวของผมเองเพียงคนเดียว...และเพราะว่าผมมาใช้ชีวิตอยู่กับคุณ...ตอนนี้ผมมีใครบางคนที่ผมไม่สามารถจะทำละเลยไม่ใส่ใจได้...

ชายหนุ่มหันไปพูดให้กำลังใจคุณพ่อตาซึ่งในตอนนี้ดูท่าทางมีความสุขขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังแฝงไปด้วยความเศร้า ”ขอบคุณมากฮะ คุณพ่อ...ผมจะทำให้ดีที่สุดอย่างเต็มความสามารถ...”

คำอธิบายท้ายบท
ซอบัง: คำในภาษาเกาหลีโดยทั่วไปจะหมายความว่า “สามี” แต่บางทีพ่อแม่ของฝ่ายหญิงก็มักจะใช้คำนี้ในการเรียกชื่อลูกเขยด้วย

โปรดติดตามคู่รักผักกาดหอมรีมิกซ์ตอนต่อไป




 

Create Date : 16 ตุลาคม 2553
4 comments
Last Update : 16 ตุลาคม 2553 12:42:24 น.
Counter : 844 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะ..

อ่านแล้วอยากดูหนังจังค่ะ..ฮิๆ

 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ 16 ตุลาคม 2553 12:51:38 น.  

 

เป็นกำลังใจให้ต่อไปคะ
กำลังน่ารัก เชียวพ่อตายอมรับแล้ว

 

โดย: noyhnasangchu2010 IP: 223.205.79.185 16 ตุลาคม 2553 17:20:10 น.  

 

จุงสุดยอดมากเลย.. เข้ากับพ่อตาเป็นปี่เป็นขลุ่ยเลยนะ น่ารักจริงๆๆ พ่อตากับลูกเขย ขอบคุณนะครับยายสำหรับฟิตดีๆๆแบบนี้ รักษาสุขภาพด้วยนะครับยาย พักผ่อนบ้างนะครับ ยายสู้สู้สู้ ...

 

โดย: hunny IP: 115.87.91.38 16 ตุลาคม 2553 18:25:58 น.  

 

อิจุงน่ามาไทยนะ วางแผนปรองดองเก่งจัง ^^

 

โดย: prongpawin IP: 183.89.60.220 16 ตุลาคม 2553 19:34:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


อุคจ๋านาจาไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"

:: Online User
Friends' blogs
[Add อุคจ๋านาจาไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.