บทความ

เรื่อง บุญบาป

ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ สนใจเรื่องการดูดวง ผูกดวง แก้ปีชง ต่อชะตา สะเดาะเคราะห์ แก้กรรมเรื่องทำแท้งทำโน้น ทำนี่ ไปเรื่อยเปื่อย ทำอย่างไรให้ผัวรักผัวหลง ทำไรให้มีโชคมีลาภ ซึ่งจริงๆ แล้ว การทำนายทายทักของหมอดู หรือโหร พยากรณ์ในด้าน ศาสตร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดูดวงแบบต่างๆซึ่งล้วนต่างแฝงแง่คิดไว้อย่างลึกๆเช่นเดียวกันคือ การทำบุญ เพื่อลดล้างบาปให้เบาบางลง แต่หมอดูบางประเภทก็แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวกัน เป็นส่วนใหญ่

เชื่อไหมคะ การทำบุญสามารถทำให้บาปที่หนาพอกพูน เบาบางลง หลวงตาท่านได้ยกตัวอย่าง เกลือกับน้ำเปล่าให้ดิฉันฟัง หลวงตาท่านบอกว่า บาปก็เปรียบเสมือนเกลือ ถ้าเราทำบาปไปครั้งหนึ่ง ก็เท่ากับเกลือหนึ่งช้อนชาในแก้ว เมื่อเราทำบุญเพื่ออยากลบล้างบาป เช่น คนไปทำแท้งก็ แสวงหาการไถ่บาปตรงนี้ให้ตนเอง เมื่อเขาทำบุญ บุญส่วนนี้ก็เปรียบเสมือนน้ำเปล่าที่คอยไปเจือจางเกลือในแก้วนั้นให้ความเค็มมันลดน้อยลง เมื่อไถ่ชีวิตสัตว์ ใส่บาตร หรือ ทำบุญต่างๆ ก็เท่ากับเราเติมน้ำเปล่าไปละลายเกลือนั้น ให้ความเค็มในน้ำมันจางลง แต่ !!อย่าลืมนะคะว่า เกลือ ยังไงก็ยังมีเท่าเดิม ต่อให้เติมน้ำไปสักเท่าไหร่ ในน้ำย่อมมีส่วนผสมของเกลือเพียงแต่ เราทำให้เกลือนั้น เค็มน้อยลง น้อยลงไปเรื่อยๆจนไม่รู้สึกว่าเกลือนั้นมันมีรสเค็ม แต่ทว่าในน้ำไม่มีรสเค็มแต่ยังมีส่วนผสมของเกลือ นั่นย่อมหมายความว่า บาปยังคงอยู่แต่จะส่งผลเบาบางลงเท่านั้นเอง

การทำบาป เท่ากับ เราเติมเกลือลงไปในน้ำแทนที่น้ำจะจืด กลับเค็มขึ้น คนเราส่วนใหญ่ ไม่รู้วิธีแก้ วิธีปฏิบัติ จึงหันหน้าไปพึ่งพาหมอดู คนทรงการสืบชะตา ทำบุญสะเดาะเคราะห์ ทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นเพียงชั่วขณะหนึ่ง ซึ่งมันเป็นการแก้ที่ปลายเหตุแต่ที่สุดแล้ว หมอดู คนทรง ต่างก็หาอุบายหลอกล่อให้เราทำบุญ เช่นให้ปล่อยปลาไหลเก้าตัว สิบตัว ปล่อยนก ทำบุญโลงศพ หรือ การไปสืบชะตาต่อชีวิต(หลอกให้เข้าวัดไปทำบุญนั่นเอง) ก็ตาม หลายคนทำตามวิธีที่หมอดู คนทรงบอก แนะนำไม่สำเร็จ ต่างก็โวยวาย ด่าทอต่างๆ นาๆ ที่สุดแล้วก็ต้องพึ่งหมอดู หรือ ร่างทรง คนใหม่ไปเรื่อยๆไม่รู้จบ

การทำบุญนั้นแท้จริงแล้วทำได้หลากหลายรูปแบบ บางคนคิดอยู่อย่างเดียวว่า การทำบุญนั้นต้องทำด้วยเงิน หรือ ปัจจัย ถวายพระ ทำบุญเท่านั้น อานิสงส์ถึงจะมากยิ่งมีเงินมากก็ยิ่งได้อานิสงส์มาก ซึ่งอย่างนั้นเป็นความเชื่อที่ผิดมาตลอดแท้จริงแล้วการทำบุญนั้นทำได้หลากหลายรูปแบบ แม้แต่การทำในสิ่งที่เล็กๆ น้อยๆก็ได้มหากุศลได้เช่นกัน การทำบุญนั้น ต้องทำมาจากใจ อานิสงส์ถึงจะมากเมื่อเต็มใจทำ เต็มใจให้ บุญก็จะได้เต็ม การให้ ต้องตัดใจให้ในสิ่งของที่จะให้ ไม่มัวมานึกเสียดาย ไม่อย่างนั้น บุญที่จะได้รับจะได้ไม่เต็มที่ เท่ากับว่าเรายังยึดติดกับสิ่งของ สิ่งนั้นอยู่ เช่นการให้เงินใครสักคนอาจจะด้วยเพราะเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เราอย่ามายึดติดว่าเงินที่เราให้เขาไปนั้น เขาจะเอาไปทำอะไรก็สุดแล้วแต่เขา ในเมื่อเราให้เขาไปแล้วเท่ากับว่า เงินนั้นเป็นของเขา ไม่ใช่ว่า มัวแต่คอยจ้องมองดูว่าเขาเอาเงินไปทำโน้นทำนี่ หรือเอาไปให้ใครคนอื่นอีก เพราะเท่ากับว่าการให้จะไม่สมบูรณ์แบบ เราต้องให้ด้วยเจตจำนงที่บริสุทธิ์ไม่ยึดติดในสิ่งของนั้นๆ

หลายคนเข้าใจผิดในเรื่องของการทำบุญที่ถูกบังคับให้ทำ คนที่ทำบุญอาจจะไม่เต็มใจ หรือไม่อยากเข้าวัดไม่อยากทำอะไรที่ไร้สาระ(ตามความคิดของผู้ถูกบังคับ) ย่อมไม่ศรัทธาในการทำบุญนั้นย่อมได้บาป แต่แท้ที่จริงแล้วอย่างที่หลวงตาท่านสอนเอาไว้ บุญ ส่วนบุญ บาป ส่วนบาปไม่เกี่ยวข้องกัน ถึงแม้ว่าคนทำบุญจะไม่เต็มใจทำ หรือมาด้วยความเกรงใจ ถูกบังคับหรือเหตุผลต่างๆ ก็แล้วแต่ แต่แท้ที่สุดแล้วเขาก็มาทำบุญถึงแม้ว่าบุญนั้นจะได้ไม่เต็มที่นัก แต่ก็ยังถือว่า เขายังได้มาทำบุญในเมื่อเขามาแล้ว ย่อมได้บุญ จะมากหรือน้อย สุดท้ายแล้ว ผู้ถูกบังคับก็ได้ทำบุญถึงแม้ไม่เต็มใจก็ตาม

หมอนหัวทุย , พัดลม USB