|
ตอนที่ 111 ~ พ่อตาผมใจดีที่สุดเลย!!
***ฟิค <แปล> เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนแต่งขึ้น เพื่อความรักของคนทั้งสองเท่านั้น หาได้มีเจตนาอื่นหรือไม่ จึงขอให้อ่านด้วยความบันเทิง และเชื่อมั่นในรักของพวกเขาด้วย ****
ที่บ้านของครอบครัวฮวางโบ คู่ผักกาดหอมกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นห้องนั่งเล่น โดยมีคุณพ่อจอมดุนั่งประจัญหน้าพวกเขาอยู่บนเก้าอี้ยาว
คุณพ่อเหวี่ยงสายตาใส่ฮวางโบแล้วบ่นออกมาว่า “ชั้นไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอคือลูกสาวของชั้น”
ฮวางโบนั่งคอตกพร้อมไปพูดว่า “หนูขอโทษค่ะ T_T”
“เธอบอกว่าเสียใจแต่คงจะดีแค่ปากพูดเท่านั้น”
ฮยอนจุงได้แต่นั่งมองพ่อลูกคุยกันด้วยท่าทางกระวนวาย...และเห็นว่าคุณพ่อยังจิกสายตาใส่ลูกสาวอย่างไม่ลดละ...ก็ยิ่งทำให้รู้สึกเครียดมากขึ้นไปอีก และ ทั้งสองยังคงเงียบไร้การสนทนา
หลังจากเงียบกันไปพักนึง ในที่สุดหญิงสาวก็เอ่ยปากขึ้นมาว่า “พ่อคะ..กรุณาให้ฮยอนจุงเขากลับบ้านไปก่อนเถอะนะคะพ่อ”
“อะไรนะ?”พ่อของเธอหันมาถามทันที
“พรุ่งนี้เขาต้องไปถ่ายละครตั้งแต่เช้าตรู่เลยค่ะ...แล้วตอนนี้มันก็ค่อนข้างดึกมากแล้ว...”เธอพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ชายหนุ่มทำตาโตเมื่อได้ยินแล้วรีบหันไปบอกเธอว่า “ไม่ฮะ ผมโอเค ถึงไม่ได้นอนผมก็ยังสามารถทำงานได้...”
คุณพ่อได้ยินก็เหวี่ยงสายตาใส่ทั้งคู่ด้วยด้วยหมั่นไส้ “นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน? ชั้น -พ่อของเธอน่ะนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้...ไม่เกรงใจกันบ้างเลยรึไง แล้วนี่จะทำอะไรกันต่อล่ะ นั่งจีบโชว์ต่อหน้าชั้นเลยมั้ย หา?”
หญิงสาวทำหน้ามุ่ยแล้วพูดว่า “โธ่ พ่อคะ พูดแบบนั้นได้ยังไงกันคะ?”
“หึ นี่เธอปีกกล้าขาแข็งตั้งแต่เมื่อไหร่กันเหรอ?”
ฮวางโบนิ่งเงียบแต่ขยับตัวถอยหลังออกมานิดๆ...
คุณสามีชำเลืองมองดูเธอแล้วคิดในใจว่า < ดูเหมือนว่าคุณไม่น่าจะกลัวท่านถึงขนาดนั้นนี่นา...? แล้วเขาก็หันไปมองดูคุณพ่อตาพร้อมกับคิดต่อไปว่า <แต่ว่า..คุณไม่กลัวท่านจริงๆหรือฮะ (ดุซะขนาดนี้) ?>
“..เฮ้อ...แล้ว เรื่องของพวกเธอจะคนจะทำยังไงต่อไป บอกชั้นมาให้ชื่นใจหน่อยสิ?”
ฮยอนจุงได้ยินคำถามก็นั่งกลอกตาแล้วมองไปทางฮวางโบ ??..<เอาไงดีฮะ เราควรจะบอกให้หมดเปลือกมั้ย?>
หญิงสาวก็ทำท่ากลอกตาครุ่นคิดเช่นเดียวกับเขา...”.ว่าไงนะคะ ?”
คุณพ่อหรี่ตามองทั้งคู่แล้วถามต่อไปว่า “พวกเธอแต่งงานกันแล้ว...และจะทำยังไงต่อไป ไหนลองบอกมาให้ชั้นชื่นใจซิ แม่ลูกสาวทูลหัวของพ่อ?”น้ำเสียงแกมประชด
เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่แล้วพูดพึมพำว่า “เราก็แค่...”
“อย่าบอกน่ะว่าเธอสองคน...อยู่ด้วยกันแล้ว? “ คุณพ่อตามถามด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่พอใจแกมผิดหวัง
“...ก็ไม่เชิงน่ะค่ะ”..หญิงสาวตอบกลับไปท่าทางหวาดๆ
ลูกเขยหนุ่มรีบช่วยอธิบายว่า “คือว่า.. พวกเราไม่สามารถจะพูดได้เต็มปากว่าเราอยู่ด้วยกันเพราะว่าผมยังไม่ได้ย้ายข้าวของไปที่นั่นเลยน่ะฮะ...แต่ยังไงพวกเรากำลังพยายามจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ฮ่ะ”
“ว่าไงนะ?”
ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเจอสายตาที่จิกมาของคุณพ่อแต่ก็กลั้นใจอธิบายต่อไป “ผมคิดว่า..มันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก...ถ้าจะทำให้คนที่เป็นเจ้าสาวหมาดๆต้องรู้สึก...เหงาอยู่ตามลำพัง.”
คุณพ่ออึ้งกิมกี่... (ดูมันพูดเข้า)
ชายหนุ่มรีบก้มหน้าหลบสายตาแต่ยังพูดต่อไปว่า “เอ นั่นมันไม่ได้อยู่ในคัมภีร์ไบเบิ้ลหรือฮะ? ที่ว่า..เจ้าบ่าวป้ายแดงมีหน้าที่รับผิดชอบในการทำให้เจ้าสาวของเขามีความสุข...ผมเคยได้ยินมาด้วยว่า...เจ้าบ่าวจะได้รับการละเว้นจากการไปทำหน้าที่สนามรบเป็นเวลา 1 ปี...ถึงแม้ว่ามันจะมีสงครามอยู่ก็ตาม...??”
คุณพ่อตาได้ฟังก็นั่งเอียงคอพยายามใช้ความคิด...? <มันพูดถึงประเทศไหน หรือว่าที่ดาวดวงไหนกันแน่ฮึ>
“ดังนั้นผมจึงกำลังพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้อยู่กับเธอตลอดเวลา...ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้...”ฮยอนจุงยังคงพูดไปเรื่อยโดยไม่สนใจว่าพ่อตาจะเข้าใจหรือไม่
“งั้น เธอกำลังบอกว่า...เพราะพวกเธอแต่งงานกันแล้ว...เธอก็เลยจะไปอยู่ด้วยกัน...ไม่ว่าชาวบ้านเขาจะพูดถึงพวกเธออย่างไรก็ตามใช่มั้ย?”
“ไม่ใช่ค่ะ...ไม่ใช่อย่างนั้น” หญิงสาวรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
“มันไม่ใช่ว่าเราจะไม่แคร์ว่าคนอื่นๆจะพูดถึงเราอย่างไรบ้าง...แต่ยังไง...เราก็จะไปอยู่ด้วยกันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ฮะ...”
“แล้วเธอมีแผนอะไรไว้ในใจบ้างรึเปล่า?”
“ผมอยากจะประกาศเรื่องแต่งงานของเราออกไปฮะ...”
“...เธอแต่งกันเมื่อไหร่นะ?”
“...วันที่ 13 พฤศจิกา ฮะ..”
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า...”พวกเราแต่งงานกันแล้วนะฮะ.”สีหน้าดูแหยงๆแต่ก็ยังพูดต่อไป “คุณพ่อ...ได้โปรดกรุณาเลิกพูดว่าการแต่งงานของเรามันไม่ได้เกิดขึ้นจะได้มั้ยฮะ....
“นั่นมันการแต่งงานแบบไหนกันฮึ? ไม่มีพยานไปร่วมรับรู้เลยซักคน!!”
ฮวางโบหลับตาลงเมื่อได้ยิน..<เฮ้อ คืนนี้คงจะอีกยาวไกล>
ฮยอนจุงดึงตัวเธอให้มาอยู่ที่ด้านหลังของเขาแล้วพูดยืนยันหนักแน่นต่อไปว่า “พวกเราแต่งงานกันแล้ว...และตอนนี้ผู้หญิงคนนี้...ก็คือภรรยาของผมฮะ” คุณพ่อตาจ้องหน้าลูกเขยจนตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้า...
ฮยอนจุงส่ายหน้าพร้อมกับพูดต่อไปว่า “และพวกเราจะไม่ยอมให้การแต่งงานของเราเป็นโมฆะอย่างเด็ดขาด....ถึงแม้ว่าพวกเราจะตายลงไปตอนนี้...มันก็ไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าเราได้แต่งงานกันแล้ว..”
“เฮ้อ...พวกเธอที่ทำยังกับเด็กเล่นขายของ...เธอคิดว่าการแต่งงานมันจะเสร็จสมบูรณ์ได้ด้วยเธอเพียง 2 คนงั้นหรือ?”คุณพ่อตารีบท้วงทันที
ฮยอนจุงได้ยินก็ทำตาโต แต่ไม่สามารถจะโต้ตอบอะไรไปได้...
“ฟังน่ะ ไม่ว่าเธอจะพูดซักกี่สิบกี่ร้อยครั้งก็ตามว่ามันไม่มีอะไรที่ต้องรู้สึกอับอาย...แต่ในสายตาของคนอื่นๆแล้ว...เรื่องนี้มันก็สามารถจะเป็นแค่เพียงเรื่องตลกที่เกิดจากความไม่ยับยั้งชั่งใจของคู่รักฉาวโฉ่อีกคู่นึงเท่านั้น...เธอคิดหรือว่าการสร้างครอบครัวมันเป็นเรื่องง่ายขนาดนั้น?”
ฮวางโบที่น่าสงสารนิ่งฟังและพยายามกลั้นน้ำตาที่จวนจะไหลออกมา...
พ่อของเธอยังคงพูดต่อไป“จริงๆนะ...ชั้น...ชั้นคิดไม่ออกจริงๆว่าทำไมชั้นถึงเลี้ยงลูกสาวมาได้แย่ถึงขนาดนี้...เธอช่างไม่นึกถึงหัวอกของคนที่เป็นพ่อเป็นแม่กันบ้างเลย...”
“หนูขอโทษจริงๆค่ะพ่อ...หนูผิดเอง...”น้ำเสียงสำนึกผิดของเธอเริ่มพลั่งพรู
“ผมก็ต้องขอโทษเหมือนกันฮะ...ทั้งหมดนี่มันเป็นเพราะผมคนเดียว..กรุณาอย่าตำหนิเธอเลยฮะ....ได้โปรดดุด่าผมคนเดียวก็พอ...”ชายหนุ่มพยายามพูดปกป้องภรรยาของเขาทั้งๆที่ตัวเองก็กำลังพยายามกลั้นน้ำตาอย่างสุดฤทธิ์ไม่ให้ไหลออกมา
“เฮ้อ...ชั้นจะสามารถไว้วางใจในตัวเธอและเชื่อใจจนสามารถยกลูกสาวให้อยู่ในการดูแลของเธอได้อย่างไรกัน ในเมื่อเธอเป็นคนที่ทำอะไรไม่ยั้งคิดแบบนี้?”
ชายหนุ่มกัดริมฝีปากตัวเองอย่างแรงก่อนจะตอบไปว่า “ผมขอโทษฮะ..ที่ผมไม่ได้คิดหน้าคิดหลังให้ดีๆก่อน...แต่ยังไงผมก็ไม่รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ผมได้ทำลงไป...”
“อะไรนะ? “ (นี่ยังไม่สำนึกอีกรึ?)
“คุณพ่อ...คุณแม่ฮะ...ผมขอโทษ...”น้ำตาของชายหนุ่มเริ่มไหลลงมาอาบแก้มและพูดต่อไปว่า “ที่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง..แต่ว่า..ผมก็ได้...คนที่มีค่าและมีความสำคัญที่สุดในชีวิตมาอยู่เคียงข้าง...”
ฮยอนจุงเจ้าบ่าว 4 มิติมองภารยาอีกครั้งแล้วพูดต่อไปด้วยใจมุ่งมั่น “ผมคิดในตอนนั้นว่า...นี่คือวิธีที่ดีที่สุด..เพราะว่าผมก็ไม่แน่ใจว่าผมสามารถที่จะมีโอกาสทำแบบนี้อีกครั้งหรือเปล่า...เนื่องจากสถานการณ์ต่างๆรอบตัวผม...จริงๆนะฮะ...ผมยังอ่อนด๋อยในหลายๆเรื่อง...และสภาวะการณ์รอบตัวผมมันก็สุดแสนจะยุ่งยากซับซ้อน...ผมไม่แน่ใจว่าผมสามารถจะทำให้เธอรอคอยผมไปได้นานถึงขนาดไหน...นอกจากนั้นแล้วมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับผมอย่างมากอีกด้วย...”
ฮวางโบก้มศีรษะลงต่ำเพื่อซ่อนใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของเธอ และตอนนี้เธอรู้สึกภูมิใจที่เธอเลือกคนที่เธอรักไว้ไม่ผิด
“นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเราถึงได้ตัดสินใจแต่งงานกัน...ถึงแม้ผมจะรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่บ้ามากๆ...แต่เพราะผมรู้ดีว่าผมจะไม่สามารถชักจูงให้เอเจนซี่ของผมเห็นดีเห็นงามกับเรื่องนี้...ถ้าผมไม่ได้ลงมือทำมันจริงๆ...”
“ทำไมเธอถึงมุ่งมั่นในเรื่องแต่งงานขนาดนี้?”
“ก็เพราะ..พวกเรารักกันฮะ...”
“นี่เธอคิดว่าคู่รักทุกคู่ที่เขาแต่งงานกันเพราะว่าพวกเราแค่รักกันเท่านั้นน่ะเหรอ? “ คุณพ่อตาทำหน้างงกับเหตุผลของเขา
“สำหรับผมแล้ว...แค่นั้นก็เป็นเหตุผลที่เพียงพอแล้วฮะ...พวกเราทั้งคู่ต่างก็บรรลุนิติภาวะแล้ว...ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเราถึงแต่งงานกันไม่ได้...”
“เธอสามารถเลี้ยงดูลูกสาวชั้นได้หรือ?”
ชายหนุ่มตอบไปโดยไม่ทันคิดว่า “เอ่อ...โชคดีมากเลยฮะที่เธอไม่ค่อยกินอะไรมาก...”พอรู้ตัวก็รีบส่ายหน้าแล้วพูดใหม่ว่า “ ไม่ใช่ฮะ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น...คือตอนนี้ผมยังหาเงินได้ไม่มากพอที่จะให้เธออยู่บ้านทำหน้าที่ภรรยาเพียงอย่างเดียวได้...แต่ผมก็ตั้งใจไว้ว่าผมอยากจะให้เธอได้อยู่บ้านไม่ต้องทำงานให้เร็วที่สุดเท่าที่ผมสามารถจะทำได้...”
“เธอจะให้ลูกสาวชั้นเลิกทำงานงั้นเหรอ?”
เขาชำเลืองมองฮวางโบหน่อยๆแล้วตอบไปว่า “นั่นคือสิ่งที่ผมกำลังหวังเอาไว้ฮะ...”
“แล้วถ้าเกิดเขาไม่ยอมขึ้นมาล่ะ เธอจะทำไง?”คุณพ่อตาพูดราวกับรู้นิสัยลูกสาวของตัวเองดี
“เฮ้อ...ผมก็คงจะไม่ปลื้มซักเท่าไหร่หรอกฮะ...แต่จะทำไงได้ล่ะฮะ..ถ้าเธอยังคงดื้อรั้นที่จะทำมันต่อไป...ผมคิดว่า ผมก็คงไม่สามารถจะไปหยุดยั้งเธอได้...”
“แล้วเธอยังมีหน้าที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นลูกผู้ชายได้อีกหรือ ในเมื่อเธอไม่มีความมั่นใจเลยว่าจะสามารถควบคุมภรรยาของตัวเองได้น่ะ?”
“คุณพ่อฮะ...ถ้าผมพยายามไปบังคับเธอให้เลิกทำงานที่เธอรัก...ผมอาจจะเจอกับปัญหาที่หนักกว่าเดิมก็ได้นะฮะ ผมคิดว่า...มันน่าจะดีกว่าถ้าจะรอให้ถึงวันที่เธอต้องตัดสินใจในเรื่องนั้นด้วยตัวของเธอเอง....กรุณาปล่อยให้ผมจัดการกับเรื่องนี้เเถอะฮะ”
“แล้วมันไม่ทำให้เธอรู้สึกกวนใจซักนิดเลยเหรอ...เวลาที่ยายตัวดีขึ้นไปเต้นโชว์อยู่บนเวทีต่อหน้าคนมากมายน่ะฮึ?”
“...แบบว่า...เรื่องเต้นนี่เฉยๆเลยฮะ เพราะว่าผมเองก็ทำอย่างนั้นเหมือนกัน ของผมเนี่ยหนักกว่าเธออีกฮะ...”
“หนักกว่า เธอหมายความว่ายังไงเนี่ย”
“คือว่า..ในคอนเสิรต์มันก็จะต้องมีเพลงประจำตัวของผมที่จะต้องแสดงความสามารถ แล้วเมื่อถึงตอนนั้นผมก็ต้องฉีกเสื้อเพื่อโชว์กล้ามท้องฮะ”
“แล้วแฟนคลับของเธอเขาไม่กริ๊ดกันลั่นฮอล์หรือ”
“ลั่นฮอล์สิฮะ ยิ่งที่ประเทศไทยครั้งล่าสุด เสียงกริ๊ดสนั่นเลยฮะ”
“นี่เธอฉีกเสื้อโชว์ทั้งตัวเลยเหรอ”
“เปล่าฮะ ผมแค่ดึงชายเสื้อเปิดสะดือราว 2 วิ แฟนเพลงกริ๊ดลั่นฮอลล์เลยฮะ”
เหมือนคุณพ่อตารู้ว่าลูกเขยเล่นมุขประชดถึงกับเหวียงสายตาเซ็งทันที “ผมต้องขอโทษฮะ แหะแหะ ไม่สนิทอย่าติดตลกใช่มั๊ยฮะ”
การพยักหน้าของคุณพ่อตาสือแทนคำตอบ ในขณะที่ลูกเขยยังคงพูดประเด็นเดิม
“คือว่า.. “เขาชำเลืองมองภรรยาแว่บนึงก่อนพูดต่อไปว่า “...เสื้อผ้าที่เธอใส่เวลาแสดงนี่มัน...” แล้วจู่ๆก็ฮยอนจุงก็หยุดพูดไม่มีเหตุผล
“หา เป็นไงเหรอ?” <ชักพูดเข้าท่าแฮะ>
“เฮ้อ มีอยู่หลายเรื่องเหมือนกันฮะที่เธอไม่ยอมฟังผมซึ่งมันดูแปลกมากๆ...ผมไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้ชอบใส่กระโปรงสั้นๆอยู่เรื่อย. “ว่าแล้วเขาทำหน้าหดหู่ “ ผมขอร้องเธอตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้วนะฮะว่าอย่าใส่มันเลย...แต่เธอก็ยังดื้อรั้นแอบใส่อยู่ตลอด..”
“อืมม..ชั้นรู้ดีเลยว่า..ยายเด็กคนนี้มันหัวดื้อขนาดไหน.”คุณพ่อตาเริ่มแสดงความเห็นอกเห็นใจลูกเขยโดยไม่รู้ตัว
ชายหนุ่มทำหน้ายุ่งแล้วกล่าวต่อไปว่า..”ที่จริงเรื่องนี้มันก็สร้างปัญหาให้ผมพอดูอยู่แล้ว...แล้วนี่ต่อไปเธอจะทำให้ผมต้องปวดหัวมากขึ้นอีกขนาดไหน เพราะว่าตอนนี้เธอก็ไม่ยอมฟังที่ผมพูดเลย? “
“ถ้างั้น ทำไมเธอถึงได้ลงมาลงเอยกับยายคนนี้ที่ทั้งบ้าทั้งดื้อได้ล่ะ...?”
ฮวางโบซึ่งกำลังตกเป็นเป้าโจมตีจากคุณพ่อและสามีตัวเองโดยไม่ตั้งตัว พอได้ยินก็มองค้อนพร้อมกับตั้งท่าจะโวย “พ่อคะ”
แต่เมื่อเจอสายตาของคุณพ่อที่จ้องกลับไป เธอก็พูดอะไรต่อไปถูก...
ลูกเขยหนุ่มพูดต่อไปว่า “นั่นสิฮะ ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไม...แต่เธอออกจะน่ารักอย่างนี้...ผมจะสามารถทำอะไรได้ล่ะฮะ?” เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพูดต่อไปว่า “และถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่เห็นโจ่งแจ้งชัดเจน แต่ว่าเธอก็เสน่ห์แรงใช่ย่อยนะฮะ...”
หญิงสาวโวยขึ้นมาทันที “นี่!!!...ชั้นไปทำอะไรอย่างนั้นเมื่อไหร่...?”
“ยายเด็กใจแตก นี่กล้าดียังไงถึงเรียกสามีตัวเองว่า “นี่!!!” ได้ยังไง หา? “
หญิงสาวตกตะลึงอึ้งกิมกี่พูดอะไรไม่ออก นั่งทำตาโตเป็นไข่ห่าน.. <(อารายกันนี่ เขากลายเป็นพวกเดียวกันตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ>
ฮยอนจุงยังคงบ่นให้พ่อตาฟังต่อไปว่า “เธอน่ะมีเพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชายเพียบเลยฮะ ชื่อในมือถือของเธอแต่ละคน...เฮ้อ..ผมคงได้แต่คิดและระแวง แต่ผมทำอะไรมากไม่ได้..เพราะไม่งั้นเธอจะกล่าวหาว่าผมเป็นคนใจแคบ คนขี้หึง...”
คุณพ่อตาพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเห็นอกเห็นใจว่า “ อ๊า ชั้นสามารถจะเห็นได้เลยว่าต่อไปข้างหน้าเธอต้องไปเผชิญปัญหาอีกมากมาย...”
ลูกเขยหนุ่มพูดเสียงเศร้าๆว่า “ใช่มั้ยฮะ?...แม้แต่คุณพ่อยังคิดเลยว่า...ผมต้องเจอปัญหาหนักเหมือนกับเข็นครกขึ้นภูเขา ฝนทั่งให้เป็นเข็ม แล้วผมจะทำอะไรได้ฮะ?”
หลังจากการสมานฉันท์ของพ่อตา-ลูกเขยดูจะเริ่มต้นได้ด้วยดี. . คุณพ่อตาที่เริ่มเห็นใจในชะตากรรมของลูกเขยอย่างฮยอนจุงก็มานั่งดื่มโซจูกระชับสัมพันธ์กันต่อที่โต๊ะอาหาร ในขณะที่ฮวางโบปลีกตัวเข้าไปนอนอยู่ในห้องแล้ว
คุณพ่อตากระดกโซจูเข้าปากก่อนจะพูดขึ้นมาว่า “ลูกผู้ชายตัวจริงน่ะ...ควรจะรู้จักวิธีในการควบคุมภรรยาให้อยู่ในอาณัติ...โดยไม่ต้องพูดอะไรมาก...เข้าใจมั้ย?”
ลูกเขยรีบพยักหน้ารับ “ฮะ..เข้าใจแล้วฮะ”
“ชั้นจะให้เวลาเธอ...10 ปี เด๊ะๆเลยนะ ถ้าเธอยังไม่สามารถควบคุมภรรยาของเธอได้...และยังคงทำตัวเป็นไอ้ไก่อ่อนขี้แพ้และกลัวเมียล่ะก้อ..ชีวิตเธอจบกันแค่นั้น”
“ได้เลยฮะ 10 ปี ตามนั้น “ ลูกเขยหนุ่มพูดพลางกระดกโซจูต่อไป
“เธอต้องตั้งใจทำให้ดีๆล่ะ...อย่าทำให้ลูกสาวชั้นต้องเป็นหม้ายน่ะ!”
“โอเคฮะ...อืมมม...ว่าแต่คุณพ่อฮะ?”
“มีอะไรรึ?”:
“ปกติแล้วเธอก็มักจะทำตามที่ผมขอเกือบทุกอย่างอยู่แล้วนะฮะ ยกเว้นแค่เรื่องใส่กระโปรงสั้นๆ...”
“แล้วไงเหรอ?”คุณพ่อตาถามด้วยความสนใจและใส่ใจในชะตากรรมของลูกเขย
“ที่คุณพ่อบอกว่า “ควบคุมเธอ” มันหมายถึงอะไรฮะ?”
คุณพ่อกระพริบตาทำท่านิ่งคิดอยู่ครู่นึงแล้วพูดว่า...”ทำให้ยายตัวดีเลิกใส่กระโปรงสั้นๆไปตลอดชีวิตไงล่ะ”
“โอ เข้าใจแล้วฮะ”
“...แล้วก็กำจัดไอ้ลายสักบ้าๆบนหลังยายคนนั้นออกไปด้วยน่ะ”
ชายหนุ่มได้ยินถึงกับอึ้งได้แต่กระพริบตาปริบๆ..(นี่มัน Mission Impossible ชัดๆอ่ะ)
“ชั้นไม่เข้าใจเลยจริงๆนะ ทำไมลูกสาวชั้น.” มองหน้าลูกเขยอย่างจริงจังก่อนพูดต่อไปว่า “ ถึงทำอย่างนั้นลงไปได้?”
“นี่คุณพ่อกำลังจะบอกให้ผมจัดการลบรอยสักของเธอหรือฮะ?” < ถ้าเป็นอย่างนั้นผมคงต้องพาเธอไปเมืองไทยล่ะฮะ เขาเลื่องชื่อเรื่องนี้>
“ทำไมล่ะ? เธอไม่คิดว่าจะสามารถทำได้รึไง?”
“ไม่ใช่อย่างนั้นฮะ...แต่ว่ามันเป็นไปไม่ได้ต่างหาก...”
“เป็นไปไม่ได้เหรอ?”
“รอยสักมันก็เหมือนกับ...แผลเป็นเล็กๆอย่างนึง...แล้วรอยสักของเธอมันก็ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว...ผมว่าเธออาจจะเป็นแผลเป็นที่ใหญ่และเห็นชัดกว่าเดิมถ้าพยายามจะลบมันออกไป....”
“อ้าว...แล้วมันจะไม่ค่อยๆจางไปเองหลังจากเวลาผ่านไปซักระยะนึงหรอกเหรอ?”
เขารีบส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่า “ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นอย่างนั้นนะฮะ...”
คุณพ่อทำหน้านิ่วเหมือนกับผิดหวังเล็กๆก่อนจะพูดว่า..”โอ งั้นรึ “แล้วหันหน้าไปมองทางห้องนอนซึ่งฮวางโบกำลังหลับอยู่ในนั้น...
ชายหนุ่มเห็นท่าทางก็รีบพูดขึ้นมาว่า “ที่จริง...ผมเองก็ไม่แน่ใจนัก...แต่ที่ผมรู้แน่ๆก็คือมีรอยสักบางประเภทที่สามารถลบออกได้...ผมต้องขอโทษด้วยฮะ...ผมคิดว่าผมอาจจะเข้าใจสับสน...บางทีรอยสักของเธออาจจะเป็นประเภทที่ลบได้...”
“ชั้นน่ะไม่สามารถจะเอาชนะความดื้อรั้นของลูกสาวคนนี้ได้เลย ดังนั้นชั้นถึงต้องปล่อยให้เธอมีรอยสักบนหลังอยู่อย่างนี้...เธอ “ จ้องตาฮยอนจุงแล้วทำท่าลังเลเล็กน้อยก่อนพูดต่อไปว่า “ คิมซอบัง(1) คุณลูกเขยคิม ต้องเป็นคนกำจัดมันออกไปซะ”
ชายหนุ่มตกใจจนตาแทบจะถลนออกมานอกเบ้าเมื่อได้ยิน คิมซอบัง? …”ฮะ”
“ชั้นจะถือว่าเธอเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ โหลยโท่ย เห่ยสุดๆ ถ้าชั้นยังเห็นรอยสักนั่นอยู่บนหลังยายตัวดีตอนหน้าร้อนปีหน้า...”
<โอ๊ะ-โอ งานเข้าแล้วชั้น งานช้างซะด้วยอ่ะ> “โอเคฮะ”ฮยอนจุงตอบด้วยความไม่มั่นใจ
คุณพ่อก้มลงมองที่แก้วโซจูแล้วพูดลอยๆว่า “แก้วชั้นมันรั่วหรือเปล่าเนี่ย.”
ลูกเขยหนุ่มรีบยกขวดโซจูมาเทให้พร้อมกับพูดว่า “ขอโทษฮะ...ผมไม่ทันเห็น...”
“เฮ้อ..ชั้นรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมาร้องไห้คร่ำครวญกับสิ่งที่เราเสียมันไปแล้ว และก็รู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา...แต่ชั้น..”
ชายหนุ่มเริ่มเครียดขึ้นมาอีกครั้ง...”ฮะ คุณพ่อคิดยังไงพูดไปฮะ”
“ชั้นไม่อยากจะส่งลูกสาวของชั้นให้ออกเรือนไปในลักษณะอย่างนั้น..ชั้นโมโหเขามากซะจนแทบไม่อยากจะมองหน้า..แต่ว่า...”ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนพูดต่อไปว่า “แล้วเธอจะรู้เองว่า ชั้นหมายความยังไงเมื่อเธอมีลูกสาวของเธอเองที่ต้องเลี้ยงดู...”
ชายหนุ่มค้อมศีรษะลงต่ำพร้อมกับพูดว่า..”ฮะ คุณพ่อ”
“ถึงแม้ว่าเธอจะยืนยันว่าพวกเธอจัดการแต่งงานกันไปแล้วด้วยตัวเอง...แต่ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องซักเท่าไหร่นัก...”
ฮยอนจุงนิ่งเงียบเพราะรู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ถูกต้องซ่ะทีเดียว
“เธอ...ไปจัดการนัดเวลาเพื่อพบกับพ่อแม่ของเธอให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้…”
เขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ “ท่านว่าไงนะฮะ?”
“จริงๆนะ ชั้นไม่สามารถจะตำหนิเธอแต่เพียงคนเดียวได้...ยายเด็กคนนั้น เป็นคนที่อายุมากกว่าควรจะจัดการทำเรื่องนี้ให้มันถูกต้อง...เฮ้อ...ชั้นก็ไม่แน่ใจว่าชั้นจะกล้ามองหน้าพ่อแม่ของเธอตรงๆรึเปล่า เพราะว่าชั้นรู้สึกอับอายกับลูกสาวคนนี้เหลือเกิน...”
“โอ โอเคฮะ ผมเข้าใจแล้วฮะ คุณพ่อ”
“อืมม..ตกลงว่าเธอมีบ้านที่จะอยู่ด้วยกันรึยังล่ะ?”
เขานั่งอึ้งเมื่อได้ยิน (อืมม เป็นคำถามที่ดีมากเลยฮะ คุณพ่อ) “ผมจะจัดการหามันให้ได้เร็วๆนี้ฮะ” ชายหนุ่มตอบไปแต่เริ่มคิดกับตัวเองในใจว่า
<ชั้นเคยรู้สึกว่าชั้นมีความสุขได้ถึงแม้จะต้องอยู่ในบ้านที่เล็กจนเหมือนกระท่อมตราบใดที่ชั้นมีเครื่องดนตรีที่ชั้นรัก...และต้องไม่มีแมลงสาบ ชีวิตของคิมฮยอนจุง นักดนตรีหนุ่มกำลังจะเปลี่ยนไป มันเป็นเพราะว่าชั้นกำลังเผขิญกับเรื่องใหญ่ที่ชั้นไม่เคยรู้จักมาก่อนในชีวิต...? คุณคงจะเข้าใจผมอย่างแน่นอน...แต่ผมไม่ควรจะคาดหวังว่าคุณพ่อของคุณจะเข้าใจเหมือนกับคุณ...ผมไม่สามารถพูดออกมาว่าพวกเรามีความสุขดีถึงแม้จะอยู่ในกระท่อมหลังเล็กๆ...เพราะว่าความผิดที่ผมก่อเอาไว้มันใหญ่เกินไป...การแต่งงานเป็นเรื่องที่ซับซ้อนยุ่งยากจริงๆ...>
แล้วฮยอนจุงก็นึกถึงตอนที่พวกเขาไปถ่ายรูปแต่งงานที่สตูดิโอด้วยกัน เขาบอกเธอว่า การถ่ายรูปแต่งงานมันเป็นเรื่องที่เหนื่อยจริงๆนะฮะ และฮวางโบก็แกล้งตอบว่า ใช่เลย...งั้น...มันน่าจะดีกว่าถ้าเราทำมันแค่ครั้งเดียวเท่านั้น..ใช่มั้ย?”
“ใช่เลยฮะมันคงจะยุ่งยากมากเลยถ้าต้องทำมันอีกครั้งน่ะ...”เขาถอนหายใจออกมาเบาๆพร้อมกับนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น ระหว่างที่คิดถึงตอนนี้...
<การแต่งงานเป็นเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อน...แต่ว่า...การใช้ชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องง่าย...เพราะว่าผมไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้ด้วยตัวของผมเองเพียงคนเดียว...และเพราะว่าผมมาใช้ชีวิตอยู่กับคุณ...ตอนนี้ผมมีใครบางคนที่ผมไม่สามารถจะทำละเลยไม่ใส่ใจได้...
ชายหนุ่มหันไปพูดให้กำลังใจคุณพ่อตาซึ่งในตอนนี้ดูท่าทางมีความสุขขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังแฝงไปด้วยความเศร้า ”ขอบคุณมากฮะ คุณพ่อ...ผมจะทำให้ดีที่สุดอย่างเต็มความสามารถ...”
คำอธิบายท้ายบท ซอบัง: คำในภาษาเกาหลีโดยทั่วไปจะหมายความว่า “สามี” แต่บางทีพ่อแม่ของฝ่ายหญิงก็มักจะใช้คำนี้ในการเรียกชื่อลูกเขยด้วย
โปรดติดตามคู่รักผักกาดหอมรีมิกซ์ตอนต่อไป
Create Date : 16 ตุลาคม 2553 |
|
4 comments |
Last Update : 16 ตุลาคม 2553 12:42:24 น. |
Counter : 844 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: noyhnasangchu2010 IP: 223.205.79.185 16 ตุลาคม 2553 17:20:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: hunny IP: 115.87.91.38 16 ตุลาคม 2553 18:25:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: prongpawin IP: 183.89.60.220 16 ตุลาคม 2553 19:34:38 น. |
|
|
|
| |
|
"ห้ามนำไปเผยแพร่ต่อที่อื่น นอกจากจะได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อคก่อนเท่านั้น"
|
|
|
|
|
|
|
|
อ่านแล้วอยากดูหนังจังค่ะ..ฮิๆ